8

รักหมาของฉันแล้วค่อยรักฉันก็ได้

รักหมาของฉันแล้วค่อยรักฉันก็ได้

 

ศิคาลหยุดยิ้มไม่ได้เลยนับตั้งแต่เห็นการแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กว่าลานไพลินกด ‘หัวใจ’ ให้แก่ภาพการ์ตูนที่เขาเพิ่งโพสต์ลงในเพจ ‘หมาแสบ’   

ชายหนุ่มทำเพจนี้ขึ้นมาเพียงเพื่ออยากสานต่อความฝันในวัยเด็กที่เคยอยากเป็นนักวาดการ์ตูนก่อนจะอยากเป็นสถาปนิกเสียอีก เขาจึงลองเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของตนเองกับยิมโนออกมาเป็นลายเส้นง่ายๆ ปรากฏว่าเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าทาสหมา ศิคาลดีใจทุกครั้งที่ทราบว่าการ์ตูนของตนทำให้ผู้คนมีความสุข มันช่วยคลายเครียดและโดนใจคนรักสุนัขที่มักมาคอมเมนต์ว่าเคยผ่านประสบการณ์ต่างๆ เหมือนในการ์ตูน

ความยินดีเหล่านั้นไม่อาจเทียบเทียมความรู้สึกปลื้มปริ่ม เมื่อศิคาลได้รู้ว่าลานไพลินเป็นคนหนึ่งที่ติดตามการ์ตูนของเขามาตลอด หญิงสาวได้รับเครื่องหมายแฟนตัวยงของเพจมานานนับปีแล้ว เธอกดปุ่มแสดงอารมณ์ต่างๆ ในทุกโพสต์ นานๆ จึงเขียนคอมเมนต์สักที

เมื่อคืนศิคาลจึงยอมอดหลับอดนอนวาดภาพล่าสุดให้เธอ แน่นอนว่าสติกเกอร์ไลน์ของแสนแซ่บจะต้องตามมาในไม่ช้า เขาจะให้ลานไพลินมีส่วนร่วมในการคิดว่าอยากได้รูปอะไรเป็นพิเศษ

“ยิ้มบ้าอะไรคนเดียววะ”

ดินแดนตะปบมาบนบ่าจนศิคาลสะดุ้ง

“เชี่ย! ตกใจหมด”

“โถ...พ่อคนขวัญอ่อน พ่อนักวาดการ์ตูนคลั่งรัก อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นการ์ตูนจีบสาวของแกนะ...เมื่อคนเลี้ยงหมามีความรัก...แม่ง ขนลุกฉิบหาย!” ดินแดนลูบแขนไปมาด้วยความสยองพองขน เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าศิคาลเป็นเจ้าของเพจ ‘หมาแสบ’

“น้องลินชอบก็แล้วกันวะ” สถาปนิกหนุ่มยิ้มหน้าบานอย่างไม่อาย

“พูดเต็มปากเต็มคำเชียวนะ แกนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ ใช้หมาเป็นสื่อในการจีบสาว”

“วิถีของคนรักหมาก็อย่างนี้แหละ” ศิคาลยักไหล่

“หมั่นไส้โว้ย! เดือนที่แล้วแกยังบอกอยู่เลยว่าไม่อยากมีแฟน”

“ตอนนั้นฉันยังไม่เจอใครถูกใจนี่หว่า ขอบใจแกมากที่ช่วยชงให้ฉัน”

ศิคาลตบไหล่เพื่อนในฐานะที่ดินแดนเชียร์จนออกนอกหน้ามาตั้งแต่วันที่ไปบ้านลานไพลินด้วยกันแล้ว แม้เวลาจะผ่านมาเพียงไม่นานเลย แต่คนไม่อยากมีความรักอย่างศิคาลก็ยอมปักใจที่ลานไพลินอย่างง่ายดาย

มันอาจเริ่มต้นจากความประทับใจในแรกเจอเมื่อเขาเห็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักอุ้มเจ้าเทียนหอมอยู่ไกลๆ ต่อด้วยการที่เธอยอมยืนนิ่งๆ เฝ้าสังเกตอาการกลัวพลุของเทียนหอมร่วมกันกับเขา แม้เป็นเวลาสั้นๆ แต่เป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าอย่างไม่น่าเชื่อ เขาได้เห็นความอ่อนโยนใส่ใจที่ลานไพลินมีต่อสุนัข ความรักภักดีต่อเพื่อน และการจัดการปัญหาต่างๆ อย่างนุ่มนวลแต่เด็ดขาด

ยิ่งศิคาลได้รู้หลังจากนั้นว่าลานไพลินดูแลแสนแซ่บที่น่ารักอย่างทุ่มเทพอๆ กับที่ศิคาลเองเลี้ยงดูยิมโนราวกับลูกแท้ๆ เขาก็ยิ่งประทับใจในตัวเธอ

เมื่อได้พูดคุยกัน ศิคาลก็พบว่าความคิดเห็นของลานไพลินกับเขามีความใกล้เคียงและสอดคล้องกันอยู่มาก ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจที่ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหญิงสาวประหนึ่งได้พบเจอคนที่พูดจาภาษาเดียวกันโดยไม่ต้องแปลความให้ยุ่งยาก ยิ่งนานวันความต้องตาในแรกพบก็เปลี่ยนเป็นความต้องใจที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ 

“ตกลงว่าแกคิดจะจริงจังกับน้องลินใช่มั้ย”

“ใช่” ศิคาลพยักหน้า

“แกเลือกถูกแล้ว” ดินแดนยิ้มกว้าง “ฉันดีใจด้วย น้องลินเป็นคนน่ารักแล้วก็นิสัยดีมากๆ น้องบัวชมเธอบ่อยๆ เลยละ”

“แล้วแกกับน้องบัวล่ะเป็นยังไงบ้าง”

“เธอยอมให้ฉันนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวตอนเย็นพร้อมกับครอบครัวของเธอแล้ว แต่นอกจากนั้นก็...ยังไม่เหมือนเดิมว่ะ” ดินแดนพรูลมหายใจ

“อย่างน้อยแกก็ได้นั่งกินข้าวกับเธอนะ แล้วแก้วล่ะ แกยังติดต่ออยู่มั้ย”

“แก้วโทร. มาแล้วก็ไลน์มาด้วย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีชวนฉันไปกินข้าวด้วยแหละ แต่ฉันปฏิเสธไป แกรู้เรื่องที่แก้วเอาน้องบัวไปด่าให้เพื่อนๆ ฟังใช่มั้ย”

“รู้ และฉันก็คิดว่ามันน่าจะเป็นการกระทำของเด็กประถมมากกว่าคนที่อายุสามสิบกว่าอย่างพวกเรา”

แก้วกัลยาใส่ไคล้ให้เพื่อนบางคนในรุ่นที่ไม่ได้ไปร่วมงานในวันนั้นฟัง ว่าสงสารดินแดนที่หลงรักบัวชมพูซึ่งเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล สักแต่เลี้ยงสุนัขทว่าไม่ดูแลให้ดีจนแหกกฎเกณฑ์และไม่เคารพสถานที่ ทั้งยังฉีกหน้าดินแดนในงานเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ทำให้เขาต้องอับอาย และโรงแรมของแก้วกัลยาต้องพลอยเสียหายไปด้วย

“แกไม่ต้องสนใจหรอกดิน เพื่อนเราโตๆ กันแล้ว ไม่มีใครสนใจเรื่องไร้สาระนี่หรอก ฉันกับเพื่อนที่มาร่วมงานก็ช่วยกันแก้ความเข้าใจผิดของคนที่มาถามแล้ว พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ใครมีนิสัยยังไง มีหรือที่เพื่อนๆ จะไม่รู้”

ศิคาลละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าแก้วกัลยาเป็นคนมีน้ำใจกับเพื่อนๆ ก็จริง แต่เธอมักเจ้ากี้เจ้าการ ขี้วีน หงุดหงิดง่าย และคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเองเสมอ เธอจึงมีเพื่อนที่สนิทจริงๆ ซึ่งรับนิสัยนี้ได้อยู่น้อยมาก  

“จริงของแก” ดินแดนผงกหัว 

“ถ้าแกกังวลว่าใครจะคิดไม่ดีกับน้องบัว อีกหน่อยพอแกคืนดีกับเธอก็พาเธอไปเปิดตัวกับเพื่อนๆ ให้บ่อยๆ สิ ฉันมั่นใจว่าทุกคนจะชอบเธอแน่ๆ”

“ฉันก็ตั้งใจว่าทำอย่างนั้น เพื่อนๆ เราจะแต่งงานกันหลายคน ฉันจะพาน้องบัวไปร่วมงานด้วย...ถ้าเธอยอมคืนดีกับฉันนะ” ดินแดนยิ้มเศร้า

“อีกไม่นานหรอกดิน แกพยายามมาตั้งขนาดนี้แล้ว ฉันเชื่อว่าน้องบัวจะต้องใจอ่อนเข้าสักวัน” ศิคาลให้กำลังใจ

“ขอบใจ ฉันก็ขอให้แกโชคดีจีบน้องลินสำเร็จไวๆ ถ้าฉันแต่งงานกับน้องบัวเมื่อไหร่ แกกับน้องลินต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่กันนะโว้ย ฉันจองตัวไว้เลย” ดินแดนยักคิ้วให้อย่างทะเล้น

 

ริจะจีบลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ และต้องพา ‘หมาสื่อ’ ที่ลูกเสือเอื้อเอ็นดูมาเป็นผู้ช่วยด้วยอีกตัวหนึ่ง

ศิคาลเหลือบมองกระจกหลังของรถยนต์ เจ้ายิมโนนั่งชมวิวตรงหน้าต่างซึ่งเขาแง้มไว้ให้มันได้โต้ลมเย็นๆ อย่างที่ชอบ

“วิวสวยมั้ยยิมโน”

“บรู๊ว์” เจ้าหมาขานตอบ และชวนคุยต่ออีกยาวราวกับจะบรรยายทัศนียภาพสองข้างที่เป็นท้องทุ่งเพราะใกล้ถึงสวนเกษตรสักเต็มที

“อีกนิดเดียวจะได้เจอแม่ลินกับแสนแซ่บแล้ว ถ้ายิมโนอยากมีแม่ก็ต้องช่วยพ่อจีบ เข้าใจมั้ย”

ไอ้ลูกชายละสายตาจากหน้าต่างทันควัน มันชูคอหอนตอบอย่างกระตือรือร้นและปีนป่ายออกมาจากเบาะที่นั่งเพื่อยื่นหน้ามาเลียแก้มชายหนุ่ม ศิคาลลูบหัวมันเร็วๆ กล่าวชมมันไปด้วย เขาชี้ชวนให้ยิมโนดูสิ่งต่างๆ สองข้างทาง เจ้าฮัสกีขานตอบทุกคำพูด

“ถึงแล้ว!” ศิคาลบอกเมื่อเห็นป้ายชื่อสวน

“บรู๊ว์ๆ” ยิมโนส่ายหางฟูๆ ไปมาอย่างตื่นเต้น หูตั้งแหน็ว จ้องมองปากทางเข้าสวนผ่านกระจกหน้ารถด้วยความสนใจ

“รถใครวะเนี่ย”

ศิคาลขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์คันหนึ่งแล่นสวนทางมา คนขับเป็นผู้ชายสวมแว่นตากันแดดแต่มองไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

“โฮ่งๆ” ยิมโนร้องบอก

มันคงเห็นเหมือนกันว่าในรถมีสุนัขไซบีเรียนฮัสกีตัวหนึ่งโผล่ศีรษะออกมาจากหน้าต่าง 

สัญญาณอันตรายดังขึ้นในหัวของศิคาล...คู่แข่งของเขาหรือเปล่า คนที่ใช้หมาเป็นสื่อในการจีบสาวเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ไอ้หมอนี่ลงทุนขับรถพอร์เชอราคาแพงระยับบุกตะลุยสวนอย่างไม่หวงแหนรถ!

ซูเปอร์คาร์คันดังกล่าวแล่นฉิวไปไกลลิบแล้ว ใจของศิคาลก็โลดแล่นไปถึงบ้านของหญิงสาวที่ตนหมายปอง ไม่ได้สนใจรถบรรทุกสี่ล้อซึ่งด้านหลังขนต้นไม้ที่มีวัสดุห่อหุ้มป้องกันอย่างดีสวนทางออกไปอีกคัน ชายหนุ่มเร่งรุดไปยังจุดหมายแล้วจอดลงหน้าบ้านของลานไพลิน

หญิงสาวยืนอยู่กับบิดาและคนงานกลุ่มหนึ่งซึ่งคงเพิ่งช่วยกันขนต้นไม้ขึ้นรถบรรทุก แม้ใจของศิคาลจะร้อนรนแต่เขาก็ข่มมันไว้ เพราะเชื่อว่าตนเองมีดีและลานไพลินคงไม่ตัดสินคนเพียงเพราะมีรถหรูราคาแพง 

ชายหนุ่มยกมือไหว้โพธิ์ที่เดินมาต้อนรับด้วยท่าทางอารมณ์ดี ก่อนจะรับไหว้ลานไพลินซึ่งแต่งกายน่ารักทะมัดทะแมงเธอสวมเสื้อยืดแขนยาวสี่ส่วนสีขาวกับกางเกงทรงจ็อกเกอร์สีเทาอ่อนทับด้วยผ้ากันเปื้อนสียีนซีดๆ ที่คลุมตั้งแต่หน้าอกลงมาถึงใต้เข่าและใส่รองเท้าบูตสำหรับลุยสวน วงหน้าพริ้มเพราถูกปกปิดไปกว่าครึ่งด้วยหมวกสานปีกกว้างสำหรับกันแดด

ศิคาลอยากคิดเข้าข้างตนเองว่าเขาเห็นดวงตากลมโตเปล่งประกายสุกใสแสดงถึงความยินดีเมื่อลานไพลินได้เห็นตน ลักยิ้มสวยบุ๋มลงอย่างน่ารักตรงสองข้างแก้ม

“นั่นยิมโนใช่มั้ยคะ” หญิงสาวบุ้ยปากไปที่รถ

“ครับ” ชายหนุ่มเสยผมแก้เก้อ เมื่อตระหนักถึงความจริงว่าที่แท้ลานไพลินอยากเจอใคร 

“บรู๊ว์...!” เจ้าตัวแสบร้องทักอย่างแสนรู้ มันกระโดดลงจากรถทันทีที่ศิคาลเปิดประตูให้แล้วกระดิกหางตรงรี่เข้าไปหาลานไพลินด้วยความรวดเร็วปานจรวด

“สวัสดีจ้ะยิมโน” เธอคุกเข่าลงกับพื้น ยื่นมือออกไปรอ

“โบร๊ว์...” เจ้าฮัสกีดมมือเรียวเพียงครู่สั้นๆ แล้วเลียมือหญิงสาว เริ่มเล่นกับเธอราวกับสนิทสนมกันมานาน

“หล่อจังเลยครับยิมโน” ลานไพลินกอดฟัดหอมหัวมันฟอดๆ 

“งี้ด” ยิมโนครางรับ หงายท้องยอมศิโรราบให้หญิงสาวเกาพุงแต่โดยดี

“เกินไปแล้วนะยิมโน” ศิคาลค่อนขอดอย่างหมั่นไส้ ไม่เคยอิจฉาหมาเท่านี้มาก่อน 

“ขี้อ้อนนะเนี่ย ตัวผู้เหรอคุณคราม อายุเท่าไหร่แล้วครับ” โพธิ์ลงไปนั่งยองๆ เล่นกับยิมโนที่เลียมือชายสูงวัยทันทีอย่างรู้งาน

“ครับ ตัวผู้ อายุสองขวบหนึ่งเดือนแล้วครับ”

“นี่ถ้ามันได้เจอกับแสนแซ่บละก็...”

โพธิ์พูดยังไม่ทันจบเจ้าแสนแซ่บก็วิ่งมาพร้อมกับมารดาของลานไพลิน มันเห่าหอนประท้วงว่าใครมาแย่งเล่นกับแม่และตาของมัน 

ยิมโนพลิกตัวจากท่าหงายท้อง ลุกขึ้นมายืนเก๊กหล่อ จังหวะเดียวกับที่ลานไพลินหันไปกวักมือเรียกลูกสาว

“แสนแซ่บมารู้จักกับพี่ยิมโนเร็ว”

สุนัขสองตัวก้าวเข้าไปหากันและกันอย่างไว้เชิง ในคราแรกพวกมันผลัดกันดมกลิ่นของอีกฝ่ายโดยเฉพาะตรงข้างก้นซึ่งมีต่อมที่สุนัขใช้สื่อสารในการพบกัน เพื่อตรวจสอบกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของสุนัขแต่ละตัว หางซึ่งส่ายช้าๆ ค่อยๆ กระดิกแรงขึ้น พวกมันเริ่มต้นหยอกล้อคลอเคลียยินยอมรับไมตรีของกันและกัน

“หมาของคุณครามเหรอคะ” ทับทิมถาม

“ครับ ลูกชายผมเอง ชื่อยิมโนครับ” ศิคาลเอ่ยอย่างภูมิใจ

“ชื่อเหมือนกระบองเพชรเลย” ทับทิมตั้งข้อสังเกต

“ใช่ครับ ผมตั้งชื่อตามพันธุ์กระบองเพชร”

“คุณครามสนใจอยากได้ลูกหมาที่เป็นชื่อต้นไม้อื่นอีกบ้างมั้ยคะ ไทคอน ไจแอนต์ อัลโบ ออเรีย อะไรแบบนี้” ทับทิมยกตัวอย่างต้นไม้บางส่วนในตระกูลมอนสเตอราด้วยดวงตาเป็นประกาย

“อยากสิครับ แต่ไม่ทราบว่าคุณแม่ของยิมโนจะอนุญาตหรือเปล่า” ศิคาลหันไปถามลานไพลินอย่างอ้อนๆ 

“อะแฮ่ม! คุณจะมาจีบลูกสาวกันต่อหน้าแบบนี้เลยเหรอคุณคราม ไหนคุณว่าจะมาดูต้นไม้ของผมไม่ใช่เหรอ” โพธิ์ทำเสียงฮึ่มฮั่ม ไม่รู้ว่าลูกสาวที่โพธิ์หมายถึงคือแสนแซ่บหรือลานไพลินกันแน่

“ครับน้าโพธิ์ ตามแต่น้าโพธิ์จะกรุณาเลยครับ” สถาปนิกหนุ่มยิ้มประจบ

“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปดูต้นไม้ในสวนกันได้แล้ว!” โพธิ์สั่งพลางก้าวฉับๆ ไปยังทิศทางที่ตั้งของโรงเรือนต้นไม้

“ผมคงต้องรบกวนฝากยิมโนไว้กับน้าทับทิมและน้องลินก่อนนะครับ” ศิคาลกล่าวกับสองสาว

“ยินดีค่ะคุณคราม เดี๋ยวน้าจะดูแลหลานชายให้เอง” ทับทิมยิ้มละไม

“ขอบคุณครับ ถ้ายิมโนซนหรือทำอะไรไม่ดี น้าทับทิมกับน้องลินจัดการได้เลยนะครับ”

ศิคาลส่งสายตาหวานฉ่ำให้ลานไพลิน หญิงสาวพยักหน้าเขินๆ แม้ไม่พูดอะไร ชายหนุ่มก็เข้าใจว่าเธอจะดูแลลูกชายขนปุยของเขาอย่างดีที่สุดแน่นอน

ในความจริงแล้วศิคาลไม่เป็นห่วงยิมโนเลยสักนิด มันคุ้นเคยกับมนุษย์และคนแปลกหน้า เนื่องจากตอนกลางวันมันมักไปขลุกตัวอยู่ในออฟฟิศของเขา และเป็นสุนัขที่ผ่านการฝึกมาแล้วจึงค่อนข้างมีระเบียบ เขาหวังว่าความน่ารักขี้อ้อนของยิมโนจะช่วยมัดใจลานไพลินได้

‘รักหมาของฉันแล้วค่อยรักฉันก็ได้’ ศิคาลวาดฝันไว้เช่นนี้

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น