1

คืนหลอกลวง


 

คืนหลอกหลวง

อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ ทว่าร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงกลับเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดพรายเพราะกิจกรรมยามดึก เรียวขาคู่งามถูกยกขึ้นเกี่ยวบนท่อนแขนแข็งแกร่ง เปิดทางให้ความหฤหรรษ์แล่นปราดเข้าหาหล่อนราวกับระลอกคลื่น

อ๊ะ...” หญิงสาวจิกมือลงกับผ้าปูที่นอน หายใจสะท้านเพราะความซ่านสยิวที่คนตัวโตกว่าหยิบยื่นให้ เขาทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนเดินหลงทางอยู่ในหุบเขาวงกต และมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะนำพาหล่อนให้หลุดพ้นไปจากเส้นทางอันเร้นลับนี้ได้ “ลุง... ลุงขา”

มีเสียงฮึดฮัดขัดใจในลำคอของคนที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงอยู่เหนือร่าง

พี่ก็พอมั้ง” เสียงแตกพร่านั้นปะปนมากับเสียงคำรามต่ำ

ณจันทร์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขายังไม่แก่ขนาดนั้น แถมยังหล่อมากๆ ชนิดที่สบตาครั้งแรกก็ทำใจสั่น แต่ถ้าเทียบกับหล่อนแล้วละก็...เขาน่าจะอายุมากกว่าเกินรอบ แล้วหล่อนก็เป็นผู้หญิงประเภทที่หากสั่งให้เลี้ยวซ้ายก็มักจะเลี้ยวขวาด้วย

เรียกลุงแล้วจะหยุดหรือไงล่ะ”

จะเล่นแบบนั้นก็ได้” หนุ่มหล่อวัยสามสิบปลายๆ ยิ้มมุมปากอย่างเย็นยะเยือก ดวงตาคมกริบที่มีประกายท้าทายนิดๆ ของเขาทำเอาคนเพิ่งส่งสาส์นท้ารบเริ่มเสียความมั่นใจขึ้นมา

ณจันทร์ไม่แน่ใจว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ยังไม่มีโอกาสได้ค้นหาคำตอบ ความซ่านสยิวที่ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องก็ทำให้สติของหล่อนแตกกระเจิงไป

อ๊ะ...” หล่อนครางกระเส่า จิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอนอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังลอยละล่องขึ้นสู่ที่สูง ดวงตากลมโตพร่าพรายเหมือนเห็นดาวดวงเล็กๆ มากมายส่องแสงระยิบระยับตรงหน้า แต่พอรู้สึกเหมือนกำลังจะลอยไปแตะขอบฟ้า คนนำทางของหล่อนก็เหนี่ยวรั้งจนต้องครางประท้วง “ลุง...”

หญิงสาวข่วนแขนคนตัวโตที่ปกคลุมอยู่เหนือร่าง เขาถอดถอนและเติมเต็มอย่างเชื่องช้าจนน่าโมโห

จะเรียกดีๆ ได้ยัง”

ลุงอะ”

ยังอีก”

ณจันทร์ถึงกับอ้าปากหวอ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนแก่จะมาไม้นี้ แต่มันก็เป็นความพลั้งพลาดของหล่อนเองที่ริอ่านลองดีกระตุกหนวดเสือ

รังแกเด็กสนุกละสิ”

ใครอยากเกเรก่อน” เสือหนุ่มยังคงกลืนกินช้าๆ ก่อนจะโน้มตัวมาหาเหมือนไม่คิดจะปล่อยหล่อนจากอุ้งมือง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมกินให้เสร็จๆ ไป ซึ่งหล่อนเองก็ไม่รู้เลยว่ากินเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นครั้งแรกของหล่อน

ที่รู้ๆ คือการเซาะเล็มทีละน้อยของเขาทำให้หล่อนกระหายอยากค้นหาคำตอบ

ลุงใจร้าย...” พ้อไม่ทันขาดคำ การบดขยี้อย่างร้อนแรงของเขาก็ทำให้ณจันทร์ถึงกับหน้าร้อนผ่าว “อื้อ...พี่ก็ได้”

เต็มใจหน่อย”

พี่...” เด็กดื้อเสียงอ่อนลงกว่าตอนแรก นึกอยากเรียกชื่อเขาต่อ ทว่ากลับนึกไม่ออก ซึ่งถ้าหล่อนไม่ได้เมาจนเกินไป เขาน่าจะยังไม่เคยแนะนำตัว แล้วนั่นก็ทำให้ณจันทร์เริ่มฉุกคิดได้อีกอย่างหนึ่งว่าหล่อนไม่ควรปล่อยให้ความสัมพันธ์เลยเถิดมาไกลเพียงนี้

ยิ่งเขาเริ่มเคลื่อนไหวหนักหน่วงอีกครั้งเพื่อส่งหล่อนไปแตะขอบฟ้า ณจันทร์ยิ่งไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะอำนวยความสะดวกให้เขาอย่างลืมอาย...

ผู้ชายที่หล่อนเพิ่งเจอในไนต์คลับ และไม่รู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ำ!

อื้อ...” หญิงสาวผวาเฮือก ดวงตาเบิกโพลงพร้อมกับที่ความหฤหรรษ์ทั้งหมดหายวับไป หล่อนหายใจแรงกว่าปกติเมื่อพบว่าเบื้องหน้าคือเพดานห้องนอน และในมือของหล่อนก็มีเพียงหมอนข้างใบโปรดเท่านั้น

แล้วกันสิ...แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลอดเข้ามาทางม่านหน้าต่างทำให้คนตัวบางค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่ง ไม่อยากเชื่อเลยว่าหล่อนจะฝันลามกขนาดนั้น ที่สำคัญคือตาลุงนั่นไม่ควรจะมาอยู่ในความฝันของหล่อนได้เลย

ต้องเป็นเพราะฉากอีโรติกที่เขียนลงในนิยายเมื่อคืนแน่ๆ

แก้มใสๆ ของนักเขียนสาววัยยี่สิบสามเห่อแดง ที่จริงแล้วหล่อนไม่ได้มโนเขาเป็นพระเอกนิยายเสียหน่อย ไม่รู้ว่าจู่ๆ ไปฝันถึงได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เคยเจอกันครั้งเดียวในไนต์คลับเมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน และคงไม่มีทางโคจรมาพบกันอีกง่ายๆ

มนุษย์ลุงขี้เก๊กแบบเขา...น่าจะไม่อยากเจอสาวสายบันเทิงอย่างหล่อนพอๆ กับที่หล่อนไม่อยากเจอเขาอีกรอบนั่นละ!

มันเป็นการเจอกันที่เหมือนจะน่าประทับใจ แต่ก็มีเรื่องไม่น่าประทับใจปนๆ มาด้วย ณจันทร์ไม่อยากนึกถึงเขาอีก เพราะเอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับชีวิต

ผู้ชายในนิยายต่างหากที่สำคัญ!

คิดแล้วนักเขียนมือสมัครเล่นก็ก้าวลงจากเตียงไปกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะตรงไปส่องกระจกในห้องน้ำ สองมือเกล้าผมสีน้ำตาลอ่อนที่ซ่อนไฮไลต์สีชมพูหวานด้านในขึ้นเป็นมวยง่ายๆ ตามประสาคนขี้ร้อน แล้วพอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อย ร่างบางที่ยังอยู่ในชุดนอนแบบเสื้อยืดกับกางเกงสั้นจู๋ถึงค่อยกลับออกมายังเคาน์เตอร์ครัวซึ่งถูกแบ่งเนื้อที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วนในคอนโด

เพียงไม่นานณจันทร์ก็ถือแก้วกาแฟหอมกรุ่นมานั่งลงบนเก้าอี้ประจำที่มุมทำงาน ก่อนจะเข้าเว็บไซต์อีบุ๊กยอดนิยมแห่งสยามประเทศเพื่อเช็กยอดดาวน์โหลดนิยาย

เมื่อคืนนี้หล่อนเพิ่งลงขายเรื่องใหม่หมาดๆ ปกติตื่นเช้ามาแบบนี้จะเจอผลตอบรับที่ทำให้อารมณ์เบิกบาน แต่พอเห็นรายงานการขายจริงๆ ณจันทร์ก็แทบสำลักกาแฟที่เพิ่งจิบเข้าปาก เคราะห์ยังดีที่กลั้นใจกลืนลงคอไปได้ทัน ก่อนจะวางแก้วลงเพื่อเพ่งดูหน้าจอให้ชัดๆ

สองโหลด!

กรี๊ดดด! หากหล่อนเป็นตัวละครในนิยายที่ตัวเองเขียน ป่านนี้ก็คงจะแผดเสียงออกมาแน่ๆ เพราะยอดดาวน์โหลดวันนี้ตกต่ำมากที่สุดในประวัติการณ์ของการลงขายเรื่องใหม่

สัญชาตญาณบางอย่างทำให้ณจันทร์รู้สึกไม่ชอบมาพากล อดไม่ได้ที่จะคลิกเข้าไปดูหน้านิยายของตัวเองว่ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ แล้วหล่อนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะคอมเมนต์ชวนแสลงใจ

ไม่สนุกเลย เสียดายเงินสุดๆ’

ณจันทร์ใจเสีย ไม่อยากเชื่อเลยว่าลงขายวันแรกจะต้องมาเจอคอมเมนต์บั่นทอนจิตใจแบบนี้ แถมเจ้าของคอมเมนต์ยังกดให้หัวใจหนึ่งดวงเพื่อกดคะแนนนิยายอีกต่างหาก และหล่อนอาจจะคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานาว่าตัวเองเขียนไม่ดีตรงไหนบ้าง หากจะไม่เผอิญเหลือบไปเห็นการแจ้งเตือนของทางเว็บไซต์เสียก่อนว่าคนที่มาให้หัวใจหนึ่งดวงคนนี้ไม่ได้ซื้อนิยายของหล่อน

แล้วมาคอมเมนต์กดคะแนนทำไมล่ะเนี่ย...

หญิงสาวหงุดหงิดนิดๆ เมื่อรู้สึกว่าเจอคนไม่น่ารักกลั่นแกล้งเข้าแล้ว กระทั่งฉุกคิดได้ว่ากว่าหนึ่งปีที่นามปากกา ‘จันทร์ฝันหวาน’ เดินอยู่บนถนนสายวรรณกรรมไม่เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้เลย ถึงจะมีบางเรื่องเขียนไม่ถูกใจคนอ่านบ้าง คนอ่านของจันทร์ฝันหวานก็น่ารักและใช้คำพูดถนอมน้ำใจกันเสมอ เพราะฉะนั้นคนที่ทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้ได้คงไม่พ้นคนที่ต้องการขวางทางทำมาหากินของหล่อน

หญิงสาวหยิบสมาร์ตโฟนบนโต๊ะขึ้นมา ต่อสายหาใครคนหนึ่งที่หล่อนมั่นใจว่าเป็นเจ้าของหัวใจหนึ่งดวงในหน้านิยาย

รอสายไม่นาน อีกฝ่ายก็กดรับประหนึ่งรู้ล่วงหน้าว่าหล่อนจะต้องโทร. หา

ไงครับ น้องเกี่ยวก้อย อยากกลับมาขุดดินที่บ้านหรือยัง”

มันจะมากไปแล้วนะ เฮียทำแบบนี้กับก้อยได้ไง” หญิงสาวเปิดฉากอย่างไม่อ้อมค้อม ทว่าคนที่ถือสายอยู่ในสวนลำไยทางภาคเหนือกลับมีสีหน้างุนงง

เฮียทำอะไร”

ไม่ต้องมาไขสือเลย เฮียมาดิสเครดิตนิยายก้อยทำไม นี่ก้อยเพิ่งลงขายเมื่อคืนเองนะ เฮียมาแกล้งกดหัวใจหนึ่งดวงแบบนี้ ถ้าคนอ่านเชื่อว่านิยายก้อยไม่สนุกเพราะคอมเมนต์ของเฮีย แล้วเดือนนี้ก้อยจะเอาอะไรกิน”

เฮียเนี่ยนะจะทำเรื่องไร้สาระแบบนั้น แกมีหลักฐานอะไรมาใส่ร้ายเฮีย”

ไม่ต้องมีหลักฐาน ก้อยก็รู้ เพราะว่าเฮียอยากให้ก้อยเลิกเขียนนิยายแล้วกลับไปขุดดินที่สวนลำไยจะแย่”

ให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เกี่ยวก้อย...” ณตะวันท้วงกึ่งปรามน้องสาวที่อายุอ่อนกว่าเขาหลายปี “เฮียไม่ได้บอกให้แกเลิกเขียนนิยาย แต่บอกว่าถ้าอยากจะเขียน กลับมาเขียนที่บ้านก็ได้ อยู่กรุงเทพฯ คนเดียวมันอันตราย พ่อกับแม่บ่นเป็นห่วงทุกวัน แกไม่คิดจะกลับมาดูแลพ่อแม่บ้างหรือไง”

เฮียอย่าเอาพ่อแม่มาอ้างเลย เพราะคนที่ชอบทำตัวเป็นคนแก่ขี้บ่นน่ะคือเฮียต่างหาก”

อ้อ!” ณตะวันแค่นหัวเราะ นึกหมั่นไส้คนในสายชนิดที่ว่าหากอยู่ใกล้ๆ คงได้ดีดหน้าผากเข้าให้ “แล้วไม่ใช่คนแก่ขี้บ่นคนนี้เหรอที่ทำงานงกๆ ส่งแกไปเรียนไกลถึงโน่น”

งานทวงบุญคุณก็มา...” หญิงสาวถอนหายใจเฮือก กลอกตามองเพดานด้วยความเบื่อหน่าย แต่เวลาเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากิจการสวนลำไยของครอบครัวในช่วงหลายปีมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของณตะวันเป็นหลัก ส่วนผู้บุกเบิกสวนตัวจริงอย่างพ่อกำลังค่อยๆ วางมือ

เฮียไม่ได้ทวงบุญคุณเว้ย...ไอ้เกี่ยวก้อย แต่แค่อยากให้รู้ว่าไม่มีใครรักและเป็นห่วงแกได้เท่าเฮีย ไหนๆ สำนักพิมพ์ที่แกเคยทำงานก็เจ๊งไปแล้ว แกจะดันทุรังเสียค่าเช่าห้องอยู่คนเดียว ทำตัวเป็นพวกสาวเปลี่ยวเขียนนิยายโป๊ขายให้มันได้อะไร”

นิยายอีโรติกค่ะ”

เออ...นั่นแหละ”

ณจันทร์นิ่วหน้า หมั่นไส้พี่ชายสายมึนที่ชอบทำเหมือนไม่เข้าใจความเป็นศิลปะของวรรณกรรมอีโรติก เอะอะก็หาว่าหล่อนเขียนนิยายโป๊ ทีตัวเองดูรูปโป๊ยังบอกว่าเป็นศิลปะเลย

สองมาตรฐานแบบนี้ไงล่ะ อายุใกล้แตะเลขสามแล้วถึงไม่เคยมีเมียเป็นตัวเป็นตน!

พูดไปเฮียก็ไม่เข้าใจหรอก แล้วก็รู้เอาไว้เลยว่าต่อให้เฮียจะตัดช่องทางทำมาหากินของก้อยยังไง ก้อยก็ไม่หมดหนทางง่ายๆ เพราะว่าก้อยได้งานใหม่แล้ว” หญิงสาวประกาศศักดาแล้วกดวางสาย ก่อนจะเป่าลมหายใจออกจากปอดฟู่ใหญ่พลางนิ่วหน้าเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

งานใหม่...หาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนเล่า!

ตั้งแต่สำนักพิมพ์นิตยสารที่หล่อนทำงานอยู่ปิดตัวลงเมื่อสองเดือนก่อน ณจันทร์ก็พยายามยื่นสมัครงานใหม่เพราะรายได้จากการขายนิยายแบบอีบุ๊กนั้นไม่แน่นอน หล่อนไม่กล้าเรียกตัวเองว่านักเขียนมืออาชีพ เพียงแต่ชอบอ่านนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเขียนเป็นงานอดิเรกเท่านั้น เผอิญว่านิยายเรื่องแรกที่เอาไปลงในเว็บไซต์นิยายออนไลน์ชื่อดังมีผู้ติดตามเยอะ และมีนักอ่านแนะนำให้รวมเล่มขายเอง ณจันทร์ก็เลยลองทำดู และพบว่ามันสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ

แต่นั่นก็แค่ช่วงแรกๆ หากไม่มีผลงานใหม่วางขายต่อเนื่องก็ยากที่จะยึดเป็นอาชีพได้ แล้วหล่อนก็ยังเป็นมือใหม่เกินกว่าจะปิดต้นฉบับได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วย ปีที่ผ่านมาเพิ่งมีผลงานเรื่องสั้นวางขายแค่สามเรื่อง รายได้ก็แค่พอจ่ายค่าเช่าคอนโดและใช้จ่ายส่วนตัวได้อย่างไม่ขัดสนเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ณตะวันเคยชวนหล่อนกลับไปช่วยงานที่บ้าน เพราะกำลังอยู่ในช่วงขยับขยายกิจการสวนลำไยของครอบครัว แต่ณจันทร์เกิดและโตมากับลำไย หากจะเรียกว่าเห็นลำไยจนเบื่อก็คงไม่ผิดนัก พอสอบเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็เลยอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ชีวิตมากกว่า

ช่วงแรกที่ได้งานเป็นเลขาฯ บรรณาธิการ...ณตะวันก็ใช่ว่าอยากให้ทำเท่าไร หากไม่ได้พ่อกับแม่ช่วยพูด พี่ชายที่ชอบทำตัวเป็นมากกว่าพ่ออย่างณตะวันก็คงไม่ยอมให้หล่อนอยู่กรุงเทพฯ ต่อด้วยซ้ำ พอหล่อนตกงานเท่านั้นละก็เลยเข้าทาง พี่ชายแสนดียื่นคำขาดมาว่าหากภายในสามเดือนยังหางานใหม่ไม่ได้ หล่อนจะต้องเอาเงินที่ยืมมาออกรถตอนเรียนอยู่ปีสี่ไปคืน ไม่อย่างนั้นก็จะต้องกลับไปทำงานใช้หนี้ที่สวนลำไย!

เฮียโป้งนะเฮียโป้ง ใจคอทำด้วยอะไร” ณจันทร์รำพันกับตัวเองเบาๆ ทว่าไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งณตะวันพยายามบีบบังคับให้กลับบ้านด้วยการตัดช่องทางทำมาหากินแบบนี้ ณจันทร์ก็ยิ่งอยากพิสูจน์ตัวเองให้พี่ชายเห็นว่าหล่อนโตพอจะก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวเองได้

ไม่ใช่เด็กไม่รู้จักโตในสายตาเขาแน่!

คิดแล้วหญิงสาวก็ลองเช็กอีเมลดูความคืบหน้าของงานที่เคยส่งเอกสารสมัครไปในช่วงเดือนที่ผ่านมา เผื่อจะมีบริษัทไหนเรียกตัวเข้าสัมภาษณ์บ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเหมือนเคย

ณจันทร์ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะมีเสียงข้อความทางไลน์ในโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

หล่อนขมวดคิ้วมุ่น แปลกใจว่าใครทักมาแต่เช้า กระทั่งหยิบมาดูจึงพบว่าเป็นธนนท์...เพื่อนเกย์ที่ซี้กันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย

ตื่นยัง

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีธุระอะไร ณจันทร์ก็อดไม่ได้ที่จะพิมพ์ตอบไปสั้นๆ ตามประสาสุภาพสตรี...ที่มีความเกรียน

ยัง

ผีตอบ?

ผีบ้านแกสิ...คิดแล้วณจันทร์ก็ยกสมาร์ตโฟนขึ้นเปิดกล้องหน้าเพื่อถ่ายรูปตัวเองในมุมเอียงสี่สิบห้าองศา จือปากนิดๆ เหมือนพวกนางแบบเวลาถ่ายภาพเซ็กซี่ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าหน้าสดของตัวเองจะ ‘ผี’ จนทำให้เพื่อนตกใจหรือไม่ เพราะกล้องมือถือรุ่นนี้ถ่ายปุ๊บแต่งรูปฟรุ้งฟริ้งให้เองโดยอัตโนมัติ

หล่อนไม่รอช้าที่จะกดส่งรูปที่เพิ่งถ่ายเสร็จหมาดๆ ไปพร้อมข้อความตอบโต้

ผีอะไรสวยขนาดนี้คะคุณ

เชื่อละว่ายังไม่ตื่นจริงๆ

อีกฝ่ายประชด ก่อนจะกดส่งสติกเกอร์รูปกระต่าย ‘มองบน’ ตามมาติดๆ

แล้วทักมาทำไมไม่ทราบ

ก็แค่อยากบอกว่ามีงานดีๆ ให้ชะนีตกงานทำ

ณจันทร์หยุดปลายนิ้วชั่วครู่ ก่อนหน้านี้ธนนท์เคยเสนอความช่วยเหลือด้วยการคิดฝากหล่อนเข้าทำงานในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว แต่ณจันทร์ปฏิเสธ เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นเด็กเส้น อีกทั้งงานเขียนยังพอไปได้อยู่ก็เลยอยากหางานเองมากกว่า

ไม่รู้ว่าเพื่อนซี้ไปเจองานอะไรน่าสนใจมา

งานง่ายๆ และเงินดีมาก

เป็นการขยายความที่ทำให้คนตกงานยิ่งประหลาดใจหนัก โลกนี้มีงานอะไรที่ทำได้ง่ายๆ และเงินดีด้วยหรือ...

ขายตรง?

NO!

ขายตัว?

ณจันทร์อดไม่ได้ที่จะพิมพ์ถามแบบขำๆ แต่ขำได้ไม่ทันไรก็ต้องอ้าปากค้าง...

จอแบนอย่างแกคงขายออกยาก

เลว...เป็นคำแรกที่ผุดขึ้นในสมอง ก่อนจะก้มลงมองคัปบีเจ็ดสิบของตัวเองด้วยความแสลงใจ เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าค่อนข้าง ‘แบน’ จริง แต่สุภาพชนควรเรียก ‘มีน้อย’ ไม่ใช่หรือไง!

คิดอย่างนั้นแล้ว...สุภาพชนผู้ภูมิใจในสมบัติเล็กๆ ที่แม่ให้มาก็อดไม่ได้ที่จะพิมพ์ตอบไปบ้าง

จอแบนสิดี เพราะจะได้เป็นชะนีที่ ‘คมชัด’ ทุกท่วงท่า ‘ซู่ซ่า’ ทุกอารมณ์

เพื่อนก้อยคะ วางถุงกาวลง...

ธนนท์อาจไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้า แต่ข้อความที่ส่งกลับมาก็ทำให้ณจันทร์หัวเราะคิก แล้วไม่ทันไรอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาอีก

อยู่ห้องใช่ปะ

อื้อ

งั้นอีกชั่วโมงเจอกัน

อ้าว...ตกลงเพื่อนนนท์จะชวนทำงานไรอะ

เจอกันค่อยเหลาค่ะที่รัก

ณจันทร์ขมวดคิ้วมุ่น คิดไม่ตกว่าทำไมเกย์หนุ่มจะต้องทำตัวมีลับลมคมในด้วย

งานง่ายๆ เงินดีๆ...

งานอะไรของเขา?

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น