1

บทที่ 1


เริ่มต้นใหม่

 

บ้านที่เกศรารับปากว่าจะขายให้แก่บริษัท ดิ ฌอห์น สำหรับใช้เป็นที่พำนักให้นายทุนจากเดนมาร์กตามที่ฝ่ายนั้นเล่ามา เป็นบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรใจกลางเมือง ซึ่งล้วนแต่มีเพื่อนบ้านเป็นมหาเศรษฐี และตอนนี้ก็เป็นช่วงสายของวันแล้วที่รถยนต์คันน้อยของเกศราแล่นเข้ามาที่หน้าบ้านของเธอ ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นเคยตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอ

ร่างบอบบางของเจ้าของบริษัท Even for you ก้าวลงจากรถยนต์ของเธอ หลังจากเคลื่อนรถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถเรียบร้อยแล้ว เกศราหันไปมองประตูรั้วเบื้องหลังซึ่งเธอให้คนมาเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติแล้วพยักหน้าพอใจกับการตัดสินใจของตัวเอง

โชคดีจริงๆ เปลี่ยนประตูให้เปิดสะดวกไม่ทันไรก็มีคนมาขอซื้อบ้านเลย

“คุณเกดมาพอดีเลยค่ะ เด็กๆ เพิ่งทำความสะอาดข้างบนกันเรียบร้อย”

เกศราหันไปมองร่างท้วมของแม่บ้านจากบ้านของช้องนาง เพื่อนสนิทของเธอ ที่ถูกส่งตัวมาพร้อมกับเด็กๆ ในบ้านเพื่อทำความสะอาดบ้านหลังนี้เป็นกรณีเร่งด่วน ด้วยลูกค้าของเกศราจะเข้ามาดูบ้านในช่วงบ่าย จึงต้องเร่งมือทำความสะอาด จะให้ฌอห์นหาคนมาทำให้ หรือจะให้ไปจ้างบริษัททำความสะอาดที่เธอเคยใช้บริการมานั้นเกศราก็ไม่มั่นใจ เพราะข้าวของในบ้านล้วนแต่เป็นของมีราคา

“เหลือด้านล่างอีกนิดหน่อย ข้างบนหลังคาก็ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเหมือนกันค่ะ”

“ขอบคุณมากนะคะพี่ช่อ” เกศรารีบยกมือไหว้หัวหน้าแม่บ้านของเพื่อนสนิท หากไม่ได้พวกเขาเธอต้องขายหน้าลูกค้าแน่ๆ “แล้วก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะที่ขอให้มาช่วยปุบปับอย่างนี้ ลูกค้าเกดเขาบอกว่าจะมาดูบ้านวันนี้ก็เลยฉุกละหุกนิดหนึ่ง”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณเกด พี่เข้าใจ” ช่อที่ทำงานกับครอบครัวของช้องนางหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะบอกเกศราด้วยความเอ็นดู เพราะเห็นหญิงสาวคนนี้มาตั้งแต่เป็นนักเรียนพร้อมกับช้องนาง เกศรามักเข้าๆ ออกๆ บ้านของเจ้านายเธออยู่เสมอ ใครจะคิดล่ะว่าผ่านมาได้ไม่เท่าไหร่ เด็กสาวในชุดนักศึกษาในวันนั้นจะกลายเป็นผู้บริหารที่งามทั้งรูปและทรัพย์ “จะขึ้นไปดูข้างบนก่อนไหมคะ เผื่ออยากให้พี่จัดการตรงไหนเป็นพิเศษ”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ช่อ เกดเชื่อฝีมือพี่ช่อ” เกศราไม่ห่วงเรื่องความเนี้ยบของหัวหน้าแม่บ้านจากครอบครัวผู้ดีเก่าอย่างช่อเลย ตั้งแต่รู้จักกันมากระทั่งตอนนี้ความเนี้ยบและเข้มงวดของอีกฝ่ายไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นตามอายุ “แล้วนี่ช้องนางปล่อยให้พี่ช่ออยู่นานได้เหรอคะ ไม่หวงพี่ช่อแล้วเหรอ”

“ก็หวงค่ะคุณเกด” คนโดนเจ้านายหวงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรถอนหายใจ รอให้เกศราเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน เธอจึงขยับตัวเดินตาม แม้เกศราจะไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่นี่ก็เป็นมารยาทที่เธอยึดถือมานาน คือห้ามทำตัวเทียบนายเด็ดขาด อาจจะฟังดูโบราณไปสักหน่อยสำหรับคนยุคนี้ แต่เธอก็สบายใจที่จะทำแบบนี้ “แต่บอกว่าต้องทำบ้านให้สะอาด ให้คุณเกดขายบ้านหลังนี้ให้ได้ค่ะ เห็นบ่นๆ ว่าไม่ชอบบ้านนี้เลยค่ะ”

“คุณช้องของพี่ช่อเขาเคยชอบอะไรที่ไหนเล่า” เกศราหัวเราะ เพื่อนเธอคนนี้เอาใจยากสมกับเป็นเศรษฐี นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่โดน ไม่ถูกใจไปเสียหมด “แต่คงไม่ชอบเพื่อนบ้านมากกว่าละมัง”

“อ้อ...พูดถึงเพื่อนบ้าน” แม่บ้านใหญ่ร้องเมื่อเกศราทำให้เธอหวนคิดถึงบางอย่างขึ้นมาได้ “เมื่อเช้านี้ตอนที่เข้ามา มีคนมาถามค่ะว่าทำความสะอาดบ้านนี้ ใครจะเข้ามาอยู่ หน้าตาหล่อเชียวค่ะ คุณเกดน่าจะชอบนะคะ”

คิ้วงามของเกศราเลิกสูงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนรอยยิ้มกึ่งขำกึ่งสมเพชตัวเองจะปรากฏบนหน้างาม พอเดาได้ว่าเพื่อนบ้านหล่อๆ ที่ช่อพูดถึงคนนั้นเป็นใคร

“เกดเลิกชอบเขาไปนานแล้วละค่ะพี่ช่อ”

“ทำไมอย่างนั้นล่ะคะ” ช่อตาโต ไม่อยากจะเชื่อว่าแผนการจับคู่ของเธอจะล้มไม่เป็นท่าตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นดี “คุณเกดเคยมีปัญหากับเขาหรือคะ บ้านใกล้เรือนเคียงกันทำไมไม่คุยกันดีๆ ล่ะคะ”

“เกดมีปัญหากับบ้านเขาทั้งบ้านนั่นแหละค่ะ” เกศราฟังการดุไม่จริงจังของแม่บ้านใหญ่แล้วได้แต่อมยิ้ม ยิ่งสายตาตำหนิที่มาพร้อมกับคำพูดสุดท้ายนั้นยิ่งทำให้เธออยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา

คุยกันดีๆ หรือ...หากคุยกันดีๆ ได้ชีวิตของเธอก็คงไม่มาถึงจุดนี้หรอก...

“ทำไมไปทำอย่างนั้นล่ะคะ” ช่อเอื้อมมือไปตีแขนเล็กของเพื่อนเจ้านายที่เธอเอ็นดูไม่ต่างจากหลานเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เกศรายังเรียนกับช้องนาง “ชอบมีเรื่องกับคนอื่นตอนไหนคะ อยู่กับคุณช้องเธอเยอะละสิเนี่ย”

“แต่เกดไม่งมงายเหมือนคุณช้องของพี่ช่อนะ” เกศรากระเซ้าแม่บ้านร่างท้วม โอบแขนรัดร่างของช่อแน่นๆ อยู่เกือบนาทีจึงรีบปล่อย ถอยออกมาแล้วถามคนที่คุยกับเพื่อนบ้านของเธอด้วยความอยากรู้ “แล้วพี่ช่อบอกเขาไปว่ายังไงคะ เรื่องที่ใครจะเข้ามาอยู่น่ะ”

“ก็บอกว่าคุณเกดจะขายที่นี่น่ะสิคะ” ช่อมองค้อนคนที่เธอเห็นว่าเป็นเด็กสาวไม่เคยเปลี่ยน ก่อนจะจีบปากจีบคอว่า “พี่ไม่ผิดศีลหรอกค่ะ คุณช้องเธอเล่ามาอย่างไรก็เล่าต่อไปอย่างนั้น”

“ทราบค่ะพี่ช่อ” เกศรายิ้มพราย ทั้งฉิวทั้งขันคนจากบ้านของเพื่อนที่เคร่งครัดเรื่องศีลธรรมกันเหลือเกิน อยู่ด้วยนานแล้วทำให้เธอรู้สึกเป็นคนชั่วช้าขึ้นมาแปลกๆ “เพราะว่าพี่ช่อเป็นคนของช้องมัน ต้องห้ามผิดศีล”

“คุณเกดก็พูดเกินไป” คนที่ตั้งใจจะไม่ผิดศีลด้วยตัวเองนั้นตีแขนเกศราอีกรอบ “พี่รักษาศีลไม่ใช่เพราะคุณช้องเธอเสียหน่อย ถือศีลน่ะดีนะคะคุณ เป็นศรีแก่ตัว”

เท่านั้นคนที่ถือศีลนับข้อได้ก็กลอกตาไปมา รู้ตัวว่ายิ่งอยู่ใกล้ช่อเธอก็ยิ่งเป็นคนไม่ดีเข้าไปใหญ่ ดีแล้วที่ช่อเป็นแม่บ้านของช้องนาง ไม่ใช่แม่บ้านของเธอ คิดแล้วเกศราก็ล้วงกระเป๋าถือของตัวเองเพื่อหยิบซองขาวที่หนาพอสมควรออกมาส่งให้ช่อ

“นี่ค่าเหนื่อยค่ะ จ่ายสดงดเชื่อ”

“ขอบคุณค่ะ” ช่อยกมือไหว้แล้วจึงรับซองขาวมาถือ ทำงานแบบนี้กับเกศรามาหลายต่อหลายครั้งจึงรู้ว่าเกศรานั้นไม่ยอมให้เธอหรือใครมาช่วยงานฟรีๆ แน่ แม้ว่าเธอจะรับเงินเดือนจากช้องนางอยู่แล้ว เกศราก็จะให้ค่าเหนื่อยต่างหาก สงสัยกลัวว่าเงินเก็บในธนาคารจะบูดกระมัง “อีกสักเดี๋ยวคุณช้องเธอจะเข้ามานะคะ เธอได้บอกคุณเกดหรือยัง”

“ไม่ได้บอกค่ะ” เกศราเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางส่ายศีรษะเบาๆ ถึงไม่รู้ก่อนเธอก็ไม่แปลกใจหรอกที่ช้องนางจะมา เพื่อนของเธอคนนี้เคยทำอะไรเหมือนใครเขาที่ไหน เธอที่ว่าเพี้ยนแล้วยังเพี้ยนไม่ได้ครึ่งช้องนางเลย “เดี๋ยวเกดจะโทร. บอกให้ซื้อข้าวเที่ยงมาด้วย เราจะได้ไม่ต้องทานข้าวกล่องกัน”

“ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะคุณเกด” ผู้เป็นแม่บ้านฟังแล้วก็ได้แต่ทำตาโต ส่ายหัวแรงๆ อย่างไม่เห็นด้วย “จะให้เจ้านายซื้อข้าวมาให้เราได้ยังไงกันคะ ใครเขาทำกัน”

“ก็เกดนี่ไงคะที่ทำ” ตอบพลางเดินเอากระเป๋าไปวางไว้ที่โต๊ะในห้องครัว ซึ่งมีข้าวของของบรรดาแม่บ้านวางรวมกันอยู่เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด แต่เมื่อเหลียวไปเห็นสีหน้าไม่สบายใจของช่อ เธอจึงเอ่ยปากปลอบแม่บ้านใหญ่ “พี่ช่อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ช้องมันไม่คิดเล็กคิดน้อยหรอก”

“ไม่คิดพี่ก็เกรงใจค่ะ” ช่อทำหน้านิ่ว “มาทำงานให้คุณเกดเงินพี่ก็ได้ ยังต้องให้คุณช้องเธอซื้อข้าวเที่ยงมาให้อย่างนี้ คนเขาจะว่าเอา”

“แต่เกดจ่ายเงินค่าอาหารเที่ยงเองนะคะ” เกศราชี้ เธอไม่มีทางให้ช้องนางออกเงินค่าอาหารเองแน่ “พี่ช่อไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ถือว่าเป็นการขอโทษที่เกดขอให้พี่ช่อมาช่วยงานกะทันหันก็ได้”

“แต่ว่า...”

“เดี๋ยวเกดจะซื้อสร้อยข้อมือจากร้านเจ้านายพี่ช่อเส้นหนึ่งเป็นไงคะ” เกศราเสนอทางออกที่จะทำให้ทุกคนสบายใจ “ได้เงินค่าบ้านเมื่อไหร่จะรีบไปซื้อเลยเอ้า”

“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ” ช่อพยักหน้ารับน้อยๆ ยอมจำนนต่อข้อเสนอของเกศรา เมื่อหญิงสาวเอ่ยปากว่าจะไปอุดหนุนร้านเพชรของเจ้านายสาว “สัญญานะคะ ห้ามผิดศีล”

“ไม่ผิดหรอกค่ะพี่ช่อ” เกศราหัวเราะ “สัญญาว่าเกดจะไปซื้อเพชรร้านเจ้านายพี่ช่อแน่ๆ ค่ะ” พูดแล้วเกศราก็ก้มหน้าพิมพ์ข้อความในมือถือ เพื่อจะส่งไปหาเพื่อนสนิทเรื่องที่จะให้ช้องนางซื้ออาหารเที่ยงเข้ามา ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ส่งข้อความหาเพื่อน จู่ๆ รายชื่อหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ เป็นชื่อที่เกศราไม่ได้เห็นมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่แปลกใจที่เขาโทร. เข้ามา

‘กวี’ เป็นชื่อของผู้ที่อยู่ปลายสาย แต่เกศราไม่ได้ตอบรับ หญิงสาวกดตัดสายก่อนจะส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของเธอต่อ เรียบร้อยแล้วจึงเงยหน้ามองหัวหน้าแม่บ้านที่ยืนกำกับเด็กสาวอีกสองคนให้เช็ดชุดโซฟาหนังด้วยน้ำยาพิเศษ

“ตรงซอกน่ะ อย่าลืมเชียว ประเดี๋ยวคุณช้องเธอจะมาตรวจงานเอง” ผู้ที่ทำงานอยู่กับช้องนางมานานย้ำกับเด็กใต้อาณัติของตนหลายครั้ง รู้ดีว่าเด็กๆ พวกนี้กลัวช้องนางจนหัวหด

เห็นแล้วเกศราก็อดที่จะคิดถึงคนหน้าหวานแต่นิสัยร้ายกาจผิดกับใบหน้าไม่ได้ หลายคนที่ไม่รู้จักช้องนางมักจะคิดว่าเพื่อนสนิทของเธอนั้นเป็นคนน่ารักอ่อนหวาน ผิดกับความจริง เพราะช้องนางนั้นเป็นแม่ค้าเขี้ยวลากดิน งกเงินมากจนทำเรื่องร้ายกาจกับคนอื่นมานักต่อนัก

“คุณเกดขา อีกสักเดี๋ยวรบกวนย้ายไปนั่งตรงโน้นทีนะคะ พี่จะทำความสะอาดห้องครัวแล้ว” “ได้สิคะ” เจ้าของบ้านวันสุดท้ายพยักหน้า มือก็กดโทรศัพท์ต่อสายหาลูกค้ากิตติมศักดิ์ของเธอ ที่ส่งข้อความมาถามเรื่องเส้นทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้นเกศราจึงต่อสายหาเพื่อนสนิทเมื่อช้องนางส่งข้อความมาสอบถามเรื่องเมนูอาหารของแม่บ้าน “ช้องนี่แกอยู่ไหนแล้ว”

“อยู่ร้านส้มตำ” ช้องนางตะโกนแข่งกับเสียงรถที่สัญจรไปมาเพื่อบอกเพื่อนสนิทที่อยู่ปลายสาย หงุดหงิดที่คนสวยและรวยมากอย่างเธอต้องมาต่อแถวซื้อส้มตำข้างถนนให้เพื่อนไม่รักดีอย่างเกศรา หากไม่คิดว่านี่จะทำให้เกศราตัดใจขายบ้านซวยๆ หลังนั้นละก็ อย่าคิดเลยว่าเธอจะทำอะไรอย่างนี้เพื่อเพื่อน “ร้านโปรดแกเลยนะยายเกด เนี่ยต่อแถวอยู่”

“จะบอกให้แกซื้อส้มตำมาพอดี” เกศราเอ่ยโดยไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองทำให้เพื่อนสนิทของเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะได้ใจจนน่าหมั่นไส้ “แกนี่รู้ใจฉันจริงๆ”

“อ้ะ แน่นอนสิจ๊ะ” คนรู้ใจเพื่อนดียืดอกรับคำชมไม่มีเหนียมอาย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปเหมือนที่เธอทำอยู่เป็นนิตย์ เพราะกลัวว่าเกศราจะเปลี่ยนใจเรื่องการขายบ้านในวันนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่เกศราจะอยากขายบ้านที่เกือบเป็นเรือนหอของเจ้าหล่อนเสียหน่อย “แล้วแกจะเอาอะไรอีกไหม ฉันจะได้ซื้อเข้าไปทีเดียว”

“ไม่มี แกเห็นอะไรน่าอร่อยก็ซื้อเข้ามาเลย แล้วฉันจะโอนเงินให้”

“โอเค” ช้องนางขานรับด้วยน้ำเสียงสดใสเหมือนระฆังแก้วประจำตัว “อีกไม่เกินชั่วโมงหนึ่งฉันคงจะถึงบ้านแก”

“โอเค”

“แล้วอย่าไปคุยกับบ้านข้างๆ ล่ะ” ไม่ทันที่เกศราจะวางสาย ช้องนางก็ตะโกนบอกเสียก่อน “อย่าโง่อีก รู้ไหมยายเกด”

“รู้” เกศราอมยิ้ม เพราะฟังคำนี้บ่อยจนสามารถขย้อนคำพูดนี้ออกมาได้แล้วหากเธอต้องการ “ไม่โง่หรอกน่า”

“ดี แล้วฉันจะรีบไป” เท่านั้นช้องนางก็วางสายไป ที่วางใจให้เพื่อนสนิทของเธออยู่ที่บ้านหลังนั้นในตอนนี้เพราะเธอส่งพี่เลี้ยงอย่างช่อไปแอบคุมเท่านั้นเอง หากเกศราจะไปที่บ้านหลังนั้นคนเดียว อย่าหวังเลยว่าเพื่อนที่แสนดีอย่างช้องนางคนนี้จะยอม ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าบ้านหลังข้างๆ น่ะร้ายกาจกันทั้งตระกูล

รอก่อนเถอะ เธอไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่ รับรองเลยว่าหมู่บ้านนั้นจะต้องลุกเป็นไฟ!

 

ลูกค้าของเกศรามาถึงบ้านในเวลาบ่ายคล้อยแล้ว เพราะตารางงานที่แน่นเอี้ยดของฝ่ายชาย ฌอห์นคนนี้เกศรารู้จักเขาในฐานะคนรักของอดีตเด็กฝึกงานในบริษัท Even for you ซึ่งเธอนั่งเก้าอี้ผู้บริหารอยู่ในขณะนี้ บุณณปัญญ์หรือเบบี๋ที่คนในบริษัทรู้จักดีวิ่งแซงหน้าร่างสูงของคนรักมาหาเกศราและช้องนาง เพราะสนิทสนมกับทั้งคู่ตั้งแต่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจจะคบหากับฌอห์นเสียอีก เด็กสาวจึงไม่เก้อกระดากเมื่อเจอหน้าสองเพื่อนซี้สาวสองพันปีที่ยังไม่มีแฟน

“สวัสดีค่ะพี่เกด พี่ช้อง” บุณณปัญญ์ยกมือไหว้คนที่เดินออกมารับเธอกับคนรักด้วยกิริยาอ่อนช้อย “หนูขอโทษค่ะที่มาสาย พี่ฌอห์นเขาติดประชุมน่ะค่ะ”

เหตุผลนั้นทำให้ช้องนางแบะปาก เพราะเคยอิจฉาเด็กสาวที่คว้าหัวใจเจ้าของห้างสรรพสินค้าไปครองอยู่พักหนึ่งจึงทำใจยอมรับได้ แต่พอได้มาพบกับบุณณปัญญ์พร้อมคนรักอย่างนี้ คนสวยและโสดจึงอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ เธอออกจะทั้งสวยทั้งแสนดี ทำไมสวรรค์ไม่เห็นใจกันบ้าง ส่งผู้ชายดีๆ ไปให้ลูกน้องเพื่อนของเธอแบบนี้ยุติธรรมที่ไหนกัน!

“สวัสดีครับคุณเกด คุณช้องนาง” หนุ่มลูกครึ่งที่เดินมาสมทบกับสาวๆ เป็นคนสุดท้ายทักทายเกศราอย่างสนิทสนม ส่วนรายหลังนั้นฌอห์นไม่กล้าตีสนิทเพราะเขาเคยพบช้องนางเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะเปิดร้านในห้างของเขาแทบทุกสาขาก็ตาม “อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะครับ”

“ช้องมาเป็นนายหน้าค่ะ คุณฌอห์นสู้ราคาไหวไหมล่ะคะ” ช้องนางเย้าชายหนุ่มที่อายุไล่เลี่ยกันอย่างไม่เหนียมอาย ขณะที่คนโดนเย้าหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ

“ตำแหน่งนายหน้าต้องยกให้คนนี้สิครับคุณช้องนาง” ฌอห์นวางมือลงบนกระหม่อมของคนรัก

บุณณปัญญ์ยิ้มแฉ่งสู้กับคนที่อ้างตัวเป็นนายหน้าจนช้องนางตาขวาง อิจฉาคนมีความรักจนตาร้อนผ่าว

“เขาโฆษณาทุกวัน บอกว่าพี่เกดของเขาน่ะขายบ้านด้วย”

พี่เกดของบุณณปัญญ์ได้แต่อมยิ้ม ไม่พูดอะไรกับคำกล่าวนั้น แล้วชวนลูกค้ากิตติมศักดิ์เข้ามาในบ้าน “เชิญข้างในก่อนเถอะค่ะคุณฌอห์น ข้างนอกร้อน”

“ขอบคุณครับคุณเกด” ฌอห์นเดินเข้ามาในบ้านตามคำชวนของเกศรา ปล่อยให้คนรักสนทนากับช้องนางต่อไป เชื่อว่าบุณณปัญญ์คงไม่โดนคนอายุมากกว่าเป่าหูให้กลายเป็นคนร้ายกาจไปมากกว่านี้

แล้วฌอห์นก็หันมาหาเจ้าของบ้านที่เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของเขาในตอนนี้ คิดในใจว่าหากเขาไม่ได้เกศราและบ้านหลังนี้ ฌอห์นต้องเดือดร้อนแน่ๆ

“ผมขอบคุณคุณเกดจริงๆ นะครับที่ให้ผมมาดูบ้าน ครั้งนี้ผมต้องพึ่งคุณเกดจริงๆ”

“เกดถามได้ไหมคะ ว่าทำไมถึงรีบร้อนกันขนาดนี้” ผู้มีพระคุณของฌอห์นเงยหน้าขึ้นถามร่างสูง ระหว่างเดินเคียงกันเข้ามาในตัวบ้าน หลังจากทำงานกับคนมามากหน้าหลายตาและมาจากหลายวงการ เกศราก็พอจะรู้ว่าการซื้อบ้านเพื่อเป็นที่พำนักสำหรับนายทุนต่างประเทศนั้นต้องมีการวางแผนก่อนหน้าหลายเดือน แต่ฉุกละหุกอย่างนี้เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ยิ่งเป็นบริษัทใหญ่อย่าง ดิ ฌอห์น ด้วยเกศราจึงสงสัยไม่น้อย

“นายทุนคนนี้เขาไม่เหมือนใครครับ” ฌอห์นตอบแบ่งรับแบ่งสู้ จากที่ต้องเผชิญหน้ากับนายทุนเงินหนาชาวเดนมาร์กคนนี้มาหลายครั้ง เขาอยากจะบอกว่า ไอ้คำว่าไม่เหมือนใครที่เขาเพิ่งเอ่ยไปนั้นยังน้อยกว่าความจริง “บ้านหลังที่ผมเคยดูไว้ไม่ถูกใจเขาเท่าไหร่ เรื่องมันก็เลยลงท้ายที่เบบี๋โทร. มาขอความช่วยเหลือจากคุณเกดนี่แหละครับ”

“เกดยังมีบ้านอีกหลายหลังนะคะ” คนรวยมากบอกอย่างใจกว้าง “แต่หลังนี้ใกล้เมืองสุด เฟอร์นิเจอร์ก็พร้อมสุดแล้ว แต่ถ้าคุณฌอห์นอยากดูหลังอื่น เราก็ยังพอมีเวลานะคะ”

“ผมดูมาหมดแล้วครับ” ผู้ที่ตระเวนดูบ้านมาทั้งเดือนบอกด้วยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อยเกินบรรยาย “โครงการนี้ถูกตาคุณเอซที่สุด ผมโทร. ถามเจ้าของโครงการเขาบอกว่าปิดโครงการไปเกือบหมดแล้ว เลยต้องไปดูโครงการอื่นที่มีแบบใกล้เคียงกันแทน”

“บังเอิญจังเลยนะคะ” เกศราพูดอย่างครุ่นคิดเพราะไม่เคยมีความคิดที่จะขายบ้านหลังนี้มาก่อน ใครจะคิดล่ะว่าสุดท้ายแล้วเธอจะต้องขายบ้านหลังนี้ให้คนที่เขาหมายตาเอาไว้พอดี “แต่ดีแล้วค่ะ เกดก็หาคนดูแลบ้านหลังนี้แทนเกดอยู่พอดี ถ้าเป็นคุณฌอห์นเกดก็วางใจ”

“คุณเกดคงรักบ้านหลังนี้มากนะครับ” ฌอห์นออกความเห็น หลังจากก้าวเข้ามาในบ้านแล้วกวาดตามองรอบตัว ก็สังเกตได้ว่าเครื่องเรือนต่างๆ ในบ้านหลังนี้ หากไม่ใช่ของนำเข้าจากต่างประเทศก็เป็นแบรนด์ไทยที่ได้รับการยอมรับ ส่งออกไปขายต่างประเทศแทบทั้งสิ้น ไม่ต้องขึ้นไปดูชั้นบนเขาก็บอกได้ว่ารสนิยมของเจ้าของบ้านดีมากทีเดียว “รสนิยมก็ดี ถ้าอยากมาแต่งเรือนหอให้ผม คิดเท่าไหร่บอกเลยนะครับ ผมสู้ราคาเต็มที่”

“ถ้าเป็นคุณฌอห์นเกดคงคิดราคาเต็มค่ะ” ผู้ที่มีรสนิยมในการแต่งบ้านดีหยอกกลับ เหลียวมองไปด้านหลังที่มีเพื่อนสนิทและผู้ที่น่าจะเป็นเจ้าของเรือนหอของฌอห์นยืนหน้าแดงด้วยเหตุผลที่ต่างกัน ซึ่งทั้งคู่เพิ่งเดินตามเข้ามา แล้วเกศราจึงหันกลับมาพูดคุยกับชายหนุ่มต่อ “แต่ถ้าเป็นเบบี๋นี่ทำให้ฟรี เพราะถือว่าเป็นน้อง”

“อย่างนั้นให้เบบี๋จ้างคุณเกดดีกว่าครับ” ฌอห์นยิ้มกว้าง รับมุกอดีตเจ้านายของคนรักอย่างรู้งาน “ผมคงจ้างคนที่ทั้งสวยทั้งรวยอย่างคุณเกดไม่ไหว”

“แต่ช้องคิดไม่แพงนะคะ” คนที่ทั้งสวยทั้งรวยอีกคนยื่นหน้าเข้ามาบอก ตบอกตัวเองอย่างนำเสนอแล้วยิ้มแฉ่ง “แถมติดต่อซินแสให้มาดูฮวงจุ้ยให้ฟรีๆ หรือว่าคุณฌอห์นจะติดต่อหมอดูดังๆ ช้องก็มีเบอร์นะคะ โทร. ไปตามตัวได้ทันที”

“ช้องเขาเก่งเรื่องดวงน่ะค่ะ” เกศรากระซิบบอกหนุ่มลูกครึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องดวง ก่อนจะต่อท้ายให้ว่าเพื่อนของเธอนั้นเก่งเช่นไร “ดูดวงเก่ง ดูทุกวี่ทุกวัน”

“อ้อ” ฌอห์นพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจ ถึงจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่หลายต่อหลายครั้งก็ต้องพึ่งหมอดูและซินแสมาทำพิธีก่อนเริ่มการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในหลายๆ โครงการ แต่ก็ทำเพื่อความสบายใจของทีมงานมากกว่าจะเชื่อถืออะไรจริงจัง “อย่างนั้นผมคงต้องติดต่อคุณช้องบ่อยๆ เลยละครับ เพราะต้องทำศาลหน้าห้างอีกหลายศาลเลย” เขาคุยกับหญิงสาวอย่างเป็นกันเองมากขึ้น

“โทร. มาได้เลยค่า” ช้องนางว่าเสียงแหลมปรี๊ด ก่อนจะพูดต่ออย่างคนที่หลงตัวเอง “รับรองว่าช้องจะไม่ทำให้คุณฌอห์นผิดหวังแน่นอน”

“ครับผม” ฌอห์นฟังคนที่ประกาศว่าจะไม่ทำให้เขาผิดหวังแล้วได้แต่อมยิ้ม รู้ดีว่าช้องนางนั้นขึ้นชื่อเรื่องมีศรัทธาแน่วแน่กว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะเรื่องการหาคู่ จากนั้นเขาจึงหันไปหาหญิงสาวอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ “ผมขอขึ้นไปดูข้างบนได้ไหมครับคุณเกด” และหันไปถามคนรักที่ยืนซุบซิบเรื่องการดูดวงกับช้องนาง “หนูจะขึ้นไปกับพี่ไหม”

“ไม่ค่ะ พี่ไปเลย หนูจะอยู่กับพี่ช้อง” บุณณปัญญ์ตอบโดยไม่เสียเวลาคิด เธอตระเวนดูบ้านจนเบื่อแล้ว ต่อให้บ้านของเจ้านายเก่าจะสวยมากแค่ไหน เธอก็กล้ำกลืนความเบื่อแล้วฝืนเดินดูชั้นบนไม่ไหว “โก่งราคาได้ตามสบายเลยนะคะพี่เกด รวยแล้วจะได้เลี้ยงหมูกระทะน้อง”

“ดูพูดเข้า” คนที่รับหน้าที่เลี้ยงดูเด็กสาวมาหลายเดือนทำตาขวาง “พูดอย่างนี้เดี๋ยวคุณเกดก็เข้าใจว่าพี่เลี้ยงดูหนูไม่ดีหรอก”

“แหม พี่ละก็” บุณณปัญญ์กลอกตาเมื่อแฟนหนุ่มออกอาการไม่พอใจกับการพูดเล่นของตน

“เหม็นๆ” ช้องนางตะโกนแทรก ถลามายืนขวางระหว่างฌอห์นกับบุณณปัญญ์ หวังจะขัดขวางการแสดงความรักของทั้งคู่ “เหม็นความรัก!”

เท่านั้นก็ทำให้ทุกคนหัวเราะกันครืนใหญ่ โดยเฉพาะเกศราที่หัวเราะลั่นอย่างเสียกิริยา ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยปากชวนชายหนุ่มเพียงคนเดียวในบ้านขึ้นไปดูชั้นบน

“เชิญด้านบนเถอะค่ะคุณฌอห์น อยู่นี่นานๆ เดี๋ยวโดนคนขี้อิจฉาหาเรื่อง”

“ครับคุณเกด”

ฌอห์นที่ยังยิ้มขันคนขี้อิจฉาไม่หายรีบรับคำเกศราทันที ทำให้ช้องนางที่รู้ตัวว่ากำลังโดนเพื่อนพูดกระทบนั้นมองค้อนชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในรายชื่อ ‘หนุ่มโสดในสังกัด’ ของตนเองแล้วหันมาเอาเรื่องคนรักของเขาแทน

“ทำไมไม่ไปกับแฟนล่ะ เหม็นขี้หน้า ไม่อยากอยู่ด้วย”

“แต่หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่ช้องนะคะ” บุณณปัญญ์ป้องปากกระซิบบอกช้องนางด้วยท่าทางที่มีลับลมคมใน ทำให้คนที่ชอบเรื่องสำคัญของคนอื่นหูผึ่ง ตาโตเท่าไข่ห่านทันที “พี่ช้องไม่อยากรู้หรือคะ”

“อยากสิ เรื่องอะไรล่ะ ไหนพูดมาไวๆ อย่าได้ลีลานะเบบี๋”

เกศรามองเพื่อนของเธอแล้วส่ายศีรษะเบาๆ อย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินนำฌอห์นขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อดูมาสเตอร์เบดรูม และและห้องอื่นๆ ซึ่งทำให้คนที่วางใจว่าจะได้บ้านหลังนี้มาครอบครองอยู่แล้วพอใจยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าทุกอย่างในบ้านถูกปรับและเปลี่ยนไปในทิศทางที่ทันสมัย จนมั่นใจว่านายทุนของเขาต้องพอใจบ้านหลังนี้อย่างมากแน่นอน และนั่นทำให้ในสายตาของฌอห์นนั้น เกศราเปรียบเสมือนนางฟ้าที่จุติลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อช่วยชีวิตเขาอย่างไรอย่างนั้น แม่พระมาโปรดเขาแท้ๆ

“คุณเกด ผมรักคุณเกดมากเลยครับตอนนี้”

“คะ?” สาวโสดที่เพิ่งโดนบอกรักโดยไม่มีเวลาให้ตั้งตัวทำหน้าเหลอ แน่ใจว่าคำบอกรักเมื่อครู่ไม่ได้มีความหมายในเชิงชู้สาวอย่างแน่นอน แต่ก็ยังแกล้งถามเขา “คุณฌอห์นรักเกด ไม่ใช่เบบี๋หรือคะ”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับคุณเกด ตอนนี้ผมรักเดียวใจเดียวแล้วครับ” คนที่เพิ่งบอกรักสาวไปหยกๆ รีบแก้ตัว ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปที่ห้องทำงาน

ก่อนหน้านี้เกศราทั้งออกแบบและเลือกเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างเพื่อเอาใจคนที่เธอคิดว่าเขาจะได้ใช้ห้องนี้เยอะที่สุด ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครได้ใช้ทั้งตัวเธอและบุคคลคนนั้น

“หมายถึงว่าผมรักคุณเกดเพราะคุณเกดนี่เหมือนนางฟ้านางสวรรค์เลยครับ บ้านคุณเกดหลังนี้ ผมมั่นใจว่านายทุนของผมต้องชอบ”

“เขาก็ควรจะชอบนะคะ” เกศราพึมพำ ทำให้ฌอห์นหัวเราะ คนที่เผลอตัวพูดออกไปเมื่อครู่นี้จึงรีบแก้ตัวอย่างร้อนรน “เกดหมายถึงว่า เกดเลือกแต่งบ้านโทนเท่ๆ ผู้ชายส่วนใหญ่น่าจะชอบค่ะ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้นายทุนคุณฌอห์นพูดว่าไม่ชอบนะคะ”

“ผมว่าคุณเอซต้องชอบครับ” ฌอห์นยิ่งกว่ามั่นใจเสียอีก เพราะว่าการแต่งบ้านของเกศราใกล้เคียงกับการแต่งบ้านของนายทุน หลังที่อยู่เดนมาร์กซึ่งเขาเคยไปราวกับแกะออกมาจากหนังสือเล่มเดียวกัน หรือไม่ก็ใช้คนตกแต่งคนเดียวกัน

“ชื่อเอซหรือคะ” เกศรามีความกล้าที่จะเสียมารยาทเมื่อถามถึงชื่อของนายทุน ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านนี้เป็นคนแรกตั้งแต่ตกแต่งเสร็จ “ใช่ที่หมายถึงที่หนึ่งหรือเปล่าคะ”

คนที่เคยพบเจ้าของชื่อมาแล้วโคลงหัว ความรู้เรื่องความหมายของชื่อนั้นมีน้อยเสียด้วยสิ ไม่สามารถบอกเกศราได้ว่าใช่หรือไม่ใช่

“รู้แค่สะกดด้วย เอ-ซี-อี ครับ” ฌอห์นยักไหล่ สะกดชื่อนายทุนจอมเขี้ยวของเขาให้เกศราฟัง “ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่นะครับ”

“ใช่ค่ะ” คนที่เคยศึกษาเรื่องความหมายของชื่อมานานเพราะสนใจเป็นการส่วนตัวพยักหน้าบอกเมื่อได้ฟังจากฌอห์น “ถูกแล้ว เขาคงเป็นคนจริงจังนะคะ คนที่ฉันรู้จักชื่อนี้น่ากลัวทุกคนเลย”

“คุณเกดพูดเหมือนตาเห็นเลยครับ” ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเอาจริงเอาจังของนายทุนรายนี้จนแทบกระอักเลือดทำตาโต หันมามองเกศราด้วยความคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าเธอจะวิเคราะห์ถึงนายทุนของเขาได้ตรงเผงประหนึ่งว่ามีตาทิพย์ “คุณเอซเขาจริงจังมากครับ ผมยังไม่เคยเห็นนายทุนคนไหนที่...” “เขี้ยวลากดิน?” เกศราต่อประโยคให้ลูกค้ารายใหญ่ของตนด้วยรอยยิ้ม

“เข้มงวดครับ” ฌอห์นแก้คำพูดของหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม สบตากับเกศราอย่างรู้กันว่าที่เขาพูดเช่นนี้เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนว่าร้ายพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจลับหลัง “ว่าแต่ว่า...บ้านหลังนี้คุณเกดจะขายเท่าไหร่ครับ”

“คุณฌอห์นทำการบ้านมาแล้ว คิดว่าเกดควรจะขายเท่าไหร่ล่ะคะ”

เกศราเลิกคิ้วสูง รู้ดีว่านักธุรกิจอย่างฌอห์นไม่มีทางเดินเข้ามาที่บ้านหลังนี้โดยไม่รู้ราคาประเมินก่อนซื้อแน่นอน อย่างน้อยชายหนุ่มก็ต้องมีตัวเลขในใจอยู่ก่อนแล้ว เกศราซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มาจนเจนสังเวียนจึงพอจะรู้วิธีเจรจา และถ้าเธอโก่งราคาเกินความจริงไปมาก ฌอห์นก็ต้องจำนนให้เธออยู่ดี งานนี้เธอน่ะได้กำไรเห็นๆ

“ผมรู้ครับ ว่าคุณเกดเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด” ฌอห์นหรี่ตา เขาเองก็มีเขี้ยวเล็บไม่แพ้หญิงสาว “แต่ถ้าเกินหกสิบผมก็ต้องตัดใจนะครับ”

“อย่างนั้นก็ขายแค่หกสิบค่ะ” เกศราว่าพลางยื่นมือออกไปตรงหน้าชายหนุ่ม รอให้เขาสัมผัสมือเธอเพื่อเป็นการผนึกสัญญา “ทำสัญญาแล้วโทร. เรียกฝ่ายนิติในโครงการไปที่กรมที่ดินพรุ่งนี้เลยก็ได้นะคะ จะได้เรียบร้อยก่อนนายทุนคุณฌอห์นจะมาเมืองไทย”

“ไม่คิดจะลดให้หน่อยเหรอครับ” ฌอห์นยอมยื่นมือมากระชับกับหญิงสาว แต่ปากไม่วายต่อรองเผื่อฟลุกได้บ้านหลังนี้ในราคาที่ถูกลงนิดหน่อย ทว่าเกศรากลับไม่ยอมให้ฌอห์นได้จ่ายเงินน้อยกว่านี้ หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยีแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ย

“นี่ก็ไม่แพงนะคะ แชนเดอเลียร์ข้างล่างก็ล้านกว่าแล้ว อย่างกสิคะ คุณฌอห์นก็เป็นพ่อค้า”

“ซื้อขายกับคุณเกดนี่ผมเสียเปรียบทุกประตูเลยนะครับ” ลูกค้าของเกศราถอนหายใจหลังปล่อยมือเรียวของเกศรา ทำใจได้แล้วว่าเขาคงไม่สามารถต่อราคาบ้านได้ถูกกว่านี้ “กับคุณช้องเธอยังเช่าพื้นที่ในห้างของผม คงพอหยวนๆ ให้ได้ กับคุณเกดนี่ผมไม่มีทางได้ถอนทุนคืนเลย”

“คุณฌอห์นก็สร้างหมู่บ้านสักหมู่บ้านสิคะ” เกศราแนะอย่างร่าเริง หากชายหนุ่มลงทุนเรื่องบ้านบ้างเธอก็คงมีโอกาสได้ไปเป็นลูกค้าของเขา “สร้างแต่ห้างแบบนี้ คนจนๆ อย่างเกดจะอุดหนุนได้ยังไงเล่า”

“อย่างคุณเกดไม่เรียกว่าจนหรอกครับ”

ฌอห์นหัวเราะ รู้ว่าเกศราเป็นคนถ่อมตัว แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาเป็นนักธุรกิจที่มีคอนเนกชันแข็งแกร่งจากคนแทบทุกวงการอย่างเกศราแล้ว เขาจะถ่อมตัวแบบที่หญิงสาวทำได้หรือไม่ ตั้งแต่ฌอห์นเข้ามาทำงานส่วนนี้แทนพ่อของเขาอย่างเต็มตัว เขาก็ได้ยินและรู้จักเกศราผ่านคนโน้นคนนี้มาไม่น้อย

เมื่อมารู้จักกับบุณณปัญญ์และได้คบหากันเป็นคนรัก ฌอห์นก็ได้รู้จักเกศราอย่างเป็นทางการ และยิ่งรู้จักหญิงสาว เขาก็ยิ่งนับถือเกศรา อายุน้อยกว่าเขาไม่เท่าไหร่ แต่สร้างอาณาจักรให้ตัวเองได้ขนาดนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเกศราไม่ธรรมดา และยิ่งนึกถึงสาวๆ ที่ทำงานกับเกศราตั้งแต่พิศา เบบี๋ มาจนถึงแหวนประดับ ซึ่งมีเขี้ยวเล็บไม่แพ้กัน ฌอห์นก็ยิ่งมั่นใจว่าเกศราคนนี้ต้องมีฝีไม้ลายมือไม่น้อย พิษสงคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสาวๆ ใน Even for you เพราะเจ้านายก็คงจะร้ายกาจกว่าลูกน้อง...หรือไม่จริง

“ถ้าคุณเกดสนใจมาเป็นพาร์ตเนอร์ผม ผมจะลองพิจารณาดูครับ”

ฌอห์นเอ่ยอย่างใจป้ำ เรื่องหมู่บ้านจัดสรรเขาก็พอมีเพื่อนหลายคนที่อยู่ในวงการ วริต...อดีตมือขวาของเขาที่ลาออกไปก็ไปสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว หากชวนมาร่วมธุรกิจกันโดยมีเกศราที่ทั้งเก่งกาจเรื่องการขายและการตกแต่งมาช่วย รับรองว่าโครงการนี้จะต้องได้รับความสนใจไม่น้อย

“เงินลงทุนสูงขนาดนี้ เกดคงต้องขอบายค่ะ” เกศรายิ้ม หากลงทุนสร้างหมู่บ้านเอง เธอไม่แน่ใจว่าจะเป็นการลงทุนที่เกินตัวไปหรือไม่ ถึงจะมีพาร์ตเนอร์เป็นบริษัทใหญ่อย่าง ดิ ฌอห์น แต่เกศราก็ไม่สบายใจ “ขอเป็นลูกค้าของคุณฌอห์นดีกว่า เกดไม่อยากปวดหัว”

“คุณเกดนี่น้า...” ฌอห์นแสร้งบ่น ทว่าหน้ายังมีรอยยิ้ม “ไม่ยอมลดให้ผมเลยจริงๆ นี่ใจคอจะได้อย่างเดียวสินะครับ”

“แหม ก็คุณฌอห์นได้เบบี๋ไปจากเกดแล้วไงคะ อยากได้อะไรอีกเล่า”

“ถ้าเอาเหตุผลนั้นมาสู้ ผมก็คงเถียงไม่ได้แล้วครับ”

ฌอห์นหัวเราะร่วน ส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความอ่อนใจ ก่อนเดินนำเกศราลงมาด้านล่างเพื่อสมทบกับคนรัก ด้วยกลัวช้องนางจะได้ยัดความเชื่อที่แทบจะเรียกว่างมงายใส่หัวคนรักสาวอายุน้อยของเขา เพราะยิ่งนานวันฌอห์นก็ยิ่งหวั่น ไม่แน่ใจว่าตนจะรับมือความเชื่อพวกนี้ได้หรือไม่

แค่ต้องบินไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้งที่มีการกดบัตรคอนเสิร์ตฌอห์นก็ลำบากพอแล้ว อย่าต้องให้ตระเวนไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสารทิศกับทุกเรื่องเหมือนอย่างช้องนางเลย

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น