“เจ้า...ชอบนางแมวยั่วสวาทอย่างนั้นหรือ ชอบนัก...ก็ลองเป็นแมวดูบ้างไหมล่ะ”
หลังจากฉลองวันเกิดครบรอบอายุ ๓๑ ปี อลัน แอนเดอร์สัน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ครึ่งปีต่อมา เขาปรากฏตัวขึ้นโดยมี ‘แหวนแห่งคำสาป’ รูปร่างแปลกตาห้อยอยู่ที่คอ
และสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลาที่หายตัวไป
ขณะชายหนุ่มอาละวาดอยู่ที่โรงพยาบาล
กันต์ดารินทร์ สาวน้อยแสนไร้เดียงสาเป็นคนเดียวที่สยบอาการคลุ้มคลั่งนั้นได้
เธอประกาศความเป็นเจ้าของในตัวเขา
และบอกว่าเขาคือโนเอล...แมวลายเสือที่หายไปของเธอ!
ในสายตาของคนใกล้ตัวอลัน...กันต์ดารินทร์ดู ‘เพี้ยนเต็มขั้น’ และ ‘ไม่น่าไว้ใจ’
ทว่ากลับมีมหันตภัยที่มองไม่เห็นรายล้อมอยู่รอบตัวเธอ
บางครั้งอลันมีความทรงจำแปลกประหลาดผุดขึ้นในสมอง
และจิตใต้สำนึกของเขาร่ำร้องว่าต้องปกป้องเธอ
ทั้งจากคำสาปที่ติดตัวเขา และอันตรายที่คืบคลานเข้ามาคุกคามเธอ!
ความรู้สึกหลังอ่าน
หลังจากติดอกติดใจกับเรื่องแรกของ ซีรีย์ บาปปรารถนา “กฤษณามันตรา” กันไปแล้ว
เรื่องที่สองซึ่งก็คือ “บุหลันยาตรา” จึงถูกลัดคิวออกมาจากกองหนังสือเกือบ 20 เล่มที่ซื้อใหม่มาจากงานหนังสือปีนี้ แซงคิวเรื่องอื่นๆมาอ่านต่ออย่างรวดเร็ว
ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องนี้หนักกว่าเรื่องที่แล้วมากพอสมควร หนักทั้งปริมาณและเนื้อหา เพราะเล่มนี้หน้ากระดาษเยอะกว่าและหนักหน่วงกว่าในเชิงเนื้อเรื่อง
แต่ความสนุกยังให้ระดับเหมือนเดิม
สำหรับพระเอกเรื่องนี้จากที่อ่านโปรยปกหลัง ก็รู้อยู่แล้วว่าพระเอกต้องโดนคำสาปให้กลายร่างเป็นแมวได้
ก็เลยคิดเอาเองว่าโทนเรื่องน่าจะน่ารักกุ๊กๆกิ๊กๆกันไปตามประสาแมวที่ชอบเข้ามาคลอเคลียกับเจ้าของ
ตอนอ่านเข้าจริงๆ แบบที่คิดไว้นั้นมันก็มีอยู่นะคะ พวกลักษณะท่าทางของพระเอกเวลาออดอ้อนนางเอกตอนเป็นแมว ชอบให้นางเอกเกาคาง และก็หวงเจ้าของมากก็มีตามคาด
แต่มันก็แทรกปนไปด้วยความรู้สึกอีดอีดขับข้องใจของพระเอกไปด้วย คือพระเอกไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องเป็นแบบนั้น มันก็เลยขัดๆกันอยู่
บทที่จะหวานแหววจะออดอ้อนบางครั้งก็เลยรู้สึกสะดุดไปบ้าง แถมพระเอกยังโดนสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีที่มีคนตาย โดยที่ตัวเขาเองก็จำไม่ได้และไม่แน่ใจว่าตัวเองฆ่าใครหรือเปล่า?
ดังนั้นสถานการณ์ต่างๆจึงดูบีบบังคับและซีเรียส ใครเป็นคนฆ่า ใครเป็นคนสาปพระเอกให้เป็นแมว ใครเป็นคนลอบทำร้ายนางเอก มีหลายปริศนาและหลายปมรอให้คลี่คลาย
เรื่องนี้จึงค่อนข้างหนักกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ทั้งจากการที่พระเอกเองค่อนข้างดูเครียดกับสภาวะที่ตัวเองผิดปกติไป จากการกลายสภาพเป็นแมวได้ แล้วยังกินหนู กินอาหารแมวอีก
ซึ่งคนธรรมดาที่ไหนก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นพระเอกจึงออกแนวยอมรับและปรับตัวไม่ค่อยได้เกือบตลอดเรื่อง
ซึ่งความเครียดของพระเอกเองก็พลอยส่งผลทำให้เรื่องมันค่อนข้างหนัก ไม่ได้มากุ๊กกิ๊กกันเยอะแบบที่คิดเอาไว้เองแต่แรก
แต่ถึงยังไงก็มีฉากหวานๆพอให้ฟินได้เป็นระยะๆ มีหื่นหึงตามสไตล์พระเอกของชญาน์พิมพ์อยู่ดี ไม่ต้องกลัวว่าจะผิดหวังในเรื่องนี้
ส่วนนางเอก ด้วยบุคลิกที่แสนจะแม่พระ มองโลกในแง่ดีสุดโต่งจากการถูกปลูกฝังเพื่อป้องกันการใช้อำนาจแม่มดของตัวเองในทางที่ไม่ดี
นางก็เลยเป็นคนที่ทำให้เนื้อเรื่องมันเบาลงและตลกขึ้น
ที่ตลกนี่ไม่ได้มาจากความขบขันเฮฮาหรอกนะคะ แต่ตลกก็ตรงมุมมองการมองคน มองปัญหาของนางเอกว่ามันช่างดีจนประหลาดเกินคนปกติธรรมดาเขาเป็นกัน
จนหลายๆคนที่เจอนางเอกต่างมองว่านางเอกเพี้ยนกันแทบทั้งนั้น ซึ่งเราคนอ่านเองก็อดรู้สึกไม่ได้เหมือนกันว่าเธอช่างมีความคิดที่แปลกมากจริงๆ
มันแปลกจนทำให้รู้สึกขำๆไปซะอย่างนั้นเลย
เรื่องนี้ตัวละครหลักมีความสามารถพิเศษทั้งคู่ เรื่องก็เลยออกมาในมาแนว paranormal กันสุดๆ
ฝ่ายพระเอกแปลงร่างเป็นแมวได้ มีเขี้ยวมีเล็บงอกออกมา แผลหายได้เอง กระโดดจากตึกสูงเป็น 10ชั้นโดยไม่มีปัญหา มีหูมีตาการได้ยินการมองเห็นในที่มืดแบบแมวได้
ส่วนนางเอกมี healing hands สัมผัสผู้อื่นเพื่อดึงโรคนั้นมาไว้กับตัวเอง แล้วใช้พลังในตัวรักษาโรคออกไป
มีฉากที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันทั้งจากตอนรับโรคเข้ามาแล้วเป็นลมหมดสติไป และต่อมาก็ค่อยๆหายจากโรคได้
ขนาดที่ว่าผมร่วงจนหมดศีรษะ ต่อมาผมก็ยาวมาใหม่เหมือนเดิมในเวลาอันสั้น
โอ้ว! ให้อารมณ์เหมือนดูหนังฝรั่งอย่าง X-MEN กันเลยทีเดียว เว่อวังอลังการ
เรื่องนี้ความเป็นพารานอร์มอล ค่อนข้างเด่นชัดมากไม่แพ้เรื่องพยัคฆบถกันเลย จึงถูกใจคนอ่านอย่างเราที่ชื่นชอบแนวนี้เป็นพิเศษ
อ้อ ลืมบอกไปว่าเรื่องนี้มีสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ทั้งความเชื่อ ตำนาน ไบเบิ้ล ต่างๆนานา ที่ทำให้เราซึ่งไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์มึนๆไปอยู่เหมือนกัน
และอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้หนักในด้านเนื้อหา วัดกันได้จากการที่มีการใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษหลายคำที่ต้องมีคำแปลหรือคำอธิบายให้เข้าใจเพิ่มเติม
พออ่านไปได้สักระยะจะรู้สึกสะดุดใจกับการใช้ฟุตโน็ต เพราะมันมาบ่อย อ่านไปสักพักเดี๋ยวก็เจอ อ่านต่อไปอีกสักหน่อยเดี๋ยวก็มีอีก
คือมีการใช้คำหลายคำที่ต้องอธิบายเพื่อความเข้าใจ ซึ่งคำที่ต้องอธิบายก็หลากหลายประเภทมากทั้งอาหาร ดอกไม้ เสื้อผ้า ธนาคาร ตำนานปกรณัมกรีก
อ่านแล้วคิดถึงนิยายแปลจีน ของ หลินโหม่ว ที่พออ่านไปอ่านมาก็จะเจอคำที่ไม่เข้าใจเพราะเป็นศัพท์เฉพาะของประเทศที่มีการกินอยู่ เครื่องใช้ หรือวัฒนธรรมที่ต่างออกไปจากของไทย
ก็เลยต้องพลิกไปเปิดหน้าอ้างอิงด้านหลังเล่มเป็นระยะๆ
ซึ่งเรื่องนี้สะดวกกว่านั้นเพราะใช้ฟุตโน็ตอยู่ด้านล่างของหน้านั้นเลย แต่ความถี่ชวนให้นึกถึงนิยายแปลจีนกันขนาดนั้น
พออ่านจบลองไปสรุปรวมดูว่ามีกี่คำ ( ดีที่ฟุตโน็ตของเรื่องนี้นับเป็นตัวเลขมาให้แล้ว) เปิดดูแล้วเลขไปสิ้นสุดที่ 20
โอ้ว!ว้าว! เยอะจริงๆนะนี่ รวมทั้งหมดได้ 20 คำ ดังนั้นอ่านเรื่องนี้รับรองว่าไม่ได้แต่ความบันเทิงแน่นอน มีสาระความรู้สอดแทรกให้เป็นระยะๆ ด้วย 555
กลับมาดูเรื่องตัวละครที่น่าสนใจอื่นๆดีกว่า เรื่องนี้มีตัวละครจากเรื่องอื่นของชญาน์พิมพ์มาร่วมแสดงอีกแล้วจ้า
คนแรกคือ ราม แอนเดอร์สัน พี่ชายพระเอก ตอนแรกที่อ่านก็รู้สึกว่าคุ้นจัง ชื่อว่าราม และเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-อินเดีย มีภรรยาชื่อลักษมี
อ่านไปสักพักรู้สึกว่าน่าจะเป็นพระ-นางจากโศลกรักใต้แสงดาว แต่ยังไม่มั่นใจ
จนกระทั่งมาเจอประโยคเด็ดที่พ่อราม โทรศํพท์คุยกับภรรยาตัวเอง แล้วเรียกเธอว่า “....มหารานีของผม” เลี่ยนขึ้นมาทันควัน
และมั่นใจแล้วว่า รามคนนี้ก็คือพระเอกที่มีคำพูดหวานเลี่ยนจากเรื่องโศลกรักแน่นอน ชัวร์แล้ว
เพราะคำพูดจาเลี่ยนๆนี่เป็นคาแรกเตอร์ที่เด่นชัดสุดของคุณพี่รามเลยทีเดียว 555
คนต่อมา สุดที่รักของเราจากเรื่องก่อนก็ตามมาขโมยซีนไปอีกเล็กๆน้อยๆ นั่นคือ “กฤษณะ” ปีศาจสุดหื่นพระเอกจาก”กฤษณามันตรา”
ที่ติดสอยห้อยตามคุณปู่ชิวหลุนมาสร้างความเฮฮาให้เรื่องนี้ด้วย ทั้งจากความหื่นที่ยังส่อออกมาให้เห็นเหมือนเดิม
จากตอนที่ได้รู้ว่านางเอกของเรื่องนี้ก็ถูกปิดผนึกพลังไว้ ทำให้ดูเหมือนสาวที่ไม่โตนัก พอคลายผนึกก็กลายร่างเป็นสาวเต็มตัว
พอปีศาจสุดหื่นเห็นเข้าถึงกับเร่งเร้าให้คุณปู่ชิวหลุนคลายผนึกให้น้องกระจิ๋วหลิวของตัวเองบ้างทันที
นี่ขนาดแค่มาแจมในเรื่องของคนอื่นนะนี่ ยังไม่วายทิ้งลายเดิม 555 อีกทั้งมุกติดปากเดิมคือเจ้าตะละสับนี้แหละ (ยังเรียกผิดอยู่เหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ)
คู่นี้ออกมากี่ที พูดกันไปก็ทะเลาะกันไป ยังคงไม่กินเส้นกันเหมือนเดิม แต่ก็สร้างความเฮฮาได้ไม่น้อย
เสียดายจังว่าหนูนิดนางเอกเรื่องนั้นไม่ได้มีบทบามด้วย ไม่งั้นคงสนุกกว่านี้แน่
เรื่องนี้มีตัวละครใหม่ๆที่น่าสนใจออกมาอีกแล้ว ทั้งมาร์ค ไทเลอร์ ไอ้หนูซูเปอร์บอย ที่มีรัศมีโดดเด้งของความเป็นพระเอกอยู่ไม่น้อย
มีบทบาทสำคัญและแอบขโมยซีนไปเบาๆ คนเขียนมาหยอดไว้ทำให้อยากรู้เรื่องราวความรักของซูเปอร์บอยคนนี้กับน้องสาวพระเอกแล้วสิว่าจะไปทางไหน
ไม่รู้ว่าจะมีให้อ่านตามมาหรือเปล่า ? แต่ที่รู้แน่ๆคือเรื่องราวของปู่ชิวหลุน ที่ทิ้งท้ายไว้ ดูว่าน่าจะเป็นเรื่องต่อไป ก็ช่างน่าติดตามอีกแล้วววววววว ไม่รู้จะออกเมื่อไร?
ตอนนี้ก็ได้แต่เฝ้ารอกันต่อไป
สรุปว่า เรื่องนี้ยังมีความสนุกของเนื้อเรื่องในระดับที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรื่องกฤษณามันตรา เพียงแต่มาคนละโทน พระ-นางคนละสไตล์
ถ้าชอบแนวเฮฮาปาร์ตี้เรื่องที่แล้วจะมีภาษีดีกว่า แต่ถ้าชอบเนื้อหาที่เข้มข้นหนักหน่วงหน่อยเรื่องนี้ก็น่าจะเข้าทางอยู่
แต่สำหรับเรายังชอบเรื่อง”กฤษณามันตรา”มากกว่าเพราะติดใจบุคลิกสุดป่วนของ2พระนางเรื่องนั้นซึ่งต่างจากเรื่องนี้
เพราะ เรื่องนี้พระเอกมาแนวคุณชาย + นางเอกเรียบร้อยแสนหวาน ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่เด่นเด้งมากเท่าคู่ที่แล้ว
(ยังคงติดใจคู่ปีศาจไม้กฤษณาและแม่หนูกระจิ๋วหลิวอยู่นั่นเอง เพราะคู่นี้แซ่บกว่ามาก 555)
แต่เชื่อได้ว่าใครที่ได้เริ่มอ่านงานซีรีย์นี้ตั้งแต่เรื่องแรก คงจะต้องติดใจตามอ่านต่อไปให้ครบแน่นอน
เพราะคนเขียนมักหยอดปม หยอดตัวละครที่น่าสนใจเข้ามาชี้ชวนให้คนอ่านอย่างเราต้องอยากรู้อยากเห็น
จนต้องตามไปอ่านจนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลายอย่างแน่นอน
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ
18 ซอยลาดปลาเค้า 63 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220