เพราะต่างเคยพลัดพลาด จึงกลับมาพบรักกันอีกครั้งหนึ่ง
ทว่าการพบกันครั้งนี้ ไม่เหมือนกับครั้งก่อน
จากสาวแสนซื่อกลับมาเป็นมัณฑนากรสาวแสนสวย
จากชายหนุ่มผู้อาภัพรัก กลับมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอม
รักคงไม่เกิด หากทั้งสองไม่อาจจำ “สัญญา” เก่า
ทว่าทั้งสองกลับจำได้แม่น และผูกพันทันทีที่ได้พบ
แต่บาปกรรมไม่อาจยกเว้นผู้หนึ่งผู้ใด เขากับหล่อนก็เช่นกัน
มาร่วมลุ้นกันว่า “รักแท้” จะอยู่เหนือกาลเวลาจริงหรือ
มหัศจรรย์รักจากดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์จะช่วยพวกเขาได้แค่ไหน
และเจ้ากรรมนายเวรจะสามารถพรากหัวใจรักได้ทุกภพชาติอีกหรือไม่
ในนวนิยายรักเร้นลึกที่เป็นบทพิสูจน์สำหรับทุกดวงใจที่ไม่เคยลืม “รัก”
ความรู้สึกหลังอ่าน
นามปากกา “วสุทิยา” เป็นนามปากกาใหม่ที่เพิ่งเคยรู้จัก และไม่ค่อยมีผลงานแพร่หลายมากนัก ลองซื้อเรื่องนี้มาอ่านเพราะชอบแนวอดีตชาติอยู่แล้ว หลังจากอ่านบอกได้เลยว่า “เยี่ยม” แม้จะเป็นหนังสือเล่มบางๆ แต่กลับสร้างความประทับใจได้อย่างมากจริงๆ จนต้องมาเขียนรีวิวเลย
โครงเรื่องหลักเป็นแนวระลึกชาติกลับชาติมาเกิด นางเอกและพระเอกผูกพันกันตั้งแต่ในอดีตแต่ไม่ได้สมรักกัน นางเอกในอดีตชาติมีชีวิตที่ค่อนข้างอาภัพ แต่มุ่งมั่นในการเป็นคนดีจนทำให้ถูกหลายคนรังแก ส่วนพระเอกในอดีตเป็นผู้ชายแสนดี รักนางเอกมากๆ แต่ด้วยฐานะทางสังคมต่างๆ เป็นอุปสรรคในความรักของทั้งคู่ นางเอกได้อธิษฐานไว้ก่อนตายว่าจะกลับมาเจอกันกับพระเอกอีก จะจดจำกันได้และจะได้ครองคู่กัน เมื่อทั้งสองมาเกิดในชาติปัจจุบัน ได้พบกันครั้งแรกก็รู้สึกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน ซึ่งพระเอกฝันถึงนางเอกตลอดมาตั้งแต่ก่อนที่จะได้เจอกัน เมื่อแรกเห็นรูปนางเอก แม้เพียงภาพด้านข้าง ก็มั่นใจว่าเธอคือนางในความฝันแน่นอน เขาจึงได้จ้างบริษัทออกแบบของเพื่อนมาปรับปรุงเรือนไทยของเขา โดยระบุให้มัณฑกร ต้องเป็นเธอ “เกศแก้ว”
“เกศแก้ว” ได้เข้ามาตกแต่งเรือนไทยของ “ภาส” และได้พบเจอ “ปาล” ดวงวิญญาณชายหนุ่มที่ยังรอคอย “แม่เกด” ซึ่งคือเกศแก้ว ในอดีตชาติ ปาลช่วยให้เธอจดจำอดีตได้โดยผ่านกลิ่นของดอกปาริชาต หรือ ดอกทองหลาง วิญญาณของเขาต้องฝังติดกับต้นทองหลางมายาวนาน เพื่อรอคอยการอโหสิกรรมจากเธอ หลายดวงวิญญาณในอดีตได้มาเกิดใหม่ในภพปัจจุบัน และได้มีความเกี่ยวพันโยงใยกัน บางคนที่ยังยึดติดกับความอาฆาตแค้นในอดีตก็ยังคงติดตามมาสร้างกรรมอีกครั้งในยุคปัจจุบัน เล่ามากไม่ได้ค่ะ อ่านเองจะสนุกกว่า
แม้ว่าพล็อตเรื่องนี้ ดูๆ ไปอาจคล้ายหลายเรื่องผสมกัน แต่ก็มีรายละเอียดแตกต่างไป แต่ด้วยสำนวนภาษาการเล่าเรื่องของผู้เขียนที่ละเมียดละไม แช่มช้อย นุ่มนวล ทำให้ความรู้สึกว่าพล็อตเรื่องคล้ายๆ กับนิยายเรื่องอื่นไม่ได้เป็นสาระอีกต่อไป ผู้เขียนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครผ่านตัวอักษรได้อย่างลุ่มลึก มีติดใจในช่วงสุดท้ายเล็กน้อย ที่ผู้เขียนไม่ได้คลี่คลายว่า วิญญาณของ “คุณปาล” จะเป็นอย่างไร โดยให้ผู้อ่านไปจินตนาการต่อเอาเอง แต่ก็พอเดาทางได้ค่ะ
นิยายเรื่องนี้ได้สอดแทรกเนื้อหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ และข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งแสดงถึงการทำการบ้านมาอย่างดีของผู้เขียน ทำให้ผู้อ่านได้สาระความรู้และความบันเทิงไปอย่างพอเหมาะเลย โดยรวมถือว่าเป็นนิยายน้ำดี ที่มีคุณค่าสำหรับการอ่าน ขอแนะนำค่ะ อยากเห็นผลงานของ “วสุทิยา” ออกมาอีกมากๆ ค่ะ
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ
18 ซอยลาดปลาเค้า 63 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220