1

บทนำ


บทนำ

 

ใครเป็นคนกำหนดว่าชีวิตสมบูรณ์แบบของใครคนหนึ่ง หมายถึงอะไร

                ใช่...

                การที่มีรูปร่างหน้าตาราวกับสวรรค์ปั้นแต่งหรือเปล่า

                การที่มีการศึกษาที่ดี เรียนอยู่ในสถาบันมีชื่อหรือเปล่า

การที่มีครอบครัว มีหน้ามีตาในสังคมหรือเปล่า

                การที่มีเงินทองล้นมือ ใช้ไปไม่มีหมดสิ้นหรือเปล่า

                การที่มีบ้านใหญ่โต มีบริวารพรั่งพร้อมหรือเปล่า

แต่สำหรับเธอ คีตกาล ปัทมรังสีกุล เธอแค่ต้องการบ้านหลังเล็กๆ กับใครสักคนที่รักเธอ และเธอรักเขาเท่านั้นก็พอ ฟังดูเหมือนคนปัญญาอ่อน แต่เธอก็ต้องการแค่นั้นจริงๆ

                จะมีบ้านใหญ่โตไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครอยู่

                จะมีเงินทองไปทำไม ในเมื่อหาความสุขสบายใจไม่ได้เลย

 

                เป็นอีกวันแล้วสินะที่เธอกลับมาถึงบ้านแล้วไม่มีใครรออยู่ดังเช่นวันวาน คีตกาลวางหนังสือในอ้อมกอดลงบนโต๊ะขนาดใหญ่ที่ใช้รับประทานอาหาร ก่อนจะเดินต่อไปยังส่วนอื่นของบ้าน เธอหวังอะไร หญิงสาวถามตนเองก่อนจะยิ้มเศร้า

หวังว่าจะได้เจอบิดามารดาพร้อมหน้าเหมือนดั่งวันวาน หวังว่าจะเจอใครสักคนเดินออกมาต้อนรับ ยิ้มรับและกล่าวทักทายเธอให้ชื่นใจเหมือนเมื่อครั้งที่มารดาของเธอยังอยู่ แต่วันนั้นคงไม่หวนกลับมาแล้วสินะ เพิ่งผ่านไปแค่หกเดือนเท่านั้นเอง แต่ทำไมในความรู้สึกของคีตกาลนั้น มันกลับอ้างว้างราวกับเธอไม่มีใครยาวนานเป็นแรมปี

แล้วเธอก็สมใจ เมื่อป้าแจ่มใส แม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเธอมาแต่อ้อนแต่ออกเดินออกมาทักทายกันเหมือนเช่นทุกวัน

“กลับมาแล้วหรือคะคุณคีย์”

“คุณพ่อล่ะคะป้าแจ่ม”

“โทร. มาเมื่อสักครู่นี้เองค่ะว่ากำลังจะกลับเข้ามา ท่านให้บอกคุณคีย์ด้วยว่าอย่าไปไหน จะกลับมากินข้าวเย็นด้วยกัน” แจ่มใสเดินไปหยิบหนังสือกระเป๋าของผู้เป็นนาย พร้อมกับมองใบหน้าสวยหวานที่สดชื่นขึ้นทันตาเห็น

“คุณพ่อจะกลับมากินข้าวกับคีย์หรือคะ” คีตกาลถามอย่างเหลือเชื่อ ดีใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก หลายปีที่ผ่านมาเธอกินข้าวมื้อเย็นกับบิดาแทบนับครั้งได้ ยิ่งช่วงนี้บิดาเข้าไปรับตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เวลาที่มีให้เธอน้อยอยู่แล้วก็ยิ่งน้อยลงไปอีก

                “ค่า...ท่านบอกให้คุณคีย์แต่งตัวสวยๆ ท่านจะพาแขกมาด้วย”

                นาทีนี้คีตกาลแทบไม่ฟังคำของแจ่มใสเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวหมุนตัวรีบวิ่งกลับขึ้นไปยังห้องส่วนตัวเพื่ออาบน้ำอาบท่า แต่งตัวรอบิดากลับมากินข้าวเย็นด้วยกันทันที ทำเอาแจ่มใสถึงกับยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางสดชื่นของผู้เป็นนาย

               

                เสียงรถไม่ต่ำกว่าสองคันแล่นเข้ามาภายในบ้าน ทำให้หญิงสาวที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งวางทุกอย่างในมือลง รีบวิ่งลงไปรับหน้าบิดาด้วยความรักและความคิดถึงสุดหัวใจ ตั้งใจว่าเมื่อเจอหน้ากันเธอจะโผเข้ากอดท่าน หอมแก้มท่านแรงๆ ให้สมกับความคิดถึงที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบหนึ่งสัปดาห์

                แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้คีตกาลชะงักงัน ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวต่อไป แค่เห็นเธอก็รู้ว่านี่หมายความว่าอะไร โดยไม่ต้องให้บิดามาอธิบายให้ฟัง ความยินดีปรีดาที่มีอยู่แทบล้นอกเมื่อครู่หายไปราวกับว่าไม่เคยรู้สึกหรือเคยมีอยู่

                พลโทสาโรจน์เองก็ชะงักไปเมื่อเห็นสีหน้าของลูกสาวที่ยืนมองท่านนิ่งอยู่ นายทหารใหญ่ก้าวเข้าไปกอดลูกสาวคนเดียวของท่านเอาไว้เหมือนเช่นที่เคยทำทุกครั้งยามที่ได้พบหน้ากัน หากแต่วันนี้ท่านไม่ได้รับการกอดตอบเหมือนอย่างเคย สาโรจน์กระแอมในคอ พอเข้าใจปฏิกิริยาของลูกสาว ใจจริงก็อยากจะบอกกล่าวให้ลูกสาวได้เตรียมทำใจก่อน แต่ท่านก็เห็นว่าคีตกาลโตพอที่จะเข้าใจเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ถึงตัดสินใจทำลงไปแบบนี้

                “นาง มารู้จักน้องคีย์สิ คีย์ นี่นาง เขาจะย้ายมาอยู่บ้านเรา มาดูแลพ่อ มาดูแลคีย์แทนแม่”

                คีตกาลยืนนิ่ง สายตามองตรงไปยังหน้าท้องที่ยื่นนูนออกมาของหญิงสาวที่อายุอานามดูๆ ไปไม่น่าจะเกินสามสิบห้าปี

                นี่ก็หมายความว่า!

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น