3

บทที่ 3


 

3

 

คีริลล์ก้าวเข้ามาในห้อง 519 และยืนนิ่งเมื่อภายในห้องนั้นมืดมิด พอปรับสายตาเข้ากับความมืดได้ เขาก็เห็นเรือนร่างอวบอิ่มนอนระทวยอยู่บนเตียง มุมปากเขายกยิ้ม เดาะปลายลิ้นอย่างสนุก เขากับวาเรียใช่ว่าไม่เคยทำกิจกรรมหวามแบบนี้

กระดุมเสื้อถูกปลดระหว่างเดินไปที่เตียง เขาก้าวขึ้นไปแล้วนั่งคร่อมเรือนร่างที่บิดไปมาราวกับถูกเปลวไฟเผาผลาญ

“ทำผมร้อนแล้วหนีมานอนแบบนี้ ไม่ค่อยแฟร์นะ” เขาแกล้งว่าแล้วก้มลงหาซอกคอหอม

“เปลี่ยนน้ำหอมรึ” ชายหนุ่มชวนคุย กลิ่นของวาเรียในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อครู่ หรือว่าเธอจะอาบน้ำรอ ชายหนุ่มคิดแล้วยิ้มกว้าง เพราะเธอรู้ใจเขาและไม่วุ่นวายนี่ละทำให้เขาตัดสินใจมาตามคำเชิญ รู้ว่าวาเรียไม่ใช่ผู้หญิงที่จะดื้อรั้นเรียกร้องเกินขอบเขตคู่ควง เสร็จกิจบนเตียงก็ตัวใครตัวมัน บางทีเขาก็คิดว่าวาเรียมีผู้ชายที่เธอต้องการอยู่แล้ว เขาอาจเป็นแค่รายทางของเธอ เขาให้งานเธอ เธอให้ความสุขบนเตียงแก่เขา เป็นหนึ่งธุรกิจที่เขาชอบทำกับนางแบบสาว

ชายหนุ่มแนบริมฝีปากลงบนไหล่เปลือย เหมือนวาเรียจะพร้อมสำหรับเขา หญิงสาวบิดกายเมื่อฝ่ามือหนากอบกุมอกอิ่ม ในเมื่อเธอปลุกความต้องการแล้วเดินหนี เขาก็จะแกล้งให้เธอรวดร้าวบ้าง

คีริลล์เอื้อมมือไปคล้ายจะกดเปิดไฟหัวเตียง แต่เปลี่ยนใจไม่มองหน้าวาเรียดีกว่า ลองจินตนาการเป็นผู้หญิงที่หนีไป ‘นาถลัดดา’ น่าจะทำให้กิจกรรมบนเตียงคืนนี้สนุกสุดเหวี่ยง

“อือ...” ร่างบางใต้ผ้าห่มผืนหนาครางอย่างหงุดหงิด เมื่อตอหนวดครูดไต่แถวเนินอกอวบอิ่มสร้างความร้อนวาบหวาม ยิ่งยามที่ปลายลิ้นตวัดตรงเม็ดชมพูเข้ม แผ่นหลังบางยิ่งโค้งแอ่น แต่พอเด้งตัวหนีกลายเป็นยัดยอดอกให้ปลายลิ้นเรียวได้สัมผัสแนบชิดยิ่งขึ้น

ร่างกายเธอร้อนและเจ็บหน่วงคล้ายว่ามีไฟสุม ทรมานจนอึดอัด แต่พอถูกสัมผัสกลับเรียกร้องอยากให้คนบนร่างทำมากกว่านี้ ช่วยให้อาการอึดอัดนี้ได้แตกซ่านเสียที อาการคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนฝันนี่ช่างทรมานเสียเหลือเกิน เธออยากปลดปล่อย คนกำลังคิดว่าฝันพึมพำกับตัวเอง บิดกายดิ้นเร่าหาท่านอนที่จะช่วยบรรเทาความทรมาน

“ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเหรอ” เสียงกระซิบพร่าดังข้างใบหูที่เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปตวัดจนคนร่างบางส่งเสียงคราง

“อือ...” เสียงเธอแผ่วเหมือนกำลังฝันว่ามีชายหนุ่มเข้ามาโรมรัน และในความฝันเธออยากให้เขาช่วยบรรเทาความปวดร้าวกลางร่าง อยากให้มือเขาแตะสัมผัสเน้นหนัก ความร้อนวูบวาบนี้จะได้หายไปเสียที พอคิดได้เช่นนั้นมือบางก็คว้ามือที่คลึงนวดอกอวบแล้วจับลูบไปตรงจุดที่เธอกำลังปวดและร้อนผ่าวราวไฟเผา นี่คือความฝันที่เหมือนจริงมาก...นาถลัดดาคิดขณะพลิกตัวขยับให้มือนั้นได้ช่วยลดความรวดร้าวในกายนี้

เจ้าของฝ่ามือยิ้มชิดเนินอกเธอ แล้วถูสันจมูกลากยาวตั้งแต่เนินอกมายังลำคอแล้วกดเน้น สูดกลิ่นหอมแปลก รู้สึกสดชื่นยามได้ดอมดม ไม่น่าเชื่อว่าสบู่ที่วาเรียใช้จะล้างกลิ่นกายสาวกร้านโลก ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ากำลังนอนกับสาวบริสุทธิ์

                “ร้อน อือ...” คนร่างบางพูดเสียงแผ่ว พร้อมกดฝ่ามือเขากับหน้าท้องแบนราบที่เปล่าเปลือย

คีริลล์คิดว่าวาเรียเตรียมพร้อมเสมอ ไม่ต้องให้เขาเสียเวลาปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอ แล้วเขาจะเสียเวลาทำไม ชายหนุ่มยืดตัวแล้วดึงเสื้อออกจากกายก่อนเหวี่ยงไปทั่ว และมีบางชิ้นไปตกบนโต๊ะเครื่องแป้ง

                ชายหนุ่มก้มหน้าลงหาเรียวปากบางแล้วมอบจูบหวามแบบที่เคยทำ ไม่มีความนุ่มนวล เขาจูบเพื่อเรียกร้องและปลุกเร้า แต่เขารู้สึกถึงความแปลกประหลาด...เหมือนวาเรียจูบไม่เป็น ทว่าเธอตอบรับเขาคล้ายกับหิวโหย กินอย่างตะกละตะกราม

                “ไม่ต้องปลุกเร้าให้เสียเวลา ของเคยๆ” มือที่บีบขยำเคล้นทรวงอกเลื่อนมาจับสองขาเรียวแล้วดันขึ้นสูง เปิดช่องว่างให้เขาพาตัวเข้าไปอยู่ตรงกลาง ชายหนุ่มใช้เข่าทรงตัวแทนที่มือแล้วลูบเนินเนื้ออวบอิ่มเบาๆ ก่อนจะกรีดกลางเกสรนารีด้วยนิ้ว

                “อา...” เสียงครางดังลั่นเมื่อปลายนิ้วแกร่งค่อยๆ แทรกเข้าสู่ใจกลางเกสร

คนฟังยิ้มเหี้ยมแล้วสอดแทรกเข้าไปสุดนิ้ว

                “อื้ม!”

เหมือนการกระทำของเขาทำให้วาเรียเจ็บ...ชายหนุ่มคิด แต่คนที่โชกโชนอย่างวาเรียหรือจะเจ็บ นี่อาจเป็นมารยากระตุ้นให้เขาต้องการมากกว่า

                “หึๆ แสดงเก่งจังเลยวาเรีย เราสองคนเล่นเกมขี่ม้ากันมากี่รอบแล้ว”

เขาพูดขณะที่ปลายนิ้วก็สอดแทรกตามจังหวะที่คนร่างบางสะดุ้งบิดกายอย่างทรมาน มือบางเลื่อนมาจับข้อมือเขาตรงจุดสอดประสาน แต่ถูกคีริลล์ดึงรวบไว้ ความฉ่ำเยิ้มมากขึ้นจนคีริลล์ถอนปลายนิ้วแล้วเลื่อนสองมือไปกุมอกอวบ ขณะที่อาวุธของเขาจ่อเข้าหารวงผึ้งที่กลั่นน้ำหวานเอ่อพร้อมรับการสอดประสาน

                “โอ๊ย! ฉันเจ็บ ออกไป!”

เสียงกรีดร้องดังลั่น เมื่อเนื้อกายแกร่งสอดแทรกอย่างแรงและสุดปลาย คนที่ปวดร้าวเพราะความอึดอัดราวมีอารมณ์บางอย่างสะสมไว้เกินจะเก็บกักจึงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ดวงตาหวานเบิกกว้าง นี่ไม่ใช่ความฝัน สองมือของเธอทุบกำแพงเนื้อที่แนบชิดอกอวบ พอมันไม่ขยับก็เปลี่ยนเป็นวางฝ่ามือแล้วกรีดปลายเล็บลากตามแผ่นหลังของเขายามรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเพียงแค่ชายคนนั้นขยับกาย อารมณ์วาบหวามก็แตกซ่าน ภายในกายที่อึดอัดเบาโหวงคล้ายกับว่าความร้อนวูบวาบสลายหาย เหลือไว้เพียงอารมณ์หวามที่ช่วยให้เธอผ่อนคลาย ไม่ทรมานเหมือนเมื่อครู่ แต่นี่มันไม่ถูกต้อง เธอหายจากอาการอึดอัดและร้อนผ่าวเพราะมีใครบางคนสอดประสานร่างกาย ความสาวของเธอกำลังถูกฉีก

                ไม่ใช่แค่นาถลัดดาที่ตกใจ คีริลล์เองก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดนั้น ‘บัดซบ’ คือคำที่ชายหนุ่มสบถในใจ ใต้ร่างเขาไม่ใช่วาเรียแน่นอน แล้วเป็นใคร ชายหนุ่มอยากจะถอดถอนกาย แต่เขาทรมานเกินกว่าจะทำเช่นนั้น เขาซบนิ่งเพื่อให้สาวใต้ร่างได้ปรับตัว มือก็เลื่อนมากุมอกแล้วขยำอย่างแรง บีบเน้นจนคนร่างบางส่งเสียง และเพียงไม่นานเจ้าของเอวบางก็ขยับกายจนตัวตนของเขาที่แช่นิ่งร้าวรานหนักเพราะถูกภายในของเธอตอดเม้ม

                “อื้อ!” เขาคำรามลั่น อยากเปิดไฟเพื่อดูหน้าหญิงสาว แต่ถ้าทำเช่นนั้นเกมสวาทนี้อาจสะดุด ชายหนุ่มขอปลดปล่อยให้เสร็จสิ้นแล้วค่อยว่ากัน

                ร่างที่นอนนิ่งขยับกายทำให้ฝ่ามือที่อยู่บนแผ่นหลังเขาหยุดกรีดปลายเล็บ เปลี่ยนเป็นลูบไล้แล้วยึดแผ่นหลังเขาไว้เมื่อชายหนุ่มทำเหมือนจะถอนตัว

                “ไม่ต้องห่วง ยังไม่เสร็จ ไม่ถอยแน่” เขาคำรามเสียงต่ำเมื่อมือทั้งสองของหญิงสาวกดสะโพกเขาแน่น

                คีริลล์ไม่คิดอะไรอีกแล้ว เขาสอดประสานอย่างหนักหน่วง ไม่สนใจด้วยว่ารวงผึ้งนี้ยังไม่มีภมรตัวใดได้เข้าไปชิมลิ้มรสหวาน เพิ่มแรงโรมรันหนักหน่วงตามความร้าวระบมที่อยากปลดปล่อย และสาวที่นอนบิดกายตอนนี้ก็ตอบสนองเขาเหมือนเธอเองก็อยากระบายบางอย่างออกมา

                ร่างกายเธออาจบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่การเรียกร้องของเธอคล้ายกับสาวที่ผ่านประสบการณ์ ซึ่งหญิงสาวจะมีอารมณ์แบบนี้ได้มีเพียงอย่างเดียว...เธอโดนวางยา วาเรียเล่นงานเขาเสียแล้ว

                แรงเสียดสีสร้างความหวามตีตื้นจนหน้าอกอวบยกสูงขึ้นจากที่นอน ก่อนจะทิ้งตัวหมดเรี่ยวแรงยามที่อารมณ์หวามแตกซ่านทั้งกาย

                “อื้ม!” ชายหนุ่มยังคงควบม้าอย่างเร็วรี่ กระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงเพื่อตามไปแตะขอบฟ้า หลังส่งหญิงสาวถึงฝั่งฝัน

                เธอเหนื่อยเหลือเกิน นี่คือความคิดสุดท้ายก่อนที่นาถลัดดาจะหลับตาแน่นิ่ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เธออยากหลับเพื่อฝันต่อ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง ดวงตาหวานค่อยๆ หลับพริ้ม เธอเหนื่อยกายเมื่อชายในเงามืดปลุกเร้า แถมสารอะไรบางอย่างในเครื่องดื่มนั่นก็กระตุ้นให้เธออยากพัก เธอไม่ควรดื่มของมึนเมาเลย

                เมื่อลมหายใจกลับมาเป็นจังหวะเบา ไม่ถี่รัวเหมือนตอนที่เขาส่งตัวเองปีนขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด คีริลล์ก็ผงกหัวขึ้นจากอกอวบอิ่ม มือหนาเคลื่อนไปที่โคมไฟแล้วกดเปิดด้วยใจระทึก

                “นาถลัดดา” เขาคิดว่าเสียงของตัวเองดัง แต่มันกลับแผ่วเบาเหลือเกินเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าหญิงสาวที่นอนสลบสิ้นเรี่ยวแรงใต้ร่างแกร่ง

                เขาขบสันกรามดังกรอด วาเรียเล่นแรงไปแล้ว เขาคิดอย่างดุเดือด แต่พอเห็นอกอวบกับเรือนร่างที่เคยสะอาดก็ยิ้มกริ่ม มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ ที่เขายังได้เจอหญิงสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง แถมทุกอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบยังเจออยู่ในร่างกายนางแบบสุดเซ็กซี่ ที่เดินแบบโชว์เรือนร่างเกือบเปลือยมาหลายงาน ภาพถ่ายที่เขาเคยเห็นก็สุดจะบรรยายว่ามันวาบหวิวแค่ไหน

                “เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวนาถลัดดา”

ชายหนุ่มก้มกระซิบข้างใบหูเธอแล้วไล้ริมฝีปากไปตามแก้มเนียน อยากจะชิมรสหวานของกายสาวอีกสักครั้ง แต่เขาจะกลายเป็นวายร้ายแสนชั่วที่ลักหลับคนสลบ

                “ยังมีเวลา คุณหนีไม่พ้นแล้ว คุณเป็นของผม”

 

                อิวานอฟ คาริน หันใบหน้าคมสันมองรอบกาย เขานั่งรอภายในที่พักของสายการบินมาร่วมครึ่งชั่วโมง เห็นผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาในท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ แต่ไม่มีแววว่าญาติสาวจะปรากฏตัว โทร. เข้าโทรศัพท์มือถือก็ไม่รับสาย ซึ่งมันผิดปกติไม่น้อย แต่ไม่รู้จะตามหาตัวนาถลัดดาได้จากที่ไหน

                “หายไปไหนนะแนนนี่ ตกลงจะไปเมืองไทยกับพี่ไหม” ชายหนุ่มพึมพำขณะยกนาฬิกาดูเป็นรอบที่สิบ วันนี้เขาต้องเดินทางไปดูงานที่ภูเก็ต รีสอร์ตที่นั่นกำลังจะเปิดตัว ชายหนุ่มไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดจึงต้องไปดูด้วยตัวเอง และเอ่ยชวนนาถลัดดาไปกับเขาเพราะอยากกล่อมน้องสาวให้เลิกทำงานในวงการนางแบบแล้วกลับมาเรียนรู้งานของตระกูล แม้ว่าลุงโบริสจะไม่พูดตรงๆ ว่าให้เขาทำเช่นนี้ แต่สายตาท่านบอกหลายครั้ง ท่านเริ่มเอ่ยถึงบุตรสาวที่ไม่เคยพูดถึงมาสิบปีถี่ขึ้น เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะสานรอยร้าวระหว่างสองพ่อลูก

                “ถ้าเธอไม่ปรากฏตัวภายในห้านาทีนี้ พี่จะไม่ตามแล้วนะ โทร. จนมือหงิกแล้ว”

               

                คนที่อิวานอฟกำลังนึกถึงค่อยๆ กะพริบตา รู้สึกปวดร้าวและเพลียไปทั้งร่าง ดวงตากลมโตมองเพดานห้องอันคุ้นเคย พยายามจะขยับตัว แต่เหมือนมีของหนักทับตั้งแต่เอวลงไปถึงต้นขา

                หัวใจสาวเต้นตึ้กตั้ก ลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นเพียงแค่เห็นท่อนแขนวางทาบทับ ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายเธอยังไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น มันเกิดอะไรขึ้น ดวงตากลมโตกะพริบถี่ไล่หยดน้ำที่เอ่อคลอ นาถลัดดาไม่กล้าหายใจแรง กลัวคนหลับสนิทด้านหลังจะตื่น ซึ่งนั่นคงไม่ดีต่อตัวเธอ

หญิงสาวค่อยๆ ยกลำแขนเขาออกอย่างแผ่วเบา พอขากับแขนเคลื่อนห่างออกไปเธอก็กระเถิบหนีห่าง เธอตัวสั่นเพราะแรงสะอื้นที่ไม่มีเสียง ร่างกายรวดร้าวอย่างทรมาน แต่นั่นน้อยมากเมื่อเทียบกับหัวใจ ไม่มีอีกแล้วความภาคภูมิใจ ไม่เหลืออีกแล้วศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง แต่ใครกันเล่าที่ทำร้ายเธอได้ขนาดนี้

                ความเข้มแข็งที่เหลือน้อยนิดผลักให้เธอมีความกล้า หญิงสาวค่อยๆ หันมองใบหน้าคนที่หลับสนิทบนเตียง

                “...” เธอยกสองมือขึ้นปิดปาก กลัวเสียงเคืองแค้นจะหลุดไปปลุกวายร้ายคนนั้น

                ร่างกายที่ถนอมมาตลอดยี่สิบห้าปีต้องเปื้อนราคีเพราะผู้ชายโอหังที่นอนหลับสนิท สิ้นเรี่ยวแรง ความบอบช้ำและรวดร้าวช่างทรมานเวลาก้าวเดิน แต่เธอต้องหนีจากที่นี่ก่อนซาตานร้ายจะตื่นมาทำร้ายซ้ำ เจ็บแต่ก็ฝืนทน กว่าจะสวมเสื้อผ้าเสร็จเธอต้องเสียน้ำตาไปหลายหยด

                ไม่คิดเลยว่าคีริลล์จะหักหาญน้ำใจได้เช่นนี้ เธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องการตัวเธอ เขาประกาศผ่านสายตาชัดเจนตั้งแต่แรกพบสบตา แต่เธอเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ มารดาต้องสิ้นลมเพราะผู้ชายมากรักมาแล้ว เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นเหมือนท่าน จึงพยายามหนีสายตาปรารถนาของเขามาตลอด และคิดว่าการต่อต้านอย่างชัดเจนของเธอจะทำให้เขาเลิกสนใจ แต่เปล่าเลย การหยุดไล่ตามนั้นเป็นเพียงกลเล่ห์ วางหมากให้เหยื่ออย่างเธอตายใจ ถ้ารู้ว่าคีริลล์อยู่ในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี เธอจะไม่ลงไปร่วมงานเด็ดขาด แต่คิดได้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว ร่างกายเธอถูกเขาตักตวงจนหมดสิ้นความบริสุทธิ์

                แต่เธอจะโทษเขาทั้งหมดก็คงไม่ถูก ต้องโทษตัวเองที่เผลอไปดื่มน้ำเมา ทั้งที่เคยปฏิญาณกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่แตะต้อง เธอทำให้ชีวิตตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง คิดแล้วน้ำตาก็รื้นขอบตา นางแบบสองคนนั้นบอกจะดูแลเธอ แต่สุดท้ายแล้ว...ก็ไม่มีใครจริงใจกับเธอสักคน

                เธอเยื้องกรายอย่างแผ่วเบา หวั่นกลัววายร้ายจะตื่นมาตักตวงซ้ำ แค่นี้ชีวิตที่เคยภาคภูมิใจก็หมดสิ้น ไม่อาจเชิดหน้าสูงเหนือกว่าสาวคนอื่นได้  

                “ช่างมัน ฉันจะลืมทุกอย่าง ลืมให้หมด” หญิงสาวบอกตัวเองก่อนจะเก็บข้าวของทุกอย่างออกจากห้อง 519

                นาถลัดดาต้องแปลกใจเป็นครั้งที่สองเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องพักที่นอนร่วมกับวาเรีย เพราะในห้องนั้นว่างเปล่า พอโทร. ไปสอบถามหน้าฟรอนต์ ก็ได้คำตอบว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอเช็กเอาต์ไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว แต่ก็ดี ถ้าวาเรียยังอยู่ เธอจะอธิบายอย่างไรถ้าวาเรียถาม หากใครรู้ว่าเธอไปนอนกับคีริลล์ ซาโกเยฟคงได้วุ่นวาย ถูกเอเดียน่าตามมาฉีกอก พอกันที

                สิ่งที่นาถลัดดากลัวจะไม่เกิดขึ้น วาเรียจะไม่ถามว่าเธอหายไปไหนมาและไปกับใคร เพราะหญิงสาวเข้าไปเห็นภาพทั้งสองนอนกอดกันเปลือยเปล่าเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วพร้อมกับเก็บกล้องที่ติดไว้ นางแบบสาวมีคีย์การ์ดเข้าห้อง 519 เพราะเป็นคนเปิดห้องเอง เมื่อเสร็จสิ้นแผนการก็หนีไปอย่างลึกลับ รอจังหวะจัดการมารหัวใจ

 

                นาทีสุดท้ายก่อนที่อิวานอฟจะเดินออกจากจุดนัดหมาย ร่างคุ้นตาก็ค่อยๆ ปรากฏชัดตรงหน้า ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพญาติสาว

                “เมื่อคืนฉลองหนักหรือไง สภาพถึงได้เป็นแบบนี้” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองสำรวจใบหน้าที่ซีดเซียวของนาถลัดดา

                “เปล่าค่ะ ไปขึ้นเครื่องเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” เธอปฏิเสธแล้วย่นคอ กลัวว่ารอยรักจะเด่นชัดจนสายตาสงสัยของพี่ชายพบเจอ

                “ก็เพราะใครมาสาย” อิวานอฟบ่นอย่างหงุดหงิด เขาก้มหยิบกระเป๋าและเดินนำหน้าน้องสาว จึงไม่ได้มองสำรวจร่องรอยบนร่างกายนาถลัดดา ซึ่งนั่นทำให้เธอรอดพ้นการถูกสอบสวน

ติ๊ด...ติ๊ด...โทรศัพท์มือถือของอิวานอฟดังระหว่างที่เดินเข้าไปในประตูสำหรับผู้โดยสารขาออก นาถลัดดาเห็นพี่ชายหยิบดูแล้วกดตัดสาย

“ไม่รับหรือไง เราไม่ต้องรีบก็ได้”

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ พี่ไม่อยากคุยกับใครตอนนี้ เดินตามมาเร็วๆ” อิวานอฟตอบแล้วเรียกน้องสาว เร่งให้เดินตาม

“พี่มีเรื่องปิดบังแนนนี่หรือเปล่า ถอนใจหลายรอบแล้วนะ” เธอเอ่ยถามระหว่างรอคิวเช็กเอกสารก่อนขึ้นเครื่อง

“เปล่า อย่าคิดมากน่า พี่ไม่เคยมีความลับกับเราหรอก เฮ้อ...บอกตรงๆ ตอนนี้พี่ไม่อยากมองหน้าเราเลย ถ้าการทำงานกับแองเจิ้ลแล้วสภาพร่างกายหลังเสร็จงานเป็นอย่างนี้ พี่ไม่อยากให้เราทำ”

“เอ่อ...”

ทุกคำพูดจุกอยู่ตรงลำคอ เธอจะบอกได้อย่างไรว่าการทำงานกับแองเจิ้ลไม่ได้หนักหน่วงจนทำให้เธอมีสภาพเช่นนี้

               

                ร่างที่หลับสนิทค่อยๆ ขยับ เขาวาดมือไปทางด้านที่นาถลัดดานอนหลับ แต่แทนที่จะได้สัมผัสเรือนร่างอวบอิ่ม กลับมีเพียงความว่างเปล่าจนต้องลืมตามองหา

                “แนนนี่ คุณอยู่ไหน” เขาส่งเสียงเรียกแล้วเดินตามหาหญิงสาวทั้งที่ร่างกายเปล่าเปลือย เมื่อคืนเขามีความสุขมาก ทุกอย่างสุดแสนวิเศษจนอยากโอบกอดเรือนร่างอวบอิ่มอีกครั้ง

                “ไปไหน หรือหนีไปแล้ว ไม่หรอกน่า ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนหนีจากเตียงของแก คีริลล์”

คนโอหังอวดดีเอ่ยอย่างยโส แต่ไม่ว่าจะมองหามุมไหนของห้องสูทสุดหรูแห่งนี้ก็ไม่พบนางแบบสาว ซึ่งควรอยู่เรียกร้องค่าเสียหายจากมหาเศรษฐีอย่างเขา

                คีริลล์ไม่รู้หรอกว่าเหตุใดสาวที่นอนบนเตียงในห้องนี้ถึงเป็นนาถลัดดา ไม่ใช่วาเรียอย่างที่นัดหมาย แต่แค่เธอตอบสนองและเรียกร้องเขาอย่างหิวโหยนั่นก็ทำให้ทุกเหตุผลที่ควรตรึกตรองจางหาย มีเพียงแค่ว่าเขามีความสุขมากเมื่อได้ครอบครองหญิงสาวที่หมายปอง และที่สำคัญ เขาคือคนแรก และต้องเป็นคนเดียวของเธอด้วย

                หน้าหล่อเริ่มบูดบึ้ง นั่นไม่ใช่เพราะนาถลัดดาทำแตกต่างจากสาวอื่น แต่เป็นเพราะเขาอยากสัมผัสเธออีกครั้ง คืนเดียวรู้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่ม แค่คิดถึงความแน่นกระชับบีบรัดกายก็ร้อนเร่า อยากปลดปล่อย ซึ่งต้องเป็นนาถลัดดาคนเดียวเท่านั้น

                “หนีให้เหนื่อยเปล่าๆ นาถลัดดา ผมไม่อิ่ม คุณไม่มีสิทธิ์ถอยห่าง คุณเป็นของผม” คนไม่เคยได้ครอบครองสาวบริสุทธิ์เริ่มหวงร่างกายที่ได้เป็นอาจารย์สอนรัก

                “อังเดร แกอยู่ไหน ตามหาตัวนาถลัดดาให้ฉันเดี๋ยวนี้ เออ! เมื่อคืนฉันอยู่กับนาถลัดดา แต่หนีไปตอนไหนไม่รู้ เร็วๆ เลย ฉันต้องเจอตัวหล่อนก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”

                ชายหนุ่มโทรสั่งคนสนิทและเชื่อมั่นว่าอังเดรจะสามารถพาตัวนางแบบสาวมาพบเขาในคืนนี้ได้ มั่นใจว่าอิทธิพลของเขาแผ่กว้างจนสามารถลากตัวนางแบบสาวคนนั้นเข้ากรงขังได้

                เมื่อสั่งงานลูกน้องเสร็จเรียบร้อยเขาก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวไปบริษัท ระหว่างกำลังติดกระดุมเสื้อมีข้อความเข้าทางโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มกดดูอย่างรวดเร็ว คิดไปว่าลูกน้องอาจส่งข่าว แต่ข้อความที่ส่งมานั้นเป็นของวาเรีย

                “ของขวัญจากฉันคงทำให้คุณมีความสุข อย่าลืมติดต่อหาฉันเมื่อคุณต้องการผลิตโฆษณารถรุ่นใหม่นะคะ”

                รอยยิ้มร้ายผุดตรงมุมปาก เขาประมาทความคิดผู้หญิงคนนี้เกินไป แววตาเว้าวอนที่สบจ้องนั้นคิดว่าเธอหวนมาเพราะอยากพบเขาบนเตียง ทว่ากลับมีแผนร้ายซ่อนอยู่ และแผนของเธอทำให้เขาสมหวังด้วยสิ เขาควรจะตอบแทนวาเรียอย่างไรดี

แต่เอาไว้ก่อน วาเรียรอเขาได้แน่นอน คนที่เขาต้องเร่งตามตัวนั้นคือนาถลัดดา ก่อนที่จะมีใครมาซ้ำรอย

 

                โรงแรมหรูตั้งเด่นอยู่บนเนื้อที่ไร่เศษ บริเวณชายหาดกะตะ หาดทรายขึ้นชื่อของภูเก็ต ตามจริงแล้วนักธุรกิจต่างชาติไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของธุรกิจในไทย แต่อิวานอฟมีมารดาเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย และที่ผืนนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากยายของเขา ทำให้ชายหนุ่มสามารถใช้ที่ดินซึ่งเป็นมรดกฝ่ายมารดาสร้างโรงแรมหรูสำหรับบริการนักท่องเที่ยวได้ ประกอบกับยายของอิวานอฟทำธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ได้เริ่มจากศูนย์

และเขาเป็นหลานคนเดียวที่มีชีวิตอยู่ ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มไม่คิดจะกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัวมารดาเนื่องจากญาติฝั่งยายโกงไปเกือบหมด แต่แล้วคนโกงก็ได้รับโทษ ประสบอุบัติเหตุตายพร้อมกันยกครัว เมื่อไม่มีทายาทคนอื่น ทุกอย่างจึงตกมาที่เขา ชายหนุ่มรู้เรื่องนี้เพราะทนายประจำตระกูลของยายโทรไปบอกเขาตอนอายุยี่สิบแปด จากกาฝากในบ้านยูราซอคอย่างที่ป้าสะใภ้ตั้งให้ จึงมีมรดกนับร้อยล้านรอคอยให้เขากลับมาพัฒนาต่อยอด

                “สวยไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อน้องสาวเอาแต่มองรอบกาย ไม่พูดไม่จา

                “สวยมากค่ะ พี่เอียนจะมาดูแลเลยหรือคะ แล้ว...”

นาถลัดดาหยุดปากเมื่อจะเอ่ยถึงบิดา ซึ่งเธอหนีจากมานับสิบปี ริมฝีปากบางเม้มแน่น นัยน์ตารวดร้าวมองเบี่ยงทางอื่น ไม่อยากให้อิวานอฟเห็นความอ่อนแอ

                “ใช่ พี่คงต้องลาออกจากโกลพรอมกรุ๊ป แนนนี่ พี่มีธุรกิจของตัวเอง คงอยู่ช่วยคุณลุงไปตลอดไม่ได้หรอกนะ ห่วงพ่อตัวเองก็กลับไปช่วยสิ ท่านกำลังเครียดอยู่ ไม่มีคนช่วยงาน”

เมื่อได้ทีชายหนุ่มก็รีบเรียกร้องความสงสารให้ลุง แต่เขาไม่ได้โกหกตอนนี้ตระกูลยูราซอคกำลังระส่ำระสาย เพราะโบริสไม่มีใครรับช่วงต่อ ลูกสาวคนเล็กก็เอาแต่เที่ยวเตร่ เรียนไม่จบ งานการไม่ทำ

                “ไม่ดีกว่าค่ะ งานของแนนนี่ก็มี” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง

                “เธอจะทำงานแบบนั้นไปอีกนานเท่าไหร่ มันไม่ได้สร้างความมั่นคงให้ตัวเธอเลยนะ นับวันเธอก็ยิ่งแก่ ไม่มีนางแบบคนไหนทำงานจนอายุหกสิบ กลับบ้านเถอะ คุณลุงรอเราอยู่” ชายหนุ่มพยายามกล่อม

                “แนนนี่ไม่อยากพูดเรื่องนี้”

                “ทำไม ยังไม่หายโกรธคุณลุงอีกเหรอ เรื่องราวมันผ่านมาเป็นสิบปีแล้วนะ ท่านแก่ลงทุกวัน อย่าให้ท่านเครียดนักสิ แค่โรนี่ไม่เอาการเอางาน เรียนไม่จบ ท่านก็เครียดมากพอแล้ว ให้อภัยคุณลุงเถอะ กลับบ้านเราเถอะนะ” อิวานอฟพยายามสอนและขอร้อง เขารักลุงและห่วงน้องสาวคนนี้ ไม่อยากให้ทายาทของตระกูลต้องทำงานแบบนั้น แม้งานเดินแบบจะสร้างรายได้จำนวนมากก็ตาม แต่ความเป็น ‘ยูราซอค’ ตระกูลเก่าแก่ มันไม่เหมาะสมที่คนในตระกูลจะไปทำงานเช่นนั้น และนาถลัดดาก็คงรู้ดี ถึงได้ใช้นามสกุลเก่าของแม่มาตลอด ไม่เปิดเผยตัวว่าเป็นลูกสาวคนโตของ ‘โบริส ยูราซอค’ ประธานโกลพรอมกรุ๊ป

                “สรุปแล้ว พี่ชวนแนนนี่มาที่นี่เพื่อหาโอกาสกล่อมให้แนนนี่กลับบ้านหรือคะ บอกเลยว่าไม่สำเร็จ ตอนนี้ชีวิตของแนนนี่ดีอยู่แล้ว มีงานมีเงิน เพียบพร้อมทุกอย่าง และอีกไม่นานแนนนี่จะเริ่มธุรกิจเครื่องประดับ”

                “ใช่ พี่อยากพาเรามากล่อม แต่เมื่อเรายังรั้นไม่ยอมให้อภัยพ่อตัวเอง พี่ก็จะไม่พูด” อิวานอฟหยุดกล่อม เพราะรู้นิสัยของนาถลัดดาดี ยิ่งดึงเหมือนยิ่งผลัก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

                “ถ้าอย่างนั้นก็แลกกัน แนนนี่มาดูโรงแรมให้พี่ แล้วพี่จะช่วยคุณลุงไปจนกว่าท่านจะหาคนมารับช่วงต่อได้ ซึ่งคงเป็นลูกเขยจากโรนี่ เห็นว่ากำลังวางแผนจะพาไปดูตัวกันอยู่”

                “เหรอคะ” เธอไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับข่าวการดูตัวของเวโรนิก้า น้องสาวต่างแม่ แต่สนใจเรื่องที่อิวานอฟเสนอ หากบิดาไม่มีชายหนุ่มอยู่ช่วยท่านคงเหนื่อยมาก ถึงไม่ช่วยดูแลตรงๆ ก็ขอดูแลท่านทางอ้อมแล้วกัน

                เธอไม่อยากกลับอังกฤษตอนนี้ แม้งานที่ทำจะสร้างรายได้จำนวนมหาศาล แต่จะมั่นใจได้อย่างไร ว่าคีริลล์จะหยุดรังควาน เธอไม่พร้อมรบกับเอเดียน่า ผู้หญิงคนนั้นร้ายลึกแค่ไหนเธอรู้ดี นางแบบอดีตคู่ควงของคีริลล์เล่าให้ฟังบ่อยๆ เหมือนเอเดียน่าจะยอมรับที่คู่ควงตัวเองมีสาวอื่น แต่เปล่าเลย ถ้าเป็นนางแบบที่อิทธิพลของเอเดียน่าเอื้อมถึง หล่อนจะกดดันจนนางแบบพวกนั้นต้องยอมถอยห่างจากคีริลล์ ถ้าแค้นคนไหนมากเป็นพิเศษก็บดขยี้จนหมดอนาคตอย่างกรณีของคาเรน หากทายาทบอนนี่รู้ว่าคีริลล์วุ่นวายสานสัมพันธ์กับเธอ คงไม่ต้องคาดเดาว่าอาชีพนางแบบของเธอนั้นจะจบแบบไหน เธอไม่อยากเสียทั้งตัวและอนาคตอย่างคาเรน

                “ขอให้โรนี่ได้สามีที่เก่งและขยัน จะได้ช่วยคุณโบริสบริหารบริษัท” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ

                “เฮ้อ...” อิวานอฟแกล้งถอนใจแรง และมองหน้าน้องสาวที่ผินมองไปทางอื่น

                “แนนนี่สนใจข้อเสนอของพี่” เธอควรหลบอยู่ที่ประเทศไทยสักพัก เพื่อคิดตรึกตรองเกี่ยวกับอนาคตตัวเอง หากว่าคีริลล์หมดความปรารถนาในเรือนร่างที่ได้ครอบครอง เขาคงไม่ตามติดสร้างเรื่องให้เธอถูกเอเดียน่าโกรธเคือง การงานของเธอก็ไม่สะดุด

                คนฟังตาเป็นประกายเมื่อได้ยิน แม้จะรู้ว่านาถลัดดายังไม่ให้อภัยบิดา แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

                “แนนนี่จะดูแลโรงแรมนี้ให้พี่เอง”

                “พี่จะยอมให้เธอดูแลโรงแรมนี้ แต่เธอต้องไปประชุมกับทีมบริหารที่มอสโกก่อน” สมองของอิวานอฟเต็มไปด้วยแผนการ

                “แนนนี่ไม่อยากไปมอสโก ทำไมต้องไปประชุมก่อนทำงาน” หญิงสาวจับจ้องนัยน์ตาพี่ชาย หาร่องรอยโกหก แต่อีกฝ่ายทำตาใสซื่อจนไม่เห็นพิรุธ

                “ก็เพราะแผนงานต่างๆ และนโยบายบริหาร ต้องประชุมกับผู้บริหารคนอื่นๆ คุณลุงเป็นที่ปรึกษาของบริษัทพี่”

                “ถ้าอย่างนั้นก็ยกเลิกค่ะ” นาถลัดดาไม่มีวันกลับไปมอสโกเด็ดขาด อิวานอฟต้องเลือกว่าจะยอมให้เธออยู่ดูแลที่นี่ หรือให้เธอกลับไปทำงานแบบเดิม

                ชายหนุ่มเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำบอกของน้องสาว เหมือนเห็นภาพลุงโบริสซ้อนในร่างของนาถลัดดา สองพ่อลูกมีนิสัยถือทิฐิไม่ต่างกัน เห็นทีเขาต้องวางแผนใหม่ คงบังคับให้นาถลัดดาเป็นฝ่ายไปหาญาติที่มอสโกไม่ได้เสียแล้ว

                “โอเค พี่จะประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้วกัน แต่เราต้องประชุมด้วย ห้ามปฏิเสธ พี่ขี้เกียจพูดหลายรอบ”

                “ค่ะ” หญิงสาวยอมเจอกันครึ่งทาง อย่างน้อยก็ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้า เห็นแค่ภาพผ่านจอ คงไม่ทำให้จิตใจเธอเจ็บปวดเท่าเจอหน้ากัน

               


4

 

                ระดับความหงุดหงิดของประธานชีคอฟกรุ๊ปนับวันจะมากขึ้นจนลูกน้องหวาดระแวง ไม่มีใครรู้สาเหตุนอกจากอังเดร

                “เจ้านายครับ คุณเอเดียน่าโทร. มาครับ”

                หลังจากโทร. เข้ามือถือชายหนุ่มหลายรอบแต่เขาไม่ยอมรับ ทายาทบอนนี่จึงเปลี่ยนเป็นโทร. เข้ามือถืออังเดรและพูดข่มขู่จนชายหนุ่มต้องกล้าตาย เอ่ยบอกเจ้านายที่นั่งหน้าตูมหน้าจอคอมพิวเตอร์

                “รับเถอะครับ ผมว่า...ถ้าเจ้านายอยากรู้ว่าคุณนาถลัดดาหายไปไหน ลองแกล้งถามทางคุณเอเดียน่าดูก็ได้นี่ครับ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าเจ้านาย...กับคุณนาถลัดดา...”

                “เอ่อ...ไม่ต้องพูดต่อ!” วายร้ายแห่งชีคอฟกรุ๊ปตวาดลั่น เมื่อเห็นท่าทางอึกๆ อักๆ ของลูกน้อง

                ชายหนุ่มยอมกดโทรศัพท์หาเอเดียน่า หลังจากหลบเลี่ยงเพราะอยากตัดสัมพันธ์กับเธอ เสียงดีใจดังขึ้นพร้อมกับคำว่าคิดถึง ชายหนุ่มฟังแล้วปล่อยผ่าน ตอนนี้เขามีแต่ความกระหายในตัวนาถลัดดา เธอคิดว่าการหนีหายจะทำให้เขาหยุดตามรังควานรึ มันยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากเอาชนะเธอมากขึ้น ความอยากเอาชนะไม่มากเท่าความหลงใหลในเรือนร่างอวบอิ่ม เขาหยุดสายตาไว้ที่ใบหน้าสวยหวาน แม้อีกฝ่ายจะพยายามเลี่ยงการครอบครอง

                “ได้ข่าวว่าคุณจะหมั้นหรือคะ” คนเสียงใสกังวานเอ่ยถาม หลังจากทักทายหลายประโยค และคำถามนั้นแทบทำให้ร่างสูงตกเก้าอี้

                “อะไรนะ คุณไปเอาข่าวมาจากไหนเดียน่า ผมไม่เคยคิดจะลงหลุมกับใคร” ชายหนุ่มตอบกลับ

                “ก็ลองเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ดูสิคะ พ่อคุณประกาศอ้อมๆ ว่าจะให้ลูกชายคนโตหมั้นกับลูกสาวของโกลพรอมกรุ๊ป”

หญิงสาวบอกเสียงเรียบ แต่ในใจกำลังร้อนรน เธอไม่เคยหวั่นหากคีริลล์จะควงนางแบบคนไหน เพราะมั่นใจว่ามีอิทธิพลเหนือผู้หญิงเหล่านั้น สามารถบีบบังคับให้พวกหล่อนถอยห่างจากผู้ชายของเธอได้ แต่เวลานี้คีริลล์กำลังจะถูกครอบครองโดยบุตรสาวของโกลพรอมกรุ๊ป บริษัทปิโตรเลียมใหญ่สุดในรัสเซีย ซึ่งตามข่าวที่รู้มา ประธานของสองบริษัทนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน

                “โอเค ขอบคุณมากที่ส่งข่าว ผมขอไปจัดการธุระสำคัญก่อน”

ราวมีไฟล้อมรอบกาย ชายหนุ่มกดอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ต สีหน้าเริ่มเข้มขึ้นตามโทสะในจิตใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดบิดามารดาต้องใช้วิธีนี้บังคับเขา ทั้งที่น่าจะรู้ว่าไม่สามารถกำหนดชีวิตเขาได้ ลูกสาวของโบริสหรือจะมาเป็นภรรยาเขา เวโรนิก้ามีข้อดีอะไรบ้างในตัว ไม่มีเลย หล่อนเรียนไม่จบ งานไม่ทำ เปลี่ยนผู้ชายควงบ่อยยิ่งกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิง

                “อังเดร เตรียมตัว ฉันจะกลับรัสเซีย”

ชายหนุ่มโทร. สั่งลูกน้อง เรื่องปวดหัวแรกเขายังไม่ได้สะสาง ก็ต้องกลับไปสะสางคดีใหญ่เสียก่อน กลับมาอังกฤษครั้งหน้า เขาจะต้องได้ตัวนาถลัดดา และเธอจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ข้อหาทำให้เขารอคอย

               

                ระหว่างนั่งเครื่องบินกลับรัสเซีย ชายหนุ่มเริ่มคิดว่าจะจัดการกับข่าวที่บิดามารดาประกาศไปอย่างไรดี เขาหยิบรูปถ่ายของนาถลัดดาซึ่งอยู่ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ของแองเจิ้ลออกมาวาง

                “ขอสมอ้างเป็นเธอไปก่อนแล้วกัน”

เขายิ้มกริ่มเมื่อหาทางออกให้ตัวเองได้ รู้ว่าบิดามารดาไม่ยอมแน่ถ้าเขาบอกว่าจะแต่งงานกับนางแบบชุดชั้นใน มารดาเขามีเชื้อสายผู้ดีเก่า ต้นตระกูลสืบเชื้อสายมาจากขุนนางชั้นสูง ทำให้ค่อนข้างจะคัดสรรว่าที่ลูกสะใภ้ ซึ่งต้องดีพร้อมจะใช้นามสกุลซาโกเยฟ แต่เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่านาถลัดดาไม่เคยเป็นของใคร เขาคือคนแรก และจะเป็นคนสุดท้ายของเธอ

                                               

                คฤหาสน์ซาโกเยฟแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อบุตรชายคนโตของแอนตันกลับมาเยือน ชายหนุ่มมองจ้องบิดามารดาอย่างเอาเรื่อง พร้อมวางหนังสือพิมพ์ที่มีข้อความจากบิดาลงตรงหน้าท่านทั้งสอง

                “ผมต้องการคำอธิบายครับ” เขาเอ่ยน้ำเสียงกดดัน

                “ก็แกไม่ยอมแต่งงานสักที พ่อเลยหาให้ ลูกสาวของโบริส แกก็เคยเจอแล้วนี่ น้องน่ารัก เหมาะสมกับการเป็นสะใภ้ตระกูลซาโกเยฟ”

แอนตันเอ่ยเสียงเข้ม หวังกดให้ลูกชายคนโตยอมสยบ แต่แววตาที่มองตอบนั้นทำให้คนเป็นพ่อรู้ว่าน้ำเสียงเขาไม่มีผลต่อลูกชาย

                “ผมมีคนรักอยู่แล้ว” คีริลล์เอ่ยแย้ง

                “คนรัก หึ! แม่บรรดานางแบบพวกนั้นรึ ฉันไม่นับเป็นสะใภ้ ตระกูลเราสืบทอดมาจากขุนนางเก่าแก่ แม่ควรจะได้ลูกสะใภ้ที่มีเกียรติ”

แอมมาเรียเอ่ยเสียงเขียว แค่นึกถึงภาพลูกชายซุกไซ้ลำคอของสาวเหล่านั้นตามหน้าหนังสือพิมพ์ จิตใจก็ร้อนรุ่ม รับไม่ได้หากจะได้สะใภ้เช่นนั้น

                “แล้วแม่คิดว่า...ว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่มีเกียรตินักรึครับ เรียนก็ไม่จบ งานก็ไม่ทำ วันๆ เอาแต่เที่ยวควงหนุ่มๆ โผล่ประเทศโน้นประเทศนี้” คีริลล์เอ่ยขัด จะว่าเขาปากร้ายก็คงต้องยอม

                “ว้าย! ตายแล้ว นี่ลูกว่าน้องขนาดนี้เลยรึ โรนี่ยังไม่ได้แต่งงานกับเรา มีสิทธิ์จะเที่ยวกับใครก็ได้”

                คนฟังกลอกตามองเพดานห้อง แม่เขากำลังลำเอียง ผู้หญิงคนอื่นทำแล้วดูไร้เกียรติ แต่เวโรนิก้าทำแล้วไม่เสียหาย มันบ้าบอสิ้นดี ถ้าเขาต้องรับผู้หญิงอย่างเวโรนิก้ามาเป็นภรรยา คงไม่ต้องทำงานอะไรกัน วันๆ เอาแต่นั่งจับผิด แอบระแวงว่าภรรยาจะสวมเขาให้ตอนไหน

                “ผมไม่แต่งกับเวโรนิก้าแน่นอน คุณพ่อคุณแม่หยุดให้ข่าว ถ้าไม่อยากหน้าแตก เข้าหน้าลุงโบริสไม่ติด” ชายหนุ่มยื่นคำขาด

                “แกต้องแต่ง” แอนตันรับปากเพื่อนสนิทที่ต้องการคนดูแลโกลพรอมกรุ๊ปไปแล้ว

เขามีลูกชายสองคนซึ่งเก่งบริหารทั้งคู่ หากต้องส่งใครคนใดคนหนึ่งไปช่วยเพื่อนรักรับช่วงต่อโกลพรอมกรุ๊ปก็ยินดีมอบให้ ซึ่งเวโรนิก้ามีจิตพิศวาสลูกชายคนโต และเขาเองก็อยากให้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา จะได้เลิกควงสาวเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย

                “พ่อบังคับผมไม่ได้ นี่มันยุคไหนแล้ว ผมมีสิทธิ์เลือกภรรยาตัวเอง”

                ท่าทางต่อต้านชัดเจนของลูกชายทำให้บิดารู้สึกผิด รู้ว่าการบังคับคีริลล์นั้นยากยิ่งกว่าฝึกม้าให้ว่ายน้ำ แต่ตอนนี้โบริสกำลังย่ำแย่ ไม่มีคนจะสานต่อกิจการที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน หากไม่จนตรอกจริงๆ โบริสคงไม่แบกหน้ามาขอร้องเขาให้พูดกับลูกชายคนโต

                “ภรรยาแกจะเป็นใคร นางแบบพวกนั้นหรือไง”

                “ใช่ครับ ผมมีคนรักอยู่แล้ว และเรากำลังศึกษานิสัยใจคอกันอยู่ การให้ข่าวของพ่อกับแม่ทำให้เธอเข้าใจผมผิด” ชายหนุ่มตีขลุม บรรยายตามที่แต่งขึ้น

                “ใคร เธอคนนั้นเป็นใคร” แอมมาเรียเอ่ยถาม เธอไม่ได้รังเกียจหญิงสาวที่ทำอาชีพนางแบบ แต่ที่ต้องพูดเหมือนดูถูกนั้น เพื่อจะบีบบังคับให้ลูกชายยอมแต่งงานกับลูกสาวโบริส ซึ่งกำลังเดือดร้อนหนัก

                “นาถลัดดา เพชรจำรัส เธอเป็นนางแบบลูกครึ่งไทย-รัสเซีย เราคบกันมาสักพักแล้วครับ” ชายหนุ่มเอ่ยบอก สีหน้าดูจริงจัง ไม่ทิ้งร่องรอยให้บิดาจับผิดได้

                “คนไหน” แอมมาเรียอยากเห็นหน้าหญิงสาวที่ลูกชายกล่าวอ้าง เพราะไม่เคยมีวี่แววมาก่อนว่าลูกชายจะคบกับหญิงสาวคนไหนถึงขนาดศึกษาดูใจ สาวงามที่เห็นควงส่วนมากก็แค่คู่ควงชั่วคราว แม้แต่เอเดียน่าก็คิดว่าเป็นได้แค่คู่ควงของคีริลล์

                “คุณคุ้นหน้าไหมคะ” แอมมาเรียเอ่ยถามสามี เมื่อเห็นภาพนางแบบสาวที่ลูกชายเปิดให้ดู

“คุ้น แต่แต่งหน้าจัดแบบนี้มองไม่ออก”

ทั้งแอมมาเรียและแอนตันไม่ค่อยตามข่าววงการแฟชั่น ถ้าลูกชายไม่พัวพันนางแบบสาวสวยก็ยิ่งไม่มีข้อมูลเหล่านี้ในสมอง ทุกวันมีแต่งานกับราคาหุ้นและผลกำไรบริษัท ทว่าภาพใบหน้านางแบบที่ลูกชายบอกว่ากำลังดูใจนั้น มองแล้วสะดุดตาเหมือนเคยเห็นมาก่อน

“พ่อกับแม่คุ้นอะไรหรือครับ” คนไม่เข้าใจสิ่งที่บิดามารดาคุยกันเอ่ยถาม

แอนตันสบตาภรรยา ไม่รู้จะเล่าเรื่องในอดีตของเพื่อนรักให้ลูกชายฟังดีไหม แต่เล่าไปก็ไม่มีประโยชน์ บุตรสาวคนโตของโบริสไม่มีทางกลับมาแน่นอน นิสัยของนาตาชานั้นถอดแบบมาจากคนเป็นแม่ ซึ่งการทำผิดของโบริสในอดีตส่งผลต่อความรักที่ลูกควรมีต่อบิดาผู้ให้กำเนิด

                “เปล่า แกคงอ้างผู้หญิงคนนี้เพื่อหนีการแต่งงานสินะ”

                “ผมไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น พ่อก็รู้ดีนี่ครับ ถ้าผมดื้อขึ้นมา ใครก็ปราบไม่อยู่” สายตาท้าทายมองสบบิดา ซึ่งเม้มปากแน่น

                แอนตันรู้นิสัยลูกชายทั้งสอง แต่ก็อยากลองของสักนิดเพื่อช่วยเพื่อนรัก แต่ดูท่าจะเหลว คีริลล์ไม่เอาด้วยแน่นอน

                “เราหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกัน แต่แกต้องไปงานฉลองครบหกสิบปีโกลพรอมกรุ๊ป จะว่าฉันขอร้องแกก็ได้ แต่แกต้องไปปรากฏตัวที่นั่น เรื่องเวโรนิก้าเราจะคุยกันอีกที”

                “ไม่มีการคุยอะไรอีกทั้งสิ้นครับ ผมไม่มีทางแต่งงานกับเวโรนิก้าแน่นอน พ่อไม่ต้องพูดซ้ำ เรื่องงานครบหกสิบปีโกลพรอมผมจะไปครับ แต่ห้ามพ่อแม่ให้ข่าวอะไรทั้งสิ้น ผมไม่อยากอกตัญญูด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้”

ชายร่างสูงเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนจะเดินขึ้นห้องส่วนตัว สมองเขากำลังเคร่งเครียดเพราะตามหานาถลัดดาไม่พบ พอเจอเรื่องบีบบังคับซึ่งเขาเกลียดที่สุด ก็ทำให้ระเบิดอารมณ์ออกมา

 

                “สงสัยโบริสจะขาดคนสืบทอดแล้วละคุณ คีริลล์ไม่เอาด้วยแน่ๆ” แอมมาเรียเอ่ยขึ้นหลังลูกชายเดินพ้นบันไดขั้นสุดท้าย

                แอนตันคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็อยากช่วยโบริสซึ่งกำลังป่วยหนัก ไม่มีใครในครอบครัวเพื่อนรักรู้เรื่องนี้ ประธานโกลพรอมไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกจึงบอกแค่เขา หวังจะพึ่งพิงในวันที่ไม่มีใครช่วยแก้ปัญหา แอนตันทำดีที่สุดแล้ว แต่ลูกชายเขานั้นมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่เคยมีใครสั่งคีริลล์ได้

                “หรือจะพูดกับอาเมเทีย” แอมมาเรียนึกถึงลูกชายคนเล็ก ที่ร่อนเร่รอนแรมอยู่สักที่ในโลกนี้

                “ยิ่งไม่ต้องพูดเลย เจ้าเทมส์นิสัยไม่ต่างจากพี่ชาย และไม่ถูกกับโรนี่มาตั้งแต่เด็ก ป่านนี้คงเห็นข่าวและนั่งสะใจพี่ชายตัวเองอยู่แน่ๆ” แอนตันเอ่ยอย่างหน่ายใจ

                “แล้วเราจะช่วยโบริสยังไงดีคะ ฉันสงสารเขา”

                “ถ้าโบริสยอมลดทิฐิติดต่อหาลูกสาวคนโต บางอย่างอาจจะดีขึ้น”

แอนตันเคยได้ข่าวว่าลูกสาวคนโตของโบริสสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า เด็กคนนั้นต้องเก่งและได้เรื่องกว่าน้องสาว หากฝึกดีๆ จะก้าวมายืนแทนโบริสได้

                “เฮ้อ...ไปพักกันเถอะค่ะ รอดูวันงานหกสิบปี ลูกชายเราอาจจะใจอ่อนลงบ้างเมื่อได้เจอหนูโรนี่”

                แอนตันพยักหน้า แต่รู้ว่ายากมาก เวโรนิก้าไม่มีทางเปลี่ยนใจคีริลล์ได้

               

                ลูกชายคนเล็กที่แอนตันกับแอมมาเรียเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้กำลังต่อสายตรงหาพี่ชาย ซึ่งนั่งหน้าบูดบึ้งขณะฟังน้องชายถามที่มาที่ไปของข่าว และหัวเราะร่าเมื่อได้ยินสิ่งที่บิดามารดาเอ่ย โดยพี่ชายเป็นคนถ่ายทอด

                “พี่ต้องเสร็จแม่มดโรนี่แน่ ยายนั่นอยากได้อะไรต้องได้ ป้าคริสตี้ก็ตามใจแบบไม่ลืมหูลืมตา”

อาเมเทียรู้จักนิสัยเวโรนิก้า เพราะอายุไล่เลี่ย ห่างกันแค่ปีสองปี และเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ก่อนที่หญิงสาวจะต้องย้ายไปเรียนที่อื่นเพราะเกรดไม่ผ่านเกณฑ์

                “ไม่มีทาง แกก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบให้ใครบังคับ” ชายหนุ่มแย้งเสียงเข้ม

                “ฮะๆ เอาเถอะ ผมว่าพี่เอาตัวรอดจากกรงเล็บยายโรนี่ได้ แต่ว่า...เรื่องที่เราพนันกันไว้เป็นไงครับ ผมจะได้เงินทุนเที่ยวรอบโลกหรือยัง” คนน้องทวงถามถึงเกมพนันที่เคยเล่นไว้กับพี่ชาย

                คีริลล์เม้มปากแน่น ใจหนึ่งก็อยากประกาศก้องให้โลกรู้ว่านาถลัดดาเป็นของเขา แต่พอจะเอ่ย ความรู้สึกหนึ่งกลับยับยั้ง เขาอยากให้เกียรติเธอ ไม่อยากให้ใครทำลายชื่อเสียงนางแบบสาวเช่นที่เขาเคยทำ นาถลัดดาบริสุทธิ์ผุดผ่อง จนเขาอยากศึกษาเรียนรู้เรื่องราวของเธอทั้งหมด ยิ่งคิดยิ่งแค้น ไม่รู้หนีหายไปไหน แต่หากได้ตัวกลับมาวันไหน รับรองจะลงโทษจนฟ้าสาง ไม่ต้องก้าวลงจากเตียงเลยทีเดียว

                “อะไร แค่ไม่กี่วันเอง ฉันงานยุ่งๆ ยังไม่ว่างไปขายขนมจีบหล่อนเลย” คีริลล์โกหก

                “รีบๆ เข้านะพี่ เวลามีแค่สามเดือน ถ้าพี่ทำไม่สำเร็จ จ่ายค่าเดินทางรอบโลกผมมาเลย” คนน้องทวงเสียงใส เพราะมั่นใจว่าพี่ชายจะต้องเสียเงินค่าพนัน

อาเมเทียรู้จักนาถลัดดาตั้งแต่หญิงสาวเรียนที่คณะบริหารในมหาวิทยาลัยเดียวกัน นางแบบสาวทั้งเก่งและสวย เป็นรุ่นน้องเขาสองปี ความสวยเก๋สะกดสายตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นในห้องสมุด อาเมเทียได้แต่แอบมองอย่างปลาบปลื้มอยู่ห่างๆ

เมื่อเรียนจบเขาไปหาพี่ชายที่บริษัท และเห็นคีริลล์กำลังนั่งมองภาพนางแบบสาวอยู่จึงเอ่ยถาม พอรู้ว่าพี่ชายเล็งนาถลัดดาไว้ จึงนึกเกมหาเงินเที่ยวรอบโลกก่อนกลับมาทำงานที่บริษัท ด้วยการท้าทายพี่ชายว่าจะจีบนางแบบสาวได้ภายในสามเดือนหรือไม่ เพราะมั่นใจว่านาถลัดดาไม่มีทางชอบผู้ชายซึ่งเลื่องลือเรื่องความเจ้าชู้อย่างพี่ชาย

                “ตอนนี้แกก็เที่ยวอยู่แล้วนะ แม่ก็จ่ายให้แล้ว แกจะมาหวังเงินพนันจากฉันอีกทำไม”

                “ก็มันท้าทายดีไง เอาละ ผมต้องไปปีนเขาแล้ว รีบๆ เข้านะพี่ เงินผมใกล้จะหมดแล้วด้วย ไม่อยากขอเงินแม่ เอาเงินชนะเกมพนันพี่มาใช้ท่าจะสนุกกว่า”

คนน้องเอ่ยเสียงร่าเริง โดยไม่รู้เลยว่าไม่มีทางได้เงินจากพี่ชายแน่นอน

                “เหรอ” คีริลล์ถาม แต่ไม่บอกความจริงว่าตัวเองได้ครอบครองเรือนร่างนางแบบสาวแล้ว ขอเก็บเป็นความลับ

ตั้งแต่โตเป็นหนุ่ม คงมีเพียงนาถลัดดานี่ละที่เขาอยากรักษาชื่อเสียงของเธอ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ทำลายความสาวของเธอ แถมยังเข้าใจผิดไปว่านาถลัดดาจะเหมือนผู้หญิงหิวเงินคนอื่น เมื่อเจอหงส์ในฝูงกา พรานป่าอย่างเขาจะไม่จับมาเข้ากรงรึ โอกาสแบบนี้หาได้ไม่บ่อย และเขาไม่อยากเสียสละนาถลัดดาให้ใคร

                “กลับมาบ้านเมื่อไหร่ แกช็อกแน่นายเทมส์ แต่ก่อนจะทำให้เจ้านั่นช็อก ต้องรีบหาตัวนาถลัดดาให้พบ จะซัดให้คางเหลืองเลย โทษฐานทำให้เสียเวลารอ”

                คนรอคอยพึมพำแล้วกดโทรศัพท์เช็กข่าวจากลูกน้อง ซึ่งได้ข่าวมาบ้างว่านาถลัดดาเดินทางไปประเทศไทยหลังจากคืนนั้น

               

                งานฉลองครบหกสิบปีของบริษัทโกลพรอมกรุ๊ปจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ นักธุรกิจระดับแนวหน้าของรัสเซียมาร่วมงานกันอย่างหนาแน่น เพราะต่างสนิทสนมกับประธานบริษัทโกลพรอมกรุ๊ปมานานแล้ว

                “ดีใจด้วยครับ” แขกเอ่ยกับเจ้าภาพ ทั้งสามยืนรอต้อนรับอยู่ที่บริเวณหน้าซุ้มภายในโรงแรมหรูกลางเมืองมอสโก

                เวโรนิก้าอยู่ในชุดเกาะอกสั้นแค่เข่า เรือนร่างขาวซีดตัดกับชุดสีเขียวมรกตอย่างลงตัว ลำคอระหงประดับด้วยสร้อยเพชรเส้นใหญ่ มรดกตกทอดจากคุณย่าผู้ล่วงลับ

                “พี่คีริลล์จะมาหรือเปล่า” หญิงสาวกระซิบถามมารดาซึ่งยืนยิ้มทักทายแขก

                “มาแน่นอน น้าแอมมาเรียโทร. มาบอกแม่แล้ว ไม่ต้องห่วง ยิ้มเข้าไว้”

คริสเตียน่าใช้ปลายนิ้วเชยคางลูกสาวขึ้น มองสำรวจหาจุดบกพร่องที่ช่างแต่งหน้าอาจหลงเหลือไว้ แต่จะมองอย่างไร วันนี้เวโรนิก้าก็สวยสมบูรณ์เพอร์เฟกต์ พร้อมพบหน้ากับคีริลล์ ชายหนุ่มที่ลูกสาวหมายปอง

                อิวานอฟเดินเข้ามาทักทายป้าสะใภ้ ซึ่งเชิดหน้ามองอย่างไว้ตัว ฝ่ายเวโรนิก้าไม่เคยนับถือเขาอยู่แล้ว ชอบมองว่าเขาคือกาฝากที่บิดาเลี้ยงไว้ใช้งาน

                “สวัสดีครับคุณลุง” ชายหนุ่มทักทายลุงที่ดูแล ซึ่งหันมาโอบกอด

                “ได้ข่าวว่ามีคนดูแลงานที่ภูเก็ตแทนเรา”

                อิวานอฟส่ายหน้า หูตาลุงยังคงกว้างไกลเช่นเดิม ไม่มีเรื่องไหนที่เขาสามารถปกปิดท่านได้ ชายหนุ่มยิ้มแล้วหยิบแก้วแชมเปญขึ้นจิบ

                “พูดอะไรบ้างไหม” ชายสูงวัยเอ่ยถาม ซึ่งรู้ว่าหลานชายเข้าใจสิ่งที่ตนถาม

                “ไม่ยอมเหมือนเดิมครับ คุณลุงคงต้องทำใจเผื่อไว้บ้าง”

อิวานอฟไม่อยากพูดให้ความหวังลุง อยากให้ท่านเผื่อใจไว้กรณีที่ลูกสาวตัดใจไม่กลับมอสโก

                โบริสถอนใจยาว คงต้องทำใจเผื่อไว้รึ เขาทำใจไว้ตั้งแต่สิบปีที่แล้ว แต่ความเป็นพ่อทำให้ห่วงแม้ลูกสาวจะไม่ต้องการการดูแลจากเขา

                “คีริลล์มาเองเลยรึ” อิวานอฟพึมพำเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของชีคอฟกรุ๊ปเดินเข้ามาในงานเลี้ยง แล้วส่ายหน้าเมื่อเห็นเวโรนิก้าโผเข้าไปทักทายพร้อมมารดา

                “ลุงขอไปต้อนรับแขกก่อน”

                ภาพที่อิวานอฟเห็นตอนนี้คือ เวโรนิก้ายืนชิดแขกของบิดาจนแทบจะฝั่งร่างสิงสู่ ท่าทางแบบนี้ ถึงไม่บอกด้วยคำพูดก็รู้ว่าญาติสาวกำลังวางแผนจะจับคีริลล์ ข่าวที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์นั่นอีก ถ้าคีริลล์คิดว่าโลกมนุษย์ช่างอยู่ยาก อยากลงนรกไปกับเวโรนิก้า เขาก็คิดว่าประธานชีคอฟกรุ๊ปจะรู้ซึ้งถึงขุมนรกชั้นต่ำสุดแน่นอน

                ชายหนุ่มเดินไปหลบมุมนั่งรอเวลา หากขอตัวกลับตอนนี้ ลุงจะไม่มีคนช่วยรับรองแขก เขาทักทายญาติคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน พานนึกไปถึงสาวที่ภูเก็ต ป่านนี้คงเดินวุ่นตรวจงานตามสไตล์ผู้บริหารใหม่ไฟแรง แต่เขาคิดว่าการหลบออกจากวงการที่ปรารถนามาตลอดของนาถลัดดามีอะไรซ่อนเร้น คนที่เพียรฝึกฝนตัวเองเพื่อจะก้าวไปอยู่ในวงการรันเวย์ จะเปลี่ยนใจทิ้งความฝันเพื่อช่วยงานเขางั้นรึ เหตุผลมันอ่อนเกินไป แต่เขารู้ดี ต่อให้ใช้คีมง้างปาก นาถลัดดาก็ไม่มีทางพูดแน่นอน

 

                หากว่าอิวานอฟมองกลับมาด้านหลัง เขาจะเห็นตาคมเข้มจับจ้อง หากไม่มีเรื่องให้สะสางกับชายหนุ่มคนนั้น คีริลล์คงไม่ยอมมางานนี้ ลูกน้องที่ตามข่าวนาถลัดดาบอกว่าหญิงสาวเดินทางไปประเทศไทยพร้อมอิวานอฟในวันรุ่งขึ้น แค่รู้ว่าเธอไปกับชายอื่น ความหวง ความอยากเป็นเจ้าของก็รุมเร้าจนอยากจะถามให้ชัดเจน

                “พี่คีริลล์คงรู้แล้วว่า พ่อแม่ของเราอยากให้มีงานแต่งงานเกิดขึ้น”

เวโรนิก้าไม่สนใจสายตาที่เหลือบมองเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด กลับออเซาะแนบชิดหวังให้นักข่าวถ่ายภาพไปขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์

                “หึๆ พ่อแม่จะคิดอะไร อยากได้อะไร ก็ช่างท่านเถอะ เพราะพี่มีสมองตรึกตรองเองได้ว่าจะจัดการชีวิตยังไง และไม่ใช่คนหัวอ่อนที่จะยอมเดินตามเกมผู้ใหญ่ง่ายๆ ปล่อยมือเธอได้แล้ว หรืออยากเป็นข่าว อย่าให้มากนักเลย เพราะหากพี่ทนไม่ไหว เธอนั่นแหละที่จะอาย”

                เวโรนิก้ายืนตาค้าง ไม่นึกเลยว่าคีริลล์จะดุดันและดิบเถื่อนเช่นนี้ เขาพูดไม่รักษาน้ำใจ ประกาศชัดทางแววตาและน้ำเสียง เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาหัวแข็ง ไม่ยอมทำตามผู้ใหญ่ง่ายๆ แน่ แต่ยิ่งเขาอยากหนี เธอยิ่งอยากเอาชนะ เอาสิ ก็ให้รู้กันไปว่าเธอกับเขาใครจะกล้าเป็นข่าวมากกว่ากัน คิดว่าเธอจะอายถ้าเขาปฏิเสธรึ หน้าเธอหนาเกินกว่าจะนึกถึงเรื่องแบบนั้นแล้ว

               

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น