บทที่ 2 ประธานเผด็จการ
ปัจจุบัน
อันที่จริงกังสดาลไม่ใช่คนขี้ลืม เธอแค่ชอบเผลอละเลยรายละเอียด อย่างเช่นก่อนออกจากบ้านควรพกของสำคัญอะไรบ้าง เป็นต้นว่าหูฟังโทรศัพท์มือถือดีๆ ที่ช่วยปิดกั้นถ้อยคำนินทาระยะประชิด
“นี่เขามาสมัครงานจริงๆ เหรอ ตำแหน่งพนักงานแนะนำสินค้าเนี่ยนะ ไหนว่าแม่เขาโกงเงินชาวบ้านไปเป็นพันล้าน”
“ไม่รู้สิ ว่าแต่ใช่กีกี้ที่เป็นนางร้ายชื่อดังจริงๆ เหรอ”
“นางร้ายชื่อดังตรงไหนล่ะ ก็แค่ตัวประกอบ ได้เล่นเป็นนางร้ายไม่กี่เรื่องก็แป้ก แม่เขาต่างหากที่เป็นนางร้ายรุ่นแม่ ถ้าไม่มีข่าวก็ไม่มีใครรู้จักกีกี้หรอก”
ความเห็นนี้ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่เท่าไร เพราะเดือนก่อนคนยังไม่ค่อยรู้จักกังสดาลเลย ขนาดพาดหัวข่าวช่วงแรกๆ ยังเป็น ‘กีกี้ ลูกสาวนางร้ายชื่อดังซิ่งนรก’ กังสดาลอยู่ในวงการมานานหลายปี แต่ข่าวดังสุดก็คือข่าวฉาวของเดือนก่อนที่ทำให้คนจำชื่อของเธอได้เสียที แถมยังทำให้คนจำหน้าได้จนสามารถร่วมวงนินทาระยะประชิด แต่เธอก็เข้าใจคนเหล่านี้ อิจฉาคนมี ดูแคลนคนไม่มี ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรละทิ้ง ทว่าคนทั่วไปไม่อาจละอารมณ์ประเภทนี้ได้ โดยเฉพาะกับคนที่ดูน่าหมั่นไส้ตั้งแต่หัวจดปลายเท้าอย่างเธอ
กังสดาลไม่จัดว่าสวยหยาดเยิ้ม แล้วก็ไม่เซ็กซี่ขยี้ใจใคร ใบหน้ากลมมนของเธอเรียกว่าสวยน่ารัก ขณะเดียวกันก็มีลักษณะของคุณหนูเอาแต่ใจโดยไม่ต้องพึ่งพารองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร หรือลิปสติกสีแดงอมชมพู ที่สำคัญการเกิดมาในฐานะลูกของคนมีชื่อเสียง ได้รับทรัพยากรที่ดีกว่าคนอื่นก่อนจะลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ทำให้เธอมีความมั่นใจในทุกกิริยาท่าทาง แล้วนั่นก็เหมือนคำสาป เพราะหลายคนยังไม่ทันรู้จักเธอดีก็ชิงหมั่นไส้เธอเสียก่อนแล้ว
หญิงสาวตำหนิหูฟังด้อยประสิทธิภาพกับหูดีเกินไป แต่อย่างน้อยสมองของเธอก็ทำงานใช้ได้ จึงไม่ลุกไปตอบโต้กลุ่มคนช่างเมาท์ว่าเธอมาสมัครงานจริง และไม่เลือกงานไม่ยากจน โดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังจนจริงๆ การได้งานที่นี่จึงเป็นโอกาสให้เธออยู่รอดต่อไป
บริษัทจงทรัพย์เป็นบริษัทการเงิน สามารถครอบครองตึกกลางเมืองได้ย่อมไม่ใช่บริษัทเล็ก เพราะบริษัทนี้รวมธุรกิจหลายหลากทางด้านการเงินเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าตลาดหลักทรัพย์ ผู้ให้คำแนะนำทางด้านการเงิน ฯลฯ หายากที่จะรับสมัครพนักงานชั่วคราว ต่อให้เป็นพนักงานชั่วคราวเพื่อเป็นผู้ช่วยในงานมันนี่เอกซ์โปสิบวัน ก็ได้ค่าตอบแทนไม่น้อยเลยทีเดียว คุณสมบัติที่ต้องการก็แค่สวย บุคลิกดี พูดภาษาอังกฤษเก่ง
กังสดาลจึงส่งใบสมัคร หวังหายอดเงินมาเติมเต็มบัญชีที่พลิกจากหลักร้อยล้านเกือบจะกลายเป็นหลักร้อยบาท เงินหลักหมื่นจากการจ้างงานน่าจะช่วยให้เธอจ่ายค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่ค้างจวนจะโดนตัด แล้วก็มีเงินค่าข้าว จะได้กินข้าวไปดูละครผ่านมือถือไป ซึ่งสองอย่างนี้สำคัญต่อชีวิตของเธอมาก มากพอจะยอมนั่งรับคำนินทาระยะประชิด แล้วแสร้งทำเป็นเชิดไม่แคร์ใคร
‘อย่าให้ใครเห็นว่าเราอ่อนแอ’ แม่ของเธอสอนมาอย่างนั้น
ต่อให้กังสดาลไม่มีดีอะไรสักอย่าง ไม่เคยเฉียดใกล้คำว่าประสบความสำเร็จ แต่เธอก็เกิดมาเป็นลูกนักแสดงชื่อดัง ถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่จำความได้ว่าให้รักษาภาพลักษณ์เอาไว้ แผ่นหลังที่เริ่มงอเพราะความท้อใจจึงยืดขึ้น ช่างปะไรถ้าใครจะหาว่าเธอหยิ่งหรือจะนินทาเธอเพิ่มขึ้น
แน่นอนว่าทันทีที่เธอเข้าโหมดคุณหนูเย่อหยิ่ง ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่คิดจะออมเสียง หญิงสาวเมินคำนินทาแล้วภาวนาให้พนักงานฝ่ายบุคคลนึกได้เสียทีว่ามีคนรอสัมภาษณ์งานอยู่ตรงนี้ คำขอของเธอคงได้ผลเพราะมีคนเดินเข้ามาทักทายแล้วพาเธอขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดอันเป็นชั้นของผู้บริหาร ก่อนจะให้เธอรออยู่หน้าห้องต่อ
“คุณสหกรณ์ติดประชุมออนไลน์ผู้ถือหุ้นอยู่ครับ รบกวนคุณกังสดาลรออีกสิบนาทีนะครับ”
คนที่เข้ามาแจ้งข่าวกับกังสดาลสวมสูทผูกไท ผมเรียบกริบ รองเท้าหนังมันปลาบ บุคลิกดีเกินกว่าจะเป็นพนักงานทั่วไป ที่จริงกังสดาลรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่มองเลขชั้นบนลิฟต์ ไม่นับว่าห้องที่อยู่ตรงหน้ามีลักษณะของห้องผู้บริหารระดับสูง
“ขอโทษนะคะ คุณสหกรณ์เป็น...” เธอเว้นคำตอบให้อีกฝ่ายช่วยเติม
“คุณสหกรณ์เป็นประธานกรรมการของบริษัทจงทรัพย์ครับ”
“ฉันมาสมัครตำแหน่งพนักงานชั่วคราวนะคะ” แค่ลูกจ้างรายวันต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ
ไม่มีคำตอบว่าทำไมประธานกรรมการถึงอยากสัมภาษณ์งานพนักงานส่งเสริมการขายชั่วคราว และกังสดาลรอมากกว่าสามสิบนาทีเพื่อพบหน้าสหกรณ์ แต่เนื่องจากเธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่ม จึงรออย่างสงบเสงี่ยม จิบน้ำที่แม่บ้านนำมาให้เล็กน้อย แค่พอไม่ให้ปากแห้งและไม่มากจนทำให้ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วพลาดการสัมภาษณ์งาน อันที่จริงเธอนั่งนิ่งจนเกือบจะเป็นฟอสซิลอยู่แล้วตอนพนักงานคนเดิมซึ่งคาดว่าเป็นเลขาฯ หน้าห้องท่านประธานเชิญเธอเข้าไปพบบุคคลด้านใน
ห้องประธานกรรมการกว้างขวาง มีทั้งชุดโซฟารับแขกและตู้เอกสารเรียงราย โดดเด่นสุดคือโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอจะให้กังสดาลขึ้นไปนอนกลิ้ง และที่สะดุดตาสุดๆ คือชายร่างสูงใหญ่ที่ทำเก้าอี้ผู้บริหารตัวโตเล็กลงไปเลย
สหกรณ์ห่างไกลจากมาตรฐานนักธุรกิจที่กังสดาลเคยพบ ผิวเขาเป็นสีแทน ต่อให้ใส่ชุดสูทก็ไม่อาจบดบังความแข็งแรงกำยำของเขาเอาไว้ได้ อีกหนึ่งอย่างที่ผิดจากนักธุรกิจทั่วไปอย่างชัดเจนก็คือพวกเขาเหล่านั้นต่อให้ขัดแย้งก็ยังคงความเป็นมิตร แต่ดวงตาคมของเขาไม่มีแววประนีประนอมสักนิด ที่สำคัญสายตาคู่นั้นมองตรงมาที่เธอ แล้วก็ตัดขาดทุกอย่างออกไปจนหมด ให้เธอรู้สึกเพียงเขาคนเดียวบนโลกใบนี้ และเวลาหยุดลงเมื่อเธอได้พบเขา สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวคือคำถามในใจเธอ
‘คุณหายไปไหนมา ฉันหาคุณไม่เจอ’
อยู่ๆ ประโยคไร้เหตุผลก็ผุดขึ้นมาในสมองของกังสดาล ที่บ้ายิ่งกว่าคือเธออยากพุ่งเข้าไปคาดคั้นถามสหกรณ์ คนแปลกหน้าที่เธอเพิ่งเจอวันนี้ เพื่อให้เขารับผิดชอบหัวใจที่เจ็บแปลบแบบไม่ทราบสาเหตุของเธอ
ใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกแยก ทว่ากังสดาลไม่อาจคุ้ยเขี่ยความทรงจำหาออกมาได้ว่าเคยพบสหกรณ์ที่ไหน เธอแค่รู้ว่าเคยเห็นโครงหน้ารูปวงรี เส้นผมหยิกของเขา เธอเกือบนึกออกว่าเคยเห็นเขาจากที่ไหน แต่ทุกอย่างเลือนไปเมื่อโดนเขาจับจ้อง ดวงตาสีดำแลทะลุไปถึงทุกอย่าง จมูกของเขาโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบนบางขณะที่ริมฝีปากล่างอิ่ม เธอเคยอ่านเจอว่าคนริมฝีปากบางเป็นคนเลือดเย็นไร้หัวใจ ทว่าเธอจำได้ว่าตอนกัดริมฝีปากล่างนุ่มๆ นั้นมันอุ่น
เชี่ย! เธอไปเอามาจากไหนว่ากัดปากคนแปลกหน้าแล้วอุ่น
“คุณสหกรณ์ครับ นี่คือคุณกังสดาล” ประโยคแนะนำตัวของเลขาฯ ท่านประธาน ตัดบรรยากาศชวนพิศวงออกไปจนหมด และทำให้กังสดาลระลึกได้ว่าเธอมาสมัครงานไม่ใช่มายืนมองหน้าท่านประธาน
“สวัสดีค่ะคุณสหกรณ์”
กังสดาลไม่รอให้ชายที่นั่งเก้าอี้หนังตัวโตทักทายก่อนก็ชิงยกมือไหว้ อย่างไรมารยาทไทยก็ไม่เคยผิด แต่นอกจากเสียงของเธอก็ไม่ปรากฏเสียงอื่นๆ อีก ไม่มีแม้กระทั่งคำพูดตามมารยาท เช่นสวัสดีครับ นั่งลงครับ ฯลฯ มีก็แค่การโบกมือให้เลขาฯ ออกไป ส่วนเธอยืนแช่แข็งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับสบตาเขาไปพลางๆ หญิงสาวชั่งใจว่าควรนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานของท่านประธานดีหรือไม่ เพราะดูเขาไม่ปลื้มการมีเธอเข้ามาในอาณาเขตของเขาสักเท่าไร สังเกตจากคิ้วขมวดแน่นจนแทบจะบีบแมลงวันให้ตายได้กรณีที่มีแมลงวันอุตสาหะบินขึ้นมาชั้นบนสุด แถมเปี่ยมความกล้าจะบินตัดหน้าชายมาดเข้มคนนี้
หากเป็นการอยู่ต่อหน้าคนอื่น กังสดาลคงปั้นท่าเย่อหยิ่งขึ้นมาป้องกันตัว แต่นี่คืออนาคตนายจ้าง ที่สำคัญเธอไม่กล้าขนาดวางท่าใส่คนที่อาจจะบีบคอเธอตายได้
เล่นเกมจ้องตาจนกังสดาลเริ่มล้า สหกรณ์ก็ผายมือทำท่าเชื้อเชิญให้เธอนั่งลงแต่ใบหน้ายังคงคอนเซปต์ไม่รับแขกติดจะรังเกียจเดียดฉันท์ จนเธอสงสัยว่าการก้าวเท้าเข้ามาในห้องทำงานของเขาทำให้ความสวยของเธอลดหายไปเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า แต่มองในแง่ดีอย่างน้อยเขาก็ให้เธอนั่ง...หญิงสาวลอบถอนหายใจ รู้สึกว่าตนผ่านบททดสอบสำคัญระดับถึงตายมาได้ ก่อนจะเจอบททดสอบต่อไปซึ่งก็คือความเงียบและก็เงียบ สบตากันไปเงียบๆ
สัมภาษณ์งานไม่ต้องถามอะไรเหรอ หรือการใช้บรรยากาศกดดันแบบเงียบๆ เป็นหนึ่งในบททดสอบสำคัญสำหรับงานพนักงานส่งเสริมการขาย เผื่อเธอต้องไปเจอลูกค้าหน้าตาย ไม่พูดไม่จา จะได้หาทางเสนอแนะแผนการตลาดได้โดยไม่เครียด กังสดาลห้ามใจอย่างหนักไม่ให้ขยับลิ้นสำรวจร่องฟันว่ามีเศษผักใบเขียวติดอยู่หรือเปล่า เหตุผลก็เพราะเธอไม่เคยทำตัวเองขายหน้าแบบนั้น ส่วนอีกเหตุผลสำคัญก็คือเธอไม่แน่ใจว่าถ้าขยับตัวซี้ซั้วท่านประธานมาดโหดจะเฉดหัวเธอไปหรือเปล่า
“คุณไม่มีอะไรจะบอกผมหน่อยเหรอครับ” น้ำเสียงของสหกรณ์แหบห้าว
กังสดาลกะพริบตาปริบๆ ใส่คำถาม ก่อนจะถึงบางอ้อ รีบบอกรัวเร็ว
“ฉันไม่ได้เมาแล้วขับนะคะ ไม่ได้ใช้กำลังกับอีกฝ่ายด้วย” เธอไม่ได้ร้อนตัว แต่แฮชแท็ก #กีกี้เมาแล้วขับ กับ #กีกี้มือตบ มันฮิตเกินไป
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เมาแล้วขับ และคุณไม่ใช่พวกชอบใช้กำลังด้วย”
เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งๆ เธอรู้สึกราวกับได้ยินเสียงกัดฟันกรอดลอดมาด้วยจึงรีบให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“ฉันไม่ได้ใช้ยานะคะ แล้วก็...”
“พอเถอะเรื่องนั้นน่ะ ที่ผมอยากถามก็คือตกลงคุณมาสมัครงานที่นี่จริงๆ ใช่ไหม”
กังสดาลกะพริบตาปริบๆ สองครั้งซ้อน อยากย้อนถามว่าเรซูเมที่กรอกออนไลน์ส่งเธอมาผิดที่หรือเปล่า แต่ท่าทางอยากจะกินหัวคนของสหกรณ์ไม่เอื้อให้เธอทำเช่นนั้น เลยได้แต่ปล่อยให้เกิดสภาวะเงียบงันกดดันต่อไป...เงียบงันในฝั่งเธอ กดดันจากฝั่งเขา
“ผมอยากรู้ว่าตกลงคุณจะไม่ทำงานในวงการบันเทิงแล้วใช่ไหม”
อันที่จริงนอกจากเงินดี กังสดาลก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์วงการมายาเท่าไรนัก แม่ของเธอพยายามดันเธอเข้าวงการมาหลายปี แต่บทดีที่สุดก็แค่นางร้ายที่ไร้คนจดจำ ที่สำคัญเธอชอบนั่งอินดูละครอยู่ที่บ้าน แอบซุกตัวในมุมมืดเล่นโซเชียล อ่านเรื่องซุบซิบดารามากกว่ายืนในที่สว่างแล้วให้คนอื่นรุมวิจารณ์ แต่นี่ไม่ใช่จังหวะเหมาะที่จะบอกว่าที่นายจ้างถึงพฤติกรรมด้านลบของตนเอง เธอเลยได้แต่ยิ้มแล้วกล่าวเออออไป
“ฉันคงไม่เหมาะกับการทำงานออกสื่อบันเทิงเท่าไรค่ะ”
“ดีมาก”
น้ำเสียงสหกรณ์แทรกด้วยความรู้สึกเยาะหยัน กังสดาลจึงมีเหตุอันควรให้สงสัยว่า ‘ดีมาก’ ในที่นี้แปลว่าเขายินดีมากกับหายนะทางอาชีพสายบันเทิงของเธอ
หญิงสาวเชื่อมั่นในลางสังหรณ์ระวังภัยแบบสัตว์เล็กประเภทหนูหรือกระต่ายของตน ก่อนออกจากบ้านเธอพบแล้วว่าวันนี้ไม่เหมาะจะเดินทางไปไหน เริ่มจากรองเท้าส้นสูงหักตั้งแต่ยังไม่สวม ถุงน่องขาดตอนจะก้าวพ้นประตู นกขี้ใส่หัวตอนจะเข้าไปในรถ แถมยังมีแมวดำนอนขวางหน้าประตูรั้วด้วย หลังจากคำว่าดีมากของสหกรณ์ กังสดาลจึงตัดสินใจว่าเธอไม่เหมาะกับงานบริษัทนี้ และควรรีบขอตัวกลับบ้าน ทว่าเขาชิงบอกผลการสมัครงานของเธอเสียก่อนด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหดห้ามเถียง
“ในเมื่อคุณเลิกทำอาชีพนักแสดงที่ใฝ่ฝันแล้ว ก็กลับมาทำหน้าที่แม่ซะที”
ละครโรงเล็ก
ตอน ข้อเสนอ
กีกี้ : ทำไงดี! ท่านประธานอยากเจอฉันเป็นการส่วนตัว
ประธาน : ไม่ต้องตกใจ ผมแค่มีเรื่องจะเสนอ
กีกี้ : ทำไงดี! ท่านประธานเสนอจะซื้อตัวฉัน
ประธาน : ผมเสนอให้เลิกมโนเสียที!!!
ความคิดเห็น |
---|