ปฐมบทนางร้าย
ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นนางร้าย ทั้งในบทบาทการแสดงและชีวิตจริง กุพชกาก็เช่นกัน เธอก็เหมือนกับผู้หญิงทุกคนที่อยากเกิดมาสวยน่ารัก เป็นนางเอก เป็นเจ้าสาวแสนสวยในชีวิตจริงกันทั้งนั้นละ หรือถ้าผู้หญิงคนไหนจะไม่อยากเป็นเจ้าสาว ใครจะอยากเลือกเป็นเจ้าบ่าวก็เอาเถอะ ตามใจ เธอไม่ถือหรอกนะ
เพียงแต่...มันก็เหมือนที่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ กุพชกาก็เลือกชะตากรรมของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
‘หรือว่าชะตากรรมของคนเกิดเป็นนางร้าย มันต้องไม่ได้ตายดีแบบนี้นะ’
หญิงสาวคิดอย่างทดท้อใจขณะไล่ปลายนิ้วมือไปบนหน้าจอแท็บเล็ตในมือ ไถฟีดอ่านข้อความใต้ข่าวซุบซิบดารา มันเป็นข่าวฉาวข่าวหนึ่งที่มียอดวิวสูงทีเดียว
‘นางร้าย ก. ไก่ แย่งผัวชาวบ้าน!’
พาดหัวอย่างตื่นเต้นเร้าใจ บรรยายด้วยสำนวนเหมือนมีอีป้าข้างบ้านมาป้องปากกระซิบเรื่องที่รู้แล้วเหยียบไว้ให้ฟังที่ข้างหู เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ชักนำให้คนอยากยกพวกไปตบนังดาราหน้าไม่อาย แถมมีอักษรย่อพร้อมประวัติสั้นๆ ให้ไปค้นหากันเสร็จสรรพ ใต้รายงานข่าวที่เกือบจะคลุมเครือคือคอมเมนต์ชาวเน็ตนับพันข้อความที่พากันเข้ามาคาดเดาชื่อนางร้ายคนนั้น พร้อมทั้งสาปส่งกันอย่างถ้วนหน้า ด้วยภาษาทุกระดับชั้นที่สามัคคีกันด่าไปในทิศทางเดียวกัน
‘นังนางร้าย ต้องไม่ได้ตายดี!’
ภายใต้ข้อความสาปแช่งและชื่อที่ถูกคาดเดาทั้งถูกและผิดเหล่านั้น หญิงสาวยักไหล่ เบะปากใส่ความเกลียดชังของมหาชน
ช่างหัวมันสิ ใครสน ใครแคร์กันล่ะ!
ร่างระหงในชุดเสื้อกล้ามรัดรูปคลุมไหล่ไว้ด้วยเสื้อสูท ยกขาเรียวที่อยู่ในกางเกงยีนสกินนีฟิตเปรี๊ยะขึ้นไขว่ห้างในท่วงท่าโนสนโนแคร์ใครทั้งนั้น ดวงหน้าสวยเฉี่ยว เชิดคอระหงขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เอนหลังพิงพนักโซฟาตัวยาวที่นั่งอยู่
พวกที่ด่าๆ น่ะ เคยมารับรู้มาเข้าใจความลำบากของเธอไหม ไม่มี้ แล้วทำไมเธอจะต้องไปแคร์คนพวกนั้นด้วยยะ กุพชกาไม่ใช่นางเอกสายขาวที่ต้องคีปลุคเพื่อรักษาฐานแฟนเสียหน่อย แอนตี้แฟนต่างหากคือเป้าหมายหลักของเธอ ยิ่งมีคนด่า ยิ่งมีคนแอนตี้ สร้างกระแสเกลียดชัง ยกพวกมาเกลียด ชื่อติดแฮชแท็กคำค้นอันดับต้นๆ ได้บ่อยๆ ยิ่งดี
“ขืนมีข่าวคาวไม่เลิกแบบนี้ ระวังอีกหน่อยจะหาผัวดีๆ ไม่ได้นะ”
เสียงห้าวๆ ของผู้ชายดังขึ้นขัดความคิดเธอให้ชะงักลง กุพชกาลดแท็บเล็ตในมือลงเพื่อมองหน้าคนที่ออกความเห็นให้ชัดตา ผู้มาใหม่คือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีเข้มสวมทับเสื้อเชิ้ตสีอ่อนปลดกระดุมหลายเม็ดเปิดอกที่มีกล้ามอกแน่นๆ อย่างคนฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดี ช่วงคอแข็งแรงสีแทนรับกับดวงหน้าที่...ก็งั้นๆ
แหงละ ในสายตาของดาราสาวที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งพระเอก ทั้งผู้ร้าย...แค็กๆ หมายถึงผ่านสายตาย่ะ อย่าคิดเยอะเซ่ เอาง่ายๆ คือเธอเห็นผู้ชายงานดีมาหมดวงการบันเทิงไทยและสากลแล้ว ใบหน้าได้รูปคมเข้มแบบชายไทยของผู้ชายตรงหน้าแม้ดูดีกว่าคนทั่วไป แต่ในสายตาเธอยังถือว่าธรรมดาดาษดื่น
หญิงสาวเบ้ปากให้ชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามานั่งโซฟาตัวใกล้ๆ พวกเขาอยู่บริเวณโซฟารับแขกในล็อบบีโรงแรมแห่งหนึ่ง มันเป็นโรงแรมขนาดกลาง ตกแต่งไม่ได้หรูหรามากนัก ยิ่งเป็นช่วงกลางดึก แสงไฟสลัวยิ่งหม่นจวนดับ บริเวณที่กุพชกาเลือกนั่งอยู่ที่ลึกสุด ห่างไกลจากคนอื่น ค่อนข้างเป็นส่วนตัวพอสมควร
“ต่อให้ไม่มีข่าวฉาว ฉันก็หาไม่ได้อยู่แล้วปะ ขอบคุณในความ ‘อยากใส่ใจ’ นะยะ” กุพชกาตอบรับคำทักทายด้วยถ้อยคำจิกกัด ความหมายของคำว่า ‘อยากใส่ใจ’ ใน พ.ศ. นี้มีความหมายถึงการสอดรู้สอดเห็น ว่าง่ายๆ ภาษาชาวบ้านก็คือเสือกนั่นแหละ
“ปากแบบนี้นะมันน่า...” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวอย่างมีอารมณ์ ยายนางร้ายปากแจ๋วนี่วอนโดนซัดสักตุ้บ
“ทำไม นายปากหมาใส่คนอื่นได้อย่างเดียวงั้นเหรอ คนอื่นจะด่านายมั่งไม่ได้งั้นสินะ” กุพชกาโต้ด้วยตรรกะที่ยิ่งวอนโดนทำร้ายร่างกายเข้าไปใหญ่
“สรุปได้ของมาไหม” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากนั้นสักพักใหญ่ หลังจากที่สูดหายใจลึกแรงข่มใจอยู่นานจนตัดใจจากความโกรธได้ จึงกลับมาเข้าเรื่องงานได้เสียที
“ชิ!” กุพชกาสะบัดเสียงใส่ก่อนจะล้วงหยิบของบางอย่างออกมาจากนม...เอ่อ แค็กๆ หมายถึงร่องอก
หญิงสาวสวมเสื้อสูทแฟชั่นตัวหลวมคลุมทับเสื้อกล้ามสีดำ คอคว้านกว้างจนเผยเนินเนื้อคัปซีที่ดันนูนออกมาขาวผ่องสะดุดตาจนยากที่ใครได้มองแล้วจะละสายตาไปได้ง่ายๆ ทรวงอกตึงแน่นดันชิดกันสนิทนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้มีเพียงนวลเนื้อชวนฝันคู่นั้นอยู่ แต่ยังมีสิ่งของบางอย่างซุกซ่อนไว้จนเมื่อเธอหยิบออกมายื่นส่งให้ ผู้รับจึงได้รู้ว่ามันคือแฟลชไดรฟ์ชิ้นหนึ่งมีความจุหลายสิบกิกะไบต์
“โอ้ ได้มายังไงเนี่ย” ฝ่ายชายทำเสียงอัศจรรย์ใจ ขณะเธอยักไหล่ไม่ยี่หระ
“เอามาได้แล้วกันน่ะ”
“เอาตัวแลกมา?” เจ้าของเสียงห้าวคาดคะเน เป็นการคาดคะเนที่ทำให้ได้ยินเสียงใสๆ สบถหยาบคายใส่แทบจะควานมือไปหาอะไรมาขว้างใส่
“ปากมากนักเอาคืนมา ฉันจะได้เอาไปคืนเจ้าของ ไม่ต้องทำละงานนายน่ะ” มือเรียวที่ทำสีเล็บไว้แดงสดยกยื่นจะยื้อแย่งเอาคืนมา ทำให้อีกฝ่ายรีบเก็บของเข้าในอกเสื้ออย่างมิดชิด
“เรื่องแน่ะ” เขาบอกพลางเบี่ยงตัวหลบมือเธอ
“นี่ ได้ของไปแล้วอย่าลืมค่าตอบแทนฉันนะยะ” กุพชกาไม่ลืมวางบิลด้วยน้ำเสียงจิกกัด
“รู้ละน่า งกจริง” ชายหนุ่มรับคำ สีหน้ารำคาญใจขณะถามตัวเองว่า ยายนางร้ายน่ารำคาญคนนี้มันมีอะไรดีบ้างนะ อ้อ นมคัปซีนั่นไง ของดีอย่างเดียวของเธอ นอกนั้นนะ...เหอะ!
“แล้วจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน” คนได้รับของเสร็จธุระแล้วลุกยืนขึ้นพลางถาม
“ขอซ่อนตัวสักพัก งานนี้น่าจะยาว” กุพชกาถอนหายใจ มองกล่องข้อความที่เด้งขึ้นไม่หยุดในช่องข้อความของโปรแกรมสื่อสารแทบทุกโปรแกรมที่มีในแท็บเล็ตเครื่องพอดีมือที่เธอใช้อยู่ โทรศัพท์หลายเครื่องที่มีถูกปิดไปนานแล้ว เหลือแต่เครื่องที่มีเบอร์เฉพาะที่ไม่มีใครรู้มาก่อน
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับข่าวฉาวล่าสุดนั่น” คนที่ทำท่าจะไป แต่ยังไม่ยอมไปยังตั้งคำถามไม่เลิกรา
“หึ!” กุพชกามุมปากกระตุก แค่นเสียงหยัน “เจ้าเดิม เจ้านายแม่ฉันนั่นแหละ”
“ยายพรพรรณเอาเธอไปขายอีกแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามประหลาดใจ “เธอควรแจ้งความข้อหาค้ามนุษย์กับยายป้านั่นได้แล้วนะ”
“ยายป้านั่นดันให้แม่ฉันเป็นคนจัดการอะไรๆ ทุกอย่างน่ะสิ ขืนแจ้งความไปชื่อฉันได้ขึ้นแฮชแท็กอันดับหนึ่งอีกแน่ๆ ประมาณ ‘นางร้ายทรพี แจ้งจับแม่ตัวเอง’ อะไรแบบนี้” กุพชกาเบ้ปากสีหน้าระอาใจ ขณะคนฟังก็พลอยส่ายหัวไปด้วย
“เออๆ นายจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ฉันอยู่นี่อีกสักหลายวันก่อนค่อยกลับ ตอนนี้เหนื่อยใจโคตรๆ เลยว่ะ” หญิงสาวโบกไม้โบกมือไล่คู่สนทนาที่ยักไหล่ทีหนึ่งก่อนหมุนตัวเดินออกไป ไม่สนใจเธออีกต่อไป
เมื่อเขาเดินห่างออกมาก็มีพนักงานโรงแรมเดินเข้าไปหาเขา ทำท่าเหมือนคอยรับคำสั่ง ชายหนุ่มร่างสูงหยุดพูดคุยกับผู้จัดการโรงแรมอีกหลายประโยค โดยไม่ลืมสั่งให้ดูแลแขกวีไอพีให้ดีๆ ก่อนที่เขาจะออกจากโรงแรมไป
หลังจากส่งแขกเรียบร้อยแล้ว ร่างเพรียวบางก็เอนตัวลงดึงขาขึ้นมาบนโซฟาตัวยาว ทำท่าเหมือนจะนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น โดยมีพนักงานโรงแรมบางส่วนที่มายืนอยู่ห่างๆ คล้ายอารักขาเธอกลายๆ ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนเธอ ในความมืดสลัวตรงนั้น ถ้าไม่สังเกตคงไม่มีใครรู้ว่ามีดาราสาวชื่อดังใช้มุมห้องมืดสลัวนั่นเป็นที่ซ่อนกายจากพายุข่าวฉาวที่โหมกระหน่ำ
กุพชกาไม่ได้รู้เลยว่าภาพการพบปะสนทนาของเธอและชายหนุ่มเมื่อครู่นี้ ไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวอย่างที่เธอคิด เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาคู่หนึ่งที่เฝ้ามองอยู่...ในมุมมืดที่ลึกลับ คอยจับตาดุจสัตว์ร้ายที่ซุ่มซ่อนรอคอยจังหวะเวลาที่จะตะครุบเหยื่อ
ความคิดเห็น |
---|