อภิวัฒน์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อ ‘กร้าวใจ’
เจ้าของสโลแกน “ถ้าคบกับผม เป็นได้มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน”
แม้ว่าตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ จะสอยสาวๆ มานับไม่ถ้วน
แต่ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยยกให้ใครเป็นแฟนเลยสักคน
มีคนเดียวที่อยู่ในฐานะพิเศษกว่าใคร นั่นก็คือผู้หญิงที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
จนกลายเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งไปแล้ว
แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ เขาแอบรักน้องสาวคนนี้น่ะสิ !
พิตาภา ถามตัวเองมาตลอดว่าคนเราจะแอบรักใครสักคนได้นานแค่ไหน
แต่สำหรับเธอนั้น เป็นเวลาสิบสองปีแล้วที่แอบรักอภิวัฒน์
โดยที่เขาไม่รู้เลย แถมยังทำร้ายจิตใจเธอแบบไม่รู้ตัว !
เมื่อรักมันทำให้มีน้ำตา แล้วทำไมต้องทน งานนี้เธอเลยขอ “เท”
เพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บมากไปกว่านี้
แต่คนโดนเทอย่างอภิวัฒน์มีเหรอจะยอมง่ายๆ
งานนี้จากที่เคยเป็นฝ่ายโดนผู้หญิงตามถีบ เอ๊ย ตามจีบ
คุณหมอหนุ่มเลยต้องไล่ตามบ้าง
แต่ถ้าบอกรัก แล้วไม่ยอมรับรักดีๆ ก็อย่ามาหาว่าเขาโหดทีหลังก็แล้วกัน
ความรู้สึกหลังอ่าน
ติดตามผลงานของ “ภัคธร” มาตั้งแต่เรื่องแรก คือ “โซ่รักนางฟ้า” จนมาถึงเรื่องนี้ซึ่งเป็นเล่มที่ 2 ของภัคธร เรื่องนี้ยังคงสไตล์งานเขียนของภัคธรอยู่เหมือนเดิม คือออกแนวน่ารัก มุ้งมิ้ง ใสๆ ไร้มลพิษ แต่อารมณ์ของเรื่องแตกต่างจากเรื่องโซ่รักนางฟ้าที่เคยอ่านมากค่ะ
"ขอรัก" เป็นเรื่องของการแอบรักกันของทั้งพระนาง หมออาร์ต อภิวัฒน์ และน้องพันช์ พิตาภา ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากครอบครัวรู้จักกัน ทั้งสองเติบโต และผูกพันกันมาตลอด หมออาร์ตเป็นคนที่เพอร์เฟ็ค เก่งทุกด้าน ทั้งด้านการเรียน กีฬา และดนตรี น้องพันช์รู้สึกว่าเขาเป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจให้เธอพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งหมออาร์ตและน้องพันช์ต่างรักกัน แต่พยายามปิดบังความรู้สึกของตัวเองไม่ให้อีกฝ่ายรู้ น้องพันช์นั้นรู้ใจตัวเองอย่างชัดเจนว่ารักหมออาร์ต แต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะหมออาร์ตเป็นคนเจ้าชู้ ชอบโปรยเสน่ห์กับสาวๆ ไปทั่ว และเธอยังคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งไม่ดีเพียงพอด้วย
ส่วนด้านหมออาร์ตนั้น เขาพยายามหลอกตัวเองว่ารักน้องพันช์อย่างน้องสาวมาโดยตลอด แต่จริงๆ แล้ว สายตาของเขามีไว้มองน้องพันช์ตลอดมา เพราะพันช์คือคนเดียวที่เข้าใจ และอยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอด หมออาร์ตเป็นคนมีปมด้านครอบครัว มีปัญหากับแม่ คิดว่าแม่ไม่รัก จึงทำให้โหยหาความรัก และพยายามป้องกันตัวเองให้ไม่ต้องผิดหวังกับความรัก จึงกลายเป็นการพยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองที่แอบรักน้องพันช์เช่นกัน
โทนอารมณ์ของเรื่องของเรื่องนี้ เป็นแบบรักอ้ำอึ้ง ทำให้รู้สึกนอยด์หมออาร์ตมากค่ะ จนเขาโดนน้องพันช์เทแบบจริงจัง จึงเพิ่งสำนึกได้ หงอยไปหลายปี เขาพยายามพิสูจน์ตัวเองให้น้องพันช์เห็นว่าเลิกเจ้าชู้และเสเพลแล้ว จนกระทั่งกลับมาฮึดใหม่ในการเอาชนะความกลัวในใจตัวเอง ให้กล้าที่จะบอกความในใจกับน้องพันช์ แต่ก็นะ เขาก็ยังอึกอักอีกหลายยก กว่าจะยอมสารภาพรักเธอ
แม้ว่าจะมีอารมณ์หงุดหงิดพระเอก (และนางเอกบ้างในบางครั้ง) แต่ก็เข้าใจในพล็อตเรื่องหลัก ซึ่งภัคธรสามารถคงความชัดเจนของพล็อตได้ตลอดเรื่อง อีกทั้งด้วยวิธีการเล่าเรื่องสไตล์ภัคธร ที่ใช้ภาษาเรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ภาษาเว่อร์วัง แต่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครและบรรยากาศในท้องเรื่องได้ดี ทำให้อ่านได้อย่างสนุก เพลิดเพลินดีค่ะ โดยส่วนตัวถือว่าคนเขียนประสบความสำเร็จในการสร้างอารมณ์ร่วมให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดและหมั่นไส้พระเอกมากๆ ค่ะ ^^
หากใครกำลังมองหานิยายที่สบายๆ คลายเครียด ไร้พิษภัย ขอแนะนำให้ลองอ่าน “ขอรัก” ดูนะคะ
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ
18 ซอยลาดปลาเค้า 63 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220