1

บทนำ


บทนำ

“ฉันชื่อมุลิลา อายุสามสิบปี และฉันกำลังจะเป็นแม่คน”

มุลิลาที่ท้องแก่และกำลังปวดท้องใกล้คลอดเต็มที ถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลเข็นเตียงเข้ามาอย่างเร่งด่วน ตามทางไปยังห้องคลอดของโรงพยาบาลที่ตกแต่งประดับประดาไปด้วยริบบิ้น ลูกโป่ง และข้อความสวัสดีปีใหม่

ใช่ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าสู่ปีใหม่ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความหวัง แต่มุลิลามีแต่ความเจ็บปวด ใครบังอาจมาบอกสวัสดีปีใหม่กับเธอในช่วงเวลานี้ บอกได้เลยว่า...ฆ่าตัวตายชัดๆ!

แต่ละครั้งที่มดลูกบีบรัดตัว มุลิลาต้องพยายามหายใจเข้าออกตามจังหวะ เธอบีบมือต้องตาเพื่อนสนิทเพื่อคลายความเจ็บปวด พลางอ้าปากรับน้ำแข็งที่เพื่อนป้อนให้แล้วเคี้ยวกร้วมๆ

“อมน้ำแข็งอีกมั้ย ปากจะได้ไม่แห้ง” ต้องตาถามเสียงตื่นๆ มือหนึ่งจับมือเพื่อนไว้ อีกมือหนึ่งถือกระติกน้ำแข็ง

“ไม่!” มุลิลาปฏิเสธเสียงหนัก

“แล้วแกอยากได้อะไรไหม”

“เอา...” มุลิลาพูดได้แค่นั้น เสียงก็ขาดห้วงไป

“เอาอะไรแก...” ต้องตาถามอย่างเตรียมพร้อมเต็มที่ “แกอยากได้อะไรบอกมาเลยนะ”

“เอา...”

“เอาอะไร” ต้องตาลากเสียงยาว

“เอาผัวฉันมา!” มุลิลาแหกปากลั่น

ต้องตาตกใจอ้าปากค้าง มองไปรอบๆ...ทุกคนเงียบกันหมด หันมามองเธอกับเพื่อนเป็นตาเดียวกัน

แต่มุลิลาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะในขณะที่ปากมดลูกของเธอกำลังเปิดกว้างจนขนาดจะเท่าหัวเด็ก เธอยังไม่เห็นหน้าสามีตัวเอง อันที่จริงไม่เห็นมาหลายวันแล้วด้วย จะมีก็แค่ต้องตาที่ยืนทำหน้าเหลออยู่ข้างๆ

“เดี๋ยวก็มา ฉันโทร.บอกเค้าแล้ว” ต้องตาได้สติรีบบอกเพื่อน พยายามทำให้เพื่อนใจเย็น ในขณะที่มุลิลากัดฟันคุยต่อ

“แกบอกตอนกี่โมง”

“เจ็ดโมงเช้า”

“แล้วตอนนี้กี่โมง!”

ต้องตาอึ้งไป ก้มมองดูนาฬิกาแล้วหน้าเสีย

“ทุ่มนึง” ต้องตาตอบเพื่อนเสียงอ่อย เพราะรู้ว่าอะไรจะตามมา มุลิลาชอบบอกว่าเธอใจเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง แล้วถ้าเธอเป็นแบบนั้นแล้วละก็...มุลิลาก็ตรงกันข้าม

“กองถ่ายมันอยู่ขั้วโลกใต้หรือไง” มุลิลากระชากต้องตาเข้ามาตะโกนใส่หน้าอย่างลืมตัว

“ทำไมป่านนี้ยัง...” คนพูดเป่าปาก หายใจลึกๆ แล้วโวยต่อ “ทำไมป่านนี้มันยังมาไม่ถึง นี่เมียมันนะ กำลังจะคลอดลูก ไม่ได้ถักนิตติง ไอ้เอี้ย! ไอ้...”

มุลิลาด่าเป็นไฟ ถ้าเป็นละครโทรทัศน์ ผู้ชมคงได้ยินเสียง ตุ๊ดๆๆ รัวๆ...เพราะถูกเซนเซอร์ดูดเสียงคำพูดที่ไม่เหมาะสม เป็นพิษต่อเยาวชน อ้อ...น่าจะเป็นพิษต่อคนทุกเพศทุกวัยเลยด้วยซ้ำ

 “รีบพาเข้าห้องคลอดเถอะค่ะ ก่อนจะหูชามากไปกว่านี้” เจ้าหน้าที่พยาบาลเข็นมุลิลาเข้าห้องคลอด แต่มุลิลาเกี่ยวประตูเอาไว้ไม่ยอมเข้าไป เพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

“เดี๋ยวก่อน!” เธอตะโกนแล้วหายใจแรงๆ รู้สึกเหมือนว่าลูกจะหลุด เธอก้มลงมองท้องตัวเองแล้วออกคำสั่ง “อย่าเพิ่งมาตอนนี้ แม่ขอเวลา...อีกแป๊บ”

คนพูดนิ่วหน้าพลางจับประตูเอาไว้แน่น

“แต่นี่ก็ปากมดลูกเปิดแล้วนะคะ” พยาบาลรีบบอก เพราะกลัวลูกมุลิลาจะไหล

“ให้ปากมดลูกเปิดเป็นเมตร ฉันก็จะขมิบเอาไว้จนกว่าผัวฉันจะมา! นับหนึ่งถึงสาม ถ้าผัวฉันยังไม่มา...ตาย!” มุลิลาอาละวาด กระชากพยาบาลมาใกล้แล้วเริ่มนับ

“หนึ่ง สอง สา...”     

“มู่ลี่!”

ทุกคนชะงัก หันขวับไปยังทางต้นเสียง พบชายหนุ่มรูปร่างสูงหน้าตาดี ท่าทางเซอร์ๆ วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน

“ป๊า!” มุลิลาเห็นพงศ์พิศุทธิ์ผู้เป็นสามีก็ดีใจ ปล่อยพยาบาล ยื่นมือไปทางสามีที่ปราดเข้ามาจับมือเธอหมับ

“ทำไมเพิ่งมา...” มุลิลาลากเสียงยาว น้ำตาคลอ จากนังมารร้ายที่กำลังจะฆ่าพยาบาลตายคามือ กลายเป็นแมวน้อยมุ้งมิ้งออดอ้อนสามีทันที...ความเห็นอกเห็นใจ ความเอาใจใส่ระดับสูงสุดคือสิ่งที่คนกำลังจะคลอดลูกต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

“ใช่ มันจะฆ่าคนตายทั้งโรงพยาบาลอยู่แล้ว ถ้ายังไม่เห็นหน้านายอะ”

ต้องตาพูดอย่างโล่งใจ ด้านมุลิลายิ้มออกมาได้

“คิดว่าจะลืมแล้ว” คนพูดหายใจเข้าออกลึกๆ “อีกนิดลูก ขอกำลังใจจากพ่อของหนูก่อนนะ เดี๋ยวเราค่อยเจอกัน”

มุลิลาก้มลงบอกลูกตัวเอง ก่อนจะหันไปหาพงศ์พิศุทธิ์

“ป๊า ขอสามคำ” มุลิลาใช้น้ำเสียงเล็ก แบ๊วสุดๆ ให้ดูน่าทะนุถนอม คาดหวังจะได้ยินคาถาสะกดความเจ็บปวดจากปากของสามี...คำว่า ‘ป๊ารักหนู’ ที่ออกจากปากพงศ์พิศุทธิ์ ที่มุลิลาเคยได้ยินมาตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกัน ทำให้มุลิลาลืมโลกได้ทุกครั้ง เธอจะกลายเป็นซูเปอร์วูแมนขึ้นมาทันที...พลังแห่งความรักช่างยิ่งใหญ่เสมอ 

พงศ์พิศุทธิ์มองซ้ายมองขวาอย่างรีบๆ แล้วก้มลงเหมือนจะกระซิบ แต่ดันเสียงดังจนได้ยินกันหมด

“เลิก-กัน-เถอะ!”

มุลิลาเบิกตากว้างมองหน้าพงศ์พิศุทธิ์

ช็อก!

มุลิลาถูกเข็นเข้าห้องคลอดไปในขณะที่ยังมองพงศ์พิศุทธิ์อย่างตกตะลึง พอภาพสามีลับสายตาและพยาบาลกำลังจะปิดประตูห้องเท่านั้นแหละ มุลิลาก็กรี๊ดลั่นออกมา!

“กรี๊ด! ไอ้ผัวเฮงซวย!” มุลิลาด่าขณะที่พยาบาลเอาเธอขึ้นขาหยั่ง “ไอ้ชิงหมาเกิด! ไอ้สำส่อน”

ด่าแล้วผงกหัวขึ้นด้วยความเจ็บปวด มุลิลาเห็นสูตินรีแพทย์ที่จะทำคลอดกำลังมองหน้าเธออึ้งอยู่ หน้าซีด มุลิลากำลังด่าหมอหรือใครกันนะ นั่นคือความหมายบนใบหน้าของหมอ

“มองทำไม ทำไมไม่มองที่ หะ...หัว...หัวลูกฉัน” แต่หมอก็ยังคงมองตกตะลึงอยู่ มุลิลาตะคอกออกคำสั่งซ้ำราวกับครูฝึกทหารเกณฑ์ “มองข้างล่าง! ก้มลงไป!”

หมอตกใจ ก้มหน้าทำคลอดตามคำสั่ง “เบ่งอีกทีนะครับ”

หมอให้จังหวะ มุลิลาเบ่งตาม แต่เบ่งไปด่าไป

“มันไปเอากับคนอื่น...อื้อ...แล้วมาเอากับ...กับ...กับฉัน หมอ! มันทำได้ยังไง ตอบ!”

หมอเงยหน้ามองคนไข้อย่างตกใจ “เอ่อ...ไม่รู้ครับ หมอไม่เคยทำ”

“แล้วมันก็เลือกคนอื่น...กรี๊ด...” มุลิลากรีดร้องสุดเสียงในจังหวะที่เด็กคลอดออกมาพอดี เสียงร้องของลูกผสมกับเสียงกรีดร้องของแม่ดังสนั่นไปทั้งห้อง พร้อมๆ กับเสียงเคานต์ดาวน์ของคนด้านนอกที่พร้อมใจกันขานรับวินาทีแรกของปีใหม่อย่างมีความสุข

“กรี๊ด!”

“เฮ!”

ปังๆๆ!

เสียงพลุกระจายเต็มท้องฟ้า และ...มุลิลาที่ยังกรี๊ดยาวนาน กรี๊ดราวกับจะปลดปล่อยความเจ็บปวดทั้งหลายทั้งมวลออกมาให้หมด ฝากให้มันกลายเป็นอดีตพร้อมกับปีเก่าที่ผ่านไป

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น