บทนำ

บทนำ

ตั้งแต่เกิดมา ธรณ์ไม่เคยเหยียบพื้นหญ้ารกชัฎในสถานที่ที่เรียกว่าป่ามาก่อน พ่อกับแม่เลี้ยงดูเขาให้เติบโตในคฤหาสน์ใหญ่โต กว้างขวาง อยู่ภายใต้แสงไฟสว่างสไว   มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้อมล้อมด้วยสมาชิกครอบครัว ฉะนั้นสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่ต่างจากการถูกทอดทิ้งทำให้เด็กชายวัยสิบขวบรู้สึกหวาดกลัว 

นัยน์ตาสีน้ำผึ้งกวาดมองรอบทิศ ต้นไม้ใบหญ้าในครรลองสายตากลืนหายไปกับรัตติกาล รอบกายเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่เสียงลมพัด เสียงเดียวในเวลานี้คือเสียงฝีเท้าของเขาที่เหยียบย่ำบนหญ้า และจุดกำเนิดแสงสว่างเพียงแห่งเดียวคือพระจันทร์ข้างแรมบนฟากฟ้า ส่วนหนึ่งของมันถูกความมืดบดบัง

ธรณ์ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในมุมไหนของโลกใบนี้ ไม่รู้ว่าเดินเรื่อยๆ มาไกลแค่ไหนแล้ว การออกไปจากที่นี่เป็นไปได้ยาก กระทั่งนัยน์ตาที่เริ่มคุ้นชินกับแสงเพียงน้อยนิดมองเห็นดวงไฟสีฟ้าดวงเล็กล่องลอยอยู่ข้างหน้า

มันตรงมาหาเขา

เด็กชายหยุดเดิน จับจ้องไฟประหลาดที่ขยับเองได้ดวงนั้น มันมีปีกและกำลังบินเข้ามาใกล้ เลี้ยววูบไปทางซ้ายเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะชนปลายจมูกของเขา ไม่ช้าธรณ์ก็รู้ว่ามันเป็นผีเสื้อเรืองแสงในความมืดมิด 

และเมื่อหันไปยังทิศทางที่ผีเสื้อตัวน้อยบินจากไป เขาก็พบกลุ่มแสงสีฟ้าของผีเสื้อหลายร้อยตัว ผืนป่าแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เด็กชายไม่รีรอที่จะวิ่งเข้าไปอยู่ท่ามกลางแสงไฟเหล่านั้น ความน่ากลัวพลิกเปลี่ยนเป็นตระการตา ต้นไม้สูงใหญ่เริ่มมีสีเหลืองเปล่งประกาย ดูมีชีวิตชีวาขึ้น 

เขารู้จักหิ่งห้อย แต่ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองมาก่อน พวกมันสวยยิ่งกว่าไฟระย้าในทุกๆ งานเทศกาลที่เขาเคยไปเยือน ยามที่แสงสองสีผสมกัน ป่าแห่งนี้เหมือนไม่มีอยู่จริงบนโลก

เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันน่าทึ่ง กระทั่งในกรอบสายตาปรากฏหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้ เธอทอดตามองบ่อน้ำสะท้อนประกายไฟ ความตื่นตระหนกของธรณ์ลดหายไปมากกว่าครึ่งเมื่อรู้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงลำพัง

“พี่ครับ พี่...”

ร่างระหงในชุดกระโปรงแขนยาว สีขาวสะอาดปราศจากลวดลายหันมามองเขา ผมดำสนิทยาวถึงกลางหลัง ดวงตาของเธอเปล่งประกายเมื่อมองสบเขา มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ

หญิงสาวเป็นฝ่ายเดินมาหา โน้มตัวลงมาจ้องตาเด็กที่สูงแค่เพียงต้นแขนเธอ ธรณ์แหงนหน้าเล็กน้อย กวาดตาสำรวจใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยของอีกฝ่าย น่าแปลกที่แม้แต่เสี้ยวของความคิดก็ไม่มีความหวาดระแวงในตัวคนแปลกหน้า

“พาผมออกไปจากที่นี่หน่อยได้ไหมครับ” เขาขอร้องด้วยความเชื่อมั่นว่าหญิงสาวช่วยเขาได้ เนื่องจากเธอดูไม่กลัวอะไร เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของป่าใหญ่แห่งนี้

หญิงสาวปริศนายืดหลังตรง เอามือไพล่หลัง เชิดอกเล็กน้อย

“เธอกลัวเหรอ” บนใบหน้ารูปไข่ยังมีรอยยิ้ม เหมือนกำลังโอ้อวดความกล้าหาญที่สามารถมาเดินเล่นอยู่ในนี้ได้ 

ธรณ์ไม่ใช่คนหยิ่งในศักดิ์ศรี เขาพยักหน้าและยอมรับอย่างง่ายดายว่า “กลัวครับ”

แม้จะสวยงามชวนให้ตกตะลึง แต่อย่าลืมความจริงว่าเขาไม่เคยมาที่นี่ ไม่มีคนรู้จักอยู่ด้วย ไม่ช้านานจึงกลับมารู้สึกไม่ปลอดภัยอีกครั้ง

“โธ่ มันก็แค่ความฝันน่า เธอกลัวอะไรนัก” 

หญิงสาวยิ้มจนเกือบจะหัวเราะ ขณะที่ธรณ์มุ่นคิ้ว 

ความฝันเหรอ

“มองฉัน”

เด็กชายเบนสายตาที่มองสำรวจรอบกายอยู่ครู่หนึ่งกลับไปหาเจ้าของคำสั่ง เธอโน้มกายลงมาอีกครั้ง ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเขี่ยจมูกเขาอย่างมันเขี้ยว

“ระลึกไว้เสมอว่าฉันมีตัวตน ณ มุมใดมุมหนึ่งของโลกใบนี้” 

นิ้วเรียวชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นดวงตาสองคู่ก็จับจ้องพระจันทร์ดวงเดียวกัน มันเป็นสิ่งเดียวที่จริงแท้ ไม่ถูกปรุงแต่งโดยจิตใต้สำนึก

“และเธอ...เกิดมาในตระกูลพระอาทิตย์เพื่อเป็นที่รักของพระจันทร์”

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น