22 MAY, 2022

รักหลงโรง

ซูเปอร์สตาร์อย่างกีรณาคือสาวไฮโซ เติบโตต่างแดน ไม่ข้องแวะกับคนที่ด้อยกว่า วีนเหวี่ยงเอาแต่ใจได้ตามอัธยาศัย ใครต่อใครต้องตามงอนง้อ...เป็นดาวจรัสแสงกลางฟ้า

ทว่า...แท้จริงหญิงสาวเป็นหลานสาวเจ้าของคณะลิเกที่กำลังตกอับ

เธอทอดทิ้งครอบครัวเพื่อไขว่คว้าตามฝันของตัวเอง ไม่เคยเหลียวแลคนข้างหลัง จนกระทั่งวันที่ดาวอย่างเธอร่วงสู่ดิน หมดสิ้นทุกสิ้นทุกอย่าง ต้องจำใจหวนคืนสู่บ้านเกิด แต่กลับพบว่าคนสำคัญที่สุดในชีวิต...จากไปแล้ว มรดกที่หวังไว้ว่าจะได้ กลับเป็นภาระหนักอึ้งที่เธอต้องรับช่วงดูแลคนในคณะลิเกต่อ

ความ ‘เยอะ’ ทำให้เข้ากับคนอื่นได้ยาก โดยเฉพาะกับตุลา ชายหนุ่มปากร้ายที่มักจิกกัดและหาเรื่องดัดนิสัยเธอทุกทีที่มีโอกาส

ทว่า...เบื้องหลังท่าทีเฉยเมยปึ่่งชาของเขา กลับมีความอาทรแฝงอยู่เบาบาง ทั้งๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับคนในครอบครัว แต่ลึกๆ กลับอบอุ่นอย่างประหลาด

ทว่ากีรณาจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกของลิเกได้หรือ ในเมื่อเธอเกลียดลิเกสุดหัวใจ แล้วชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่สั่งสมมาเล่า ต้องอื้อฉาวเพราะการกระทำที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เธอจะเรียกร้องความยุติธรรมคืนมาได้อย่างไร

รายละเอียดหนังสือ  http://bit.ly/1LnzLKe 
ความรู้สึกหลังอ่าน
'รักหลงโรง' 1 ใน 4 จากนิยายโครงการ Good Plot Good Feeling ที่ทางสนพ.ร่วมมือกับช่อง 3 เพื่อนำไปสู่การเป็นละคร ซึ่งมีแนวคิดหลักเกี่ยวกับความรักของครอบครัว และไม่รู้ว่าเมื่อพลอตและนิยายในเซตนี้สร้างขึ้นเพื่อนำไปถ่ายทอดหน้าจอแก้วตั้งแต่ต้นด้วยหรือไม่ ทำให้พออ่านเล่มนี้เรารู้สึกสไตล์เหมือนกำลังอ่านบทละคร หรือ ดูละครแบบจินตนาการไปถึงว่ามีนักแสดงสักคนกำลังแสดงในฉากนั้นแบบนี้ๆ หรือ ชวนลุ้นไปเรื่อยๆ กับปมต่างๆ ทำให้เพลิดเพลินไปกับการอ่านนิยายมากๆ เรื่องย่อคร่าวๆ ก็ตามโปรยปกด้านบนเลยค่ะ ครบหมด แต่จะมาสรุปรวมๆอีกที

เรื่องราวของนางเอกอย่าง 'แกรนด์ / แก้ว กีรณา' ดาราสาวชื่อดังจอมวีน เหวี่ยง เห็นตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง สร้างโปรไฟล์ขึ้นมาอย่างเริดหรู แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นหลานของยายที่เป็นเจ้าของคณะลิเก แต่ด้วยความลำบากอดยากที่เผชิญยามเด็กและรู้สึกว่ายายไม่รักเธอ ทำให้วันหนึ่งเมื่อ 'อา'มารับตัวเธอไปเลี้ยงดูชุบตัวใหม่จนกลายเป็นดาราดังในปัจจุบัน ก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดที่ทำให้เธอสุขสบายและละทิ้งอดีตขมขื่นเหล่านั้นทิ้งไป

แต่เมื่อดาวบนฟ้าถึงคราวร่วงลงสู่ดิน เพียงเพราะเหตุการณ์ร้ายๆ จากผู้ไม่หวังดีกับเธอที่ทำให้เธอตกเป็นจำเลยสังคม ถูกพิพากษาว่าเป็นดาราสาวติดยา หลักฐานแน่นหนาจนเธอไม่สามารถกู้ชื่อเสียงกลับมาได้จนพบกับจุดต่ำสุดในชีวิตอีกครั้งเมื่อไม่เหลืออะไรสักอย่าง และเมื่อตัดสินใจกลับบ้านเก่าไปหา'ยาย' กลับพบว่ายายจากไปแล้วก่อนเธอจะมาไม่ถึงวัน โดยการกลับมาครั้งนี้ได้รับการช่วยเหลือของพระเอกอย่าง 'ตุลา' หนุ่มบ้านๆ หน้าตาดีที่เปรียบเสมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในช่วงร้ายๆ ในชีวิตของเธอ แต่อีกมุมเขาก็ช่างเป็นผู้ชายหน้าเย็นชา คอยขัดในสิ่งที่เธอทำต่างๆ นานา ไม่ยอมตามใจเธอจนต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อเอง

ยิ่งเมื่อวันเปิดพินัยกรรมมาถึงกลับกลายเป็นยายได้มอบ 'คณะลิเก' ให้ดูแล แต่เธอไม่อยากทำ อยากกลับไปอยู่ที่จากมา แต่เมื่อวันเวลาที่ได้สัมผัสกับครอบครัวลิเกที่มีอยู่ในบ้านหลังนี้กลับกลายเป็นความรับผิดชอบที่เธอซึมซับเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว พร้อมๆ กับการคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ของพระเอกที่ร่วมมือกับคนรอบข้างเธอให้ช่วยขัดเกลานิสัยแย่ๆ ที่จะทำให้เธอยอมรับครอบครัว ยอมรับที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อดูแลในสิ่งที่ยายเธอมอบให้อย่างดีที่สุด

แต่การปรับตัวและดูแลคณะลิเกในชนบทแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นางเอกจะต้องเจอบททดสอบที่ทำให้เธอเรียนรู้ชีวิตมากขึ้นอย่างไร และผ่านช่วงเวลาเลวร้ายตกต่ำที่เข้ามาในชีวิตช่วงนี้ได้ไหม และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใส่ร้ายนางเอก หรือสุดท้ายแล้วนางเอกจะยอมอยู่กับครอบครัว 'ลิเก' และเลือกจะอยู่อย่างเรียบง่ายที่ไม่มีแสงเสียงความโด่งดังที่เธออยากได้หรือไม่ ต้องติดตามต่อในเล่มค่า

ความรู้สึก คือ สนุก เต็มอิ่ม และได้หลากหลายรสชาติมาก บทจะฮาก็ฮา หมั่นไส้ก็สุดๆ เศร้าก็เคล้าน้ำตา จะซึ้งก็ซึม จะหวานก็น่ารัก แบบฟินนนนสุดๆ แม้เรื่องนี้อาจจะหวานน้อยกว่าเล่มก่อนๆ ที่คนแต่งเขียน แต่มันเป็นความหวานที่เกิดขึ้นอย่างพอเหมาะในเรื่อง ไม่หวือหวา ไม่มีเลิฟซีน แต่บทที่พระนางเขาสื่อถึงกันแค่จ้องตา จับมือ ซบไหล่ หนุนตัก อ่านแล้วมันชวนยิ้มมาก โอ๊ยยย พ่อหนุ่มรางช็อกโกแลต พ่อหน้าเตารีด อยากจะซบไหล่ล่ำๆ วิ่งเข้าไปไถลอก เหลือเกินนนนนน ก๊ากกก >__<

จะกล่าวถึงพระเอกอย่างพี่ตุลย์เล่มนี้ หนูขอกรี๊ดดด ช่างน่ารักน่าซบน่ากอดน่าหม่ำอะไรแบบนี้ แอร๊ยยย ช่างแสนดี รักเดียวใจเดียว ห่วงหาอาทรนางเอกได้แบบ อิจฉาเหลือเกินนนน แม้เขาจะแสดงออกมาแบบเย็นชา พูดจาตรงๆ สั่งสอนนางเอกในหลายๆ ครั้งแต่มันเจือไปด้วยความห่วงใยมากมาย ยิ่งช่วงหลังที่นางเอกทำตัวดีขึ้น คุณตุลย์ยิ่งน่าร้ากกกกก แต่แอบหักคะแนนไม่ยอมเปิดเผยความจริงกับนางเอกสักทีติดลบหนึ่ง แต่มาตีคะแนนบวก++ตอนสารภาพรัก ขอแต่งงาน หึยยยย!! ปากหวานยิ่งกว่าพระเอกลิเกอีกนะคะ

แต่เล่มนี้จะไม่พูดถึงนางเอกก็ไม่ได้ค่ะ เพราะถือว่าเป็นตัวเดินเรื่องหลักเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นตัวสร้างสีสันสุดๆ แสบสันชวนปวดหัวมากๆ ตั้งแต่บทแรกจนครึ่งเล่มนี่อยากจะบอกว่า หมั่นไส้นางมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ผสมๆ กับความเห็นใจและสงสารมาเป็นระยะๆ แต่แป๊บๆ ก็กลับมาเกลียดอีก คือนิสัยนางแต่ละอย่างแบบ ฉันไม่รู้จะด่าเธอยังไงดี ซึ่งสมควรละที่เธอควรจะเรียนรู้ด้วยตนเองจริงๆ

แต่พอครึ่งเล่มหลัง เอ้าาา เอาใจไปเลย เธอน่ารักขึ้นมากกก ควรค่าแก่การเป็นที่ถูกรักหลังจากโดนคนอื่นหมั่นไส้มานาน เพราะแท้จริงแล้วพื้นฐานนิสัยยัยแกรนด์หรือแก้วถือว่าเป็นคนดี จิตใจดีอยู่ เพียงแต่ความทะเยอทะยานและถูกเลี้ยงดูมาผิดๆ ตอนโต ผสมกับชื่อเสียงที่สะสมมาจนเห็นตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางทำให้นิสัยเสียไปนิดนึง และเมื่ออ่านไปเราจะลุ้นกับนางเอกมากว่าเธอจะทำอย่างไร เธอจะมีวิธีไหน เธอจะอยู่ได้ไหม แก้ไขสถานการณ์อย่างไร เรียกว่าเอาใจช่วยนางขึ้นเรื่อยๆ และบอกว่า ลูกบ้าเธอเยอะจริง ทำให้ไอ้ที่หมั่นไส้ๆ กลายเป็นความตลกไปซะอย่างงั้น (มุมน่ารักเธอก็มีอยู่นะเนี่ย)

ในช่วงแรกของตัวแกรนด์แบบเอาโล่เจ้าแม่จอมวีนเอาแต่ใจไปเลย จนบางทีไม่รู้สึกสงสารนางเลยจริงๆ ทำตัวเองแท้ๆ โถ! แต่เมื่อเธอปรับเปลี่ยนความคิดและเข้าใจในสิ่งที่ใจต้องการ คราวนี้เธอจึงยืดหยัด ปกป้องทุกๆ คนในครอบครัวนี้ของเธออย่างเต็มที่มากๆ เรียกว่าเอาใจช่วยนางเอกสุดๆ จริงๆ ปัญหาถาโถมมาเรื่อยๆ เหมือนกันนะ ชีวิตเธอนี่เจอแต่ปัญหา แต่มันก็กลายเป็นตัวช่วยที่ทำให้เธอเห็นโลกกว้างขึ้นและปรับเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีได้ในที่สุด ..(นางเอกเล่มนี้คุณจะหมั่นไส้โคตรๆ ใน 200 หน้าแรก และหลังจากนั้นคุณจะเริ่มเห็นมุมน่ารักและคอยเชียร์เธอขึ้นเรื่อยๆ จนหลงรักเธอได้ในที่สุดจริงๆ : เป็นตัวละครที่เห็นพัฒนาการชัดเจนมาก)

พูดถึงปมครอบครัว เล่มนี้อาจจะไม่ได้ใส่มาเยอะมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องมันก็แสดงให้เห็นถึงครอบครัวเล็กๆ ที่อยู่ร่วมกัน แบ่งปันช่วยเหลือกันได้อย่างดี แม้พวกเขาจะไม่ใช้สายเลือดเดียวกันก็ตาม แต่ความห่วงใยพร้อมจะหยิบยื่นน้ำใจให้กันเสมอ ช่างเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ไม่ต้องไปขวนขวายหาที่ไหน เพียงแค่คุณเปิดใจ และยื่นให้ผู้อื่นก่อนบ้างเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าอ่านเพลิน อ่านสนุกอย่างเดียวนะ อ่านไปก็ได้อะไรหลายอย่างเหมือนกันนะคะ อย่างฉากจะซึ้งก็สุดๆ ดรามากันเลยทีเดียว (ยายขวัญรักหลานสาวมากจริงๆ ซึ้งมาก T___T ) สะเทือนใจไปกับนางเอก หรือ บทดรามาตอนหลังนี่ก็อึดอัดใจสงสารนางมากๆๆ

แล้วยิ่งแบบใกล้จบอะ เรื่องราวยังดูไม่คลี่คลายเท่าไร แต่หันไปมองขวามือ เหลือหน้าอีกสิบกว่าหน้าแล้วก็คิดว่าฉากหวานๆ มันจะเพิ่มได้อีกตรงหนายยย (คิดในใจ อยากให้ยืดออกไปอีกสักยี่สิบสามสิบหน้าได้หรือไม่ >< ) แต่ก็นะ บทส่งท้ายเท่าที่มีก็น่ารัก กรุบกริบให้ชุ่มชิ่นหัวใจแล้วละ เพียงพอเนาะๆ...

เอาเป็นว่านิยายเล่มนี้สมกับเป็น Good plot Good Feeling ค่ะ อ่านละฟีลกู๊ดจริงๆ มันลงตัวพอดีในหลายๆ อย่าง เหมือนจะเครียดแต่ก็ไม่ เหมือนจะดรามาแต่ก็ไม่รันทด เหมือนจะหวานแต่ก็มาแบบพอดี อ่านเพลินจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียว แนะนำให้ทุกคนหยิบมาอ่านแล้วจะอบอุ่นหัวใจเหมือนใครหลายๆ คนที่อ่านเล่มนี้ค่ะ ^^

"เพราะยายคุณรู้ว่าหากยื่นปลาให้คุณ คุณก็ต้องเอาปลาไปขายกิน และเมื่อปลาหมดคุณก็อดตาย ท่านเลยยื่นเบ็ดตกปลาให้คุณ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้คุณหาปลามากินได้" ชอบประโยคนี้จังค่ะ :):)