1
ระหว่างนั่งอยู่ในรถสีดำคันหรู ริศาก็เซิร์ชหาประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับจิรฉัตร นักธุรกิจพันล้านวัยยี่สิบเก้าปีทางอินเทอร์เน็ต แต่กลับไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากเขาค่อนข้างเก็บตัวและไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อใดมาก่อน จะเห็นก็แต่ข่าวกับดาราสาวและไฮโซสุดแซ่บเท่านั้น
ที่แท้พี่เขยของเธอก็เป็นเสือผู้หญิงนี่เอง
แต่ริศาไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะพี่สาวฝาแฝดของเธอก็นอกใจเขาเหมือนกัน
รสาเป็นอดีตนางแบบชื่อดัง ซึ่งจับพลัดจับผลูมาแต่งงานกับจิรฉัตร หลังจากแต่งงานหญิงสาวก็เลิกอาชีพนางแบบและใช้ชีวิตแบบคุณหญิงคุณนายไปวันๆ แทน บ้านพ่อกับแม่ที่เชียงใหม่ยังไม่เคยกลับไปเหยียบเลยด้วยซ้ำ
ทางบ้านรู้ดีว่ารสาแต่งงานกับจิรฉัตรเพราะเงิน เดิมทีหญิงสาวมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งทำงานสายมอเดลด้วยกัน และหลังจากแต่งงาน ทั้งสองก็ยังคบหากันอยู่ เงินที่รสาได้มาจากจิรฉัตรส่วนหนึ่งก็แบ่งให้เบญจามิน คนรักของเธอใช้ด้วยและทำแบบนี้มาตลอดสองปี
กระทั่งเดือนก่อน รสาประสบอุบัติเหตุรถชนหลังกลับจากปาร์ตี ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปได้ไม่มากก็ถูกอิทธิพลของจิรฉัตรปิดข่าวจนเงียบ เขาไม่เคยมาเยี่ยมภรรยาเลย แต่ส่งเงินจำนวนมากเป็นค่ารักษามาให้
รสาถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในเชียงใหม่ แต่เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา พ่อกับแม่จึงส่งตัวเธอไปรักษาที่อเมริกาอย่างเงียบๆ และปกปิดเรื่องนี้แม้กระทั่งกับจิรฉัตร ส่วนเบญจามินก็ตามไปดูแลรสาที่อเมริกาด้วย
กรรมจึงมาตกที่ริศา เจ้าของร้านดอกไม้ในเชียงใหม่ผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของรสาแทน ทั้งคู่มีใบหน้าที่เหมือนกันราวกับส่องกระจก ติดตรงที่ริศาผอมบางกว่ารสาที่ออกกำลังกายเป็นประจำไปเสียหน่อย
หญิงสาวถูกตามตัวให้กลับมาอยู่กับจิรฉัตรที่คฤหาสน์จินดามหาศักดิ์ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนของเขากับพี่สาวของเธอซึ่งกำลังจะหย่ากันในอีกไม่นาน แต่กลับประสบอุบัติเหตุเสียก่อน จิรฉัตรให้เวลารสารักษาตัวอยู่ที่บ้านตลอดหนึ่งเดือน เขาไม่เคยรู้ว่าภรรยาได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
พ่อกับแม่ของเธอบอกเขาว่ารสาได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะริศาหรือรสา ตอนนี้ก็เสี่ยงตายไม่แพ้กัน...
เพียงอึดใจเดียวรถคันหรูก็เดินทางมาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง คนขับรถในชุดสูทเนี้ยบก้าวลงจากรถก่อนเปิดประตูเบาะหลังให้ริศา หญิงสาวค้อมศีรษะนิดๆ พร้อมกับรอยยิ้มเกรงใจเป็นเชิงขอบคุณ
ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยมีคนเปิดประตูรถให้นี่แหละ
ริศาก้าวออกจากรถแล้วสูดอากาศเข้าปอดจนสุด แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เพื่อคลายความตื่นเต้นและกังวลใจ
ชุดเดรสแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนสั้นเหนือเข่ากับรองเท้าส้นสูงปรี๊ดทำเอาเธอเดินไม่ถนัด ตั้งแต่เกิดมาเธอเคยสวมมันซะที่ไหนกัน ต่างจากรสาซึ่งเป็นนางแบบสวมเดินบนเวทีเป็นประจำ
ริศาคิดว่าหากเดินแบบนี้คงได้ข้อเท้าพลิกก่อนถึงประตูคฤหาสน์แน่ เธอจึงก้มลงถอดรองเท้าออก แล้วเดินเท้าเปล่าโดยถือรองเท้าไว้แล้วเข้าไปข้างในแทน สร้างความงุนงงให้บรรดาแม่บ้านที่มาช่วยยกกระเป๋าลงจากรถเป็นอย่างมาก รวมถึงเป้ บอดีการ์ดผู้ไปรับเธอมาจากสนามบินด้วย
เดินมาได้สักพักก็ถึงห้องโถงใหญ่ หญิงสาวรู้ว่าจิรฉัตรนั้นเป็นอภิมหาเศรษฐี แต่คฤหาสน์ของเขาก็เกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้มาก ความหรูหราโอ่อ่าของที่นี่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้หญิงที่เติบโตมาในบ้านสวนได้ไม่น้อย
กลางโถงเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยโซฟาหนังตัวยาว เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ในสระน้ำสีฟ้าเต็มไปด้วยผู้หญิงรูปร่างอวบอัดสวมชุดบิกินีเล่นลูกบอลกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสาวสวยเหล่านั้นมีผู้ชายสวมกางเกงขาสั้น เปลือยท่อนบนเล่นน้ำอยู่ด้วย
ริศาชะงักฝีเท้า พร้อมจ้องมองเจ้าของฮาเร็มอย่างพินิจ ถึงได้รู้ว่าคือจิรฉัตร พี่เขยของเธอนั่นเอง
เป้และแม่บ้านเดินตามหลังมาติดๆ จึงร่วมมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความหวาดเสียว หวั่นใจว่านายหญิงขี้วีนของพวกเขาจะอาละวาดบ้านแตกเหมือนทุกครั้งหรือไม่ เป้ส่งซิกให้มือขวาของจิรฉัตรเข้าไปกระซิบกับเจ้านายว่านายหญิงมาถึงแล้ว
วิทย์พยักหน้าอย่างรู้หน้าที่ เขาวิ่งไปริมขอบสระแล้วกระซิบข้างหูจิรฉัตร ยังไม่ทันพูดจบดี มาเฟียหนุ่มก็หันมาสบตาริศาครู่หนึ่ง ก่อนจะปีนขึ้นมาจากสระแล้วสวมชุดคลุมอาบน้ำแบบไม่เรียบร้อยนัก ตรงมายังหญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นภรรยา
“ผมคิดว่าคุณจะมาถึงดึกๆ ซะอีก”
จิรฉัตรพูดเสียงเรียบ มองริศาหัวจดเท้า แล้วสะดุดตาเท้าเปลือยเปล่าของเธอ ก่อนเลื่อนสายตามองรองเท้าในมือของเจ้าตัว
“นี่คุณคงไม่คิดจะเอารองเท้าฟาดหัวผมหรอกใช่ไหม”
ริศาได้สติหลังจากยืนนิ่งอยู่นาน เธอส่ายหน้า “อ๋อ เปล่า...ฉันเจ็บเท้าเลยถอดออกน่ะ”
จิรฉัตรหรี่ตามองภรรยาด้วยความแปลกใจกับโทนเสียงที่ไม่คุ้นหู ปกติแล้วรสาเสียงทุ้มและเหวี่ยงวีนกว่านี้ แต่เขาก็ไม่เอะใจอะไรมากเพราะคิดว่าเธอคงยังไม่หายดีจากการรักษาตัว
“คุณดูซูบลงไปเยอะนะ ผอมลงเยอะเชียว”
เขากวาดสายตามองรูปร่างของเธอ หลายอย่างแปลกตาไปหลังจากไม่เจอกันนานหนึ่งเดือน ทั้งผมดัดลอนที่แปรเปลี่ยนเป็นผมเหยียดตรงมีน้ำหนักเหมือนไม่เคยผ่านการทำสี ทั้งใบหน้าเนียนใสที่ปกติต้องแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนแน่น และลักษณะเก้ๆ กังๆ ไม่สมกับฉายานางพญารันเวย์ของเธอแม้แต่น้อย
“ก็ฉันรักษาตัวนี่คะ กินอะไรไม่ได้มากนัก” ริศากลอกตาแถไปเรื่อย
เธออยากจะโวยวายว่าทำไมเขาถึงเป็นสามีที่แย่ ขนาดที่พาผู้หญิงเกือบสิบชีวิตมาจัดปาร์ตีสระน้ำในบ้าน แทนที่จะนั่งรอภรรยาที่เพิ่งกลับมาจากการรักษาตัวด้วยความเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ของรสากับจิรฉัตรก็เป็นแบบนี้มาตลอด
รักกันแค่ตอนออกงานสังคม...
“ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนดีกว่า เชิญคุณ เอ่อ...สนุกต่อไปเถอะ”
หญิงสาวปรายตามองบรรดาสาวน้อยในสระระหว่างพูด พวกเธอกำลังรอให้จิรฉัตรกลับไปเล่นด้วยดังเดิม
ชายหนุ่มเองก็เหมือนรู้ว่าภรรยากำลังข่มอารมณ์ไม่ให้โกรธอยู่ จึงพยักหน้าตอบ แล้วเดินกลับลงสระ ระหว่างนั้นเขาลอบมองร่างบางที่เดินทอดน่องไปตามบันไดวน เห็นว่าหญิงสาวหันซ้ายหันขวาสำรวจคฤหาสน์ด้วยท่าทีสนใจ ก็ได้แต่หวังว่าเธอคงจะไม่คิดเอาเครื่องเรือนในคฤหาสน์ไปขายหรอกนะ
ภายในห้องนอนชั้นสองของคฤหาสน์ ริศากำลังสำรวจทุกซอกทุกมุมด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องนอนของพี่สาวเธอสวยหรูมาก เฟอร์นิเจอร์งดงามถูกสั่งทำพิเศษ เตียงนอนกว้าง ที่นอนหนานุ่มสะอาดและเรียบตึง มีห้องแต่งตัวขนาดใหญ่อยู่ติดกับห้องน้ำ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับมีมากจนล้นออกมานอกตู้ ทุกชิ้นล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาแพง เครื่องสำอางและสกินแคร์ต่างๆ ราคาสูงจนหญิงสาววางลงที่เดิมแทบไม่ทัน
นี่สินะเหตุผลที่รสายอมแต่งงานกับจิรฉัตรทั้งที่ไม่ได้รัก
ริศาจัดการอาบน้ำสระผม แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าโดยสวมชุดคลุมอาบน้ำ นิ้วเรียวกรีดกรายเสาะหาชุดที่ดูธรรมดาที่สุด ทว่าไม่มี...
เสื้อผ้าของรสาล้วนเลิศหรู และแฟชั่นจ๋าแม้กระทั่งชุดนอน หญิงสาวพ่นลมหายใจเมื่อต้องเลือกสักชุดที่เธอจะใส่แล้วนอนสบายโดยไม่ต้องเคอะเขินมากนัก สุดท้ายก็ได้ชุดนอนวินเทจยุโรปโบราณมาตัวหนึ่ง เป็นเดรสคอเหลี่ยมกว้างแขนยาวสีขาวมีระบาย ยาวกรอมเท้า พอดีตัว โชคดีที่ความสูงของเธอและพี่สาวฝาแฝดนั้นเท่ากัน จึงใส่เสื้อผ้าร่วมกันได้สบายๆ
ริศานั่งลงบนเตียงแล้วเปิดกระเป๋าเดินทางที่นำมาด้วย โทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ที่พกมาล้วนเป็นของรสา พ่อกับแม่ของเธอกลัวว่าจะถูกจิรฉัตรจับได้จึงเตรียมแผนการอย่างแยบยลที่สุด โดยส่งตัวรสาไปรักษาตัวในนามของเธอ
ยามที่จ้องมองกระจก หญิงสาวก็ได้แต่ภาวนาขอให้พี่สาวของเธอฟื้นเร็วๆ เพื่อที่เธอจะได้พ้นจากสถานะเมียปลอมๆ นี่เสียที
เธอไม่อยากถูกจับได้ เธอกลัว...ขึ้นชื่อว่ามาเฟียก็ล้วนน่ากลัวทั้งนั้น
เสียงโทรศัพท์สั่นดึงสติของริศาให้กลับมา เมื่อมองหน้าจอก็ปรากฏชื่อแม่ของเธอ หญิงสาวกดรับสายทันที
“ฮัลโหล แม่”
“ริศา เป็นยังไงบ้างลูก”
“ก็...ไม่แย่เท่าไหร่ค่ะ แต่ริศากลัวว่าจะหลอกคนที่นี่ได้ไม่นาน”
“อดทนหน่อยนะ แค่จนกว่ารสาจะฟื้น”
“ค่ะ แต่แม่คะ...ริศาต้องทำอะไรบ้าง”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงตอบกลับมา
“ริศาต้องทำยังไงก็ได้ให้คุณจิรฉัตรล้มเลิกความคิดเรื่องหย่า”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ริศารีบวางสายกับผู้เป็นแม่ทันทีเพราะกลัวว่าจะถูกสงสัยเอา เนื่องจากคนที่เธอสวมรอยอยู่นั้นไม่มีทางโทร. คุยกับทางบ้านอย่างแน่นอน หลังจากจัดเสื้อผ้า หน้า ผม ให้เข้าที่แล้วจึงเดินไปเปิดประตู
หน้าประตูเป็นร่างสูงใหญ่ของจิรฉัตรในชุดนอนสีเรียบยืนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉย ริศาแอบคิดในใจว่าหากนี่ไม่ใช่พี่เขยเธอ เธอคงปลื้มเขาไม่น้อย เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาช่างชวนให้เคลิบเคลิ้มเหลือเกิน
“ตอนนี้คุณหายดีหรือยัง”
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ชายหนุ่มถามเข้าประเด็นทันที ริศาเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วพยักหน้าช้าๆ
“ก็เหมือนจะดีขึ้นนะคะ”
“ดี พรุ่งนี้เราจะได้คุยกันเรื่องหย่า เลื่อนมานานแล้ว”
“ฉันไม่หย่า!” ริศาเผลอตะเบ็งเสียงลั่น
จิรฉัตรเลิกคิ้วสูง สับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนแรกหญิงสาวเป็นฝ่ายขอหย่าเอง ตามรบเร้าเขาทุกวันจนในที่สุดเขาก็ยอมหย่าให้ และเขาตั้งใจว่าจะไม่ให้เงินเธอเลยแม้แต่บาทเดียว หรือว่าเธอจะรู้เรื่องแล้ว
“ทำไมถึงไม่หย่า”
เสียงเข้มแกมข่มขู่ของอีกฝ่ายทำให้ริศารู้ว่านี่ไม่ใช่คำถาม แต่เขากำลังคาดคั้นเธออยู่
ริศากลอกตานึกหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอธิบาย เวลาที่เธอต้องการง้อพ่อกับแม่เธอมักจะใช้น้ำเสียงออดอ้อนปนน่าสงสารอยู่เสมอ และเธอกำลังใช้วิธีนั้นกับจิรฉัตร
“คือว่า...ตลอดหนึ่งเดือนที่ฉันรักษาตัวอยู่ ฉันได้ทบทวนเรื่องของเราอย่างถี่ถ้วน...” ไม่พูดเปล่า หญิงสาวกอบกุมมือของชายหนุ่มไว้ข้างหนึ่ง “ฉันรู้สึกผิดในหลายๆ เรื่อง เรา...เริ่มต้นกันใหม่ดีไหมคะ”
จิรฉัตรดึงมือออกพร้อมก้าวถอยหลังด้วยความระแวง ไม่รู้ว่าภรรยากำลังคิดจะทำอะไร จะมาไม้ไหนอีก ครั้งที่แล้วก็หลอกเอาเงินเขาไปให้ชู้ ครั้งนี้ก็คงกลัวเสียผลประโยชน์อีกเช่นเคย
“ผมต้องการหย่า และไม่ต้องการฟังเรื่องหลอกลวงของคุณอีก”
คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ริศาถึงกับพูดไม่ออก นี่ตกลงว่าเขากับรสามีเรื่องบาดหมางกันมากขนาดไหนกันแน่ เหตุใดชายหนุ่มถึงใช้คำว่า ‘อีก’ กับเธอ
“ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันอยากเริ่มต้นใหม่กับคุณ”
เธอยังคงทำใจดีสู้เสือ แม้ว่าหน้าของอีกฝ่ายจะบึ้งตึงขนาดไหนก็ตาม
“เสียเวลา จะยื้อผมไว้ทำไมในเมื่อคุณอยากไปอยู่กับชู้จนตัวสั่น”
น้ำเสียงและสายตาของจิรฉัตรบ่งบอกว่าเขารังเกียจรสาอย่างชัดเจน
แต่นี่คือริศา ด้านได้อายอด!
“ฉันเลิกกับเขาแล้ว”
“หึ โกหกหน้าด้านๆ”
“ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่ได้ยุ่งกับเบญจามินเลย ฉันสาบาน”
ริศายกมือขึ้นมาชูสามนิ้วด้วยแววตาหนักแน่น เธอขอสาบานในนามของเธอเอง เพราะเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเบญจามิน ชู้รักของพี่สาวจริงๆ
จิรฉัตรไม่อยากเชื่อใจผู้หญิงตรงหน้าที่มักจะสร้างเรื่องให้เขาอยู่เสมอ แต่วันนี้มาแปลกกว่าทุกครั้ง ลูกออดลูกอ้อนดูไร้เดียงสา ไม่มีจริตจะก้านเหมือนทุกที เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ผมจะคอยดูความประพฤติของคุณไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ยอมยกเลิกการหย่าหรอกนะ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณจำไว้”
ร่างสูงหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องนอนของตนซึ่งอยู่ชั้นสาม เขาไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มดีใจของริศาที่อยู่เบื้องหลัง นึกโกรธตัวเองที่ให้โอกาสผู้หญิงคนนี้มากมายเหลือเกิน และสุดท้ายเขาก็โดนหักหลังทุกที เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะเลิกรัก เลิกผูกพันกับเธอเสียที
ความคิดเห็น |
---|