22 MAY, 2022

ตะวันไม่มีวันตกดิน

ตะวันไม่มีวันตกดิน ของ อาสดา (อีกนามปากกาของ อุมารตี)
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤษภาคม 2557
โดย Sugar Beat บจ. สถาพรบุ๊คส์

คำโปรยปก :

        ชีวิตคู่พลิกผันล่มสลาย เมื่อ ‘แสนยา’ นายทหารเรือหนุ่มถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ต้องหลบลี้หนีภัยออกนอกประเทศ วันที่นัดแนะกับภรรยาแสนรักเพื่อหนีไปใช้ชีวิตร่วมกัน กลับเห็นหล่อนอยู่ในอ้อมกอดของ ‘เดชา’ พันตำรวจหนุ่ม เกือบห้าปีแห่งความทุกข์ยากในต่างแดน สิ่งเดียวที่สลักลึกในใจแค้น คือ นามของภรรยาแสนรักผู้ทรยศเขาอย่างเลือดเย็น ‘นงคราญ’ ! นงคราญสู้ทนต่อคำครหาที่ผู้คนทั้งพระนครตราหน้าว่าเป็นหญิงแพศยา ทรยศหักหลังสามี ทนถูกผู้คนที่หล่อนรักประณามหยามเหยียดด้วยความไม่รู้ เพื่อปกป้องครอบครัวรวมถึงชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของสามีมิให้มัวหมอง หล่อนมิอาจแก้ไขความเข้าใจผิด ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น... มีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง และอีกหลายคนปิดบังความจริง

ถ้อยคำจากที่คั่นหนังสือ :

         ตะวันอาจลับฟ้า แต่ไม่มีวันตกดิน ความดีอาจถูกมองข้าม แต่ไม่เคยด้อยค่า ตะวันรออรุณเบิกฟ้า

          ความดีรอเวลาเปิดเผย 439 หน้า กับเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่เต็มไปด้วยความรัก ความลุ่มหลง อิจฉาพร้อมริษยาจนกลายเป็นความคั่งแค้น ก่อเกิดเป็นมรสุมกิเลส ตัณหาที่พัดพาถาโถม เต็มเปี่ยมด้วยพลังทำลายล้าง พุ่งเข้าใส่ชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างน่าตกใจยิ่งนัก
         
           “นงคราญ หรือ นง” เธอคือผู้หญิงที่มีจิตใจดี รูปร่างหน้าตาสวยจนกลายเป็นภัยร้ายแก่ตนเองแบบไม่รู้ตัว แต่เพราะความดีที่มีในตัวแม้จะตกต่ำเพียงไร สาวที่แสนบอบบางคนนี้ก็ได้รับการปกป้องด้วยความรักจนกลายเป็นที่อิจฉาริษยา “แสนยา หรือ แสน” นายทหารเรือหนุ่ม ผู้เติบโตในตระกูลเก่าแก่จากบิดา และความร่ำรวยจากมารดา เขาจึงเป็นผู้ชายที่สาวๆต่างหมายปอง แต่เมื่อพบนงคราญ หญิงใดก็ไม่อยู่ในสายตาเขาอีกเลย จนกระทั่งวันที่เขาตกต่ำที่สุดในชีวิต เขากลับได้รับการซ้ำเติมจากหญิงผู้เป็นยอดดวงใจ เขาจากไปด้วยความเคืองแค้น แต่เขาหมดรักเธอคนนี้แล้วจริงๆ หรือ

            “เดชา หรือ เด” นายตำรวจหนุ่ม เขาองอาจกล้าหาญ เด็ดขาดกับทุกคน แต่กลับโอนอ่อนให้พียงนงคราญ หญิงเดียวที่เป็นสุดที่รัก เขายอมทำทุกทางเพื่อปกป้องและดูแลหัวใจของเธอ ยอมแม้จะถูกเธอรังเกียจ แต่น้ำใจรักของเขานั้นช่างยิ่งใหญ่นัก เรื่องราวเริ่มต้นหลังจากที่แสนยาและนงคราญใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขมาแล้ว 5 ปี แม้จะไม่เป็นที่ยอมรับจากท่านพระยาเสนาธิกร พ่อของแสนยา แต่ความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กันก็สามารถทำให้เขาและเธอก้าวข้ามทุกความแตกต่าง

             จนกระทั่งวันที่แสนยา ถูกกล่าวหาว่าเขาไปมีส่วนร่วมกับการก่อกบฏในปี 2494 ทำให้เขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศ เขาพยายามติดต่อทางบ้านเพื่อขอเงินสำหรับการหลบหนี ข้างฝ่ายนงคราญเองก็พร้อมจะเดินทางไปกับสามี ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ลำบากเพียงไรเธอจะพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แต่แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่คนทั้งคู่ แสนยารอเมียรักจนเวลาล่วงไปหลายชั่วโมง ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงย้อนกลับเข้าบ้านเพื่อดูลาดเลาแม้จะอันตรายเพียงไรก็ตาม แล้วภาพที่เขาเห็นท่ามกลางความสลัวเลือนรางของบรรยากาศยามย่ำรุ่ง กลับทำให้เขาเจ็บปวดเกินจะบรรยาย เมื่อนงคราญ เมียที่เขาแสนรักกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเดชา นายตำรวจใหญ่มือปราบชื่อดังแห่งยุค ผู้กำลังรับหน้าที่ไล่ล่าเขา แสนยาจึงกัดฟันหาทางหลบหนีไปตั้งหลักตั้งตัวยังต่างแดนจนสำเร็จ

               เวลาผ่านไปถึง 5 ปี กว่าที่เขาจะได้รับการผ่อนผันจากรัฐบาลให้กลับมาเมืองไทย เพื่อร่วมงานศพของบิดา การกลับมายังแผ่นดินเกิดอีกครั้งนำความรู้สึกหลากหลายมาให้แสนยา ยิ่งกับผู้หญิงแพศยาคนนี้ ‘นงคราญ’ เรื่องราวต่อจากนี้จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันชวนติดตามยิ่งนัก ปมชีวิตที่รอการสะสาง คนทำผิดที่รอการลงโทษ ความผิดบาปที่รอการเปิดโปง ความถูกต้องที่รอการเปิดเผย ความดีงามที่รอแสดงผล

 
ความรู้สึกหลังอ่าน
            เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสลิ้มลองงานเขียนของอาสดา เรื่องนี้เป็นผลงานเล่มล่าสุดของนักเขียนท่านนี้ อ่านจากคำโปรยปกก็รู้สึกว่าเป็นนิยายที่น่าหยิบมาอ่าน เรื่องย้อนยุคไปในช่วงก่อนปี 2500แล้วก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ไม่โดนคำโปรยล่อลวง เพราะแค่อ่านจากคำนำ ก็เห็นถึงความตั้งใจและความพยายามที่จะนำเสนอนิยายย้อนยุคย้อนสมัยให้น่าสนใจและชวนติดตามได้อย่างดีเรื่องหนึ่งเลยเชียวค่ะ  เธอตั้งใจนำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงผ่านความรักและความเสียสละ เพราะเห็นว่าในความสำเร็จของผู้ชาย หรือผู้นำที่ยิ่งใหญ่ มักจะมีเงาของผู้หญิงอยู่เคียงข้างเสมอๆ

            หลังจากอ่านเรื่องนี้จบลงด้วยความรวดเร็วแบบคาดไม่ถึง แม้จะมีช่วงพักเว้นให้กับการหยุดหายใจเพราะแรงสะอื้นไปบ้างก็เถอะ ขอบอกว่า ผู้เขียนตอบโจทย์ที่ตัวเองตั้งไว้ได้อย่างงดงามและสมบูรณ์จริงๆ เป็นงานเขียนที่วางโครงเรื่อง ปมปริศนาได้ชวนค้นหาคำตอบมากๆ ขอชมกับการวางช่วงเวลาของแต่ละเหตุการณ์และเรื่องราวภายใน เธอดำเนินเรื่องได้ไหลลื่นดีจริงๆ

            เรื่องนี้เป็นชีวิตของ 1 หญิง 2 ชาย อาจจะลำบากใจสำหรับคนอ่านที่นิยมเรื่องราวแบบรักเดียวใจเดียว รับไม่ได้การที่นางเอกจะตกเป็นของผู้ชาย 2 คน หากคุณรู้สึกแบบนี้ขอให้ข้ามผ่านนิยายเรื่องนี้ไปเลยนะคะ สำหรับตัวเองหลังจากอ่านเรื่องนี้จบลง ขอบอกว่า มุมมองความรักที่มีให้กับนงคราญ นางเอกของเรื่อง ผู้หญิงที่ต้องตกเป็นภรรยาของผู้ชายถึง 2 นั้น มันช่างเป็นเรื่องราวที่ชวนอึ้งจริงๆ ไม่นึกรังเกียจเลยนะคะ รับทราบและเข้าใจเหตุผล รวมทั้งการตัดสินใจในแต่ละช่วงชีวิตของเธอมากๆ หลายครั้งความรักที่ต้องการปกป้อง กลับกลายเป็นการทำลาย ที่รอคอยการให้อภัย อย่างที่เขาว่า หากเราไม่ได้อยู่ในจุดนั้น เราคงไม่รู้ว่า เราจะตัดสินใจอย่างไร ผู้เขียนผูกโยงเรื่องราวได้สนุก ตัวละครทุกตัวมีบทบาทมีมิติ เข้มข้น เร้าใจตลอดเรื่อง จนบทสุดท้ายก็ยังเกือบเดาใจผู้เขียนไม่ออก เพราะทางออกมีได้หลายแบบ

               สำหรับตัวเองชอบในรูปแบบการจบของเรื่องมากๆ ชอบการตัดสินใจของนงคราญ เพราะถ้าเป็นตัวเองก็คงเลือกเหมือนนงคราญ แอบอิจฉาเธอนิดๆๆนะคะที่มีผู้ชายรุมหลงรักมากมาย แต่เพราะยุคสมัยนั้น ผู้หญิงยังคงเป็นเพศที่ต้องได้รับการปกป้องดูแลจากผู้ชาย การดำเนินชีวิต ความคิดและการตัดสินใจจึงเป็นเช่นที่เกิดภายในเรื่อง เพราะหลายเหตุการณ์ผู้หญิงสมัยปัจจุบันอาจจะไม่อดทนถึงเพียงนี้ หรืออาจจะไม่ตัดสินใจแบบนี้ ครั้งแรกสงสัยกับชื่อเรื่องว่าผู้เขียนต้องการสื่อถึงอะไร พอได้อ่านถึงเข้าใจว่า เธอหมายถึง ‘ความดี’ เธอเปรียบเป็นดั่งดวงอาทิตย์ ที่สามารถส่งแสงร้อนแรงได้เสมอแม้บางครั้งเราต้องรอคอยพบแสงนั้นอีกครั้งในเช้าวันใหม่ เหมือนความดีที่เราได้กระทำลงไป ในขณะนั้นอาจจะไม่มีใครเห็น แต่ความดีนั้นไม่เคยหายไปไหน ยังดำรงอยู่ในความถูกต้องนั้นเสมอๆ ถึงไม่มีใครรู้แต่ใจเราก็รับรู้ได้ตลอด

                ชอบกับสำนวนและรูปแบบการเขียนจังเลย มีจังหวะที่สวยงาม บทสนทนาอาจไม่มาก เหมือนคนพูดน้อยต่อยหนัก หลายฉากที่ทำคนอ่านจุกไปเลย เป็นความรวดร้าวที่แทรกซึมเข้าหัวใจ เข้าอารมณ์และความก่อให้เกิดความรู้สึกร่วมโดยไม่รู้ตัวสมกับยุคสมัยที่ชีวิตคนเรายังเนิบช้า ไม่รวดเร็วเร่งร้อนจนตามแทบไม่ทันเหมือนในปัจจุบัน หากอยากลิ้มลองงานเขียนที่ชวนให้คุณปรับเวลาปรับหัวใจย้อนกลับไปสู่ความรื่นรมย์ที่เราอาจไม่คุ้นเคย แนะนำให้หยิบเรืองนี้มาอ่านนะคะ อาจจะทำให้คุณอยากใช้ชีวิตแบบช้าๆขึ้นมาบ้างก็ได้ค่ะ