8

ตอนที่ 8

8

 

“เธอว่าหลังไหนดี เธอช่วยเลือกที่เธอชอบให้สักหลังสิ” 

ธาราไม่ได้มองโบรชัวร์ที่กองอยู่ตรงหน้า บูรัครับมาจากพนักงานส่งเสริมการขายแล้วเลื่อนมาวางตรงหน้าเธอทั้งหมด แต่เธอจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าแข็งกร้าว น้ำเสียงดุดัน คาดคั้น 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” 

เขาไม่ได้พาเธอไปร้านอาหาร แต่ตรงดิ่งมายังสำนักงานขายแห่งนี้ บูรัคอธิบายอย่างใจเย็น 

“ฉันอยากได้วิลลาสักหลัง เพราะหลังจากนี้ก็ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างที่นี่กับอเมริกา ถ้าต้องอยู่ที่วิลลาพ่อแม่ตลอดก็คงไม่สะดวก เธอเลือกให้ฉันหน่อยนะ” เขาใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นจึงซื้อวิลลาและเพนต์เฮาส์ไว้ที่นั่น ส่วนที่นี่มีแค่เพนต์เฮาส์ ถ้าไม่นอนวิลลาของพ่อแม่ ก็จะนอนที่เพนต์เฮาส์ แต่ไม่มีบ้านของตัวเองเป็นหลักแหล่ง

“ก็แล้วทำไมต้องให้ฉันเลือก คุณอยู่ คุณก็เลือกเองสิ”

“ใจร้าย ตำแหน่งเธอคืออะไร ผู้ช่วยฉันนะ ทำหน้าที่ของตัวเองหน่อย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ นะ”

เธอตวัดตาค้อน “เงินก็ไม่ได้ ก็แค่ตำแหน่งหัวโขน อย่ามาอ้างหน่อยเลย”

“โอเค เธอต้องการเท่าไหร่”

“นี่ ฉันไม่ได้จะเล่นจำอวดอยู่นะ”

“ฉันพูดจริง อยากได้เงินเพิ่มเท่าไหร่สำหรับตำแหน่งผู้ช่วยซีอีโอ บอกมาเลย”

เธอเม้มริมฝีปาก สะบัดหน้ากลับ ลางสังหรณ์บอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่น 

“ฉันพูดเล่น ไม่ได้หมายความตามนั้น”

บูรัคไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์มือถือโทร. หาลินดา 

“ดาด้าคิดว่าตำแหน่งผู้ช่วยซีอีโอควรได้เงินเดือนเท่าไหร่” เขากรอกเสียงถามไปในทันทีที่น้องสาวรับสาย

ธาราชะงัก หันขวับไปมอง อ้าปากค้าง 

“ในคำสั่งแต่งตั้งพี่ใช้คำว่า ‘และปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยประธานกรรมการบริษัท’ เพราะงั้นไม่ได้เงินเดือนเพิ่มนะคะ”

“พี่อยากให้เธอได้เงินเดือนด้วยในตำแหน่งนี้”

“งั้นพี่ต้องแก้คำสั่งมาใช้ ‘และผู้ช่วยประธานกรรมการบริษัท’ แทนที่จะใช้คำว่าปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอถึงจะได้เงินเดือนทั้งในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์และผู้ช่วยประธานกรรมการบริษัท เงินเดือนรวมกันแล้วก็จะอยู่ที่...” ลินดาแจ้งตัวเลขหกหลักปลายๆ กลับมา

“งั้นก็จัดการให้พี่ตามนั้น”

“พูดจริงใช่ไหมคะ”

“แน่นอน”

“โอเค รับทราบค่ะ”

ธารารอจนเขาวางสายแล้ว จึงหันไปแหวด้วยอารมณ์ที่ฉุนจัด เธอได้ยินที่เขาพูดทุกคำและได้ยินคำตอบจากลินดาลอดออกมาด้วย

“นี่มันอะไรกัน คุณกำลังเล่นตลกอะไร”

“ไม่ได้เล่นตลก ก็อย่างที่ฉันเคยพูด แค่บอก...เธอต้องการอะไร ฉันยินดีหามาให้” 

ธาราเม้มริมฝีปากแน่น “แต่ฉันแค่ประชด ฉันไม่ได้หมายความตามนั้น ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้ช่วยบ้าๆ อะไรนั่น ฉันก็แค่ประชดเพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าประชุมกับคุณ”

“เสียใจ มันผ่านไปแล้ว แล้วก็อย่าทำหน้าเหมือนจะขย้ำคอฉันแบบนั้นสิ เดี๋ยวพนักงานขายก็เข้าใจว่าเธอเป็นเมียขี้วีน เจ้าอารมณ์ เอาใจยากหรอก”

“อะไรนะ?” เธอหรี่ตา แววตาเขียวปั้ด ส่งสายตาอำมหิตให้เขา

บูรัคหัวเราะ เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่เขาสามารถหัวเราะได้ทั้งปากและนัยน์ตา 

“น่า...อย่าซีเรียสไปเลย ไม่เคยได้ยินเหรอ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วดีงามเสมอ เพราะงั้นปล่อยเลยตามเลยเถอะ มาว่าเรื่องวิลลาดีกว่า ช่วยเลือกที่เธอถูกใจให้ฉันสักหลังสิ”

“เรื่องอะไร ฉันไม่ได้เข้าไปอยู่ด้วยนี่” ธาราชะงัก นึกได้ว่าปากอาจพาจนอีกได้ เธอเลยรีบเปลี่ยนคำพูด “การเลือกบ้านสักหลังเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดที่จะมาแชร์ไอเดียกันได้ เพราะงั้นคุณไปให้ผู้หญิงของคุณออกความเห็นเถอะ”

“เธอไง”

“นี่ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ”

“ไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร”

“เอมม่าไง”

บูรัคหุบยิ้ม “นั่นไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน เธอต่างหากที่ใช่” ประโยคท้ายจ้องหน้าธาราตรงๆ อย่างต้องการยืนยันคำพูด

“ไม่ขำนะ” 

“ฉันพูดเรื่องจริง เธอเป็นผู้หญิงของฉัน พนักงานทั้งบริษัทรู้กันทั้งนั้น”

ธาราไม่ต่อความยาวสาวความยืดอีก เธอสะพายกระเป๋า ลุกออกจากเคาน์เตอร์สำนักงานขายในทันที 

บูรัครีบตามไปยื้อ มือเธอเย็นเฉียบ 

“ใจเย็นๆ ธารา ไม่มีอะไรต้องกลัว” เขาปลอบพลางไล้หลังมือเธอด้วยนิ้วหัวแม่มือไปมา

“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังเล่นเกมอะไรอยู่”

“ไม่ใช่เกมอะไรทั้งนั้น ฉันชอบเธอจริงๆ ฉันก็แค่อยากซื้อวิลลาเป็นของขวัญให้เธอสักหลังในโอกาสที่เรารู้จักกันก็แค่นั้น รับไมตรีจากฉันเถอะนะ”

“แลกกับอะไร คุณเป็นนักธุรกิจ คงไม่ซื้อวิลลาสิบล้านร้อยล้านให้ใครฟรีๆ โดยไม่มีอะไรตอบแทนหรอก”

“ร้อยกว่าล้านดอลลาร์” บูรัคแก้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาคัดเฉพาะวิลลาเกรดพรีเมียมราคาร้อยกว่าล้านดอลลาร์เสนอเธอ

เธอหน้าซีดหนักขึ้น

บูรัคยังคงไล้หลังมือนุ่ม กล่าวด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม 

“แค่เปิดโอกาสให้เราทั้งคู่ได้เรียนรู้กัน คบกัน ส่วนเรื่องขึ้นเตียง โอเค...ฉันจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ ฉันหวังที่จะได้เข้าไปอยู่ในวิลลาหลังนั้นกับเธอ แต่ฉันก็จะไม่บังคับเธอ การตัดสินใจเป็นของเธอ แต่บอกก่อนว่าผู้ชายเราทุกคนขาดเรื่องอย่างว่าไม่ได้นาน ฉันเองก็ขาดไม่ได้ ถ้าฉันไม่สามารถขึ้นเตียงกับเธอได้ ก็ต้องไปหาเศษหาเลยกับสาวอื่น”

“แต่เราเพิ่งรู้จักกัน ฉันยังไม่รู้จักคุณดี” เธอกล่าวไปอีกทาง ดึงมือจากเขา หน้ายังซีดเผือด

“เธอใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้เท่าที่ต้องการเพื่อศึกษาฉัน ขอแค่เปิดโอกาสให้ฉัน”

“คุณชอบฉันเหรอ” เธอเงยหน้าถามตรงๆ

บูรัคพยักหน้า สีหน้าราบเรียบเมื่อตอบ “ชอบ อยากขึ้นเตียงด้วยอย่างมากด้วย” เน้นย้ำประโยคท้าย

“นี่” เธอหน้าแดง ไม่ใช่คำว่ารัก แต่เธอจะคาดหวังอะไร รักแรกพบไม่มีอยู่จริงอยู่แล้วในโลกนี้

“ฉันซื่อสัตย์กับเธอขนาดนี้แล้ว ยังไม่พอใจอีกเหรอ”

เธอถลึงตาใส่เขาแทนคำตอบ

“ว่าไง รับไมตรีจิตจากฉันนะ พนักงานขายรอนานแล้ว”

 

“นั่งด้วยคนสิ”

ธาราเงยหน้า คลี่ยิ้ม อีริคหนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ขออนุญาตก่อนทรุดตัวนั่ง เขาวางถาดอาหารพร้อมเครื่องดื่มตรงหน้าเธอ

“ไม่กลัวฉันกัดแล้วเหรอ”

อีริคเลิกคิ้ว “ทำไมถามยังงั้นล่ะ”

“ไม่รู้เหรอ ช่วงนี้ใครๆ ก็กลัวฉัน พยายามเลี่ยงเข้าหาฉัน” เธอเล่าตรงๆ ไม่ปิดบัง ไม่เชิงปรับทุกข์แต่เล่าสู่กันฟัง 

สองสามวันมานี้ทุกคนพยายามเลี่ยงการวิสาสะกับเธอ เธอเลยปลีกวิเวกมาทำอะไรต่อมิอะไรคนเดียว อย่างรับประทานอาหารมื้อเที่ยงวันนี้ เธอไม่ได้ชวนคนอื่นๆ เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่เลือกมารับประทานที่คาเฟทีเรียคนเดียว ตรงหน้าเธอมีทั้งถาดอาหาร เครื่องดื่มและแฟ้มงาน พนักงานของซินฟูลเป็นแบบนี้ทุกคน ทำงานไปด้วยกินไปด้วย ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดี แต่เมื่องานเร่งหรือต้องแข่งกับเวลา พวกเธอก็ไม่มีทางเลือก

ที่ซินฟูล พยายามรักษาความเป็นสีเขียวให้มากที่สุด คนสวนปลูกต้นไม้ตามอาคารต่างๆ  อย่างคาเฟทีเรียชั้นสองที่เธอนั่งรับประทานอาหารอยู่ เบื้องหน้าคือสนามหญ้าเขียวขจีไกลสุดลูกหูลูกตา ตกเย็นพนักงานจะลงไปเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกายตามแต่อัธยาศัย เธอเคยทำอยู่พักหนึ่งในช่วงเข้ามาทำงานใหม่ๆ แต่ตอนนี้งานยุ่งมาก 

อีริคหัวเราะ “ถามจริง...คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าตอนนี้คนอื่นๆ พูดถึงคุณยังไง”

“ไม่รู้ พูดถึงยังไง” เธอถาม 

“เขาลือกันว่าคุณเป็นเด็กของประธานมัวร์ แต่ที่ทุกคนไม่เข้าใจก็คือถ้าเป็นเด็กของเขาจริง ทำไมประชุมบอร์ดนัดที่ผ่านมาประธานมัวร์ถึงตีตกงานวิจัยของคุณ มันไม่ต่างจากการหักหน้ากลางที่ประชุม ทำให้คุณเสียเครดิต เสียประวัติการทำงานซึ่งไม่มีคู่รักคู่ไหนเขาทำกันหรอก เพราะงั้นสำหรับผม ก็เลยได้ข้อสรุปสถานเดียวว่าทั้งหมดคือข่าวลือ ไม่มีมูล”

“เพราะเหตุนี้คุณก็เลยกล้าเข้ามาคุยกับฉัน?”

อีริคหัวเราะ มองนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรุ่นน้องตรงหน้าผู้ที่ได้ชื่อว่าอายุน้อยที่สุดในแผนกด้วยแววตาชื่นชมแกมทึ่ง เธอเป็นหนึ่งในสามนักวิทยาศาสตร์หญิงในแผนก ไม่ได้มีแค่ความสวย แต่ยังมีมันสมอง เป็นหัวกะทิของซินฟูล ฉลาดเฉลียว และไอคิวสูง 

เดิมทีที่ลือๆ กันว่าไอคิวอัจฉริยะเขาคิดว่าเป็นแค่ราคาคุย เพราะเธอเข้ามาด้วยระบบเส้นสาย พวกเขาเลยทดสอบ ไม่เชิงว่าแกล้งก็แค่อยากรู้ว่าที่ลือๆ กันจริงหรือไม่ สุดท้ายเธอผ่านด่านและเอาชนะใจหนุ่มๆ ทั้งแผนกมาได้

“ไม่เชิงหรอก ผมมีเรื่องอยากรบกวนคุณน่ะ” อีริคสารภาพตรงๆ

“เรื่องอะไร”

อีริคหยิบภาพถ่ายจากแฟ้มส่งให้ธารา 

“นี่เป็นถุงยางรุ่นล่าสุดที่ผมคิดค้นขึ้น ให้รสชาติและกลิ่นของเปปเปอร์มินต์ ผมอยากให้คุณช่วยเก็บข้อมูล”

เธอรับมาถือในมือ มองถุงยางขนาดต่างๆ ในภาพ “จะต้องใช้กี่ตัวอย่าง”

“ร้อยหนึ่ง แต่เฉพาะของผมยี่สิบ แต่ปัญหาคือตัวอย่างแรกมาถึงแล้ว แต่บ่ายนี้ผมติดประชุม จะเลื่อนนัดไปวันหลังก็เสียดาย ไหนๆ เขาก็มาแล้ว เพราะงั้นเลยอยากรบกวนคุณ ถ้าคุณสะดวก หลังกินข้าวเสร็จผมจะโทร. นัดเขามาเจอคุณ”

“ได้ ไม่มีปัญหา แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน”

“อะไร” อีริคขมวดคิ้วมุ่น

“ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครอยากทำงานร่วมกับฉัน แต่จะให้ฉันเข้าห้องแล็บทดสอบเอง ก็เกรงจะไม่ทัน เพราะยังต้องทำอย่างอื่นด้วย ก็เลยอยากรบกวนคุณ”

“ว่าไป” 

“ฉันกำลังปรับฟังก์ชันของมาสเตอร์บอล แต่ติดที่วัสดุที่จะเอามาใช้ทำมาสเตอร์บอลไม่เข้ากับดิลโด้ ฉันอยู่ระหว่างผสมสูตรระหว่างยางเจลลี เทอร์โมพลาสติกกับซิลิโคน ยังคิดไม่ตกว่าจะผสมสูตรไหนดี ก็เลยต้องการให้คุณช่วย”

“เดี๋ยวๆ นะ ดิลโด้?”

เธอพยักหน้า

“แต่งานที่ได้รับคือค็อกริงไม่ใช่เหรอ จะไม่ผิดโจทย์ประธานมัวร์หรือถ้าคุณไปพ่วงดิลโด้ด้วย วัตถุประสงค์ของประธานมัวร์คือปรับมาสเตอร์บอลให้กระตุ้นสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายที่เสื่อมสมรรถนะถูกมั้ย พูดง่ายๆ ว่าคิดค้นอะไรก็แล้วแต่ที่ใช้กับไอ้จ้อน ถ้าต้องพ่วงดิลโด้หรือไวเบรเตอร์ด้วย ผมเกรงว่าจะผิดไปจากวัตถุประสงค์เขา”

“เขาไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้กับประตูหลังด้วยนี่”

อีริคอึ้ง มองใบหน้าสวยแอร่มตรงหน้าตาปริบๆ “ผมว่าถ้ามีคนลือว่าคุณไม่ถูกกับประธานมัวร์น่าจะถูกต้องกว่านะ พวกคุณนี่แสบพอๆ กันเลย” หัวเราะตบท้าย

ธาราย่นหัวคิ้ว

อีริคพูดต่อ ไม่สนใจอาการหน้ามุ่ยของเพื่อน “ผมได้ยินว่าเขาจะขอทดสอบด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ ถ้ารู้ว่าคุณเพิ่มฟังก์ชันไวเบรเตอร์เข้าไปด้วย เขาคงทำหน้าดูไม่จืด”

“ห้ามแพร่งพรายออกไปนะ” เธอรีบกำชับ “นี่เป็นความลับระหว่างเรา”

“โอเค ผมจะรูดซิปปิดปากเงียบตามที่คุณขอ แต่ผมก็ขอสัญญาด้วยเหมือนกัน ห้ามคุณบอกใครเป็นอันขาดว่าผมมีเอี่ยวด้วยงานนี้ ไม่งั้นได้ตกงานแน่” 

ธาราหัวเราะ “สัญญา จะเหยียบให้มิดเลย”

 

“นั่นมิสธารานี่ครับ” ผู้จัดการชานเสนอหน้ากล่าวขึ้นอย่างต้องการเอาใจ ด้วยเป็นที่รู้กันว่าตอนนี้ธารากำลังขึ้นหม้อ ได้รับความสนใจจากประธานมัวร์ เมื่อเขาเห็นบูรัคหยุดยืนตรงทางเดิน มองเข้าไปในคาเฟทีเรียที่ธารานั่งกินมื้อเที่ยงอยู่ เขาก็เลยเอ่ยปากทักขึ้น

ชานกำลังพาบูรัคทัวร์บริษัทตามอาคารต่างๆ ซึ่งว่าไปก็ไม่จำเป็นเพราะบูรัครู้แผนผังของบริษัทเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพียงแต่มันเป็นเรื่องของพิธีการและเขาก็ขัดลินดาไม่ได้ เลยต้องพาบูรัคไปเยี่ยมชมอาคารต่างๆ ภายในซินฟูล ช่วงที่เดินผ่านทางเชื่อมซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับคาเฟทีเรีย บูรัคก็เหลือบไปเห็นธารากำลังนั่งกินอาหารอยู่ จึงหยุดยืนมองอย่างสนใจ เขาก็เลยได้จังหวะเปิดหัวข้อสนทนาขึ้น

บูรัคเงียบ ไม่แสดงความเห็นใดๆ กับภาพที่ธารานั่งกินอาหารอยู่หลังกระจกในระยะห่างออกไปแค่สิบเมตร เธอกำลังนั่งคุยกับหนุ่มตะวันตกรายหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นพนักงานของซินฟูลหรือไม่ เพราะเห็นหน้าไม่ชัดด้วยนั่งหันหลังให้ แต่ท่าทีธาราเขาเห็นชัดเลยทีเดียว เพราะนั่งหันมาทางเขา

เธอพูดคุยยิ้มหัวกับหนุ่มรายดังกล่าวตลอดเวลา ต่างกับเวลาอยู่กับเขาแทบเป็นคนละคน เวลาอยู่กับเขาแทบอยากขย้ำหัว เอาแต่ทำหน้าบึ้งตลอด

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น