9

เข้าถ้ำเสือปล้ำลูกเสือ


บทที่ ๙
เข้าถ้ำเสือปล้ำลูกเสือ

 

 ชายหนุ่มใช้มือฉีกไก่ตุ๋นชิ้นสุดท้ายออกจากโครงและซดน้ำซุปจนหมดเกลี้ยงถ้วย ซุปไก่ถ้วยนี้มีลักษณะพิเศษคือใช้ไก่ทั้งตัวมาตุ๋นจนเนื้อเปื่อย กลิ่นน้ำซุปอันเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ดราก้อนคุ้นเคยตั้งแต่เล็ก ยิ่งผนวกกับลายมือรวมถึงชื่อเล่นที่รู้กันเป็นการภายในทำให้รู้ว่ามารดาปลอดภัย 

 เขากองเศษกระดูกไก่ไว้ทางด้านหนึ่งของจาน และใช้มือล้วงเข้าไปในโครงไก่ช่วงลำตัวเพื่อนำของชิ้นหนึ่งออกมา หลอดที่ทำจากโลหะภายในมีกระดาษแผ่นหนึ่งม้วนพับสอดอยู่ ดราก้อนคลี่ออกและอ่านจดหมายที่เขียนอยู่ด้านใน ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อจำได้ว่านี่คือลายมือของเหว่ยป๋อจือ

 “เหวินลู่ชิง”

 คิ้วขมวดมุ่นเมื่อเห็นชื่อบนกระดาษ ดราก้อนล้วงมือเข้าไปหวังว่าจะพบจดหมายฉบับอื่น แต่เปล่าเลย ในโครงไก่ว่างเปล่า สีหน้าชายหนุ่มเคร่งเครียดเมื่อต้องขบคิดปริศนาที่มารดาส่งมา

 การที่ทำลงมือทำซุปไก่เองบ่งชัดว่ามารดาปลอดภัย ส่วนข้อสองคือชื่อที่เขียนมาในกระดาษคล้ายเป็นปริศนาบอกใบ้ มารดาต้องการสื่อว่าอะไรกันนะ เหวินลู่ชิงคือคนลงมือหรือว่าบอกว่าท่านอยู่ในบ้านเหวินลู่ชิงกันแน่ ดราก้อนกำมือแน่นขมวดคิ้ว เขานึกถึงภาพจากกล้องที่เอริกส่งมาให้ดู คนที่ตามเขาไปที่วัดแม่ชี คือคนสนิทของเหวินลู่ชิงรวมถึงหยางอิง แถมก่อนหน้านั้นยังมีชายฉกรรจ์อีกหลายคนไปป้วนเปี้ยนที่วัดหรือว่าเหวินลู่ชิงส่งคนไปเก็บมารดาแต่พลาด เขาจึงจับตัวท่านไป 

 มือเรียวเผลอกำแน่น ขบกรามจนเป็นสันนูน บ้านของเหวินลู่ชิงค่อนข้างสลับซับซ้อน อีกทั้งยังมีการรักษาเวรยามแน่นหนา หากเป็นคนนอกไม่มีทางเข้าไปได้แน่ แม้ดราก้อนจะถือว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทแต่สำหรับเหวินลู่ชิงแล้วเกลียดเขายิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ เขาไม่มีทางเดินดุ่มๆ เข้าไปได้แน่ นอกเสียจากว่ามีข้ออ้าง แต่ข้ออ้างอะไรที่จะทำให้คนในบ้านหลังนั้นยอมเปิดประตู

 รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากแม้จะเป็นแผนการที่ไม่ค่อยดีนักแต่ก็ดีกว่าการนั่งรออยู่เฉยๆ ดราก้อนเป็นห่วงมารดา ป่านนี้ท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง สุภาษิตกล่าวไว้ว่าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่มีวันได้ลูกเสือ เขาต้องยอมเพื่อรู้ว่ามารดาปลอดภัย 

 ชายหนุ่มเงยหน้าเมื่อบานประตูเปิดออก เขารีบสอดกระดาษเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ลี่หงเดินเข้ามาพร้อมกับเบียร์และกับแกล้ม พอเห็นกองกระดูกไก่ก็หน้าบึ้งทันที 

 “กินไม่แบ่งเลยนะริว ใจดำชะมัด”

 “โทษที ฉันหิวจนลืมตัว เอาไว้คราวหน้าฉันบอกแฟนคลับทำมาให้ใหม่”

 “อร่อยละสิ นายซัดจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำ”

 “เออ นายเหนื่อยหรือเปล่า ไปซื้อเบียร์คงลำบากมากสินะ”

 เขาแตะตรงหัวไหล่และกดให้ผู้จัดการหนุ่มนั่งลง ก่อนรับถุงกับแกล้มไปใส่จานและนำมาวางตรงหน้า ลี่หงมองแบบจับผิด

 “นายไม่สบายหรือเปล่า”

 “เปล่า” ดราก้อนเสียงสูง ยื่นจานกับแกล้มซึ่งเป็นไก่ทอดแบบเกาหลีส่งให้และเปิดกระป๋องเบียร์ยื่นไปตาม 

 “ดื่มเถอะ นายมาเหนื่อย”

 “จะเอาอะไรอีกว่ามา”

 “แหมๆๆ นายดูถูกฉันอีกแล้วนะ ฉันแค่เป็นห่วง เห็นนายขับรถมาเหนื่อยๆ”

 “อยากได้อะไร จะเอาอะไรบอกมาตรงๆ อย่าเวิ่นเว้อ”

 ดราก้อนลูบท้ายทอยป้อยๆ ลี่หงเป็นคนตรงไปตรงมาแถมยังรู้ใจเขาที่สุด     “นายนี่หัวแหลมจริงๆ”

 “ฉันไม่ใช่ลิงแต่เป็นผู้จัดการคนเก่งของนาย เผื่อลืม”

 “เออ ไม่ลืมหรอกน่า และฉันก็รู้ว่านายทำได้ทุกอย่าง”

 ลี่หงขมวดคิ้วมองหรี่ตาแบบสงสัย มองดราก้อน “ชักทะแม่งๆ แล้ว อย่างนี้ต้องขออะไรยากๆ แหงเลย”

 “เปล่า”

 “พอ บอกมาตรงๆ ไม่งั้นฉันกลับ” ลี่หงยกไม้ตายขึ้นมาขู่ ดราก้อนยิ้มแบบมีเลศนัย

 “เออ พูดก็ได้ ฉันมีเรื่องอยากให้นายช่วย คือว่าฉันอยาก” ชายหนุ่มลากเสียงยาว มองลี่หง

 “ว่ามาเดี๋ยวนี้ ด่วนที่สุด”

 “ฉันมานั่งนึกๆ ดูแล้วนะ ก่อนหน้าที่จะเริ่มงานอาทิตย์หน้า ฉันอยากซ้อมร้องเพลงกับคุณหยางอิง นายว่าพอจะเป็นไปได้ไหม”

 

“นั่งรอฉันในห้องนี้ก่อนนะจีน่า ฉันขอประชุมออนไลน์กับหัวหน้าแผนกแป๊บเดียวเดี๋ยวกลับมา”

เหวินลู่ชิงกำชับ เขาเพิ่งพาคู่ควงคนล่าสุดมาแวะที่บ้าน แต่ก็มีโทรศัพท์ด่วนจากลูกน้องในเมืองไทยเพื่อขอปรึกษา เขากับจีน่าควงกันมาได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว ด้วยหุ่นอันอวบอัดผนวกกับลีลาเร้าใจทำให้เหวินลู่ชิงติดใจ 

เขาประเคนซื้อของให้หล่อนหลายชิ้นเพราะกำลังเห่อ จีน่าเพิ่งเข้าวงการได้แค่สามเดือน หล่อนเคยเป็นดาราในหนังเกรดบีมาก่อน แต่เพิ่งจะมาโด่งดังจากโฆษณาสินค้าตัวหนึ่ง ตามด้วยการเล่นหนังในบทแม่ยั่วเมือง ชื่อเสียงของจีน่าโด่งดังขึ้นจนกลายเป็นที่จับตา เหวินลู่ชิงได้พบกับหล่อนในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ควงกันมาเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเจ้าพ่อมาเฟียอย่างเขาที่จะเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น ข้อดีของจีน่าคือว่าง่าย และไม่งอแง ผิดกับคู่นอนคนอื่นๆ ที่พอเอาใจเข้าหน่อยก็เรียกร้องไม่มีที่สิ้นสุด

“ได้ค่ะคุณเหวิน ไม่ต้องรีบนะคะ จีน่ารอในนี้ได้”

ร่างอวบอัดยื่นหน้ามาหอมตรงสันกรามฟอดใหญ่ มือเรียวโอบรอบคอชายวัยกลางคนเอาไว้ ทรวงอกคัปดีเบียดจนชิดเผยให้เห็นอกอวบอัดละลานตา ร่างนุ่มนิ่มที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนทำให้เหวินลู่ชิงมันเขี้ยว เขาแอบตีก้นหล่อนเบาๆ จีน่าสวมชุดเดรสผ้ายืดสั้นกุดเผยอให้เห็นท่อนขาเรียวกลมกลึง

“เอาใจเก่งแบบนี้ อยากได้อะไรอีก”

“จีน่าไม่ได้อยากได้อะไรสักหน่อย แค่ขอให้คุณมีเวลาให้จีน่าบ้างก็แค่นั้น อย่าเพิ่งทิ้งกันเสียก่อน”

ร่างอวบอัดซบหน้านิ่งทำท่าเหมือนลูกแมวขี้อ้อน เหวินลู่ชิงแตะแก้มหล่อนเบาๆ จูบตรงริมฝีปากเร็วๆ 

“เธอกำลังทำให้ฉันเสียงานนะ ขืนยังยั่วกันแบบนี้ละก็ ฉันคงไม่ทันประชุมแน่”

“ก็ดีออก จีน่าไม่อยากให้คุณเหวินต้องเหนื่อย”

เหวินลู่ชิงยิ้มตีก้นแน่นๆ ของหญิงสาวอย่างมันเขี้ยว

“นั่งอยู่ในนี้ ถ้าอยากเข้าห้องน้ำละก็ออกประตูเลี้ยวซ้าย อ้อห้ามขึ้นชั้นบนเด็ดขาด เข้าใจใช่ไหม”

“เข้าใจค่ะ คุณสั่งจีน่าหลายรอบแล้ว”

“น่ารักแบบนี้ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ เดี๋ยวพอประชุมเสร็จฉันจะพาไปกินของอร่อยๆ กัน”

ร่างหนาอมยิ้มยื่นหน้ามาหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ จีน่ามองตามเหวินลู่ชิงที่เข้าไปในห้องด้านในและงับประตูลง ห้องทำงานนี้ด้านนอกคือห้องสมุดส่วนชั้นในมีห้องประชุมขนาดเล็ก จีน่าคลี่ยิ้มนำโทรศัพท์มือถือสอดลงในกระเป๋า สายตามองไปที่ประตู นี่เป็นครั้งแรกที่จีน่าได้มาเหยียบบ้านหลังนี้ ภาพของคฤหาสน์หลังใหญ่สมฐานะมหาเศรษฐีของฮ่องกง แต่สิ่งที่จีน่าสนใจไม่ใช่แค่บ้าน แต่หล่อนต้องการทำให้ทุกคนในบ้านรับรู้ต่างหากว่ามีความสำคัญเช่นไรต่อเหวินลู่ชิง

‘คุณเหวินมีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่าหยางอิง เขารักลูกสาวเขามาก’

‘แต่เขาบอกว่ารักฉันมากกว่า’

‘บ้าน่า แกมันก็แค่เมียเก็บ แต่นั่นมันลูกในไส้’

เหวินลู่ชิงกับหยางอิงไม่ค่อยลงรอยกันนัก เพราะหลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตลง เหวินลู่ชิงก็ไม่มีเวลาให้ลูก เขาทำธุรกิจอีกทั้งต้องเดินทางไปมาหลายประเทศ ในเรื่องส่วนตัวเหวินลู่ชิงเจ้าชู้มาก เขาเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น

‘งั้นฉันก็จะทำให้เขากับลูกแตกคอกัน’

ร่างอวบอัดคลี่ยิ้ม หล่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้และผลักประตูออกไปจากห้องทำงาน เหวินลู่ชิงสั่งหล่อนไม่ให้ขึ้นไปข้างบน แต่เขาไม่ได้ห้ามหล่อนไม่ให้ตามหาบุตรสาวนี่นา บางทีการเข้าไปทำความรู้จักคุณหนูหยางอิงคนสวยก็อาจจะไม่ได้เลวร้ายเท่าใดนัก 

 

“ใจเย็นๆ ค่ะคุณหนูหรี่ไฟก่อน เดี๋ยวปลาแข็งเกินไป”

วันนี้เป็นวันหยุดหยางอิงยังถูกกักตัวอยู่ในบ้านเช่นเคย หลังจากใช้เวลาอยู่แต่ในห้องวันนี้หญิงสาวจึงขอให้ลี่ฟางสอนทำอาหารแก้เบื่อ เมนูวันนี้คือปลานึ่งซีอิ๊วสูตรของลี่ฟาง เริ่มจากการเตรียมปลาเก๋าที่ได้มาจากตลาด ตามด้วยกระเทียม พริกไทย ซีอิ๊วซอสปรุงรสกระเทียมพริกไทยและซอสปรุงรส หลังจากนั้นจึงนำไปทอด 

“อิงเบาไฟแล้วค่ะ แต่ทำไมมันร้อนจัง”

“หรี่ไฟลงอีกค่ะ เราต้มน้ำแค่ให้เดือด หลังจากนั้นใส่ปลาลงไป ตอนนี้ไฟไม่ต้องแรงมากนะคะ ที่สำคัญต้องจับเวลา นึ่งปลาต้องอย่านานเกิน เนื้อจะไม่อร่อย”

“ยากจัง”

“แค่นึ่งปลาเนี่ยนะคุณหนู ไม่ยากหรอกค่ะ แค่ต้องใจเย็นๆ”

“งั้นอิงเปลี่ยนเป็นข้าวไข่เจียวดีกว่า”

“โอ๊ยไม่ได้ค่ะ กินไข่เจียวอย่างเดียวไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ ต้องกินปลาดีกว่าเนื้อนุ่มย่อยง่ายแถมยังช่วยคุมน้ำหนัก”

“งั้นอิงไม่กินอะไรเลยดีกว่ากลัวอ้วน”

“ใจเย็นๆ สิคะคุณหนู ทำอาหารต้องค่อยๆ จะหั่นผัก ทำอะไร ก็ต้องค่อยเบามือ”

“นี่ป้าฟางบอกว่าอิงมือหนักหรือคะ” หยางอิงแหวเสียงสูง ลี่ฟางโคลงศีรษะเบาๆ 

“เปล่าค่ะ ป้าแค่จะสอน อีกหน่อยคุณหนูก็ต้องแต่งงานไป ต้องหัดทำกับข้าวเอาไว้”

“อิงไม่แต่ง อิงแค่จะหัดทำอาหารเฉยๆ ไม่ได้อยากทำให้ใครกินเสียหน่อย”

ลี่ฟางอมยิ้ม มองหยางอิงทำปากยื่นคอยาวแบบขำๆ 

“งั้นทำให้คุณพ่อกินเป็นยังไงคะ คุณท่านชอบกินปลาเก๋านึ่งซีอิ๊วมากๆ”

“ป๊าคงไม่กลับมากินหรอกค่ะ ช่วงนี้แทบไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ”

เหวินลู่ชิงกำลังเห่อคู่ควงคนใหม่ ท่านจะสั่งกักบริเวณหล่อนแต่ตัวเองแทบไม่กลับบ้าน ข่าวกอสซิปบอกว่าบิดาพาดาราสาวรุ่นลูกไปค้างที่คอนโดริมแม่น้ำ นับตั้งแต่ทะเลาะกันวันนั้นหล่อนก็เอาแต่ขังตัวอยู่ในห้องด้วยความโมโห บิดาไม่ยอมฟังคำอธิบายของหล่อนด้วยซ้ำ โชคดีที่หย่งเต๋อยืนกรานเสียงแข็งว่าอนุญาตให้หยุดงานแค่หนึ่งสัปดาห์ หากไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

“อย่าน้อยใจไปเลยนะคะ คุณท่านงานยุ่ง”

“ยุ่งงานหรือว่ายุ่งเรื่องผู้หญิงกันแน่คะป้าฟาง”

“ไม่เอาค่ะ พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลย ยังไงท่านก็เป็นพ่อนะคะ”

“ก็มันจริงนี่คะ”

“คุณท่านรักคุณหนูนะคะ ถึงแม้ท่านจะมีคู่ควงแต่ก็แค่ของเล่นชั่วคราว ท่านเป็นผู้ชายนะก็ต้องมีกันบ้าง”

“ป้าฟางเข้าข้างป๊าหรือคะ ทำไมผู้ชายถึงมีสิทธิ์มีเล็กมีน้อยไม่ได้หยุด” หยางอิงหน้าตึง ละมือจากเตาไฟมากอดอก หล่อนกระแทกตัวลงบนเก้าอี้ในครัว

 “ป้าไม่ได้เข้าข้างใคร แต่อยากให้คุณหนูเปิดใจ ถึงคุณท่านจะมีคู่ควงแต่ท่านก็ไม่เคยพาใครมาที่บ้าน”

 “งั้นหรือคะ”

เสียงฝีเท้าที่มาหยุดตรงหน้าทำให้หยางอิงและลี่ฟางหันไป พอเห็นร่างอวบอัดเต็มตา หยางอิงก็เบิกตากว้าง ชี้นิ้ว

 “เธอเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้ยังไง”

 ลี่ฟางหน้าซีด มองคนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในครัว ดาราคนนี้คือคู่ควงคนล่าสุดของเหวินลู่ชิง

 “เอ่อ ขอโทษนะคะ พอดีจีน่าอยากจะเข้าห้องน้ำ”

 “ห้องน้ำอยู่ที่ตึกใหญ่นู่น ไม่ใช่ที่นี่”

 “อ้าว หรือคะ ขอโทษค่ะ พอดีจีน่าเดินหลงมา คุณหนูหยางอิงพอจะบอกทางกลับหน่อยได้ไหมคะ จีน่าจะได้ไม่หลง”

 หยางอิงกอดอก จ้องคนตรงหน้าตาวาว “เธอรู้จักชื่อฉัน”

 “ก็พอทราบมาบ้าง ความจริงอายุเราน่าจะรุ่นใกล้ๆ กันนะคะ น้องหยางอิงพอจะบอกทางให้พี่ได้ไหมคะ”

 นักร้องสาวกำมือแน่น จ้องคนตรงหน้าอย่างโกรธจัด ท่าทางที่ดูเหมือนซื่อแต่นัยน์ตามันหลอกกันไม่ได้ “ฉันไม่ใช่น้องเธอ ออกไปเสีย บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”

 “งั้นหรือคะ แต่คุณเหวินบอกว่าฉันจะเดินไปไหนมาไหนในบ้านนี้ก็ได้ ยกเว้นแต่ห้องนอนของน้องอิง”

 “แต่ฉันไม่ต้อนรับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างแก”

 จีน่ายกมือป้องปากหัวเราะแบบมีจริต ตายังคงยั่วโมโหหยางอิงต่อ “ขอโทษนะคะ ที่ฉันเอาความต่ำๆ มาแปดเปื้อนที่บ้านนี้ แต่พอดีคุณพ่อของน้องพาฉันมาที่บ้าน ท่านยังบอกอีกนะคะว่าประชุมเสร็จจะพาไปหาของอร่อยๆ กิน”

 หยางอิงกำมือแน่น มองคนตรงหน้าอย่างโกรธจัด “นี่แก กล้ามาหยามฉันถึงถิ่นงั้นหรือ ออกไปเดี๋ยวนี้”

 นักร้องสาวปราดเข้าไปหา ลี่ฟางยื้อแขนเอาไว้ เอ่ยห้าม 

 “อย่าค่ะคุณหนู อย่าเสียเวลากับคนแบบนี้ มันไม่คุ้มหรอกค่ะ”

 “ไม่ค่ะป้าฟาง อิงจะต้องเล่นงานมัน มันจงใจมายั่วโมโหอิงถึงที่นี่”

 จีน่าลอยหน้าลอยตายั่ว หยางอิงตรงเข้าไปหมายจะเล่นงาน แต่ลี่ฟางก็ยังคงยื้อมือเอาไว้ 

 “คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ แต่อย่ามาวุ่นวายแบบนี้ เชิญ”

 “งั้นจีน่าไปก็ได้ ป่านนี้คุณเหวินคงประชุมเสร็จแล้ว และเราก็จะได้ไปหาของอร่อยกินกัน แล้วก็อาจจะไปหาความสุขกันที่คอนโด”

 ร่างอวบอัดยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ สายตาบ่งชัดว่าต้องการประกาศสงคราม หยางอิงโกรธจัด หล่อนดิ้นจนหลุดจากการเกาะกุม พุ่งเข้าไปกระชากเส้นผมของจีน่า อีกฝ่ายร้องกรี๊ดเสียงดังลั่น

 “ตายแล้วคุณหนู อย่าค่ะ” ป้าฟางร้องห้ามแต่หยางอิงหูอื้อตาลาย หล่อนกระชากผมดาราสาวจนล้มและกดอีกฝ่ายลงพื้น กระโดดขึ้นคร่อมเงื้อมือจนสุด จีน่าแสยะยิ้ม พึมพำพอให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

 “เธอมันก็เหมือนแม่ของเธอ ที่ต้องเน่าตายคาบ้าน”

 หยางอิงโมโหจนฟิวส์ขาด หล่อนตบหน้าจีน่าอย่างแรง อีกฝ่ายร้องกรี๊ดเสียงดังกว่าเดิมแสร้งทำเป็นปัดป้องแต่แท้จริงคือจงใจยั่วหยางอิงให้โกรธมากขึ้น

 “หยุดเดี๋ยวนะคะคุณหนู ไม่เอาค่ะ หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ” ลี่ฟางพยายามดึงหยางอิงออกมา

 “ป้าฟางไม่ได้ยินหรือคะ มันพูดลามปามถึงแม่”

 “พ่อเธอไม่สนใจเธอแล้ว นังลูกแหง่”

 นักร้องสาวใช้มือบีบคอจีน่า อีกฝ่ายแสร้งบีบน้ำตา หยางอิงเงื้อมือขึ้นอีกครั้งแต่ยังไม่ได้สัมผัสกับใบหน้า ข้อมือก็ถูกตรึงเอาไว้ หยางอิงหันไปพอเห็นว่าเป็นใครก็หน้าซีดเผือด

 “ทำบ้าอะไรอิง”      

 “ป๊า”

 หยางอิงลดมือลงเมื่อเหวินลู่ชิงดึงให้หล่อนลุกขึ้นจากท่าคร่อม จีน่ารีบลุกขึ้นเข้าไปเกาะขาเหวินลู่ชิง บีบน้ำตาออกมา 

 “คุณเหวินช่วยจีน่าด้วยค่ะ จีน่าไม่ได้ทำอะไรเลยจู่ๆ คุณหนูก็ตรงเข้ามาตบจีน่าค่ะ”

 “ไม่จริง ตอแหล แกเดินมาท้าทายฉันถึงในครัว แล้วยังลามปามถึงแม่ฉันอีก”

 “พอได้แล้วอิง ใครสอนให้พูดจาหยาบคายแบบนี้” เหวินลู่ชิงตะคอก ท่ามกลางสายตาของแม่บ้านที่รุมกันมองดู หยางอิงมองบิดา ขอบตาแดงก่ำ 

 “ป๊าต้องฟังอิง อิงไม่ได้หาเรื่องนังนี่ มันเข้ามายั่วโมโหอิง”

 “จีน่าเขาจะทำแบบนั้นทำไม เขากับอิงไม่เคยรู้จักกัน”

 หยางอิงมองบิดา ขอบตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้าเมื่อถูกตำหนิอีกครั้ง “ป๊าตำหนิอิงหรือคะ ป๊าไม่เชื่ออิงใช่ไหม”

 “ใช่ ป๊าไม่เชื่อเพราะป๊าเห็นอยู่เต็มสองตาว่าอิงกำลังตบจีน่า”

 ลี่ฟางแตะแขนหยางอิง

 “อิงทำเพราะมันมาหาเรื่องอิงก่อน ผู้หญิงคนนี้มันนังงูพิษ มันหลอกป๊า”

 เหวินลู่ชิงหันมองจีน่าที่มีใบหน้ามีรอยฝ่ามือ หล่อนโผกอดเอวและซบหน้าสะอื้น 

 “คุณเหวินช่วยจีน่าด้วยนะคะ จีน่าไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มาถามทางไปห้องน้ำเฉยๆ”

 “โกหก แกจงใจ”

 “หยุดเดี๋ยวนี้นะอิง พอได้แล้ว”

 “ป๊า”

 ทุกอย่างกำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด หยางอิงน้อยใจบิดา ส่วนเหวินลู่ชิงก็กำลังโกรธ สาวใช้วิ่งเข้ามารายงาน 

 “คุณท่านคะ มีแขกมารอพบ”

 “ฉันไม่ต้อนรับใครทั้งนั้น ไล่มันไป” เหวินลู่ชิงตวาด สาวใช้หน้าซีดเผือด 

 “เอ่อ คือว่าเขาไม่ได้มาพบคุณท่านค่ะ แต่คุณลี่หงให้มาเรียนว่าเขากับคุณดราก้อนอยากจะมาขอพบคุณหยางอิงเรื่องงานค่ะ”

 “ไล่มันไป” เหวินลู่ชิงโต้กลับ เสียงแข็ง หยางอิงหันไปหาสาวใช้แสยะยิ้ม 

 “ไม่ต้อง โบตั๋น ไปบอกคุณลี่หงกับคุณดราก้อนว่าฉันจะไปพบเขาที่ในสวนอีกสิบนาที เธอช่วยไปเตรียมของว่างและน้ำชาให้ด้วย และยกไปให้เขาตรงนั้น”

 “ไม่ได้ ป๊าไม่ให้อิงพบไอ้ชีกอ”

 หยางอิงลอยหน้าลอยตาโต้กลับ         “เสียใจค่ะป๊า ในเมื่อป๊าไม่ฟังอิง ป๊าทำสิ่งที่อิงไม่ชอบ อิงก็จะทำในสิ่งที่ป๊าไม่เห็นด้วยเหมือนกัน”

 ร่างบางที่เดินปึงปังจากไป ทิ้งให้เหวินลู่ชิงกำมือแน่น กัดฟันกรอดๆ ลี่ฟางมองพ่อลูกที่บาดหมางกันและมองไปยังหญิงสาวตัวต้นเหตุ เห็นทีศึกครั้งนี้คงไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน 

 

 ดราก้อนกับลี่หงไม่รู้ว่ากำลังเกิดศึกในบ้าน เมื่อชายหนุ่มเอ่ยปากขอให้ลี่หงช่วย เขาก็รีบติดต่อหย่งเต๋อให้ช่วย แรกทีเดียวเหวินลู่ชิงปฏิเสธ แต่พอเขาอ้างถึงสัญญาที่เซ็นเอาไว้อีกฝ่ายก็ยอม ทั้งสองนั่งรออยู่ในห้องรับแขกตอนที่หยางอิงเดินเร็วๆ เข้ามา ร่างบางโผเข้ามาเกาะแขนดราก้อนอย่างสนิทสนม

 “พี่ริวมาแล้วหรือคะ คิดถึงจังเลย”

 ดราก้อนตกตะลึง ไม่กล้าดึงแขนกลับ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาดุดันของเหวินลู่ชิง เขารีบหันมาหาต้นเหตุของเรื่อง

 “เอ่อ คือน้องอิงสบายดีนะ”

 “ค่ะ แต่อิงเหงาค่ะ เหงามาก คิดถึงพี่ดราก้อนทุกวัน”

 ไม่พูดเปล่า หยางอิงถึงกับเอียงหน้ามาซบ นัยน์ตาของเหวินลู่ชิงวาวโรจน์ยิ่งกว่าเดิม ดราก้อนมองลี่หงให้ช่วยแก้ตัวให้ 

 “นายสองคนมาที่นี่ทำไม” เหวินลู่ชิงเอ่ยเสียงเข้ม

 “เอ่อ คือว่าผมกับริวเป็นห่วงคุณหยางอิงครับ แล้วบังเอิญริวก็”

 “ผมอยากซ้อมร้องเพลงกับน้องอิงครับ ไหนๆ ก็ใกล้วันแล้ว ผมอยากให้งานสำเร็จโดยเร็ว” ดราก้อนเห็นโอกาสประจวบเหมาะ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่หยางอิงทำคงเพราะต้องการประชดพ่อแน่ๆ ชายหนุ่มจึงต้องเล่นตามน้ำไป

 “ทำไมต้องรีบซ้อมตอนนี้ อีกไม่กี่วันก็จะได้เจอกันแล้ว”

 “ผมอยากให้งานออกมาดีที่สุดครับ”

 “จริงด้วยค่ะ อิงก็อยากซ้อมร้องเพลงกับพี่ริว งั้นเราเข้าไปในห้องกันเลยนะคะพี่ริว”

 ร่างบางที่กึ่งลากกึ่งจูงดราก้อนทำให้เขาอึ้ง สีหน้าพิพักพิพ่วน 

 “ไม่ได้ ป๊าไม่อนุญาต ไล่มันสองคนให้กลับไปเดี๋ยวนี้”

 หยางอิงหันมาจ้องหน้าบิดาตาวาว โต้กลับเสียงแข็ง

 “ไม่ค่ะ อิงไม่ยอม อิงจะซ้อมร้องเพลงกับพี่ริว ป๊ามีธุระอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ”

คนที่ถูกเรียกว่าเป็นธุระเดินนวยนาดเข้าไปพอดี ลี่หงพยักพเยิดให้ดราก้อนดู พวกเขาเคยเห็นข่าวของจีน่ามาบ้างจากนิตยสารกอสซิป แต่สภาพของหญิงสาววันนี้สะบักสะบอม ใบหน้ามีรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้น ผมยุ่งเหยิง ดราก้อนเดาเรื่องทุกอย่างได้ 

 “ป๊าไม่ชอบหน้าพวกมัน ไล่มันกลับไปเดี๋ยวนี้”

 “แต่อิงชอบ อิงกับพี่ริวสนิทกันม้ากมาก”

 ร่างบางเอียงหน้าไปซบไหล่ ดราก้อนยืนตัวแข็ง เขาชูมืออีกข้างขึ้นเหนือศีรษะแบบยอมแพ้ เพื่อจะบอกเหวินลู่ชิงว่าเขาไม่ได้คิดจะล่วงเกินหยางอิงเลยแม้แต่น้อย 

 “อิง เกินไปแล้วนะ”

 “เกินไปที่ไหนคะ ทีป๊ายังเอาคนนอกเข้ามาในบ้าน ที่เคยสัญญาว่าทุกพื้นที่ในบ้านหลังนี้คือที่ของอิงกับแม่ยังไงล่ะคะ”

 พอจบประโยคขอบตาก็แดงก่ำขึ้นมาอีกรอบ ดราก้อนเพิ่งจะเข้าใจทุกอย่าง เขามองหยางอิงด้วยสายตาที่ต่างออกไป 

 “ป๊าแค่กลับมาทำธุระ แล้วจีน่าก็แค่มานั่งรอมันผิดตรงไหนล่ะ”

 “ผิดที่นังผู้หญิงคนนี้มันหยามอิงสิคะ”

 “เกินไปแล้วนะ พูดจาอะไรให้เกียรติเขาหน่อย”

 “ไม่ อิงเกลียดผู้หญิงคนนี้ ป๊าต้องเลิกกับมัน”

 “อิง” เหวินลู่ชิงเอ็ดเสียงต่ำ เขามองลี่หงกับดราก้อนที่บังเอิญหลุดเข้ามาอยู่กลางวงอย่างจำใจ “เรื่องนี้เราค่อยพูดกันทีหลัง ป๊าต้องการให้สองคนนี้กลับไปก่อน”

 “ไม่ค่ะ อิงขอยืนยันตรงนี้ว่าอิงจะซ้อมร้องเพลงกับพี่ริว ไปค่ะพี่ริว อิงจะพาพี่ไปดูห้องกันนะคะ วันนี้เราสองคนจะต้องอยู่ด้วยกันทั้งวัน”

 ร่างบางที่กึ่งลากกึ่งจูงดราก้อนเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มจำต้องเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหวินลู่ชิงขยับจะตามแต่แล้วจีน่ากลับเอื้อมมือมาเกาะแขน

 “คุณเหวินมีธุระไม่ใช่หรือคะ”

 “ฉัน” เหวินลู่ชิงมองตามลูกสาวก่อนถอนหายใจออกมา เขาร้องสั่งลี่ฟาง “เฝ้าคุณหนูไว้ให้ดีที่สุด อย่าให้ไอ้เจ้าชู้นั่นล่วงเกินลูกสาวฉันเด็ดขาด”

 ป้าฟางรับคำโค้งตัวออกไป เหวินลู่ชิงหันมาหาลี่หง เอ็ดเสียงเข้ม

 “นายก็เหมือนกัน ถ้าหยางอิงเป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันเล่นงานนายกับไอ้ริวตายแน่ คอยดู”

 ลี่หงมองตาปริบๆ ในห้องรับแขกกลับมาเงียบสงบอีกครั้งเมื่อมาเฟียคนพ่อเดินปึงปังออกจากห้อง 

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น