เชอร์ชิลเอ่ยถามเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงเมตตาเฉกเช่นดั่งคุณครูฝรั่งผมทองของเด็กหญิงตัวน้อยเมื่อยี่สิบปีก่อน ชายสูงวัยไม่เรียกเธอว่าเอ็นเมื่ออยู่ตามลำพัง แต่กลับเรียกด้วยชื่อเล่น ยิ่งทำให้หญิงสาวอดนึกไปถึงย้อนวันเวลาเก่าๆ ไม่ได้
“ก็ดีค่ะครู ทุกคนน่ารักดี”
“ดูเหมือนเธอจะเข้ากับเด็กๆ ทั้งสองคนได้ดีนะ”
“มากค่ะ” ลลนายิ้มกว้างตอบรับ “เจกับบีน่ารักมาก”
“แล้วพ่อสายลับหนุ่มของฉันล่ะ แอลทูน่ะ ได้คุยกันบ้างหรือยัง”
คราวนี้ยิ้มกว้างของเธอเจื่อนลง เหลือเพียงแค่พยายามยิ้มในตอนที่ตอบ “คุยแล้วนะคะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงาน เพราะดูท่าเขาไม่อยากจะคุยกับหนูเรื่องอื่นสักเท่าไหร่”
อันที่จริงหญิงสาวไม่ใช่คนขี้ฟ้องหรอกนะ แต่สำหรับอีตาปลาทูหน้างอเนี่ย มันอดไม่ไหวจริงๆ
เชอร์ชิลยิ้มอ่อน ไม่ร่วมวิจารณ์ใดๆ แต่กลับแนะนำแทน
“ทำไมไม่ลองชวนเขาคุยเรื่องกีฬา ดนตรี ต้นไม้ หรือเรื่องอื่นที่เขาสนใจดูบ้างล่ะ หรือเอาเป็นเรื่องที่เธอสนใจก็ได้ แฟชั่น หนัง ละคร หรือจะเป็นสียาทาเล็บคอลเล็กชันล่าสุดก็ได้ ไม่แน่นะ อาจจะมีบางเรื่องที่พวกเธอคุยกันถูกคอ”
ลลนาหัวเราะแห้งๆ นึกภาพตัวเองกำลังคุยมุ้งมิ้งเรื่องสียาทาเล็บกับแอลทูไม่ออกจริงๆ ดูเหมือนเชอร์ชิลจะเข้าใจถึงความลำบากใจของเธอ ชายสูงวัยจึงอธิบายเสียงเรียบ
“แอลทูเขาอาจจะดูเป็นคนไม่ค่อยจะมีมนุษยสัมพันธ์ ที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ก็เพราะอดีตหล่อหลอมเขาให้ต้องกลายเป็นคนอย่างนั้น แต่เนื้อแท้แล้วเขาเป็นคนดีและพึ่งพาได้นะนาน่า ถ้าเธอจะยอมเปิดใจ”
“แอลวันก็มีอดีตที่เลวร้ายเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมแอลวันยังร่าเริงแจ่มใส ไม่เหมือนฝาแฝดกันสักนิด” หญิงสาวแย้งเบาๆ
เชอร์ชิลยิ้ม “พูดอย่างนี้แสดงว่าแอลวันต้องเล่าเรื่องราวในอดีตของพวกเขาให้ฟังบ้างแล้วสินะ เธอต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ก่อนนะนาน่า ว่าถึงจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่จะจัดการกับภาวะกดดัน ซึมเศร้า และขาดที่พึ่งได้ดีเหมือนกันหรอก ก็อย่างที่ใครชอบพูดกัน...จิตใจของมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง”
“เอาเป็นหนูจะพยายามปรับตัวเข้ากับแอลทูให้มากขึ้นก็แล้วกันค่ะครู แต่ไม่รับรองผลนะคะ”
“เอาเป็นเธอพยายาม ก็เพียงพอแล้วละ ถ้ามีความคืบหน้าเรื่องรหัส เธอสามารถบอกแอลทูโดยตรงได้เลยนะ เขาไว้ใจเลย” เชอร์ชิลเว้นจังหวะไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “เห็นแอลทูรายงานมาว่าเธอพอจะอ่านอักขระพวกนั้นได้บ้างแล้วใช่ไหม”
หญิงสาวพยักหน้า “ใช่ค่ะครู บางอันหนูรู้จักมาก่อนแล้ว”
“นับว่าฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ”
ลลนาอธิบายในสิ่งที่เพิ่งอธิบายให้แอลทูฟังเมื่อสามสิบนาทีก่อนให้เชอร์ชิลฟัง จากการประเมินด้วยสายตา คุณครูในอดีตมีท่าทางพึงพอใจมากกับความคืบหน้าในการถอดรหัสโดยอาศัยความช่วยเหลือทางภาษาของเธอ
และนั่นก็ทำให้หัวใจของลลนาพองโตจนแทบคับอก เหมือนกับทุกครั้งในวัยเด็กที่สามารถทำอะไรแล้วได้รับคำชมจากเขา
คุณครูฝรั่งที่เธอนับถือเหมือนบิดาแท้ๆ
เลนนอนกะเวลาให้หญิงสาวจอมยุ่งเข้าไปคุยกับเชอร์ชิลได้สักพัก มั่นใจว่าเธอจะยังไม่กลับมาในตอนนี้ จึงเดินเข้าไปหาเจที่กำลังใช้คอมพิวเตอร์ทำงานอยู่ ร่างสูงยืนละล้าละลัง ก่อนจะตัดสินใจถามเสียงเคร่งเครียด
“เจ รู้จักปลาทูไหม”
สายลับหนุ่มพยายามออกเสียงคำว่า ‘ปลาทู’ ให้ใกล้เคียงกับคำที่ต้นฉบับพูดไว้มากที่สุด ก่อนจะยืนนิ่ง เก๊กหน้าให้บูดบึ้งตามนิสัย สาวน้อยชาวไทยมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ เธอเลิกคิ้ว เบิกตากลมโตกว้างขึ้น แล้วพยักหน้างงๆ
“รู้จักสิคะ ถ้าเป็นคนไทย ใครๆ ก็รู้จักปลาทูกันทั้งนั้น ว่าแต่คุณไปเรียนภาษาไทยคำนี้มาจากไหนกัน”
“เอ็นพูด” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ แล้วถามต่อ “หน้าตามันเป็นยังไง เหมือนผมไหม”
ได้ฟังคำถาม เจก็ส่ายหน้า หัวเราะร่าเริงทันที
“โธ่ แอลทูคะ หล่อเหมือนนายแบบโฆษณาน้ำหอมอย่างคุณ จะไปเหมือนปลาทูได้ยังไง ถ้าเป็นอีตาบีก็ว่าไปอย่าง มีใครบอกเหรอคะว่าคุณหน้าเหมือนปลาทู พี่เอ็นบอกอย่างงั้นเหรอ”
“ผมอยากเห็น มีรูปไหม”
“เดี๋ยวเจหาให้ค่ะ ไม่มีปัญหา ถามกูเกิ้ลแป๊บเดียว เดี๋ยวได้เรื่อง”
เจพิมพ์อะไรกอกๆ แกกๆ บนแป้นคอมพิวเตอร์ของเธออยู่เพียงไม่นาน ก่อนจะหันภาพที่ปรากฏมาให้ พร้อมหัวเราะคิกคัก
“เฮ้ย! นี่เหรอ ปลาทู!”
เลนนอนสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นภาพปลาทูตรงหน้าที่นอนอ้าปากเรียงกันอยู่ในภาชนะทำจากไม้ทรงกลมรองด้วยใบตองสีเขียวสด มิหนำซ้ำเจ้าปลาเหล่านั้นยังพร้อมใจกันพับคอลงหมดทุกตัว
“นี่แหลค่ะ ปลาทู แล้วไม่ใช่ปลาทูธรรมดานะคะ แต่เป็นปลาทูแม่กลอง หน้างอ คอหัก ของดีประจำจังหวัดสมุทรสาครเลยค่ะ”
แล้วชายหนุ่มก็เข้าใจเมื่อเจอธิบายคำว่า ‘หน้างอ คอหัก’ ให้เขาฟังเป็นภาษาอังกฤษ
“ฝากไว้ก่อนเถอะยายหมากระเป๋าสีรุ้ง”
เตียงนอนนุ่มสบายเป็นสิ่งที่ลลนาโหยหามากที่สุดในขณะนี้ หนึ่งวันทำงานของเธอให้กับองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรสายลับได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ช่างเป็นหนึ่งวันที่ยาวนานเสียจริงๆ
หญิงสาวโผเข้าสู่เตียงนุ่ม กลิ้งตัวไปมาและแตะผ้าห่มอย่างมีความสุข แต่เมื่อหลับตาลง อักขระโบราณที่เพ่งมองมาทั้งวันก็ปรากฏขึ้นในมโนความคิด
“ฮื้อ จะตามมาหลอกหลอนกันทำไม ไปให้พ้นนะ”
เธอโวยวายตัวเองพลางยกมือขึ้นปัดในอากาศเพื่อจะลบภาพตัวอักษรเหล่านั้นทิ้งไป จนกลายเป็นภาพอักขระขาดๆ หายๆ
พลันนั้นเอง อะไรบางอย่างก็แวบเข้ามาในความคิด
‘แล้วมันมีแบบเดียวหรือเปล่า หรือมีแบบอื่นด้วย อ่านแบบอื่นได้ไหม’
ใช่...นั่นคือสิ่งที่เธอถามบี
แล้วคำตอบของบีเล่า...
‘มีหลายแบบครับพี่ ทั้งแบบอ่านเฉพาะตัวหน้า อ่านบรรทัดเว้นบรรทัด หรืออ่านเป็นรูปสามเหลี่ยม’
ลลนากระโจนพรวดขึ้นจากเตียงนุ่มสบาย รีบคว้ากระดาษที่มีอักขระโบราณยาวเต็มพรืดทั้งหน้าจากโต๊ะข้างเตียงมาไล่ดูทันที
หญิงสาวพยายามอ่านในย่อหน้าที่สอง ซึ่งเป็นอักขระของชาวซูเมอร์ที่เธอรู้จักและคุ้นเคยก่อน เธอลองอ่านเฉพาะตัวหน้า ไล่จากบนลงล่าง ต่อด้วยล่างขึ้นบน แต่ไม่พบข้อความอะไร จากนั้นจึงลองอ่านแบบบรรทัดเว้นบรรทัด แต่ก็คว้าน้ำเหลวเช่นกัน
จนกระทั่ง...
“แบบนี้นี่เอง”
หญิงสาวตะลึงงัน รู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นเยียบ หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เธอคว้าแจ็กเก็ตตัวบางมาสวมทับชุดนอนรูปหมีสีน้ำตาล ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องพักทันที จุดหมายปลายทางของเธอคือห้องพักของแอลทูซึ่งอยู่ตรงข้าม เยื้องไปอีกฝั่ง
“แอล แอลทู นี่นายปลาทู เปิดประตูหน่อย”
ลลนาร้องเรียก กดกริ่ง เคาะประตู เขย่ามือจับประตู เรียกได้ว่าทำทุกทางแล้ว ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่รับรู้เลยว่ามีคนมารอที่หน้าห้อง
“เอ...หรือจะเอาไปบอกครูเลยดีนะ”
แม้จะอยากรีบไปบอกเชอร์ชิล แต่เธอไม่รู้ว่าเขาพักอยู่บริเวณไหนในตึกนี้ อาจจะอยู่บริเวณพื้นที่สีแดงที่เป็นเขตหวงห้ามก็เป็นได้
“โธ่...แอลทู คุณทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ได้ยิน หูหนวกแบบนี้เป็นสายลับได้ยังไงกัน”
ลลนาจำได้ว่าแอลวันเคยบอว่ารหัสประตูห้องพักของแต่ละคนคือเลขสี่หลักเรียงกัน ในเมื่อรหัสของเธอคือ 1317 ห้องนี้อยู่ตรงข้ามห้องเธอ รหัสก็น่าจะ 1319 ใช่ไหม
แล้วเธอก็ลองกดเลขที่คิดว่าใช่
สัญญาณสีแดงกะพริบเตือน แสดงว่าเธอกดรหัสผิด
เอาน่า...ลองอีกครั้ง
หรือจะเป็น 1318
หญิงสาวสุ่มกดรหัสอยู่อีกสามสี่ครั้ง ในที่สุดสัญญาณสีเขียวก็กะพริบ พร้อมกับเสียงคลิกที่แสดงว่าล็อกถูกปลดออกแล้ว ลลนารีบกดมือจับลง ดันเปิดประตูเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
แล้วเธอก็ต้องตกตะลึงจนนิ่งค้าง เลือดในกายเย็นเยียบกว่าเดิม และหัวใจเต้นรัวเร็วเหมือนจะกระดอนออกมานอกอก เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเต็มสายตา
ไม่ใช่รหัส ไม่ใช่อักขระโบราณ แต่เป็นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของผู้ชาย ดูอัดแน่นไปด้วยอันตรายทุกสัดส่วน
เรือนร่างที่เปลือยเปล่า ไร้อาภรณ์ใดๆ ปิดบัง แม้แต่...ส่วนนั้น
เลวร้ายกว่านั้นก็คือ...ผู้ชายคนนั้นคือแอลทู!
“กรี๊ดดด!!!”
ความคิดเห็น |
---|