5

บทที่ 5


หากจะให้เปรียบเทียบความโดดเด่นของดนตรี ดนีย์นาถมักนึกถึงแสงสว่างในที่มืด สีสันบนพื้นขาวดำ หรือลวดลายในกระดาษเรียบๆ 

อดีตแฟนหนุ่มของเธอเป็นชายรูปร่างสูงผอม แขนขายาว และใบหน้าเล็ก อันดูจะเป็นสัดส่วนสำคัญร่วมกันของเหล่าสปีชีส์ดารา แต่ที่ทำให้เขาเป็นที่จับตาเสมอ คือผิวขาวเรียบอมชมพู รอยยิ้มแห่งฤดูใบไม้ผลิ และเค้าหน้าหล่อเหลาสำหรับมนุษย์ทุกรสนิยม 

แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่สเปกของเธอ ดนีย์นาถหลอนกับการตกเป็นเป้าสายตาแบบที่อาภพเป็นเสมอ เธอจึงเห็นแค่ว่า อ้อ คนหล่อ จากนั้นก็จบไป อีกอย่าง ในวัยแค่มัธยมต้น คนอย่างเธอยังไม่รู้สึกว่าเพศตรงข้ามเป็นหนึ่งในความน่าสนใจ 

พิมล์ไพลินมักจะล้อว่า ทั้งหมดนั่นเป็นแค่ข้ออ้าง เพราะพอซักว่าแล้วตกลงมาเป็นแฟนกันได้ยังไงตั้งแต่ ม.๑ เธอก็ตอบไม่ได้ทุกที มันเหมือนกับความทรงจำสูญหาย เธอเข้าโรงเรียนใหม่ในตอนนั้น แล้วเหตุการณ์ต่อมาก็กลายเป็นแฟนโด เดินไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกัน กินขนมด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกันเป็นบางครั้ง แล้วพออาภพได้เห็นหน้าค่าตาเขา อาก็จับเขาไปปั้น โดปรากฏตัวครั้งแรกในเอ็มวีของศิลปินเบอร์ใหญ่ที่สุดในตอนนั้นของเอนเตอร์ไทม์ แล้วก็เป็นอย่างที่อาคาด ไม่มีแสงไฟดวงไหนหมุนหนี โด ดนตรี อีกเลยนับแต่นั้น

มันเหมือนสวรรค์ประทานทุกอย่างมาให้เขาจริงๆ ใช่แค่รูปร่างหน้าตาและเสน่ห์ส่วนตัว โดฉลาด มีความสามารถรอบทิศ เขามีเสียงร้องแบบนักร้อง มีเทคนิควิธีแบบคนที่ร้องเพลงเป็น กล้องรักเขา รันเวย์และพรมแดงคือเมืองขึ้นของเขา แล้วเมื่อต้องแสดง เขาก็ยังให้การแสดงที่วิเศษราวกับเป็นร่างทรง 

จึงไม่แปลกที่เด็กผู้ชายรุ่นหลังมองเขาเป็นไอดอลทั้งนั้น ผู้ชายรุ่นเดียวกันและรุ่นก่อนก็เห็นเขาเป็นเพื่อนสนิทเพราะภาพลักษณ์ติดดิน แต่เท่ มีสไตล์ เพศตรงข้ามหลงใหลเขา เป็นกองทัพที่ทำให้นักข่าวไม่กล้าใส่ไคล้ ผู้จ้างงานที่ซื่อตรงจะได้รับการสนับสนุนจนผลสำเร็จมหาศาล หรือไม่งั้นก็เตรียมถูกฉีกแฉจนตายดับในชั่วข้ามคืน 

แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ดนีย์นาถไม่เคยคิดเผยตัวในฐานะคนข้างกายเขา ดนตรีพิโอดพิโอย แต่ลึกๆ แล้วดนีย์นาถคิดว่าเขาน่าจะชอบใจ เธอไม่เคยล่วงเข้าไปทำให้งานเขาวุ่นวาย ทั้งที่อยู่ในฐานะที่จะทำได้ทุกช่องทาง การที่เธอไม่เข้าไปยุ่ง ยังเปิดโอกาสให้เขามีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเข้าไปช่วยยุ่งได้ตลอด

ดนีย์นาถพอจะรู้ลาดเลา แต่ทุกคนก็ช่วยเขาปกปิดเพื่อความราบรื่นของทุกๆ อย่าง 

เธอได้เห็นกับตาเมื่อราวๆ สองเดือนก่อน 

หลังคว้าน้ำเหลวจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารของเฟม เมทัล เวิร์ก ดนีย์นาถแก้เซ็งด้วยการบินไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเซอร์ไพรส์เขา ดนตรีไปทัวร์คอนเสิร์ตที่นั่น และเขาจะ เซอร์ไพรส์แน่ๆ เพราะปกติดนีย์นาถปฏิเสธการเดินทางด้วยเครื่องบินมาตลอด มันสร้างมลภาวะทางอากาศมาก ที่หญิงสาวยอมไปเนื่องจากพิมล์ไพลินโน้มน้าวว่า ช่วงหลังเธอเหนื่อยและคร่ำเคร่งกับงานมายาวนาน โดเองก็เหมือนกัน การเดินทางครั้งนี้จะเป็นรางวัลที่ดีสำหรับเธอทั้งคู่ ดนีย์นาถจึงยอมตกลง ถึงกระนั้นก็มีข้อแม้นิดหน่อยว่าขอใช้ตั๋วเครื่องบินแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการพรินต์จากกระดาษ 

ไม่คิดเลย คนที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในทริปนั้นจะกลายเป็นตัวเธอเอง 

“อาไม่รู้เรื่องโดเลย” เสียงอาภพที่กรอกมาตามสายก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน “นึกว่ามันจะอยู่พักต่อที่อเมริกาจนถึงสิ้นเดือนซะอีก”

นั่นคือแผนการเดิมของเขาที่ทุกคนในเอนเตอร์ไทม์ต่างรู้กัน ดนีย์นาถก็ด้วย 

“คุณเงินยวงไปเอาข้อมูลมาจากไหน” ไม่รอเธอตอบ อาภพก็คงนึกได้ 

โดไม่ทำอะไรที่เป็นรายละเอียดเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็น่าจะด้วย 

คนดูแลต้องรู้ นั่นละคือรูรั่ว!

“เดี๋ยวอาจะรีบเช็กแล้วบอกหนูอีกที ดีมั้ย ถ้าจริงก็จะพยายามห้ามมันไว้เลย”  

“ดีค่ะ!” เธอรีบตอบแทบเป็นละล่ำละลัก

หวังว่าทุกอย่างจะสำเร็จ ถ้าโดมาเจอเธอที่นี่ มันจะไม่เหมือนกรณีคนคุ้นหน้าอย่างอีตาคามินทร์ ต่อให้เธอแปลงโฉมยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า ยังไงเขาก็จำได้ เธอคบโดมานาน นานพอๆ กับที่เขาอยู่ในวงการอันแวดล้อมด้วยเครื่องสำอางสำหรับเปลี่ยนรูป ที่สำคัญ การที่เธอต้องติดอยู่กับคุณเงินยวง นั่นจะทำให้เธอเลี่ยงโดไม่ได้อย่างที่เลี่ยงคามินทร์!

“แต่ว่า” เสียงอากลับกังวล “ถ้ามันไม่ยอมเชื่ออาล่ะ หนูก็รู้ว่าเดี๋ยวนี้มันติดเชื้อหนู ดื้อใส่อาใหญ่”

ไม่ใช่เลย หนูไม่ดื้อ หนูมีเหตุผล แต่โดดื้อ เพราะเขารู้ตัวว่าเป็นคนทำกำไรให้อา!

“มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าบอกมันไปตรงๆ ว่าหนูกำลังทำอะไร เผื่อมันจะได้ช่วยหนูด้ว...

“ไม่ได้นะคะ!” เธอสวนเสียงทันควัน “อาก็รู้ว่าหนูเลิกกับเขาแล้ว”

“แต่มันก็ยังไม่ official...

“อาอย่าใช้ภาษาติ่งกับหนู”

“หนูก็อย่าดื้อกับอาสิ” 

ดนีย์นาถทำเสียงจึ๊กจั๊ก ช่วยไม่ได้ที่เหตุการณ์ซึ่งเพิ่งจบไปไม่นาน พลันเรืองแสงขึ้นหลังม่านตา 

ห้องพักนั้นเป็นห้องของอาภพ มีห้องนอนสองห้อง ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก และส่วนครัวต่างหาก อาซื้อไว้สำหรับตัวเองเดินทางไปติดต่องานหรือพักผ่อน แต่เพราะเธอมักบอกให้เขาพักผ่อนในประเทศ และในที่ใกล้ๆ เพื่อเลี่ยงการเดินทางอันจะก่อมลภาวะ ห้องนั้นจึงแทบจะถูกใช้สำหรับรับรองแขกของอามาตลอด 

เธอได้กุญแจมาจากอานั่นเอง ก่อนจะไขเข้าไป ไม่ลืมเหลือบดูนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถือ ขณะนั้นเป็นเวลาท้องถิ่นราวๆ สิบโมงเช้า ดนีย์นาถจินตนาการเห็นแฟนหนุ่มกำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่หน้าโทรทัศน์จอแบนเครื่องใหญ่ ผู้ดูแลเขาบ่นเป็นไฟพลางเดินวุ่นวนไปรอบห้อง ขณะที่คนโดนบ่นยังงัวเงีย ผมยุ่งชี้ตั้ง และดูการ์ตูนตลกช่องนิคคาโลเดียนพลางจิบเครื่องดื่มจากพืชออร์แกนิกในภาชนะที่สามารถรีไซเคิล ... แน่นอน ตามที่เธอกำชับให้เขาปฏิบัติตาม 

ภาพฝันสั่นสะเทือนทันทีที่เปิดประตูเข้าไปแล้วได้พบแต่ความเปล่าว่าง ไม่มีแม้แต่เสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือ เพลงที่โดชอบเปิด ดนีย์นาถเดินเข้ามาจนสุดทาง แล้วด้วยสังหรณ์บางอย่าง เธอค่อยๆ หมุนลูกบิดผลักประตูห้องนอนเข้าไป

เตียงนอนใหญ่ดูนุ่มและอุ่นสบาย บนนั้นไม่ได้มีโดคนเดียว แต่บนอกเปล่าเปลือยที่เธอเองยังแทบไม่เคยได้แตะ สาวผมสีชมพูแห้งฟูรายหนึ่งกำลังหลับใหล ผ้าห่มถูกเขี่ยพ้นไปจากตัวหล่อน ทำให้เห็นหน้าอกค่อนข้างหย่อนที่มีหัวนมขนาดใหญ่เป็นสีคล้ำ มีรอยขบแถวๆ นั้น แล้วอีกรอยที่แถวท้องน้อย ทั้งคู่หลับตาพริ้ม คงอีกนานกว่าจะรู้สึกตัว ดนีย์นาถเองก็สูญเสียความรู้สึกตัวไปชั่วคราว ได้สติอีกทีก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนโซฟานั่งเล่นในอีกห้องหนึ่งแล้ว 

กะพริบตา เพิ่งเห็นว่าบนโต๊ะยุ่งเหยิงมีเอกสารบางอย่างถูกวางทับอยู่ เธออ่านมันไม่ถนัดจึงดึงให้หันมาต่อหน้า แค่เสี้ยวอึดใจก็เกิดคำถามแทรกขึ้นมาว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ มาทำบ้าอะไรที่นี่ 

ดนีย์นาถล่องลอยออกจากที่นั่น แล้วก็ลอยจากสหรัฐอเมริกากลับมาที่ไทย 

ใช่ ถึงอย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ลืมใช้ตั๋วอี-ทิกเก็ต


“เอาเป็นว่าตามนี้ก่อนแล้วกันนะคะ”

“โอเคจ้ะ”

“หนูฝากบอกอาหนาวด้วยว่าหนูยังเก็บข้อมูลให้อาอยู่เรื่อยๆ ไม่ลืมแน่นอน”

“เรื่องนั้นอากับอาหนาวเชื่อใจนีน่ามากๆ”

ดนีย์นาถรู้ว่าถูกอีกฝ่ายแซว ในข้อที่เธอจดใจกับงานอนุรักษ์ไปทุกขณะจิต ถึงอย่างไรเธอก็ถือเป็นคำชม อันที่จริง เธอดีใจตั้งแต่เอาเรื่องการปลอมตัวงี่เง่านี้ไปปรึกษาอาหนาว แล้วปรากฏว่าอาหนาวยินยอมให้เข้าใช้สถานที่ พร้อมเหตุผล ดีเหมือนกัน ระหว่างนี้ นีน่าจะได้ช่วยดูให้อาด้วย ว่ามันพอจะปรับปรุงเป็นกรีนรีสอร์ตได้ยังไงบ้าง อาดังรบเร้าอามาพักใหญ่แล้ว ยังไม่ได้เริ่มกันซะที เผื่อจะใช้เวียงอวัศย์สาขานี้เป็นจุดเริ่มต้น

อาน้ำหนาวจบการศึกษาแขนงผู้ตรวจสอบบัญชี เป็นคนพูดจาเด็ดขาด หน้าตาดุดัน เมื่อก่อนดนีย์นาถเองก็ไม่ชอบเข้าหน้า กระทั่งโตมาจึงรู้ว่าอาเป็นอย่างนั้นเอง แม้เมื่อมีเรื่องลือร้ายๆ  ในตระกูลอวัศย์สกุลของอา กับข่าวหนาหูว่าอาเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายเหล่านั้น ดนีย์นาถก็ยังวางใจเป็นกลาง บอกตัวเองว่าเธออยู่ห่างจนยากจะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นแท้ๆ แต่ที่แน่ๆ อาไม่ใช่คนร้ายกาจด้วยกมลสันดานในสายตาเธอ 

จากเหตุร้ายวันนั้น อาผงาดขึ้นเป็นผู้บริหารเครือโรงแรมและรีสอร์ตเวียงอวัศย์แทบจะเต็มอำนาจ มีอาน้ำดังน้องชายเป็นผู้ช่วยมือหนึ่ง 

เท่าที่ดนีย์นาถสืบประวัติมา เวียงอวัศย์เกาะช้างรีสอร์ตก่อตั้งขึ้นโดยอวัศย์สกุลเจเนอเรชันก่อนอาหนาว สมัยนั้นรูปแบบของเวียงอวัศย์ทุกแห่งเหมือนๆ กันไปหมด หรูหรา ทว่าไทยเกร่อ และแน่นอน แนวคิด กรีน ยังไม่แวบผ่านมา กระทั่งการบริหารเปลี่ยนสู่ผู้บริหารยุคที่สอง ชื่อของ แดนเลฑฑุ์ อินไชยพันธุ์ กระฉ่อนในนามของนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล ผู้ชุบให้เวียงอวัศย์มีสไตล์และชีวิตชีวา อาหนาวกับอาดังก็ยังไม่สู้ แต่เพราะข้อบาดหมางภายในที่สะสมมาตลอดได้ระเบิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน ท้ายสุดรายนั้นต้องถอนตัวไป สังคมจับตาทิศทางการนำของอาหนาวกับอาดัง รายหลังเริ่มท้าทายดีเอ็นเอของเวียงอวัศย์หลายอย่าง การเปลี่ยนเป็นกรีนรีสอร์ตและกรีนโฮเต็ลนี่ก็คงเช่นกัน

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย กรีนโฮเต็ลไม่ใช่แค่โรงแรมที่ปลูกต้นไม้เขียวขจี มันต้องการการวางแผนไปถึงรากฐาน อาทิ การเลือกใช้พลังงานทดแทน หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปราศจากการทดลองกับสัตว์ นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการลดขยะ การกำจัดของเสียต่างๆ ไปจนกระทั่งใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นประกอบอาหารเพื่อประหยัดพลังงานขนส่ง บางโรงแรมที่ดนีย์นาถศึกษามา ถึงกับแจกขวดน้ำสเตนเลสให้แขกสำหรับใช้เติมน้ำแทนแก้วกระดาษ ใช้ถุงขยะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เป็นต้น    

เท่าที่หญิงสาวประสบ ข้อจำกัดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับงานแม่บ้านก็คือ การเลือกใช้สารเคมีเพื่อทำความสะอาดนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน หมายถึงหวังผลได้ในเวลาสั้น ขณะเดียวกันก็ประหยัดพลังงานของคนทำความสะอาดด้วย หลังจากที่เธอหว่านล้อมให้ศรีตรังยอมใช้สูตรน้ำส้มสายชู ปรากฏว่ามันยังสู้สารเคมีไม่ค่อยได้ 

ตอนที่ดนีย์นาถกลับมาถึงที่พัก เพื่อนร่วมงานสาวกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำเล็กๆ ท้ายห้องพัก เสียงเปิดน้ำดังลั่นออกมา  

อาคารที่พักสำหรับพนักงานของเวียงอวัศย์เกาะช้าง เป็นหอพักแยกชาย หญิง พนักงานระดับล่างพักรวมกันในห้องเดียว มีทั้งแบบสองคนและสี่คน ตอนแรกคุณแม่จะให้เธอพักเดี่ยว แต่ดนีย์นาถกลัวคนอื่นจับตา รายนั้นจึงจัดให้เธอพักกับศรีตรัง เพราะเห็นว่ามีความประพฤติดี ไม่น่าสร้างปัญหาให้แก่เธอ และรูมเมตของเจ้าตัวก็เพิ่งจะลาออกไป

“เฮ่ย กลับมาเงียบๆ นึกว่าผี” คนร่วมห้องทักขึ้นเป็นคำแรกเมื่อออกมาจากห้องน้ำ “เป็นไงบ้าง ได้ชุดแม่บ้านไปแล้ว นางพอใจมั้ย”

“ก็โอเคนะ” 

อีกฝ่ายเปิดตู้ดึงเสื้อผ้าออกมาพลางว่าต่อ “ฉันหมายความว่า คุณเงินยวงให้ทิปเธอกี่บาทต่างหากล่ะ!” 

คนงกสนใจอยู่แต่เรื่องนั้น ดนีย์นาถจึงทำหน้ายู่ “ยังไม่ได้สักบาท”

“อย่าเพิ่งเซ็ง เขาอาจจะให้รวมทีเดียวตอนเช็กเอาต์ก็ได้ แขกเรื่องเยอะแบบนี้มักจะให้ทิปดีนะ”

“พรุ่งนี้เขาก็จะให้ไปทำต่อด้วยละ นี่...” เธอแสร้งถามเหมือนสนใจ “ปกติมีแขกแบบนี้เยอะมั้ย”

“ถ้าฟลอร์อื่นก็ยังไม่เท่าไหร่ แอ่อี้...” ประโยคไม่ชัดเพราะคนพูดกำลังคาบผ้าถุงไว้เพื่อสวมชุดข้างในได้ง่ายๆ เสร็จแล้วก็พูดต่อ “...ลูกค้าบังกะโลสวีตน่ะ จ่ายเยอะก็หวังแยะเป็นธรรมดา ปกติคนที่โดนเรียกร้องจะเป็นพวกบัตเลอร์ แต่เวลาเขาเรียกร้องกับบัตเลอร์ก็จะให้เกียรติมากกว่าเวลาเรียกร้องกับแม่บ้านแหละ”

อาชีพทำความสะอาดมักจะถูกมองว่าด้อยค่า ทว่าที่จริงไม่ใช่ ตั้งแต่การปฐมนิเทศ คุณแม่เน้นย้ำให้พนักงานทำความสะอาดทุกคนพึงระลึกว่า ทุกหน้าที่มีความสำคัญ และแม้งานออกแบบ อาหาร หรือการแสดงอลังการต่างๆ จะทำให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจ แต่สิ่งที่ทำให้แขกตัดสินใจว่าจะกลับมาหรือไม่ คือเรื่องง่ายที่ไม่ง่ายอย่างความสะอาดและสะดวกสบายในห้องพักของพวกเขาต่างหาก 

ถ้านี่เป็นงานที่ไม่สำคัญ โรงแรมทุกที่เขาไม่ให้แม่บ้านอย่างแม่ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารหรอก ลูกๆ จำไว้นะ

ใช่แล้ว ตำแหน่ง executive house keeper เป็นหนึ่งในตำแหน่งใหญ่ของงานโรงแรม เงินเดือนหลักแสน และยังมีการแย่งซื้อตัวระหว่างโรงแรมเหมือนผู้บริหารระดับสูงในวงการธุรกิจ จีเอ็มของบางโรงแรมใหญ่ๆ ก็เติบโตมาจากงานแม่บ้าน ตำแหน่งนี้มองเห็นรายละเอียดชัดที่สุด อยู่ใกล้ชิดแขกมากที่สุด ผู้บริหารที่สามารถปลูกฝังให้แม่บ้านรักองค์กร ก็เท่ากับได้ สายตา อันจะนำทางสู่การพัฒนาได้อย่างถูกต้อง โรงแรมใหญ่ระดับโลกบางแห่งถึงกับถูก ลือ ว่าแอบติดกล้องตามดูพฤติกรรมแขกเพื่อได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านี้เลยทีเดียว

“อย่าทำหน้าเหนื่อยน่า” สวมเสื้อผ้าเสร็จ ศรีตรังก็เดินมานั่งลงข้างเตียงเธอ เนื้อตัวหอมกรุ่นแบบที่พิมล์ไพลินจะนิยามว่า หอมแบบราคาถูก เพราะมันคือกลิ่นจากสบู่เย็นก้อนละแค่ไม่กี่บาท “ออกไปเดินดูวิวทะเลหน่อยมั้ยล่ะ อารมณ์ดีแล้วค่อยกลับมากินข้าวเย็น ฉันหิ้วของมาเผื่อด้วยนะ”

“ขอบใจมาก... ของที่ศรีตรังว่าคือของจากห้องอาหารสำหรับพนักงานนั่นละ เวียงอวัศย์เปิดไลน์บุฟเฟต์สำหรับพนักงานให้นำกลับมากินที่ที่พักได้ด้วย มีทั้งอาหารไทย ฝรั่ง สลัด ของหวาน และน้ำอัดลม “...แต่เขาไม่อนุญาตให้พนักงานออกไปเดินตรงหาดของรีสอร์ตไม่ใช่เหรอ”

ข้อห้ามนั้นฟังดูทะแม่งๆ แต่ที่จริงเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถ้ามีพนักงานคนหนึ่งลงไปเดินหาดได้ อีกคน อีกสิบคน และอีกร้อยคนก็จะตามไป หาดสวยสงบอันเป็นจุดขายของโรงแรมย่อมพินาศ

“ซื่อเอ๊ย!” ศรีตรังหัวเราะร่วน “เกาะนี้มันมีอยู่หาดเดียวที่ไหนเล่า”

“แล้วเขาไปเที่ยวกันที่ไหนเหรอ” จะว่าไปแล้วดนีย์นาถก็ไม่ได้สนใจเลยตั้งแต่วันที่มาถึง 

“หาดสาธารณะไง ส่วนใหญ่หาดหน้ารีสอร์ตของคนรวยๆ เขาไม่ให้พวกเราไปเดินแรดหรอก ต้องไปหาดสาธารณะ อยากไปมั้ยล่ะ เดี๋ยวฉันพาไปก็ได้ มันแค่สวยน้อยกว่าหน่อย ทางเข้าก็เล็กๆ แล้วคนที่หาดนั่นก็ไม่แซ่บเท่าที่นี่”

คนฟังหัวเราะบ้าง จินตนาการว่า อีกฝ่ายจะทำหน้ายังไงเมื่อรู้ว่าเธอเคยไปเกาะที่สวยกว่านี้มาแล้ว หาดขาวกว่า มีทั้งแคบและกว้างกว่า น้ำทะเลก็ใสกว่า นั่นละที่ทำให้เธอไม่สนใจเที่ยวที่นี่เท่าที่ควร 

ศรีตรังเข้าใจไปอีกอย่าง “พูดจริงนะ มันจะไปแซ่บเหมือนที่นี่ได้ไงล่ะ คนไปหาดสาธารณะก็ไม่ค่อยมีตังค์ใช่มั้ย ส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ จะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย บำรุงตัว ทำหน้า”

“เอาเถอะ วันนี้เหนื่อยแล้ว ไว้วันหลังละกัน” 

ศรีตรังถอนหายใจแล้วยื่นมือมาตบบ่า “เราเป็นคนจน มันก็ต้องอย่างนี้ละ คิดอย่างฉันสิ ฉันนะจะขยันทำงาน จนวันนึงได้เป็นอย่างคุณแม่เลย พอมีเงินเดือนเยอะๆ ฉันก็จะฟิตหุ่น บำรุงผิวดีๆ แล้วกลับมาที่นี่ในฐานะแขก การได้นอนอาบแดดแล้วก็ลงเล่นน้ำที่หาดของรีสอร์ตนี้น่ะ เป็นความฝันอันสูงสุดของฉันเลยนะ”

เห็นเธอทำหน้าเหมือนคิดตามไม่ออก ศรีตรังก็หัวเราะ ขยับเข่ามาตีข้างเข่าดนีย์นาถ “เธอล่ะ ฝันอะไรกะเขาบ้างรึเปล่า”

“ฉันไม่ได้อยากให้ตัวเองสวยหรอก อยากเห็นโลกมันสวยๆ มากกว่า”

คนฟังนิ่วหน้า “แบบที่พยายามจะให้ใช้น้ำส้มสายชูนั่นน่ะนะ?

“อื้อ” เธอพยักหน้า “หรืออย่างเวลาที่อาบน้ำ พอเราถูสบู่ก็ปิดน้ำซะ จะได้ประหยัดน้ำ หรืออาหารที่เอากลับมาน่ะ ถ้าเอาปิ่นโตหรือกล่องไปใส่เอง ก็จะไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกให้เกิดขยะด้วยนะ”

“ไม่เกิดขยะแล้วมันจะยังไง”

“เดี๋ยวนี้ขยะมันล้นโลกไง จนบางประเทศแอบขนขยะมาทิ้งทะเลของประเทศอื่น คิดดูนะ ถ้าเราไม่ช่วยกันลดขยะ สักวันที่เธอรวยแบบคุณแม่ หุ่นเหมือนคุณเงินยวง...

“ว้าย” เจ้าตัวทำหน้ายี้ทันควัน

แต่ดนีย์นาถหัวเราะ “พอถึงตอนนั้น มันอาจจะไม่เหลือทะเลสวยๆ ไว้ให้เธอลงเล่นแล้วก็ได้”

ศรีตรังคิดตาม ดนีย์นาถรู้สึกคล้ายใจเต้นตึ้กตั้ก ภารกิจหนึ่งของการเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็คือการเผยแพร่แนวคิดนี้ให้กว้างขวางออกไป เธอไม่ค่อยเข้าใจที่คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะชนชั้นแรงงานอย่างเพื่อนข้างๆ ถึงศรีตรังจะยากจน แต่ก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้ คิดดูสิว่าในโลกนี้มีคนรายได้น้อยมากถึงกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าคนเหล่านั้นหันมานึกถึงสิ่งแวดล้อมมากกว่าแค่จะนึกถึงความฝันลมๆ แล้งๆ ของตัวเอง โลกเราจะดีกว่านี้ขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเพื่อนข้างๆ ทำหน้ามู่ทู่ “ก็จริงของเธอ แต่ฉันกลัวมากกว่า ว่าจนตายแล้วเกิดใหม่ก็จะยังไม่มีปัญญาได้กลับมาเล่นน้ำที่หาดของโรงแรมนี่น่ะสิ”


เช้าวันต่อมา แม้ว่าคุณเงินยวงจะนัดให้เธอไปทำหน้าที่บัตเลอร์ ดนีย์นาถก็ยังออกจากห้องพักพร้อมศรีตรัง ตรงมารวมพลแม่บ้านประจำโซนก่อน 

ที่นี่ หัวหน้าแม่บ้านประจำโซนจะจ่ายงานพร้อมคำสั่งพิเศษบางอย่างสำหรับวันนั้น รวมถึงบรีฟข้อมูลของแขกคนสำคัญที่จะเข้าพักในรีสอร์ต ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่ออะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร เพื่อให้บริการที่น่าประทับใจที่สุด

หลังแจ้งรายการต่างๆ จนครบ กำลังจะแยกย้ายไปพร้อมทุกคน เธอถูกรั้งไว้ “เพลงทราย อย่าเพิ่งไป”

“คะ?

“วันนี้เธอไม่ต้องทำงานแม่บ้าน คุณเงินยวงขอเธอไว้กับคุณบัตเลอร์ ตอนนี้เขาน่าจะรอพบเธออยู่แล้ว”

งามจิตกับเพื่อนแม่บ้านรุ่นใหญ่จับตาเธอ เหมือนกับวันที่จู่ๆ ดนีย์นาถก็ถูกส่งตัวมาทำงานแผนกนี้ มีแค่ศรีตรังที่เอียงคอกระซิบ 

“สู้ๆ นะ คุณปภังกรเฮี้ยบมาก แต่แกแพ้คำชม”

“คำชมเหรอ?

“ไอ้ศรี!” พี่งามจิตลงเสียงหนัก คนถูกเรียกจึงต้องรีบพยักตามไป 

“โชคดีเพลง”

แม่บ้าน เพลงทราย ดุ่มเดินสู่ห้องเป้าหมาย บัดนี้ ภายในห้องของเหล่าบัตเลอร์พอจะมีพนักงานอยู่บ้าง คุณปภังกรคุยเล่นกับคนเหล่านั้น แต่ทันทีที่เห็นเธอ รอยแย้มก็หุบสนิท ราวกับว่าใบหน้าของดนีย์นาถดูเหมือนภาพอาชญากรรมไม่ได้เซนเซอร์

“คิดแล้วว่าเธอจะต้องฝ่าฝืนคำบอก ออกมาทำงานตามหน้าที่แม่บ้านแต่เช้า” เจ้าของร่างอ้อนแอ้นก้าวออกมาใกล้เธอ คงเพราะไม่ต้องการให้คนอื่นๆ ในห้องได้ยินเรื่องที่จะหารือกัน 

“ตกลงเราจะต้องทำตามคำขอของคุณเงินยวงจริงๆ เหรอคะ” 

อีกฝ่ายตวัดสายตา “นี่เธอนึกว่าความพยายามทำให้แขกพอใจเป็นแค่การเล่นปาหี่เรอะ”

“เปล่านะคะ ดิฉันแค่คิดว่า ถ้าเราพยายามทำให้คุณเงินยวงพอใจ นั่นอาจทำให้เราต้องไปละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณโดรึเปล่า เพราะเขาก็เป็นแขกของเราคนหนึ่งเหมือนกัน”

“ฉันดูเหมือนคิดไม่ได้รึไง”

ดูใต้ตาใหญ่เพราะอดนอน เธอกัดลิ้นตัวเองไว้แล้วส่ายหน้าแทน

อีกฝ่ายทำเสียงจึ๊กจั๊ก เชิดปลายคางขึ้น “เราจะทำให้คุณเงินยวงพอใจ โดยไม่ต้องเข้าใกล้คุณโดมากเกินพอดี แล้วคุณโดก็จะไม่ถูกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวด้วย”

พูดเป็นทฤษฎีคร่าวๆ แค่นั้นเราก็คิดได้เหมือนกันแหละ แต่จะทำยังไงให้แขกอย่างคุณเงินยวงไม่ทันรู้ตัวต่างหากล่ะ

อีกครั้งที่เธอต้องรำงับปากตัวเองไว้ เสียงศรีตรังดังขึ้นในหัว คุณปภังกรเฮี้ยบมาก แต่แกแพ้คำชม

“จริงด้วย” รู้สึกว่ายังน้อยไป ดนีย์นาถจึงพูดต่อ “ดิฉันไม่ทันนึกเลย คุณบัตเลอร์ล้ำลึกมากๆ ค่ะ”

“นี่ละคือสิ่งที่เขาเรียกว่าประสบการณ์” คน ล้ำลึก ดูจะพออกพอใจขึ้นมาจริงๆ 

“ดิฉันควรจะต้องทำตัวยังไงบ้างคะ” 

“การเบี่ยงเบนความสนใจคุณเงินยวงด้วยการแนะนำเรื่องหน้าที่แม่บ้านเป็นความคิดที่ดี” 

และดิฉันก็ได้ทำไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน

ราวกับได้ยินความคิดของเธอ คุณปภังกรปรายตามองมาแล้วว่าต่อ “นั่นคือหน้าที่ของเธอ ส่วนฉันจะคอยจำกัดกรอบคุณเงินยวงเอง ว่าแกจะเข้าใกล้คุณโดได้มากน้อยแค่ไหน”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย คุณบัตเลอร์ให้ดนีย์นาถไปรับอาหารเช้าที่แขกวีวีไอพีสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน พ่อครัวส่ายหน้า บ่นอุบว่าข้าวต้มเห็ดโคนซี่โครงอ่อนนั้นไม่เข้ากับบรรยากาศที่นี่เลย แถมเห็ดโคนก็ไม่ได้หากันง่ายๆ ในช่วงต้นฤดูร้อนอย่างนี้ด้วย กว่าจะติดต่อให้เวียงอวัศย์สาขาบนแผ่นดินใหญ่ช่วยหาแล้วขนส่งมาถึงเกาะนี้ได้ก็เกือบไม่ทันการณ์ 

ตอนที่ดนีย์นาถเข็นรถเข็นสำรับอาหารเข้ามาถึงประตูหลังบังกะโลเอหนึ่ง คุณบัตเลอร์ก็เดินข้ามชานหน้าเข้ามาเปิดประตูให้เธอพอดี ในมือของเขามีป้าย ห้ามรบกวน ติดมาแขวนที่ประตูนี้ด้วย เจ้าตัวบอกว่าแขวนไว้ข้างหน้าแล้ว ป้องกันคนนอก...หมายถึงนอกจากผู้ร่วมแผนการลับทั้งสามคน...เข้ามายุ่งเกี่ยว 

ม่านในห้องแขกยังปิดทึบ ดนีย์นาถกับเพื่อนร่วมงานจำเป็นไม่สามารถสอดส่องเข้าไปเห็นได้ว่าแขกกำลังทำอะไรอยู่ ต่อเมื่อก้าวไปเคาะเรียก ทันทีที่เปิดประตู ก็พบว่าแขกสาวร่างบึกยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ บีบครีมลงแต้มใบหน้าเป็นจุดๆ 

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเงินยวง หลับสบาย?...

“ไม่ต้องเยิ่นเย้อ” อีกฝ่ายตัดบท คำพูดเช้านี้ไม่ใช่เสียงเล็กเสียงน้อยเช่นทุกที แต่เป็นเสียงธรรมชาติใหญ่ต่ำ “ฉันอยากรู้วิธีที่จะได้เข้าใกล้โดมากกว่า”

ดนีย์นาถกับคุณบัตเลอร์เผลอประสานสายตากัน รายหลังเป็นคนชิงบอก “เรื่องนั้นผมคิดเอาไว้หลายวิธีเชียวครับ แต่ก่อนอื่นอยากขอทราบว่า คุณเงินยวงต้องการใกล้ชิดคุณโดระดับไหน”

คนถูกถามปิดฝาครีมดังปุ้ง! จนคนถามกับอีกคนที่ฟังอยู่แทบสะดุ้ง แต่ที่สะดุ้งแน่ๆ คือคุณชาโตบริยองด์ซึ่งยืดตัวบิดขี้เกียจอยู่ข้างที่นอนที่คุณบัตเลอร์จัดให้ 

คุณเงินยวงเสกลับมาส่งยิ้มให้พวกเธอเป็นครั้งแรก เสียงกลับมาอ่อนหวาน “ช่างนึกถึงใจแขกเสียจริงพ่อคุณ!

เพราะรอยยิ้มกับเสียงอย่างนั้น ดนีย์นาถอดรู้สึกไม่ได้ว่าคนพูดเหมือนจงใจประชดประชัน แต่ยังไม่ทันเห็นเหตุผลที่เจ้าตัวจะต้องประชดประชัน คนข้างๆ ก็ไวกว่า

คุณปภังกรก้มศีรษะ “ขอบคุณครั...

“เหม็น!

แม้แต่คุณชาโตบริยองด์ก็ยังหันขวับ

“คะครับ?

แขกทำหน้าย่น จมูกขยับฟุดฟิด ใบหน้าลอยตามมายังต้นตอกลิ่น ก่อนจะพบว่ามันคืออาหารที่ถูกปิดครอบอย่างดีบนรถเข็นที่ดนีย์นาถเข็นเข้ามา 

คุณเงินยวงเปิดฝา ควันหอมจากข้าวต้มโชยฉุย แต่เจ้าตัวไอแค็กแล้วรีบปิดคืน ตรงข้ามกับคุณชาโตบริยองด์ที่เดินกระมิดกระเมี้ยนเข้ามาพร้อมหางหมุนติ้ว

“ฉันไม่อยากกินของพวกนี้แล้ว!

“อ้าว!...” 

ก่อนที่ดนีย์นาถจะหลุดพูดอะไรต่อไป คุณบัตเลอร์ก็สะกิดแขนเธอด้วยศอกของเขา ครั้นเธอเหลือบมอง เจ้าตัวก็นำสายตาคุณเงินยวงไปทางอื่นโดยการโฉบสู่โต๊ะเขียนหนังสือ

“เรายังมีเมนูอาหารที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยครับ” 

“ไม่ต้องละ” แขกโบกมือปัด “ฉันอยากได้อะไรง่ายๆ”

“ถ้างั้นเป็น American Breakf...?

“ข้าวเหนียวหมูทอดน่าจะดี”

ดนีย์นาถเห็นคุณบัตเลอร์หลุดถอนหายใจเบาๆ ทั้งที่ยังยิ้มรับ “ผมจะโทร. แจ้งที่ครัวให้เดี๋ยวนี้”

เสียเวลาอีกหลายนาที เพราะแขกต้องการความมั่นใจจากในครัว ว่าหมูทอดที่สั่งจะเป็นหมูทอดเจียงฮายแท้ และข้าวเหนียวเป็นข้าวเหนียวเขาวงจากกาฬสินธุ์ 

ต่อเมื่อคุณบัตเลอร์วางสาย แขกจึงย้อนมายังเรื่องเดิม “เอาละ เรื่องโด ไหนว่ามาซิ”

คุณปภังกรกระแอมเล็กน้อยอย่างกับจะเพิ่มความเป็นพิธีรีตอง “ถ้าคุณเงินยวงต้องการใกล้ชิดกับคุณโดแบบมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เราเคยมีเคสของแขกสองรายที่มารู้จักกันที่นี่ เพราะความชอบคล้ายคลึงกันครับ ในที่สุดบัตเลอร์ของเราถึงกับต้องจัดทริปต่อไปที่กรุงเทพฯ ให้ทั้งสองท่านร่วมทางกัน ได้ข่าวว่าทุกวันนี้เธอทั้งคู่ยังติดต่อกันทั้งที่อยู่คนละซีกโลก แบบนี้ คุณเงินยวงเองก็จะไม่ต้องเสียเวลาปลอมเป็นแม่บ้านด้วย”

“แต่โดไม่ใช่คนที่จะชอบให้ใครแปลกหน้ามายุ่มย่ามกับเขานอกเวลางาน อีกอย่าง ถ้าเป็นแค่เพื่อนร่วมทาง ฉันก็จะไม่มีโอกาสเข้าไปชมห้องของเขาอยู่ดี”

“แม่บ้านเข้าไปในห้องแขกได้ก็จริง แต่โดยปกติจะเข้าไปเพื่อทำความสะอาด มันต้องเป็นช่วงที่แขกไม่อยู่ห้องนะคะ” ดนีย์นาถออกความเห็นบ้าง

คุณเงินยวงหันมายิ้มหวานให้เธออีกครั้ง “นั่นก็เป็นหน้าที่ของเธอคนใดคนหนึ่ง ที่จะต้องคอยกันเขาไว้ไงล่ะจ๊ะ”

“งะงั้นดิฉันขอรับหน้าที่พาคุณเงินยวงทัวร์ห้องคุณโดเองค่ะ!” 

ความกระตือรือร้นของเธอ เรียกสายตาเขียวๆ จากคุณปภังกร

ดนีย์นาถคอย่น รู้ตัวว่าพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแฟนเก่ามากเกินไปจนออกนอกหน้า 

กระนั้นคุณเงินยวงผู้คาดเดาได้ยากกลับบอก “เธอรอบคอบดีจ้ะที่รัก ก็ในเมื่อโดไม่ได้ต้องการบัตเลอร์ มันคงแปลกถ้าจู่ๆ คุณพังจะไปโผล่ในห้องเขา”

“ผมเพิ่งนึกได้ครับ” คุณปภังกรชิงซีนคืนไปบ้าง “เคยมีเคสที่แม่บ้านเป็นที่โปรดปรานของแขกมาก แขกถึงกับเรียกหาเองตลอดเลยละครับ”   

“ทำยังไง!

“อ้อ” คราวนี้คุณพังดูสีหน้าพังลงจริงๆ “ส่วนใหญ่จะเป็นแขกวัยชรากับเด็กน่ะครับ แม่บ้านมีโอกาสดูแลคนเหล่านี้ได้มาก ถ้าหากเป็นแขกผู้ชายวัยหนุ่ม จะเป็นทำนองเรียกรูมเซอร์วิซมาเติมเหล้า”

“เห็นได้ชัดว่าโดไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง” คนพูดยิ้มหวานยิ่งกว่าที่ยิ้มให้ดนีย์นาถ มันอ่านได้ว่า แล้วคุณจะพูดขึ้นมาทำไม! 

ทั้งที่ยังคอแข็ง คางเชิด แต่หญิงสาวรู้สึกได้ว่าดวงวิญญาณของคุณปภังกรกำลังคอย่นตามรอยเธอ 

คุณเงินยวงไม่อินัง เจ้าหล่อนหันกลับเข้าหาเงาในกระจก แตะนิ้วชโลมครีมบนใบหน้า เสียงพูดอู้อี้ไปมาเพราะคนพูดต้องขึงหน้าไปทิศนั้น ทิศนี้ระหว่างนวดครีม 

“เผื่ออานอ้านที่ทำมาจะยังไม่ช่วยให้อ้วกเออมีข้อมูลเชิงลึกอะไอเกี่ยวกับโดเลยนะจ๊ะ เขาเอ็นอนถ่อมตัว...

เปล่า โดแค่พยายามจะทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาถ่อมตัว

“ชอบตุ๊กตาสัตว์ทุกชนิด...

โดรำคาญสัตว์ทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่เมื่อมันเป็นตุ๊กตา

“นั่นทำให้เขาชอบกินผัก รักธรรมชาติ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมจนเลือกเป็นพรีเซนเตอร์เฉพาะสินค้าที่มีคาร์บอนฟุตพรินต์ ต่ำๆ”

เราเป็นคนบังคับให้โดทำอย่างนั้น เพราะชื่อเสียงของเขาจะช่วยเป็นกระบอกเสียงเรื่องนี้ได้ดี 

“ว่าไง” คุณเงินยวงหันมาเลิกคิ้วอันเป็นเส้นคม ขณะนี้ใบหน้าของเจ้าหล่อนมันเลื่อม “พอจะได้ไอเดียอะไรบ้างรึยัง ติ๊กตอก”

มันคงจะดีกว่าจริงๆ ละ ถ้าบอกโดไปตรงๆ ว่าเรากำลังทำอะไร เผื่อเขาจะได้หาทางช่วย...

คิดได้เท่านั้น ดนีย์นาถก็อยากจะสั่นหัวแรงๆ 

บ้า! จะไปยุ่งกับเขาทำไม มันจะง่ายกว่าถ้าโดไม่โผล่มาที่นี่ต่างหาก!

ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว เธออุตส่าห์รอสายอาภพตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึงป่านนี้ แต่โทรศัพท์ไม่มีวี่แววว่าจะกระดิก

ความรู้สึกตัวหวนคืนเพราะเสียงกริ่งในห้องดังขึ้น คนกดแจ้งว่าเป็นรูมเซอร์วิซ เท่านั้นคุณเงินยวงก็เบิกตา เธอกระซิบกระซาบร้อนรนราวกับว่ามีคนตามฆ่า “ตามแผนของเรา ฉันจะให้เขาเห็นตัวไม่ได้!

“ดิฉันเองค่ะ” เธอสบตากับคุณปภังกร ก้มศีรษะอย่างรู้หน้าที่ รีบก้าวไปเปิดประตูห้องโดยให้ช่องแคบที่สุด ใช้ตัวเองบังคนในห้องไว้ให้มากที่สุด จากนั้นจูงใจให้พนักงานส่งอาหารเดินถอยหลังห่างออกไปแถวสระว่ายน้ำ ตรวจสอบว่าอาหารที่สั่งถูกต้องแล้ว จึงรับถาดเดินกลับมายังประตูห้องพัก 

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป ปลายหางตาเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนผ่านที่หาดด้านหน้า 

คามินทร์! เขาคงออกมาจ็อกกิงตอนเช้า 

จากเหตุการณ์เมื่อวานในห้องผู้ชายคนนั้น ดนีย์นาถได้คำตอบแล้วว่าเป้าหมายระวังตัวกว่าที่คาด ไม่มีเอกสารกระดาษอะไรสักแผ่นให้เธอตรวจจับได้ ข้อมูลทั้งหมดอาจกำลังลอยอยู่ในคลาวด์ หรือในสมาร์ตโฟนของเขา และนั่นหมายความว่าเธอแทบจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึง

ตอนนี้ คนเดียวในเวียงอวัศย์เกาะช้างรีสอร์ตที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ ก็คือเขา!

นั่นเองทำให้เธอคิดแผนการอีกอย่างเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน 

เราเคาะข้อมูลออกจากหัวเขาไม่ได้ แต่เราอาจพอจะล้วงความลับให้เขาหลุดปากออกมาเองได้! 

สิ่งที่เธอต้องการ เป็นเพียงโอกาสที่จะได้ คุย กับคามินทร์เท่านั้น!

ดูเหมือนง่าย แต่ความง่ายกลับยาก เพราะเธอติดกาวเหนียวของคุณเงินยวง เจ้าหล่อนไม่ยอมให้เธอพ้นสายตาแน่ จนกว่าจะได้คำตอบที่ต้องการ ว่าจะสามารถเข้าใกล้โดได้อย่างไร

เสียงกลิ๊ก! ของตัวล็อกตรงประตูห้องดังขึ้นพร้อมตัวล็อกในสมอง ดนีย์นาถแทบจะขนลุกไปทั้งตัว 

เธอนึกออกแล้ว!


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น