22 MAY, 2022

บท(จะ)รัก : Please teach me how to love

เธอเป็นหญิงสาวผู้เกิดมาบนกองเงินกองทอง หนำซ้ำใบหน้าก็ยังสวยสดงดงามยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์ ทุกอย่างในชีวิตของเธอดูหมือนจะดีไปเสียหมด เว้นก็แต่นิสัย เธอหลงรักพี่ชายต่างสายเลือดมานานหลายปี เเต่ทุกครั้งที่เธอจะเข้าใกล้พี่ชายสุดที่รัก... ก็เป็นอันต้องโดนตาบอดีการ์ดหน้าตายคนนั้นกันท่าไว้ทุกที ทำอย่างกับเธอเป็นผู้ก่อการร้ายยังไงยังงั้น แต่จู่ๆ โชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อพี่ชายสุดที่รักส่งเขามาเป็นรองประธานบริษัท ในขณะที่ฐานะของเธอกลับกลายเป็นแค่เด็กฝึกงาน เเล้วเธอจะเอาชีวิตรอดจากรองประธานสายโหด หน้านิ่ง และไร้ความรู้สึกคนนั้นได้อย่างไร เพราะต่อให้เธอร้องขอความเมตตา เขาก็ไม่มีวันเห็นใจ ผู้ชายที่ดึงนางฟ้าให้ลงมาจากสวรรค์ แล้วเปลี่ยนให้เป็นคุณหนูอนาถาได้ แบบนั้นน่ะมันไม่ใช่คนแล้ว...เขาเป็นหุ่นยนต์ต่างหาก!
ความรู้สึกหลังอ่าน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 ของ Caneus ที่ได้อ่าน โดยปกติไม่ชอบอ่านนิยายที่ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบใช้สรรพนามบุุรุษที่ 1 เป็นคนเล่า แต่เมื่อได้อ่านงานเขียนของ Caneus กลับรู้สึกว่าเป็นงานเขียนที่มีเสน่ห์มาก พล็อตเรื่องสนุก น่าติดตาม ประกอบกับสำนวนการเล่าเรื่องไหลลื่น มีความเป็นธรรมชาติมาก วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Caneus จนทำให้ชื่นชอบและติดตามอ่านตลอดมาทุกเรื่อง
สำหรับเรื่อง บท(จะ)รัก : Please teach me how to love เป็นเรื่องต่อจากเรื่อง “เมื่อรักทำนายไม่ได้” แนะนำว่าหากอยากเพิ่มอรรถรสในการอ่านก็ควรอ่านเรื่อง “เมื่อรักทำนายไม่ได้” ก่อนค่ะ แต่ถ้าไม่ได้อ่าน ก็สามารถอ่านเรื่องนี้ได้อย่างไม่ติดขัดเพียงแต่อาจไม่อินในบางฉากค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณพีท หรือ “ปีเตอร์ คิม” ซึ่งเป็นลูกน้องและบอดี้การ์ดของบอสบ๊อบบี้ คลากส์ (พระเอกจากเรื่องเมื่อรักทำนายไม่ได้) คุณพีทเป็นคนที่มีนิสัยเจ้าระเบียบ เข้มงวด จริงจัง หน้านิ่งจนอาจเรียกได้ว่าเฉยเมย ไร้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ แต่ต้องมาเจอกับ น้องดา..”ลลดา” คุณหนูไฮโซที่คลั่งไคล้บ๊อบบี้มากๆ นางช่างเอาแต่ใจ เหวี่ยงวีน หยิบโหย่ง ทำตัวไร้สาระ ทำงานอะไรไม่เป็นเลย ดูแล้วสองคนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ Caneus ก็สามารถสร้างเรื่องราวจนรู้สึกได้ว่าทั้งสองคนเคมีเข้ากันมากๆ และต่างก็เป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกันได้เป็นอย่างลงตัว
ในเรื่องคุณพีทต้องเป็นคนฝึกงานและดัดนิสัยให้กับน้องดา เพื่อหัดให้เธอสามารถช่วยเหลือตัวเองและอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ ซึ่งวิธีการดัดนิสัยเด็กเอาแต่ใจอย่างน้องดาของคุณพีทแต่ละวิธีดูโหดจริงๆ หลายครั้งยังแอบสงสารน้องดาเลย แต่จริงๆ แล้วมนุษย์หุ่นยนต์คุณพีทก็ไม่ได้โหดร้ายซะทีเดียวนะ เขาแอบคอยช่วยน้องดาอย่างลับๆ หลายครั้ง ที่น่ารักคือ ชอบหาเรื่องมาดูแลน้องดาโดยมาทำไข่เจียวให้กินแทบทุกวัน...ไข่เจียวคุณพีทอร่อยที่สุด ^^ แถมคุณพีทยังแอบทำเข้มบังคับให้น้องดาเขียนรายงานการทำงานส่งเมล์ให้เขาทุกคืน จริงๆ แล้วก็เอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะรับรู้ความในใจของน้องดานั่นแหละ ในขณะที่น้องดากลายเป็นเด็กติดข้าวไข่เจียว คุณพีทเองก็กลายเป็นนายหุ่นยนต์ที่เสพติดการอ่านอีเมล์ของน้องดาทุกคืนเช่นกัน ตอนแรกที่ตั้งใจดัดนิสัยเสียของน้องดา ทำไปทำมาคุณพีทเองก็ได้เรียนรู้และซึมซับความน่ารัก สดใสมีชีวิตชีวา และมองโลกในแง่ดีของน้องดาเช่นกัน และทำให้หุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ เริ่มกลายเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ มีอารมณ์ที่หลายหลาย มีความรัก มีความห่วง หวง หึง และแอบหื่นด้วย..^^ ดังนั้นทั้งคุณพีทและน้องดาจึงเหมือนได้เรียนรู้ "ที่จะรัก" ซึ่งกันและกัน
เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องเบาๆ ไม่ได้มีปมซับซ้อนนัก แต่สอดแทรกด้วยข้อคิดดีๆ และทิ้งค้างความรู้สึกอบอุ่นละมุนเมื่ออ่านจบ Caneus ดำเนินเรื่องด้วยภาษาง่ายๆ สบายๆ แต่ด้วยการวางคาแรกเตอร์ตัวละครที่ชัดเจน และการสร้างเรื่องราวให้คนอ่านเห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวที่เติบโตขึ้นอย่างสมเหตุสมผล แม้ว่าจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของคุณพีทและน้องดานั้นอาจเรียกได้ว่าไม่ชอบขี้หน้ากันอย่างแรง อยากหลีกหนีกันให้ไกลเลยด้วยซ้ำ แต่ Caneus ก็สร้างสรรค์เหตุการณ์ต่างๆ ผูกเรื่องราวความสัมพันธ์ของพระ-นางได้อย่างมีเสน่ห์ ชักนำคนอ่านให้รู้สึกอินไปกับพัฒนาการความรักที่ค่อยเป็นค่อยไป และค่อยๆ ซึมลึกของคุณพีทและน้องดา
ชอบคาแรกเตอร์ของน้องดา แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของน้องดาจะเป็นคนที่เรื่องมาก ขี้วีน เอาแต่ใจ ไม่ค่อยคิดถึงใจคนอื่น แต่โดยเนื้อแท้แล้วน้องดาเป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจ และไม่ถือตัว (เห็นจากที่เธอสงสารป้าขายไข่ปิ้ง เป็นห่วงเพื่อนร่วมงานที่เป็นแค่พนักงานรีดผ้า) เธอคบเพื่อนด้วยความจริงใจ แต่อาจแสดงออกด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องนัก เช่น การซื้อของราคาแพงๆ มาให้เพื่อนเพื่อให้เพื่อนรักเธอ เธอจึงมักถูกเพื่อนหลอกลวงหาประโยชน์ตลอดมา จริงๆ แล้ว น้องดาเป็นเพียงคนที่มีนิสัยความเป็นเด็กสูงเท่านั้น แต่เมื่อเธอถูกคุณพีทดัดนิสัยด้วยการบังคับให้ทำงาน ให้มีความรับผิดชอบ ถูกกดดันให้ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงานเอง จ่ายเงินค่าแรงอันน้อยนิดเป็นรายวันให้เธอ ทำให้น้องดาต้องพยายามมีสติและความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น หลายฉากแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่รู้จักปรับตัว รู้จักคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี และเป็นคนที่มีความพากเพียรอดทนอย่างไม่น่าเชื่อ บุคลิกของเธอจึงเปลี่ยนจากคุณหนูขี้วีน กลายเป็นคุณหนูโก๊ะๆ ที่น่ารักไปเลยค่ะ ส่วนคาแรกเตอร์ทื่อๆ นิ่งๆ ของคุณพีท ก็น่ารักนะคะ มีมุมเป็นผู้ชายอบอุ่นแต่ไม่แสดงออกมากนัก และในท้ายเรื่องจะเข้าใจผู้ชายคนนี้มากขึ้นว่าเขาก็เป็นคนมีปมอดีตที่ทำให้ชีวิตเขาต้องกลายเป็นคนเครียดเคร่งแบบนี้ ทำไปทำมาไม่รู้จะอยู่ทีมน้องดาหรือทีมคุณพีทดี รักทั้งสองคนเลยค่ะ
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้อ่านค่ะ ดีต่อใจจริงๆ