8

หมีใหญ่ใจแกร่ง

8

หมีใหญ่ใจแกร่ง

 

เกิดกลียุคอะไรขึ้นบ้างในบ้านมหรรณพ มาโนชไม่เคยรู้เลย เหตุผลข้อแรกก็เพราะพี่ชายของเขาไม่นิยมเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาน้อง เหตุผลข้อสองก็เพราะเขาวุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง การตอบรับเป็นเซ็กซ์เฟรนด์ระหว่างเขากับอมราเป็นไปด้วยดีทีเดียว ยกเว้นการที่เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรกับเรื่องนี้ แล้วมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเขาอยากให้มันไปตามขนบประเพณี ไม่ต้องคบหากันต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ได้ แค่ไปช้าๆ ไม่ต้องระแวงว่าพี่ชายของเธอซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาจะมาถลกหนังหัวเขาในภายหลัง

ขณะแต่งหน้ากาแฟเป็นรูปดอกไม้ตามคำขอของน้องศึกษาแฟนประจำร้านเขาก็มีคนโทร. เข้ามา ด้วยสมาธิของมาโนชย่อมไม่ใส่ใจกับเสียงเรียกเข้าเท่าไร ยกเว้นว่ามันเป็นเสียงเตือนแบบที่เขาตั้งเอาไว้สำหรับกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนทำอาหาร แล้วหนึ่งในนั้นดันเป็นพี่ชายของอมรา

อวสานดอกไม้สวย มาโนชไว้อาลัยให้ภาพดอกไม้กลายพันธุ์ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูหน้าจอ ตามคาดคนโทร. มาคือ อจล พี่ชายคนโตของอมรา

“ตกลงเดือนหน้าแกจะมางานแต่งฉันหรือเปล่าวะโน้ต เพื่อนคนอื่นเขาตอบรับกันมาหมดแล้วนะ” อจลผู้ชอบวางแผนล่วงหน้าให้ทุกสิ่งต้องการคำตอบจากเพื่อนสนิทของเขา เพื่อนเจ้าบ่าว และยังเป็นเพื่อนกับว่าที่เจ้าสาว ซึ่งเป็นภรรยาของเขามาเกือบสองปีแล้ว

“ไปสิ” เรื่องสำคัญในชีวิตของเพื่อนสนิท มาโนชไม่พลาดอยู่แล้ว แต่เขาก็เหมือนวัวสันหลังหวะทั่วไปที่กลัวเรื่องไหน เจอเรื่องนั้น

“แกจะมาล่วงหน้ากี่วัน อี๊ดจะมาก่อนสองวัน ถ้าแกมาได้ ช่วยรับอี๊ดมาด้วยกันที”

คำขอของอจลทำเอามาโนชตัวแข็งทื่อ เขาต้องสูดหายใจเข้าลึก หันไปคว้าแก้วกาแฟใบใหม่มาเตรียมชงแทนแก้วเดิมที่เขาแต่งหน้าเสียไปแล้ว

“ปิดร้านนานๆ ไม่ได้ว่ะ โทษที คงไปวันงานเลย ว่าจะขับรถไปตอนเช้ามืด” ที่จริงมาโนชให้ลูกจ้างดูแลร้านได้สักสามสี่วัน แต่การเดินทางไปพร้อมอมราสุ่มเสี่ยงกับการเผยความลับ ซึ่งเขาร้อนตัวกลัวจะปิดมันไม่มิด

“เหรอวะ เออ...ขอโทษเหมือนกันที่ใช้แก แต่ช่วงนี้อี๊ดดูแปลกๆ เลยอยากให้แกช่วยถามอี๊ดหน่อยว่ามีไรหรือเปล่า เห็นว่าเพิ่งเลิกกับเจม แต่ไม่ค่อยเศร้าเลย ไม่ใช่ไปคบใครอยู่นะ เสียงไรวะโน้ต”

เสียงแก้วตกแตกดังไปถึงอีกด้านของสายโทรศัพท์ได้อย่างไรมาโนชไม่ทราบ เพราะเขาหาเสียงของตัวเองไม่เจอเมื่ออจลพูดแทงใจดำเขาพอดี

“มือลื่นไปหน่อย แค่นี้ก่อนนะ ลูกค้าเยอะ”

“โทษทีว่ะ ไม่กวนแกแล้ว ว่าแต่แกจะมาคนเดียวหรือพาแฟนมาด้วย” 

คำถามของอจลทำเขาสะดุ้งเป็นรอบที่สี่ของวัน

“ฉันเลิกกับแฟนไปเป็นปีแล้ว” และมาโนชคงไม่กล้าบอกชื่อผู้หญิงคนใหม่ของเขาให้เพื่อนรู้ แม้ว่าอจลจะรู้จักเธอคนนี้เป็นอย่างดีก็ตาม

“เออใช่ว่ะ หมู่นี้ฉันเป็นไรไปก็ไม่รู้ ป้ำๆ เป๋อๆ”

“สงสัยว่าเพราะแกต้องวิ่งไล่ตามลูกๆ มั้ง เอกกับโททำแกไม่ได้นอนเลยนี่” ในที่สุดมาโนชก็ดึงบทสนทนาออกห่างจากโซนอันตรายสำเร็จด้วยการพูดถึงลูกชายฝาแฝดของอจล

“ตั้งแต่วิ่งได้นี่ปวดหัวกันทั้งบ้านเลย” ถึงอจลจะบ่น แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู “แกต้องมาเจอเอง ซนสุดๆ ว่าแต่แกรู้ได้ไงว่าเอกกับโทวิ่งได้แล้ว”

มาโนชอยากจะเอาหัวโขกเคาน์เตอร์เตรียมกาแฟสักหลายๆ ที เขาลืมไปได้อย่างไรว่าคนเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังคืออมรา หนำซ้ำยังเล่าตอนพวกเขานอนกอดกันเล่นอยู่บนเตียงด้วย ซึ่งอจลไม่ควรจะรู้ไปตลอดกาล

“อี๊ดเล่าให้ฟังน่ะ” พูดจบมาโนชก็รอให้อจลซักไซ้ แต่แค่น้องสาวไปเล่าเรื่องลูกให้เพื่อนฟัง ไม่ได้มีอะไรผิดสังเกตสักนิด

“แกเจออี๊ดด้วยเหรอ ไม่เห็นอี๊ดเล่าให้ฟังเลย” เป็นอีกครั้งที่อจลทำมาโนชสะดุ้ง และเป็นจังหวะอันตรายด้วยเพราะเขากำลังเก็บแก้วแตกบนพื้นอยู่

อจลเองก็ไม่ค่อยได้คุยกับน้องสาวบ่อยนัก ระยะหลังก็ส่งข้อความคุยกันเรื่องงานแต่งของเขาเท่านั้น แต่อมราเป็นพวกติดโซเชียล ไปไหนต้องเช็กอินหรือไม่ก็โพสต์รูปเสมอ ทว่าถามแล้วเขาก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะอย่างไรคู่นี้ก็อยู่คอนโดเดียวกัน อาจจะแค่บังเอิญเจอกันก็ได้ 

“ตกลงแกมางานแต่งฉันคนเดียวนะ ถ้าเปลี่ยนใจมาเร็วหรือจะพาใครมาด้วยก็บอกแล้วกัน จะหาที่พักไว้ให้”

คุยธุระจบอจลก็กล่าวลาดื้อๆ ไม่รู้เลยว่าแทงใจดำเพื่อนไปแล้วกี่แผล มาโนชแทบจะหมดแรงหลังวางสาย เลยไม่ได้สนใจน้องนักศึกษาสองคนที่จ้องมองเขาไม่หยุด และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกาแฟคาปูชิโนรูปดอกไม้ที่หนึ่งในสองสั่งเอาไว้ด้วย

“ตอนนี้พี่ไม่มีแฟนเหรอคะ” หลังจากแอบซุบซิบกับเพื่อนเสร็จ หนึ่งในนักศึกษาหญิงก็โพล่งคำถามนี้ออกมาดื้อๆ ทำลายกาแฟคาปูชิโนลายดอกไม้เป็นแก้วที่สองของวันนี้

“วะ...ว่าอะไรนะครับ” ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาโนชถูกถามเช่นนี้ ปัญหาก็คือเขาไม่เคยโดนถามจากผู้หญิงที่เด็กกว่าขนาดนี้มาก่อน

ปีนี้มาโนชอายุย่างสามสิบสอง เขายังไม่มีปัญหากับการมองน้องนักศึกษาหน้าตาน่ารัก แต่กับเด็กที่เห็นชัดๆ ว่าน่าจะเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ความห่างประมาณสิบสี่ปีทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นเฒ่าหัวงู มองนักศึกษาสองคนที่จ้องหน้ารอคำตอบจากเขาอยู่ มาโนชก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของมหรรณพตอนเขาบอกพี่ชายอ้อมๆ ว่า กำลังโดนหลานสาวข้างบ้านจ้องจะยัดเยียดข้อหาพรากผู้เยาว์ให้ 

นั่นก็คือต้องทำเหมือนไม่รู้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าพวกเธอต้องการอะไร

ชายหนุ่มกำลังจะตอบไปว่ามีคนกำลังดูๆ กันอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสม แล้วยังเป็นการตอบตามความเป็นจริง เพราะเขากำลังดูๆ อยู่ว่าจะขยับความสัมพันธ์แบบหลบซ่อนกับอมราเป็นแบบเปิดเผยได้หรือไม่ เขาไม่กลัวที่จะเปิดเผยความจริง แม้จะทำให้จำนวนแฟนคลับของเขาลดไปก็ตาม 

แต่อ้าปากยังไม่ทันได้เปล่งเสียง มาโนชก็รู้สึกถึงอากาศที่เย็นเฉียบกะทันหัน มองไปยังเครื่องปรับอากาศว่ามันผลิตน้ำแข็งออกมาหรือไม่ ก็เห็นว่ามีบางคนกำลังยืนอยู่ด้านหลังน้องๆ นักศึกษา และจับจ้องรอคำตอบจากปากของเขาอยู่เช่นกัน แตกต่างจากสาวน้อยนักศึกษาตรงที่ใบหน้าของอมรามีรอยยิ้มก็จริง แต่แววตาซ่อนความอำมหิตเอาไว้ ซึ่งทำให้มาโนชสังหรณ์ใจว่าถ้าตอบผิด ชีวิตเขาอาจจะเปลี่ยน หรือไม่ก็ปลิดปลิว

 

ไม่ง่ายเลยกว่ามหรรณพจะอดทนไม่ไปพบหน้าภุมรินได้ครึ่งเดือน แน่นอนว่าเขาส่งข้อความไปถามเธอว่าถึงบ้านพ่อหรือยัง ถามว่ากลางคืนอยู่คนเดียวหรือเปล่า ล็อกประตูหน้าต่างดีไหม แต่ทั้งหมดเป็นคำถามพื้นๆ ซึ่งเธอตอบกลับมาสั้นๆ ไม่มีการโทร. หา และไม่มีการแอบย่องไปพบหน้า เขาไม่ใช่คุณลุงโรคจิต เขาจะไม่ย่องไปสะกดรอยตามเด็ก นั่นมันสำหรับลุงหมีในการ์ตูนโดจินต้องห้าม 

ทำไมต้องเอาสรรพนาม ‘ลุงหมี’ มาเป็นศัพท์สแลงแทนชายวัยกลางคนร่างใหญ่นิยมเด็กหญิงด้วยนะ มหรรณพใคร่ครวญว่าจะก่อหวอดบนโลกออนไลน์ประท้วงเรื่องนี้ดีหรือไม่ เพราะมันคงดีกว่านึกถึงภุมรินแล้วสงสัยว่าเธอยังเศร้าเรื่องเขาอยู่หรือเปล่า ถ้าเธอยังเศร้า เขาคงรู้สึกผิด แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดที่อยากให้เธอคิดถึงเขาบ้าง มหรรณพไม่อยากยอมรับเลยว่าเขามันลุงหมีโรคจิต 

ชายหนุ่มละอายใจ แต่ไม่อาจหยุดยั้งให้เขาเลิกติดตามภุมรินบนโลกโซเชียลเพื่อดูว่าเธอเหงาเหมือนกันหรือเปล่าได้ ทว่าแม้เธอเพิ่งพ้นวัยรุ่น แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตกลับน้อยกว่าเขาเสียอีก ระยะหลังเขาต้องเช็กทุกชั่วโมงว่าโปรแกรมของเขาไม่ได้เอ๋อใช่ไหม เพราะเธอไม่ได้โพสต์อะไรเลย

มหรรณพใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์หาลูกค้า โฆษณาอู่ซ่อมรถของเขา แล้วเขาก็หลงใหลในการปรับปรุงรถเก่าจนต้องโพสต์มันให้ชาวโลกรู้ทุกขั้นตอน ดังนั้นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ในอินสตาแกรมของเขาคือรูปรถ ส่วนที่เหลือคละเคล้ากันไป แต่มักจะเป็นรูปที่เกี่ยวกับภุมริน ตรงกันข้ามรูปกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในอินสตาแกรมของเธอคือรูปคู่ระหว่างเธอกับเขา สี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์เป็นรูปอาหาร และอีกไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์เป็นรูปวิว ทุกรูปล้วนสดใสสมวัย แต่แล้วสีสันต่างๆ ก็โดนตัดขาดในวันที่เธอย้ายออกไป หรือไม่ก็เกิดจากจินตนาการเหงาๆ ของเขาถึงได้เห็นทุกภาพที่เธอโพสต์หม่นหมอง 

ขณะมหรรณพกำลังรู้สึกผิดถึงขีดสุด อินสตาแกรมของภุมรินก็ปรากฏภาพถ่าย

ไม่ใช่ภาพใหม่ภาพเดียว แต่เป็นภาพชุดใหม่ สิบสี่ภาพ เป็นภาพภุมรินในมุมต่างๆ ภายในสถานที่ท่องเที่ยว โดยมหรรณพไม่รู้เลยว่าเธอไปกับใคร เมื่อไร แต่แคปชันภาพบาดใจเขายิ่งนัก

ทิ้งรักเก่า ค้นพบรักใหม่

รักเก่าน่าจะเป็นเขา แต่รักใหม่เป็นใคร มหรรณพอยากรู้มาก เขาจะได้ไม่ไปฆ่าผิดคน

 

วันนี้ไม่น่าจะใช่วันดีของอมราเลย โพรเจกต์ใหม่ที่อยู่ในความรับผิดชอบต้องประสานงานกับมหาวิทยาลัย แล้วตัวแทนของอีกฝ่ายจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่จามร อดีตคนรักเก่าที่แค่อยู่ร่วมชั้นบรรยากาศเธอยังขยะแขยง ไม่นับตัวแทนนักศึกษามือที่สาม ซึ่งทำหน้าเหมือนโดนรังแกทุกครั้งที่เจอเธอ ทำเอาหญิงสาวคันมือยิกๆ อยากจะต่อสายตรงถึงอธิการบดีแล้วฟ้องว่ามีอาจารย์ชั่วแฝงตัวอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่เธอแฉแฟนเก่าไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำยังเป็นการลากนักศึกษาคนหนึ่งให้เสียประวัติด้วย 

หัวหน้าไม่อนุมัติให้เธอถอนตัวจากโพรเจกต์นี้ แล้วก็ลากผลงานคราวที่แล้วซึ่งเธอทำได้แย่ออกมาพูดด้วย ทั้งที่งานคราวนั้นเกือบจะพังเพราะเด็กเส้นที่หัวหน้ายัดเข้ามา ความอยุติธรรมทับถมลงมาบนหัวเธอ แต่อมราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่ามาหามาโนช ให้พี่หมีตัวโตอบอุ่นกอดปลอบเธอสักที

“ตอนนี้พี่ไม่มีแฟนเหรอคะ” มันจะไม่เป็นปัญหาถ้าคนถามไม่ใช่นักศึกษาหน้าใส ซึ่งกระทบแผลสดในใจอมรา

หญิงสาวอยากจะยิ้มแล้วทำทีเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำได้แค่ฝืนยิ้ม แล้วจดจ่อรอคำตอบไปพร้อมกับคนถาม ภาวนาให้เจ้าของร้านหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ ตอบไปว่า ‘มีใครบางคนแล้ว’ ซึ่งก็คือเธอ หรือไม่ก็บอกไปเลยว่า ‘ไม่ชอบผู้หญิงเพราะความจริงพี่เป็นเกย์’

“เอ่อ...คือ...” การอึกอักของมาโนชทำให้อมราคาดโทษเขาเอาไว้ในใจ ยังดีที่เขาเปิดบานพับเคาน์เตอร์ แล้วเดินตรงมาโอบบ่าเธอแบบไม่แคร์สายตาใคร โดยเฉพาะสายตาผิดหวังของน้องๆ นักศึกษาที่พบคำตอบเกินคาด ส่งผลให้คอของเธอเผลอเชิดใส่แบบไม่ได้ตั้งใจ

ถึงเธอจะใกล้สามสิบ แต่เอาชนะเหล่าชะนีน้อยเหล่านี้ได้สบาย คิดจะแย่งหมีไปจากเธอ ระวังฉายาอมราผู้ฆ่าหมีด้วยมือเปล่าเอาไว้ให้ดี

“พี่มีคนที่กำลังดูๆ กันอยู่แล้วครับ”

คำตอบของมาโนชเรียกเสียง ‘ว้า’ ด้วยความผิดหวังจากนักศึกษาสาว ขณะเดียวกันก็ทำให้บางส่วนในตัวของอมราเหมือนถูกเจาะจนแฟบ คาดว่าหัวใจที่กำลังพองโตจะถูกทำร้าย ซึ่งน่าจะมาเพราะความหวังว่าคำตอบของเขาจะเป็นอย่างอื่น

เช่น ‘พี่ไม่มีแฟน แต่นี่คือว่าที่ภรรยา’

อนิจจาอมรา เธอเป็นคนบอกมาโนชเองแท้ๆ ว่าขอหยุดความสัมพันธ์ไว้ตรงคำว่าเพื่อนบนเตียง ต่อหน้าคนอื่นขอเป็นเพียงแค่พี่น้อง แต่พอเขาไม่บอกใครว่าเธอเป็นแฟน หัวใจของหญิงแกร่งกลับไม่แกร่งเท่าเดิม เพิ่มเติมอารมณ์วุ่นวายของเด็กน้อยที่อยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ซึ่งเสียใจด้วย เพราะหมีไม่ใช่สิ่งของ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความคิดเป็นของตัวเอง

อยู่ๆ อมราก็เกิดอาการลัดวงจรทางสมอง สายตา ประสาทหูพากันชำรุดไปหมด เธอไม่ได้ยินเสียงมาโนชพูดกับเธอว่ารอแป๊บ ไม่เห็นแววตาริษยารอบกาย แล้วก็ไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วนด้วยว่าต้องการอะไร เพราะหลังจากนั้นสักพักตอนเขาดึงเธอไปหลังร้าน แล้วเอ่ยขอบคุณ สติเธอยังไม่กลับมาทำงานปกติเลย

“ดีที่อี๊ดมา พี่เลยไม่ต้องหาวิธีปฏิเสธเด็กๆ พวกนั้น”

นี่แปลว่าเธอมีประโยชน์แค่เป็นไม้กันชะนีใช่หรือไม่ อมราน้ำตาท่วมใจ แต่เธอยังฝืนยิ้มให้มาโนช แม้ใจจะโกรธจนอยากฆ่าหมีก็ตาม

 

มีความแตกต่างขนาดมหึมาระหว่างผู้หญิงอายุใกล้สามสิบที่ยังไม่รู้ใจตัวเองกับผู้หญิงอายุยี่สิบที่มีใจแน่วแน่ ขณะที่อมรายังแอบหึงอยู่ในใจ ภุมรินก็ดำเนินการตามแผนเพื่อให้ได้หัวใจของคนที่เธอรักมาครอง 

ภุมรินไม่สนหรอกว่าใครจะมองอย่างไร และไม่สนด้วยว่ามหรรณพจะยึดติดกับช่องว่างระหว่างวัยแค่ไหน เพราะเธอรู้ว่าเขารักเธอ พอๆ กับที่เธอรักเขา การรู้ตัวก่อนอาจไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบ แต่การรู้ตัวก่อนช่วยให้ทั้งสองไม่ต้องลากยาวไปจนตายจากกันไปข้างค่อยไปปรับความเข้าใจกันในนรก เพราะเธอคงสาปแช่งไม่ให้เขาไปเสวยสุขบนสวรรค์ถ้าไม่ยอมรับรักเธอ

ระหว่างมหรรณพอยู่อย่างเหงาๆ เฝ้ารอการอัปเดตโซเชียลของภุมริน เธอก็ยุ่งง่วนกับการตัดต่อภาพถ่ายที่ได้จากสหายร่วมคณะ เพิ่งจะปล่อยภาพออกไป เจ้าของภาพก็วิดีโอคอลมาทักทาย

“เฮ้ ตัวน้อยอัปรูปซะรวดเดียวเลยนะ” เขาเป็นนักศึกษาหนุ่มรูปหล่อที่สาวๆ ร่วมชั้นเรียนคงอยากจะแย่งชิง ถ้าไม่รู้ว่าเขาไม่ฝักใฝ่สตรี

“ก็ต้องเปิดตัวให้ปังสิ” ภุมรินบอกพลางแค่นยิ้ม ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร เพราะเธอหมดโควตาไปกับการฝืนยิ้มให้เพื่อนถ่ายรูปเพื่อจะนำไปใช้ตัดต่อหมดแล้ว

“สุดยอดเลย ถ้าไม่เจอเธอ ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมุ่งมั่นกับการจะได้แต่งงานกับผู้ชายคราวลุงขนาดนี้” เป็นคำชมที่ทำให้คนฟังหน้าบึ้ง

“ลุงมันก็แค่สรรพนาม” แล้วก็เป็นคำแสดงความรักในแบบของเธอ

“ว่าลุงหมีของเธอหน่อยไม่ได้เลย ว่าแต่เธอหลงรักเขามากี่ปีแล้วนะ สิบกว่าปีปะ”

“รู้จักกันมาสิบห้าปี แต่น้ำผึ้งไม่รู้หรอกว่าหลงรักลุงน้ำตอนไหน น่าจะตั้งแต่เด็กๆ น่ะแหละ”

“เธอนี่เป็นนิยามใหม่ของคำว่ารักครั้งแรกฝังใจ” สียงคนชมกลั้วหัวเราะนิดๆ 

เพื่อนสาวเริ่มเสียงแข็งใส่ “ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เด็กบางคนโตขึ้นอยากเป็นนางงามจักรวาล บางคนอยากจะเป็นนักบินอวกาศ น้ำผึ้งก็แค่อยากจะเป็นเจ้าสาวของคนคนนึง”

คนทุกคนเกิดมามีความฝัน และพื้นฐานของมันก็คืออยากจะมีความสุขในแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะสุขในการได้ตำแหน่ง สุขในการทำอาชีพ แล้วทำไมภุมรินจะอยากมีความสุขกับการเป็นเจ้าสาวของมหรรณพไม่ได้ 

“โหย เธอเลยใช้ทุกวิธีเลยเหรอ”

“มันก็ไม่ผิดตรงไหนนี่” เธอไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แค่อาจจะไร้ศีลธรรมเล็กน้อย

รักแท้จะมีเล่ห์เหลี่ยมปลอมปนเข้าไปบ้างจะเป็นไรไป เพราะยังไงรักแท้ก็ยังเป็นรักแท้อยู่ดี

ความหนักแน่นของเธอทำเอาคู่สนทนาอ้าปากค้าง แล้วก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม เพราะความมุ่งมั่นเช่นนี้คู่ควรกับการสนับสนุน 

“แล้วเมื่อไรจะเปิดตัวแฟน” พายุพัฒ หรือพัตเตอร์ ถามเพื่อนสาวด้วยความสนใจ เพราะระยะหลังเขาอดที่จะลุ้นไปกับชีวิตรักของเธอไม่ได้ 

“เร็วๆ นี้แหละ เอาให้ลุงน้ำกระวนกระวายใจสักพักก่อน” ภุมรินมั่นใจว่าตอนนี้มหรรณพน่าจะใกล้อกแตกตายแล้ว

“แล้วเขาจะเชื่อเหรอ” ที่พายุพัฒถามมาก็มีเหตุผล เพราะหนุ่มน้อยใจสาวคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความลับของภุมริน  

นักศึกษาบริหารธุรกิจสาขาวิชาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหารไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเท่านั้น แต่นับจากก้าวเท้าเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภุมรินจะอยู่ห่างจากนักศึกษาเพศตรงข้ามให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ พายุพัฒเกือบจะไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ จนวันที่ต้องรวมกลุ่มทำกิจกรรมกับเธอ แล้วพบว่าเธอไม่ค่อยปฏิบัติกับเขาเท่าเทียมกับเพื่อนสาว แต่หลังจากวันที่เธอพบว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกัน และไม่ชอบผู้หญิงที่ตามมาวอแวเพียงเพราะหน้าตาหล่อๆ ของเขา ปฏิสัมพันธ์ที่ภุมรินมอบให้แก่พายุพัฒก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าในทันใด 

ชายหนุ่มเก็บข้อสงสัยนี้เอาไว้ในใจ เพราะเคารพในความเป็นส่วนตัวของคนอื่น เหมือนกับที่อยากให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา ใครก็มีความลับได้ เขายังปิดพ่อแม่เรื่องที่แอบมีแฟนหนุ่มอยู่เลย จนวันหนึ่งที่เห็นภุมรินแทบจะกรี๊ดเพราะมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนซึ่งแอบชอบเธอเจตนาจับมือถือแขน แล้วพายุพัฒที่สวมความแมนเข้าไปขวางก็ได้รู้อดีตบางส่วนของเธอ

‘ตั้งแต่โดนลวนลามก็มีผู้ชายไม่กี่คนที่น้ำผึ้งกล้าอยู่ด้วยตามลำพัง นอกจากพ่อก็มีลุงน้ำกับอาโน้ต’

ถึงจะรู้ความลับของเธอ ทั้งคู่ก็ยังไม่ใช่เพื่อนสนิทกันเสียทีเดียว เนื่องจากพายุพัฒต้องย้ายคณะหลังจากพ่อแม่จับได้ว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชาย พ่อหวังว่าเขาย้ายไปเรียนสายอื่นแล้วจะไม่กลายเป็นสาว แม่หวังว่าเขาเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่แล้วจะหายจากโรครักร่วมเพศ ผลก็คือไม่สำเร็จ เขาไปเสเพลอยู่เมืองนอกมาหลายปี และเพิ่งกลับมาเมืองไทยเพื่อรับสายขอความช่วยเหลือจากภุมริน

“ลุงหมีคงไม่เชื่อง่ายๆ หรอก แต่ถ้าจู่โจมแบบปุบปับ เขาก็ไม่คงไม่ทันได้ตั้งตัว เดือนที่ผ่านมาน้ำผึ้งก็ไม่ได้เจอเขาเลย เขาน่าจะเชื่อว่าน้ำผึ้งแอบไปเจอใครที่เขาไม่รู้จัก”

“เช่นเราใช่ไหมล่ะ ก็จริงนะ เพราะเราเพิ่งกลับมาเจอกัน” พายุพัฒหัวเราะขำเรื่องนี้ ก่อนจะหยุดเมื่อเอะใจบางอย่าง 

“แล้วถ้าแผนการไปถึงขั้นต่อไป ลุงน้ำของน้ำผึ้งจะไม่มาตามล่าเราเหรอ” 

ข้อสงสัยของพายุพัฒไม่ได้ไร้ที่มา เพราะตอนเกิดเหตุโดนลวนลามเบาๆ จากเพื่อนนักศึกษาคราวนั้น ภุมรินก็ยืนกรานจะไม่ฟ้องอาจารย์ เพราะมันแทบจะไม่ถือเป็นการลวนลามด้วยซ้ำ และที่สำคัญเธอไม่อยากให้เรื่องไปถึงหูมหรรณพ เขายังจำที่เธอบอกเอาไว้ได้อยู่เลย

‘ถ้าลุงหมีรู้ต้องมาหักแขนหักขาหมอนี่แน่’

แค่แตะนิดต้องหน่อยยังวิ่งเข้ามาหักแขนหักขา พายุพัฒไม่อยากจะนึกถึงชะตากรรมตัวเองตอนมหรรณพเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหนุ่มที่แอบมาหลอกปล้ำภุมรินเลย

“น้ำผึ้งว่าอย่าลงรูปพัตเตอร์คงจะดีกว่า” ภุมรินนิ่งคิดไปนานจนพายุพัฒนึกว่าอินเทอร์เน็ตล่มค่อยมีคำตอบมอบให้ เห็นท่าทางเกรงๆ ของเธอแล้ว เขาก็เห็นด้วย

“หวังว่าไม่ลงรูป ลุงน้ำของเธอจะไม่ออกมาตามล่าเรานะ” 

ภุมรินปลอบเพื่อนไม่ให้กังวลใจ แม้ลึกๆ ในใจเธอจะแอบกลัวว่าลุงหมีของเธออาจค้นข้อมูลแฟนสมมุติของเธออย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ก็ได้

 

 

จะตามล่าคนที่เราไม่เคยเห็นหน้าได้อย่างไร มหรรณพที่ไม่ใช่นักสืบ ไม่ใช่แฮกเกอร์ตัวพ่อย่อมทำไม่ได้ แต่เขาหมกมุ่นอยู่กับมันจนลูกน้องในอู่เริ่มซุบซิบว่าเจ้านายมีอาการทางจิตแล้ว

“ตอนพ่อพี่น้ำโดนแม่พี่น้ำทิ้งก็อาการอย่างนี้เลย” ลูกน้องที่อยู่มาตั้งแต่วัยรุ่นสมัยรุ่นพ่อ แล้วกลับมาอีกทีตอนรุ่นลูกปรับปรุงอู่แสดงความคิดเห็น

“แล้วไงต่อพี่สม” เด็กใหม่ใคร่รู้มาก เพราะเดือนที่ผ่านมาเจ้านายหดหู่เสียจนพวกเขานึกว่ามาทำงานอยู่ในโรงเก็บศพ

“ก็ฆ่าตัวตายน่ะสิ”

แอบฟังลูกน้องถึงตรงนี้ มหรรณพก็คิดว่าควรได้เวลาที่เขาต้องกระแอมเตือนแล้ว ตามด้วยส่งสายตาคาดโทษให้สมจิตร ลูกน้องมือดีที่ปากไม่ดีเท่าไร 

“ผมว่าพี่ไปง้อแฟนหน่อยเถอะ ทะเลาะกันนานๆ ไม่ดีหรอก” สมจิตรอายุพอจะไปเปิดอู่ของตนได้แล้ว แต่นิสัยไม่รู้กาลเทศะทำให้คนชื่นชอบน้อย เลยหาลู่ทางไปไหนไม่ได้สักที ลาออกไปรอบหนึ่งแล้ว สุดท้ายก็หาลูกค้าไม่ได้ ต้องกลับมาทำงานกับมหรรณพเหมือนเดิม

“แกอยากจะเปลี่ยนชื่อจากสมจิตรเป็นสมน้ำหน้าใช่ไหม” มหรรณพดุลูกน้องเสียงเข้มกลบเกลื่อนความปั่นป่วนในใจ เขานึกว่าตนปิดบังดีแล้ว ไม่คิดว่าสมจิตรจะดูออก แบบนี้ลูกน้องจะหาว่าเขาหลอกเด็กหรือเปล่า

“โธ่! ลูกพี่ ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะหวังดีหรอกนะ พี่รินเขาอุตส่าห์กลับมาง้อ พี่น้ำก็ตัวใหญ่ อย่าทำเป็นคนขี้ใจน้อย ยอมๆ คืนดีกันเถอะ” 

สรุปก็คือเข้าใจผิดว่าเขาทะเลาะกับอดีตภรรยา มหรรณพไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเลย วันที่เกิดเรื่องลดารินแวะมาหาเขาที่อู่ สมจิตรเลยเข้าใจผิดไปไกลว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกัน เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทะเลาะกับเธอก็ไม่ได้ เพราะอาการของเขามันหงอยเหงาเพราะอกหักชัดๆ 

“พี่น้ำ มีคนมาหา” ลูกน้องวิ่งมาบอก แล้วลดเสียงลงกระซิบแซว “สาวสวยที่เราคุ้นเคยซะด้วย” 

หัวใจมหรรณพกระตุก แทบอยากจะวิ่งออกไปหาภุมริน ลืมเอะใจไปเลยว่าทำไมเธอไม่เดินไปเข้าทางหลังบ้านตามที่เขาสั่งไว้เสมอว่าหน้าอู่มีแต่ผู้ชาย อย่าเข้าไปในเวลางาน แล้วพอพบหน้าสาวสวย หัวใจหมีใหญ่ที่กร้าวแกร่ง ประกาศก้องว่าจะไม่ทำให้ความตั้งใจของตนที่จะปล่อยให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าก็พังทลาย กลายเป็นเศษหัวใจที่แตกละเอียดเพราะความผิดหวัง

“รินเจอขนมเจ้าที่พี่น้ำชอบเลยซื้อมาฝาก” ลดารินเปิดการสนทนาด้วยท่าทางที่บอกว่าเธอต้องการมาง้องอนมหรรณพ

ชายหนุ่มยิ้มทักทาย แต่อดสอดส่ายสายตามองไปด้านนอกไม่ได้ ทั้งหวังจะเห็นเงาร่างของใครบางคน ขณะเดียวกันก็กลัวว่าเธอคนนั้นจะกลับมาเจอภาพเขาอยู่กับลดาริน 

“มีอะไรเหรอคะ” ผู้หญิงเกิดมาพร้อมเซนส์ ลดารินถามพลางหันไปมองด้านหลังว่ามหรรณพกำลังมองหาอะไร ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “น้ำผึ้งอยู่บ้านหรือเปล่าวันนี้ รินอยากจะมาขอโทษ”

“ไม่มีอะไร” เขาตอบคำถามแรก แล้วจงใจละเลยคำถามหลัง มหรรณพอาจเป็นคนมองผู้อื่นในแง่ดี แต่ไม่ได้โง่ ลดารินมีเบอร์โทรศัพท์ของภุมริน เธอโทร. ไปหาเพื่อขอโทษได้ตลอดเวลา

“พี่น้ำยังโกรธรินเหรอ” ใบหน้าของลดารินเผยแววเศร้า ซึ่งทำให้มหรรณพสงสาร 

“ไม่แล้ว เรื่องมันแล้วไปแล้ว” อันที่จริงตลอดทั้งเดือน คนที่มหรรณพโกรธมีแค่ตัวเขาคนเดียว เขาลืมไปด้วยซ้ำว่าคืนนั้นลดารินก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง 

“ท่าทางงานจะยุ่ง รินไม่กวนแล้ว ว่างๆ จะมาหาใหม่นะคะ” ลดารินกล่าวจบก็ขอตัวจากไป โดยมีกลุ่มลูกน้องที่เหมือนฝูงหมาในของมหรรณพเข้ามารุมล้อมถามว่าทะเลาะกันอีกหรือไม่ ทำไมเธอถึงมาเพียงครู่เดียว

มหรรณพตอบคำถามด้วยการสั่งให้ลูกน้องสนใจแต่งานในอู่ พอมีโอกาสอยู่ตามลำพัง เขาก็ลืมทันทีว่าใครมาหา เอาแต่ทอดถอนใจ เพราะเขาอยากรู้ว่าภุมรินจะคิดบ้างไหม ว่าผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอทำร้ายจิตใจหมีใหญ่หัวใจแกร่งไปขนาดไหนบ้าง

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น