10

ตอนที่ 9

ไม่มีทางเป็นเขาไปได้เด็ดขาด

ความคิดนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ถ้าจะพูดให้ถูก มันก้องอยู่ทั้งคืนจนเธอแทบไม่ได้นอนเลยต่างหาก เป็นอีกคืนที่ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไม่รู้ทำไมเขาถึงมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเธอได้มากขนาดนี้ คนตัวเล็กนั่งหวีผมพลางทอดสายตาอันเบาหวิวไปหาตัวเองในกระจก

ตาเป็นหมีแพนด้าขนาดนี้ กินใบไผ่เป็นอาหารเช้าเลยไหมช่อ...เฮ้อ

ก๊อกๆๆ

หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงเคาะประตูที่ดังเหมือนมาเคาะที่หัวเธอเองเสียมากกว่า ช่อผกาเลื่อนสายตาไปหานาฬิกาที่ข้างฝาด้วยความสงสัยเล็กๆ ว่าเธอมัวแต่เหม่อ แล้วออกไปทำงานสาย จนต้องมีคนมาตามหรือไร ถึงได้ถูกเคาะห้องตั้งแต่เช้าขนาดนี้ แต่ก็ไม่ใช่...หนำซ้ำการบอกเวลาหกโมงกว่าที่โชว์หราอยู่นั้น ยิ่งเพิ่มดีกรีความสงสัยให้กับเธอมากเข้าไปใหญ่ สาวน้อยวางแปรงหวีผมในมือลง ก่อนจะเดินไปคลายข้อสงสัยที่ประตู

ไม่กี่วินาทีที่ภาพแรกแทรกตัวผ่านช่องประตูเข้ามาทักทายสายตาของเธอ ความรู้สึกเสียววาบก็ปล่อยอาการชาให้วิ่งไปทั้งร่างอย่างฉับพลัน สาวเจ้ากะพริบตาปริบๆ พร้อมกับคำถามร้อยแปดที่เด้งดึ๋งๆ อยู่ในหัว

มาหาเช้าขนาดนี้...ไม่น่าใช่เรื่องดีเท่าไหร่

ชายหนุ่มที่เธอไปบุกห้องของเขามาเมื่อคืน แถมไปแอบจิ๊กซองบุหรี่สีเขียวติดมือกลับมาด้วยนั้น ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าห้องของเธอ ในสภาพ...เอ่อ..

   ชุดทำงานตัวใหม่ แต่...ยังไม่เรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ได้ติดกระดุมเลยแม้แต่เม็ดเดียว เพราะฉะนั้น ไอ้ที่เตะตาของเธออยู่ตอนนี้ ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเสื้อกล้ามสีขาวตัวในที่แนบแน่นไปกับเนื้อ ไหนจะกล้ามอกที่โผล่ออกมาฉีกยิ้มให้กับเธอผ่านคอเสื้อนั่นอีก

ช่อผกาเบื้อนหน้าหนี ย้ายสายตาออกจากภาพตรงหน้า แล้วสูดหายใจเพื่อเรียกจะสติ มันไม่ควรอย่างยิ่ง...ไม่ควรที่จะสูดเอาอากาศตรงหน้าที่มันวิ่งวนอยู่กับแผงอกนั้นเข้าไปในร่างกายเด็ดขาด ตามทฤษฎีของช่อผกามันจะทำให้ฮอร์โมนหญิงพลุ่งพล่าน เกิดอาการหวั่นไหวกับเพศตรงข้ามได้ง่ายๆ การหลีกเลี่ยงการสูดอากาศจากช่องว่างระหว่างเธอกับเขาจึงเป็นการป้องกันตัวอันดับแรกที่เธอควรทำ

แขนเจ็บ ติดกระดุมเสื้อให้หน่อยประโยคแรกจากผู้มาเยือนที่ดึงศีรษะเธอให้หันกลับ แถมเบิกตาโตให้เขาซ้ำ

คะ?”

คะเคอะอะไรล่ะ บอกว่าแขนเจ็บ ติดกระดุมเสื้อให้หน่อย

ช่อผกาเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังผมเปียกหมาดๆ อยู่ เธอไม่แน่ใจว่าเขาทำมันได้ไม่ถนัดจริงๆ หรือตั้งใจจะแกล้งเธออีกกันแน่ สาวน้อยส่งตาแป๋วไปให้คน พูดพยายามจะหาคำตอบ หากใบหน้านิ่งสนิทของเขานั้น ทำให้เธอต้องล้มเลิกความตั้งใจ

หญิงสาวหันมองซ้ายขวาสลับไปมาด้วยใบหน้าเจือความหวาดหวั่น กลัวว่าถ้าใครมาเห็นทั้งสองคนเข้าตอนนี้ มันคงไม่ใช่ภาพที่เหมาะสมสักเท่าไหร่ คนตัวสูงที่มองท่าทางเงอะงะของสาวน้อยอยู่ แอบระบายยิ้ม ก่อนจะเอื้อมท่อนแขนกำยำไปคว้าเอาข้อมือบางให้เดินตามแรงดึงของเขาโดยไม่ถามความสมัครใจใดๆ

คุณธาม จะไปไหนคะ

ยังไม่ทันที่คำถามของเธอจะสิ้นสุดดี ประตูห้องนอนของเขาก็ถูกปิดลง พร้อมกับการเอียงศีรษะให้แทนคำตอบ

คนตัวเล็กพ่นลมหายใจ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีนะคะ ให้ฉันเข้ามาในห้องคุณแบบนี้

ทำอย่างกับเมื่อคืนเธอไม่ได้เข้ามาอย่างนั้น

คนฟังสะดุ้ง ดวงตาคู่สวยค่อยๆ เลื่อนขึ้นมองคนตัวสูง ก่อนที่เขาจะพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะทำงาน

แม้ว่าระยะทางจะไม่ได้ใกล้กันมาก แต่กระป๋องโลหะที่เด่นหรานั้นก็โดดเด้งออกมากจับสายตาของเธอได้ไม่ยาก ไหนจะรูปมือที่ยกนิ้วโป้งขึ้นบ่งบอกความอร่อยสุดยอดของมันที่ถูกสกรีนจนเงาวับอยู่บนกระป๋องนั่นอีก...มันใช่เวลามายกนิ้วตอนนี้ไหม เมื่อคืนดันลืมหยิบกลับห้องไปเสียนี่ มัวแต่ตกใจเรื่องซองบุหรี่อยู่

ในห้องนี้ ตอนดึกๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอกนะ ถ้าฉันไม่อนุญาต ยกเว้นคุณย่า แต่เธอเชื่อสิ คุณย่าไม่เอากระป๋องพริกไทยป่นมาให้ฉันนอนกอดหรอก เพราะฉะนั้น...ก็เหลือแค่เธอคนเดียว

หญิงสาวถอนหายใจเพราะไม่รู้จะเถียงไปทางไหนต่อได้อีก หันหัวเรือกลับเข้าเรื่องเดิมน่าจะดีที่สุด

มาค่ะ ฉันติดกระดุมให้ เสร็จแล้วฉันจะได้รีบออกไปช่อผกาว่าพร้อมกับก้าวเข้าไปหา และวินาทีที่เธอกำลังจะเอื้อมไปถึงกระดุมเสื้อของเขา

ฉันว่าไปนั่งดีกว่า ชักจะเมื่อยขาขึ้นมาแล้วว่าแล้วก็หันหลังขวับ เดินตรงไปนั่งที่แขนของโซฟาที่ตั้งอยู่เกือบในสุดของห้อง ก่อนจะหันกลับไปหาคนงงที่ยืนกะพริบตาเรียบเรียงเหตุการณ์อยู่ มาสิ อยากจะรีบออกไปไม่ใช่เหรอ รีบมาทำให้ฉันสิ จะได้เสร็จๆ

สาวน้อยสะดุ้งเล็กน้อยกับคำพูดสองแง่สองง่ามของเขา ก่อนระบบป้องกันตัวเองในร่างกายจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ สายตาของหญิงสาวกวาดมองรอบห้องราวกับกำลังประมวลระดับความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หากเธอจะก้าวเข้าใกล้เขาในระยะที่หนีเอาตัวรอดได้ยากแบบนั้น

นี่เขาจงใจเปลี่ยนไปนั่งตรงโซฟาเพื่อให้เธอออกห่างจากประตูหรือเปล่านะ คงไม่คิดจะปล้ำเธอที่โซฟาหรอกใช่ไหม หัวใจดวงน้อยเริ่มหวาดหวั่น อยู่ในสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้เสียด้วยสิ ดวงตาสั่นระรัวสอดส่ายหาตัวช่วย ก่อนสายตาของเธอจะไปหยุดอยู่ที่...อาวุธลับที่เธอลืมทิ้งเอาไว้

   หญิงสาวมุ่งตรงไปคว้าเอากระป๋องพริกไทยบนโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มที่โซฟาอีกด้านหนึ่งของห้อง

นี่เธอต้องหวงพริกไทยขนาดนั้นเลยเหรอคิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันส่งคำถามมาให้ เป็นไรมากเปล่า

เรื่องของฉันหญิงสาวสวนกลับทันควัน ก่อนจะเลือกวางอาวุธลับของเธอไว้บนพนักพิงโซฟาในจุดที่ใกล้มือที่สุด ถึงเธอต้องใช้สองมือติดกระดุมให้กับเขา เธอก็ต้องมั่นใจว่าถ้าเกิดเขารุกล้ำเข้ามาในระยะไม่ปลอดภัย เธอจะคว้าตัวช่วยของเธอได้ทัน

สองมือบางเลื่อนลงไปทำหน้าที่ตั้งแต่กระดุมเม็ดที่อยู่ล่างสุด แต่ยังไม่ทันจะติดได้สนิท การเคลื่อนไหวของเขาก็เพิ่มเลเวลความหวาดระแวงให้มือของเธอหยุดชะงัก หางตาที่แอบเหลือบขึ้นมองนั้นพลันไปเห็นว่าศัตรูตัวร้ายกำลังจะเข้าจู่โจมอาวุธของเธอ มือบางตีเพี้ยะไปที่มือหนาโดยไม่ต้องรอให้สมองสั่ง ก่อนจะรีบชิงคว้าเอากระป๋องโลหะให้พ้นจากเงื้อมมือมาร

จะตีทำไมเนี่ย” คนตกใจจนต้องรีบชักมือกลับโวยวายขึ้น

อย่ามาแตะต้องของของฉันนะ

ของของเธอ? นี่มันของจากครัวบ้านฉันชัดๆ

ของฉัน” ช่อผกายืนยันกระต่ายขาเดียว

นิสัยขี้ขโมยนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ รีบติดเข้า เดี๋ยวไปทำงานสายกันพอดี

คนตัวเล็กค่อยๆ ยื่นของในมือเอากลับไปไว้ที่เดิมโดยไม่ละสายตาไปจากคนตรงหน้า ก่อนจะชี้นิ้วย้ำกับเขาอีกรอบ

อย่ามาแตะเชียวนะ

เออ  รู้แล้วน่ะ จะหวงอะไรกันนักกันหนา รีบติดเร็วๆ

ช่อผกาย่นจมูกใส่คนออกคำสั่ง เธอไม่แน่ใจว่าระหว่างเธอกับเขาเคยคุยกันดีๆ ได้เกินสิบคำไหม ไม่สิ  ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้เคยคุยดีๆ กับคนอื่นเกินสิบคำไหมจะดีกว่า เพราะดูท่าแล้ว เหมือนหมาบ้าที่คอยกัดคนนั้นทีคนนี้ทีเสียมากกว่า ไม่รู้ต้องให้สอนไหมว่าการใช้ชีวิตปกติแบบที่ไม่ต้องแขวะคนอื่นเขาเนี่ยต้องทำอย่างไร

คนที่นั่งอยู่กับแขนโซฟา อมยิ้มมองเจ้าของมือเรียวที่กำลังง่วนอยู่กับหน้าที่ที่เขามอบหมายให้ กลิ่นสบู่อ่อนๆ จากตัวของเธอทำให้เขาคาดเดาได้ไม่ยากว่าหญิงสาวเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ ใบหน้าหมดจดไร้เครื่องสำอางของเธอดูน่าหลงใหลเสียจนเขาละสายตาจากเธอได้ยากยิ่ง อาจเป็นเพราะเธออ่อนวัยกว่าสาวๆ ที่เข้ามาพัวพันในชีวิตเขารึเปล่านะ เธอถึงได้ดูน่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้

หัวใจของชายหนุ่มเริ่มเต้นแรงขึ้นกว่าเก่าเมื่อมือของเธอเลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับอก ดวงหน้าของเธอจึงเลื่อนเข้าใกล้เขามากขึ้นตามไปด้วย ทั้งที่คิดจะแกล้งเธอด้วยการก่อกวนให้รำคาญใจตั้งแต่เช้า แต่ไหงกลับรู้สึกว่าหัวใจตัวเองถูกก่อกวนเสียนี่ หรือผู้หญิงที่เคยทำงานอย่างว่ามาอย่างเธอ...จะมีของดีช่วยกระตุ้นใจชายแอบซุกซ่อนเอาไว้

แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วมันเป็นเพราะอะไรกันนะที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนเสียการทรงตัวตลอดเวลาที่อยู่ใกล้เธอ มันยากที่จะต้านทานความต้องการส่วนลึกที่ถูกเรียกร้องโดยหัวใจ ยิ่งสมองสั่งให้ผลักเธอออกไปให้ไกลเท่าไร หัวใจกลับเป็นฝ่ายดึงเธอให้กลับเข้ามาใกล้กว่าเดิมเสียทุกครั้ง

ไม่ได้  เขาจะยอมตกอยู่ใต้เสน่หาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด...สมองต้องอยู่เหนือหัวใจให้ได้

อ้ะคุณ เสร็จแล้วค่ะเสียงหวานปลุกคนที่มองอยู่อย่างเคลิบเคลิ้มให้กลับเข้าสู่บทสนทนาตรงหน้า งั้น...ฉันไปก่อนนะคะ

คนตัวโตพยักหน้ารับ แม้ในใจเรียกร้องอยากจะให้คนตรงหน้าอยู่ต่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่บอกแล้วไงว่าสมองต้องอยู่เหนือหัวใจให้ได้ ปล่อยให้เธอออกไปนั่นแหละดีที่สุด ช่อผกาฉีกยิ้มจนเต็มแก้ม ดีใจราวกับลูกนกที่ถูกปลดปล่อย แต่นั่น  ก็แค่ชั่ววินาทีหนึ่งเท่านั้น เพราะทันทีที่เธอกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าเอากระป๋องพริกไทยที่วางอยู่ มือแข็งแกร่งของคนตรงหน้าก็คว้าข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว

เดี๋ยว  เป่าผมให้ก่อนแล้วค่อยออกไปคนพยายามควบคุมหัวใจกลับลำเสียอย่างนั้น ช่วยไม่ได้...ใครใช้ให้ยิ้มล่ะ

เป่าผมเหรอคะร่างบางว่า ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังที่ที่น่าจะมีไดร์เป่าผมวางอยู่

กระจกบานใหญ่ที่อยู่เหนือโต๊ะในมุมสลัวๆ ข้างเตียงนั่น มันอยู่ลึกไปจนสุดด้านหนึ่งของห้องเลยนะ ถ้าต้องย้ายไปนั่งตรงนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับเพิ่มระดับความเสี่ยงให้กับชีวิตลูกแกะที่อาจจะโดนเสือขย้ำเอาง่ายๆ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัด...ก็เปลี่ยนจากโซฟาไปเป็นเตียงนอนนั่นแหละ แค่คิดก็เกร็งไปหมดทั้งตัวแล้ว

   คนตัวเล็กพ่นลมหายใจเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนตรงหน้า แล้วก็เหมือนว่าเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มหันหลังไปมองยังมุมที่สลัวที่สั่นประสาทของหญิงสาว ก่อนจะยิ้มเบาๆ ออกมา

อยู่นี่รอนะ เดี๋ยวไปหยิบไดร์มาให้

ช่อผกามองแผ่นหลังคนที่ลุกพรวดออกไปเอาของที่ว่า น่าแปลก...ที่เขากลับเป็นฝ่ายคลายความกังวลใจให้กับเธอเสียเอง หรือจริงๆ เขาไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นกับเธอตั้งแต่แรก

ใช่สิ  เขาเคยบอกว่าขยะแขยงเธอเสียด้วยซ้ำไป ไม่น่าคิดมากเลย

มือบางของคนที่คลายความหวั่นใจลงไปมากกว่าครึ่งเริ่มทำหน้าที่ใหม่ของเธออีกครั้ง นิ้วเรียวสอดเข้าใต้เรือนผมของชายหนุ่มและสัมผัสมันอย่างเบามือ

ร้อนไปรึเปล่าคะช่อผกาที่ยืดตัวเต็มความสูงถามชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่

เอาเบอร์ต่ำกว่านี้เบอร์นึงก็ได้มันไม่ได้ร้อนไป เขาเพียงอยากได้ยินเสียงหวานของเธอให้ชัดกว่านี้ โดยไม่มีเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ในมือเธอ

ธามพยายามเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าสวยที่กำลังตั้งใจทำหน้าที่ของเธออย่างขะมักเขม้น เรียวปากบางที่ดูเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลานั้น ทำให้เขาเผลอคิดไปเสมอว่าใครมันช่างปั้นเติมเสมอแต่งให้สาวน้อยคนนี้น่าดึงดูดไปทุกส่วนให้ขนาดนี้

คุณธาม เงยหน้าขึ้นนิดนึงนะคะ เดี๋ยวฉันจะเป่าข้างหน้าให้

ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง ช่วงเวลาที่เขารอคอยมาถึงแล้ว จะได้เงยหน้ามองเธอให้เต็มตาเสียที และทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ ประโยคต่อมาเข้าพุ่งเข้าทุบหัวเขาอย่างจัง

หลับตาด้วยสิคะ เดี๋ยวลมก็เข้าตาหรอก

คนถูกดับฝันพ่นลมหายใจทิ้ง แล้วจำต้องทำตามคำสั่งอย่างช่วยไม่ได้

แต่ก็ใช่ว่าฝันจะสลายไปหมดเสียทีเดียว คงเป็นเพราะเธอเหมือนเงาที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเขามาตลอด แค่เพียงได้หลับตาลง เคล้ากับกลิ่นกายหอมๆ ของคนตรงหน้า ภาพเธอก็ฉายชัดขึ้นในหัวราวกับเปิดตามองอยู่อย่างไรอย่างนั้น

ภาพที่เธอยิ้ม ภาพที่เธอหัวเราะ ภาพที่เธอขมวดคิ้ว หรือแม้แต่ภาพที่เธอย่นจมูกใส่เขา มันชัดและสวยงามยิ่งกว่าภาพฝันไหนๆ เลย ชายหนุ่มพยายามกลั้นยิ้ม ไม่เผยความรู้สึกดีใจแปลกๆ ที่ล้นอยู่เต็มอกตอนนี้ให้คนที่ยืนตรงหน้าได้รู้ ทั้งที่มันแทบจะทะลักใส่ตัวการจอมแสบรอมร่ออยู่แล้ว

ฉันไม่รู้ว่าแค่ไหนถึงจะโอเค ประมาณนี้พอไหมคุณ ฉันไม่เคยทำให้ใครเลยอ้ะ

ผมก็ไม่เคยเหมือนกันครับ

คะ?”

เสียงคำถามที่เอ่ยย้ำ ทำให้ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเผลอหลุดคำพูดจากใจออกไปคำโต จนต้องรีบหยุดทุกย่างเอาไว้

พอ...พอแล้ว

เจ้าของคำพูดตะกุกตะกัก เริ่มทำตัวไม่ถูก รีบคว้าหมับเอามือบางของหญิงสาวที่จับผมเขาอยู่ และการเข้าสัมผัสที่รวดเร็วอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวก็สร้างความตกใจให้กับเธอจนเจ้าตัวต้องสะบัดมือเขาออก

ทำอะไรอ้ะมือบางเลื่อนไปคว้าอาวุธของเธอทันที ถ้าคุณรุ่มร่ามกับฉัน ฉันจะเทพริกไทยใส่หน้าคุณ เอาให้ตายกันไปข้างนึงเลยคอยดู

ช่อผการีบหมุนฝากระป๋องให้เปิดออก พร้อมกับยื่นไปขู่ตรงหน้าเขา ธามเลิกคิ้วให้กับการป้องกันตัวที่ดูพึลึกของสาวน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

ฉันทำจริงนะคุณ ไม่ได้พูดเล่นธามเบ้ปากพลางพยักหน้า พริกไทยฆ่าคนได้นะ ไม่งั้นเขาจะผลิตสเปรย์พริกไทยออกมาเหรอ

อ่าฮะ”

ยังจะมาทำหน้ายียวนอีก

   “ไม่ได้ยียวน ฉันแค่กำลังดูอยู่ ว่าเธอกลัวฉันไปถึงขั้นไหนแล้วช่อผกามองใบหน้าคนที่พูดไปยิ้มไป จริงสิ...ยิ่งทำให้เขารู้ว่าเธอกลัว ก็ไม่ต่างอะไรกับบอกจุดอ่อนของตัวเองให้กับศัตรู

   “ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่...แต่ฉันแค่ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ผู้ชายอย่างคุณไว้ใจได้ที่ไหนล่ะ

แล้วฉันไว้ใจไม่ได้ตรงไหน ฉันแค่จะบอกว่าพอแล้ว เสร็จแล้ว ออกไปได้แล้ว โอเคไหมคนพูดเอียงศีรษะพลางยิ้มเบ้ปาก เธอคิดไปไกลเองนะ

ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวเมื่อความเขินอายจากการถูกจับไต๋ได้วิ่งเข้าแทรกซึม ช่อผกาชักกระป๋องพริกไทยกลับด้วยสีหน้านิ่ง พยายามจะซ่อนอาการของเธอเอาไว้

งั้นฉันไปละนะว่าแล้วก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งหนีจากสถานการณ์บ้าบอนี่ให้เร็วที่สุด ทันทีที่ประตูเปิดอ้าออก

เดี๋ยว  ตกลงเธอคิดจะฆ่าฉันด้วยไอ้นั่นจริงๆ เหรอ

คนถูกแซ็วหันกลับมา

มันเรื่องของฉัน” สาวน้อยกระแทกเสียงทิ้งท้าย ก่อนจะสะบัดหน้าขว้างค้อนวงใหญ่กลับไปให้ชายหนุ่มที่นั่งอมยิ้มอยู่บนแขนของโซฟา แล้วรีบปิดประตูก่อนที่เขาจะเอ่ยอะไรได้ทัน

ธามระเบิดหัวเราะให้กับภาพตรงหน้า ก่อนจะเผลอหลุดปากออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว

น่ารักว่ะแล้วเสียงของตัวเองที่วิ่งเข้าหู ก็ทำให้คนไม่ยอมรับความจริงสะดุ้ง มือหนายกขึ้นเกาท้ายทอยอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะรวบแขนขึ้นกอดอก ตีมาดเข้มแล้วหันไปเอ่ยกับประตู

หมายถึงกระป๋องพริกไทยหรอก โด่ว”


มีอะไรจะใช้ผมว่ามาเลยครับท่านรองเสียงแขกเพียงคนเดียวของบริษัทที่ไม่เคยให้สัญญาณก่อนเข้ามาในห้อง ดังลอดเข้ามาทักทายการทำงานช่วงบ่าย ก่อนที่เจ้าของห้องจะได้เห็นตั
วคนพูดเสียอีก

คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า เอียงศีรษะซ้ายขวาเพื่อคลายความเมื่อยล้า ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาแขกผู้มาเยือนที่กำลังทิ้งตัวลงบนโซฟาโดยไม่รอให้เขาต้องเอ่ยเชิญ

เดี๋ยวๆๆๆๆ ไอ้ธามหยุดๆ หยุดตรงนั้นก่อนคนที่นั่งบนโซฟายืดตัวขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นห้ามการเคลื่อนไหวของเพื่อนที่กำลังจะเดินเข้าไปหา ฉันว่าวันนี้แกแต่งตัวแปลกๆ ว่ะ

แปลกตรงไหน ก็เหมือนทุกวันนั่นแหละ

ชินกฤตเลิกคิ้วให้คนพูด มือหนายกขึ้นจับคางอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยด้วยความมั่นใจอันสูงส่งของเขา

ไม่เว้ย เสื้อผ้าอ้ะโทนเดิม แต่กระดุมนี่ดิ ปกติแกไม่ติดกระดุมสองเม็ดบน แต่วันนี้แกไม่ติดแค่เม็ดตรงปกเสื้อเม็ดเดียว เรียบร้อยขนาดนี้ มีแพลนจะไปไหนครับท่านรอง

ไม่รู้เพราะว่าเขาเป็นนักกฎหมายหรือเปล่า ทนายความชินถึงได้ช่างสังเกตและละเอียดถี่ถ้วนกับทุกดีเทลขนาดนี้ คนถูกจับผิดมองเพื่อนกลับด้วยใบหน้าที่พยายามจะซ่อนสาเหตุที่แท้จริงเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่มีเพื่อนเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายผู้จับทุกการเปลี่ยนแปลงได้ดีขนาดนี้

ไม่ได้จะไปไหน วันนี้แค่อยากติด ทำไม ผิดกฎหมายเหรอคนถูกไล่ต้อนแก้ตัวไปส่งๆ จะให้รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้เป็นคนติดเอง แต่มีสาวน้อยยิ้มสวยคนที่บ้านมาติดให้ ขืนพูดไป ต่อมอยากรู้อยากเห็นของไอ้ทนายจอมเก็บรายละเอียดได้ตื่นขึ้นทำงานเต็มสตรีมกันพอดี

ไม่ๆ มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆไม่ว่าอย่างเดียว ชินกฤตโน้มตัวเข้าหาคู่สนทนา พร้อมกับเอื้อมมือพยายามจะชี้กระดุมเสื้อที่เขากำลังพูดถึง แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าถึงเป้าหมาย...

เฮ้ย  อย่ามาจับ” มือของเจ้าของเสื้อก็ปัดมือเขาออกอย่างรวดเร็ว แถมยังถอยหลังหนีอีกต่างหาก

อะไรว้า แค่กระดุมเสื้อก็ต้องหวงด้วย เดี๋ยวนี้แกทำตัวน่าสงสัยนะเว้ยไอ้ธาม รู้ตัวรึเปล่า

น่าสงสัยอะไร แกนั่นแหละ ว่างนักรึไง เที่ยวจับผิดคนนั้นคนนี้ผู้บริหารหนุ่มพยายามเบี่ยงประเด็น ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาฝั่งตัวข้างๆ

หืม จะบอกให้นะครับ ทั้งบริษัทตอนเนี้ย มีแกแหละ น่าสงสัยที่สุด ทำตัวแปลกๆ กลับบ้านเร็วบ้างล่ะ เบี้ยวนัดหญิงบ้างล่ะ เนี่ยยังลุกขึ้นมาแต่งตัวเนี้ยบอีกคนพูดเอียงตัวเข้ากระซิบกับคนฟัง ที่บ้านมีอะไร บอกมา

หานักสืบให้ฉันหน่อยธามไม่สนใจคำพูดของเพื่อน ตัดบทเข้าประเด็นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ชินกฤตชำเลืองมองเพื่อนด้วยคิ้วขมวด เห็นไหม ฉันบอกแล้ว ว่าทั้งบริษัทเนี่ย มีแกนั่นแหละ น่าสงสัยสุดละไอ้ธาม

เออหน่า หานักสืบให้หน่อย ขอแบบตัวเด็ดเลยนะเว้ย

ตัวเด็ดเบอร์ตองอย่างงี้ปะ

คนถูกถามตีหน้านิ่ง เหล่ตามองคนกวนประสาท เป็นการเป็นงานครับ ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องลงอ่างตอนนี้

ชินกฤตพ่นหัวเราะออกมาทันควัน ก่อนจะเด้งตัวออกจากพนักพิงโซฟาคล้ายจะแสดงสัญญาณการเริ่มทำงานอย่างจริงจัง

โอเค นักสืบฝีมือดีนะ แกจะสืบเรื่องไรวะ

ไม่บอกเว้ย ความลับ

อ้าว ไอ้นี่หนิ ใช่เรื่องเดียวกันกับของคุณย่าพริ้มเพรารึเปล่าวะธามที่กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความรีบหันขวับไปหาเพื่อน

คุณย่าให้สืบเรื่องอะไร

อ้าวเฮ้ย  นี่แกไม่รู้เหรอชินกฤตหันไปสบตาเพื่อน ดูเหมือนว่าเขาจะหลุดความลับบางอย่างเข้าเสียแล้ว

พูดมาเลย ขนาดนี้แล้ว เร็วๆ

คือฉันก็ไม่รู้หรอกนะ แต่คุณย่าท่านให้พ่อฉันหานักสืบให้ พ่อไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร แต่เท่าที่ฉันได้ยินคร่าวๆ เหมือนจะให้สืบเรื่องใครสักคนนี่แหละ

คนฟังเกาคางอย่างใช้ความคิด เป็นใครอื่นไปไม่ได้หรอก เด็กสาวที่คุณย่าเพิ่งพาเข้ามาอยู่ในบ้านเขาแน่ๆ ถ้าคุณย่าตั้งใจอยากจะให้เธอเป็นหนึ่งในตัวเลือกของหมอธัชจริงๆ มีหรือที่คุณย่าจะไม่สืบประวัติผู้หญิงคนนั้น สิ่งที่น่าแปลกไม่ใช่การกระทำของคุณย่าหรอก แต่เป็น...ข้อมูลที่ท่านได้ไปมากกว่า

หากข้อมูลนั้นบ่งบอกข้อเท็จตามที่เขาได้รับรู้มา คุณย่าไม่มีทางเลือกผู้หญิงที่เคยทำงานอย่างนั้นให้มาแต่งงานกับหลานชายคนโปรดของท่านแน่ แล้วท่านได้ข้อมูลแบบไหนไปกันนะ และที่สำคัญมากไปกว่านั้น...ผู้หญิงคนนั้นสร้างข้อมูลเท็จด้วยวิธีการไหนกัน

ติดต่อนักสืบคนนั้นให้ฉันด้วย ฉันอยากรู้ว่าคุณย่าได้ข้อมูลอะไรไปธามโพล่งออกมาหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน

เขาคงบอกแกหรอก ยังไงเขาก็ต้องรักษาข้อมูลให้คุณย่าสิวะ จะเอามาเที่ยวบอกคนนั้นคนนี้ได้ยังไงกัน

แล้วใครว่าฉันจะถามธามสวนกลับทันควัน ฉันก็จ้างคนอื่น ให้ไปจ้างเขาอีกรอบสิ ให้เขาหาข้อมูลของคนๆ เดิม เหมือนได้เงินฟรีเลยนะ เพราะว่าข้อมูลเขาก็มีอยู่แล้ว

ชินกฤตกะพริบตามองเพื่อนที่พูดออกมาได้หน้าตาเฉย แถมยังก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไอ้ธาม แกว่า...ฉันเลิกคบแกตอนนี้ทันไหมวะ ความขี้โกงของแกนี่มัน...ไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ

 “ขี้โกงตรงไหน ก็ทำตามขั้นตอน ไม่ได้โกงเลย

 “เออ ตามขั้นตอน ขั้นตอนแบบตลบหน้าตลบหลังแบบนี้ อย่าเอามาใช้กับฉันนะเว้ยชินกฤตลากเสียงอย่างประชดประชัน ว่าแต่... นั่นแขนแกไปโดนอะไรมาวะ

   เป็นเพราะแขนเสื้อที่ถูกดึงขึ้นจนมากองรวมกันอยู่เหนือข้อศอก ผ้ากอสที่ปิดเอาไว้เป็นแนวยาวจึงเตะสายตาคนอื่นได้ง่ายๆ

 “สะดุดคนโกหกตอบกลับสั้นๆ

สะดุด ? สะดุดจนได้แผลขนาดนี้ สะดุดรักรึเปล่าคร้าบ...บเพื่อน

สะดุดรักไหน อะไรของแกวะ แซ็วอะไรก็ไม่รู้อยู่ได้ ไปๆ กลับห้องไปได้แล้วไป หมดธุระแล้วคนที่รู้สึกว่ากำลังจะตกที่นั่งลำบาก เป็นจำเลยให้ทนายปากเก่งซักไซ้ รีบชิงหันหัวเรือเข้าฝั่ง ส่งเพื่อนลงจากเรือไป ก่อนที่เขาจะถูกล้วงความลับ...ในใจไปมากกว่านี้

แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของธามจะไม่ได้เข้าหูคู่สนทนาสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากชินกฤตจะไม่กระดิกตัวไปไหนแล้ว เขายังไม่เลื่อนความสนใจไปจากท็อปปิกเดิมอีกด้วย

   “ทำมาเป็นไล่ ไม่มีมูล หมามันไม่ขี้นะครับท่าน กอสซิปแชร์สนั่นของวันนี้ อย่าบอกนะว่าแกยังไม่เห็น

คนถูกถามเลิกคิ้วเล็กน้อย เรื่องสะดุดรักที่ชินกฤตพูด หมายถึงเรื่องภาพข่าวของเขากับสาวสวยปริศนาที่ถูกแชร์ออกไปอย่างสนุกสนานบนโลกโซเชียลตั้งแต่เช้านั่นหรอกเหรอ ไม่ใช่เรื่องคนที่บ้านอย่างที่อยากรู้ในตอนแรกหรอกใช่ไหม ผู้บริหารหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก ค่อยยังชั่วหน่อย

แล้วไงวะ มันก็เหมือนทุกที ฉันยังแปลกใจว่าพวกนักข่าวเขาไม่เบื่อกันบ้างเหรอ เล่นแต่ข่าวซ้ำๆ เดิมๆ แบบนี้ ข่าวฉันมันน่าสนใจตรงไหนธามว่าพลางส่ายหน้าอย่างหมดทางจะแก้

บ่อยครั้งที่ภาพแอบถ่ายของเขากับหญิงสาวมากหน้าหลายตามักจะถูกแชร์ออกไปบนโลกอินเตอร์เน็ต ผู้หญิงเหล่านั้น บางคนเป็นคนรู้จัก บางคนเป็นเพื่อน บางคนเป็นลูกค้า แต่ส่วนมากแล้วมักจะเป็น...ผู้ตอบสนองความต้องการชั่วข้ามคืนของกันและกันเท่านั้น

เขา...และพวกเธอเหล่านั้น ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากไปกว่า...ความสัมพันธ์ทางร่างกาย ที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ แล้วจบลงราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น บางคนทำเหมือนไม่เคยรู้กกันเลยเสียด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมหญิงสาวในภาพที่ถูกแชร์ออกไป ถึงเปลี่ยนไปไม่ซ้ำหน้า และนั่นก็คือสาเหตุสำคัญว่า ทำไมแวดวงสังคมถึงขนานนามเขาจากภาพที่เห็นว่าเป็น...แคซาโนวาธาม

ก็ช่วยไม่ได้ แกอยากเป็นทายาทหมื่นล้านเองทำไม แถมทำตัวสุดโต่งไม่แคร์สังคมขนาดนี้ เป็นที่ถูกจับตามองก็คงไม่แปลกหรอก แล้วบอกไว้เลยนะว่าตราบใดที่ข่าวของแกยังขายได้ นักข่าวเขาก็ไม่เลิกเล่นเรื่องนี้หรอก...ว่าแต่ คนในรูปนี่ไปได้มาจากไหนวะ เอ็กซ์มาก ไม่ชวนเลย

ก็ร้านเดิมนั่นแหละ จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจไปเว้ย แต่กลับบ้านแล้วเสียอารมณ์นิดหน่อยจะไม่ให้เสียอารมณ์ได้อย่างไร ก็วันนั้นคุณย่าดันพาสิบแปดมงกุฎเข้าบ้าน

แล้วเป็นไงมั่งวะ เด็ดเลยใช่ไหมคนที่รอฟังอยู่ตาโตลุ้นจนตัวโก่ง

ไม่ว่ะ ฉันเปลี่ยนใจ ก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้าน

เปลี่ยนใจ  ทำไมวะ เสียชื่อเสือธามหมดคนคอตกโวยวายลั่น "ทำไมไม่โทร. เรียกฉัน"

ไม่รู้ดิ เดี๋ยวนี้อยากเปลี่ยนแนวมั้งธามตอบกลับส่งๆ

เปลี่ยนแนวอย่างนั้นเหรอ คิดแล้วก็อยากจะหัวเราะเยาะตัวเอง เปลี่ยนแนวคงไม่เท่าไหร่ แต่การที่เขาเห็นหน้าสาวน้อยยิ้มหวานคนนั้นทุกครั้งที่หลับตานี่สิปัญหาใหญ่ จะให้มีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นลงได้ยังไง ก็มันเหมือนมีเธอมายืนมองอยู่ใกล้ๆ คิดแล้วหลอนชะมัด

และตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นคั่นกลางการสนทนาของทั้งคู่เอาไว้ชั่วขณะ ชายหนุ่มทั้งสองหันมองตามเสียงแล้วก็พบว่าเจ้าของเสียงเคาะนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณรสาเลขานุการหน้าห้องนั่นเอง

ขออนุญาตค่ะคุณธาม เอกสารจากบริษัทสิงคโปร์ที่ให้แปลจีนเป็นอังกฤษ มาถึงแล้วนะคะ รสาส่งให้ในเมลแล้ว แล้วก็ฝ่ายติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ให้นัด จะเข้ามาพบตอนบ่ายสามค่ะ

ขอบคุณครับคุณรสา

เลขานุการสาวสวยยิ้มปิดท้ายการรายงานของเธอ ก่อนกลับออกไปทำหน้าที่ต่อ เช่นเดียวกับทนายจอมซักคนข้างๆ ที่ขอทำหน้าที่ (ซัก) ของเขาต่อเหมือนกัน

แกให้ฝ่ายติดตั้งระบบมาหาทำไมวะ

ฉันจะติดกล้องวงจรปิดเพิ่มที่บ้าน

ติดกล้องเพิ่มทำไม ของหายเหรอ บ้านแกใหญ่จนหาทางเข้าทางออกไม่เจอขนาดนั้น ขโมยมันยังกล้าขึ้นอีกเหรอวะ

คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากสมาร์ตโฟนในมือ ก่อนจะยกยิ้มร้ายขึ้นที่มุมปากให้กับคำถาม

นั่นน่ะสิ

 

ได้ค่ะคุณย่า งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ช่อทำข้าวมันไก่สิงคโปร์ให้คุณย่าลองทานนะคะเสียงสนทนาของสาวน้อยเจ้าของใบหน้ายิ้มแป้นแว่วเข้าหู เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปหาในระยะที่ใกล้มากพอ

สาวร่างบางช่างจ้อที่ดูเหมือนกำลังเป็นโต้โผในการคุยอย่างสนุกสนานกับหญิงชราอีกสองคนที่แลดูจะรับหน้าที่เป็นผู้ฟังเสียมากกว่า หากแต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ฉายแววความสุขได้ไม่แพ้กัน ยิ่งได้เคล้ากับบรรยากาศร่มเย็นในสวนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เบิกบานกันเข้าไปใหญ่

อ้าว ตาธามกลับมาแล้วเหรอ เดี๋ยวนี้กลับบ้านเร็วขึ้นนะเรา ไม่ค่อยกลับดึกกลับเช้าแล้วด้วย ดีๆ

ชายหนุ่มสะดุดกึกเล็กน้อยกับคำพูดของคุณย่าพริ้มเพรา เขาไม่ได้สังเกตตัวเองเลยว่าช่วงที่ผ่านมา เขาเป็นอย่างที่คุณย่าพูดจริงไหม จะรู้ก็แต่เพียงว่า อยากกลับมา...ทานมื้อเย็นที่บ้านก็เท่านั้น

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเลี้ยงลูกค้าน่ะครับคนหลานว่าพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้เหล็กดัดอีกตัวหนึ่งที่ว่างอยู่

ธามหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่เยื้องๆ กันและเมื่อเห็นว่าเธอกำลังแอบชำเลืองมองเขา ชายหนุ่มจึงแกล้งยักคิ้วให้เธอตกใจเล่น แล้วอมยิ้มหน้าระรื่นอย่างพอใจ

นี่ เราน่ะ จู่ๆ ทำไมให้คนมาติดกล้องวงจรปิดเสียเต็มบ้านไปหมด ที่ติดไว้ก็ทั่วถึงแล้วนี่นา ติดเพิ่มทั้งในบ้านทั้งนอกบ้าน เยอะไปรึเปล่า บ้านเราไม่เคยมีของหายเสียหน่อยเสียงของย่าเรียกให้คนหลานละความสนใจจากสาวน้อยแล้วหันกลับมาหาย่า

ไม่เคยมีของหาย หรือมีของหายแต่คุณย่าไม่รู้กันแน่ครับ บ้านเราออกจะกว้าง มันต้องมีกล้อง เราถึงจะดูแล้วได้ทั่วถึง เห็นด้วยไหมครับ...น้องช่อ

คนถูกเรียกชื่อสะดุ้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนถามเต็มสองตา

ให้ตายเหอะ  เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หยิบพริกไทยป่นไปแค่กระป๋องเดียว ถึงขั้นต้องติดกล้องวงจรปิดทั่วบ้านขนาดนี้ ถ้าจะเป็นโรคหวงของที่มีความหวาดระแวงเป็นอาการแทรกซ้อนด้วยแบบนี้ หาหมอไหม จะไปส่ง

ช่อไม่ทราบค่ะ ช่อไม่รู้เรื่องพวกนี้คนตัวเล็กตอบกลับด้วยยิ้มแห้งๆ ก่อนจะก้มลงมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่สั่นครืดๆ อยู่บนโต๊ะ

เอ่อ...ช่อขออนุญาตสักครู่นะคะ

ตามสบายเลยหนูช่อคุณย่าพริ้มเพราตอบรับด้วยรอยยิ้ม เช่นเดียวกับนมผันที่พยักหน้าให้ จะมีก็แต่ชายเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่เท่านั้นที่ตอบรับการขออนุญาตของเธอด้วยอาการตาขวางที่ไม่ทราบสาเหตุ

นอกจากจะหวงของ หวาดระแวง แล้วยังอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อีก เอาเข้าไป

ธามมองร่างบางที่ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูและกำลังเดินออกจากวงสนทนาไปด้วยคำถามากมายในหัว ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ คนที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศได้ไม่ถึงปี จะมีคนรู้จักมากสักแค่ไหนกัน แล้วบุคคลเหล่านั้น มีความสัมพันธ์กับเธอในลักษณะไหน...มันจะใช่ คนที่ช่วยให้เธอสร้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวนั่นด้วยหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำคีย์การ์ดผีใบนั้นให้เธอก็ได้

ธามเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป เขาเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ย่างไม่มีสัญญาณเตือนก่อนล่วงหน้า จนสองหญิงชราที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยง

ผมขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับคุณย่าว่าแล้วก็รีบกุลีกุจอเดินออกจากโต๊ะโดยไม่รอฟังคำตอบใดๆ จากคู่สนทนาเลย

นมผัน เธอดูสิเนี่ย หลานฉันคนนี้มันผีเข้าไหมล่ะ จู่ๆ อยากจะลุกก็ลุก อยากจะไปก็ไป ตกอกตกใจหมด ไม่รู้จะหาผู้หญิงที่ไหนให้มาแต่งงานด้วยเลยเนี่ย ไม่รู้จะมีใครเอาอยู่ไหมคุณย่ามองแผ่นหลังของหลานชายตัวแสบที่ความร้อนใจเปลี่ยนให้เขาจากที่เดินให้กลายเป็นวิ่ง แล้วย่าก็ต้องส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ดูท่าจะไม่ยอมอ่อนให้ฉันง่ายๆ เสียด้วย

คนที่แบกความรุ่มร้อนอยู่ในอกกำลังตามหาเป้าหมายของเขาอย่างไม่ลดละ ธามเพิ่งรู้สึกเกลียดที่บ้านของเขากว้างขวางเกินไปก็ตอนนี้ คนทั้งคน หาอย่างไรก็หาไม่เจอ ทั้งที่แอบขึ้นไปเอาหูแนบประตูห้องของแม่ตัวดีดูแล้วแท้ๆ แต่กลับเงียบสนิท ถ้าไม่ได้อยู่ในห้อง แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ

    ความร้อนใจเริ่มมีความกระวนกระวายเข้ามาแทรกอย่างไม่รู้สาเหตุ นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ข้อมูลของยายสิบแปดมงกุฎคนนี้เพิ่มเชียวนะ เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด อย่างน้อยๆ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้ติดต่อใครอื่นอีกบ้าง นอกจากคนในบ้านหลังนี้

โอ๊ย ไม่เป็นไรค่ะพี่เอก เดี๋ยวเอาไว้เรานัดกันเสียงที่คุ้นหูกระตุกขาของชายหนุ่มให้หยุดลงทันที มุมปากยกขึ้นอย่างผู้ได้รับชัยชนะ ก่อนจะสะบัดหน้าไปทางต้นเสียง

ไม่ผิดแน่ เสียงของคนที่เขาตามหาลอดออกมาจากห้องนั่งเล่นห้องเล็กริมสวนนั่น คนตัวโตจรดปลายเท้าเข้าไปหาเป้าหมายของเขาทันที ร่างสูงแนบลำตัวเข้ากับผนังด้านหนึ่งริมประตูที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่ แล้วเงี่ยหูฟังการสนทนาของเธออย่างตั้งใจ

ได้ค่ะ งั้นพี่เอกแวะมารับช่อเลยนะคะ ฝากหยิบสื้อผ้าที่เหลือของช่อมาให้ด้วยเสียงหวานพูดเคล้าไปกับเสียงหัวเราะ และนั่นยิ่งขมวดคิ้วของคนแอบฟังให้แน่นขึ้นไปอีก

พี่เอก? ผู้ชายเหรอ ใครวะ นี่ยังมีผู้ชายคนอื่นในชีวิตอีกเหรอเนี่ย แถมมีหยิบเสื้อผ้าด้วย

พี่เอกเอามาให้ช่อเย็บให้ก็ได้นะคะ ตอนคุณย่าท่านพักผ่อน ช่อก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว

ช่อก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วคนตัวสูงบีบเสียงล้อเลียนเชิงประชดประชัน ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา จ้างให้มาดูแลคุณย่า ใครอนุญาตให้ไปเย็บนั่นเย็บนี่ให้ผู้ชายคนอื่นคำพูดของหญิงสาวเริ่มปั่นอารมณ์ของนักดักฟัง

งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วไว้ยังไงคืนนี้ช่อจะโทร. หาค่ะ

คืนนี้ ? จะโทร. หา ? มันเป็นใคร” คนตัวสูงเบิกตาโตฉับพลันและไม่รอช้าพุ่งตัวเข้าไปหาคนในห้องด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้

คุยกับใคร”

หญิงสาวที่เพิ่งตัดสายไปหมาดๆ มองคนตรงหน้าที่โผล่เข้ามาพูดจากกระโชกโฮกฮากใส่เธออย่างไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้า

คุยกับใครมันก็เรื่องส่วนตัวของฉันค่ะช่อผกาตอบกลับเสียงเรียบ และนั่นก็ยิ่งกวนอารมณ์คนฉุนเฉียวให้ขุ่นมากขึ้นไปอีก ฉันไม่จำเป็นต้องตอบเรื่องส่วนนะคะเธอกดมุมปากตามไปให้เจ้าของใบหน้านิ่ง

งั้นก็ไม่ต้องตอบไม่ว่าเปล่า มือหนาเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ที่เธอกำไว้หลวมๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดๆ อะไรบางอย่างลงไป จนหญิงสาวต้องพุ่งตัวเข้าไปยื้อแย่งมาทันที

เอาคืนมานะคะคุณธาม คุณอย่ามาทำเสียมารยาทกับฉันแบบนี้นะคะธามหมุนตัวกลับ ใช้แผ่นหลังกว้างป้องกันการช่วงชิงจากคนตัวเล็ก และก็เพียงไม่นาน คนที่ร่างกายได้เปรียบกว่าก็หันกลับมาหาเจ้าของใบหน้าบึ้งบึง

“อือ เอาคืนไป

ช่อผการีบคว้ากลับมาทันควัน ใบหน้าสวยก้มลงตรวจเช็กความเสียหายของของมีค่าในมือ แต่แล้ว เสียงของคนใจร้ายก็ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา

นั่นเบอร์ฉัน เมมด้วยนะ

คะ?”

เบอร์ฉัน เวลาคุณย่ามีอะไร จะได้โทร. หาฉันไง เผื่อมีเรื่องด่วน

คนฟังขมวดคิ้วมองด้วยสายตาหวาดๆ

แต่ฉันมีเบอร์พี่หมอธัชแล้วนะคะ พี่หมอบอกให้ฉันโทร. หา ถ้ามีเรื่องฉุกเฉิน

แต่บริษัทอยู่ใกล้บ้านมากกว่าโรงพยาบาล โทร. หาฉันก่อนคนไม่ได้ดั่งใจเริ่มหัวเสีย บอกให้โทร. หาก่อน ยังมีหน้ามาบอกจะโทร. หาผู้ชายคนนั้นคนนี้ก่อนอีก มันน่านัก

แต่ถ้าเกิดมีเรื่องฉุกเฉินเกี่ยวกับคุณย่า ฉันควรจะโทร. หาหมอก่อน ถึงจะถูกนะคะ

ธามยกมือขึ้นเท้าสะเอว กลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วพ่นลมหายใจใส่คนตัวเล็กใจไม่เล็ก ที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาง่ายๆ

ชายร่างสูงโน้มตัวลงให้ใบหน้าของเขาเข้าใกล้เธอมากยิ่งขึ้น สายตาของเขากดลงที่ดวงตากลมสวยของเธอ ราวกับอยากจะให้คำสั่งของเขาฝังเข้าไปในตัวเธอให้ลึกที่สุด

งั้นตอนที่หิวข้าวแล้วไม่มีอะไรกินก็โทร. มาละกันว่าแล้วก็หันหลังขวับ เดินออกจากห้องไปทันที แต่ก็ไม่วายบ่นรายทางมาซ้ำ ให้โทร. หาแค่นี้มันยากตรงไหน ต้องเหตุผลสองสามสี่ หงุดหงิดโว้ย  ฮึ้ย...ย มันน่านัก มันน่า...

   ไก่ตาแตกที่ยืนกะพริบตาปริบๆ ใส่แผ่นหลังที่ห่างออกไปอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายคนนั้นพยายามจะสื่อ มือบางยกขึ้นเกาศีรษะด้วยความงงงวย

 

อะไรของเขา คุณย่ายังไม่น่าเป็นห่วงเท่าคุณเลย ไม่รู้จะส่งหาหมอไหนเลยเนี่ย โรคเยอะเกิ๊น

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น