7

ตอนที่ 7


 

“ลีรักคุณอมรหรือเปล่า”

คำถามนั้นทำเอาบราลีอึ้งไปหลายวินาที ดวงตาคู่งามที่มองจ้องเขาคล้ายกับมีความหวาดหวั่นอะไรบางอย่างแฝงอยู่ กวินรู้สึกเหมือนหัวใจถูกเปลวเพลิงสุมจนร้อนรุ่มไปหมดกับการรอคอยคำตอบของเธอ แม้จะไม่ถึงนาที แต่มันก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน

“ลี...” หญิงสาวทอดเสียงลงอย่างลังเล มือของเธอในอุ้งมือของเขาสั่นเล็กน้อย “ลีไม่ขอตอบคำถามนี้ได้ไหมคะ”

“ทำไมล่ะ”

นัยน์ตาของบราลีกลอกไปมาอย่างว้าวุ่น ก่อนจะแข็งกร้าวขึ้นจนเขาเองก็ตกใจ

“ลีจะตอบคำถามนี้ก็ต่อเมื่อ วินตอบคำถามของลีก่อน”

คราวนี้เป็นเขาเองที่อึ้ง กวินมองบราลีอย่างพินิจ การยื่นเงื่อนไขแบบนั้นทำให้เขาเชื่อว่าเธออาจจะไม่ได้รักคุณอมรเหมือนอย่างที่สัมภาษณ์ออกสื่อหลายสื่อ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูก หากไม่ได้ยินจากปากของเธอจริงๆ บางทีเธออาจจะแกล้งยั่วเขา เพื่อให้เขาเผยความลับเมื่อแปดปีที่แล้วออกไปให้เธอรับรู้ก็ได้

เพราะจะมีเหตุผลอะไรล่ะ ที่ทำให้คนอย่างบราลีตัดสินใจแต่งงานกับชายอายุคราวพ่อเช่นนี้ หากไม่เป็นเพราะ...รัก

“ฝนซาแล้ว” บราลีเอ่ยขึ้นขณะหันไปมองที่หน้าต่าง

“แต่มันยังตกอยู่นี่”

“มันดึกมากแล้วค่ะ แล้วลีก็แต่งตัวไม่เรียบร้อยด้วย”

คำพูดทิ้งท้ายของเธอทำให้กวินถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความรู้สึกวูบวาบประหลาด ชุดเปียกชื้นบนโต๊ะชงกาแฟเป็นเครื่องยืนยันคำพูดของเธอได้เป็นอย่างดีว่า ตอนนี้เธอมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำของรีสอร์ตเท่านั้นที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่

“วินเดินไปส่งไหม”

“อืม...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ลีเดินไปเองได้ วินพักผ่อนเถอะ”

“ลีกลัวคนที่บ้านจะเห็นหรือ” เขาย้อนถาม

หญิงสาวนิ่ง ไม่ตอบคำถามเขา ทำให้กวินแน่ใจว่านั่นคือเหตุผลที่เธอปฏิเสธ ซึ่งเขาก็เข้าใจได้ เพราะหากใครมาเห็นเธอในสภาพเช่นนี้อาจเกิดความเข้าใจผิดได้ไม่มากก็น้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็เดินระวังนะ หลังฝนตกถนนอาจจะลื่น”

“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้ม

รอยยิ้มนั้นทำให้เขาอยากดึงเธอมากอดเหลือเกิน แต่เขาก็ทำไม่ได้ ด้วยเหตุผลนานาประการที่คอยกีดกั้นระหว่างกันอยู่

บราลีลุกขึ้นในที่สุด เธอเดินไปหยิบเสื้อผ้าเปียกปอนของตัวเองบนโต๊ะชงกาแฟ จากนั้นก็เดินไปที่ประตู เขาได้แต่ยืนส่งเธออยู่ตรงนั้น รู้สึกเหมือนสองขาหนักอึ้งจนไม่อาจก้าวเดินไปได้มากกว่านี้ จนกระทั่งเธอหยุดกึกยืนนิ่งอยู่ที่ประตู หัวใจของเขาก็ถึงกับเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ

บางทีเธออาจเปลี่ยนใจ

วินาทีที่เธอหันมา เขารู้สึกว่าเธอเหมือนสมบัติล้ำค่าที่มีแสงเจิดจรัส มันทำให้ความต้องการครอบครองเธออย่างเห็นแก่ตัวผุดขึ้นในสมอง

มันต้องมีวิธีช่วงชิงเธอกลับมาสิ

สิ่งเดียวที่เขาแพ้อมรก็คือ เงินทองที่มากล้นจนใช้อย่างไรก็ไม่หมด แต่เขาไม่ได้ขัดสนถึงขนาดต้องกัดก้อนเกลือกินสักหน่อย เขามีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตคู่กับเธอไปตลอดชีวิตอย่างสบายๆ แถมยังหนุ่มแน่นกว่าอีกต่างหาก

“พรุ่งนี้เช้า วินอยากทานข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมไหม” บราลีเอ่ยขึ้นในที่สุด

กวินยิ้ม หัวใจพองฟู โพรงอกเต็มไปด้วยความสว่างไสว คำถามนั้นทำให้เขาตัดสินใจได้ว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา

เขาพยักหน้าช้าๆ “วินคิดถึงข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมฝีมือลีแทบทุกเช้าเลย”

บราลียิ้มแป้นอย่างภาคภูมิใจในคำชมกลายๆ ของเขา “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ก่อนไปออฟฟิศ ลีจะแวะเอามาให้นะ”

“ขอบคุณ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่หุบไม่ลง

“งั้นลีไปละนะ” บราลีโบกมือไหวๆ ท่าทางและรอยยิ้มเช่นนั้นทำให้เขานึกอยากจูบเธอ

กวินพยักหน้าพร้อมกับกลืนความต้องการลงคอ มองเธอหันไปหยิบร่มขึ้นมาแล้วทำท่าจะเดินจากไปก็รู้สึกใจหาย คืนนี้เขาอาจนอนไม่หลับ หากไม่ได้จุดประกายความสุขขึ้นในหัวใจตัวเอง

“ลี” เขาร้องเรียกเธอ

หญิงสาวชะงักทันทีราวกับรออยู่แล้ว ก่อนจะหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง

“คะ”

“พรุ่งนี้เช้าทานข้าวต้มกับวินนะ”

รอยยิ้มน่าจูบเผยออกมาอีกครั้ง เธอพยักหน้า “ได้ค่ะ”

“เดินระวังนะ” เขาย้ำด้วยความเป็นห่วง หัวใจพองโตราวกับกลับไปเป็นหนุ่มอายุสิบแปดอีกครั้ง ก่อนจะมองเธอค่อยๆ หายไปกับความมืดเบื้องนอกด้วยหัวใจที่อิ่มเอมอย่างประหลาด

คืนนี้เขาคงหลับสนิท...

กวินตื่นนอนขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกแจ่มใสเป็นพิเศษ เขาเอื้อมมือไปปิดเสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือแล้วลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวขุ่นด้วยหัวใจที่ยังกรุ่นไปด้วยความสุขจากความฝันแสนหวาน

ไม่มีความง่วงงุนหลงเหลืออยู่เหมือนทุกๆ เช้า

เขาลุกขึ้นนั่งด้วยอาการตื่นตัว มองไปที่หน้าต่าง ข้างนอกยังคงไม่สว่างนัก เขายังมีเวลาไปออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ก่อนจะกลับมาอาบน้ำและนั่งรอข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมฝีมือบราลีอันเป็นของโปรดของเขา

ชายหนุ่มลุกจากที่นอน เดินเปลือยเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา แต่งชุดออกกำลังกายที่เตรียมมา จากนั้นก็เดินออกไปหน้าบ้าน ดึงจักรยานมาขี่พลางนึกถึงฝันแสนหวานเมื่อคืนนี้ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า...

ตอนนี้บราลีกำลังทำอะไรอยู่นะ เธอตื่นนอนหรือยัง หรือกำลังเข้าครัวทำอาหารให้เขาอยู่

กวินยิ้มกับคำถามมากมายในสมอง เขาสูดลมหายใจลึก รับเอาความสดชื่นยามเช้าของรีสอร์ตหรูกลางเมืองกาญจนบุรีเข้าเต็มปอด ก่อนจะออกแรงปั่นจักรยานไปตามทางเดิมที่สำรวจตั้งแต่เมื่อวันวาน

ในระหว่างนั้น เขารู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวแจ่มชัดกว่าเช้าวันก่อน สมองเขาเปิดรับธรรมชาติอย่างเต็มที่ เขาได้ยินเสียงนกร้อง เห็นผีเสื้อกระพือปีก ได้กลิ่นของมวลดอกไม้ อายดิน และใบหญ้าที่ชื้นฝน ผิวกายของเขาสัมผัสกระแสลมเย็นยามอรุณรุ่งได้เป็นอย่างดี

ไม่มีวันไหนในช่วงแปดปีที่ผ่านมาที่เขารู้สึกสดชื่นเช่นนี้มาก่อน เช้าวันนี้ช่างสดใสจริงๆ

ชายหนุ่มจบการออกกำลังในเช้านี้ด้วยการวอร์มดาวน์สิบห้านาที ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เสียบปลั๊กเครื่องชงกาแฟแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอาบท่าให้ร่างกายสดชื่น จากนั้นก็หยิบเสื้อยืดโปโลสีฟ้าครามมาสวมพร้อมกับกางเกงยีนตัวใหม่ หวีผมให้เรียบแปล้แล้วสำรวจตัวเองอีกครั้ง เมื่อเรียบร้อยก็ออกไปชงกาแฟยามเช้าตอนที่น้ำเดือดพอดี

กวินถือถ้วยกาแฟออกไปที่ระเบียงหลังบ้าน ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้แล้วทอดสายตามองแม่น้ำแควใหญ่ไหลเอื่อยเหมือนเวลาที่ผ่านไปทุกวินาที

ตอนนี้บราลีกำลังทำอะไรอยู่นะ

วันนี้บราลีตื่นเช้าเป็นพิเศษ เธอล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปที่ครัวทั้งชุดนอนไนต์กาวน์สีฟ้าบางเบา หลังจากต้มน้ำแล้วค่อยๆ หยิบส่วนผสมต่างๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมาจากตู้กับข้าว นำกระดูกหมูอ่อนที่หันเป็นชิ้นๆ พอดีคำมาใส่ในหม้อที่ต้มน้ำจนเดือดเมื่อครู่แล้วปิด

“อ้าวคุณลี” แม่บ้านดวงร้องทักเมื่อเข้ามาในครัวแล้วเห็นเจ้านายสาว

บราลีหันไปยิ้มให้

“ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังคะ ตื่นก่อนฉันอีก”

“อยากทานข้าวต้มกระดูกหมูน่ะค่ะ” เธอตอบ

“อยากกินก็บอกป้าสิคะ จะได้ทำให้”

บราลีฉีกยิ้มอย่างร่าเริงขณะปิดฝาหม้อ “อยากทำเองน่ะค่ะ เดี๋ยวลีไปอาบน้ำแป๊บนะคะ ฝากป้าดวงดูกระดูกหมูให้หน่อยนะคะ”

“ได้ค่ะ” หญิงสูงวัยค้อมศีรษะ “ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวป้าดูให้”

“ขอบคุณค่ะ” เธอบอก “อ้อ...ฝากหุงข้าวให้ด้วยนะคะ”

“ได้ค่า”

คุณนายสาวยิ้มแฉ่ง ก่อนจะรีบกลับขึ้นไปบนห้องนอน เดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น จากนั้นก็เดินเข้าห้องแต่งตัวแล้วหยิบชุดเดรสแขนกุดสีชมพูอ่อนที่มีลูกไม้สีขาวระบายอยู่รอบคอเสื้อมาสวม แต่งหน้าบางๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็รีบลงไปที่ห้องครัว

“คุณลีจะให้ป้าปรุงเลยไหมคะ” ป้าดวงเอ่ยถามพลางช้อนฟองน้ำเดือดออกจากหม้อ เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปในห้องครัว

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลีจัดการเอง” บราลีบอกก่อนจะเปิดฝาหม้อ หยิบเครื่องปรุงใส่ลงไปพร้อมกับหัวใจช่วยให้รสชาติล้ำเลิศ ขณะเดียวกันก็ฮัมเพลงตลอดเวลา

“วันนี้คุณลีอารมณ์ดีจังนะคะ”

“วันอื่นลีอารมณ์ไม่ดีหรือคะ” เธอถามพลางใช้ช้อนตักน้ำมันหอยใส่ลงไปในหม้อ

“เปล่าค่ะ เพียงแต่วันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ”

“สงสัยวันนี้จะได้ทานของอร่อยมั้ง” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก หยิบไช้โป๊หวาน ผักชี ขึ้นฉ่าย และต้นหอมซอยใส่ลงไปในหม้อ ปิดท้ายด้วยเห็ดหอมอันเป็นสูตรเด็ดของเธอลงไป ทิ้งไว้อีกประมาณสิบนาทีแล้วจึงปิดแก๊ส เมื่อคนทุกอย่างให้เข้ากัน กลิ่นหอมก็โชยขึ้นมาจนน้ำลายสอ

“ป้าดวงตักข้าวให้ทีค่ะ” บราลีเอ่ยพลางใช้ช้อนตักน้ำซุปขึ้นมาชิม ก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงใจแล้วรับข้าวจากแม่บ้านมาใส่ลงไปในหม้อ คนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ

“เดี๋ยวคุณแม่ตื่นแล้ว ป้าดวงช่วยยกไปที่ห้องอาหารให้ทีนะคะ”

“ได้ค่ะ”

บราลีพยักหน้า หันไปหยิบกล่องบรรจุอาหารที่มีระบบอุ่นไฟฟ้ามาสองกล่องแล้วตักข้าวต้มใส่อย่างพอดีอิ่ม ไม่ลืมเติมกระเทียมเจียวเยอะๆ ในกล่องหนึ่งด้วย

“คุณลีจะเอาไปทานที่ทำงานหรือคะ”

“เอ่อ...”

หญิงสาวลังเล แม่บ้านดวงคงคิดว่าเธอเตรียมเอาไว้สองกล่องสำหรับมื้อเช้าและมื้อกลางวัน

“ใช่ค่ะ” บราลีตอบ ก่อนจะรวบกล่องอาหารขึ้นด้วยมือเดียว จากนั้นก็โบกมือให้แม่บ้านสูงวัยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ลีไปก่อนนะคะ”

พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องครัว เดินตัดโถงใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเรือนหรูหราไปที่ประตูใหญ่ สองเท้าก้าวยาวๆ ตามทางเดินลงเนินเขา ก่อนจะเลี้ยวไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับออฟฟิศ นึกสงสัยว่าตอนนี้กวินกำลังทำอะไรอยู่กันนะ

เสียงเคาะห่วงประตูที่หน้าบ้านทำให้กวินตื่นจากภวังค์อันสงบของเช้าวันร่มรื่น เขารีบลุกจากเก้าอี้เพราะรู้ดีว่าใครเป็นคนทำให้เกิดเสียงกังวานนั้นแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ทอดสายตามองไปที่ประตูบานใหญ่

บราลียืนอยู่ตรงประตูเหมือนวันแรกที่เขามาถึง ต่างกันตรงที่วันนี้เธอไม่ได้ทำให้เขาตะลึงด้วยความตกใจ เพราะชุดเดรสสีน่ารักพร้อมกับกล่องอาหารในมือ เขายิ้มเบิกบานแล้วรีบเดินไปเปิดประตูให้เธอเข้ามาทันที

“ขอบคุณค่ะ”

กวินยื่นมือไปรับกล่องอาหารจากมือของเธอ “ลีไปนั่งรอที่ระเบียงเลย เดี๋ยววินจัดการต่อเอง”

“ค่ะ”

ชายหนุ่มเดินไปหยิบชามจากหลังตู้เย็นมาแล้วเทข้าวต้มออกจากกล่อง กลิ่นหอมที่ไม่เคยลืมกรุ่นขึ้นมาเตะจมูกจนน้ำลายสอ

“หอมจัง” เขาเอ่ยกับตัวเองก่อนจะยกชามทั้งสองออกไปที่ระเบียงหลังบ้าน วางมันลงบนโต๊ะเตี้ยข้างๆ เธอ

“ไม่ได้ทำนาน ไม่รู้จะทานได้หรือเปล่า” บราลีถ่อมตัวแล้วหัวเราะคิกคัก

“กลิ่นกับหน้าตา วินให้เต็มสิบ” กวินบอกพร้อมยกนิ้วขึ้นมาสิบนิ้ว “แต่รสชาติต้องขอชิมก่อน”

เขายิ้มแล้วหยิบช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาชิม เมื่อลิ้นสัมผัสความละมุนของรสอาหาร เขาก็รู้สึกว่ารสชาติของข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมแสนอร่อยฝีมือของบราลีนั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

“ยังอร่อยเหมือนเดิมนะ วินให้สิบ”

หญิงสาวยิ้มแป้น “แกล้งชมหรือเปล่าคะ”

“ไม่เชื่อก็ลองชิมดูสิ ของเขาดีจริงๆ” กวินไม่พูดเปล่า เขาตักข้าวต้มขึ้นมาอีกช้อน ก่อนจะยื่นไปใกล้กับริมฝีปากของเธอ

บราลีชะงัก เธอมองเขาอย่างลังเลสักพัก แต่ในที่สุดก็ยอมรับประทานข้าวต้มจากการป้อนของเขา

กวินยิ้มอย่างลำพอง “เป็นไง อร่อยไหม”

เธอเพียงพยักหน้า เขายิ้มสูดลมหายใจลึกราวกับจะเก็บบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นนี้เอาไว้ให้เต็มปอด

“เราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันอย่างนี้นานเท่าไหร่แล้วนะ”

หญิงสาวหัวเราะ “เมื่อวาน เราเพิ่งทานอาหารเย็นด้วยกันนี่คะ”

“วินหมายถึง ทานด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนน่ะ”

บราลีชะงักไปอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วก้มหน้าลงพลางใช้ช้อนเขี่ยข้าวในชาม ท่าทางเช่นนั้นทำให้กวินแน่ใจว่าเธอรู้ความหมายของเขาดี

“วินก็รู้นี่คะ ว่ามันไม่มีทางเหมือนเดิมอีกแล้ว”

ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ “อย่างน้อย เราก็ไม่ได้ทานอาหารด้วยกันเหมือนคนไม่รู้จักกันอย่างเมื่อวาน”

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ

“วันนี้ลีว่างพอจะให้วินสัมภาษณ์ต่อไหม”

หญิงสาวเลิกคิ้วมองเขา “มีเรื่องอะไรจะต้องถามลีอีกหรือคะ”

เขาไหวไหล่ “ก็หลายเรื่อง เกี่ยวกับเอ่อ...ตอนที่คุณอมรขอลีแต่งงาน”

“อ๋อ” เธอครางเบาๆ คิ้วขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตอบ “ช่วงเช้าต้องจัดการเรื่องเอกสารอีกสองสามอย่าง ตอนบ่ายคงว่างค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นบ่ายๆ วินไปหาลีที่ออฟฟิศได้ไหม”

“เอ่อ...เดี๋ยวลีมาหาวินที่นี่ดีกว่าค่ะ”

“ก็ดีครับ ผมจะรอนะ”

บราลีมองเขาด้วยแววตาพิศวง “วินไม่อยากไปเที่ยวไหนหรือคะ”

กวินเกาคางอย่างครุ่นคิด ความจริงแล้วเขาไม่ได้เตรียมแผนจะไปเที่ยวที่ไหนนอกจากนั่งเขียนงานภายใต้บรรยากาศชิลชิลริมแม่น้ำแควเช่นนี้ แต่หากมันจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอให้กลับคืนมาก็น่าสนใจไม่หยอก

“ลีพาวินไปเที่ยวได้ไหม”

เธอชะงัก ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ “คงต้องเป็นตอนบ่ายนั่นแหละค่ะ”

“ไม่มีปัญหา” กวินรีบคว้าโอกาสที่เธอเปิดให้ทันที “ตอนเช้าวินจะได้นั่งเขียนอะไรไปก่อน ตอนบ่ายเราก็ไปเที่ยวกัน วินค่อยสัมภาษณ์ลีตอนนั้นก็ได้”

“เอ่อ...” หญิงสาวคราง ทำหน้าเหมือนคนเผลอตกกระไดพลอยโจน แต่ในที่สุดก็ตอบตกลงจนได้ “เอางั้นก็ได้ค่ะ”

“ดีเลย” ชายหนุ่มดีดนิ้วดังเปาะ “เป็นอันว่าตามนี้นะ”

“ค่ะ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วลีมารับวินก็แล้วกันนะ”

“ครับ” กวินยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนจะรับประทานข้าวต้มกระดูกหมูฝีมือของบราลีด้วยความเอร็ดอร่อย

“อืม...อร่อยนี่” ลีลาวดีเอ่ยชมหลังจากชิมข้าวต้มกระดูกหมูที่แม่บ้านดวงจัดให้บนโต๊ะตัวยาวขนาดสิที่นั่ง “หล่อนทำเองเหรอ ไม่เห็นหล่อนเคยใส่เห็ดหอมนี่”

“เปล่าค่ะ” แม่บ้านดวงส่ายหน้า “คุณลีตื่นมาทำตั้งแต่เช้าค่ะ”

ลีลาวดีเลิกคิ้ว “ยายลีน่ะหรือ”

“ค่ะ ท่าทางอารมณ์ดีด้วยนะคะ ทำไปก็ฮัมเพลงไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยค่ะ”

“อารมณ์ไหน?”

ผู้เป็นเจ้านายพูดงึมงำ พลางรับประทานข้าวต้มอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นก็นึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ลูกสาวเริ่มเรียนทำอาหารกับเธอ

ตอนนั้นบราลีอายุแค่สิบสองสิบสามเท่านั้น แรกๆ แม้แต่ไข่เจียวก็ยังไหม้เกรียมหน้าตาดูไม่ได้เอาเสียเลย แต่หลังจากนั้นลูกสาวของเธอก็เริ่มพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพอรับประทานได้ และในที่สุดก็มีฝีมือเข้าขั้นระดับกุ๊กของโรงแรมในความคิดของเธอ

บราลีสามารถปรุงเมนูที่คิดขึ้นเองได้หลายอย่าง โดยเฉพาะข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอม นับได้ว่าเป็นจานเด็ดที่ใครไม่ชิมไม่ได้เลยทีเดียว

ทว่า...หลังจากเริ่มเป็นดาราแล้ว บราลีก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารบ่อยเหมือนเคย จะทำอยู่อย่างเดียวเท่านั้นนั่นคือเจ้าข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมนี่แหละ เพราะคนรักเก่าชอบและมักจะมารับประทานที่บ้านเกือบทุกสัปดาห์

จนกระทั่ง...

ลีลาวดีเบิกตากว้างเมื่อคิดมาถึงตอนนี้ เพราะครั้งสุดท้ายที่บราลีเข้าครัวทำอาหารก็คือ...ก่อนจะเลิกกับนายกวิน

“ดวง”

“คะ” แม่บ้านสะดุ้ง

“ก่อนออกไป ยายลีทานหรือยัง”

“ยังค่ะ” ดวงส่ายหน้า “เห็นคุณลีเธอตักใส่กล่องไปสองกล่องค่ะ สงสัยจะเอาไปทานที่ออฟฟิศ แล้วก็เอาไปเผื่อตอนกลางวันด้วยมั้งคะ”

“แปลก” ผู้เป็นเจ้านายขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้น

“อ้าว คุณอิ่มแล้วหรือคะ”

“อือ” เธอพยักหน้า ทำท่าว่าจะเดินออกจากโต๊ะ

“คุณไม่ทานยาก่อนหรือคะ” แม่บ้านสูงวัยทักท้วง

ลีลาวดีหันไปจ้องดวงเขม็ง แม่บ้านประจำคฤหาสน์ถึงกับสะอึกแล้วก้มหน้าลงด้วยความเกรงกลัว เธอยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกจากห้องอาหารแล้วตรงไปยังห้องสมุดของบ้านด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น