7
“ไมค์คะคุณคิดว่าเราควรปรับลดหนามเตยชั้นในลงมาหน่อยไหมคะ เผื่อตรงนี้จะทำให้พวกผู้ชายเจ็บน้อยลง” ธาราลุกจากโต๊ะทำงานภายในห้องแล็บ เดินถือกระดาษมาสเตอร์บอลที่ร่างด้วยดินสอไปส่งให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นพี่
หลังเลิกประชุม เธอกลับมาทำงานของตัวเองโดยปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดฟังก์ชันบางตัวและเพิ่มบางตัว
อารอน นักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์ผงะอย่างตกใจ ก่อนลุกไปยืนห่างธารา ก้มมองนาฬิกา “ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ผมขอตัวก่อนนะ”
เธออ้าปากค้าง ด้วยอารอนพูดจบก็ถอดชุดกาวน์และเดินออกจากห้องแล็บ เธอหันไปหานักวิทยาศาสตร์รุ่นพี่อีกคน
“นิค...” ทว่าพูดไม่ทันจบ ฝ่ายนั้นก็สวนทันควัน
“ผมมีนัดกับแผนกวิจัย ต้องเอางานไปส่ง ขอตัวก่อนนะ”
ธาราเลยทำหน้าเหลอหลา มองหนุ่มๆ สิบกว่าคนที่พร้อมใจกันผละหนีตาปริบๆ พวกเขาทำยังกับเธอเป็นเชื้อโรคร้าย เข้าใกล้ไม่ได้ เธอเดินไปหานักวิทยาศาสตร์รุ่นน้องที่เหลืออยู่แค่หนึ่งเดียว คว้าบ่าหมับแล้วว่า “หวังว่านายจะไม่เหมือนคนอื่นๆ”
หมอนั่นอาการหนักกว่าทุกคน สะดุ้งโหยงก่อนขยับลุก “ผะ...ผมรู้สึกปวดห้องน้ำ ขอตัวนะครับ”
“นี่ เป็นอะไรกันไปหมด” เธอมองรอบทิศที่ตอนนี้ว่างเปล่าปราศจากสิ่งมีชีวิต
ทุกคนเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอออกจากห้องประชุม จะว่าเพราะเธอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยซีอีโอก็ไม่น่าใช่ เพราะรู้กันอยู่ก็แค่ตำแหน่งหัวโขน โดยภาระหน้าที่เธอยังต้องทำงานในตำแหน่งเดิมอยู่ ธาราส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก ถอยกลับไปนั่งทำงาน ไหวไหล่
ช่าง...ไม่มีใครอยากล่มหัวจมท้ายก็ไม่เป็นไร เธอคิดของเธอคนเดียวก็ได้
ธารามองกระดาษสีขาวในมือ นึกอยากให้เป็นมนุษย์ไฮเอนด์คนนั้น เธอจะได้ฉีกให้กระจุย นึกถึงการประชุมวันนี้แล้วแค้นไม่หาย เขาจงใจฉีกหน้าเธอแถมยังให้โจทย์ยากๆ ที่เพื่อนร่วมงานคนไหนๆ ก็ไม่กล้าเข้ามาช่วย
ดี...เธอจะทำให้เขารู้จักเธอดีขึ้น ในเมื่ออยากหาเรื่องเธอก่อน เธอก็จะจัดให้อย่างสาสม
ธาราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าที่ไม่มีเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ คนไหนอยากเข้าใกล้ ก็สืบเนื่องมาจากการปล่อยข่าวของบูรัค
“บรูคคะ คุณชอบเด็กธารานั่นหรือคะ”
บูรัคเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารเมื่อจู่ๆ เอมม่าผลักประตูเข้ามาโดยไม่เคาะ เลขาฯ รีบโผล่หน้าตามมา สีหน้าขอโทษขอโพย เขาโบกมือไล่เลขาฯ แล้วหันไปทางเอมม่าซึ่งกำลังเลื่อนเก้าอี้ ทรุดตัวนั่งตรงข้ามเขา
“ไม่มีงานทำหรือไง หรือว่าที่นี่มีงานให้คุณทำน้อยเกินไป”
“บรูค!”
“กลับไปทำงาน”
เอมม่ามองบูรัคซึ่งมีสีหน้าเย็นชาอย่างอัดอั้นตันใจ แต่เมื่อเห็นเขาไม่ไยดี ยังคงก้มหน้าเซ็นแฟ้มเอกสาร เธอก็ทำอะไรไม่ได้ จำต้องยอมล่าถอยกลับออกไป
ลินดาเคาะประตูแล้วเดินเข้ามาเป็นคนถัดไป เธอทรุดตัวนั่งแทนเอมม่าที่เพิ่งลุกจากไป
“พี่ทำให้ผู้หญิงของพี่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงนะคะ เอมม่าเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป ทำหน้ายังกับอยากร้องไห้”
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงของพี่” บูรัคปฏิเสธเสียงราบเรียบ ยังคงเซ็นแฟ้มเอกสาร ลินดาผ่องถ่ายงานทั้งหมดให้เขาตั้งแต่วันนี้ อ้างว่าจะได้เรียนรู้ล่วงหน้า
“แต่พี่ก็นอนกับเธอ ดาด้าเป็นเอมม่าก็คงน้อยใจเหมือนกัน”
บูรัคเงยหน้า “นี่หรือธุระของเธอดาด้า ถ้าจะมาก่อกวนด้วยเรื่องนี้ พี่ก็ขอตัวทำงาน”
“เย็นชา เลือดเย็นชะมัด”
“ดาด้า!” เขาเรียกเสียงต่ำ
“โอเคๆ เข้าเรื่องก็ได้ ดาด้าก็สงสัยไม่ต่างจากเอมม่าหรือคนอื่นๆ ในบริษัทนั่นแหละค่ะ พี่กำลังทำอะไรอยู่”
“...”
“พี่ชอบธาราหรือคะ” ลินดาไม่ยอมแพ้ ยังคงเซ้าซี้
“...”
“พี่บรูค ดาด้ากำลังเป็นห่วงธารานะคะ อย่าทำให้น้องต้องเป็นกังวลก่อนออกเดินทางเลย”
บูรัคยอมแพ้ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองตรงไปยังน้องสาว
“เธอมีอะไรอยากพูดกันแน่”
“ดาด้าอยากรู้ว่าพี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ในห้องประชุมเมื่อเช้าก็ทีแล้ว พี่ทำให้ทุกคนสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับธารา ตอนนี้ธาราตกเป็นขี้ปากของคนทั้งบริษัท พวกเขาหาว่าพี่ไม่ปลื้มเธอถึงได้ตีตกงานของเธอ แต่เราทั้งคู่ก็รู้ดีว่าไม่ใช่ ถูกต้องไหมคะ พี่ชอบธารามากต่างหากไม่งั้นคงไม่ปล่อยข่าวออกไปว่าธาราเป็นเด็กพี่ พี่ทำให้พนักงานทั้งบริษัทปั่นป่วนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะพวกหนุ่มๆ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอแล้ว”
บูรัคเลิกคิ้ว “ก็ดีแล้วนี่” มุมปากยกขึ้น แต่สีหน้ายังคงราบเรียบ ปราศจากความรู้สึก
“พี่บรูค!”
“จะแผดเสียงทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้”
“กวนนักนะ ตอบมาดีกว่า ชอบธาราใช่ไหม”
“เราจะห่วงอะไร”
“ดาด้าไม่อยากให้พี่ล่อลวงเธอ ถ้าพี่ไม่จริงใจก็ปล่อยเธอไปเถอะค่ะ ธาราเป็นเด็กดี อย่าไปยุ่งกับเธอเลย”
“เธอไม่ได้อยากให้พี่เลิกยุ่งจริงๆ หรอก เพราะถ้าคิดแบบนั้นจริงๆ เธอก็คงไม่จับคู่เราแต่ต้น ถึงตอนนี้เธอก็ยังจับคู่เด็กคนนั้นให้พี่อยู่”
“พี่พูดเรื่องอะไร จับคู่อะไรกัน” ลินดาแสร้งทำเสียงตกใจ แววตาแตกตื่น แต่ไม่ยอมสบตา
“เรานัดให้พี่ไปเจอที่คลับในทันทีที่ลงจากเครื่อง แต่จู่ๆ ก็กลับโทร. มาบอกเลิก แล้วธาราก็โผล่มาตรงหน้าพี่ แล้วก็สดๆ ร้อนๆ เมื่อวานที่ร้าน...” บูรัคเอ่ยชื่อภัตตาคารชื่อดังที่เขาเจอธาราเมื่อวาน ก่อนกล่าวต่อ “เราจงใจให้พี่ไปร้านนั้นเพราะรู้ว่าเธอจะไปกินอาหารเช้าที่นั่น เราอ้างว่าอยากกินร้านนั้น ขอให้พี่แวะซื้อให้ ทั้งที่ร้านนั้นไม่มีอะไรพิเศษเลย สั่งแม่ครัวที่บ้านทำยังอร่อยกว่า นั่นเพราะเราจงใจอยากให้พี่เจอธาราใช่มั้ย”
ลินดาลุกยืน เธอเริ่มไม่สนุกเมื่อพี่ชายอ่านเกมขาด เขาฉลาดเกินไป
“กลับไปทำงานดีกว่า เพิ่งนึกได้ยังมีเอกสารอีกหลายเรื่องไม่ได้ถ่ายโอนให้พี่ ดาด้าไปจัดการก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว...ดาด้า” เขาเรียกก่อนที่เธอจะออกไปพ้นประตู น้ำเสียงฟังชัดว่าลังเล
“คะ? มีอะไรหรือคะ” มือที่จับคันโยกประตูชะงัก เหลียวมามอง
“เธอคิดจะชวนธาราไปงานวันเกิดแม่หรือเปล่า”
ลินดาอมยิ้ม ทำหน้าชนิดหนึ่งซึ่งอ่านได้ว่ารู้ทันพี่ชาย แต่เธอไม่พูดอะไร ยิ้มกลบเกลื่อนแล้วพูดอีกทาง
“ถ้าพี่อยากให้เธอไป ทำไมไม่ชวนเองล่ะคะ”
ลินดาออกไปแล้วหลังจากย้อนเขาด้วยประโยคนั้น บูรัคก้มมองนาฬิกาข้อมือ เขาหิวข้าวตั้งแต่ออกจากห้องประชุม ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เขายกหูโทรศัพท์สายใน กดหมายเลขโทร. หาเลขาฯ หน้าห้องของธารา
ธาราเงยหน้าเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมา ก่อนอึ้งเมื่อพบร่างสูงใหญ่ของบูรัคกำลังยืนกอดอก พิงขอบประตูด้านหนึ่งของห้องแล็บ
“มีธุระอะไร ที่นี่ไม่มีใครอยู่หรอกนะ ทุกคนออกไปกินข้าวกันหมด”
บูรัคไม่ตอบในทันที แต่สาวเท้าเข้ามาในห้องแล็บ เดินอ้อมหลังเธอ ก่อนตอบ “ฉันไม่ได้มาหาใคร มาหาเธอนั่นแหละ”
เลขาฯ ของธาราบอกว่าเธออยู่ที่นี่ เขาก็เลยตรงดิ่งมาหา บูรัคมองไปยังกระดาษกองโตที่ร่างด้วยดินสอที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสนใจ เธอวาดรูปสวย ดูก็รู้ว่าวาดด้วยมือ ไม่ได้ใช้โปรแกรม
“จะงอยที่ยื่นออกมานั่นคืออะไร เธอปรับมาสเตอร์บอลใหม่หมดเลยหรือ” ประโยคท้ายถามอย่างสนใจ พลางมองหน้าธารา สมาธิเยี่ยม ขนาดเขามาหา เธอยังคงก้มหน้าทำงาน ไม่สนใจ
ธาราตกใจ รีบโกยกองกระดาษทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะซุกในเก๊ะแล้วล็อกกุญแจ “นี่มันงานของฉัน อย่ามาละลาบละล้วงนะ”
“เป็นความลับขนาดนั้นเลยหรือ” บูรัคถามอย่างขำๆ ผู้หญิงคนนี้ตลกดี
“เรื่องของฉัน คุณมีธุระอะไร” ธาราชักสีหน้า หมุนเก้าอี้ไปเผชิญหน้าตรงๆ
“ฉันหิวข้าว ยังไม่ได้กินอะไรเลย ไปกินเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“เกี่ยวอะไรกับฉัน ไม่ได้ท้องติดกันสักหน่อย”
“ถ้าท้องติดกันก็ดีสิ เธอกินคนเดียวก็อิ่มมาถึงฉันแล้ว”
เธอชะงัก ย่นหัวคิ้ว มนุษย์ไฮเอนด์คนนี้จะมาไม้ไหนนี่ เมื่อเช้ายังทุบเธอซะน่วมอยู่เลย
“เธอกินข้าวหรือยัง” บูรัคถามไปอีกทาง
“ยัง แต่ยังไม่หิว” เธอรีบตัดบทอย่างไม่ไยดี
“งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนฉัน เธออยากกินอะไร ฉันพาไปได้ทุกที่” น้ำเสียงปะเหลาะ
“ฉันบอกว่าไม่หิวไง”
“งั้นแค่นั่งเป็นเพื่อนฉัน”
“ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ”
“ถ้าหมายถึงเรื่องเมื่อเช้า จะว่าอย่างนั้นก็ใช่ ถือเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน” บูรัคตอบหน้าตาเฉย จะบอกเธอได้อย่างไรกันนั่นเป็นวิธีเดียวที่จะพาตัวเองไปใกล้ชิดเธอและมีโอกาสพาเธอขึ้นเตียงได้ ส่วนเรื่องที่ทำให้เธอเสียหน้า เขาค่อยหาโอกาสชดใช้ให้ทีหลัง
ธาราไม่ตอบ ทำเสียงหึในลำคอ
บูรัคมองภาพนั้น แววตาอ่อนเชื่อม มือหนาแกร่งถือวิสาสะยื่นออกไปกระตุกมือบางพาออกไปจากห้องนั้น
“นี่ คุณทำอะไร” เธอร้องอย่างตกใจ จ้องมือเขาที่กำลังกุมมือ ลากหลุนๆ ออกจากห้องแล็บ
“พาไปกินมื้อเที่ยงไง”
“แต่คุณกำลังจับมือฉัน ปล่อยนะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“เห็นแล้วเป็นไง”
“นี่...”
บูรัคเหลียวมามองคนที่สูงแค่ระดับบ่า มือยังคงยึดมือบางแน่น
“ฉันจับมือแค่นี้เสียหายมากเหรอ”
เธอถลึงตามอง ไม่ตอบ
บูรัคเลยถือโอกาสนั้น จูงมือเธอตรงไปยังลิฟต์เพื่อพาออกไปยังลานจอดรถสำหรับผู้บริหาร ไม่สนใจสายตาใครๆ ที่พากันมองมาด้วยนัยน์ตาเบิกโต ทุกคนพากันเหลียวมองหลังกับภาพว่าที่ซีอีโอซินฟูลจูงมือพนักงานสาว
ใครหลายคนหยุดกึกอย่างตกใจแล้วรีบโค้งคำนับ แต่เขาก็ไม่สนใจ ไม่แม้แต่ปรายตามอง ยังคงมุ่งสู่จุดหมายด้วยจังหวะก้าวที่มั่นคง
“นี่มันอะไรกัน” เธอถามเมื่อเข้ามานั่งในรถแล้ว
บูรัคไม่ตอบ แต่เอี้ยวตัวไปรัดเข็มขัดนิรภัยให้ เพราะเธอยังนั่งนิ่ง ไม่ยอมขยับทำให้สัญญาณรถเตือนว่ามีผู้โดยสารภายในรถยังไม่ได้คาดเข็มขัด
“นี่คุณ” เธอผละถอย แต่ที่จำกัดแค่นั้น จะทำอะไรได้ กลั้นหายใจในจังหวะที่ปลายนิ้วสัมผัสโดนหน้าอกโดยไม่ตั้งใจ ดีที่เขาไม่ได้อ้อยอิ่ง รัดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ละกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเองทันที
บูรัคจับพวงมาลัย เคลื่อนรถออกจากลานจอดรถ
“เราจะไปไหนกัน”
“เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
“ไหนว่าจะให้ฉันเลือกสถานที่” เธอท้วง
“ก็เธอบอกว่ายังไม่หิว เราก็เลยจะไปที่หนึ่งก่อน”
“คุณจะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปทั้งนั้น”
“ร้องเป็นเด็กไปได้ ฉันไม่พาเธอไปเชือดหรอกน่า สบายใจเถอะ ทำไมนะ...ฉันเข้าใกล้เธอทีไรใครๆ เป็นต้องเป็นห่วงเธอทุกที แม่ฉันก็คนหนึ่งแล้ว กลัวฉันจะหลอกล่อเธอ นี่ก็ดาด้าอีกคน เธอไปทำเสน่ห์ใส่พวกเขารึไง ทุกคนถึงได้เป็นห่วงกันหมด”
“นั่นแปลว่าทุกคนรู้ว่าคุณไม่น่าไว้ใจต่างหาก”
บูรัคสะอึก หยุดต่อความยาวแค่นั้น ทุ่มสมาธิไปกับการขับรถเต็มที่ เมื่อเขาไม่พูด แม่สาวข้างกายก็ไม่พูดเหมือนกัน เธอนั่งเงียบ มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อดูวิวข้างทาง
เขาเหลือบตามองผ่านกระจกรถเงียบๆ เธอสวยและเยาว์วัย ทุกส่วนสัดที่ประกอบขึ้นเป็นเธอถูกใจเขาหมด หน้าผากลาดมนรับกับจมูกโด่งปลายรั้น ริมฝีปากได้รูปกระจับมันวาวจากลิปกลอส บูรัคไล่สายตาสำรวจยังลำคอระหงระเรื่อยยังไหปลาร้าที่บอบบางจนเห็นกระดูกโผล่ แลดูเซ็กซี่น่าซุกไซ้
บูรัคผ่อนลมหายใจ ละสายตากลับไปมองการจราจรเบื้องหน้า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงถูกใจผู้หญิงคนนี้มาก ทั้งที่เธอดูไม่แยแสเขาด้วยซ้ำ ไม่มีทีท่าอยากขึ้นเตียงด้วย แต่ยิ่งเธอต่อต้าน มันกลับยิ่งกระตุ้นเร้าสัญชาตญาณอยากเอาชนะ เขาอยากนอนกับเธอ และเขาก็ได้ตัดสินใจแล้ว
ก็เหมือนอย่างการรับช่วงซินฟูลต่อ เขาเปลี่ยนใจอย่างไม่ลังเลเลยเมื่อเรื่องนั้นมีธาราเข้ามาเกี่ยวข้อง และครั้งนี้ก็จะเป็นแบบนั้นไม่ต่างกัน
ความคิดเห็น |
---|