1

บทที่ 1

 

เรือเร็วลำหรูโผนเหนือยอดคลื่น กรีดแผ่นน้ำสีเทอร์คอยส์สาดกระจายเป็นฟองขาวสะท้อนแดดบ่าย เกิดประกายระยิบระยับ ไม่ช้าก็ตรงเข้าจอดที่หาดทรายขาว เบื้องหน้ารีสอร์ตขนาดใหญ่ซึ่งตกแต่งด้วยรูปแบบไทยประยุกต์ เข้ากับบรรยากาศเกาะกลางทะเลตะวันออก

บัตเลอร์หนุ่มวัยสามสิบห้าในเครื่องแบบละม้ายราชปะแตนก้าวลงสู่พื้นทรายก่อน ครั้นเหยียดกายตรงแล้วก็หันไปยกมือรับผู้จะตามต่อมา

หญิงที่โผล่ออกมาจากลำเรือ สวมหมวกปานามาของเอกวา-อันดิโน เข้ากับแว่นกันแดดไวต์ราวน์วินเทจชาเนลปารีส ท่อนบนมีเพียงผ้ารัดหน้าอกตึงแน่นสีขาว จนหนั่นเนื้อทะลักหลามเป็นลูกๆ เหมือนจะระเบิด ส่วนท่อนล่างใช้ผ้าคลุมไหล่พันเอวไว้ต่างผ้านุ่ง เน้นสะโพกใหญ่เท่ากะละมังไซซ์กลาง กอปรกับโครงร่างที่ค่อนข้างใหญ่อยู่แล้ว รวมๆ จึงดู ‘บึกบึน’ มากกว่าจะเซ็กซี่ 

เจ้าหล่อนเชิดปลายคางขึ้นน้อยๆ เห็นผ่านเลนส์แว่นรำไรว่าเปลือกตาปิดพริ้ม ริมฝีปากอวบเหมือนเพิ่งเติมฟิลเลอร์เคลือบลิปกลอสฉ่ำวาว เผยรอยยิ้มรับลมทะเลที่ไล้ผมยาวทำสีทองและดัดเป็นคลื่นดูแห้งๆ ให้พลิ้วกระจาย เช่นเดียวกับชายผ้านุ่ง เผยให้เห็นท่อนขาล่ำใหญ่แทบจะมีมัดกล้าม ลำแขนใหญ่เช่นเดียวกันคล้องกระเป๋าถือ ยกมือขึ้นแตะอกแสดงอาการพึงใจ เพชรเม็ดเป้งบนวงนิ้วกระจายแสงแดดพร้อมๆ กับต่างหูระย้าจนคนมองต้องหยีตาหลบ

เมื่อเจ้าหล่อนปรายตามาพบว่าบัตเลอร์ยื่นมือรอ คิ้วสักเป็นเส้นดำเล็กใต้กรอบแว่นหนาสีขาวที่เขียนคำว่าชาเนลและปารีสก็เลิกขึ้น แสดงวี่แววของคำถาม รอยยิ้มก็เกลื่อนด้วยความหลากใจ 

“เชิญครับ คุณเงินยวง”

ต่อคำของคนข้างล่าง เจ้าของนามเงินยวงยกมืออีกข้างที่ไม่ได้แตะอกขึ้นมา ปลายนิ้วชี้อันประดับเล็บปลอมแต่งเกล็ดอัญมณีพริบพรายชูขึ้นแค่งอๆ พอให้ไม่รู้สึกว่าเป็นการออกคำสั่งนัก...แต่ ใช่ นั่นคือคำสั่ง โดยเฉพาะเมื่อปลายนิ้วนั้น เคลื่อนเป็นวง

ปภังกรทำหน้าที่บัตเลอร์มานานพอจะเชี่ยวชาญในการรักษาสีหน้าและกิริยา แม้ที่แท้ในใจจะงงเหวอ ขณะเดียวกัน บัตเลอร์อย่างเขาก็ยึดคติว่า ทุกคำขอของแขกล้วน ‘เป็นเหตุเป็นผล’ และ ‘เป็นไปได้’ ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงหมุนกายหันหลังให้เธอแต่โดยดี

วินาทีต่อมา หางตาของเขาก็ทันเห็นอะไรบางอย่าง ขนาดเท่าลำต้นมะพร้าวพาดเฉียดข้างแก้ม ไม่ทันหันไป อะไรนั่นก็ทิ้งน้ำหนักลงบนบ่าจนเขาแทบล้ม ดีแต่ว่าท่อนล่างยังแข็งแรงพอจะหยัดอยู่ ตอนนั้นเองบัตเลอร์หนุ่มพบว่ามันคือท่อนขาของคุณเงินยวง แขกสาวระดับวีวีไอพีที่ตัวเองเพิ่งเดินทางไปรับมาจากท่าเรือฝั่งแผ่นดินใหญ่นั่นเอง

ด้วยความตกใจ แต่ก็ยังเปี่ยมน้ำใจบริการ ปภังกรยกมือขึ้นตะปบต้นขาแขกที่อยู่ข้างใบหูเขาได้ทัน ก่อนที่มันจะไถลตกไปด้านข้าง คุณเงินยวงอาศัยจังหวะนั้นยกขาอีกข้างพาดขึ้นมาที่บ่าอีกฝั่งของเขาทันที

“ดีจัง” เสียงเล็กเสียงน้อยลอยมาจากเจ้าของท่อนขา  “ช่วยพาไปตรงบันไดนั่นที ฉันยังไม่พร้อมจะเปื้อนทราย” 

บันไดที่ว่าคือบันไดหินอันทอดจากหาดขึ้นไปยังพื้นที่ตัวรีสอร์ต จากตรงนี้ถึงจุดนั้นอยู่ห่างกันไม่เกินห้าเมตร แต่นี่ไม่ใช่งานง่ายๆ ในเมื่อปภังกรเป็นชายเอวบางเท่าลำไผ่ ที่สำคัญ…

ตูม!

เสียงน้ำดังขึ้นข้างหลัง ตามด้วยเสียง “ว้าย!” ของคนบนบ่า

“เกิดอะไรขึ้นครับ!” เขาพยายามหันหา ทว่าท่อนขาทั้งสองข้างบดบังทัศนียภาพไปเกือบหมด

แขกวีวีไอพีร้อง “ชาโตบริยองด์ตกน้ำ!”

ชาโตบริยองด์คือสุนัขหน้าตาไม่น่าพิสมัยที่คุณเงินยวงให้คนขับรถของเธออุ้มมาลงเรือด้วย เจ้าของหมาตีท่อนขากับลำตัวเขา “ช่วยชาโตบริยองด์!”

“คะ…ครับ!” ว่าพลางบัตเลอร์หนุ่มรีบออกแรงก้าวด้วยขาสั่นๆ ไปทางบันได 

แต่คนบนบ่ายิ่งโวยวาย “ฉันบอกให้ไปช่วยชาโตบริยองด์!”

ไม่โวยเปล่า เจ้าหล่อนใช้มือผลักศีรษะเขาบังคับให้หันไปอีกทาง ทางทะเลด้านหลัง 

“คุณเงินยวงใจเย็นๆ นะครับ หาดตรงนี้น้ำไม่ลึก คุณชาโตบริยองด์ไม่เป็นอะไรแน่นอน คนขับเรือก็อยู่ตรงนั้น…”

ไม่ทันพูดจบ เสียง ตูม! ก็ดังอีก คราวนี้ทั้งเขาและคนบนบ่าหยุดนิ่ง (ยกเว้นขาเขาที่ยังสั่น) ใครบางคนแหวกว่ายไปยังเจ้าหมาผอมแกร็นขึ้นซี่โครงตัวนั้น ไม่ช้าก็อุ้มมันเดินมาหาปภังกรและคุณเงินยวง

วีรบุรุษผู้นั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง อกหนา ทว่าเอวค่อนข้างคอด กางเกงขาสั้นที่สวมอยู่เปียกแนบท่อนขายาวแข็งแรง หยดน้ำเค็มเกาะแนวกล้ามและไรขนแพรวพราย เจ้าตัวอุ้มหมาไทยพันธุ์ผสมขนสีน้ำตาลเหี้ยน แถมมีบางกระหย่อมเป็นเรื้อนไว้ด้วยแขนล่ำจนเห็นเส้นเลือด มืออีกข้างยกขึ้นเสยผมเปียกชื้นออกจากใบหน้า เผยให้เห็นวงหน้ารูปไข่อันกอปรด้วยหน้าผากนูนได้รูป แนวคิ้วเข้ม จมูกเป็นสัน โหนกแก้ม และขากรรไกรแทบจะสมบูรณ์แบบ 

“ขอบคุณครับ” ปภังกรบอก กำลังจะยกมือขึ้นรับคุณชาโตบริยองด์ แต่ต้องกางแขนออกน้อยๆ ในพลัน เพราะน้ำหนักคนข้างบนหลังกำลังจะถ่วงล้ม

“รีบรับสิจ๊ะ” คนบนบ่ากระทุ้งขาเล็กน้อยราวกับกำลังควบคุมม้า คำ ‘ควบคุม’ ยังเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยชวนให้นึกถึงรอยยิ้มปลอมๆ “ฉันไม่ชอบให้คนแปลกหน้าจับของใช้ส่วนตัว”

“คองใช้ส่วนตัว?” ‘คนแปลกหน้า’ ออกคำไทยไม่ถนัดนัก แต่เห็นได้ชัดว่าเข้าใจความหมายดี ที่ไม่ชวนเข้าใจน่าจะเป็นคนที่ใช้คำนั้นมากกว่า

“ใช่” คุณเงินยวงตอบรับ “ถึงก่อนหน้านี้ฉันจะเห็นว่ามันอยู่ข้างทางแล้วเพิ่งอุ้มมาก็เถอะ”

หมาจรจัดหรอกเหรอ! บัตเลอร์หนุ่มเพ่งสายตาดุจเห็นร่างแท้ของเจ้าของนามหรูหรา 

มิน่า กลิ่นหึ่ง แถมตะกุยขน สะบัดเห็บมาตลอดทาง! 

ทั้งที่คิดอย่างนั้น ปภังกรซึ่งทรงตัวเรียบร้อยแล้วก็เอื้อมมือรับคุณชาโตบริยองด์ไว้แต่โดยดี 

ทันทีที่มาอยู่ในอ้อมแขนเขา เจ้าหมาจรดวงแจ่มก็ตะเกียกตะกายเพื่อสะบัดน้ำออกจากตัว

“ว้าย!” คุณเงินยวงร้องพลางพยายามถ่างขาตัวเองออก ปภังกรต้องเกร็งตัวเพราะกลัวเจ้าหล่อนร่วง ขณะเดียวกันเขาก็ถูกแขกคนสำคัญใช้ปลายเล็บยาวยันศีรษะให้ก้มลงป้องกันหยดน้ำกระเซ็นต้องตัวเธอ 

วีรบุรุษพูดไทยไม่ชัดมุ่นคิ้วเข้มเล็กน้อยอย่างไม่สบใจ นั่นทำให้รูปตาเรียวยาวของเขาดูเล็กลง ดวงตาจ้องตรงมายังปภังกร “โพมว่า คุณรีบเอาเธอลงดีกว่า”

บัตเลอร์พยักหน้า ผายมือไปยังบันไดหิน “เชิญทางนู้นครับ”

แน่นอน คนตัวสูงและขายาวกว่าย่อมก้าวไปถึงก่อน ปภังกรตามมาหยุดแล้วค่อยๆ ลดตัวลงนั่ง เพื่อให้คนบนหลังถอยลงจากบ่า 

“เดี๋ยวผมอุ้มคุณชาโตบริยองด์ไปให้ดีกว่า คุณเงินยวงจะได้ไม่เปียกนะครับ” บัตเลอร์หนุ่มร่างอ้อนแอ้นพูดหลังจากยืดกายขึ้นใหม่ มีเสียงข้อลั่นดังก๊อกแก๊ก และถึงอย่างนั้น กล้ามเนื้อบางจุดก็ยังอาจอักเสบ เขาคิดถึงค่ำคืนนี้ บางทีแฟนหนุ่มจะต้องช่วยใช้ยานวดกันขนานใหญ่

“เก่งนักนะ เจ้าตัวดี” คุณเงินยวงยกนิ้วชี้ไปเฉียดๆ ปลายจมูกหมา 

ปลายนิ้วชะงักเมื่อคนแปลกหน้าพูดขึ้นว่า

“หม่ามันกอมีชีวิต ไมควรจะเทียบกะคองใช้” 

คุณเงินยวงลากสายตาจากหมาขึ้นหาคน เลิกคิ้วจนหน้าผากย่นเป็นสามเส้นแนวนอน ก่อนกดคางเข้าหาคอเล็กน้อยแสดงถึงความไว้ตัว ริมฝีปากก็ยังระบายยิ้มทั้งที่ตอบ “นี่สั่งสอนฉัน?”

“คงไมเคยมีใครทำ” คนไหล่หนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “กอไม่แปลก”

พูดจบเจ้าตัวยักคิ้ว ยกมือเป็นทำนองบอกลาเจ้าหมาในอ้อมแขนปภังกร ก่อนก้าวจากไปอีกทาง

ประโยคใหม่ของคุณเงินยวงไม่ใช่เสียงเล็กเสียงน้อยอีกต่อไป “หมอนั่นเป็นใคร!”

“แขกครับ เพิ่งมาถึงก่อนคุณเงินยวงชั่วโมงเดียว” คนตอบตอบพลางเอี้ยวตัวให้เบลบอยก้าวลงจากบันไดไปสู่ตัวเรือที่ยังจอดรอ เพื่อขนสัมภาระของแขกคนเดียวลงมา

เจ้าของสัมภาระทำเสียงจึ้กจั้ก กลับมาใช้เสียงตามถนัดอย่างเก่า “ที่รัก หมอนั่นไม่ได้ใส่ชุดฟอร์มดีไซน์ด้อยความสร้างสรรค์อย่างที่เธอใส่อยู่ ฉันรู้จ้ะว่าเขาเป็นแขก ที่ถามนี่เพราะอยากรู้ชื่อเสียงเรียงนาม หรือกำพืด”

“ขอโทษครับ นั่นเป็นข้อมูลส่วนตัวของแขก…”

คุณเงินยวงหมุนตัวอย่างสะบัดๆ แค่เจ้าหล่อนสะบัด ปภังกรก็แทบจะต้องโก่งตัวหนี กันโดนสะโพกยักษ์กระแทก

เจ้าของสะโพกบ่นพลางกระทืบเท้าย่ำไปตามขั้นบันไดหิน “พนักงานโรงแรมห้าดาวที่ฉันเคยเจอมา เขา ‘ตอบ’ อะไรได้มากกว่านี้!”

แน่ละ คนตามหลังกลืนน้ำลาย แม้ฐานข้อมูลโรงแรมทั้งของที่นี่และในเครือจะตรวจไม่พบชื่อ เงินยวง สิริลาภวงศ์สกุล

แต่การที่เจ้าหล่อนเป็นแขกที่คุณพิภพแนะนำมาด้วยตัวเอง เท่านั้นก็แถลงความ ‘พิเศษ’ มากพอจะจินตนาการได้ว่า ตลอดมา เจ้าหล่อนเคยได้รับการบริการขั้นไหน

เพราะคุณพิภพ คิ้วพิศาล คือสามีของหนึ่งในเจ้าของเวียงอวัศย์ เครือโรงแรมชื่อก้องแห่งนี้ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ตัวคุณพิภพเองก็คุมธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ที่รวบรวมศิลปินเบอร์ใหญ่ๆ และรายการเรตติงอันดับต้นๆ เต็มไปหมด คนระดับนั้น แม้แต่ปภังกรเองยังไม่เคย ‘ได้รับโอกาส’ ให้บริการเป็นส่วนตัว บัตเลอร์ส่วนตัวของคุณพิภพคือต้นแบบที่เขาประทับใจตั้งแต่สมัยเข้ามาทำงานในตำแหน่งจูเนียร์บัตเลอร์เมื่อสี่ปีที่แล้ว การได้รับมอบหมายให้ต้อนรับคุณเงินยวงหนนี้ จึงนับเป็นเกียรติอันน่าภาคภูมิใจอีกครั้ง ปภังกรยอมกลั้นใจเพื่อทำให้เธอได้รับความพอใจอันวิเศษสุด

รีสอร์ตที่เขาประจำอยู่นี้เป็นที่พักระดับห้าดาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหาดไก่แบ้ เกาะช้าง ห้องพักแบบบังกะโลเรียงรายตั้งแต่หน้าหาด วนล้อมเข้าไปถึงรอบๆ สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระและตัวอาคารใหญ่ ทั้งหมดตกแต่งด้วยรูปแบบไทยประยุกต์ พื้นสีครีมประดับด้วยวัสดุที่เป็นไม้และอิฐสีดินเผา เข้ากับหลังคาหน้าจั่วสีเลือดหมูดูเด่นท่ามกลางหมู่ต้นมะพร้าว และท้องฟ้าสีครามสดแทบไม่มีปุยเมฆ 

ผู้จัดการแผนกต้อนรับเป็นสาวใหญ่แต่งองค์พริ้งไปทั้งร่าง เจ้าหล่อนส่งยิ้มเป็นมิตรให้แขกวีวีไอพีพลางแนะนำตัว ขณะที่รีเซปชันสาวอีกรายยื่นน้ำมะพร้าวสดจากลูกให้เป็นการต้อนรับ ทันทีที่ร่างบึกบึนของคุณเงินยวงก้าวขึ้นถึงบันไดขั้นที่สามอันเป็นขั้นบนสุด 

จากจุดนี้มองเข้าไปจะเห็นสระว่ายน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่อันเป็นสัญลักษณ์เด่นอย่างหนึ่งของเวียงอวัศย์เกาะช้าง แขกส่วนมากนอนอาบแดดกันอยู่บนเก้าอี้ริมสระ คุณเงินยวงกวาดตาปราดเดียวอย่างไม่พบสิ่งที่น่าสนใจ จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นเพิ่งเห็นพนักงานสาวกับมะพร้าวลูกนั้น มุมปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเก๊ แล้วมือข้างที่ประดับแหวนเพชรเม็ดเป้งก็ยกขึ้นเป็นทำนอง ไม่ละ 

“มันทำให้ฉันนึกถึงงานศพ” 

“คุณเงินยวงอยากรับน้ำอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ” เหมือนกับปภังกรนั่นละ พนักงานทุกคนของเวียงอวัศย์ได้รับการฝึกอย่างดี สีหน้าของเธอจึงไม่เจื่อนลงแม้แต่น้อย…อย่างน้อยก็ก่อนที่ผู้ถูกถามจะตอบพร้อมรอยยิ้ม

“ให้ฉันคิด?” คุณเงินยวงทำเสียงเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนนะที่รัก นั่นรวมถึงตรงนี้ด้วยจ้ะ” นิ้วประดับแหวนเพชรยกขึ้นเคาะขมับ

เห็นท่าไม่ดี ปภังกรจึงเสนอ “รับน้ำแร่ดีมั้ยครับ เมื่อตอนอยู่บนเรือ คุณเงินยวงดื่มน้ำผลไม้ไปแล้ว”

มองเห็นลูกตาใต้แว่นเลนส์เทากลอกเป็นทำนอง ช่วยฉันทีเถอะ! ส่วนริมฝีปากอวบที่ยังคงยิ้มว่าต่อ “ชาโตบริยองด์ก็ต้องการน้ำสะอาดเหมือนกัน”

“เดี๋ยวผมจะให้คนพาคุณชาโตบริยองด์ไปอาบน้ำและดื่มดับกระหาย...”

เจ้าของหมายกนิ้วประดับแหวนขึ้น ข้อนิ้วเธอโค้งงอน้อยๆ ปลายนิ้วพุ่งตรงมา “เธอจ้ะ”

ปภังกรเข้าใจทันที “ครับผม ผมจะพาคุณชาโตบริยองด์ไปอาบน้ำและดื่มดับกระหาย...”

“และฉันต้องการหมอช่วยรักษาชาโตบริยองด์เรื่องโรคผิวหนังเรื้อรัง...”

เรื้อน

“กับเห็บ...” คนพูดหยุดนิดหนึ่ง กระทุ้งนิ้วเดิมในอากาศ “ที่กำลังไต่บนตะเข็บเสื้อเธอนั่นด้วย”

ปภังกรสะดุ้งน้อยๆ แต่เห็นได้ชัดว่าคนพูดไม่ได้สนใจเขาแล้ว เจ้าหล่อนกวาดสายตาไปรอบๆ พลางพูดต่อ “ส่วนฉันจะเดินดูแถวๆ นี้ก่อนเข้าห้อง” 

บัตเลอร์หนุ่มอาศัยจังหวะที่สายตาแขกสนใจทางอื่น รีบยกนิ้วดีดเห็บกระเด็นจากเสื้อ แต่มันดันโดดเข้าไปในกลุ่มผมคุณเงินยวง 

“น้ำแร่ได้แล้วค่ะ” พนักงานสาวรายเดิมกระวีกระวาดกลับมาใหม่ 

แขกวีวีไอพีรับน้ำจากแก้วคริสตัลไว้ แต่ยังไม่ดื่ม หันมาเลิกคิ้วให้ปภังกรที่ยังยืนเสมือนรีรอ

“คะ…ครับ” เขาจำใจก้มหน้า แม้สายตาจะยังไต่หาเห็บตัวเก่าที่เคลื่อนหายไปแล้วแถวศีรษะแขก

ก่อนอุ้มเจ้าหมาเรื้อนจากมา บัตเลอร์หนุ่มไม่ลืมส่งสายตาบอกพนักงานต้อนรับ 

ดูแลแขกวีวีไอพีของฉันด้วย! 


ให้ถึงอย่างไร ปภังกรก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี แขกรายนี้มีความสำคัญกับเขามาก มากกว่าจะเป็นแค่เรื่องหน้าตาของรีสอร์ตด้วยซ้ำ เมื่อหลบมุมอาคารมาได้ บัตเลอร์หนุ่มจึงรีบส่งต่อคุณชาโตบริยองด์ให้ลูกน้องในทีม “พามันไปอาบน้ำ แล้วหาหมอมารักษาเรื้อนกับเห็บ”

โชคดีที่บนเกาะช้างมีโรงพยาบาลสัตวแพทย์อยู่ แถมคุณหมอที่นั่นก็มีสัมพันธ์อันดีกับรีสอร์ตนี้ด้วย ก่อนหน้านี้มีบัตเลอร์ที่ได้รับมอบหมายให้ตามสัตวแพทย์มาดูแลสัตว์เลี้ยงของแขกอยู่เรื่อย ตั้งแต่หมาแมว ไปจนถึงนก หรืองูเหลือม บางทีพวกมันก็เมาคลื่น ไม่คุ้นสถานที่ หรือได้รับอาหารดีไปจนหดหู่ 

ส่งงานต่อเรียบร้อย บัตเลอร์หนุ่มร่างบางก็เผ่นแผล็วตามมาทันแขกวีวีไอพี น่าแปลกที่รีเซปชันรายนั้นพาคุณเงินยวงเดินย้อนกลับไปทางหน้าหาด แทนที่จะนำเข้าด้านใน ปภังกรกำลังจะส่ายหน้า แต่ก็พอดีได้ยินเสียงสาวคนนำทางลอยมาเข้าหู

“คุณเงินยวงมองหาอะไรอยู่รึเปล่าคะ” 

จริงแฮะ แขกรายใหม่หันรีหันขวาง บางครั้งถึงกับก้มๆ เงยๆ เลาะไปตามร่มเงาของมะพร้าวแต่ละต้น ปภังกรพยายามเพ่งสายตาฝ่าเปลวแดดออกไปหน้าหาด หาดนี้เป็นหาดส่วนตัว ปกติมีคนไม่มากอยู่แล้ว ช่วงบ่ายเช่นนี้คนยิ่งหนีร้อน หาอะไรก็ไม่น่าเจอยาก

“ผู้ชายคนนั้นน่ะ” จู่ๆ เป้าหมายยกปลายนิ้วพุ่งออกไป ประกายเพชรวูบวาบแต่ไกล “ใครกัน”

หาดขาวกับแดดจัดทำให้คนอยู่ห่างยากจะเพ่งเห็น แต่ปภังกรพอจะนึกออกว่าเธอหมายถึงใคร

รีเซปชันคงตั้งใจจะตอบแบบเดียวกับที่เขาตอบเมื่อครู่ “แขะ...” ทว่าถูกคุณเงินยวงสวนแทรก

“แขก” เจ้าหล่อนยิ้มเย็น “ฉันรู้ ฉันอยากได้ชื่อแล้วก็แบ็กกราวนด์เขาจ้ะที่รัก”

“อ้อ คุณคามินทร์ค่ะ” รายนั้นตอบเพราะไม่รู้เหตุพิพาทก่อนหน้า คงประเมินว่า ลูกค้าระดับเดียวกันน่าจะไม่เป็นอะไร บางทีมันก็อาจจะเป็น ‘อะไร’ 

“...เป็นเจ้าหน้าที่ของเฟม เมทัล เวิร์ก เธอพักอยู่บังกะโลสวีตใกล้ๆ กับที่คุณเงินยวงพักนี่เอง”

บังกะโลสวีตของเวียงอวัศย์เกาะช้างถูกจัดแยกจากตัวอาคารใหญ่และบังกะโลเล็กหลังอื่นๆ ออกไปทางหาดด้านที่เป็นภูเขา จึงมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง

“เขามาคนเดียว?” ผู้เป็นแขกใช้นิ้วสางเส้นผม สายตาจับที่เส้นผมตัวเอง เหมือนถามไปอย่างนั้นโดยไม่ได้ใส่ใจคำตอบ

“ค่ะ เพิ่งมาถึงสักชั่วโมงนี่เอง”

“พักนานแค่ไหน”

“ยังไม่มีกำหนดค่ะ”

“แล้ว?” 

“ทางเราต้องรักษาความเป็นส่วนตัวของแขก ดิฉันให้ข้อมูลได้แค่นี้จริงๆ ค่ะ” คนตอบพินอบพิเทาเหมือนรู้สึกผิดอย่างยิ่ง 

คุณเงินยวงปัดผมไปด้านหลัง...เช่นเดิมเหมือนไม่ใส่ใจ ก่อนออกก้าวต่อไปในทิศตรงข้ามกับจุดศูนย์กลางของรีสอร์ต

 “ไปชมฝั่งนี้ดีมั้ยคะ” คนนำทางรั้งไว้ด้วยการผายมือไปอีกฟาก “เรามี...”

“ฉันเดินทางมาเหนื่อย จะกลับห้องจ้ะ ทางนี้ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะ เชิญค่ะ”


ถัดจากบริเวณสระว่ายน้ำใจกลางของรีสอร์ตมาทางทิศเหนือ หน้าหาดค่อยๆ แคบลงเชื่อมสู่ภูเขาซึ่งมีหน้าตัดติดทะเลเป็นผาสูง ห้องพักแบบบังกะโลสวีตเรียงราย บริเวณนี้มีร่มไม้ใบบังมากกว่า ห้องพักแต่ละหลังมีพื้นที่รอบๆ อันเป็นส่วนตัว ตั้งติดกันโดยอาศัยแนวรั้วและต้นไม้กั้น บันไดจากหาดทรายทอดสู่ด้านข้างชานเปิดโล่ง ตรงกลางชานมีเก้าอี้อาบแดดทำด้วยไม้สีเข้ม ปูผ้าและกางร่มขาวไว้พร้อมสรรพ ตั้งอยู่ข้างสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยม อีกฝั่งของชานเป็นยกพื้น มีหลังคาและโต๊ะ เก้าอี้อเนกประสงค์ ก่อนจะสืบต่อไปยังตัวบังกะโล ซึ่งตกแต่งแบบเดียวกับห้องพักรูปแบบหลังอื่นๆ เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า และเพิ่มรายละเอียดวิจิตรกว่า 

 กว่าผู้จัดการสาวแผนกต้อนรับจะแนะนำส่วนต่างๆ ด้านหน้าเสร็จ ปภังกรก็กระวีกระวาดเปลี่ยนชุดใหม่แล้วเข้ามาเปิดกระเป๋าเดินทาง จัดเสื้อผ้าของคุณเงินยวงเข้าตู้รอแล้ว เมื่อแขกคนสำคัญก้าวเข้าห้อง บัตเลอร์หนุ่มลุกขึ้นแสดงการต้อนรับ แจ้งว่า “สัตวแพทย์จากโรงพยาบาลกำลังดูแลคุณชาโตบริยองด์ครับ เรียบร้อยแล้วจะนำมาส่ง ตอนที่ผมแยกมา คุณชาโตบริยองด์หลับปุ๋ยเชียว”

เจ้าของหมาคีบแว่นตาออก ราวจะให้เห็นชัดว่าปภังกรทำความสะอาดตัวเองแล้วก่อนมาแตะต้องเสื้อผ้าเธอ 

“ผมทำความสะอาดตัวเองเรียบร้อย เปลี่ยนชุดและเปลี่ยนถุงมือก่อนจะเข้ามาอันแพ็กครับ ตอนนี้ผมจัดเรียงชุดเข้าตู้ตามที่ผู้ช่วยของคุณเงินยวงถ่ายรูปส่งมาให้ก่อนหน้านี้แล้ว”

ผู้ช่วยที่ว่าเป็นคนประสานงานกับทางรีสอร์ตตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ครั้นรู้ว่าปภังกรคือคนที่จะดูแลคุณเงินยวงที่นี่ เจ้าตัวก็ส่งอีเมลเข้ามาเป็นภาษาอังกฤษ 

‘...ดิฉันขออภัยจริงๆ ที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก็พยายามวางแผนอำนวยความสะดวกสำหรับคุณเงินยวงเอาไว้ให้มากที่สุด เธอต้องการความสมบูรณ์แบบเท่านั้นค่ะ ถ้ามีอะไรที่คุณสงสัยว่าจะบริการเธอไม่ได้เกินร้อย กรุณาส่งข้อความเข้ามา ดิฉันจะรอให้คำปรึกษาอย่างปัจจุบันทันด่วน ป.ล. ดิฉันได้แนบเอกสารเกี่ยวกับรายละเอียดสิ่งที่เธอต้องการ รวมถึงการจัดห้อง ที่นอน และเสื้อผ้าในตู้มาด้วยค่ะ’

รูปแบบการจัดห้องดังกล่าวทำให้ห้องผ้า ห้องดอกไม้ และแผนกแม่บ้านต้องวุ่นวายกันยกใหญ่ ส่วนการจัดเสื้อผ้าในตู้นั้นเป็นไปตามรูปถ่าย ซึ่งถ่ายไว้เป็นชุดๆ ตั้งแต่หัวจดเท้า พร้อมคำกำชับจากผู้ช่วยรายเดิม 

นี่เป็นรูปแบบตามสไตลิสต์ของเธอค่ะ ปกติคุณเงินยวงจะไม่จัดเสื้อผ้าเอง’

ไม่มีคำขอบคุณ เช่นเดียวกับตั้งแต่การเดินทางเริ่มต้นขึ้น เจ้าของเสื้อผ้าหันไปคุยกับผู้จัดการแผนกต้อนรับต่อ

“ที่นี่มีบังกะโลสวีตกี่หลัง”

“ห้าหลังค่ะ”

“ทุกหลังมีบัตเลอร์?”

“ปกติจะเป็นบัตเลอร์ประจำโซน แต่ถ้าแขกต้องการเป็นพิเศษ ทางโรงแรมก็สามารถจัดให้แบบเป็นส่วนตัวได้ค่ะ”

ผู้ฟังเบะปากนิดหน่อย ราวกับนั่นยังไม่ ‘พิเศษ’ พอ 

“แล้วใครดูแลอีตาคามินทร์”

“คุณคามินทร์ไม่ต้องการบัตเลอร์ค่ะ”

“เขาพักอยู่หลังไหน” คนถามถามอย่างไม่ใส่ใจว่ามีใครอีกคนที่ไม่ยอมให้คำตอบแต่แรก กำลังยืนจัดของอยู่ใกล้ๆ ด้วย

รีเซปชันสาวตอบว่า “ถัดไปอีกสองหลังค่ะ ห้องพักเอสาม”

หลังที่จัดไว้ให้คุณเงินยวงนี้คือเอหนึ่ง

“แล้วอีกสามหลังที่เหลือล่ะ เอสอง เอสี่ เอห้า?” 

“เอสองแขกเพิ่งเช็กเอาต์ออกไปเมื่อเช้าค่ะ วันนี้ยังไม่มีคนพัก ส่วนเอสี่มีแขกเป็นครอบครัวจากฝรั่งเศส และเอห้าเป็นนักธุรกิจสิงคโปร์”

“สองหลังนั้นจะเช็กเอาต์เมื่อไหร่”

หืม?

ผู้ถูกถามคงงงไม่แพ้กัน แต่เก็บอาการไว้ได้ “ตามที่จองไว้ ทั้งสองหลังจะอยู่อีกราวสามวันค่ะ”

โดยไม่ตอบรับคำใด เจ้าของคำถามย่ำเท้าออกจากห้องพักทันที ไม่ไยดีกับห้องหรือข้าวของมหาศาลของตัวเอง 

ปภังกรยังยุ่งอยู่กับพวกมัน ทั้งที่ปรายตาจดจ่อไปที่แขก 

คุณเงินยวงลงจากชานหลังนี้ดุ่มๆ ไปทางขวา อันเป็นพื้นที่ของบังกะโลสวีตหลังอื่นๆ บัตเลอร์หนุ่มมองของในกระเป๋า เหลืออีกพอสมควร แต่เราจัดการได้ไวพอ ประเมินได้ดังนั้น เขารีบผลุบตามแขกคนสำคัญไปรวดเร็ว

แม้บังกะโลสวีตแต่ละหลังจะตั้งอยู่ติดกัน แต่เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุดของแขก ทางรีสอร์ตจึงอาศัยร่มไม้ รูปปูนปั้นแกะสลัก และแผงระแนงต่างๆ คั่น ไม่ให้ผู้เข้าพักบังกะโลหลังหนึ่งสามารถสอดสายตาเห็นความเป็นไปในอีกหลัง หากถึงกระนั้น บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ว่ายังมีจุดที่พนักงานรีสอร์ตสามารถสังเกตการณ์ได้เพื่อป้องกันภัยและเสริมการให้บริการต่างๆ 

ปภังกรดอดอ้อมไปยังด้านหลังตัวบังกะโล จากจุดนี้มีประตูสำหรับพนักงานอยู่ด้านหลังสระว่ายน้ำ เขาเปิดแล้วรีบสอดกายก้าวไปแอบเกาะข้างประตูห้องพัก สอดส่องสายตาเข้าไปเห็นว่า ขณะนี้คุณเงินยวงกำลังเดินไปสำรวจถึงด้านในห้อง แม่บ้านสามรายที่กำลังทำความสะอาดห้องอยู่ถึงกับงุนงง 

ภายในบังกะโลสวีตหลังนี้ก็เหมือนกับหลังที่ทางรีสอร์ตจัดไว้ให้คุณเงินยวงนั่นละ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สลัก ด้านหน้าจัดชุดโซฟา โต๊ะเขียนหนังสือตั้งอยู่มุมหนึ่ง ด้านในสุดจึงจะเป็นเตียงสี่เสาจับม่านรวบไว้ทั้งสี่มุม ผนังฝั่งหนึ่งเรียงรายด้วยประตูไม้ สองบานคือตู้ใส่ผ้า อีกบานเปิดสู่ห้องน้ำส่วนตัว ข้างๆ นั้นยังมีตั่งตั้งสำหรับวางของ

คุณเงินยวงกวาดสายตารอบห้อง แม่บ้านทั้งสามรายที่ทำความสะอาดอยู่ได้รับสัญญาณทางสายตาจากรีเซปชัน กำลังจะก้าวยอบออกมา กลับต้องชะงักเมื่อแขกเอ่ยขึ้นว่า “อะไรน่ะ รีสอร์ตระดับนี้ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดเหรอ”

“เอ่อ…” รีเซปชันไม่ทันหาคำตอบได้ เจ้าของหน้าที่รายหนึ่งหันกลับมาตอบแทน 

“น้ำส้มสายชูใช้ทำความสะอาดได้หลายจุดค่ะ ทั้งมู่ลี่ ขัดส่วนที่เป็นโลหะ หรือคราบในห้องน้ำ แล้วยังไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมด้วย”

“ดีจัง กรีนโฮเต็ลเหรอ” แขกถามด้วยเสียงละม้ายประทับใจ แค่ละม้าย “แต่ตั้งแต่เข้ามาก็ยังไม่เห็นแผงพลังงานแสงอาทิตย์เลยนี่ แถมหลอดกาแฟที่เสิร์ฟมากับเวลคัมดริงก์ก็เป็นหลอดพลาสติก”

“เวียงอวัศย์เกาะช้างยังไม่ใช่กรีนโฮเต็ลค่ะ เดิมเราไม่ได้เริ่มต้นมาจากจุดนั้น แต่ตอนนี้ก็มีความพยายามจะปรับปรุงหลายอย่างอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

ให้ตายสิ! ปภังกรอดกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไม่ได้ ยายแม่บ้านคนนี้เป็นใคร ทำไมกล้าต่อปากต่อคำกับแขกในบังกะโลสวีต! 

ห้องพักระดับนี้ แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดต้องคัดเลือกแล้วว่ามีประสบการณ์มากกว่าห้องพักแบบอื่นๆ เพราะความพอใจของแขกในบังกะโลสวีตถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ส่วนใหญ่เป็นระดับวีวีไอพีทั้งนั้น ปกติปภังกรรู้จักแม่บ้านที่ประจำห้องเหล่านี้เป็นอย่างดี เพราะหลายทีต้องทำงานประสานกัน อย่างไรก็ตาม ยายปากมากรายนี้ไม่ยักคุ้น 

เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวร่างเล็ก ดูแรกรุ่นมากๆ อายุให้มากที่สุดก็ไม่น่าเกินยี่สิบห้า วงหน้ามีแก้มเยอะ ขณะที่จมูกรั้นอย่างเด็กสอนยาก ดวงตากลมโตมีประกายเฉลียวฉลาด แต่เราไม่ต้องการพนักงานที่มาทำท่าฉลาดกว่าแขก โดยเฉพาะแขกวีวีไอพี!  

ใครเป็นคนเอาเด็กนี่มาทำงานนี้กันนะ แม่บ้านประจำชั้นบ้าไปแล้วรึเปล่า แล้วคุณแม่รู้เรื่องนี้รึยัง!

‘คุณแม่’ คือ หัวหน้าฝ่ายแม่บ้านหรือ executive house keeper เป็นผู้ดูแลงานแม่บ้านทั้งหมดในรีสอร์ต จัดกำลังคนให้เพียงพอและเหมาะสมกับงาน ตลอดจนการฝึกอบรมแม่บ้านด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่านังคนนี้ไม่มีจุดไหนผ่าน!

“คุณเงินยวงก็สนใจกระแสกรีนเหมือนกันเหรอคะ”

โอ๊ยตาย! คนแอบดูแทบจะยกมือตบหน้าผากตัวเอง 

หล่อนจำชื่อแขกสำคัญได้ตามที่รีสอร์ตติวไว้ แต่ทำไมหล่อนจำไม่ได้ว่าควรปฏิบัติตัวยังไงกับแขกยะ ยังมีหน้าทำตาใสจ้องแขกอีก! 

โชคดีที่แม่บ้านข้างกันเริ่มรู้สึกตัว แอบยกนิ้วเขี่ยหลังมือเจ้าหล่อน คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจึงย่นคอ (ทำกิริยาอย่างย่นคอ?!) และสงบลง

“หูตากว้างขวาง แถมพูดจา ‘ฉะฉาน’ ดีนี่ ชื่ออะไรนะเรา”

“เพลงทรายค่ะ” เสียงตอบอ่อยลง

“ชื่อเพราะ” แขกยิ้มให้ เสียงก็ยังหวาน “แต่เวลาทำงานทำความสะอาด ไม่น่ากินขนมนะที่รัก”

“ปละ…เปล่าค่ะ แก้มดิฉันเป็นอย่างนี้เอง” 

โอ๊ย!…

“มาช่วยฉันหน่อย”

ยายเพลงทรายช้อนตาโต “คะ?”

“บัตเลอร์ชื่อพังๆ อะไรที่ทางรีสอร์ตหาให้นั่น จู่ๆ ก็ทิ้งชาโตบริยองด์น้องหมาของฉันเสียอย่างนั้น คนที่ทิ้งหมาของฉัน ฉันไม่คิดว่าจะดูแลฉันได้!

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น