22 MAY, 2022

Lost 3rd sign หยดน้ำตาของเหล็ก

การตามเช็ดล้างผลของหายนะจากสัญญาณที่สองเพิ่งจบไปได้ไม่นานเท่าไร สัญญาณที่สามก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แม้ทุกคนพยายามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแผนการที่ถูกวางไว้อย่างดีหรือเป็นเพราะความอับโชคของเธอ แม่มดแห่งพาเวนน่ากำมะลออย่าง "อเล็กซานไดท์ วิส" จึงต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่อีกครั้ง เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่ 'เฟอราเมน' แผ่นดินนักรบที่ถูกชโลมไปด้วยหยดเลือดทุกวี่วัน เหตุฆาตกรรมครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลผู้ปกครองดินแดนนี้อย่างตระกูล 'อิลรอน' ก่อนที่ผืนน้ำทั่วเฟอราเมนจะเหือดแห้ง ก่อนผืนดินแดนแห่งนักรบจะล่มสลาย อเล็กซ์จำเป็นต้องทวงความยุติธรรมให้ตัวเองและต้องนำพาชาวเฟอราเมนให้รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้
ความรู้สึกหลังอ่าน
การได้อ่านเล่มนี้ทำให้รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มยิ่งกว่าสองเล่มแรกที่ผ่านมาอย่างมากค่ะ ใครที่ตามติดซีรีส์นี้เหมือนเราคงรู้ว่าเล่มนี้ต้องรอนานแค่ไหน "หยดน้ำตาของเหล็ก" ชื่อตอนนี้ดูเศร้าๆ ใช่ไหมคะ
ตัวเอกของเรื่องนี้คือ "ดิสก้า อิลรอน" ไวเซอร์แห่งเฟอราเมน เขาเป็นคนที่ร่าเริงอารมณ์ดีอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันความเป็นนักรบก็ทำให้เขาแข็งแกร่งแข้มข้มแข็งด้วย หยดน้ำตากับผู้ชายที่กล้าแกร่ง ดูไม่น่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ด้วยกันได้เลยนะคะ แต่พี่กัลก็จับทั้งสองอย่างนี้มาเขียนคู่กันเป็นเรื่องราวที่ชวนลุ้นระทึกน่าติดตามและกลัวที่จะอ่านไปพร้อมๆ กัน ทำไมเราถึงบอกว่า กลัวที่จะอ่าน เพราะว่าเล่มนี้เป็นเล่มที่ตัวละครชวนหดหู่และรันทดยิ่งกว่าเรื่องก่อนๆ ของพี่กัลมาก การอ่านเล่มนี้ใจต้องแข็งพอที่จะอ่านครบทุกฉากโดยไม่ข้ามเลย แต่ถึงเรื่องราวจะบีบคั้นหัวใจแค่ไหน พี่กัลก็ยังคงเป็นพี่กัล ที่แทรกความทรงคุณค่าของวรรณกรรมผ่านความดราม่าได้อย่างดี การเขียนเสียดสีสังคมผ่านนิยายแฟนตาซี คงไม่ได้หาง่ายนัก เล่มนี้เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ อาจมีบางครั้งที่เราอยู่ในสังคมโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเรายังมีสิทธิและปากเสียงที่จะทำอะไรเพื่อตัวเอง หากทุกคนเป็นอย่างนั้น โลกนี้คงสมบูรณ์แบบน่าดู แต่เรื่องจากเล่มนี้เป็นเรื่องของโลกแห่งความจริง ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนจะมีสิทธิ์ ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสทำอะไรก็ได้เพื่อตัวเอง แม้เป็นมนุษย์เหมือนกันแต่ทุกคนก็ต่างกัน และมนุษย์ไม่ใช่ตาชั่งที่จะต้องพยายามทำตัวเองไม่ให้เอียงเอน ด้วยเหตุนี้โลกจึงเต็มไปด้วยความอยุติธรรมและผู้เสียหาย มองจากเฟอราเมนแล้วมองย้อนกลับมามองสังคมของเรา มันไม่ได้ต่างกันเลย คนที่มีสิทธิ์มากกว่า ย่อมมีทางเลือกมากกว่าเสมอ ในขณะที่คนไม่มีสิทธิ์ก็ยังคงต้องยอมจำนนต่อชะตากรรมในสิ่งที่คนประเภทแรกยัดเยียดให้ แล้วอย่างนี้จะกล้าพูดได้อย่างไรคะ ว่าธรรมชาติสร้างมนุษย์ทุกคนให้เท่าเทียมกัน
เมื่ออ่านเล่มนี้จบก็ไม่ต่างจากการโดนตบหน้า เพราะตัวละครจากเล่มนี้ เขาได้สอนนักอ่านอย่างพวกเราว่า พวกเราเองยังสามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ แต่บางครั้งพวกเราลืมนึกถึงคนอื่นที่ด้อยโอกาสกว่าเรา การสูญเสียเล็กน้อยเพื่อส่วนรวมอาจเป็นสิ่งที่พวกเรารับได้ แต่พวกเราอาจลืมไปว่ามีใครหลายคนรับไม่ได้ นี่คือคุณค่าของวรรณกรรมเล่มนี้ค่ะ
กล่าวถึงตัวละคร ก็มีตัวละครใหม่ๆ ออกมา แต่ละตัวก็สะท้อนมนุษย์บางประเภทในสังคมได้ดี สำหรับอเล็กซ์ของเราก็มีพัฒนาการขึ้น ตอนที่อ่านถึงตอนของอเล็กซ์ทำให้เราเลิกท้อกับบางอย่างและศรัทธาในตัวเองเหมือนอเล็กซ์ค่ะ บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องไปให้คนในชีวิตจริงสอนเราทุกครั้ง แต่คนในโลกสมมุติก็เป็นครูสอนเราได้เหมือนกัน จริงไหมคะ ^^
ภาคหยดน้ำตาของเหล็กเล่มนี้ เป็นเล่มกึ่งกลางของซีรีส์ชุดนี้ ก่อนอ่านเราก็คิดว่าน่าจะมีฉากเฉลยปมปริศนาจากสองเล่มแรกบ้างเล็กน้อย แต่กลับเจอปมเยอะกว่าเดิมอีกค่ะ ทำให้ชวนติดตามอยากรู้มากขึ้นไปอีก ว่าเล่มหน้าจะมีอะไรคลี่คลายบ้าง อยากได้เล่ม 4 5 6 มานอนกอดแล้วล่ะค่ะ แล้วทุกคนล่ะคะ อยากได้เหมือนเราหรือเปล่า ^^