1

บทที่ 1


สูญเสีย

 

เดือนกันยายน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

            “สัญญา...สัญญาได้ไหม สัญญา...ว่าจะไม่ทิ้งยายหนู เธอต้องไม่ทิ้งยายหนูนะยิ้ม สัญญากับพี่...สัญญา...” เสียงหอบสั่นของคนที่นอนอยู่บนเตียงทำให้วิยะดาแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

เธอกระชับมือสั่นเกร็งที่เอื้อมมาหาไว้แน่น

            “พี่แยม...”

            “สัญญาสิยิ้ม สัญญา...เห็นแก่...คนที่กำลังจะตายแบบพี่...เมตตายายหนู อย่าทิ้งแก...อย่าทิ้งแกไป...”

            “อย่าพูดแบบนี้สิคะ ยายหนูต้องการพี่แยม ไม่ว่าจะยังไง...พี่แยมก็ต้องเข็มแข็งเข้าไว้และอยู่ต่อไป เพื่อยายหนู เพื่อคุณแม่ และเพื่อยิ้ม...” วิยะดาพยายามยิ้มแม้ว่ามันจะยากเย็นเหลือเกิน ความรู้สึกในหัวใจของเธอหลากล้นไปด้วยความเจ็บปวดและสะท้านสะเทือนจนแทบจะทานทนไม่ไหว...

            เธอไม่อาจสูญเสียใครไปได้อีกแล้ว...ไม่อาจสูญเสียใครไปได้แม้แต่คนเดียว!

            ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ทุกๆ อย่างมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่เดือนวิยะดาต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียไม่มีจบสิ้น เริ่มจากคุณปู่คุณพ่อ และพี่ชายคนโต ดังนั้นเธอจึงไม่อาจทำใจยอมรับ...กับเรื่องเหล่านี้ได้อีกแล้ว

            หากคนที่รู้ตัวดีว่าแสงไฟแห่งชีวิตกำลังอ่อนแรงและริบหรี่ลงทุกขณะส่ายหน้า น้ำตาไหลหยาดทิ้งตัวลงสู่หมอนซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นยาปฏิชีวนะ ภายในห้องสีขาวสว่างจ้า และม่านรอบเตียงที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้เพียงนิด

            “พี่รู้ตัว... คนบาปอย่างพี่...คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว...”

            “อย่าพูดแบบนั้นสิคะ...ตอนนี้พี่แยมแค่เหนื่อยเท่านั้น พัก...อีกสองสามวันพี่แยมก็จะหาย และได้ดูแลยัยหนู...ยัยหนูเพิ่งคลอด ยังเล็ก แกคงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีแม่…”

ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงหลับตาลงพร้อมกับน้ำตาที่ทิ้งตัวลงมา

ภาพบุตรสาวตัวน้อยที่หล่อนได้มีโอกาสเห็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในห้องคลอดอันแสนวุ่นวาย จากสภาวะคลอดก่อนกำหนดของตัวหล่อนเอง ทำให้เด็กที่คลอดออกมาตัวเล็กกว่ามาตรฐานและอ่อนแอเกินไป ทีมแพทย์จึงต้องนำตัวเข้าตู้อบเป็นการด่วน และจากวันนั้นหล่อนก็ไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกเลย เพราะตัวหล่อนเองก็อ่อนแอเหลือเกิน...

“แข็งใจไว้นะคะพี่แยม...พอพี่แยมกับหลานแข็งแรงดีแล้ว เราจะพายายหนูไปหาคุณแม่ด้วยกัน...ยายหนูยังไม่มีชื่อ เราไปให้คุณแม่ตั้งชื่อให้แกกันนะคะ”

น้ำตาของวาริศาไหลรินลงมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยร่องรอยของความทุกข์ตรมของมารดา ที่ไม่มองหน้าหล่อนอีกเลย...นับตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้น

            “...สัญญากับพี่...สัญญากับพี่สิยิ้ม สัญญาว่าจะไม่ทิ้งยายหนู...อย่าทิ้งยายหนูนะ ช่วยปกป้องแกแทนพี่ที...อย่าให้ใคร...ใช้แกเป็นเครื่องมือ...เหมือนกับพี่...”

            “พี่แยม...” วิยะดาเรียกพี่สาวด้วยเสียงแหบระโหย ยิ่งมือของวาริศาที่จับมือของตนแน่นขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำความหวาดกลัวในใจให้ยิ่งทวีคูณ

            “สัญญา...สัญญาสิยิ้ม...พี่ขอร้อง...ขอร้อง”

            สายตาวิงวอนราวกับเห็นว่าหล่อนเป็นฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตทำให้วิยะดาต้องพูดในสิ่งที่ตัวเองเต็มใจทำ แม้ไม่อาจยอมรับการสูญเสียครอบครัวไปอีกหนึ่งได้...

            “ส...สัญญาค่ะ ...ยิ้มสัญญา ยิ้มจะไม่มีวันทิ้งยายหนู ไม่มีวันทิ้งแกเด็ดขาด ยิ้มจะรักแก...เหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของยิ้มเอง ...ยิ้มจะรักแก เหมือนกับที่พี่แยมรัก...ยิ้มสัญญา”

            ใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงซึ่งเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่ทั้งหม่นเศร้า ห่วงหา...และโล่งอก...

            “ขอบใจ...ขอบใจนะยิ้ม...เท่านี้พี่ก็...หมดห่วงแล้ว...”

            วิยะดาปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมาอย่างเจ็บปวดโศกศัลย์ เธอกัดริมฝีปากสั่นระริกเอาไว้ไม่ให้หลุดเสียงร่ำไห้ออกมา...

ทำไม...ทำไมต้องเป็นเธอ...ที่ต้องมองเห็นและยอมรับการสูญเสียไม่จบสิ้นนี้...ทำไม...

            “ขอโทษ...ขอโทษ...ขอโทษนะยิ้ม...”

            วิยะดาไม่อาจพูดคำใดได้อีก นอกจากร้องไห้ออกมา มือบอบบางที่กอบกุมมือพี่สาวสั่นเทา เธอส่ายหน้าบอกอีกฝ่ายว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของหล่อนเพียงคนเดียว...

            ทว่า...เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบื้องปลายเตียงผู้ป่วยนั้น เรียกให้สองพี่น้องหันไปมอง

            “พี่...เจษฎ์...”

ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเต็มยศของผู้ที่หยุดอยู่ด้านนอก ระหว่างช่องว่างของผ้าม่านที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ ทำให้วิยะดาที่ตกอยู่ในอาการโศกเศร้า เรียกชื่อเขาขณะจ้องมองผ่านม่านน้ำตาด้วยความรู้สึกมากมายจนแยกไม่ออกระหว่างความสะท้านสะเทือนใจ กล่าวหาตัดพ้อต่อว่า สิ้นหวัง หรือเกลียดชัง

            วาริศาพยายามจะดึงตัวขึ้นจากเตียง...แต่ร่างกายอันไร้ซึ่งแรงของหล่อนหนักอึ้งราวกับถูกตรึงเอาไว้ ใบหน้างดงามที่ซีดเซียวและทรุดโทรมบิดเบ้กับความทรมาน และความพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อเปล่งเสียงเรียกคนอีกผู้หนึ่งที่หล่อนรอคอยอยู่...
 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น