3

บทที่ 3



 

ทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ลลิษาก็รีบออกจากเคาน์เตอร์แล้วปราดไปยังโต๊ะที่เกิดเหตุทันที ก่อนจะพบว่ากลุ่มลูกค้าวัยกลางคนกำลังเอะอะกันอยู่ โดยมีหญิงร่างบางสวมกระโปรงสั้นเต่อยืนโวยวายเป็นแกนนำ

เกิดอะไรขึ้นคะ” เจ้าของร้านเอ่ยถามอย่างสุภาพ

หญิงคนนั้นเมื่อเห็นเธอสวมชุดบาร์เทนเดอร์ก็รีบยกแก้วค็อกเทลขึ้นชูให้เธอดู “นี่มันอะไรกัน ขนอะไรหยิกๆ หย็องๆ เข้าไปอยู่ในแก้วของฉันได้ยังไง เธอเป็นคนชงมาร์การิต้าแก้วนี้ใช่ไหม”

ใช่ค่ะ ฉันชงเองกับมือ”

แย่มาก สกปรก นี่คงเข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือมาชงมาร์การิต้าให้ฉันใช่ไหม” หญิงคนนั้นกล่าวหาเธออย่างกราดเกรี้ยว ก่อนจะสาดค็อกเทลแก้วนั้นใส่ลลิษาเต็มหน้า

นี่มันเกินไปแล้วนะ” วายุโพล่งขึ้นด้วยความโกรธที่เห็นคนที่ตนรักถูกทำร้ายต่อหน้า แต่เมื่อเขาจะเข้าไปเอาเรื่อง ลลิษากลับกันเอาไว้เสียก่อน

กลับไปที่บาร์ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง” ลลิษาเอ่ยเสียงเข้มแล้วออกแรงดันร่างหนาให้ถอยกลับไป ก่อนจะหันไปค้อมศีรษะให้กับลูกค้าผู้กราดเกรี้ยว “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันสะเพร่าเอง เอาเป็นว่าเครื่องดื่มกับอาหารมื้อนี้ฉันจะไม่คิดเงินเพื่อเป็นการไถ่โทษดีไหมคะ”

แหวะ ใครจะไปกินต่อ” อีกฝ่ายยังคงโวยวายเสียงดังลั่นร้าน “ไม่รู้แก้วอื่นกับอาหารจะมีอะไรสกปรกๆ ติดมาอีกไหม”

งั้นก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เจ้าของร้านสาวค้อมศีรษะอีกครั้ง

เสียดายนะ ตกแต่งร้านก็สวย บรรยากาศก็ดี แต่สกปรก...อี๋ ต่อไปฉันจะไม่มาเหยียบร้านนี้อีกแล้ว”

ขอโทษด้วยค่ะ”

ลลิษาค้อมศีรษะอีกครั้ง ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่ผิด เพราะเธอมั่นใจในความสะอาดของร้านมาก และเธอก็ล้างมือทุกครั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีอะไรเข้าไปอยู่ในแก้วมาร์การิต้านั่น แต่เธอก็ต้องจำใจยอมรับผิดเพื่อแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน

ระหว่างนั้นเอง ลูกค้าอีกหลายโต๊ะก็พากันยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาสำรวจ บางคนก็ใช้ส้อมเขี่ยอาหารในจานดูอย่างไม่มั่นใจนัก ลลิษาเหลือบมองไปทั่วอย่างใจแป้ว และยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นเมื่อเห็นสายตาของภาคิน ยูทูปเปอร์เครื่องดื่มผู้มีชื่อเสียงกำลังนั่งกอดอกจ้องเธอกับคู่ความเขม็ง

ไป...พวกเราไปร้านอื่นกันดีกว่า” ลูกค้าสาวยังคงเสียงดังลั่นร้าน ก่อนจะเดินนำผองเพื่อนตรงไปที่ประตู

ทว่าคนกลุ่มนั้นกลับต้องชะงัก เมื่อจู่ๆ ก็มีชายร่างใหญ่ยื่นมือมาคว้าแขนของลูกค้าสาวและหยุดไม่ให้เธอเดินไปถึงประตูได้

คุณวุธ” ลลิษาเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าชายหนุ่มคนนั้นเข้าเต็มตา

ไอ้บ้า...มาจับแขนฉันทำไม ปล่อยนะ คิดจะลวนลามเรอะ ถ้าเมาก็กลับไปนอนบ้านไป๊”

คุณยังไปไหนไม่ได้” คฑาวุธเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ทำไม” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างกราดเกรี้ยว

เฮ๊ย...มึงเป็นใครวะ ปล่อยแขนเพื่อนกูเดี๋ยวนี้นะโว้ย” ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยอย่างเอาเรื่อง แม้จะตัวเล็กกว่าแต่ก็คงถือว่าพวกมาก จึงไม่เกรงกลัวอะไร

พวกคุณร่วมกันฉ้อโกง หวังกินฟรี ทำให้ร้านเสื่อมเสียชื่อเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๑ ถ้าเจ้าของร้านเอาเรื่อง พวกคุณจะถูกลงโทษจำคุกไม่เกินสามีปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านด้วยการสาดเครื่องดื่มใส่หน้าอีก เหตุผลแค่นี้พอจะทำให้ผมหยุดพวกคุณได้หรือยัง”

ลูกค้ากลุ่มนั้นชะงักไปทันทีเมื่อเจอคนที่ดูเหมือนจะรู้กฎหมายอย่างทะลุปรุโปร่งแบบนี้ ต่างคนต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก ก่อนที่หญิงสาวหัวโจกจะตั้งสติได้

แกกล่าวหาฉัน ไม่มีหลักฐาน ระวังจะโดนคุกเหมือนกัน”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างใจเย็น “บังเอิญผมเห็นคุณเอาเส้นขนมาใส่แก้วมาร์การิต้า แล้วยังเอานิ้วจุ่มลงไปคนเครื่องดื่มในแก้วนั่นอีก”

บ้าไปแล้ว ใครมันจะทำอย่างนั้น อย่ามาใส่ร้ายกันนะ มีหลักฐานอะไรหรือเปล่า”

ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่กลับชี้ไปที่กล้องวงจรปิด ซึ่งหันหน้ากล้องไปที่โต๊ะของผู้หญิงคนนั้น

เมื่อเห็นท่าไม่ดี ลลิษาจึงรีบปราดเข้าไปห้ามปราม “พอเถอะค่ะคุณวุธ ฉันไม่อยากมีเรื่อง”

ดะ...ได้ยินหรือยัง ปล่อยฉันนะไอ้บ้า” ลูกค้าสาวจอมโวยรีบสะบัดแขน แต่มือของชายหนุ่มกลับแกร่งเกินกว่าจะสลัดพ้นโดยง่าย

คุณยังไปไหนไม่ได้” ชายหนุ่มคำราม “ถึงเจ้าของร้านจะไม่เอาเรื่อง แต่คุณก็ควรจ่ายเงินและขอโทษเธอ รวมทั้งลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย ที่รบกวนบรรยากาศการนั่งดื่ม”

ฝ่ายหญิงอึกอักไปครู่ใหญ่ ก่อนจะหยิบเงินยื่นให้ลลิษา เจ้าของร้านสาวรับเอาไว้และยืนสงบนิ่งอย่างประนีประนอม

คุณควรขอโทษเจ้าของร้านกับลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย” ชายหนุ่มย้ำ

หญิงสาวมีท่าทีกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด แต่ในที่สุดก็หันไปค้อมศีรษะให้ลลิษา แล้วเอ่ยขอโทษขอโพยด้วยเสียงอ่อน จากนั้นก็หมุนตัวค้อมศีรษะปลกๆ ไปรอบร้านด้วยเสียงที่ไม่ดังเท่าตอนโวยวายว่าร้านสกปรกเมื่อครู่

ฉันไปได้หรือยัง”

คฑาวุธหันไปถามลลิษาอย่างสุภาพ “ตกลงคุณไม่เอาเรื่องใช่ไหมครับ”

ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ

ชายหนุ่มจึงปล่อยมือจากแขนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยจ้ำจากการบีบรัดของเขา กลุ่มลูกค้าขอกินฟรีรีบออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วด้วยความอับอาย พอเหตุการณ์สงบลง ลูกค้าในร้านต่างก็ปรบมือให้ชายหนุ่มผู้เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์กันเสียงเกรียว

คฑาวุธยกมือและยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะหันหน้ามาทางลลิษาและจ้องมองเหมือนจะทวงคำขอบคุณจากเธอ

ขอบคุณค่ะ”

ไม่เป็นไรครับ” เขาโบกมือ “แต่คุณไม่ควรยอมคนพวกนี้ง่ายๆ นะ เพราะนอกจากพวกมันจะได้ใจแล้ว ร้านของคุณอาจเสื่อมเสียชื่อเสียง”

ลลิษาเหลือบไปมองภาคินที่กลับมาละเลียดดื่ม จิน มาร์ตินี่ ของเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าพึงใจ

ฉันก็แค่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน เอาไว้ตรวจสอบแน่ชัดแล้วค่อยจัดการอีกที”

งั้นผมขอโอลด์แฟชั่นสักแก้วเป็นค่าตอบแทนได้ไหมครับ”

หญิงสาวยิ้มบางๆ ก่อนจะผายมือไปยังเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ “เชิญค่ะ”

เจ้าของร้านสาวรีบเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ จากนั้นก็หยิบอุปกรณ์ต่างๆ มาปรุงค็อกเทลรสเลิศให้เขาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง จากนั้นก็วางมันลงบนกระดาษรองแก้วแล้วยิ้มให้เขาอย่างที่พนักงานควรทำต่อลูกค้า

ว่าแต่คุณเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นทำอย่างนั้นจริงหรือคะ”

ไม่เห็นหรือครับ ผมเพิ่งเข้ามาตอนคุณผละจากบาร์ไปที่โต๊ะนั้น”

ลลิษาตาโต “หมายความว่า...”

กลโกงง่ายๆ พวกนี้ ผมว่าเจ้าของร้านที่เปิดมานานอย่างคุณก็คงรู้ แต่เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต ก็เลยทำประนีประนอมไปก่อน จริงไหม”

แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้...”

อย่าบอกนะว่าคุณไม่มั่นใจในความสะอาดของร้านของตัวเอง”

เอ่อ...”

หรือเส้นขนในแก้วนั้นเป็นของคุณจริงๆ”

ลลิษาหน้าแดงก่ำด้วยความอาย เมื่อเขานำขนในที่ลับนั้นมาผูกโยงกับเธอ “มะ...ไม่ใช่นะคะ ฉันล้างมือทุกครั้ง แล้ววันนี้ฉันก็ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยนะคะ”

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอ 

เพราะผมมั่นใจในความสะอาดของร้านนี้ และผมก็คิดว่าคุณคงไม่ทำอะไรสะเพร่าแบบนั้นแน่ ผมก็เลยบลั๊ฟผู้หญิงคนนั้นไปอย่างนั้นเอง ซึ่งบังเอิญผมคิดถูก”

ไม่บังเอิญหรอกครับ” วายุแทรกขึ้นหลังจากเปิดประตูออกมาจากหลังร้าน “หลังจากคุณบอก ผมก็เข้าไปเปิดดูโทรทัศน์วงจรปิด เห็นแม่นั่นล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงแล้วดึงเส้นขนออกมาใส่แก้วจริงๆ แถมยังใช้นิ้วคนอย่างที่คุณบอกด้วย อี๋...เล่นดึงกันสดๆ แบบนี้ น่าขยะแขยงชะมัด”

ลลิษาฟังแล้วก็หันไปค้อมศีรษะให้เขา “งั้นต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นร้านคงแย่ ท่าทางลูกค้าอีกหลายโต๊ะทำท่าว่าจะเช็กบิลกลับและคงไม่มาอีกเลย โดยเฉพาะ...”

ยังไม่ทันเอ่ยชื่อ คนที่ถูกพาดพิงก็เดินมายืนที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเองและยื่นนามบัตรให้ลลิษาอย่างเป็นมิตร

ผมชิม จิน มาร์ตินี่ ของคุณแล้ว รู้สึกรสชาติกลมกล่อมดีมาก แล้วก็คิดว่าเครื่องดื่มอีกหลายชนิดก็น่าจะดีด้วย ก็เลยอยากจะมาขอทำรายการแนะนำร้านที่นี่ ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกไหมครับ”

ยินดีค่ะ” หญิงสาวยิ้มแป้น

งั้นเอาไว้ผมจัดคิวแล้วจะให้เลขาฯโทร.มานัดอีกทีนะครับ”

ได้ค่ะ”

หลังจากนั้นภาคินก็ออกจากร้านไป ทำเอาลลิษาถึงกับยิ้มหน้าบาน เพราะมีโอกาสได้โปรโมทร้านโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแพงๆ

เราจะดังแล้วนะพี่โรส” วายุเอ่ยอย่างลิงโลด แล้วยกมือขึ้นแปะกับสาวเจ้าของร้าน

ดูเหมือนจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะครับ” คฑาวุธเอ่ยแทรกขึ้น

คงต้องขอบคุณคุณมากๆ น่ะค่ะ ไม่ได้คุณเราคงเสียลูกค้าและโอกาสโปรโมทร้านแบบประหยัดไปแน่”

คุณจะรับอะไรอีกไหมครับ” วายุเอ่ยถามแทรกขึ้น “เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง จะชงให้สุดฝีมือเลย เพื่อตอบแทนที่คุณช่วยร้านเราไว้”

ไม่เป็นไรครับ แค่โอลด์แฟชั่นแก้วนี้ก็พอแล้ว” เขาบอกพร้อมยกเครื่องดื่มขึ้นชู

ยังไม่ทันที่วายุจะพูดอะไรต่อ จอยก็นำออร์เดอร์จากลูกค้ามาให้เขา บาร์เทนเดอร์หนุ่มจึงหันไปทำค็อกเทลให้กับลูกค้าแทนด้วยท่าทางร่าเริงกว่าปรกติ

อิจฉาเจ้าของไหมไทยแก้วนั้นจริงๆ คงได้ชิมค็อกเทลที่อร่อยเป็นพิเศษ เพราะคนชงอารมณ์ดี”

แล้วคุณล่ะคะ จะไม่รับคำขอบคุณจากบาร์เทนเดอร์อารมณ์ดีอีกสักแก้วหรือคะ”

ไม่ครับ” เขาโบกมือ “แต่ถ้าคุณอยากตอบแทน ผมขอเป็นมื้อเช้าอร่อยๆ แถวโรงเรียนได้ไหมครับ”

เอ่อ...”

ผมรู้ว่าเราสองคนเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีเท่าไร ซึ่งนั่นเป็นความผิดของผมเอง ฉะนั้นผมขอโอกาสแนะนำตัวกับคุณใหม่ ได้ไหมครับ”

อืม…” ลลิษาครางอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอไม่แน่ใจว่ามันจะอันตรายไหม หากใกล้ชิดเขามากกว่านี้ ชีวิตของเธอกำลังไปได้สวย มีงานดี มีลูกที่น่ารัก เธออาจเสียทุกอย่างไปหมดก็ได้ หากเขาแทรกเข้ามาในชีวิตเธอ

งั้นก็ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณสำหรับโอลด์แฟชั่นแก้วนี้” คฑาวุธยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด แล้วทำท่าว่าจะลุกขึ้น แต่กลับต้องชะงักเพราะคำตอบของเธอเสียก่อน

ก็ได้ค่ะ เช้าพรุ่งนี้ฉันจะรอคุณที่หน้าโรงเรียน”

เขายิ้ม รอยยิ้มนั้นเขย่าหัวใจของเธอได้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

ผมไม่ไปสายแน่”

 

หลังจากออกจากบาร์เฌอริลีนแล้ว คฑาวุธก็ขับรถสีดำคันโก้ของเขากลับบ้านอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อรถไปจอดติดไฟแดงที่สี่แยกใหญ่ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าถอดสีของลลิษาตอนที่เกิดเรื่อง รวมไปถึงรอยยิ้มอันเจิดจ้าของเธอหลังจากเรื่องราวยุติลงด้วยดี

ทำไมเขาถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยว?

ในฐานะรองประธานกรรมการ ดี.เค.กรุ๊ป ผู้รับผิดชอบโครงการเดอะไททัน เขาควรจะดีใจที่โอกาสนี้มาถึง เพราะนั่นจะทำให้บาร์เล็กๆ นั่นเสื่อมเสียชื่อเสียง เขาเห็นหลายคนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ และมันคงกลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วแน่ๆ หากเขาไม่ดันเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์นั้นเสียก่อน

เขาทำอย่างนั้นทำไม?

บาร์ที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะความสกปรกจะต้องประสบปัญหาแน่ และแน่นอนมันอาจเป็นปัญหาใหญ่เสียจนต้องทำให้ล้มเลิกกิจการ เพราะโลกไซเบอร์ในปัจจุบันนี้มันโหดร้ายนัก นักเลงคีย์บอร์ดสามารถทำขาวให้เป็นเทาได้ บางครั้งทำจนไปถึงขั้นกลายเป็นสีดำสนิทอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่มีวันล้างให้กลับเป็นขาวสะอาดอีกครั้งในชั่วพริบตาเท่านั้น

เมื่อถึงตอนนั้น ลลิษาจะต้องขายที่ดินแปลงนั้นให้ ดี.เค.กรุ๊ป แน่ๆ และอาจเป็นการซื้อขายที่ต่ำกว่าราคาที่ยื่นไปตอนแรกด้วย แล้วโครงการยักษ์อย่างเดอะไททันก็จะหมดปัญหากวนใจไป

ให้ตายสิ”

คฑาวุธสบถพร้อมทุบฝ่ามือลงบนพวงมาลัยรถอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ควรไปยุ่งเลยด้วยซ้ำ และควรปล่อยให้ร้านของเธอปิดตัวลงอย่างสงบ จะได้เริ่มทำงานกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที

คืนนั้นทั้งคืน คฑาวุธแทบนอนหลับไม่เต็มตา สมองของเขาครุ่นคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องลลิษา และค้นหาคำตอบกับตัวเองว่า ทำไมถึงช่วยเธอ ทุกอย่างดูสับสนไปหมด ทั้งความนึกคิดตอนนี้ และความรู้สึกที่ก่อขึ้นเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว รวมไปถึงรอยยิ้มและความน่ารักของเด็กชายคนนั้น

คนที่อาจเป็นลูกของเขา

ฉันแน่ใจว่าป้องกันทุกครั้งเวลาออกไปกับแขก คนเดียวที่ฉันไม่เคยป้องกันคือพ่อของเด็กคนนั้น และเขาก็ตายไปแล้ว เด็กคนนั้นไม่เกี่ยวกับคุณ’

เสียงของลลิษาย้อนแย้งขึ้นมาในความคิดของเขา ทำให้คฑาวุธชักไม่มั่นใจขึ้นมาแล้วว่า สิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับเธอและเด็กคนนั้นจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

คิ้วหนาของคฑาวุธขมวดมุ่นเมื่อคิดถึงทุกท่วงท่าของลลิษาบนเตียง ภาพผู้ชายมากหน้าหลายตากำลังเริงรักกับเธอทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เขาไม่อาจจินตนาการถึงพ่อของเด็กคนนั้นได้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร

ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นคนที่เขารู้จักดี หรือเป็นคนที่เขาไม่มีทางจะรู้จักไปตลอดชีวิตเลยก็เป็นไปได้

ความคิดที่ฟุ้งขึ้นมาทำให้คฑาวุธไม่อาจทนนอนอยู่ได้ เขาลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ห้องทำงาน มันต้องมีอะไรบางอย่างดึงดูดความสนใจของเขาให้ออกจากเรื่องนี้ และแน่นอนว่าไม่มีอะไรจะได้ผลเท่าการทำงานอีกแล้ว

 

เช้าวันต่อมา หลังจากซดกาแฟเข้าไปแก้วใหญ่ คฑาวุธก็ขับรถออกจากบ้านไปรอลลิษากับลูกชายที่หน้าโรงเรียน พอเห็นทั้งคู่เดินจูงมือกันมาและพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม ก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าตัวเองกำลังจูงมืออีกข้างของเด็กคนนั้นด้วย

น่าแปลกจริงๆ ที่เขารู้สึกรักเด็กคนนั้นตั้งแต่แรกเห็น ทั้งๆ ที่เรื่องเด็กไม่เคยอยู่ในหัวสมองของเขาเลย แทบจะรู้สึกรำคาญด้วยซ้ำถ้าเห็นเด็กคนไหนส่งเสียงดังและไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่น พอมาเห็นภาพแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกหลงรักเด็กคนนั้นมากขึ้นอย่างห้ามใจไม่ได้เอาเสียเลย

ลูกคุณชื่ออะไรครับ” เขาถามลลิษาระหว่างรับประทานอาหารเช้าในร้านโจ๊กข้างร้านกาแฟคราวที่แล้ว

เมื่อได้ยินคำถาม เธอมีท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็ตอบเขาออกมาจนได้

มนัสค่ะ แกชื่อมนัส”

คฑาวุธพยักหน้า และคิดว่าเด็กคนนี้คงเป็นดวงใจของลลิษา เธอจึงตั้งชื่อเขาว่ามนัส

เขาน่ารักดีนะครับ”

ค่ะ เป็นเด็กร่าเริงเข้ากับคนง่าย”

หน้าไม่ค่อยเหมือนคุณนะ คงเหมือนพ่อล่ะสิ”

ลลิษาชะงัก ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอซีดเผือดและมีท่าทีลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที นั่นทำให้เขารู้สึกสงสัยว่าเธอกำลังปิดบังอะไรเขาอยู่แน่ๆ

ค่ะ เขาเหมือนพ่อ”

คำตอบนั้นทำให้ทั้งคู่ต่างเงียบกันไปพักใหญ่ ลลิษาเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินโจ๊ก ส่วนเขาก็จ้องมองเธอราวกับทำแล้วจะสามารถอ่านใจเธอได้ แต่ก็ไม่พบคำตอบอยู่ดี

หลังจากคืนนั้น ชีวิตคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ”

ลลิษาชะงัก ช้อนในมือสั่นเล็กน้อย เธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา เขาจึงไม่รู้ว่าเธอมีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำถามที่เพิ่งถูกถามออกไป

คืนที่ฉันกับคุณ...เอ่อ...ออกไปด้วยกันหรือคะ”

ใช่ครับ”

ฉันก็กลับมาทำงานต่อ แล้วก็ออกไปกับแขกอีกหลายคน เลยทำให้ฉันจำไม่ได้ว่าเคยมีคุณอยู่ในรายชื่อแขกพวกนั้นหรือเปล่า”

คฑาวุธหรี่ตามองเธออย่างมั่นใจว่าเธอกำลังสร้างเรื่องโกหกเขาแน่ๆ เพราะวันที่เขากลับไปหาเธอที่บาร์เฌอริลีน พนักงานบอกเขาว่า เธอไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว

แล้วแต่งงานตอนไหนครับ”

คราวนี้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าเครียดเข้มทีเดียว

ถามทำไมคะ”

คฑาวุธยักไหล่ “ก็ไม่มีอะไรครับ แค่ชวนคุยไปเรื่อยๆ ฐานะคนเคยรู้จักกัน”

แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเราเคยรู้จักกัน ต้องขอโทษด้วยนะคะ บางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัว ฉันไม่สะดวกตอบ”

ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจละลาบละล้วง”

ช่างมันเถอะค่ะ” ลลิษาถอนใจเฮือก “ฉันแค่อยากบอกว่าฉันจำคุณไม่ได้ แต่ถ้าคุณยืนยันว่าเคยออกไปกับฉัน แล้วจะมาเป็นเพื่อนกัน ฉันก็โอเค แต่ฉันคงคิดเลยเถิดไปกว่านั้นไม่ได้ เพราะฉันไม่อยากทรยศคนที่ฉันรัก”

ทั้งที่เขาตายไปแล้วหรือครับ”

คิ้วบางขมวดมุ่น ริมฝีปากอวบอิ่มแดงจัดเม้มสนิทแน่นราวกับกำลังสะกดความไม่พอใจเอาไว้ไม่ให้พลุ่งพล่านออกมา

เขาไม่เคยตายไปจากหัวใจของฉันค่ะ” ลลิษาตอบ

ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพราะจู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบในอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกกับคำพูดนั้น

ลลิษาหลุบตาลงมองชามโจ๊กของเขา “ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ เชิญคุณกินต่อตามสบายนะคะ”

พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปจ่ายเงินค่าโจ๊กสองชาม ก่อนจะเดินออกไปจากร้านโดยไม่เหลียวกลับมามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียว

คฑาวุธมองตามไปจนเธอลับสายตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะการสนทนาของเขากับเธอจบลงอย่างไม่สวยเท่าไรอีกครั้งหนึ่งแล้ว

 

อะไรนะ ท่านรองฯน่ะหรือ” กิตติศักดิ์ขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยถามรัชเดชที่เพิ่งรายงานแผนการป่วนบาร์เฌอริลีนที่จบลงอย่างไม่สวยนัก

ดูจากคลิปแล้วเป็นท่านรองฯ แน่ๆ ครับ” ชายหนุ่มยืนยัน

ให้ตายสิ เด็กนั่นจะทำอย่างนั้นทำไม เห็นชัดๆ ว่าจะมีประโยชน์กับเรา”

อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจครับ แต่คนของเราบอกว่าจู่ๆ ท่านรองฯก็โผล่ไป แล้วก็จัดการเคลียร์เรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง ทำเอาแผนของเราพังไม่เป็นท่าเลยครับ”

บ้าจริง ไอ้เด็กคนนั้น” กิตติศักดิ์กัดฟันงึมงำ เพราะถึงเบื้องหน้าเขาจะมีท่าทีอ่อนน้อมกับคฑาวุธ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังเห็นรองประธานกรรมการหนุ่มเป็นแค่เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น และที่เด็กคนนั้นยังนั่งอยู่บนหัวใครต่อใครในบริษัทได้ ก็เพราะอำนาจบารมีอันล้นเหลือของผู้เป็นพ่อ ไม่ได้มีความสามารถอะไรสักนิด

ผมว่าท่านรองฯอาจใช้วิธีตีสนิทกับเจ้าของร้านแล้วค่อยตะล่อมซื้อที่ดินตรงนั้นก็ได้นะครับ”

ยุ่งยากเปล่าๆ แถมอาจเสียเวลาฟรีก็ได้” กิตติศักดิ์ส่ายหน้า

แล้วจะเอายังไงต่อดีครับ จะเดินหน้าต่อหรือปล่อยให้ท่านรองฯจัดการเรื่องนี้ไป”

ขอคิดก่อน” กรรมการผู้จัดการหนุ่มใหญ่เคาะโต๊ะเบาๆ อย่างใช้ความคิด

ถ้าท่านรองฯทำสำเร็จ คงได้หน้าไปอีกบาน ส่วนฝ่ายเราคงถูกสบประมาทว่าทำงานไม่ได้เรื่อง” รัชเดชเอ่ยยุแยง ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาถนัด

ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย” กิตติศักดิ์ขบเขี้ยว ก่อนจะกำมือทุบโต๊ะดังเปรี้ยง “เดินหน้าต่อไปไม่ต้องสนใจท่านรองฯ เราจะต้องจับนังผู้หญิงนั้นเซ็นขายที่ดินของเราให้ได้ก่อน”

ผู้ช่วยหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วค้อมศีรษะให้เจ้านาย “ได้ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย ท่านรองฯคงไม่ได้ไปที่นั่นทุกวัน คงช่วยแม่นั่นเอาไว้ไม่ได้ตลอดหรอกครับ”

กิตติศักดิ์หมุนเก้าอี้หันไปมองวิวนอกหน้าต่าง ก่อนจะโบกมือกลับหลังให้ผู้ช่วย “ไปได้แล้ว แล้วอย่าให้พลาดเหมือนเมื่อวานล่ะ”

ครับท่าน”

 

 

ผ้าห่มสีหวานถูกเลิกขึ้นด้วยเท้าเล็กๆ ของหญิงสาวเจ้าของเตียง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผมยาวของเธอยุ่งเหยิงอยู่บนศีรษะ สายตาจับจ้องไปที่ผนังซึ่งมีรูปของคฑาวุธแปะไว้อย่างนึกเคือง

ไม่หรอก เธอไม่ได้มีรูปเขาติดอยู่ตรงนั้น ความจริงมันเป็นผนังว่างเปล่า จิตของเธอต่างหากที่สร้างภาพนั้นขึ้นมา เพราะจู่ๆ เขาก็โผล่มาปั่นป่วนหัวใจเธอ หลังจากห่างหายกันไปนานถึงเจ็ดปีซะอย่างนั้น

เจ็ดปีอาจเป็นอาถรรพ์ของคู่รักหลายคู่ แต่กับเธอ มันกลับเป็นอาถรรพ์ของชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดียว

เช้านี้จึงเป็นอีกเช้าหนึ่งที่เธอไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เพราะพอลิ้นชักแห่งความทรงจำได้ถูกเปิดออกแล้ว หลังจากเธอใส่หีบเหล็กลั่นกลอนเอาไว้อย่างแน่นหนา ทุกอย่างก็กลับมาหลอกหลอนเธอ ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการร่วมรักกันบนเตียง ริมหน้าต่าง โซฟา ห้องน้ำ โต๊ะรับแขก และระเบียงห้องของโรงแรมสุดหรูนั้น

ใบหน้าของเขาลอยเกลื่อนไปทุกที่ แม้เธอจะหลับตาลง เขาก็ยังมาปรากฏให้เห็นเบื้องหลังเปลือกตาที่ดำมืด

บ้าจริง อุตส่าห์ทำใจแข็งมาได้ตั้งหลายปีแล้ว พอเจอนายครั้งเดียว ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้นะ”

ลลิษาบ่นอุบ ก่อนจะขยี้ผมตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปทำงานบ้าน ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ เธอทำทุกอย่างอย่างหนักเพื่อให้ลืมเขาและเหนื่อยจนสามารถงีบหลับได้สักสองสามชั่วโมง ก่อนจะไปรับลูกชายที่โรงเรียนตอนบ่ายสามโมง

มันค่อนข้างได้ผล เธองีบหลับไปพักใหญ่ ก่อนที่เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้น ลลิษางัวเงียไปอาบน้ำ สายน้ำเย็นฉ่ำจากฝักบัวทำให้ร่างเปลือยเปล่าของเธอตื่นตัว 

แล้วเขาก็กลับมาอีกครั้ง

หญิงสาวกระโดดเหยงออกจากใต้ฝักบัวเมื่อสมองจินตนาการไปถึงการร่วมรักกับคฑาวุธภายใต้สายน้ำอันเย็นฉ่ำ หัวใจของเธอเต้นแรง และรู้สึกโหยหาสิ่งนั้นขึ้นมาจนน่าหงุดหงิด

นั่นเป็นครั้งเดียวที่เธอมีสัมพันธ์กับผู้ชายอย่างลึกซึ้ง หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นอีกเลย เพราะเธอต้องพยายามดิ้นรนออกจากกองทุกข์ที่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และหันมาทำงานอย่างหนักเพื่อลูกชายที่เธอรักสุดหัวใจ

ความต้องการทางเพศของเธอถูกกดทับมานานด้วยภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง แต่บัดนี้มันกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมผู้ชายคนแรกและคนเดียวของเธอ

บ้าจริง!”

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ลลิษาก็ออกมาชงกาแฟดื่ม แต่ไม่ว่าจะมองไปทางใด เธอก็มีอันสะดุ้งโหยงทุกทีเมื่อเห็นภาพตัวเองกำลังเริงรักอย่างสุดเหวี่ยงกับเขา ทั้งบนโซฟา ขอบหน้าต่าง และแม้แต่กับเคาน์เตอร์ในครัว

ในที่สุดลลิษาก็กรีดร้องออกมาอย่างหมดความอดทน

 

การต้องอดทนข่มใจไม่ให้คิดถึงลลิษาระหว่างการประชุมที่เคร่งเครียด ทำให้คฑาวุธรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เขาแทบไม่มีสมาธิกับงานเลย บางครั้งถึงขั้นเหม่อลอยไม่ได้ยินใครพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ

ท่านรองฯ ครับ”

เสียงสาธิต กรรมการผู้จัดการฝ่ายกฎหมายเรียกเบาๆ คฑาวุธสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักที่เล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็ก

ฝ่ายขายรอการตัดสินใจเรื่องฟอเรสต์วิวอยู่ครับ”

โครงการฟอเรสต์วิวเป็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทำเลที่ตั้งก็ค่อนข้างดี แต่วันที่จัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งจนมาถึงวันนี้ ยอดจองห้องกลับไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับ บริษัท ดี.เค.กรุ๊ป สักเท่าไร

“Lease Options”

คฑาวุธให้คำตอบได้ทันที เพราะเขาศึกษารายละเอียดต่างๆ มาก่อนเข้าประชุม และคิดหาทางออกเอาไว้แล้วว่า การปล่อยขายแบบทำสัญญาให้เช่าเพื่อซื้อในอนาคต ย่อมดีกว่าการลดราคาอันจะทำให้แบรนด์ของบริษัทและโครงการดูด้อยค่าลง ทำให้ทุกคนในห้องต่างคิดว่าที่เขานั่งเหม่อเมื่อสักครู่ เป็นเพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกวิธีไหนแก้ปัญหาดี

การประชุมยังดำเนินต่ออย่างเคร่งเครียด แต่หลังจากเลิกประชุมแล้ว คฑาวุธที่ยังคงนั่งอยู่ต่อกับสาธิตตามลำพังก็มีท่าทีผ่อนคลายลงด้วยกันทั้งคู่

วันนี้นายเป็นอะไร ดูเหม่อๆ ชอบกล”

พออยู่กันสองคน นักกฎหมายหนุ่มก็ไม่จำเป็นต้องพูดกับเพื่อนอย่างเจ้านายกับลูกน้องอีกแล้ว

มีเรื่องคิดไม่ตกว่ะ”

เดอะไททันเหรอ”

คฑาวุธเบิ่งตามองเพื่อนด้วยความแปลกใจ “นายรู้ได้ยังไง”

ฉันเป็นเพื่อนนายนะโว้ย มีหรือจะไม่รู้ว่า งานไหนมันมีปัญหาที่แก้ไม่ตก มนุษย์สมบูรณ์แบบอย่างนายจะเป็นยังไง”

รองประธานหนุ่มถอนใจเฮือก “ก็เรื่องนั้นแหละ”

เขาไม่ได้โกหกเพื่อน เพราะปัญหาเรื่องลลิษามันก็เป็นเรื่องเดียวกับบาร์เฌอริลีนเหมือนกัน

มันใช่ปัญหาของนายหรือเปล่าวะ ทำไมไม่ปล่อยให้นายกิตติศักดิ์นั่นจัดการไปล่ะ”

ไม่ทันใจน่ะสิ นายก็รู้ว่าฉันหวังกับโปรเจคนี้แค่ไหน ขืนล่าช้าออกไปโครงการมันอาจพังครืนก็ได้”

แล้วนายจะทำยังไง ขืนเข้าไปยุ่มย่าม นายกิตติศักดิ์จะหาว่านายข้ามหน้าข้ามตาเอาได้นะ”

ก็แค่อยากกล่อมเจ้าของร้าน ส่วนเรื่องซื้อขายฉันไม่ยุ่งหรอก”

ให้ฉันช่วยไหมล่ะ” สาธิตเสนอ

ไม่ต้องหรอก” คฑาวุธโบกมือ “นายยิ่งไม่ถูกกับคุณกิตติศักดิ์อยู่ไม่ใช่เหรอ ขืนเข้ามายุ่งเรื่องนี้อีก มีหวังมองหน้ากันไม่ติดแน่”

ยังไงก็ไม่มองหน้ากันอยู่แล้วนี่” ทนายหนุ่มยักไหล่แล้วตีสีหน้าเครียด “ไอ้ขี้โกงแบบนั้น ถ้าฉันหาหลักฐานได้เมื่อไร มันเสร็จแน่”

เอาไว้หาหลักฐานให้ได้ก่อนก็แล้วกัน” คฑาวุธสรุป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่นายรู้หรือเปล่าว่ายัยวีจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว”

น้องสาวนายอะเหรอ” สาธิตหูผึ่งขึ้นมาทันที

เออ เห็นว่าอาทิตย์หน้า”

จริงเหรอวะ”

คฑาวุธหลิ่วตามองเพื่อนอย่างรู้ทัน “เฮ้ยๆๆ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้”

อ่า...เปล่าเสียหน่อย ฉันก็แค่แปลกใจว่าทำไมถึงอยากกลับมา ก็เห็นว่าห้องเสื้อที่เนเธอร์แลนด์กำลังไปได้สวยไม่ใช่เหรอ”

ไม่รู้สิ” ผู้เป็นพี่ชายยักไหล่ “เห็นว่าอยากจะมาเปิดห้องเสื้อที่นี่ นายช่วยดูให้หน่อยได้ไหม”

ได้สิ เดี๋ยวจัดการให้เลย เอาแบบลงเครื่องปุ๊บนั่งรถมาทำพิธีเปิดร้านเลยดีไหม”

เวอร์แล้วไอ้เพื่อนยาก” คฑาวุธทำปากเบ้อย่างนึกหมั่นไส้ “งานบริษัทให้มันจริงจังอย่างนี้นะ”

พูดไป ฉันไม่เคยปวกเปียกกับงานนะโว้ย” สาธิตโวยทั้งที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “งั้นฉันรีบไปจัดการเรื่องห้องเสื้อดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันการ”

เออๆ” รองประธานหนุ่มโบกมือไล่แล้วมองดูเพื่อนออกจากห้องด้วยความลิงโลด ก่อนจะถอนใจเฮือกออกมาอย่างนึกกังวลใจ เพราะหลังจากโทรศัพท์คุยกับน้องสาว เขาก็รู้ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาเมืองไทยก็เพราะ...อกหัก

ตั้งแต่เด็ก คฑาวุธ เวนิกา และสาธิต เป็นเพื่อนเล่นที่สนิทกันมากที่สุด เพราะทั้งสองครอบครัวมีรั้วติดกัน ทนายหนุ่มจึงมักจะข้ามรั้วมาเล่นกับเขาและน้องเสมอ จนหลายคนที่มาเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้านนึกว่าพวกท่านมีลูกสามคน

ความสนิทสนมนี้เองที่กลายมาเป็นความผูกพัน และทำให้สาธิตเกิดความรักในตัวเวนิกาขึ้นมา

ตอนแรกคฑาวุธก็ไม่ทันได้สังเกต เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แต่ยิ่งนานวันเข้า สาธิตก็เริ่มแสดงออกให้เห็นว่าเวนิกาสำคัญสำหรับเขาเพียงไร

นายชอบน้องสาวฉันเหรอวะ’

คำถามนั้นทำให้สาธิตหน้าซีดเผือด แต่ก็ต้องคาดคั้นเอาความกันอยู่นานทีเดียว กว่าเพื่อนคนนี้จะสารภาพออกมาว่าชอบเวนิกา

ก็แค่นี้’

นายไม่ว่าอะไรเหรอ’

คฑาวุธตอนวัยรุ่นหัวเราะ ‘ถ้าเป็นคนอื่นฉันต่อยไปแล้ว แต่นี่เป็นนาย เพื่อนที่ฉันรักที่สุด ฉันโอเค’

แต่ถึงกระนั้นสาธิตก็ยังไม่กล้าเปิดเผยความในใจกับเวนิกาอยู่ดี เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่คู่ควรกับน้องสาวของเขาที่มีฐานะสูงกว่า

ครอบครัวของสาธิตแม้จะมีบ้านติดกันกับคฤหาสน์ของคฑาวุธ แต่ก็เล็กกว่าหลายเท่า พ่อกับแม่ก็เป็นเพียงครูโรงเรียนเล็กๆ แถวนั้น ไม่ได้มีฐานะอะไร

แม้คฑาวุธจะบอกว่าไม่ห่วงเรื่องนั้น เพราะพ่อกับแม่ของเขามีเหตุผลพอ แต่สาธิตก็ยังไม่ยอมเดินหน้าจีบเวนิกาอยู่ดี เพราะตั้งใจไว้ว่าจะทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะๆ เปิดบริษัทกฎหมายให้พอมีหลักมีฐานที่มั่นคงเสียก่อน จึงจะค่อยคิดเรื่องความรัก

แต่ความหวังของทนายหนุ่มก็มีอันต้องพังครืนลงในวันที่ไปร่วมงานเปิดห้องเสื้อของเวนิกาที่เนเธอร์แลนด์ และได้เห็นแฟนหนุ่มของเธอที่นั่น

ความรักหวานชื่นของคนทั้งคู่ทำเอาสาธิตซึมเศร้าไปหลายวัน แต่ก็ดูเหมือนความรักที่มีต่อเวนิกาจะไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ทนายหนุ่มยังคงครองตัวเป็นโสด ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนสักคน แม้ว่าในบริษัทจะมีพนักงานสวยๆ อยู่มากมายที่พร้อมจะทอดกายให้เขา

ตอนนี้มีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัทแล้ว หวังว่านายจะไม่คิดว่าตัวเองต่ำต้อยอีกนะ โอกาสมาถึงแล้วไอ้เพื่อนยาก” คฑาวุธเผยยิ้มด้วยความรู้สึกอิ่มใจเมื่อคิดว่าน้องรักทั้งสองคนจะครองคู่กัน 

สาธิตคงทำให้เวนิกามีความสุขได้แน่ ไม่เหมือนไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นที่บังอาจมาทำให้น้องของเขาเสียใจ

 

มนัส ลงมาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวก็ตกลงมาแข้งขาหักหรอก” 

ลลิษาตะโกนบอกลูกชายหลังจากเหลือบไปเห็นเขาปีนขึ้นไปยืนอยู่บนพนักโซฟาด้วยความซุกซน

ผมเป็นซูเปอร์แมนครับแม่ ไม่ตกหรอก” เด็กน้อยร้องบอกก่อนจะชูแขนขึ้นทำท่าจะบิน

ไม่!” ผู้เป็นแม่ร้องลั่น รีบวิ่งออกจากเคาน์เตอร์บาร์หมายจะไปดึงลูกชายลงมาก่อนที่แกจะบินจริงๆ

แต่ระหว่างที่เธอวิ่งไป หญิงสาวก็ต้องใจหายวาบเมื่อเห็นมนัสกระโดดลงจากพนักโซฟาลงมาที่เบาะนั่ง แต่ด้วยความที่ยังใส่ถุงเท้านักเรียนอยู่ ก็เลยทำให้ลื่นและตกจากโซฟาลงไปที่พื้นเสียงดังพลั่ก

มนัส!” 

ลลิษาร้องเรียกเสียงหลง รีบปราดเข้าไปหาลูกชายที่นอนร้องไห้จ้าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด

เกิดอะไรขึ้นครับพี่โรส” วายุที่เข้ามาในร้านพอดีร้องถาม

เหมือนแขนจะหัก เธอเปิดร้านให้พี่หน่อยนะ พี่จะพามนัสไปหาหมอ”

ครับพี่” วายุรับคำ

ลลิษาจึงอุ้มลูกชายขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล พอหมอตรวจแล้วว่ามนัสแขนหักจริงเธอก็แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

หมอจัดการใส่เฝือกให้มนัสเรียบร้อย และแนะนำให้รอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลสักคืน ลลิษาจึงต้องอยู่เฝ้าไข้ลูกชาย หลังจากเขาหลับไปแล้ว หญิงสาวที่ห่วงร้านยิ่งกว่าใครก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทร.ไปที่เฌอริลีนบาร์ทันที

สวัสดีครับ เฌอริลีนบาร์ครับ’ วายุเป็นคนมารับสาย

พี่เอง ที่ร้านเป็นไงบ้าง”

เรียบร้อยดีครับ มนัสล่ะ’

แขนหักน่ะ หมอใส่เฝือกให้แล้ว แต่พี่ต้องอยู่เฝ้าลูก ยังไงฝากร้านด้วยนะ”

ไม่ต้องเป็นห่วงครับพี่ ผมไม่ฮุบร้านพี่แน่’ ชายหนุ่มหัวเราะ

เจ้าเด็กบ้า” เธอหัวเราะตาม ก่อนจะวางสายไปแล้วหันไปจ้องมองลูกชายอย่างนึกเป็นห่วง

นี่ถ้าพ่อของเขารู้เข้าจะทำอย่างไรนะ

 

คฑาวุธเปิดประตูร้านเฌอริลีนบาร์เข้าไปภายใน เขาไม่ได้ไปนั่งที่มุมห้องเหมือนเคย แต่ตรงดิ่งไปนั่งที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ตรงหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มพอดี

อ้าว คุณฮีโร่นี่เอง วันนี้จะรับอะไรดีครับ” วายุเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

เรียกผมว่าวุธเถอะ เรียกฮีโร่เหมือนรถบรรทุกยังไงไม่รู้แฮะ”

ครับคุณวุธ”

ขอ โอล์ดแฟชั่น แก้วหนึ่งสิ”

ได้ครับ” วายุรีบชงเครื่องดื่มให้เขาทันที

ระหว่างนั้นคฑาวุธก็เหลียวมองไปรอบๆ ร้าน ก่อนจะหันไปถามบาร์เทนเดอร์หนุ่ม “วันนี้โรสไม่มาเหรอ”

ครับ”

วันหยุดเหรอ”

วายุหัวเราะ “พี่โรสไม่มีวันหยุดหรอกครับ มีธุระด่วนต้องไปทำน่ะครับ”

อ่อ” เขาพยักหน้า อยากจะถามเหมือนกันว่าธุระอะไร แต่ก็คิดว่าจะเป็นการละลาบละล้วงไป “นายทำที่ร้านนี้มานานแล้วเหรอ”

สองสามปีแล้วครับ ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบแน่ะ”

อืม” คฑาวุธพยักหน้า “ได้ยินมาว่ามีเศรษฐีมากว้านซื้อที่ดินแถวนี้ แต่คุณโรสไม่ยอมขายเหรอ”

ครับ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ขายครับ”

ทำไมล่ะ”

พี่เขาสัญญากับเจ้าของร้านคนเก่าไว้น่ะครับ ว่าจะรอผู้หญิงได้มาเห็นร้านนี้ก่อน”

เฌอริลีนน่ะเหรอ”

ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้า “ผมก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากหรอกนะครับ รู้แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นจำเป็นต้องจากลุงเจ้าของร้านคนเก่าไป แต่ก็สัญญาว่าจะกลับมาพบกันอีกที่นี่ ที่บาร์ที่ทั้งคู่ร่วมกันสร้างขึ้นมา”

ทำไมไม่ไปตามหาเธอล่ะ”

ผมก็ไม่รู้ละเอียดหรอกครับ” วายุวางเครื่องดื่มตรงหน้าเขา “เอาจริงๆ ผมเข้ามาไม่ทันลุงแกหรอก ได้ยินแต่ลุงชาตรีเล่าให้ฟัง”

ลุงชาตรี?”

การ์ดตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงโน่นไงครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพยักพเยิดหน้าไปที่มุมห้อง “เห็นว่าทำงานที่นี่มาตั้งแต่ร้านเปิดน่ะครับ”

คฑาวุธเพ่งมองและจดจำใบหน้าเข้มนั้นทันที นึกไม่ออกว่าเคยเห็นหรือเปล่า เพราะถ้าทำงานที่นี่มาตั้งแต่ร้านเปิด ก็น่าจะอยู่ด้วยตอนที่เขามาที่นี่ในค่ำคืนนั้น และในอีกสองสัปดาห์ต่อมา บางทีเขาอาจไม่สังเกต เพราะในคืนนั้นสายตาของเขามีแต่ลลิษาคนเดียว

นายนี่ก็ฝีมือไม่เลวนี่” เขาเอ่ยชมหลังจากดื่มโอล์ดแฟชั่นเข้าไป

ขอบคุณครับ”

ว่าแต่วันนี้คนน้อยนะ” เขาหันไปมองรอบๆ ร้าน

วายุมองตามแล้วก็ถอนใจเฮือกออกมา “ก็เพราะผู้หญิงคนนั้นแหละครับ”

อ้าว ก็จบเรื่องไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

เรื่องจบ แต่คนคงไม่ยอมจบครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนมาเปิดให้ลูกค้าดู

ยัยนั่นคงปลอมตัวไปลงรีวิวร้านในเพจแนะนำร้านอาหาร บอกว่าที่นี่สกปรก เจอเส้นขนในแก้วน้ำดื่ม แล้วพวกเพื่อนๆ ก็พากันออกมาสนับสนุน พากันบอกว่าเคยเจอเหมือนกันเป็นแถบ”

ไซเบอร์บูลลี่ชัดๆ”

คนที่อยู่ในเหตุการณ์บางคนก็เข้าไปตอบนะครับ แต่ก็โดนรุมด่ากระหน่ำจนต้องถอยกันเป็นแถว”

แย่จริงๆ” คฑาวุธส่ายหน้า แต่ในใจก็คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ร้านคงจะขาดรายได้ไปเยอะ และคงประสบปัญหาด้านการเงินในไม่ช้า โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร

นี่คุณโรสรู้หรือยัง”

น่าจะยังครับ สำหรับพี่โรส เรื่องลูกมาเป็นที่หนึ่ง นี่คงวุ่นวายอยู่ก็เลยยังไม่ทันเห็น”

ที่แท้ก็ไปธุระเรื่องลูก

คุณโรสมีครอบครัวแล้วหรือครับนี่”

ครับ มีลูกชายคนหนึ่ง น่ารักเชียว”

แล้วพ่อของเด็กล่ะครับ เป็นใคร”

เห็นว่าตายไปแล้วนะครับ”

คฑาวุธสะดุ้งโหยงเหมือนวิญญาณโดนข้าวสารเสก ส่วนวายุก็เงยหน้าขึ้นจ้องเขา

นี่อย่าบอกนะว่าคุณสนใจพี่โรส”

เขาหัวเราะ “นายแปลกใจอะไร สาวสวยมากความสามารถอย่างนั้น ถ้าผู้ชายคนไหนไม่ชอบน่ะสิแปลก”

เลิกคิดไปได้เลย อย่างคุณไม่ใช่สเปกพี่โรสหรอก” วายุเอ่ยด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป

ทำไมล่ะ ต้องแบบไหนถึงจะเป็นสเปก”

ผมไม่บอกหรอก” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าตึง คล้ายใบหน้าสาธิตตอนเห็นเวนิกามีความรักกับผู้ชายคนอื่น

นี่นายอย่าบอกนะว่าชอบคุณโรสเหมือนกัน”

ก็คุณบอกเองไม่ใช่หรือครับว่าถ้าผู้ชายคนไหนไม่ชอบสิแปลก” วายุบอก ก่อนจะปลีกตัวเดินไปรับออร์เดอร์ที่เก้าอี้ตัวริมสุดของบาร์

คฑาวุธมองตามไปอย่างพินิจ ดูเหมือนว่าเขาจะเจอคู่แข่งเข้าให้แล้ว

ไม่สิ...คู่แข่งอะไรกัน เขามาที่นี่ก็เพื่อหว่านล้อมให้ลลิษาขายที่ให้ต่างหาก ไม่ได้คิดจะมาจีบเธอเสียหน่อย

 

ลลิษายังคงนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ในโรงพยาบาล ผู้ป่วยและญาติที่อยู่ในห้องเดียวกันหลับไปหมดแล้ว แต่เธอยังคงตาค้างอยู่ เพราะไม่ใช่เวลานอนปรกติเหมือนทุกๆ วัน

ระหว่างนั้นเธอก็เปิดโทรศัพท์มือถือดูความเป็นไปในสังคมผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะพบว่าเฌอริลีนบาร์กลายเป็นกระแสด้านลบขึ้นมาในโลกโซเชียลเสียแล้ว

บ้าจริง ต้องเป็นพวกนั้นแน่ๆ” หญิงสาวพึมพำเบาๆ ก่อนจะลุกเดินไปที่ระเบียงเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นๆ ในห้องรวม

ในเพจที่รีวิวเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มชื่อดัง มีคนมาตั้งกระทู้ว่าร้านเธอสกปรกแล้วนำรูปแก้วมาร์การิตาที่มีเส้นขนหยิกหย็องลอยอยู่ลงไป ทำให้เกิดกระแสแอนตี้ร้านของเธอตามมาเป็นขบวน พอเธอเลื่อนหน้าจอลงไปเรื่อยๆ ก็พบแต่คอมเมนต์ที่กระหน่ำด่าร้านของเธออย่างสาดเสียเทเสีย มีคนมากดไลก์กดโกรธกันมากมาย แถมมีบางคนมาผสมโรงด้วยว่าเคยเจอแมลงในเครื่องดื่มและอาหารมาแล้วด้วย

ยัยนั่นร้ายจริงๆ สงสัยคงจะแค้นที่ถูกจับได้ ปัดโธ่เว้ย”

ลลิษาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พยายามเลื่อนอ่านทุกคอมเมนต์ ซึ่งแน่นอนว่าในทุกกระทู้ที่มีเหยื่อถูกรุมโจมตี ก็ย่อมมีคนหลงคล้อยตามอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่อีกด้านหนึ่งก็มีหลายคนออกมาปกป้องเธอด้วย หากผู้คนที่หวังดีเหล่านั้นก็กลับแพ้ความร้ายกาจของพวกนักเลงคีย์บอร์ด และล่าถอยไปเสียเอง

หญิงสาวอ่านคอมเมนต์ต่างๆ จนน้ำตาซึม ก่อนจะเห็นชื่อหนึ่งที่คุ้นเคยเข้ามาในคอมเมนต์ล่าสุด

WinWin : ผมรู้นะว่าคุณเป็นใคร

จากนั้นวายุก็ลงคลิปที่น่าจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายมาจากโทรทัศน์วงจรปิดต่อท้ายคอมเมนต์นั้น เป็นคลิปที่เผยให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งถูกเบลอหน้าเอาไว้ กำลังล้วงมือเข้าไปในกระโปรงแล้วดึงเส้นขนออกมาโรยในแก้วมาร์การิต้าแก้วเดียวกับที่เจ้าของกระทู้ลงรูปไว้ จากนั้นก็ใช้นิ้วคนให้มันจมลงไปแล้วกรีดร้องโวยวายขึ้น

เจ้าเด็กบ้า ร้ายจริงๆ”

ลลิษาอมยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งดีใจและโล่งใจที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากการลงคลิปของวายุ กระแสก็ตีกลับไปโจมตีเจ้าของกระทู้ จนกระทั่งไม่นานกระทู้นี้ก็ถูกลบไป

ไม่กี่นาทีต่อมา คลิปผู้หญิงดึงเส้นขนจากใต้กระโปรงมาใส่เครื่องดื่มก็กลายเป็นไวรัลดังไปทั่วโซเชียล มีการส่งต่อของผู้คนกระจายออกไปมากมายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก็น่าจะทำให้ฝ่ายนั้นเข็ดหลาบ และไม่กล้าทำอย่างนั้นอีกอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นลลิษาก็เปลี่ยนไปเข้าแอปพลิเคชันสนทนาแล้วส่งข้อความหาวายุ

Rose : ขอบใจนะ

ครู่หนึ่งบาร์เทนเดอร์หนุ่มก็ส่งสติ๊กเกอร์เป็นการ์ตูนคล้ายตัวเขากำลังยิ้มแป้นและชูสองนิ้วกลับมาให้เธอ ทำเอาหญิงสาวยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

WinWin : เออ…หมอนั่นมาอีกแล้วนะ

Rose : หมอไหน?

WinWin : คุณวุธที่ช่วยเราเมื่อวานน่ะ

WinWin : วันนี้มาถามอะไรไม่รู้เยอะแยะ

Rose : ถามอะไร?

WinWin : ก็ถามเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่ยอมขายร้าน

WinWin : แล้วก็ถามเรื่องแฟนพี่ด้วย

ลลิษาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะคิดว่าเขาจะมาสืบเรื่องของเธอ เพื่อพรากลูกชายไปจากเธอ

WinWin : ผมว่าหมอนี่แปลกๆ พี่ระวังตัวไว้หน่อยนะ

หญิงสาวส่งสติ๊กเกอร์รูปการ์ตูนที่ชูป้ายเขียนว่า O.K. ไปให้ ในใจก็นึกหวั่นว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว เขาหายไปจากชีวิตเธอตั้งเจ็ดปี แต่จู่ๆ กลับโผล่มาแบบนี้ นี่เขาต้องการอะไรกันแน่

ตื้ด...ตื้ด...ตื้ด

เสียงและการสั่นอันรุนแรงของโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือทำเอาลลิษาถึงกับสะดุ้ง แต่พอก้มลงมองหมายเลขก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก

อาจเป็นเลขาฯของคุณภาคิน” ลลิษานึกขึ้นได้ จึงรีบกดรับสายนั้นแล้วเอาโทรศัพท์แนบหู “สวัสดีค่ะ”

สวัสดีครับ คุณโรส”

เสียงนั้นทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักนิ่งไป เพราะมันไม่ใช่เสียงของคนที่เธอคิดไว้ แต่เป็นเสียงของคฑาวุธ ผู้ชายที่กลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งอย่างมีลับลมคมใน

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น