บทที่ ๔

4

ทูอินวัน

‘ไม่ได้! คุณเข้าใจคำว่าแอบแซ่บจริงๆ ไหมเนี่ย แอบก็คือห้ามประเจิดประเจ้อ ห้ามให้คนอื่นรู้ หรือต่อให้รู้ก็ควรจะรู้น้อยที่สุด ไปแสดงตัวแบบนั้นก็เหมือนเรียกแสง กระตุ้นต่อมเผือกของชาวบ้านชาวช่อง!’

ไม่เป็นผลดีต่อการจดทะเบียนสมรส แม้นวาดบอกอย่างนั้น รามัญโดนเธอปฏิเสธชนิดที่ตัวเขาเองก็เหลอ อุตส่าห์หว่านเสน่ห์ชายชาญว่าผมจะสงบเสงี่ยม ไม่ให้ใครเอะใจได้เลยว่าเราเป็นอะไรกัน แม้นวาดยังคอแข็งยืนกราน ห่วงสถานภาพของว่าที่เจ้าบ่าวมากกว่ารามัญ

“เขาจะแต่งงานกับคุณ ยังไงเขาก็จะแต่งกับคุณ ทำไม!”

ตะคอกเสียงกร้าว ร้อนรนหงุดหงิดจนต้องแล่นมาหาเรื่องคนป่วยถึงโรงพยาบาล กาไชยสะดุ้งโหยง ไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่างพ่อคุณเขาออกเสียงสยามคล่องปาก หรือหวาดเกรงต่อความเข้มเครียดนั้น มือสีซีดดึงผ้าห่มมาคลุมกาย หวังว่ามันจะช่วยคุ้มครองร่างผ่ายผอมจากชายแดนโสม 

“ทะ...ทำไมอะไรครับ” ยังลงท้ายคำสร้อยตามเพศดั้งเดิม ก่อนจะหลุดกรี๊ดตุ๊ดแตกเมื่อร่างสูงล่ำพุ่งมาประชิดเตียง

“ทำไมต้องเป็นคุณเท่านั้น ทำไม!”

“คะ...คือว่าเราอยู่กันได้นี่คะโอปป้า”

“อยู่กันแบบไหน แบบเพื่อนสาวน่ะเหรอ!”

“ค่ะ แบบเพื่อนสาวนั่นแหละ”

ยังไงเขาก็คงดูออกว่าอะไรเป็นอะไร กาไชยหัวเราะเจื่อน คร้านจะปกปิดเบื้องหลังของวิวาห์จำเป็น อ้อมแอ้มเลียบเคียงถามเขา

“โอปป้าชอบมดแดงเหรอคะ” 

หนุ่มแดนโสมไม่ตอบ ทว่าร่างสูงล่ำก็ชะงักไป เปิดช่องให้คนป่วยซักไซ้

“หรือว่าเพราะสัญชาตญาณของคนเกาหลี แบบว่าคนเกาหลีชอบแข่งขัน”

“คงใช่ ถ้าแข่งกับผู้ชายด้วยกัน ผมแน่ใจว่าเอาชนะได้”

กัดฟันตาขวางข่ม ‘ชายเทียม’ ความเป็นอริฉายชัดจนคนป่วยอยากจะร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล สุดหล่ออย่ามองกันแบบนี้สิคะ นี่ตุ๊ดค่ะ ตุ๊ด!

“แต่ในร่มผ้าของฉันก็ยังไม่ผ่าออกนะคะ ยังมีแท่งชายแท้อยู่ ถ้าเอาตามเพศสภาพ ฉันจะทำให้มดแดงท้องก็ทำได้ค่ะ ติดแค่ว่าไม่มีอารมณ์จะทำ”

เพราะแม้นวาดเป็นทั้งน้อง เพื่อน ครอบครัว คราเขาอ่อนแอล้มเหลว หล่อนก็มักจะแปลงร่างเป็นมารดาเตือนสติ ถึงจะเด็กกว่ากาไชยสองปี แต่มดแดงกลับเป็นผู้ใหญ่และกล้าแกร่งกว่ามาก

“แปลว่าผมต้องเอาชนะคุณให้ได้ใช่ไหม”

“เอาชนะเพื่ออะไรล่ะคะ ทำไมต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ มันท้าทายมากเลยละสิ” กาไชยมองค้อนหนุ่มเกาหลี ทว่าก็อดลุ้นระทึกไม่ได้ หรือนังมดแดงของฉันจะเจอดีเข้าให้

“ใช่ มดแดงยอมเสียเงินซื้อคุณ นอนกับคุณ แต่ก็เป็นอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ไม่แคร์อะไรกับความสัมพันธ์ทางกาย ต่อให้ติดใจเซ็กซ์จากคุณแค่ไหน แต่ถ้าคุณจะออกไปจากชีวิต นางก็ไม่รั้งคุณหรอกค่ะ ยายคนนี้น่ะมีผัวยาก” นินทาแม่ค้าสาวอย่างสนุกสนาน กาไชยหัวเราะขัน สดชื่นขึ้นทันตา เมื่อเห็นว่าหนุ่มแดนโสมทำท่าจะค้าน แต่ก็ไม่รู้จะค้านยังไง

“มดแดงเองก็รู้ว่าตัวเองมีผัวยาก นางไม่ชอบปรับตัว ไม่จำเป็นต้องอดทนกับอะไร หิวก็ซื้อกิน เต็มใจจะเลี้ยงผู้ชายมากกว่าจะให้ผู้ชายมาเลี้ยง”

ถึงจะไม่ใช่ลูกคุณหนูไฮโซหมื่นล้าน ไม่ใช่ทายาทอัครมหาเศรษฐี แต่อีกไม่ช้าไม่นานเร็วๆ นี้ เชื่อเถอะว่าแม้นวาดจะรวยพันล้านได้ไม่ยาก มีเงินมากพอจะไม่ง้อใคร

“เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ นี่คะ ถ้าได้ผัวรวย นางก็กลัวว่าต้องเป็นฝ่ายยอมเขา เอาใจลูกค้าก็หมดแรงแล้ว ยังต้องมาบริการเอาใจผัวอีก เหนื่อยตาย”

“...”

“แล้วนางก็ไม่ชอบจีบกับใคร ไม่ว่างมาเดาทางผู้ชาย ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรในตัวนาง ใจจะตรงกันไหม นางว่าเสียเวลาชีวิต ขอไปขายของหาเงินดีกว่า”

เจอพ่อหนุ่มแดนโสมครั้งแรกแทนที่จะชวนเดตสานสัมพันธ์ แม้นวาดถึงเลือกจะเอาเงินฟาดหัว ไม่มัวพิรี้พิไร เกี้ยวพาราสีกับเขา

“ถ้าต้องเลือกระหว่าง ผู้นำครอบครัวที่จะดูแลปกป้องนางในทุกสถานการณ์ กับคนที่แค่เตรียมน้ำให้นางสักแก้ว เวลานางอยากพัก คุณเชื่อไหม ยายมดแดงจะเลือกคนหลัง”

เอ่ยตามจริงแบบไม่ใส่สี กาไชยลองหยั่งท่าทีหนุ่มเกาหลี ประเทศเขาถือค่านิยมชายเป็นใหญ่ คงไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติอิสตรี แต่เขากลับหัวเราะหึ 

“แล้วถ้าผมเป็นได้ทั้งสองล่ะ...”

จะยอมถือน้ำรอภรรยา วงแขนของรามัญพร้อมจะโอบกอดผู้หญิงของเขาในทุกสถานการณ์ จะไม่ปล่อยให้เธอระทมทุกข์เช่นมารดา 

“คุณรู้ไหม ถ้าผมรักผู้หญิงสักคน เธอคนนั้นไม่จำเป็นต้องเคาะแค่ข้อใดข้อหนึ่ง”

ไม่ควรต้องมานั่งปวดหัวเลือกสรร พอดีว่ารามัญเป็นผู้ชายทูอินวัน ครบเครื่องได้ในคนเดียว!

ทำใจตั้งแต่เลี้ยวรถสปอร์ตคันโปรดเข้าแม้นวาดเพลส ว่ากลับมาแล้วอาจไม่เจอหนุ่มแดนโสม แม่ค้าสาวมีคำขวัญประจำชีวิต ถ้าไม่อยากผิดหวังในตัวใคร ก็จงอย่าคาดหวังในตัวเขา เยื่อใยระหว่างเราก็ช่างเบาบาง นิยามความสัมพันธ์ก็ประจักษ์ชัด อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ หากเขาจะหายไปตามทาง ไม่ว่าจะล่องเหนือลงใต้ ย่ำเท้าสูดกลิ่นดินทั่วไทย หรือบินกลับเกาหลีใต้บ้านเกิด แม้นวาดไม่คิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์อะไรไปหวงห้าม แต่หากถามว่าเปิดประตูเข้าห้องแล้วยังเจอเขา ร่างสูงล่ำอวดอกผึ่งผาย เอวสอบสวมเพียงบ็อกเซอร์ขาวแนบเนื้อ มันดีไหม เธอก็ซื่อสัตย์พอจะยอมรับว่าใช่ มันดี อิ่มเอิบกับอาหารตาหวิวหวาม อาหารใจอุ่นซ่าน อย่างน้อยก็มีคนรอเธออยู่

“ทำไมกลับดึกจัง ขายอะไรบ้าง”

พอเขาลุกจากเตียงมาหากัน ความอ่อนล้าก็พลันจุกอยู่ในอก มันอยากจะบ่น อยากจะโวยวาย อยากจะกรี๊ดให้แก่ความเหน็ดเหนื่อย ความปวดประสาทจากคอมเมนต์ร้อยพ่อพันแม่ 

“ก็ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ของกินของใช้ ขนมนมเนย ภาชนะเครื่องครัว ไหมขัดฟัน ลิปสติก แป้งพัฟ...” ร่ายมาแล้วก็ถอนใจยาว นั่นยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ แม้นวาดเดินโซเซ ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้า เดรสสั้นสายเดี่ยวเขียวมะนาวร่นขึ้นจนเห็นขาอ่อน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเพราะสัมผัสจากมือใหญ่ 

“อยู่เฉยๆ เถอะน่า ผมจะนวดขาให้เอง” ชายหนุ่มเอ่ยปากอาสา ขอเป็นหมอนวดเฉพาะกิจ ออกแรงบีบคลายกล้ามเนื้อให้หญิงสาว อมยิ้มบางเมื่อเธอยอมว่าง่ายแน่นิ่ง ปล่อยให้เขาปรนนิบัติพัดวี 

“มดแดง...”

“ฮื่อ...”

“คุณจะแต่งกับเขาเมื่อไหร่เหรอ” เสียงเรียบเรื่อยชวนคุยสบายๆ ไม่ให้เธอจับไต๋ได้ว่าเขาจดจ่อรอฟังแค่ไหน หมอนวดหนุ่มลูบไล้ปลีน่องเธอเบาๆ 

“หมอดูให้ฤกษ์มาแล้ว อีกเดือนกว่า” เจ้าสาวหลุดปากบอกเขา ตาปรือหาวหวอดง่วงเหงา เตือนตัวเองกลายๆ ว่าเหลือเวลาแรดร่านอีกไม่นาน แผนลิ้มรสไส้กรอกตามรอยแม่กากีจะสำเร็จเสร็จสิ้นไหมหนอ เธอนึกขำครามครัน ทว่ารามัญไม่ขำด้วยแม้แต่น้อย คำตอบนั้นทำหมอนวดหนุ่มชะงักงัน แววตาลุกโชน มือใหญ่เกือบจะลืมตนบีบเค้นเน้นหนักให้เธอเจ็บ

“ทำไมเร็วนักล่ะ จะเตรียมงานทันเหรอ”

“ไม่ทันก็ต้องทัน หมอดูบอกว่าเป็นวันธงชัย ฤกษ์ดีมาก...”

หากจดปากกาตรงเพลาเก้าโมงเก้านาที ยิ่งเป็นศรีเป็นคุณ ดวงเธอกับกาไชยจะหนุนนำกันและกัน โรคภัยจะทุเลาหายทรุด ธุรกิจจะเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองชัชวาล ทว่าข้อควรระวังก็พอมี หมอดูท่านแนะทั้งน้ำเสียงขึงขัง ถ้าไม่แต่งวันนี้ก็จะไม่ได้แต่งเลย!

ทั้งแม้นวาดและคนป่วยต่างก็พรึงเพริดเหงื่อแตกพลั่ก ไม่เคยลืมคำเตือนชวนขนลุก พานกลัวกันว่ากาไชยจะสิ้นลมปราณ ตายตกเสียก่อนจะได้วิวาห์ ไม่มีใครคาดหรอกว่าอุปสรรคชิ้นโตนั้นหาใช่สังขารร่วงโรย แต่อาจจะเป็นชายที่แม้นวาดดึงเขาเข้ามานัวเนียพัวพัน

รามัญกระตุกยิ้มร้าย ไม่นึกฝันเช่นกันว่าจะมีวันที่ตนอยากเปิดศึกชิงเมียกับชายเทียม ตัดสินใจเด็ดขาดนับแต่กาไชยส่งสาร

‘ถ้าโอปป้าจะทำเรื่องชั่ว โอปป้าก็มีโอกาสแค่ช่วงนี้แหละค่ะ เพราะถ้าแต่งกันแล้ว ฉันอาจจะเป็นกะเทยกลับใจ จับมันทำเมียจริงๆ!’

ไม่รู้ว่าคนป่วยคิดพิเรนทร์อะไรถึงมาท้าทายให้รามัญลงละเล่นแข่งขัน ครั้นจะให้เขาปัดคำเชิญนั้นทิ้งไป ก็เกรงว่าจะโดนกาไชยเย้ยหยัน ทำไมคะโอปป้า โอปป้ากลัวจะแพ้ตุ๊ดใช่ไหม

“มดแดง...”

รามัญก้มกระซิบใกล้ๆ ปากขบเลียใบหูยั่วเย้า นิ้วสอดเข้าใต้ชุดเดรส ชอนไชหาความนุ่มหยุ่น ร่างอ้อนแอ้นอาจกระตุกวูบตามกลไกธรรมชาติของเรือนกาย ทว่าตายาวรีกลับค่อยๆ ปิดสนิท ฝืนความง่วงไม่ไหว หมอนวดหนุ่มกระซิบเรียกซ้ำๆ เธอก็ยังไร้เสียงขานรับ หลับครอกทั้งที่รามัญกำลังตื่นคึก ทำเอาชายหนุ่มนิ่วหน้าฉุนกึก เดี๋ยวโอปป้าลักหลับเสียดีไหม

“ช่วยไม่ได้ เจ้าบ่าวคุณท้าผมเองนะมดแดง”

เป็นกาไชยเองที่เปิดทางให้เขาแย่งแม้นวาด รามัญหัวเราะหึมาดมั่น ไม่เคยหวั่นกับศึกนี้หรือศึกไหน เลือดสยามในกายอาจบอกให้เขารักสงบ แต่เลือดเกาหลีในอกบอกให้รบไม่ขลาด!

กำลังสะลึมสะลือ หลับหลายชั่วโมงแล้วก็ยังงัวเงีย แต่พอถูกปลุกด้วยเสียงพร่ากระเส่า ‘ผมมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวค่ำๆ ผมกลับมานะ’ จากปากผัวเก็บบำเรอราคะ แม้นวาดนี่ต้องหักห้ามใจเสียแทบแย่ว่าอย่าสาระแนชีวิตใคร พ่อหนุ่มต่างเมืองจะมีกิจอันใดมันก็เรื่องของเขา อยู่คนเดียวมาได้ตั้งเนิ่นนาน อย่าดัดจริตเหงาเอาตอนนี้เชียวนะนังมดแดง 

เธอค่อนขอดสั่งตัวเองเช่นนั้น ตายาวรีจดจ้องแผ่นหลังกว้าง ร่างสูงล่ำเปิดประตูออกจากห้องด้วยชุดออกกำลังกายกางเกงขายาวฮู้ดดำ ดูเท่คลาสสิกเหมือนดาราแดนโสมยามมาเยือนไทยแลนด์ ขณะที่ร่างอ้อนแอ้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง หายง่วงฉับพลัน เธอบิดขี้เกียจสลัดความคร้าน ก้มมองสภาพนู้ดเปลือยทั้งบนและล่าง อกสล้างมีร่องรอยของความหื่นกระหายที่ชายมินโฮฝากไว้

“ไปไหนของเขาวะ...” อดบ่นขมุบขมิบไม่ได้ ก่อนจะสะบัดศีรษะแรงๆ เรียกสติ ไม่เอานะนังมดแดง ห้ามสนใจย่ะ ห้ามๆๆ!

เธอพ่นลมหายใจดังเฮือก เห็นควรว่าต้องหากิจกรรมทำแก้ความฟุ้งซ่าน ขาก้าวลงจากเตียง เดินโล่งโจ้งไปเปิดตู้เสื้อผ้าดำสนิทตัดกับผนังขาว คว้าเสื้อยืดหลวมโพรกมาสวม ควานหากางเกงขาสั้นจู๋ปิดแก้มก้นแทบไม่มิด ก่อนจะกดโทรศัพท์ต่อสายหาปู่โมกข์ รายงานการค้าขาย คุยพอให้หายคิดถึง

“เดี๋ยวหนูไปหาปู่ที่คลองเตยเอง ปู่ไม่ต้องมาหรอก!” ละล่ำละลักร้องห้ามแทบไม่ทัน จู่ๆ ปู่ก็อยากออกมาหากัน พลันถอนใจโล่งอก เมื่อชายชราขากะเผลกยอมเชื่อฟัง แต่ท่านก็คงมีลางสังหรณ์ของท่านถึงยังนึกคลางแคลงหลานสาว

“แกมีอะไรปิดปู่หรือเปล่า มดแดง”

“มีอะไรล่ะ ไม่มี้!” บอกปัดแล้วก็ชิงวางสายก่อนที่ปู่จะสอบสวนมากกว่านี้ ทว่าบทจะเคราะห์หามยามร้าย เทพองค์ใดก็ช่วยไม่ได้ แม้นวาดกลอกตาละเหี่ยใจ หลังผู้จัดการอะพาร์ตเมนต์ส่งข้อความหากัน ว่าป้าของกาไชยมาขอพบ ถ้าไม่ยอมตามนั้น ป้าแกก็คงทู่ซี้ดึงดันไม่จบ...

“หลานชายฉันอยู่ไหน กอล์ฟมันมาอยู่กับแกหรือเปล่ามดแดง!”

เข้ามาได้ก็โวยวายเสียงดัง ‘เกสร’ หญิงสูงวัยสวมเสื้อกางเกงลายดอกไม้ หันรีหันขวางหากาไชย เพราะเป็นอย่างนี้ไงเล่า นังตุ๊ดถึงไม่อยากบอกให้มากความว่าป่วยร่อแร่อยู่

“จะอยู่หรือไม่อยู่กับฉัน แล้วป้ายุ่งอะไรด้วย หลานชายป้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ” เจ้าของห้องว่าเหน็บ ไม่สนใจสายตาขุ่นคลั่กของคนมาเยือน

“เออ ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เด็ก ก็เพราะมันคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วไง มันถึงเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอ ที่ว่าจะแต่งงานกัน มันเรื่องจริงเหรอ!” กระแทกกระทั้นถามว่าที่หลานสะใภ้ หญิงสูงวัยทำหน้าบึ้งรับไม่ได้ เข่าแทบทรุดเมื่อแม้นวาดตอบรับ

“จริง เราจะแต่งงานกัน” หญิงสาวไม่แน่ใจนักว่าเกสรรู้มาจากไหน ด้วยเรื่องนี้เธอยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มาเห็นป้าแกเต้นผางแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

“พวกแกจะบ้าเหรอ จะแต่งกันได้ยังไง หลานฉันมันเป็นกะเทยนะ!”

“แล้ว?” แม้นวาดเลิกคิ้ว มุมปากยกยิ้มเยาะ “เพราะมันเป็นกะเทย ป้าก็เลยมั่นใจว่ามันจะไม่มีทายาทสืบสกุล เกาะแกะหาแดกกับมันได้อีกนานงี้”

ตอกกลับจนป้าแกหน้าชา ทำได้แค่กัดฟันกรอดๆ ทั้งที่อยากด่าแม้นวาดใจจะขาด อีมดแดง! มึงมันอีแม่ค้าปากตลาด!

แต่ก็นั่นละ ป้าแกทำได้แค่อยาก เพราะหากโพล่งออกมา เกสรรู้ดีว่าแม้นวาดพร้อมฟาดสู้ แล้วมึงล่ะอีแก่ อย่าคิดว่าฉันจะเกรงใจอายุอานามของป้านะ!

“ไม่ได้ พวกแกจะแต่งกันไม่ได้ ฉันไม่ยอม ถ้าพวกแกเป็นผัวเมียกันจริงๆ ฉันคง...”

อกแตกตาย...ป้าไม่พูดส่งเสียง แม้นวาดก็อ่านปฏิกิริยาของหญิงสูงวัยได้

“งั้นป้าก็เตรียมอกแตกตายได้เลยค่ะ ถ้านังตุ๊ดจะให้ใครเป็นลูกบุญธรรม ป้ารู้ไว้เลยนะ ว่าฉันต้องโอเคด้วย” เธอลอยหน้าลอยตาเย้ย ทราบมาตลอดว่าเกสรพยายามเกลี้ยกล่อมให้กาไชยรับหลานของป้าเป็นบุตรตามกฎหมาย หวังให้เด็กๆ เป็นทายาทรับมรดกของนังตุ๊ด

“เอาน่า ยังไงเราก็ไม่ทิ้งหลานหรอก จะดูแลส่งเสียตามที่รับปาก” แกล้งปั้นหน้าเจี๋ยมเจี้ยมว่าตัวน่ะใจกว๊างใจกว้าง แม้นวาดเดินเข้าไปจับมือป้า นัยน์ตาทอประกายระยับ “ที่ผ่านมา นังตุ๊ดมันรู้หมดนั่นแหละว่าค่าเทอมค่าใช้จ่ายจริงๆ น่ะเท่าไหร่ ป้าบวกเพิ่มแค่ไหน มันแค่ขี้เกียจมีปัญหา”

แถมยังใจอ่อนตลอดศก ไม่แข็งขืนพอจะต่อต้าน ให้เคยทะเลาะกับป้าแค่ไหน แต่กาไชยก็เห็นแก่หลาน เลยยอมหลับหูหลับตาเพื่อตัดความรำคาญ เงินที่ออกอุบายได้จากกาไชย ป้าก็เอาไปให้ลูกของแก พ่อแม่ของเด็กๆ นั่นแหละ พวกนั้นต่างหาก อุบาทว์เห็นแก่ได้ นังตุ๊ดถึงไว้วางใจให้แม้นวาดเป็นคนดูแลทรัพย์สินของตัวเอง หากเงินทองอยู่ในมือของเธอ ต่อให้ต้องตาย กาไชยก็ตายตาหลับ เธอจะส่งเด็กๆ เรียนจนจบ 

“แต่หลานสะใภ้อย่างฉันน่ะ ไม่ใจดีเหมือนนังตุ๊ดหรอกนะป้า ทุกค่าใช้จ่ายต้องสมเหตุสมผล ต้องทำบัญชีมาให้ฉันดูด้วย โอเค้?” แกล้งถามทั้งที่ก็รู้หรอกว่าหญิงสูงวัยไม่โอเคอย่างแรง 

เกสรกรุ่นโกรธคับข้อง ทว่าในเสี้ยววินาทีนั้น สถานการณ์ก็พลิกผัน สายตาเธอเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง 

“นั่น! กล่องถุงยางอนามัยใช่ไหมน่ะ!” เกสรชี้มือไปที่พนักเตียง มองมันกับแม้นวาดในเชิงกังขา “แกมีผัวอยู่แล้ว แกยังจะมาแต่งงานกับหลานชายฉันอีกเหรอ!”

แม้นวาดสะอึกหน้าเจื่อน เหมือนตนเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ถูกตำรวจจับกุมได้ ทว่าก็ตั้งหลักทันการ “ผัวไหนอีกล่ะป้า ป้าไม่คิดว่ามันจะเป็นของหลานป้าเลยเหรอไง ฉันกับนังตุ๊ดอาจจะซ้อมเป็นผัวเมียกันอยู่ก็ได้”

รีบเฉไฉเล่นลิ้นแล้วลากรั้งแขนจะอัญเชิญป้ากลับ แต่พอเปิดประตูเท่านั้นแหละแม้นวาดก็ต้องตาเหลือกตะลึงเพราะร่างสูงล่ำ ร่ำร้องต๊กกะใจ อ้าว ไหนว่าจะกลับค่ำๆ!

“คุณเป็นใคร คุณอยู่กับยัยมดแดงเหรอ คุณเป็นผัวมันใช่ไหม!”

เกรงเสียงป้าจะกระจายข่าวบอกคนทั้งชั้น แม้นวาดดึงทั้งคู่เข้าห้อง จะแทรกกลางขวางไม่ยอมให้ป้าประชิดตัวมินโฮ ก็ไม่ทัน

“คุณเป็นอะไรกับมัน!”

“เขาเป็นคนเกาหลี เขาฟังป้าไม่รู้เรื่องหรอก”

“คุณเป็นผัวมันใช่ไหม!”

“ก็บอกว่าเขาไม่รู้เรื่องไง ป้านี่ยังไง!”

“ถุงยางนั่นของคุณหรือเปล่า บอกความจริงมา!” เกสรชี้ไปที่หลักฐานชิ้นสำคัญ ยังไงก็ไม่ล่าถอย ต้องรู้ให้ได้ว่าชายตรงหน้าเป็นอะไรกับแม้นวาด 

“เห็นไหมล่ะป้า ก็บอกแล้วว่า...” พูดได้แค่นั้น แม้นวาดก็โดนเขาทะลุกลางปล้อง ทำเธออึ้งเหลอหลา อ้าปากค้าง ตัวแข็งทื่อไม่ต่างจากหญิงสูงวัย

“ขอโทษนะครับคุณป้า ผมคงพิสูจน์ให้คุณป้าดูกับตาไม่ได้ ว่าผมเป็นเจ้าของถุงยางนั่นหรือเปล่า”

“...”

“นอกจากแม่กับเมียแล้ว ผมจะไม่โป๊ให้ผู้หญิงคนไหนเห็นทั้งนั้น!”

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น