บทที่ ๖

6

สาวน้อยผู้ผดุงความชั่ว

ถูกของชายหนุ่มแดนโสม แม้นวาดขอหุ้นของฮวังแจกรุ๊ปมาแลกกับหลักฐาน แต่ที่เขายังไม่รู้ คาดการณ์ผิดถนัด คือเธอแกล้งเรียกผลตอบแทนเกินกึ่งหนึ่งไป ยังไงฮาราบอจีของเขาก็คงไม่มีทางยอมให้ แถมยังจะด่าไล่หลังเอาด้วย ว่ายายเด็กแม่ค้าผมชมพูคนนี้โลภมากเสียจริง 

“เอาสิมดแดง หลักฐานที่คุณต้องการ อาจซ่อนอยู่ในนี้ก็ได้!”

แม้นวาดตาขวาง พอจะเข้าใจละว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าไอ้หมาบ้าประจำสกุลคิม พาลกระแซงกัดคนไปทั่ว อาละวาดอย่างนี้หรือเปล่าหนอ ฮาราบอจีวัยชราถึงลงดาบ ไล่เขาออกจากโพรเจกต์ทำเรือรบ ทั้งที่เขาเป็นคนริเริ่มแท้ๆ

ทว่าต่อให้ฮวังแจกรุ๊ปไม่มีพื้นที่ให้เขายืน มินโฮก็ไม่หมดหนทาง ไม่สิ้นไร้ไม้ตอก ลุงเกาหลีผมเรียบแปล้บอกเธอว่าเขาจบวิศวะฯ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เปี่ยมด้วยทักษะและศักยภาพโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาบารมีใคร มีองค์กรมากมายที่ต้องการตัวชายหนุ่มไปร่วมงานด้วย แต่ดูเหมือนว่าแม้นวาดเองนี่แหละที่ทำให้เขาปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทใหญ่ในอเมริกา 

‘ว่าแต่คุณทำยังไงเหรอครับ คุณมินโฮถึงยอมอยู่ไทยต่อ’ 

ก่อนจากกันไป ลุงเกาหลีผมเรียบแปล้ถามหาเคล็ดลับกับแม้นวาดอย่างจริงจัง ทั้งเธอและกาไชยพากันยิ้มอิหลักอิเหลื่อ จะให้บอกได้อย่างไรล่ะ ว่าเพราะความแรดร่านเลยเสนอเงินซื้อเขามานอนด้วยในราคาสามแสนบาท สนใจเพียงรสชาติของไส้กรอกกลางกายสูงล่ำที่ยามนี้ก็ยังคงชูชัน รอให้เธอเคล้นคลึง 

“คุณฝังไมโครชิปไว้ในนี้รึไง ถ้ามีหลักฐานจริง ฉันจะได้เอามีดมาผ่าออกเดี๋ยวนี้!”

ขู่เขาด้วยการเดินไปหยิบมีดสั้นหลังตู้เย็นมาเป็นอาวุธ ก่อนจะเหวี่ยงแขนโฉบเฉี่ยว กระหวัดปลายคมกริบเฉียด ‘หัว’ เจ้าชายชาญของเขา มันตกลู่สิ้นเชิงทันที ชายหนุ่มเองก็วิ่งหนีขึ้นเตียง เอาหมอนมาปิดไว้

“ทำแบบนี้ไม่ได้นะมดแดง ถ้าผมสูญพันธุ์ มีลูกไม่ได้ จะทำยังไงกัน” เสียงเขาอ่อนลงฉับพลัน ใบหน้าหล่อเหลาเจื่อนซีด นิ่งพอจะเลิกคลั่ง ยอมฟังคำแม้นวาดแล้ว พอเธอบอกว่าขอหุ้นจากปู่เขากี่เปอร์เซ็นต์ เขาก็เงียบงัน รู้เช่นกันว่าเธอจงใจต่อรองไปอย่างนั้น

“แปลว่าคุณไม่ได้ทรยศผมน่ะสิ”

“ก็อยากอยู่หรอก แต่พอดีว่าต้องฟังความสองข้างก่อน...” ไหวไหล่วางตนประหนึ่งว่าเป็นสาวน้อยผู้ผดุงความยุติธรรม แต่เปล่าหรอก แม้นวาดแค่ต้องชัวร์แม่นมั่นว่าควรจะยืนข้างฝ่ายไหน “พอดีว่าฉันเป็นแม่ค้าสาวสวยเซ็กซี่ ไม่งี่เง่า ไม่เป็นเหยื่อให้ใครเขาต้มง่ายๆ ใช่ ฉันเห็นแก่เงินมาก แต่ฉันไม่ประมาท โอเค้!”

เธอค้อนควักใส่เจ้าหมาบ้าที่ก็กำลังเสมองผ้าม่าน รามัญลอบยิ้มโล่งอก ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาดีใจ...ดีใจมากที่แม้นวาดกล้างัดข้อกับตาแก่นั่น

“ในสายตาคุณ คงคิดว่าการอยู่เหนือทุกคนในสกุลคิม แบบนั้นถึงจะสะใจกว่า...” 

เขาค่อยๆ หันกลับมามองหน้าแม่ค้าสาว ไว้วางใจจะบอกกล่าว “แต่สำหรับผม การทำให้ฮวังแจกรุ๊ปล่มสลาย คือเป้าหมายของผมมาตลอด” 

ณ วันคลอดบุตรที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรจะอิ่มเอิบสุขปรี่กว่าเวลาใด มารดาเขากลับต้องสะอื้นไห้เพราะสามีกำลังเข้าพิธีวิวาห์กับสตรีอีกคน เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่ง เพื่อสถานะผู้สืบทอดที่ใฝ่ฝัน

“ทั้งที่มีผมกับแม่แล้ว แต่เขาก็ทิ้งเราไปแต่งกับคนจากตระกูลแชรโบลเหมือนกัน...”

เพราะอย่างนั้น แทนที่จะอยากได้ฮวังแจกรุ๊ปมาเป็นของตัวเอง รามัญถึงเลือกจะบดขยี้ ทำลายความปรารถนาของพ่อ ในเมื่อฮวังแจกรุ๊ปทำให้พ่อทิ้งแม่ไป งั้นเขาก็จะขอทำลายฮวังแจกรุ๊ปให้สิ้นซาก

“คุณเข้าใจผมไหมมดแดง เข้าใจหรือเปล่า...”

วอนขอให้แม้นวาดสัมผัสถึงความคับข้องของเขา ตาคมส่องประกายระริก รวบร่างบางมากอด วางคางเกยบ่าหญิงสาว 

“ค่ะ ฉันเข้าใจ คุณก็มีสิทธิ์แค้นแหละ”

เธอปลุกปลอบเท่าที่จะทำได้ เหมือนเห็นเด็กเกเรที่ก่อเรื่องป่วน แล้วพยายามโน้มน้าว หาคนเข้าข้าง ไอ้เราก็ดันแพ้ทางคนหล่อ ยกมือลูบหลังเขาด้วยความอ่อนโยน จนตัวเธอเองก็ยังงง นังตุ๊ดมาเห็นคงจะพะอืดพะอม ดูไม่ใช่หล่อนสุดๆ เลยค่ะ

แหงละ เกลอกะเทยรู้ทันเธอทุกเม็ด สมกับที่อยู่กันมานาน ก่อนแม้นวาดจะออกจากโรงพยาบาล กาไชยถึงได้เอ่ยดักคอ

‘มดแดง ถ้าหล่อนจะเปลี่ยนใจ อยากทิ้งฉัน ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ’

จ้ะ ไม่ต้องห่วงนะกะเทย ระหว่างตุ๊ดป่วยร่อแร่ กับทายาทแชรโบลหล่อล่ำ คนดีมีจิตสำนึกที่เห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันมิตร ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน ยังไงก็ต้องเลือกตุ๊ดป่วยร่อแร่

แต่...พอดีว่าแม้นวาดเป็นหญิงโฉดชั่ว นอกจากจะไม่รู้สึกผิด เธอยังอยากกระโจนเข้าไปในสมรภูมิฮวังแจกรุ๊ปจนเนื้อตัวสั่น แค่ลองคิดถึงวันนั้น อีมดแดงคนนี้ก็ตื่นเต๊นตื่นเต้น!

ถูกแม้นวาดเรียกลับหลังติดตลกว่าลุงเกาหลีผมเรียบแปล้ แต่ความจริงแล้วชายวัยกลางคนมาดนิ่งเป็นถึงคนข้างกายของ ‘ฮเวจังนิม’ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของดินแดนโสมขาว 

“ไอ้หมาบ้ามินโฮมันสำนึกผิดหรือยัง มันฝากคำขอโทษถึงปู่มันบ้างไหม คุณจาง”

คุณจางอมยิ้ม โค้งคำนับต้อนรับร่างสันทัดทรงภูมิ ทันทีที่ลงจากลีมูซีนมาเหยียบโรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ เจ้านายวัยชราก็ถามหาหลานชายเสียแล้ว 

“ไม่มีเลยล่ะสิ มันยังโกรธที่ฉันไล่มันออกจากโพรเจกต์เรือรบใช่ไหม...” ฮเวจังนิมชักสีหน้าขุ่นเคืองใจ ก้าวเท้าเชื่องช้าทว่าผ่าเผย เดินนำบริวารโดยไม่ต้องให้พวกเขาคอยประคอง

“แล้วทีมันล่ะ มันเอาลูกชายฉันเข้าคุกเลยนะ”

คราชายชราคาดคั้น แกใช่ไหมมินโฮ แกเป็นคนทำ หลานชายไม่มีทีท่าว่าจะถอยให้ แถมยังแสยะยิ้มสะใจ จนเขาครุ่นคิดถึงคำคนว่าไว้ คนนอกไม่น่ากลัวเท่าคนใน ยิ่งคนในครอบครัวที่รู้ไส้รู้พุงกัน แค่เพียงผู้เดียวก็น่าหวาดผวาเสียยิ่งกว่าศัตรูนับพัน 

เมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น ชายชราเรียกตัวไอ้หมาบ้าจากแคลิฟอร์เนีย บังคับให้มันมาทำงานที่ฮวังแจกรุ๊ป ตลอดเวลาของการเป็นกัปตันคนสำคัญแห่ง Hwangjae Industries มินโฮอยู่เงียบๆ ไร้พิษสง หลอกให้ทุกคนลำพองใจ ว่ามันจะไม่คลั่งอาละวาดกัดใคร คนเป็นปู่ก็นึกว่าหลานจะยอมสยบ แต่แท้จริงแล้วมันแอบล้วงลับ เก็บข้อมูลมาโดยตลอด

“แล้วยายเด็กแม่ค้านั่นล่ะ ขอหุ้นฉันขนาดนี้ จะเป็นเจ้าของฮวังแจกรุ๊ปเลยเหรอไง”

ลุงผมเรียบแปล้ของยัยเด็กแม่ค้าหัวเราะ ก้มศีรษะเอ่ยกับเจ้านาย “ตอนเธอต่อรองขอหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แวบนึง ผมกลัวเธอเหมือนกันนะครับ”

ร่างสันทัดทรงภูมิหยุดเดิน หันมองคนสนิท ถามผ่านแววตา ทำไมถึงกลัว

“เธอกล้าต่อรอง พูดจาฉะฉาน แปลว่าเธอมั่นใจว่าของในมือเธอมีค่ามากพอให้เธอกล้าขอ”

จะว่าเธอหวังสูงเกินตัว ก็ไม่ใช่ สาวผมชมพูประเมินถูกจริงๆ นั่นละ หลักฐานในมือมินโฮล้มฮวังแจกรุ๊ปได้เลยนี่นา

“แล้วยังไง จะให้หุ้นของฉันตกเป็นของใครง่ายๆ เหรอคุณจาง กว่าฉันจะสร้างฮวังแจกรุ๊ปมาได้ ฉันต้องเหนื่อยขนาดไหน...”

ต้องทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจ ฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ มีทั้งเสียงสรรเสริญ และเสียงสาปแช่งเกลียดชัง ว่าคิมยองแจคือฮเวจังนิมผู้ชั่วร้าย คอยจ่ายเงินใต้โต๊ะให้นักการเมือง สร้างกลยุทธ์ทางการค้าเพื่อกีดกันธุรกิจรายย่อย...

“แล้วเขาล่ะคุณจาง เจอเขาไหม...” ถามทั้งแววตาเปี่ยมความหวัง ก่อนจะหม่นวูบเมื่อคุณจางปฏิเสธ ไม่พบคนที่เจ้านายอยากเจอนักหนา ไม่กล้าเอ่ยด้วยว่า ‘ฮยองนิม’ ของท่านอาจตายไปแล้วก็ได้

“ไม่ ฉันเชื่อว่าเขายังไม่ตาย”

เสียงพร่าเอ่ยถึง ‘เขา’ ด้วยความเคารพนับถือ น้อยคนนักจะรู้ว่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างคิมยองแจก็เคยใสซื่อกับเขาเหมือนกัน

ตอนยังเป็นหนุ่มน้อย ยังไม่ถูกอำนาจเงินเปลี่ยนหัวใจให้มืดเทา คิมยองแจก็เป็นแค่ไอ้เด็กเกาหลีของรุ่นพี่ทหาร ฮยองนิมจากสยาม เขาคนนั้นคอยดูแลไอ้เด็กเกาหลีเมื่อครั้งโสมขาวโสมแดงเปิดสงคราม กระทั่งเสร็จสิ้นศึก เราสองจำต้องไกลห่าง เวลาพ้นผ่านมาจนหลายสิบปี จนคิมยองแจกลายเป็นมหาอำนาจของโสมขาวแล้ว ไอ้เด็กเกาหลีก็ยังไม่เคยได้เจอกับผู้มีพระคุณของตนอีกเลย...  

เกลอกะเทยอยู่โรงพยาบาล บวกกับแม้นวาดขี้เกียจรอคิวเข้าร้านซาลอน ช่างผมส่วนตัวของแม่ค้าสาวเลยตกเป็นหน้าที่ของทายาทแชรโบลไปโดยปริยาย คราเอ่ยปากขอให้เขาทำให้ แม้นวาดคิดล่วงหน้าว่าเขาจะอิดออด แต่ปรากฏว่าเขารับคำตามใจ ที่น่าทึ่งคือความคล่องแคล่วระดับร้อย รู้ด้วยว่าต้องทาโลชันรอบกรอบหน้าก่อน บรรจงป้ายครีมฟอกสีผมตรงโคนดำให้เธออย่างเบามือ

“ต้องคอยทำสีผมที่ขึ้นมาใหม่แบบนี้ ไม่กลัวผมเสียเหรอหืม”

แม้นวาดหัวเราะ พยักหน้ายอมรับตามตรงว่าวิตกพอควร 

“กลัว แต่ก็คอยบำรุงเอา ฉันต้องสร้างตัวตนให้คนจำได้ ยายมดแดงผมบลอนด์ชมพู พูดชื่อปุ๊บ คนร้องอ๋อปั๊บ” ตอบแล้วก็มองสีหน้ากังวลของเขาผ่านกระจกถือในมือ บรรยากาศของเรายามนี้ใกล้ชิดสนิทสนมรวดเร็วนัก คล้ายว่าเรากำลังทำความรู้จักกันนอกเหนือจากเรื่องบนเตียง 

“คุณ...ดูแลผู้หญิงเก่งมากนะ ถ้าไม่เคยมีสาวมามาก ก็คงเพราะโตมากับแม่และรักแม่มากใช่ไหม”

ลองเดาสุ่มไป แล้วเขาก็ตอบด้วยการยิ้มกริ่มแพรวพราว ทำเอามดแดงตาพร่าได้เลยทีเดียว มารู้ว่าเขาเป็นลูกเสี้ยว ยิ่งเข้าใจ ทำไมหน้าตาเขาจะเกาหลีก็ไม่ใช่ ไทยก็ไม่เชิง มีเชื้อมอญปนอยู่ด้วยนี่เอง 

“ถ้าผมบอกว่าทั้งสองล่ะ คุณโกรธไหม”

“โกรธทำไม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ฉันไม่สนอดีต สนแค่ปัจจุบัน”

รามัญจะเคยมีใครมาก็ช่าง แม้นวาดไม่คิดมากให้ปวดหัว ในเมื่อ ณ ขณะนี้เขาอยู่กับเธอ จะต้องไปแยแสคนเก่าก่อนไปทำไม

“ใครจะเหมือนคุณล่ะ หึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะพี่แท่ง ทำเขาขาดสองท่อน”

“ใครว่าผมหึง ผมเปล่า”

ปฏิเสธข้อกล่าวหาทันควัน แม้นวาดเกือบจะหลุดปากประชดประชัน ค่า! แค่แพ้ไม่ได้ แค่อยากเอาชนะแหละ 

นิสัยคนซึนปากแข็งเป็นกันทั้งโลกเลยมั้งแบบนี้ ชอบไหมก็ไม่บอก หึงก็ไม่ยอมรับ แม้นวาดไม่ถูกจริต ระอาแกมรำคาญยิ่งนัก ทว่าพอเจอเข้ากับตัวเอง เธอดันมองว่าน่ารัก จะทำเป็นไม่รู้ละกันว่าเขาจะแย่งเธอจากกะเทย ที่เคยมองว่าการจีบกับใคร ช่างเสียเวลาชีวิต แต่ถ้าเป็นทายาทแชรโบลหุ่นล่ำ แม้นวาดไม่ติด จะเวลาหรือร่างกาย มดแดงจะยอมเสียให้ เชิญเอาไปได้เลยค่ะ ไอ้ต้าวโอปป้าาาา!

รู้อยู่แล้วว่าคู่หูคงไม่แยแสศักดิ์ศรี ไม่ทำตนเฉกสตรีแสนดี กาไชยทำใจแต่เนิ่นๆ ว่าอาจจะโดนแม่ค้าสาวเทงานวิวาห์ชนิดที่ไม่แคร์ความผูกพันนานมา แม้หล่อนจะสรรหาเหตุผลมาเอ่ยอ้างอย่างไรก็หนีไม่พ้นคำครหา เห็นผู้ชาย (หล่อรวย) ดีกว่าเพื่อน

“โถๆๆๆ ผัวตุ๊ดอย่าเพิ่งด่ากันสิคะ มดแดงยังไม่ทิ้งนะ มดแดงแค่เปิดโอกาสให้ตัวเอง หลานชายคิมยองแจโผล่มานอนเตียงเดียวกัน จะให้มดแดงโง่ปล่อยเขาไปรึไงคะ นั่นน่ะตัวทำเงินมหาศาลเลยนะ ราคาแพงกว่าสินค้าทั้งโกดังรวมกัน!”

แต่จะกระโตกกระตากรวบรัดมัดเขาไว้ก็ดูไม่งามสักเท่าไหร่ บริบทของแม้นวาดยามนี้ ไม่ต่างจากการเป็นสาวงามคาดสายสะพายไทยแลนด์ ขืนโร่ไปซบอกกว้างแน่นๆ นั่นโดยไม่ได้วางแผน ภาพลักษณ์คงเสียหายยับเยิน พ่อลูกเสี้ยวลูกใจจะมองเธออย่างไรล่ะ เขาจะดูหมิ่นเอาว่าสาวสยามคลั่งสมบัติหวังเกาะสามีแดกน่ะสิ ถึงความจริงแล้ว...มันจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ!

“แค่ฉันไม่ทรยศเขา เขาก็ประทับใจจะแย่ อีกไม่นาน คงเผลอหลงรักฉันหัวปักหัวปำ แกคอยดูเถอะนังตุ๊ด เขาไปไหนไม่รอดหรอก”

แม้นวาดหัวเราะระรื่น ตายาวรีดุจตาแมวทอแสงมาดหมาย ก่อนจะโดนกาไชยขัดความอภิรมย์ด้วยความจริงเชิงประจักษ์

“จับเขาแล้วยังไงต่อ หล่อนคิดว่าเขาจะได้เป็นผู้สืบทอดง่ายๆ เหรอ ตัวเต็งเบอร์หนึ่งอย่างพ่อเขาอาจจะติดคุกอยู่ แต่เดี๋ยวก็ออกมาทวงคืนทุกอย่างได้ ไหนจะตัวสำรองอย่างบรรดาอาๆ ของเขา ไหนจะน้องชายต่างแม่ของเขาอีกล่ะ”

นิ่งงันรับฟังคำคู่หู แม้นวาดไม่เถียงในข้อนี้ ด้วยความเป็นลูกนอกสมรสของคิมจุนยอง โอกาสที่พ่อมอญมินโฮจะข้ามหัวทุกคน ได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดมันอาจริบหรี่ แม้นวาดเข้าใจดี ทว่าในความริบหรี่มันก็ไม่ได้มืดมิดอับแสงเลยเสียหน่อย

“ฉันเป็นห่วงหล่อนนะมดแดง ที่ชิงกันอยู่มันไม่ใช่แค่หมื่นล้านแสนล้านนะ บริษัทเทคโนโลยีในเครือฮวังแจกรุ๊ปก็มีมูลค่าติดอันดับโลกเลยด้วย”

“ก็นั่นไง ฉันถึงทำใจปล่อยเขาไปไม่ได้” 

ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าฉันน่ะกระหายความร่ำรวย โลภโมโทสันมากค่ะ ถึงจะเป็นทรัพย์กงสี แต่การได้ครองสถานะฮเวจังนิมของฮวังแจกรุ๊ป มันก็ควรค่าแก่การลงประลองมิใช่หรือ

“จะพ่อเขา อาเขา แล้วยังไงล่ะ อีมดแดงเชิดค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฮาราบอจี คนอื่นไม่เกี่ยว!”

แต่พ่อรามัญมินโฮน่ะสิ ดันเด็ดเดี่ยวว่าจะทำลาย ตรงนี้ต่างหากที่แม้นวาดหนักอก ชายหนุ่มดูจะพึงพอใจกับการอยู่นอกเงาสกุลคิม ภาคภูมิใจกับการยืนหยัด ได้ดีด้วยความสามารถของตัวเอง คงไม่อยากติดหนี้บุญคุณฮาราบอจีวัยชรา ให้ปู่มาลำเลิกย้อนหลัง ว่าไอ้หมาบ้าอย่างแก ถ้าไม่มีฉันจะไปได้สักกี่น้ำ

“มดแดง”

แม่ค้าสาวหันหาเขา ร่างสูงล่ำเปลือยอกทำขรึมนอนเล่นอยู่บนเตียง ไม่พูดไม่จานับแต่เธอกลับเข้าอะพาร์ตเมนต์ เด็กไร้เดียงสามาเห็นก็ยังมองออกเลยว่าเขางอน ส่วนสาเหตุก็ไม่ใช่อะไรอื่นไกล แม้นวาดหายไปอยู่กับกาไชยมาทั้งวัน

“ยอมพูดกับฉันแล้วเหรอคะ”

ยิ้มเผล่แซวชายหนุ่ม เขาอาจไม่ฮึดฮัดเอะอะ แต่ก็หน้าตึงขึงเคร่ง เธอเรียกมารับประทานราชาแห่งผลไม้ไทย อวดสรรพคุณความอร่อย นำเสนอความเหลืองนวลละมุนปาก พ่อมอญมินโฮก็เมินกัน ไม่รู้ว่าฉุนกลิ่นทุเรียนหมอนทองหรือเปล่า

“คุณ...ยังจะแต่งงานกับเขาอยู่ไหม”

“ถามทำไมคะ คิดว่าฉันจะทิ้งเพื่อนมาเลือกหลานชายแชรโบลอย่างคุณเหรอไง” เธอยกคิ้วหยอกถามทีเล่นทีจริง วางเฉยไม่สนใจสถานะของพ่อมอญมินโฮได้อย่างแนบเนียน 

ร่างสูงล่ำลุกมาหากันที่โต๊ะกินข้าว ก็ยังจดจ่ออยู่กับเนื้อทุเรียนได้ “หายเป็นประจำเดือนแล้วเหรอ” เขาวางมือบนหัวไหล่ ลูบไล้บอกความปรารถนา

“รู้ได้ไงคะว่าฉันหายแล้ว” พอเงยหน้าถามก็ต้องอึ้ง เมื่อเขาตอบ 

“ก็ผ้าอนามัยยังเหลือเท่าเดิม”

นี่เขารอคอยเวลาจนถึงขั้นเช็กของใช้สตรีเชียวหรือนี่ กะจะจิ้มสามเหลี่ยมทองคำของฉันแล้วใช่ไหม มองกันแบบนี้

“จริงๆ ผมอยากทำทุกเวลา แต่กลัวคุณหาว่าบ้ากาม”

ทำหน้ากระหายราคะอย่างไม่เก็บอาการ รุกล้ำแม้นวาดโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว มือใหญ่ล้วงเข้าใต้ร่มผ้าผ่านคอเสื้อกล้าม สะกิดไตกลางอกสล้าง ก่อนจะถูกกระชากออกจากภวังค์ร้อนซ่านโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน รามัญขมวดคิ้วขุ่นเคือง หลังเห็นว่าใครติดต่อมา แม้นวาดอยากถามแค่ไหนก็ต้องหักห้ามใจ อดคิดไม่ได้ว่านั่นอาจเป็นฮเวจังนิมแห่งฮวังแจกรุ๊ป หรือว่าเธอจะได้พบกับชายชราอย่างไม่คาดฝัน

พฤติกรรมของพ่อมอญมินโฮหลังจากนั้นก็น่าสงสัย ทั้งที่สบเหมาะให้ชายหนุ่มแนบเนื้อรวมร่าง แต่เขากลับทำแค่ตระกองกอดเธอไว้ ทราบว่าวันรุ่งขึ้นเธอต้องไปโกดังสินค้า เขาก็ดึงดันจะตามไป และหนนี้ก็ต่างจากคำขอครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง สีหน้าเขาจริงจังจนเธอไม่รู้จะขัดอย่างไร ยอมให้เขาติดสอยห้อยตาม ยอมโดนสายตาของใครๆ จับจ้องจนพนักงานแอบกระซิบบอกนั่นเอง ว่าผู้ใดมาติดต่อขอพบ แม้นวาดถึงเข้าใจว่ารามัญตามมาคุ้มภัยเธอจากใคร...

“แกดูผู้หญิงคนนี้ไม่ออกเหรอไง ลองไม่ใช่หลานชายของฉันสิ แกคิดว่ายายเด็กแม่ค้านี่จะเอาแกเหรอ!”

ร่างสันทัดทรงภูมิยืนประจันกับหลานชาย ปากคอเราะรายจนแม้นวาดอุทานในใจ อุ๊ยตาย! ดีนะคะเนี่ยที่มดแดงเป็นคนหน้าด้าน เลยไม่สะทกสะท้านอะไร ถ้าอ่อนไหวเข้าหน่อยคงสะเทือนใจน่าดู

“เธออย่าคิดนะ ยายเด็กแม่ค้า ว่าจะรักกับหลานชายฉันได้!”

“ผมจะรักหรือไม่รักใครมันก็เรื่องของผม คุณอย่ามายุ่ง!”

หลานตอกกลับคัดง้างกับปู่ ร่างสูงล่ำไม่ยอมให้คนของท่านยุ่งกับแม้นวาด ทว่าแม่ค้าสาวหาได้กลัวสักนิด เธอเงียบเพราะกำลังครุ่นคิดต่างหาก ว่าควรจะออกลูกไหนดี จะแข็งขืนหรือจะอ่อนน้อมกับฮาราบอจีเกาหลี แต่ชีวิตก็คล้ายว่าจะโดนบัญชาจากเบญจเพสย้อนหลัง คนที่เธอบอกว่าให้รออยู่ที่คลองเตยกำลังเดินกะเผลกมาหากัน!

“มดแดง มีอะไรหรือเปล่า!” ปู่โมกข์ทนรอหลานไม่ได้ ชายชราวุ่นวายใจเพราะป้าของกาไชยไปบ่นกับตนยกใหญ่ ว่าหลานสาวปู่จะแต่งงานกับหลานชายตัว แต่ก็ยังมีแฟนซ่อนไว้ ไอ้หนุ่มหล่อสวมฮู้ดดำนั่นใช่ไหม คนรักของหลานสาว แล้วไอ้แก่ที่กำลังพล่ามปากหมาอยู่นี่ล่ะ ใครกัน “คนพวกนี้เป็นใคร มดแดง ทำไมมันมาด่าแกแบบนี้!”

โวยวายให้มันรู้เสียบ้าง อย่ามารังแกหลานปู่โมกข์ ชายชราขาพิการอาจไม่ได้ทรงอิทธิพลเทียบเทียมใคร แต่ก็พร้อมจะไฝว้กับฮเวจังนิมแชรโบลผู้ยิ่งใหญ่ ทว่าเมื่อร่างสันทัดทรงภูมิหันมาหาร่างผอมสูงสวมกางเกงขายาวสีครีม เสื้อลายตารางสีซีดตัวเก่า ตาสองคู่ของปู่สองสัญชาติได้สบประสาน โลกก็พลันหยุดหมุนไปชั่วขณะ จู่ๆ ชายชราแดนโสมก็ตัวสั่นพร่า ก่อนจะทำให้ใครๆ อึ้งกันถ้วนหน้า มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้เป็นฝ่ายก้มหัวคุกเข่า เรียกปู่ของแม้นวาดว่า...

“ฮยองนิม!”

ฮะ...อีกรอบซิ ฮยองนิม? ที่แปลว่าพี่ชายอะนะ!?

นังมดแดง หล่อนฟังไม่ผิดใช่ไหม!

“ฮยองนิม...จำผมได้ไหม ฮยองนิม ผมเอง ผมเอง”

แนะนำตัวทั้งน้ำตา ฮาราบอจีแดนโสมยื่นหน้าไปหาชายชราสัญชาติไทย พาปู่ของแม้นวาดรำลึกถึงความหลังครั้งเก่า...

“นะ...นี่แกเองเหรอ”

“ครับ ผมเอง...ผมตามหาพี่มานานแค่ไหน พี่รู้ไหม...” พ้อรำพันด้วยความเสียใจ มือสั่นเทาแตะขาพิการด้วยความซาบซึ้งตื้นตัน ภาพนั้นทำแม้นวาดเฉลียวใจ ค่อยๆ ร้อยเรียงสถานการณ์...

“ปู่ ที่ปู่บอกว่าปู่เคยไปช่วยรบในสงครามเกาหลี คือเรื่องจริงเหรอ!” เธออ้าปากเหลอตกใจ ฟังนิทานกรำศึกมาเป็นพันๆ ครั้ง ไอ้เราก็นึกว่าปู่โม้เอาฮามาตลอด!

“อย่าบอกนะปู่ ว่าคนที่ปู่ช่วยชีวิตไว้...”

“เออ ไอ้แก่เกาหลีคนนี้นี่ไง!”

    

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น