บทที่ ๕

5

ชนะสิบทิศ ดั่งบุเรงนอง

หมดเวลาซ่อนเร้นสายเลือดสยาม รามัญเผยความเป็นไทยให้แม้นวาดทราบจากวัฒนธรรมทางภาษา ใช่เพียงร่ำเรียนหรือฝึกสนทนา ทุกพยางค์ชัดเจนไม่แปร่งปร่า ตาคมวาวตวัดมอง ‘ถุงยางเจ้าปัญหา’ ในเชิงยอมจำนน ไม่ปฏิเสธให้เสียศักดิ์ ยืดอกรับว่ามันเป็นของเขาเอง  

“ละ...แล้วใครล่ะเมียคุณ ยายมดแดงใช่ไหม!” ป้าของกาไชยจี้ถาม อุปกรณ์ประกอบการมีเพศสัมพันธ์นั่น ใช้มันกับยายผมชมพูสักที่หลังนี่ล่ะสิ 

เธอยกนิ้วชี้จิ้มหน้าอกว่าที่หลานสะใภ้ โกหกหน้าด้านๆ เลยนะนังคนนี้ “ไหนแกว่าเขาฟังไม่รู้เรื่องไง ยอมรับมานะยายมดแดง ว่าเขาเป็นผัวแก มีผัวอยู่แล้วยังจะมาแต่งกับหลานชายฉันอีก!”

คนโกหกของป้าเบี่ยงร่างหลบ หายอึ้งเดี๋ยวนั้น กลายเป็นคนผิดสัจจะเสียแล้วฉัน นี่ก็เพิ่งรู้คือกันค่า ว่าไอ้เกาหลีต่างด้าวต่างแดนนี่ฟังรู้เรื่องทุกคำ!

“เขาไม่ใช่ผัวฉันนะป้า ไม่ใช่” เค้นเสียงต่ำประคองสติไว้ แม้ใจจะเดือดดาลจวนระเบิด อยากตอกหน้านักว่า เขาก็แค่ผู้ชายที่เธอซื้อมานอนด้วย แต่ก็กลัวป้าแกจะเอาไปโพนทะนาบอกปู่ ชายชราคงกระวีกระวาดออกจากคลองเตยทันทีที่รู้

“นังตุ๊ดต่างหากคือคนที่ฉันอยากได้เป็นผัว” ยืนยันทั้งรอยยิ้มเสแสร้ง ก่อนจะปะทะคารมกับหญิงสูงวัยด้วยมาดนางพญามด อย่าคิดว่าแม้นวาดจะยอมสยบง่ายๆ

“ป้านั่นแหละ โง่หรือเปล่าเนี่ย หลานสะใภ้ร้วยรวยอย่างฉัน ป้าจะรังเกียจเดียดฉันท์อะไรไม่ทราบฮะ”

หญิงสูงวัยเบ้ปาก ใครคนอื่นอาจอิจฉาที่แม่ค้าสาวจะมาร่วมวงศ์เกี่ยวเรือนเป็นครอบครัวเดียวกันกับเธอ แต่เกสรรู้จักอีกฝ่ายดีเกินกว่าจะระริกระรี้เพราะทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้าน คนอย่างแม้นวาดไม่มีทางยอมให้เงินทองตกถึงมือเธอกับลูกสักแดงเดียว

“ถึงป้าจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ขวางเราไม่ได้ ยังไงฉันก็จะเป็นเมียมัน!”

ย้ำให้ทราบโดยทั่วกัน ไอ้เกาหลีต่างแดนอาจจะนิ่งไม่เอ่ยอะไร ทว่าป้าของกาไชยขุ่นข้อง

“แล้วตอนนี้หลานฉันมันอยู่ไหน กอล์ฟมันหายหัวไปนานแล้วนะ”

นับแต่ทราบข่าวร้ายตุ๊ดตะลึงจากหมอ กาไชยพาตัวเองออกห่างจากวงศาคณาญาติ แม้นวาดเองก็ตั้งใจว่าจะไม่ปริปาก ขืนให้รู้ความจริงว่ากาไชยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ครอบครัวป้าคงยกโขยงไปตอแยคนป่วย อาการกาไชยคงกำเริบแหง

“แกรู้ใช่ไหมมดแดงว่ามันอยู่ไหน บอกฉันมานะ!”

โดนเค้นอย่างไร แม้นวาดก็ไม่แยแส เธอผายมืออัญเชิญทั้งป้าและผัวเก็บ ไล่ทางอิริยาบถและสายตาเขียวขุ่น กรุณาออกไปจากห้องฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้! 

ความคมคายที่เธอถูกใจจนยอมจ่ายเงินให้ก็ยังช่วยรามัญไว้ไม่ได้ ชายหนุ่มปล่อยให้คนโมโหอยู่ตามลำพังสมใจ ร่างสูงล่ำเดินเคียงมากับป้าของกาไชย กระทั่งถึงจุดรอรถโดยสารหน้าแม้นวาดเพลส เพราะได้ยินกับหูและเห็นกับตาว่าหญิงสูงวัยกำลังโวยวายกับผู้จัดการอะพาร์ตเมนต์นั่นแหละ เขาถึงเลื่อนการนัดหมาย อยากแสดงตัวให้อีกฝ่ายรู้ว่าแม้นวาดมีเขาอยู่

“ในมุมมองของคุณป้า มดแดงเขาแย่มากเลยเหรอครับ คุณป้าถึงต่อต้านการแต่งงานขนาดนี้”

หากกาไชยยังเป็นชายแท้ชอบสตรี เกสรจะสนับสนุนวิวาห์นี้หรือเปล่า ในเมื่อหลานชายก็มีกินมีใช้เพราะแม้นวาด หญิงสูงวัยจะซาบซึ้งจนยกหลานชายให้เลยไหม

“จริงๆ มดแดงมันก็ไม่ได้แย่หรอกคุณ มุมดีๆ มันก็มี แต่แค่มุมร้ายมีเยอะกว่ามาก ทั้งร้าย ทั้งเขี้ยว ต่อให้หลานฉันเป็นกะเทยกลับใจ ฉันก็ไม่อยากให้มันมาเป็นหลานสะใภ้ฉันอยู่ดี”

เสียงทอดถอนใจสะท้อนว่าเกสรไม่ได้เกลียด แต่กลัวแม้นวาดต่างหาก บ้านอื่นอาจมีปัญหาที่ลูกหลานวางตนผิดไปจากเพศสภาพ แต่เกสรไม่ขัด ระแวงมาตลอดว่าผีจะผลัก เกรงว่ากาไชยจะหน้ามืด คว้าแม้นวาดเป็นภรรยา คราลูกคาบข่าวมาบอกกัน เกสรช็อกหน้าเผือด ตาเบิกถลน

“แล้วคุณน่ะบ้าหรือเปล่า ทำไมยอมให้กะเทยแย่งเมีย” ป้าของกาไชยบ่นอย่างขัดอกขัดใจ มองใบหน้าหล่อคมคายแล้วก็ให้งุนงง

“แล้วใครว่าผมยอมครับ ผมไม่ยอม” ตอบแน่วแน่ไม่มีอ้อมค้อม รามัญยิ้มมุมปาก เพราะเชื่อมั่นในพรจากมารดา 

‘แม่ขอให้มินโฮของแม่ เป็นผู้ชนะสิบทิศเหมือนพระเจ้าบุเรงนอง’

รามัญถึงทะนงตนเสมอมา ว่าจะเดินตามรอยมหาราชผู้ยิ่งใหญ่แห่งหงสาวดี หากคิดจะลั่นกลองรบสู้กับใคร รามัญไม่เคยแพ้พ่าย

“คุณป้าไม่ต้องห่วง ผมจะแย่งเมียกะเทยเอง และผมก็มั่นใจด้วย ว่าแย่งได้!”

ใคร่อยากทราบเหลือเกินว่าไอ้เกาหลีนั่นเป็นใครกันแน่ คนกลางในศึกชิงนางระหว่างชายแท้ชายเทียมกระหายความจริงจากมินโฮใจแทบขาด ร่างอ้อนแอ้นชะเง้อมองเขากับป้าเกสรจนสุดสายตา ก่อนจะปิดม่านด้วยความกระฟัดกระเฟียด ไอ้เรื่องโดนเขาปกปิดสายเลือดสยามในตัวน่ะไม่เท่าไหร่ เธอแค่อับอาย มิรู้ว่าโชว์โง่ไปกี่ดอก หลอกด่าเขาก็เยอะ พอจะกดส่งข้อความหาเกลอกะเทย กะว่าจะพล่ามชุดใหญ่ ความขุ่นมัวจะได้ระบายออกบ้าง แต่นังเกลอกะเทยกลับต่อสายมาเผยความลับทางชาติเชื้อของหนุ่มแดนโสมทั้งความตระหนกร้อนรน บทบาทที่เราสมมุติเอาฮา เป็นความจริง!

กรี๊ดดดด ข่าวช็อกชะนีตะลึง!

“มึงจะบ้าเหรอคะนังตุ๊ด จะบอกว่าไอ้เกาหลีนั่นคือหลานชายของฮวังแจกรุ๊ปงั้นเหรอ!”

“ค่ะ ตอนเขาบอก ฉันก็ช็อกแบบหล่อนนี่ละ”

เสียงคนป่วยแหบพร่าแบบที่ฟังออกเลยว่ากาไชยพยายามข่มความตกใจ และ ‘เขา’ ที่ว่านั้นก็กำลังอยู่กับกาไชย ดูเหมือนจะกดดันให้คนป่วยตามเธอไปพบด้วย

“หล่อนมาเลยนะมดแดง ฉันกลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว”

เกลอกะเทยไม่ต้องขอ แม้นวาดก็ตั้งใจว่าจะรีบแจ้นไปอยู่แล้ว เธอจัดการแปลงโฉมสารรูป คิดอะไรไม่ออกก็กระโปรงยีนสั้นเสื้อกล้ามขาว หาสูทสีเดียวกันมาสวมทับเพื่อความเก๋ แล้วบึ่งรถสปอร์ตคู่ใจออกจากแม้นวาดเพลส ในหัวก็คิดวกวนถึงสาแหรกสายใยภายในสกุลคิม เกือบทุกคนในครอบครัวนั้นมีชีวิตกึ่งส่วนตัวกึ่งสาธารณชน แน่ละว่าพวกเขาคงไม่เปิดเผยทุกอย่างให้โลกรู้ แต่กับการถือกำเนิดของสมาชิก เหตุสำคัญเพียงนี้ไม่อาจปกปิด ค้นหาข้อมูลอย่างไรก็ไร้เงาชายที่เธอนอนกก หากคนที่อยู่กับกาไชยไม่ได้โกหก ความเป็นไปได้เดียวสำหรับสถานภาพของมินโฮนั้นก็คือ...ลูกนอกสมรส

“ครับ คุณมินโฮคือลูกนอกสมรสของคุณคิมจุนยอง....”

ชายวัยกลางคนผมเรียบแปล้ ทรงเลขาฯ มาดนิ่งผู้ภักดีต่อเจ้านาย ช่วยยืนยันข้อสันนิษฐานของแม้นวาด ดวงตาบนใบหน้าเรียบเฉยมองหญิงสาวอย่างประหลาดใจ เธอคงมีดีพอตัว ถึงรั้ง ‘ไอ้หมาบ้า’ ประจำสกุลคิมไว้ได้นานขนาดนี้ ปกติมินโฮแทบไม่เคยค้างกับใครเกินสองวัน

“คิมจุนยอง ลูกชายคนโตของคิมยองแจ คนที่เพิ่งถูกจับกุมน่ะเหรอคะ...”

พ่อของเขา...แม้นวาดรำพึงอึ้งงัน พลันฉุกคิดถึงท่าทางแปลกพิกลของมินโฮ เมื่อคราวเขาเปรยถึงราชาผู้ฉาวโฉ่แห่งโชซอน แม้นวาดค่อยๆ จับต้นชนปลาย หรือความจริงแล้ว เขาไม่ได้หมายถึงอดีตกษัตริย์ แต่ถามแทนตัวเขาเอง ผิดไหม หากอยากล้างผลาญทำลายทุกอย่าง เพื่อแก้แค้นแทนแม่ อย่าบอกนะว่า...

“ครับ คุณมินโฮเป็นคนส่งคุณคิมจุนยองเข้าตะราง ฮวังแจกรุ๊ปวุ่นวายก็เพราะเขา”

อย่างกับจงใจจะทำลายชีวิตพ่อ ในเวลาที่คิมจุนยองกำลังจะรุ่งโรจน์ เพราะอีกไม่นานคิมจุนยองก็จะเป็นผู้สืบทอดของฮวังแจกรุ๊ปอยู่รอมร่อ จู่ๆ มาโดนรวบตัวคาบ้าน เป็นเหตุที่ใครก็ไม่อาจคาดหมาย 

ไอ้ที่มินโฮเคยบอกแม้นวาดว่า ‘ผมทะเลาะกับเจ้านาย โดนเขาไล่ออกจากงาน เครียดๆ เลยมาพักผ่อนที่ไทย’ นั่น มีความหมายซ่อนเร้นว่าเขาก่อปัญหาให้ฮาราบอจี หรือคุณปู่วัยชราถีบหัวส่งใช่ไหม ทำธุรกิจครอบครัวโกลาหลวอดวายปานนั้น 

“แล้วยังไงคะ คุณต้องการอะไรจากฉัน” แม้นวาดยิงตรงเข้าเจตนาของอีกฝ่าย รอฟังจุดประสงค์สำคัญของการมาพบ ก่อนจะหันขวับมองสบตากับเกลอกะเทยด้วยเธอต้องเจอกับภารกิจยิ่งใหญ่เอาการ 

“คุณมินโฮยังมีเขี้ยวเล็บอีกมาก หลักฐานในมือเขาร้ายแรงพอจะทำให้ฮวังแจกรุ๊ปพินาศย่อยยับ เรา...อยากได้หลักฐานนั้น”

โดนคนของตาแก่หลอกตลบหลัง ไม่ยอมมาตามนัดหมาย แถมยังพ่วงสายให้รามัญได้ยินการเจรจาภายในห้องพักผู้ป่วย ชายหนุ่มกัดกรามขึ้นสันตลอดเวลา กระทั่งแม้นวาดขอยื่นหมูยื่นแมว ‘ของแลกเปลี่ยนล่ะคะ มาคุยกับแม่ค้า มาขอฟรีๆ ไม่ได้หรอกนะคุณ’

รามัญเจ็บปวดจนฟังต่อไม่ไหว เหมือนถูกตาแก่คิมยองแจเหยียดหยามเอาคืน นี่น่ะเหรอผู้หญิงที่อยู่กับแก ฉันเอาเหยื่อไปล่อเข้าหน่อยก็ติดกับแล้ว 

ณ วินาทีนั้น ลึกๆ เขาอยากให้แม้นวาดบอกปัด อยากให้แม้นวาดตอกกลับว่าไม่ ฉันจะไม่หักหลังคุณมินโฮ แต่พอเธอเลือกจะถามถึงผลประโยชน์ที่ควรได้รับ ใจเขามันผิดหวัง แม้นวาดไม่เข้าใจความคับแค้นของเขาเลย

“ผมรู้เรื่องแล้วนะมดแดง”

ชายหนุ่มเปิดปากต้อนรับหล่อน เธอกลับถึงห้องช้ากว่าเขาเล็กน้อย มองตากันแล้วก็รู้ว่าต่างคนต่างก็กำลังคร่ำเคร่งใคร่ครวญ

“ค่ะ ฉันก็รู้เรื่องของคุณแล้วเหมือนกัน”

คร้านจะเฉไฉให้เหนื่อยเปล่า แม้นวาดเชิดหน้าตอบ ยืนนิ่งไม่หลบเมื่อเขาเดินอาดๆ มากระชากแขน

“คุณจะทรยศผมเหรอมดแดง ทำไม ทำไมคุณต้องหักหลังผม!”

“แล้วคุณล่ะ ทำไมไม่แก้แค้นด้วยการเอาทุกอย่างมาเป็นของคุณ คุณทำลายฮวังแจกรุ๊ปก็เท่ากับว่าคุณทุบหม้อข้าวตัวเองด้วยนะ!”

หากฟังในยามปราศจากทิฐิและความโกรธเกรี้ยว รามัญอาจมองเป็นความหวังดีได้ แต่พอมาฟังยามนี้ รามัญคิดไปในทางอื่นไม่ได้เลย...

“ทำไม ที่เขาจะให้มันอะไรล่ะ หุ้นของฮวังแจกรุ๊ปใช่ไหม คุณถึงจะหาหลักฐานไปให้เขา ผมไม่นึกเลยนะว่าคุณเห็นแก่เงินขนาดนี้!” ตำหนิเสียงกร้าว มองแม้นวาดด้วยสายตาแวววาวดูแคลน ทำเอาเธอหน้าชาคอแข็ง 

“เออ ก็ฉันเคยจนมากนี่ คนอย่างฉันน่ะ ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ!” แค่นยิ้มตอบโต้ ก่อนจะตกใจตาโต เพราะเขาถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแค่กางเกงชั้นใน 

“งั้นก็มาค้นสิ มาหาเอาเลย!” ปากหยักส่งคำเชิญ ยั่วให้เธอมาตรวจตราหาหลักฐานที่ว่า มือเขาค่อยๆ เกี่ยวปราการชิ้นจิ๋วนั้นจากเอวสอบ ปลดปล่อยไส้กรอกแท่งยาวสู่สายตาแม้นวาด มันกำลังชูชันท้าสู้กับนางพญามดแดง

“เอาสิ จะค้นด้วยมือ หรือค้นด้วยลิ้น ก็ตามใจคุณ!”

     

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น