9

ตอนที่ 9

 

แม้จะระวังตัวตลอดเวลาที่ทำงาน แต่ชลาลัยก็ได้รู้ซึ้งถึงคำกล่าวที่ว่าความลับไม่มีในโลก และพลังแห่งจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของข่าวซุบซิบ เมื่อมาถึงออฟฟิศในเช้าวันศุกร์ สุดสัปดาห์แรกของการมาทำงานที่เอดีดีไซน์

นั่นเพราะทุกคนมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ตั้งแต่เอมอรที่ประจำอยู่หน้าทางเข้า รวมไปถึงพนักงานฝ่ายต่างๆ ที่เธอเดินผ่าน จนกระทั่งถึงเหล่าสถาปนิกที่รายล้อมเธออยู่ในห้องทำงาน

นี่มีอะไรกันหรือเปล่าคะเธอตัดสินใจเอ่ยถามชุมพลที่นั่งอยู่ข้างๆ

สถาปนิกหนุ่มมองหน้าเธอด้วยแววตาสงสัย เมื่อวันพุธน้องน้ำออกจากออฟฟิศแล้วกลับบ้านเลยหรือเปล่าครับ

คำถามนั้นทำให้ทั้งธนาวุฒิและนิกรพากันไถเก้าอี้ที่เป็นล้อเลื่อนเข้ามาฟังด้วย ส่วนคนอื่นก็พากันหยุดทำงานแล้วหันมาจ้องเธอเป็นตาเดียวกัน ส่วนคนที่งานเร่งก็เงี่ยหูฟังไปพร้อมๆ กับทำงาน ยกเว้นฟ้าครามที่ยังไม่มาทำงาน

ชลาลัยหันมองคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างรู้สึกหวั่นใจชอบกล เปล่าค่ะ น้ำไปดูละครเวทีมา ทำไมหรือคะ ทุกคนดูตื่นเต้นกับคำตอบมากเลย

ดูที่ไหนนิกรเอ่ยถาม

ที่ห้างเซียร์คิงดอมค่ะ

นั่นไงธนาวุฒิตบเข่าฉาด

มีอะไรกันหรือเปล่าคะ

ก็เมื่อวานเขาลือกันให้แซดเลยน่ะสิว่าเห็นน้องน้ำไปกินอาหารญี่ปุ่นกับบอสที่ห้างเซียร์คิงดอม แถมยังเดินจับมือกันด้วยนะ

เอ่อ...หญิงสาวอ้าปากค้าง หัวใจเต้นรัว ใบหน้าของเธอร้อนวูบเมื่อนึกถึงนิ้วเรียวยาวที่โอบรอบมือของเธอขณะที่เดินจากร้านอาหารญี่ปุ่นไปยังลานจอดรถ

ที่เขาเมาท์กันนี่เรื่องจริงหรือเปล่า...น้องน้ำชุมพลเอ่ยถาม

อ่า...ชลาลัยอึกอักน้ำท่วมปากไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เธอไม่อยากโกหกใคร แต่ก็ไม่อาจอธิบายสถานการณ์ในตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้ว่ามันไม่ใช่ที่ทุกคนคิดอย่างไร

ท่าทางแบบนี้แปลว่าจริงเหรอนิกรเอ่ย

คือ...เอ่อ...

แต่ยังไม่ทันที่ชลาลัยจะตอบอะไร เสียงประดุจฟ้าคำรามก็ดังขึ้น

ใครเป็นคนปล่อยข่าว

ฉิบหาย...บอสธนาวุฒิสะดุ้งโหยงพร้อมหลุดปากออกไปจนนิกรต้องใช้ศอกสะกิด

มึงกับกูสิจะฉิบหาย

ฟ้าครามก้าวอาดๆ เข้ามากลางห้องทันที ก่อนจะกวาดตามองไปทั่ว การปรากฏตัวของเขาทำให้ชลาลัยโล่งใจที่ไม่ต้องตอบคำถามอันน่าอึดอัดนั้น

ผมถามว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องผมกับน้ำ

ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน เสียงแอร์คอนดิชันดังหึ่งขึ้นมาทั้งๆ ที่ชลาลัยไม่เคยได้ยินมาก่อน

ว่าไงหงวน

ธนาวุฒิสะดุ้งเฮือกเมื่อกลายเป็นผู้ถูกเลือก ก่อนจะหันมาส่งยิ้มเจื่อนให้เจ้านาย

เอ่อ...ผะ...ผมก็ไม่แน่ใจครับ ผมได้ยินมาจากพวกดราฟต์ตอนไปกินเหล้ากันเมื่อคืนอีกทีชายหนุ่มอ้างถึงเหล่าพนักงานเขียนแบบที่ต้องทำงานร่วมกันตลอด พวกมันบอกว่าน่าจะเป็นคุณมิ้นท์ฝ่ายบัญชีครับ เห็นว่าคุณมิ้นท์มีรูปเป็นหลักฐานด้วยนะครับ

ชื่อนั้นทำให้ชลาลัยนึกไปถึงหญิงสาวที่เจอหน้าลิฟต์ในวันแรกที่มาทำงาน ดูเหมือนเธอคนนั้นจะเป็นคนกว้างขวางไม่น้อย เพราะรู้เรื่องทั้งในและนอกบริษัทไปหมด

แค่นั้นหรือฟ้าครามเอ่ยถามเสียงเข้ม

เอ่อ...ขะ...เขายังเมาท์กันอีกว่าจูงมือกันแบบนั้น สงสัย...เอ่อ...อ่า...

อะไร!ฟ้าครามตะคอกถาม

สงสัย...ง่า...ว่าที่น้องน้ำได้มาทำงานที่นี่เพราะเป็นเมียลับของบอสครับธนาวุฒิตอบเสียงแผ่ว

หา! อะไรนะคะชลาลัยอุทานด้วยความตกใจ ไม่นึกว่าคนที่ทักกันด้วยท่าทางเป็นมิตรเมื่อวันก่อนจะมาแทงข้างหลังเธอได้ขนาดนี้

ให้ตายสิ!ใบหน้าหล่อเหลาของฟ้าครามกลายเป็นจอมมารขึ้นมาทันที สองมือกำแน่นจนสั่น ก่อนจะหันหลังให้ทุกคนแล้วเดินอาดๆ กลับไปที่ประตู

ตายแน่ ยายมิ้นท์ชุมพลงึมงำ

ได้ยินอย่างนั้นชลาลัยก็ทนนั่งอยู่เฉยไม่ได้ รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเจ้านายไปอย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งที่มินทิตาพูดนั้นก็มีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง แถมยังมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายอีก พอทันกันที่โถงทางเดิน เธอก็รีบคว้าแขนเสื้อของเขาไว้

คุณจะไปไหนคะ

ฟ้าครามชะงักหันมาหาเธอ จะไปจัดการกับคนปากบอน

แต่เรื่องที่คุณจับมือฉันมันเป็นเรื่องจริงนี่คะ

แล้วเรื่องหลังจากนั้นล่ะเขาย้อนถาม คุณจะปล่อยให้เขาพูดกันชุ่ยๆ แบบนั้นหรือ ถึงเราจะเดินจับมือกันจริง แต่มาพูดว่าคุณเป็นเมียลับของผมมันเกินไป นั่นมันถึงขั้นหมิ่นประมาท เราแจ้งความจับเขาได้ด้วยซ้ำ

ชลาลัยฟังประโยคท้ายแล้วก็เป็นกังวลขึ้นมาอีก เพราะไหนจะเรื่องเมียลับ ไหนจะเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็ไม่เกิดผลดีกับเธอทั้งนั้น

ถ้าผมไม่ทำอะไร คุณจะเสียหายนะ

ช่างมันเถอะค่ะ คุณกับฉันก็รู้กันดีอยู่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

ช่างมันเขาทวนคำอย่างฉงน แล้วปล่อยให้พูดกันพล่อยๆ จนคุณเสื่อมเสียงั้นหรือ

มันก็แค่ไม่กี่วัน ช่วงนี้เราก็ห่างๆ กันไปก่อน เดี๋ยวคนก็ลืมเองละค่ะ

นั่นละเป็นสิ่งที่ผมยอมไม่ได้ฟ้าครามบอก ก่อนจะจับมือของเธอออกจากแขนเสื้อ คุณกลับไปที่ห้อง ไม่ต้องพูดอะไร ใครถามก็บอกว่าผมสั่ง ผมจะไปจัดการเรื่องนี้เอง

จากนั้นเขาก็หันหลังให้เธอแล้วเดินอาดๆ ไปยังฝ่ายบัญชี ชลาลัยมองตามไปอย่างกังวลใจ แต่เมื่อทำอะไรไม่ได้ สถาปนิกสาวก็จำต้องเดินคอตกกลับไปที่ห้องทำงาน เธอทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะตัวเองด้วยความรู้สึกว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

ไม่ต้องห่วงนะ บอสจัดการได้แน่ชุมพลหันมากระซิบบอก

โกรธออกอย่างนั้น จะทำอะไรรุนแรงหรือเปล่าก็ไม่รู้

เอาน่า ใจเย็นๆ เห็นดุๆ อย่างนั้นก็เป็นคนมีเหตุผลนะนิกรเสริม

ชลาลัยพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหันไปก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ดูเหมือนจะไม่มีสมาธิเอาเสียเลย ทำให้คิดอะไรไม่ออกอยู่นานจนกระทั่งพักเที่ยง

ไปกินข้าวกันเถอะน้ำชุมพลเอ่ยชวน

ยังไม่หิวเลยค่ะ

ไม่หิวหรือกินอะไรไม่ลงหือนิกรถามอย่างเป็นห่วง

ก็ทั้งสองอย่างแหละค่ะ ไม่รู้ว่าคุณมิ้นท์เธอจะเป็นยังไงบ้าง

บอสคงไม่ใจร้ายถึงขั้นฆ่าแกงกันหรอกน่าธนาวุฒิเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาเสริม

อืม...พี่ว่าไม่ต้องลงไปให้คนมองก็ดีชุมพลแทรกขึ้นอย่างเห็นใจ อยู่ในห้องเงียบๆ สักวันก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่ซื้ออะไรขึ้นมาให้กิน

ขอบคุณค่ะพี่พลหญิงสาวยกมือไหว้

เอาอะไรดีล่ะนิกรเอ่ยถาม

อะไรก็ได้ค่ะ

โอเค รอนะ อย่าเป็นลมไปก่อนล่ะ

ชลาลัยฝืนหัวเราะ มองดูพวกรุ่นพี่เดินออกไปจนกระทั่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง ระหว่างที่รอเธอก็แทบนั่งไม่ติด ตลอดเวลาเอาแต่ชะเง้อมองไปที่ประตู เผื่อว่าฟ้าครามจะก้าวเข้ามา เธอจะได้สอบถามเขาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ติ๊ง!...เสียงเตือนข้อความเข้าทำให้สถาปนิกสาวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

BlueSky : ไปพบผมที่ดาดฟ้า

หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น นึกลังเลว่าจะไปพบเขาดีไหม เพราะเกรงว่าจะมีคนเห็นแล้วเป็นเรื่องขึ้นมาอีก แต่อีกใจก็เกรงว่าฟ้าครามอาจมีเรื่องอะไรที่ต้องการคุยกับเธอเป็นการเร่งด่วน จึงตัดสินใจเดินออกจากห้องทำงานทันที

อ้าว คุณน้ำ จะลงไปทานข้าวหรือคะเอมอรทักหลังจากเห็นเธอกำลังจะออกจากออฟฟิศ

ค่ะชลาลัยตอบสั้นๆ ตอนนี้เธอไม่อยากพูดอะไรกับใครมากอย่างที่ฟ้าครามกำชับเอาไว้ ก่อนจะปลีกตัวเดินไปกดลิฟต์แล้วขึ้นไปยังดาดฟ้า

ฟ้าครามยืนอยู่ตรงที่ทั้งคู่เคยนั่งรับประทานอาหารกลางวันกัน ท่ามกลางท้องฟ้ากว้าง รูปร่างสูงใหญ่ของเขาดูโดดเด่นไม่น้อย แผ่นหลังกว้างของเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และคิดว่าเขาต้องจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีแน่

คุณฟ้าครามคะ

เขาหันมามองเธอ ก่อนจะค้อมศีรษะเล็กน้อย ผมอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ถ้าผมไม่ฉวยโอกาสจับมือคุณแบบนั้น

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ความจริงฉันก็มีส่วนผิดเหมือนกันที่...

ชลาลัยชะงัก คำว่า ยอมให้คุณจับมืออย่างเต็มใจถูกกลืนหายลงไปในลำคอ แก้มนวลร้อนซู่ขึ้นมาพร้อมๆ กับหัวใจที่เต้นรัวแรง ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน

เอ่อ...แล้วคุณจัดการกับคุณมิ้นท์ยังไงคะ

ผมเรียกเธอมาสอบสวน เธอรับสารภาพว่าเห็นเราออกจากร้านอาหารแล้วก็เดินจับมือกันจริงๆ แถมยังเอารูปที่แอบถ่ายมาให้ผมดู แต่เธอไม่ยอมรับเรื่องที่พูดว่าคุณเป็นเมียลับของผม เธออ้างว่าน่าจะเป็นการพูดกันสนุกปากของคนอื่นหลังจากเห็นรูปมากกว่า

ชลาลัยถอนใจเฮือก ไม่มีหลักฐานใช่ไหมคะว่าเธอเป็นคนพูด

ตอนแรกก็ไม่มีครับ แต่หลังจากผมขู่ว่าจะสืบสวน และจะไล่ออกคนต้นเรื่องหากไม่ออกมายอมรับเอง เพราะถือเป็นการนินทาว่าร้ายผู้บริหารโดยไม่มีหลักฐาน คุณมิ้นท์ก็สารภาพว่าเธอเป็นคนพูดเอง แต่คงเพราะคะนองปากมากไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้ายคุณกับผม

แล้วคุณจะลงโทษคุณมิ้นท์ยังไงคะ ฉันไม่อยากให้ถึงขั้นไล่ออกกันเลย

เรื่องที่เขากล่าวหาว่าคุณเป็นเมียเก็บผม ผมให้คาดโทษเอาไว้ก่อน แต่ถ้ายังมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกก็คงช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากไล่ออกสถานเดียว แล้วผมก็สั่งให้เขาขอโทษคุณอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ด้วย

ตายจริง ไม่เห็นต้องทำอย่างนั้นเลยค่ะ

ไม่ได้ครับ ไม่อย่างนั้นคนก็จะเข้าใจคุณผิด

หญิงสาวถอนใจเฮือก แบบนี้เราคงต้องห่างๆ กันสักพักไหมคะ

อาจไม่ต้องครับ

อ้าว ทำไมล่ะคะ

ฟ้าครามนิ่งไปครู่หนึ่ง คือเรื่องที่คุณมิ้นท์มีรูปผมเดินจับมือคุณน่ะ พนักงานหลายคนเห็นแล้ว เราไม่มีทางปฏิเสธอะไรได้เลย ผมก็เลยบอกคุณมิ้นท์ไปว่าที่จริงเราสองคนเป็น...เอ่อ...แฟนกัน

หา!ชลาลัยอ้าปากค้าง รู้สึกช็อกไปชั่วขณะ

ที่ผมเรียกคุณขึ้นมาบนดาดฟ้านี่ก็เพราะจะบอกเรื่องนี้ด้วย คือมันไม่มีทางเลี่ยงจริงๆ

หญิงสาวถอนใจเฮือก เพราะเห็นว่าฟ้าครามก็พยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่และมีเหตุผลที่ดีแล้ว และเธอเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เหมือนกัน ก็ควรจะก้มหน้ารับผิดชอบไปกับเขาด้วย

คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับเขาบอก ก่อนจะดึงมือเธอไปกุมไว้ ผมจะพยายามทำให้คุณเป็นแฟนผมจริงๆ ให้ได้ ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็จะไม่ใช่เรื่องโกหกอีก

ค่ะ...เอ๊ะ!ชลาลัยเผลอคล้อยตาม ก่อนจะชะงักอย่างนึกขึ้นได้ เดี๋ยวค่ะ ยังไงนะคะ

ฟ้าครามหัวเราะ ผมจะทำให้คุณเป็นแฟนผมให้ได้ไงล่ะ

คุณนี่เผด็จการชะมัด เล่นคิดเองเออเองหมดเลย จะไม่ถามฉันสักคำเลยใช่ไหมคะเนี่ย

สถานการณ์มันพาไปน่ะครับเขายิ้มยั่ว

อี๋...แล้วถ้าคุณทำไม่สำเร็จล่ะคะ

ชายหนุ่มยักไหล่ ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะบอกทุกคนเองว่าคุณทิ้งผมไป

อ้าว...ฉันก็กลายเป็นผู้ร้ายสิคะ

ก็ยังดีกว่าถูกผมทิ้งหรือเปล่า

ดูเหมือนฉันจะโดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลยนะคะชลาลัยถอนใจก่อนจะเขย่ามือเบาๆ ปล่อยมือฉันได้แล้วมั้งคะ เดี๋ยวใครมาเห็นอีกจะเป็นเรื่อง

ฟ้าครามยิ้มและยึดมือเธอไว้แน่น ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจับมือคุณตลอดไป

ได้โปรด ปล่อยมือฉันเถอะค่ะสถาปนิกสาวเอ่ยเสียงเข้มขึ้น

ชายหนุ่มนิ่งไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา แล้วค่อยๆ ปล่อยมือบางอย่างจำยอม

ผมหวังว่าสักวัน คงเป็นวันที่ผมสามารถจับมือคุณได้อย่างไม่ต้องสนใจสายตาใคร

ชลาลัยก้มหน้าลง รู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างประหลาด ฉันคงต้องกลับลงไปแล้ว

เมื่อฟ้าครามพยักหน้า เธอจึงรีบปลีกตัวเดินจากมาด้วยความตื่นเต้น แต่ก่อนจะกลับเข้าออฟฟิศ เธอตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำก่อนเพื่อตั้งสติ

ชลาลัยต้องใช้เวลานั่งอยู่ในห้องน้ำนานกว่าทุกครั้ง เพราะรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก ที่มาทำงานที่นี่ได้เพียงไม่กี่วัน ก็ดันเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นจนแทบตั้งรับไม่ทัน

ให้ตายสิ ถ้าพี่น่านรู้เข้าคงบังคับให้ลาออกอีกแน่เลย

 

ท่าทางเหม่อลอยของน่านตะวันทำเอาพนักงานที่กำลังนั่งประชุมอยู่ด้วยต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความแปลกใจ บุรินทร์ต้องส่งเสียงกระแอมเตือน ผู้เป็นประธานจึงรู้ตัว ก่อนจะทำเป็นเอ่ยเฉไฉด้วยสีหน้าเครียดเข้ม

ขอโทษที พอดีกำลังคิดงานบางอย่างอยู่ ถึงไหนแล้ว

ผมว่าเราพักกันก่อนดีไหมครับบุรินทร์เอ่ยอย่างรู้ใจเจ้านายพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว เราประชุมกันมาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้พักเลย ทุกคนคงจะหิวกันแล้ว

น่านตะวันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูบ้าง ก็ดีเหมือนกัน งั้นก็พักสักชั่วโมงก็แล้วกันนะ บ่ายสองค่อยมาประชุมกันต่อ

พูดจบประธานหนุ่มก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไปที่ห้องทำงานของตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งด้วยความรู้สึกว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เป็นอะไรไปครับคุณน่าน วันนี้ดูเหม่อๆ ชอบกลบุรินทร์ที่เดินตามมาติดๆ เอ่ยถามขึ้น

ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร แค่คิดเรื่องงานไม่ตกเท่านั้น

เรื่องงานจริงหรือครับ

น่านตะวันหลิ่วตามองลูกน้องคนโปรดด้วยแววตาขึงขัง ทำไม นายคิดว่าฉันโกหกหรือไง

ก็คุณน่านไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมก็เลยสงสัย

ชายหนุ่มถอนใจอย่างหงุดหงิด การที่มีลูกน้องรู้ใจไปเสียทุกเรื่องมันก็น่ารำคาญได้เหมือนกัน

เรื่องคุณน้ำหรือเปล่าครับ

คราวนี้ผู้เป็นนายถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะตวาดกลับด้วยท่าทางฉุนเฉียว เกี่ยวอะไรกับน้ำ

ก็ตั้งแต่คุณน้ำกลับมา ผมก็เห็นคุณน่านแปลกๆ ไป

ไม่เห็นจะเกี่ยวเขาโบกมือกึ่งรำคาญ ก่อนจะทำเป็นพาลหงุดหงิดเปลี่ยนเรื่อง บ่ายนี้ฉันไม่เข้าประชุมนะ นายจัดการต่อก็แล้วกัน แล้วก็ไม่ต้องให้ใครเข้ามากวนด้วย ฉันอยากอยู่เงียบๆ คิดงานที่ค้างอยู่สักหน่อย

บุรินทร์อ้าปากเหมือนจะทักท้วง แต่ก็กลับเปลี่ยนใจ ก่อนจะตอบรับสั้นๆ ครับ

 

แซนด์วิช

ชุมพลยื่นถุงที่มีโลโก้ร้านสะดวกซื้อมาให้ ส่วนนิกรกับธนาวุฒิต่างพากันลากเก้าอี้มานั่งล้อมเธอด้วยท่าทางจริงจัง

มีอะไรกันคะ

ที่เต็นท์เขาพูดกันให้แซดว่ายายมิ้นท์ถูกบอสเรียกเข้าห้องเย็น นั่งคุยกันอยู่ตั้งชั่วโมงแน่ะธนาวุฒิเอ่ยตอบด้วยท่าทางเหมือนจะกระซิบ แต่ก็ดังพอจะได้ยินกันทั้งห้อง

หญิงสาวแกล้งทำเป็นแปลกใจ แล้วเป็นยังไงคะ

ไม่มีใครรู้หรอกนิกรบอก แต่ว่ากันว่ายายมิ้นท์นี่ออกมานั่งจ๋อยไปเลย ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ

ฉันเดาเอานะว่าบอสคงใช้วิธีตักเตือนแล้วคาดโทษไว้แหละชุมพลคาดเดา ซึ่งก็นับว่ามาถูกทาง เพราะฟ้าครามบอกเธอเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ

โดนเข้าห้องเย็นแบบนี้ ยายมิ้นท์คงเข็ดไปนาน ปากสว่างดีนักนิกรหัวเราะคิกคัก

น่าสงสารออกค่ะ

พูดเป็นนางเอกเชียวนะ เขาทำกับเราขนาดนี้ ดันไปสงสารเขาได้ชุมพลส่ายหน้า

นั่นสิ ยายตัวร้ายนี่ก็เหลือเกิน กุเรื่องเป็นตุเป็นตะ อย่างน้องน้ำน่ะเหรอจะเป็นเมียเก็บใครได้ธนาวุฒิเอ่ย ก่อนจะสะดุ้งเมื่อโดนชุมพลเตะขาเตือน โดยชลาลัยได้แต่ฝืนยิ้มเจื่อน

เอาๆ งั้นก็รีบกินเถอะชุมพลหันมาบอกเธอ เดี๋ยวจะเข้าฟังพรีเซนต์วัสดุด้วยไม่ใช่เหรอ

ค่ะเธอพยักหน้ารับ ก่อนจะลงมือกัดกินแซนด์วิชอย่างฝืดคอ เพราะรู้สึกผิดไม่น้อยที่ต้องโกหก หนำซ้ำเมื่อคิดดูดีๆ ตัวต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอเองนั่นแหละที่ดันยอมให้ฟ้าครามจับมือเดินไปไหนมาไหนในที่สาธารณะจนมีคนเห็นเข้า

แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อมือของเขาเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอไม่อาจสะบัดหลุด และทำให้เธออบอุ่นใจเหมือนมือของน่านตะวันได้ถึงขนาดนั้น

 

บ่ายวันนั้นน่านตะวันเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงานตลอด แต่ก็แทบไม่ได้ทำงานเลย รู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดแต่เรื่องชลาลัยตลอดเวลา พอชาตรีโทร. มาชวนไปดื่มเขาก็รีบตอบตกลงทันที เมื่อได้เวลานัดเขาก็ออกจากออฟฟิศ และดิ่งตรงไปยังบาร์ที่นัดหมายกับเพื่อนเอาไว้

บาร์แห่งนี้ตกแต่งได้ค่อนข้างหรูหราโอ่อ่าและไม่อึกทึกนัก อาจเป็นเพราะยังหัวค่ำอยู่ บนเวทีมีวงดนตรีแจ๊ซบรรเลงเพลงอันไพเราะและนุ่มนวล น่านตะวันสั่งวิสกี้มาดื่มรอเพื่อน ครู่เดียวชาตรีก็มาถึง

อะไรวะ กินเหล้าไม่รอเพื่อนเลย

มาช้าเองนี่หว่า ตามให้ทันนะโว้ยน่านตะวันเอ่ยพลางกระดกดื่มจนหมดแก้ว ไอ้หมีกับไอ้ตงล่ะ

เดี๋ยวไอ้หมีตามมา ไอ้ตงไม่แน่ ต้องขอวีซ่าเมียก่อน แต่ท่าทางจะไม่ผ่านนายตำรวจหนุ่มหัวเราะเอิ๊ก ก่อนชะงักเพราะเพื่อนดูเหมือนจะไม่ตลกด้วย เป็นอะไรของนายวะ หน้าเครียดเชียว

คนถูกถามส่ายหน้าแล้วยกวิสกี้ขึ้นดื่มอีก

เอ้าไอ้นี่ ถามแล้วไม่ตอบ

น่านตะวันยังคงนิ่งราวกับไม่ได้ยินเสียงเพื่อน เขารินวิสกี้อีกแก้วแล้วยกขึ้นดื่มจนหมดอีกครั้ง

ดื่มเป็นน้ำเลยมึงชาตรีส่ายหน้า

แต่น่านตะวันก็ยังคงไม่สนใจคำถากถางของเพื่อน สมองของเขามีเรื่องให้คิดเกินกว่าจะสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว แต่เมื่อเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็ชะงักแล้วหันไปหาเพื่อน

เฮ้ย! ไอ้ชาตรี ถามอะไรหน่อยดิวะ

นายตำรวจหนุ่มที่กำลังคีบน้ำแข็งใส่แก้วถึงกับสะดุ้ง ตกใจหมด ไอ้บ้าเอ๊ย

ฉันมีเรื่องสงสัย

อะไรของนายวะ เวลาฉันถามไม่ตอบ ทีงี้จะมาให้ฉันตอบคำถาม

นายเคยหัวใจเต้นแรงๆ เวลาอยู่ใกล้ผู้หญิงไหมวะน่านตะวันเอ่ยถามโดยไม่สนใจเสียงบ่นของเพื่อนอยู่ดี

ชาตรีขมวดคิ้วมุ่นมองเขาด้วยความสงสัย มาแนวไหนวะไอ้นี่

เออน่า ตอบมาเถอะ

น่านตะวันเร่งเร้าจนคนถูกถามถึงกับเกาคางอย่างครุ่นคิด พอเห็นพนักงานเสิร์ฟสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยเดินผ่านมาก็เผยยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วพยักพเยิดไปที่เจ้าหล่อน

ตอนอยู่ใกล้สาวๆ สวยๆ ไงล่ะเว้ย

น่านตะวันหันไปมองแล้วก็ต้องส่ายหน้าให้แก่ความเจ้าชู้ของเพื่อน

งั้นนายไปตรวจหัวใจซะมั่งก็ดีนะ เต้นแรงมันทุกวินาทีแบบนี้ ระวังฮาร์ตแอตแทก

แหม...ล้อเล่นหน่อยทำเป็นซีเรียสไปได้ชาตรีทำปากเบ้ ก่อนจะทำหน้าเข้ม ถ้าจริงจังแบบนี้ละก็ ฉันคงต้องตอบว่าตอนจีบน้องเนยไง ใจงี้เต้นรัวเหมือนกลองเลย

เมียนายอะเหรอ

เออสิวะ จะเนยไหนอีกล่ะนายตำรวจหนุ่มยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่ม จะว่าไป นึกถึงตอนนั้นแล้วก็ใจเต้นขึ้นมาเลยแฮะ

แล้ว...มันแปลว่าอะไรวะ

แปลว่าชอบไงล่ะไอ้บื้อ ถ้าใจเต้นแรงมากก็ชอบมาก ตอนนั้นนะเว้ย อยากเห็นหน้าน้องเนยทุกวันไม่งั้นจะบ้าตาย บางทีขี่มอไซค์ไปมองหลังคาบ้านก็ยังดีชาตรีหัวเราะ ก่อนจะชะงักแล้วหลิ่วตามองเขาอย่างจับผิด ทำไม ไปโดนสาวที่ไหนจระเข้ฟาดหางใส่ตาเข้าให้ล่ะ

เตะตาก็พอแมะ

อย่างนายเตะไม่พอหรอก ต้องมีแม่ไม้มวยไทยใส่ด้วย ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นนายสนใจผู้หญิงที่ไหนเลยนี่หว่า

นายหมายความว่าฉันสนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอ

ถ้าใจเต้นแบบนั้นก็แสดงว่าชอบเขาแล้วละชาตรีฟันธงก่อนจะยิงคำถาม แล้วหมู่นี้มีอาการเหม่อๆ ว่างก็คิดถึงแต่เธอบ้างไหม

ก็มีบ้างนะน่านตะวันตอบแบบไม่ต้องคิด เพราะเพิ่งจะโดนบุรินทร์ทักมาหมาดๆ

แล้วเวลาเห็นเขาอยู่กับผู้ชายคนอื่น รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ไหม แบบอยากเข้าไปตั๊นหน้าไอ้หมอนั่นสักหมัดสองหมัด

คนถามควงกำปั้น ส่วนคนถูกถามก็พยักหน้าตอบแบบแทบไม่ต้องคิดอีกเหมือนกัน เพราะเขาเป็นอย่างที่เพื่อนพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ชัวร์ป๊าบชาตรีตบมือฉาด

ชัวร์อะไรของนายวะ

โถ...ไอ้ซื่อบื้อ นายนี่มันเก่งทุกอย่าง แต่เรื่องนี้โคตรโง่เลยว่ะ ถึงว่ายังไม่เคยมีแฟนเสียที

บอกมาซะทีเหอะน่า ลีลาอยู่ได้น่านตะวันเอ่ยอย่างนึกรำคาญ

ชาตรียิ้มแป้น มันก็แปลว่านายรักผู้หญิงคนนั้นเข้าแล้วไงล่ะ

รัก...เรอะ

เออสิวะ

การสรุปของเพื่อนทำให้น่านตะวันยิ่งว้าวุ่นใจ จริงอยู่ที่เขารักชลาลัย และรักมาตลอด แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแปลกๆ เมื่ออยู่ใกล้ชิดเธอมาก่อน หากอาการเหล่านั้นเป็นเหตุจากสิ่งที่ชาตรีสรุป นั่นแปลว่าความรักมันแปรเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างนั้นหรือ

เฮ้ย! ไอ้ชาตรีน่านตะวันคว้าข้อมือเพื่อนที่กำลังถือแก้ววิสกี้จ่อปาก

ไอ้บ้าเอ๊ย อะไรอีกวะ เหล้าเกือบหก

นายว่าความสัมพันธ์มันจะเปลี่ยนรูปแบบได้ไหมวะน่านตะวันเอ่ยถามโดยไม่ได้สนใจท่าทีหงุดหงิดของเพื่อน

ยังไงวะ อันนี้ไม่เข้าใจคำถามชาตรีย้อนถามพลางเปลี่ยนมือที่ถือแก้ว แต่พอจะดื่ม เพื่อนเจ้าปัญหาก็กลับคว้าข้อมือเอาไว้อีก

แบบ...เอ่อ...เพื่อนเปลี่ยนเป็นแฟนอะไรอย่างนั้นน่านตะวันพยายามเลี่ยงกรณีของตัวเองกับชลาลัยออกไป เพราะขืนถามเรื่องความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง ชาตรีอาจจับผิดได้

เฮ้ย! นี่อย่าบอกนะว่านายแอบชอบฉันนายตำรวจหนุ่มหลิ่วตามองเขาอย่างระแวง

ไอ้บ้า ใครจะไปชอบผู้ชายหน้าปลาจวดอย่างนาย

โหย ไอ้นี่ ด่ากันอย่างนี้เอาตีนเหยียบหน้าเลยไหม

ได้เรอะน่านตะวันยกเท้าขึ้น

เฮ้ย! ฉันล้อเล่นชาตรีผงะ

ตกลงยังไงน่านตะวันถามย้ำ

อ้อ...ก็มีถมไปที่เป็นเพื่อนกันแล้วจู่ๆ กลายมาเป็นแฟน บางคนถึงขั้นแต่งงานก็มี บางคนเป็นเพื่อนกันสมัยเรียน พอเลี้ยงรุ่นมาเจอกันอีกครั้งก็สานสัมพันธ์กันถมถืด ความรักมันเป็นไปได้หมดละ เอาเกณฑ์อะไรไม่ได้หรอก เหมือนไอ้ตงไง ตอนเรียนนายรู้หรือว่ามันจะแต่งงานกับยายหมอน

น่านตะวันส่ายหน้า พอชาตรียกตัวอย่างมาก็นึกคล้อยตาม แต่ครั้นจะถามในกรณีที่สนิทชิดเชื้อกว่าความเป็นเพื่อนอย่างพี่กับน้องก็ไม่กล้า เพราะเพื่อนตำรวจคนนี้เป็นคนฉลาด แถมเป็นเรื่องที่ดันฉลาดลึกล้ำกว่าคนอื่นเสียด้วย ขืนพูดไปคงจับได้ว่าเขาคิดกับชลาลัยเกินเลยกว่าความเป็นพี่น้องแน่ๆ

ว่าแต่ใครวะ ถึงมากระชากหัวใจนายน้ำแข็งอย่างนายได้ ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ฉันไม่เคยเห็นนายสนใจผู้หญิงคนไหนเลยนี่หว่า นอกจากน้องน้ำ

ไอ้บ้า...น้ำเป็นน้องสาวฉันนะโว้ยน่านตะวันโวยอย่างร้อนตัว

เอ๊ะไอ้นี่ ทำไมต้องโวยวายวะ ฉันแค่พูดถึงเอง ไม่ได้หมายความว่านายแอบรักน้องสาวสักหน่อยชาตรีโวยกลับ ก่อนชะงักมองเขาด้วยแววตาจับผิด หรือว่าคนที่นายแอบรักคือ...

หยุด!น่านตะวันโพล่งขึ้นพร้อมยกมือขึ้นห้ามขึงขัง อย่าเอาน้ำมาเกี่ยว น้ำเป็นน้องสาวฉัน

น้องคนละพ่อคนละแม่ไม่นับโว้ย

พูดมากน่านตะวันหยิบขนมขบเคี้ยวยัดใส่ปากเพื่อนจนชาตรีบ้วนออกมาแทบไม่ทัน

ฉันขอย้ำ อย่าเอาน้องน้ำมาเกี่ยว

นายตำรวจหนุ่มหลิ่วตามองเขาอย่างจับผิด เอ...มันชักจะยังไงๆ อยู่นา อยู่ๆ มาถามเรื่องความสัมพันธ์แปรเปลี่ยน พอพูดถึงน้องน้ำก็ทำเป็นโมโห

อยากโดนต่อยสักทีไหมเขาทำทีเป็นควงกำปั้นขู่

นายปิดเรื่องรักกับกูรูความรักอย่างฉันไม่ได้หรอกน่าชาตรีชี้หน้าเขา

ฉันว่ากูรูเรื่องเพ้อเจ้อมากกว่าน่านตะวันโบกมือ

สารรูปมาเหอะน่า

สารภาพ

เออๆ สารภาพนั่นแหละ บอกมาเหอะ จะได้ช่วยกันหาทางแก้ไข ฉันไม่บอกใครหรอกน่า

น่านตะวันชะงักลังเล เพราะยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อชลาลัยนั้นเปลี่ยนไปจริงหรือเปล่า และการที่แอบรักน้องสาวตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่น่าอายเกิดกว่าที่จะบอกใครด้วย แถมเขายังมีเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขากับชลาลัยก็ไม่มีวันลงเอยกันแบบนั้นได้อย่างเด็ดขาด

ฉันมีทางออกดีๆ ให้นะเว้ย

น่านตะวันหลิ่วตามองเพื่อนอย่างลังเล ทางไหนวะ

เอ้า...นายต้องยอมรับก่อนดิว่าผู้หญิงที่ทำให้หัวใจนายเต้นแรงคือน้องน้ำ ฉันจะได้เลือกวิธีได้ถูก

ชายผู้แอบหลงรักน้องสาวอึกอักสองจิตสองใจ แต่ในที่สุดก็ต้องหลับตาลงแล้วถอนใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างยอมจำนน เออ...น้องน้ำนั่นแหละ

ว่าแล้ว ซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้สิน่าชาตรีตบเข่าฉาด

ทำเป็นรู้ดีน่านตะวันแขวะ

ฉันสงสัยมาตั้งนานแล้วโว้ย มีอย่างที่ไหน หวงน้องนอกไส้เว่อร์วังอลังการซะขนาดนั้น

พูดมาก ไหนวิธีดีๆ ของนาย บอกมาเลย

ชาตรียิ้มกริ่ม มันจะไปยากอะไรล่ะวะ นายก็สารภาพรักกับน้องน้ำไปเลยสิ

เฮ้ย!...ไอ้บ้า ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก

ทำไมวะ รักก็บอกว่ารัก มันจะไม่ได้ได้ยังไงวะ

น่านตะวันถอนใจเฮือก ฉันมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถคิดอย่างนั้นกับน้ำได้ว่ะ

เหตุผลอะไรวะ

ฉันบอกนายไม่ได้ เอาเป็นว่ายังไงฉันก็คิดกับน้ำแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ

เรื่องพี่น้องเนี่ยเหรอ

นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เหตุผลอะไรวะ นายก็บอกมาดิ จะได้ช่วยคิด

เออน่า เอาเป็นว่าไม่ได้ก็แล้วกัน อีกอย่างนะ เกิดน้ำไม่รักฉันแบบนั้น ขืนพูดไปคราวนี้มองหน้ากันไม่ติดเลยนะโว้ย

จะไม่รักได้ยังไงวะ รูปก็หล่อ รวยก็รวย แถมเอาใจใส่ดูแลอย่างกับนางเป็นเจ้าหญิงอีกต่างหาก ผู้หญิงที่ไหนไม่รักก็บ้าแล้ว

มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิวะ

ก็นายทำให้มันยากเองชาตรีเอื้อมมือมากอดคอเขา แล้วด้วยสายตากูรูด้านความรักของฉัน ฉันว่าน้องน้ำก็รักนายด้วย เชื่อสิวะ

ฉันก็อยากเชื่อนายนะ แต่ฉันมีเหตุผลที่รักน้องน้ำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

ชาตรีถึงกับถอนใจเฮือก เออๆ ไม่เซ้าซี้ก็ได้ ถ้างั้นนายก็ต้องเลือกอีกทางแล้วละ

ทางไหน

ตัดใจจากน้องน้ำซะ

น่านตะวันชะงัก รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาเมื่อคิดว่าต้องตัดใจจากชลาลัยทั้งๆ ที่ยังต้องเจอกันทุกวัน มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดคนที่รักอย่างสุดหัวใจออกไป แต่มันคงไม่มีทางไหนที่ดีกว่านี้แล้ว เพราะหากเขาเริ่มก่อความรักครั้งนี้ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แล้วชลาลัยมารู้ความจริงภายหลังว่าคนที่ฆ่าบิดามารดาของเธอคือบิดาของเขา ทั้งเธอและเขาก็คงจะเจ็บปวดหัวใจจนแทบแหลกสลายแน่ๆ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น