22 MAY, 2022

หนึ่งถ้อยร้อยรัก

คงเป็นเรื่องดี หากจู่ๆ คนธรรมดาได้รับพรให้มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ แต่พลังพิเศษที่แพทย์หญิงไอยวริญญ์ได้รับ กลับเป็นการได้ยินเสียง...จากศพ! ความปรารถนาที่ติดค้างในใจเพียงหนึ่งประการ คือสารที่คนตายบอกให้เธอรู้ทั้งที่ไม่ต้องการ หมอนิติเวชสาวจึงกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร วันๆ อยู่แต่กับศพ หากไอยวริญญ์เปรียบเป็นพระจันทร์ที่เย็นชา มืดมิดและเศร้าสร้อย ผู้กองอรรถพลก็คงเปรียบได้กับพระอาทิตย์ที่สว่างไสว มีชีวิตชีวา และอบอุ่น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในชีวิต ไอยวริญญ์ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตนเองไปโดยไม่รู้ตัว โดยไม่รู้เลยว่า ที่นายตำรวจหนุ่มเข้ามาใกล้ชิด โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานานั้น เพราะเขากำลังสืบคดีแก๊งค้าอวัยวะข้ามชาติที่ได้รับเบาะแสมาว่า มีหมอของโรงพยาบาลเลิศวิชาญเวชเกี่ยวข้องกับคดีนี้อยู่ และไอยวริญญ์...คือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยด้วยเช่นกัน
ความรู้สึกหลังอ่าน

เป็นนิยายเรื่องแรกของธุวัฒธรรพ์ที่ได้อ่าน และเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจมากๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเล่มที่บางที่สุดในทั้งสี่เรื่องของซีรีย์ชุดนี้ แต่สาระและความสนุกเต็มเปี่ยมเข้มข้นทุกหยดเลย

เรื่อง “หนึ่งถ้อยร้อยรัก” นี้เป็นเรื่องที่สองในซีรีย์รักออกอาการ (Love Symptoms) เรื่องแรกคือ “คิวรักหมายเลขหนึ่ง” ซึ่งได้เคยรีวิวไปแล้ว เมื่ออ่านต่อเล่มที่สอง ก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องเขียนรีวิว

ปมเรื่องหลักเป็นเรื่องคดีค้าอวัยวะข้ามชาติ ซึ่งแน่นอนการวางพล็อตเรื่องจึงต้องกำหนดให้มีหมอนิติเวชหรือหมอชันสูตรศพ ซึ่งผู้เขียนกำหนดบทบาทนี้ให้กับนางเอก คือ “‘พญ.ไอยวริญญ์” ซึ่งมีชื่อเล่นเก๋ไก๋ว่า “คลาริ” เสียดายที่ผู้เขียนไม่ได้บอกว่าอ่านว่าอย่างไร และหมายถึงอะไร อยากรู้เหมือนกัน จะมาจากคำว่าคลาริเน็ต หรือปี่ชวาหรือเปล่านะ และแน่นอนมีหมอชันสูตรศพแล้ว ก็น่าจะคู่กับตำรวจที่ต้องสืบสวนเรื่องที่มีการฆาตกรรมใช่ป่ะ ซึ่งก็คือพระเอกของเรื่อง ร.ต.อ. อรรถพล หรือ โบ๊ต ได้ข่าวว่าผู้เขียนนำคาแรคตอร์และชื่อมาจากตำรวจจริงๆ คนหนึ่งเชียวล่ะ แอบไปส่องดูแล้วหล่อเชียวค่ะ ทำให้มโนเห็นภาพของผู้กองโบ๊ตแจ่มชัดมาก

ในเรื่องนางเอกเป็นหมอชันสูตรศพ แต่ไม่ใช่เป็นหมอธรรมดา เธอมีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ คือ สามารถได้ยินเสียงสุดท้ายจากศพ คือประโยคที่คนตายพูดประโยคสุดท้ายก่อนตาย และนั่นเป็นเหตุให้เธอเข้ามาพัวพันกับคดีค้าอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเลิศวิชาญเวชที่เธอทำงานอยู่ อรรถพลซึ่งเป็นตำรวจที่กำลังทำคดีค้าอวัยวะอยู่ได้เข้ามาเกี่ยวพันกับคลาริ ไม่ใช่ด้วยสาเหตุของการสืบคดี แต่เป็นเพราะน้องสาวของเขาเป็นคนไข้ VVIP ของโรงพยาบาลแห่งนี้ แรกพบกับคุณหมอสาว เขาก็รู้สึกประทับใจในบุคลิกที่แปลกแตกต่างจากคนอื่น หน้าตาซีดเซียวขอบตาดำคล้ำ นิ่งเงียบ ไม่สนใจโลก และยิ่งเมื่อได้รู้ว่าเธอคือเด็กสาวที่เป็นเพื่อนเขาในวัยเยาว์ ก็ยิ่งทำให้เขาอยากค้นหาเธอมากขึ้น แต่ก็มีหลายเหตุการณ์ที่ชวนให้ไม่แน่ใจว่าเธอเกี่ยวข้องกับคดีค้าอวัยวะที่เขากำลังรับผิดชอบอยู่หรือเปล่า เขาจะจัดการเรื่องของหน้าที่กับหัวใจที่อาจต้องอยู่บนเส้นทางที่ขัดแย้งกันอย่างไรดี

ฝ่ายหมอคลาริก็ได้ยินเสียงจากศพชายต่างด้าวที่เป็นแรงงานเถื่อน ถ้อยคำนั้นเธอฟังไม่ออกเพราะเป็นภาษาพม่า แต่เมื่อสืบรู้ความหมาย “หมอฆ่าผม” เธอจึงตัดสินใจค้นหาความจริง แต่คำให้การจากศพจะเป็นหลักฐานในทางคดีได้อย่างไร ใครจะเชื่อเธอ คนเดียวที่เธออาจจำต้องขอความช่วยเหลือก็คือผู้กองโบ๊ต ผู้ที่เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตัวเธอ และทำให้ชีวิตของเธอสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่เธอจะบอกเขาอย่างไรดี เขาจะเชื่อเธอหรือไม่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรขอไม่สปอยลล์ ต้องไปอ่านในเรื่อง รับรองสนุกค่ะ

ความโดดเด่นที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้คือ พล็อตที่แน่นมาก น่าสนใจมาก การวางปมเรื่องซับซ้อนหลายชั้นมาก ตัวละครเยอะมากแต่สามารถนำมาเชื่อมโยงกันได้อย่างมีเหตุมีผล ตัวละครหลักมีปูมหลังที่ซับซ้อน ทำให้เราเข้าใจวิธีคิดและการกระทำของตัวละครมากขึ้น ชอบวิธีการเล่าเรื่องที่กระชับฉับไวและมีชั้นเชิง ชอบการใช้ถ้อยคำที่ไม่ฟุ่มเฟือย หากสละสลวยและมีวรรณศิลป์ที่ดี การเดินเส้นเรื่องหลายเส้นและทิ้งจังหวะให้สงสัย แล้วจับมาเชื่อมโยงพัวพันกันได้อย่างแยบยล ทำให้คนอ่านร่วมสงสัย ร่วมลุ้น ร่วมตื่นเต้นไปกับตัวละคร ส่วนตัวคิดว่าเป็นเทคนิคการเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่ทำได้ดีมากค่ะ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะตัวผู้เขียนเองเป็นตำรวจจึงสามารถเล่าเรื่องการสืบสวนคดีต่างๆ ได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพเรื่องราวได้อย่างชัดเจนด้วย

เทคนิคการเล่าเรื่องที่เป็นกิมมิกของเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งคือ ในตอนท้ายของแต่ละบท จะมีบทสนทนาของไลน์กรุ๊ปนางพยาบาลกลุ่มหนึ่งในโรงพยาบาล ซึ่งจะเม้าท์มอยด์ แอบจิกกัดกันบ้างอย่างเมามัน แต่ก็ทำให้เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครหรือเหตุการณ์ที่น่าสงสัยด้วย ถือว่าเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรื่องด้วย

แม้ว่าผู้เขียนผูกเงื่อนปมเรื่องไว้หลายปม แต่ค่อยๆ คลายปมได้อย่างน่าสนใจ มีการหลอกล่อคนอ่านให้เดาทางไม่ถูกว่าคนร้ายเป็นใครกันแน่ และสุดท้ายก็สามารถคลายปมคดีค้าอวัยวะได้อย่างเคลียร์ชัด ยกเว้นอยู่เพียงปมเดียวที่ทิ้งค้างไว้ยังไม่เฉลย นั่นคือ ใครคือผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมดในโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งเป็นการปูเรื่องให้ผู้อ่านต้องตามไปอ่านต่อในอีก 2 เรื่องที่เหลือในซีรีย์นี้

อ่านจบต้องบอกเลยว่าประทับใจนิยายเล่มบางๆ เล่มนี้มาก เนื้อหาเข้มข้น ได้ทั้งสาระ ความบันเทิง และอรรถรสเต็มเปี่ยม แม้ว่าอาจมีอารมณ์หวานล้ำน้อยไปนิด แต่ก็เปรียบดังได้ลิ้มลองกาแฟเอสเปรสโซ่แก้วเล็กๆ มีรสชาติขมนุ่มลิ้นเจือหวานเล็กน้อย หากทรงพลังมาก เป็นอีกเรื่องที่แนะนำค่ะ รับรองไม่ผิดหวังเลย