22 MAY, 2022

เธอคือของขวัญ

แก้วพาขวัญ หรือ แมว สาวน้อยคนซื่อจากแดนอีสาน หอบความหวังเต็มปรี่เข้ากรุงเพื่อตามหาพ่อแม่และเงินไปรักษาน้า แต่ไฉนคนบ้านเดียวกันช่างใจร้าย หลอกเอาเธอมาขายแลกค่าตัวไปไม่กี่หมื่นบาท เพื่อตัวเองและเพื่อคนที่รออยู่ข้างหลัง งานนี้ ‘ลูกแมว’ ตัวนี้ต้องหนีตาย จนไปเจอ ปรมัตถ์ ผู้บริการแห่งคันธรสกรุ๊ป เครือข่ายธุรกิจสีเทาที่เลื่องชื่อ ชายหนุ่มมากดุตั้งแง่กับเธอตั้งแต่แรกเห็น เพราะเธอกระโดดมาให้รถเขาชน ส่วนเธอคิดว่าเขาเป็นตาลุงหน้าบูด เพราะใบหน้า (หล่อๆ) บอกบุญไม่รับ แต่ถึงเกิดเรื่องขนาดนี้ ลูกแมวดื้อก็ยังไม่ยอมแพ้ อย่างไรก็จะเอาเงินกลับบ้านให้ได้ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง เมื่อพี่สาวของชายหนุ่มตกลงซื้อตัวเธอด้วยเงินหนึ่งล้านบาท เพราะมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ และด้วยความที่ขายตัวเองแลกเงินล้าน ชีวิตของแก้วพาขวัญจึงไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป แต่กลายเป็นของขวัญสำหรับใครบางคน ที่ปิดใจ....ไม่ยอมเปิดรับใครเข้ามาในชีวิต
ความรู้สึกหลังอ่าน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 ของส้มผักที่ได้อ่าน ความชื่นชอบ ความประทับใจก็ยังคงเดิมค่ะ เรื่องนี้เป็นแนวโคแก่กับหญ้าอ่อน มีหลากอารมณ์มาก ทั้งดราม่า หวานฟิน รวมทั้งความดาร์ก (เล็กๆ) แต่โดยรวมไม่เครียดค่ะ

ชีวิตของพระเอกและนางเอกมีความแตกต่างกันมาก หรืออาจเรียกได้ว่าคนละขั้วเลย “ประมัตถ์” หรือ “ซัน” เป็นผู้บริหารธุรกิจสีเทา ที่ใครๆ อาจมองว่าเขาเป็นมาเฟีย ในขณะที่ “แก้วพาขวัญ” หรือ “ลูกแมว” เป็นเด็กสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อายุ 17 ปี ถูกแม่ทิ้งไว้กับน้าสาวซึ่งอาศัยอยู่นครพนมและมีฐานะยากจน เธอจึงเติบโตเป็นสาวบ้านนอกที่ใสซื่อไม่ทันต่อโลกสมัยใหม่ แต่ทั้งสองมีความเหมือนกันตรงที่ความเป็นนักสู้ชีวิต ผ่านชีวิตอันยากลำบาก รวมทั้งทั้งคู่โหยหาความรักเหมือนกัน ปรมัตถ์เกลียดพ่อเนื่องจากพ่อทิ้งแม่ไปแต่งงานใหม่ ทำให้แม่ต้องตายและพี่สาวของเขาที่ดูแลเขาก็ต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่มีแม้แต่เงินทำศพ พ่อแท้ๆ ก็ไม่เคยเหลียวแล จึงทำให้เขาต้องขายชีวิตเข้าสู่วังวนของมาเฟีย ทั้งๆ ที่ใจไม่ได้ต้องการเลย ส่วนลูกแมว เธอเป็นเด็กสาวแสนซื่อแต่เข้มแข็ง ต้องปากกัดตีนถีบในการทำมาหาเลี้ยงชีพ แม้กระทั่งเคยเป็นนักมวยเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูน้าคำแก้ว...น้าสาวที่ดูแลเธอมาตั้งแต่แบเบาะ เธอไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่คือใคร มีเพียงรูปแม่และพ่อที่น้าให้ไว้ เธอพยายามออกตามหาแม่และพ่อชาวอังกฤษจนถูกหลอก เกือบถูกส่งไปขายตัว โชคดีด้วยไหวพริบปฏิภาณเธอจึงหนีมาได้ และวิ่งตัดหน้ารถของปรมัตถ์จนได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุให้ชีวิตของทั้งคู่โคจรมาเจอกัน

พิมพ์มาดาพี่สาวที่เป็นผู้มีพระคุณของซันรู้สึกถูกชะตากับลูกแมว ลูกแมวขอร้องพิมพ์มาดาให้ช่วยให้เงิน 1 ล้านบาทแก่เธอเพื่อไปจ่ายค่าผ่าตัดของน้าที่เป็นโรคมะเร็ง โดยเธอยอมขายชีวิตให้กับพิมพ์มาดา ซันไม่ชอบใจลูกแมว คิดว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎมาหลอกเอาเงินพิมพ์มาดา แต่พิมพ์มาดาตัดสินใจตกลงกับลูกแมวและยกเธอให้เป็น “ของขวัญ” ของซัน โดยตั้งเงื่อนไขที่ทำให้ซันต้องยอมจำนนอย่างไม่มีทางปฏิเสธได้

ในขณะที่ซันรู้สึกว่าลูกแมว คือ “ภาระ” ไม่ใช่ของขวัญตามที่พิมพ์อยากให้เป็น ลูกแมวก็เห็นว่าคุณซัน เป็น “ลุงบูด” ที่วันๆ เอาแต่ทำหน้าบูดราวกับเกลียดคนทั้งโลกใส่เธอ เมื่อสองหนุ่มสาวต้องมาอยู่ร่วมกัน ต้องเริ่มปรับตัวเข้าหากัน จึงเริ่มเรียนรู้กันและเข้าใจกันมากขึ้น ทั้งซันและลูกแมวต่างรู้สึกว่าอีกฝ่ายคือส่วนที่มาเติมเต็มชีวิตอันแห้งแล้งของตน ลูกแมวรู้สึกเทิดทูนลุงบูดของเธอมากขึ้น ส่วนซันก็เริ่มรู้สึกว่าการมี “ภาระ” ก็ทำให้ชีวิตนี้ของเขาดูมีค่า มีความหมาย

ทว่า....เงื่อนปมของแม่ของลูกแมวก็วนเวียนอยู่ใกล้ตัวซันอย่างเหลือเชื่อ ความลับในอดีตที่เขาต้องปิดบังไว้เท่าชีวิต กับความรักที่เขาอยากรักษาไว้ให้ดีที่สุด เขาจะเลือกอะไร และเมื่อลูกแมวรู้ความจริงทั้งหมด ทั้งในเรื่องอาชีพของซันและความลับเรื่องแม่ของเธอที่เขาปกปิดไว้ เธอจะตัดสินใจเช่นไร จะละทิ้งดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างให้ชีวิตไป หรือจะปล่อยวางเรื่องในอดีตและอยู่กับปัจจุบันและอนาคตก็พอ...

เรื่องนี้มีปมเรื่องพอสมควร มีปมดราม่าของทั้งพระเอกและนางเอก และปมความลับบางอย่าง แต่ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากเหมือนเป็นนิยายสืบสวนสอบสวน แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ง่ายๆ สำนวนภาษาที่เป็นธรรมชาติ กระชับ และไหลลื่น ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างน่าติดตาม ต้องคอยลุ้นว่าปมจะเปิดเผยอย่างไร และพระ-นางจะตัดสินใจอย่างไร ตัวละครแทบทุกตัวมีเหตุผลในการกระทำของตน แม้ว่าหลายสิ่งหลายการกระทำอาจเป็นเรื่องที่เราคิดว่าไม่ถูกต้อง ขัดต่อความรู้สึก หรือบางฉากที่เผลอคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือ แต่ด้วยจังหวะจะโคนการเล่าเรื่องที่สมเหตุสมผลทำให้เราสามารถเชื่อและเข้าใจการกระทำของตัวละครมากขึ้น

ชอบคาแรกเตอร์ของคุณซัน ที่เป็นคนนิ่ง ขรึม ดูเป็นสายโหดแนวมาเฟีย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนอ่อนโยน มุ้งมิ้ง เป็นพ่อบ้านพ่อเรือน คอยปรนนิบัติทำอาหารให้ลูกแมวทานเสมอ ส่วนลูกแมว...แม้ว่าจะดูเป็นเด็กแก่นแก้ว สายเฮี้ยว ซนปนเปิ่น แต่ก็มีความขี้อ้อน ขี้แกล้ง สดใส ทำให้หัวใจเย็นชาของคนมาดนิ่งละลายลงได้ ดูแล้วคุณซัน..ลูงบูด...ย่อมต้องแพ้ทางเด็กอ้อนอย่างลูกแมวน้อยนี่แหละ

ประเด็นที่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้อ่านในช่วงแรกคือ ภาษาค่ะ นางเอกจะพูดภาษาอีสานกับทุกคนในช่วงแรก คนอ่านที่ไม่ถนัดภาษาถิ่นก็จะลำบากนิดหน่อยที่ต้องอ่านอย่างช้าลง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจเนื้อหาได้ถูกต้อง ขณะอ่านจะจินตนาการเห็นภาพเด็กสาวหน้าตาเป็นฝรั่งแต่เว้าอีสานได้อย่างคล่องแคล่ว ก็ดูน่ารักไปอีกแบบค่ะ

โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้ชิลล์ๆ ดราม่าเล็กน้อย แต่ไม่เครียด เป็นอีกหนึ่งผลงานดีๆ ที่ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ