บทที่ ๑๐

10

พลิก

                ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจขนาดนี้

                เมื่อครั้งแถลงข่าวการประกวด Miss Perfect Beautiful QueenThailand 2023 มีสื่อมวลชนเข้าร่วมงานล้นหลาม พอมาวันนี้เป็นงานแถลงข่าว เรื่องความเข้าใจผิดในตัวผู้ดำรงตำแหน่ง Miss Perfect Beautiful QueenThailand 2023 ยิ่งได้รับความสนใจมากกว่า เรียกว่าทำลายสถิติการแถลงข่าวของกองประกวดตั้งแต่มีมาเลยก็ว่าได้

                แน่นอนว่าเรื่องฉาวๆ ย่อมเป็นที่สนใจของนักข่าว

                หลายคนชอบเสพดรามา

                นอกจากนี้ยังมีแฟนนางงาม และเจ้าของเพจชื่อดังมาร่วมงานนี้ บางคนมาให้กำลังใจนีรชา บางคนมาเพื่อซ้ำเติมและปั่นกระแส

                เวลา 09.00 น. เป็นเวลาที่เริ่มการแถลงข่าว

                เสียงฮือฮาของนักข่าว และแสงแฟลชสาดไปที่เวทีขนาดย่อมเมื่อนีรชาปรากฏตัว นับตั้งแต่ข่าวออกมาหญิงสาวเพิ่งออกมาพบสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ไม่มีการอธิบาย ไม่มีการตอบคำถามใดๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น

                หญิงสาวสวมสายสะพายและมงกุฎประจำตำแหน่ง วันนี้เธออยู่ในชุดราตรีผูกคอสีม่วงเปลือกมังคุด ขับผิวได้เป็นอย่างดี ส่งยิ้มให้ทุกๆ ที่คนมารอฟัง 

                ภคิณและปลิตาเดินออกมาสมทบ ทั้งสามคนนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ 

                “ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยค่ะ” ปลิตาทักทายเป็นลำดับแรก “รู้สึกดีใจที่หลายท่านให้เกียรติมาร่วมฟังความจริงจากทางเรา หลายวันมานี้นีน่าดังมาก คนที่ไม่รู้จักก็ได้รู้จัก ทำให้ยอดติดตามในอินสตาแกรมของน้องเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ”

                ยอดติดตามเพิ่ม ยอดคอมเมนต์ด่าใต้โพสต์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

                “หลักฐานที่เป็นสำเนาทะเบียนบ้านของน้องทีน่าใช่ของจริงไหมคะนีน่า” นักข่าวใจร้อน เมื่อได้จังหวะรีบยิงคำถามไปที่นีรชา

                “หลักฐานนั้นเป็นของจริงค่ะ” จบคำนีรชา เสียงฮือฮาคุยกันก็ดังขึ้นไปอีก บนจอภาพขนาดยักษ์ฉายภาพสำเนาทะเบียนบ้านของนที โดยปรากฏชื่อของนีรชาเป็นมารดา และเบลอข้อมูลสำคัญไว้ เช่น เลขประจำตัวประชาชน

                “แสดงว่านีน่าเป็นแม่ของน้องทีน่าจริงๆ แล้วทำไมถึงปิดบังครับ” เป็นนักข่าวอีกคนที่รอเสียงซาลง รีบถามขึ้น

                หญิงสาวส่งยิ้มให้คนถาม เป็นอีกครั้งที่เธอต้องตั้งสติให้ดี ไม่ต่างจากตอบคำถามบนเวทีนางงามที่ผ่านมาเลย

                “นีน่าเป็นพี่สาวแท้ๆ ของทีน่าค่ะ” เธอย้ำชัดๆ 

                ภคิณจึงนำเอกสารสำคัญออกมาจากซองสีน้ำตาล เพราะว่ารอมันนี่แหละถึงต้องปล่อยให้นีรชาถูกโจมตี และไม่มีการแก้ข่าวใดๆ

                “นี่เป็นผลการตรวจดีเอ็นเอของนีน่าและทีน่าครับ ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์แม่และลูก” ภคิณว่าจบ บนหน้าจอก็ฉายภาพผลการตรวจร้อนๆ ที่เพิ่งได้รับ “ที่ทางกองเรายังเงียบ เพราะรอเอกสารฉบับนี้ครับ หากออกมาพูด คำพูดคงไม่มีน้ำหนัก จึงต้องใช้เอกสารทางการแพทย์รับรอง”

                “ถ้านีน่าไม่ใช่แม่ของทีน่า พวกเราขอคำอธิบายด้วยค่ะว่าทำไมชื่อมารดาของทีน่าจึงเป็นชื่อนีน่าที่เป็นพี่สาว”

                “พี่ขอเล่าแทนนะคะ เพราะว่าน้องนีน่ายังสะเทือนใจอยู่” ปลิตาอาสา

                “เมื่อหกปีที่แล้วแม่ของนีน่าหรือคุณนารินทร์ตั้งครรภ์น้องทีน่าค่ะ และปรากฏว่าคลอดก่อนกำหนด ตอนที่ไปต่างจังหวัดพอดี แต่ยังไม่ได้แจ้งเกิดเนื่องจากไม่ได้คลอดที่โรงพยาบาล พอกลับมาที่บ้านคุณแม่ที่เพิ่งคลอดน้องก็อยู่ไฟค่ะ ซึ่งทีน่าก็ป่วยพอดี นีน่าที่ต้องดูแลแม่และน้องชายในตอนนั้นจึงพาน้องไปหาหมอ ด้วยความที่ยังไม่ได้แจ้งเกิด นีน่าเลยใส่ชื่อตัวเองไปก่อนเพื่อที่จะทำให้น้องได้รับการรักษาค่ะ เพราะว่าคุณแม่ไม่ได้มาด้วย” ปลิตายิ้มเศร้า ก่อนจะเอ่ยต่อไป “แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณพ่อและคุณแม่ของนีน่าก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เสียชีวิตทั้งคู่ ตอนนั้นทีน่าอายุได้ไม่ถึงเดือนค่ะ” 

                แทบจะเงียบกริบทั้งห้องประชุม สายตาจับจ้องมาที่นีรชาที่นั่งก้มหน้า

                ทำไมชีวิตของหญิงสาวถึงน่าสงสารเพียงนี้

                “นี่เป็นหลักฐานการแจ้งเกิดของทีน่า และใบมรณบัตรของคุณพ่อคุณแม่นีน่านะคะ” ภาพเอกสารโชว์ขึ้นที่จออีกครั้ง “จะเห็นว่ามันห่างกันไม่นานเลยค่ะ นีน่าน่าสงสารมาก ผู้หญิงอายุแค่ยี่สิบปีต้องรับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และต้องดูแลน้องที่เพิ่งเกิดนับว่าเป็นภาระที่หนักมาก และนีน่าก็เก่งมากๆ ปลาชื่นชมในตัวน้องค่ะ”

                ภคิณเอื้อมมือไปกุมมือที่เย็นเฉียบของนีรชาที่อยู่ใต้โต๊ะ

                “ไม่แปลกใจเลยที่นีน่าเติบโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงเก่งขนาดนี้” ปลิตามองนีรชาด้วยความชื่นชม “วันนี้น้องทีน่าก็มาด้วยนะคะ เดี๋ยวให้สุดหล่อโชว์ตัว”

                สตาฟฟ์พานทีออกมา เด็กชายเดินมาหานีรชาแล้วขึ้นมานั่งบนตักพี่สาว เรียกความเอ็นดูของทุกคนได้ไม่ยาก

                “ประเด็นนี้เคลียร์แล้วนะคะ” ปลิตาลอบถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่มีใครสงสัยในเรื่องความสัมพันธ์ของนีรชาและนที

                “ขอสอบถามน้องนีน่าค่ะ พอดีว่าหลักฐานฉบับนี้คุณธัญญ่า คนที่ปั้นน้องนีน่าเป็นคนเอามาเปิดเผย แสดงว่าต้องมีปัญหากันแน่ๆ น้องนีน่าพอจะตอบได้ไหมว่ามีปัญหาอะไรกับคุณธัญญ่าคะ”

                นีรชายิ้มก่อนตอบเสมอ เธอเตรียมตัวมาตามที่ภคิณบอก 

                “ที่จริงแล้วนีน่ายังเคารพพี่ญ่าเหมือนเดิมนะคะ ไม่ลืมว่าที่มีวันนี้ได้เพราะพี่เขา แต่บางทีการจะทำอะไรที่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ และอาจมีผลเสียตามมาในอนาคต ซึ่งจะมีผลกระทบต่อนีน่าและพี่ญ่า นีน่าก็เลือกที่จะไม่ทำค่ะ สิ่งนี้จึงทำให้เรามีความเห็นไม่ตรงกัน”

                “แสดงว่ามีปัญหากันจริงๆ ต่อไปนี้ธัญญ่าก็จะไม่ได้ดูแลน้องนีน่าต่อไปใช่ไหมคะ”

                “ตอนนี้นีน่าอยู่ในความดูแลของกองประกวดค่ะ ซึ่งจะมีการเทรนน้องเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่เวทีต่อไป หากพี่เลี้ยงนางงามยังอยากดูแลน้องต่อ ก็ได้ค่ะ แต่ต้องดูแลควบคู่กับกองประกวดค่ะ” ปลิตาเป็นคนตอบ

                แต่ธัญญ่าคงไม่อยากแล้ว

                “แล้วทางกองประกวดจะปลดน้องนีน่าหรือให้น้องอยู่ในตำแหน่งต่อคะ ขออนุญาตพูดตรงๆ นะคะ หลายคนเห็นว่าให้ปลดนีน่า แล้วให้น้องแพรวขึ้นมารับตำแหน่งแทน ทางกองจะว่ายังไงคะ”

                “นีน่าก็ผิดครับที่ไม่จัดการเอกสารให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาประกวด” นั่นคือเรื่องนที ควรต้องมีเอกสารยืนยันว่าไม่ใช่มารดาของเด็กชาย “แต่ในเมื่อพิสูจน์ได้แล้วว่านีน่าไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข เธอเลยมีสิทธิ์ที่จะดำรงตำแหน่ง Miss Perfect Beautiful QueenThailand 2023  ครับ”

                “แสดงว่าคุณภคิณจะไม่ปลดน้องใช่ไหมครับ”

                “ครับ และจะไม่มีใครมาแทนที่ ตำแหน่งนี้ยังเป็นของนีน่า”

                หมายถึงตำแหน่งนางงาม หรือตำแหน่งหัวใจเจ้าของเวทีกันนะ?

                พลิก... ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 

                นางงามสู้ชีวิต นีรชา อัปสรวงศ์

                กองฯ ยัน ไม่ปลดนีน่า Miss Perfect Beautiful QueenThailand 2023

                ข่าวของนีรชากลับมาแชร์ว่อนเต็มหน้าฟีดอีกครั้งหลังจบการสัมภาษณ์ กระแสตีกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเห็นใจในมรสุมชีวิตของหญิงสาว ชื่นชมในความสู้ชีวิต การเป็นเด็กดีที่พาตัวเองเรียนจนจบ แถมยังทำหน้าที่พี่สาวได้ดีเยี่ยม

                คุณแม่หลายๆ ท่านเทใจให้หญิงสาว เพราะเข้าใจว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ง่ายเลย 

                แฮชแท็ก #นีรชาคนสู้ชีวิต ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์

                เป็นอีกครั้งที่โทรศัพท์ของกองประกวดสายแทบไหม้ ไม่ใช่เพราะโทร. มายกเลิกสัญญา แต่โทร. มาติดต่องานนีรชา แถมคนที่บอกจะยกเลิกสัญญานั้นก็ไม่มีวี่แววโทร. มาทวงเลย คงจะเปลี่ยนความคิดไปแล้ว

                เช่นเดียวกับร้าน Neena’s Flowers ที่ลูกค้าโทร. มาสั่งดอกไม้จนจัดแทบไม่ทัน หญิงสาวจึงต้องรับพนักงานเพิ่มและจ้างนักศึกษามาทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้าน

                และที่สำคัญยอดติดตามในอินสตาแกรมของนีรชาเพิ่มขึ้นจนถึงหนึ่งล้านคน

                

                คืนวันศุกร์

                สามหนุ่มนัดกันที่ร้าน The Inch ของภูรินทร์ มาครั้งล่าสุดก็ก่อนที่คีรีจะไปทำงานที่ต่างประเทศ นั่นก็หลายเดือนแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเจอกันบ้างตามงาน แต่ก็ได้คุยเพียงไม่นาน และไม่ได้ชิลแบบนี้ เพราะต้องสวมมาดผู้บริหารอยู่ตลอด

                “วันนี้มาฉลองให้มึงเลยนะไอ้คิณ” เจ้าของร้านบอกกับเพื่อนที่มาช้า แต่วันนี้เขาจะเป็นเจ้ามือเอง ไม่ให้ภคิณจ่ายเหมือนครั้งก่อน

                “ฉลองอะไรกัน วันเกิดกูหรือไง” 

                “ก็ฉลองที่มึงจัดการเรื่องร้ายๆ ให้ผ่านไปด้วยดีไงโว้ย” 

                ภูรินทร์และคีรีตามข่าวอยู่ตลอด ตอนแรกก็คิดว่าจะมีหลาน ที่ไหนได้นทีเป็นน้องแท้ๆ ของนีรชา ไม่ได้เป็นลูกเหมือนที่ข่าวบอกทีแรก และพวกเขาก็คิดว่ามีโอกาสสูงที่ภคิณจะเป็นพ่อของเด็ก 

                เกือบเข้าพลอตท้องแล้วหนี

                “ก็เกือบแย่อยู่เหมือนกัน” ถ้านีรชาไม่เล่าให้ฟังก่อน แล้วเธอตกลงทำตามข้อเสนอของธัญญ่า 

                “มึงรีบเล่าเลย เรื่องมันเป็นยังไง” คีรีรบเร้า

                “ไฮโซธัชอยากได้นีน่าเลยให้ธัญญ่าพี่เลี้ยงนีน่ามาทาบทาม แต่นีน่าไม่ตกลงก็เลยทะเลาะกัน แล้วธัญญ่าก็ปล่อยข่าวที่มึงเห็นนั่นแหละ พวงมึงก็ระวังดีๆ เวลาอยากได้ใครแล้วไปดีลกับผู้จัดการเขา บางทีเจ้าตัวอาจไม่ได้ยินยอม”

                ภคิณวกมาจิกเพื่อนทั้งสอง   

“กูรู้น่า ไม่ชอบฝืนใจใครด้วย” เพลย์บอยหนุ่มออกตัว “ว่าแต่ไฮโซธัชนี่เป็นเจ้าของคลินิกศัลยกรรมใช่ไหมวะ”

“อืมมม”

“มีเมียแล้วนี่หว่า”

“แถมเมียยังดุด้วย” ภูรินทร์เสริม “เมียเขาเป็นเพื่อนพี่สาวกูเอง เห็นมาบ่นเรื่องผัวให้ฟังบ่อยๆ ดีแล้วที่น้องนีน่าไม่ตกลง ไม่งั้นได้เป็นเมียน้อยเขา เผลอๆ โดนเมียเขาจับได้แล้วจะซวยไปใหญ่”

“นีน่าไม่ทำแบบนั้นหรอก” คนที่รู้จักหญิงสาวดีออกตัว ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาสองคู่ที่จ้องจับผิด

“รู้จักเขาดีจังเลยนะ น้องนีน่าเนี่ย” เจ้าของร้านแซว ถึงว่าเขาคุ้นหน้านีรชาครั้งแรกที่เจอกัน คงเป็นเพราะเคยเห็นรูปหญิงสาวที่ห้องนอนของภคิณ

“...” ภคิณเงียบ เดาว่าคีรีคงเล่าเรื่องของเขากับนีรชาให้ภูรินทร์ฟังแล้ว

“มึงจะปล่อยเขาไปแบบนี้เหรอวะคิณ นับวันนีน่ายิ่งเป็นที่รู้จัก คนเข้าหาก็เยอะ แน่นอนว่าตัวเลือกก็มากขึ้น มึงจะปล่อยให้คนอื่นจีบโดยที่ไม่ทำอะไรแบบนี้หรือไงวะ” 

“ใครว่ากูจะอยู่เฉยๆ” คำตอบของภคิณทำเอาเพื่อนทั้งสองเหวอ

“โห ไอ้นี่มันร้าย”

“เพื่อนมึงร้ายมากไอ้คี”

“กูบอกแล้วว่าถ่านไฟเก่ามันจะคุ” คีรีตบหน้าเข่าตัวเองฉาด 

ให้มันได้อย่างนี้ดิเพื่อนรัก

“แต่กฎของมึงคือไม่ยุ่งกับเด็กในสังกัดตัวเอง ไม่ใช่เหรอวะ นีน่าก็เป็นหนึ่งในนั้น” 

“แต่คนที่รักกันมาก่อน ถือว่าเป็นข้อยกเว้น” 

                

                แม้ว่าจะให้อำนาจลูกชายบริหารกิจการต่อเต็มที่ แต่ปกรณ์ยังดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท และคอยดูภคิณอยู่เสมอ 

                นับวันภคิณยิ่งสร้างความภูมิใจให้เขา ก่อนที่จะลงจากตำแหน่งประธานบริษัทก็คิดอยู่นาน เพราะยังไม่ไว้ใจในความสามารถของเด็กรุ่นใหม่ เส้นทางนี้มีอุปสรรคที่ภคิณต้องเจออีกมาก

แต่ภคิณเชื่อมั่นในตนเอง แถมยังยื่นข้อเสนอที่ทำได้ยากให้พ่ออย่างเขาและมุกดา โดยมีเงื่อนไขว่าหากภคิณสามารถทำกำไรให้บริษัทเพิ่มขึ้นสามปีติดต่อกัน จะต้องยกเลิกสัญญากับครอบครัวของเกษรา และให้อิสระชายหนุ่มในการหาคู่เอง จะไม่เอาชีวิตไปผูกไว้กับใครอีก

ซึ่งภคิณก็สามารถทำได้จริง แถมยังทำกำไรให้บริษัทเพิ่มขึ้นทุกปี 

คราแรกที่ตัดสินใจให้เด็กทั้งสองคนจองกันไว้ เป็นเพราะจะได้เอื้อต่อธุรกิจในอนาคต แต่วันนี้ภคิณแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถพาบริษัทเดินไปข้างหน้าได้ โดยไม่ต้องอาศัยตระกูลของเกษราหนุนหลัง

ทางนั้นก็เสียดาย แต่ก็ดีกว่าผิดใจกันเปล่าๆ จึงยอมยกเลิกสัญญา แต่ยังไม่หมดหวัง เพราะเกษราและภคิณก็ยังเหมือนเดิม คือไม่มีการพัฒนาไปข้างหน้า ไม่ถอยหลัง 

                บริษัท Seeric Cosmetics เดิมชื่อ SCJ Group ภคิณปรับเปลี่ยนหลายสิ่งในบริษัทหลังจากที่เขาเข้ามาดำรงตำแหน่งสูงสุด หนึ่งในนั้นคือปรับชื่อให้ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงสอดคล้องกับชื่อตระกูล

ล่าสุด Seeric Cosmetics ผลิตสินค้าตัวใหม่ออกมาได้สำเร็จ ซึ่งใช้เวลาในการวิจัยหลายเดือนกว่าจะได้ลิปสติกที่ติดทน กันน้ำ ไม่ลอก ไม่เป็นขุย ที่สำคัญคือจูบแล้วไม่หลุด

                ภคิณให้โจทย์ทีมงานไป เขาคอยติดตามความก้าวหน้าจนมันสำเร็จ และใกล้เวลาเปิดตัวสักที

                วันนี้จึงมีการประชุมเพื่อเลือกพรีเซนเตอร์สินค้าตัวนี้

                ภคิณนั่งอยู่หัวโต๊ะ มองภาพบนจอโพรเจกเตอร์ที่กำลังฉายสินค้า โดยมีทีมงานผู้ออกแบบอธิบายประกอบ เขาให้อิสระในการทำงานกับลูกน้องเต็มที่ แต่พอถึงเวลาต้องได้งาน เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด และหากเขาให้ปรับตรงไหนก็ต้องรีบแก้โดยด่วน 

                “พรีเซนเตอร์ลิปสติกตัวนี้เรามองไว้สามคนครับ” 

                ลิปสติกคอลเล็กชันใหม่เป็นแบบลิปตเนื้อแมตต์ ให้สีที่คมชัด กลบริมฝีปากได้มิด ไม่มีความมันวาว แต่ไม่ทำให้ริมฝีปากดูเเห้งจนเกินไป ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่ง Seeric Cosmetics ผลิตออกมาทั้งหมดห้าเฉดสี

                ภคิณเคาะนิ้วกับโต๊ะเบาๆ อย่างใช้สมาธิ นึกไม่ออกเลยว่าใครจะเหมาะเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าของเขา

“คนแรกจะเป็นคุณปริม ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาลครับ ส่วนคนที่สองจะเป็นคุณลูกพลัม ตอนนี้ละครที่เธอกำลังเล่น เรตติงสูงมาก แฟนคลับของเธอก็เยอะครับ” สองคนที่กล่าวมาเป็นดาราทั้งคู่ “ส่วนคนสุดท้ายคือคุณนีน่าครับ กระแสของคุณนีน่ากำลังมาแรงในช่วงนี้ แถมเธอยังใหม่ ภาพจำสินค้าชนิดอื่นยังไม่เยอะ ที่สำคัญคือ เธอเป็นคนของเรา”

คำว่าคนของเราที่หัวหน้าทีมงานหมายถึง คือ นีรชาอยู่ในสังกัดของกองประกวด ซึ่งกองประกวดก็เป็นอีกหนึ่งทีมย่อยของบริษัท เท่ากับว่านีรชาเป็นคนของบริษัทไปด้วย

“งั้นพวกคุณโหวตได้เลย ว่าจะให้ใครเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ผมไม่ติดสักคน”

ระหว่างที่ให้สมาชิกในบอร์ดลงความเห็น ท่านประธานก็หวนคิดไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากจะผลิตสินค้าชนิดนี้ขึ้นมา

คืนวันเกิดของภคิณเจ็ดปีก่อน

ชายหนุ่มรบเร้าให้นีรชาไปเจอเพื่อนๆ เขาด้วย โดยให้หญิงสาวใส่ชุดที่เขาซื้อมาให้ และใช้เครื่องสำอางของ SCJ Group แต่งหน้า

พอรถหยุดนิ่ง นีรชาก็ปลดเข็มขัดนิรภัย ภคิณเองก็ทำเช่นเดียวกัน แต่ก่อนที่หญิงสาวจะลงจากรถ ภคิณก็คว้าแขนเธอไว้ แล้วโน้มตัวลงมาหา

“อื้อ...”

นีรชาครางอือ ชายหนุ่มจูบเธอโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาบดจูบหนักๆ และสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ดูดดึงความหอมหวาน ไม่มีท่าทีจะหยุดง่ายๆ

“พี่คิณ” นีรชาทุบแผงอก เธอจะขาดอากาศหายใจ เขามูมมามเหลือเกิน ก่อนมาก็เล่นสูบแรงเธอจนหมด ตอนนี้ยังไม่พออีก “พอแล้ว...”

ชายหนุ่มจำต้องผละออก ไม่อย่างนั้นเพื่อนเขาอาจจะรอนานกว่านี้ 

ภคิณและนีรชาเดินเข้ามาในร้าน พอถึงโต๊ะที่จองไว้ก็เห็นคีรีนั่งรออยู่แล้ว คนอื่นยังไม่มา นีรชาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทีแรกภคิณจะตามไปด้วย แต่เธอขอไปเอง ให้เขาได้อยู่กับเพื่อน

คล้อยหลังนีรชา คีรีที่รอจังหวะก็รีบแซว

“กลัวคนไม่รู้หรือไงว่ามึงทำอะไรกันมา” คีรีมองไปที่ปากเพื่อน

ภคิณทำหน้างง

“ก็ปากมึงสีเดียวกับนีน่าขนาดนี้ ดูไม่รู้เลยมั้งว่าจูบกันมา”

ภคิณหยิบกระดาษทิชชูมาขยี้ริมฝีปากตนเอง พบว่าสีลิปติดออกมาบนกระดาษจริงๆ

“กูคงต้องให้บริษัทผลิตลิปสติกที่จูบไม่หลุดแล้ว แม่งงง” นีรชาคงลุกไปเติมปาก เพราะสีที่เธอทามามันอยู่ที่ปากเขาหมดแล้ว 

“ผลิตมาแล้วมึงอย่าลืมทดสอบด้วยล่ะ”

“มติที่ประชุมลงความเห็นว่าพรีเซนเตอร์ลิปสติกของเราเป็นคุณนีน่า นีรชา อัปสรวงศ์ ค่ะคุณภคิณ” หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟรายงานเขา

นี่สินะที่บอกว่าลิปเลือกคน

เลือกคนที่เป็นแรงบันดาลใจเสียด้วย

เขามองผลการโหวตบนจอแสดงผล คะแนนกินขาด และเลื่อนสายตาไปดูรายชื่อคนที่โหวตให้นีรชาว่ามีใครบ้าง

อืม...คุณปกรณ์ก็เลือกคนนี้

รถยนต์สัญชาติยุโรปแล่นเข้ามาจอดนิ่งที่โรงจอดรถ ภคิณลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน 

“คุณแม่ คุณพ่อล่ะ” พอเห็นสาวใช้จึงเรียกถาม ขณะที่พวกเธอกำลังปัดกวาดเช็ดถูอยู่ในห้องนั่งเล่น

“คุณผู้หญิงไปสมาคม ส่วนคุณผู้ชายไปตีกอล์ฟค่ะ” ก้มหน้าก้มตาตอบอย่างเรียบร้อย 

เกือบสัปดาห์ที่ภคิณไม่ได้กลับมาที่บ้าน เจอแต่บิดาที่บริษัท ส่วนมารดาและคุณปู่ เขาจำไม่ได้ว่าเจอกันครั้งล่าสุดนี่เมื่อไหร่

“เจ้าสัวล่ะ”

“ท่านเจ้าสัวเอนหลังอยู่ที่ศาลาในสวนค่ะ”

เสียงฝีเท้าที่ย่างเข้ามาใกล้ ทำให้คนแก่หันไปมองที่ผืนหญ้าเขียวขจี เห็นว่าเป็นหลานชายคนเดียวจึงหันมาสนใจไอแพดในมือต่อ

“นึกว่าจำทางกลับบ้านไม่ได้แล้วนะ” 

ภคิณนั่งลงที่เบาะรองนั่ง คนสูงวัยก็เอ่ยประชด 

เจ้าสัวธนินนั่งเอนหลังอยู่ที่เก้าอี้ไม้ สวมแว่นสายตายาว ข้างๆ ท่านมีกาน้ำชาและแก้วเอาไว้จิบ ส่วนคนรับใช้ท่านชอบไล่ให้ไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องมาเฝ้า หากต้องการใช้จะเรียกหาเอง

เจ้าสัวปิดหน้าจอไอแพดวางไว้ที่ตัก ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงมองหลานชายคนเดียว

“ผมไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์นะครับปู่” ทำให้คนแก่อารมณ์ดีสักหน่อยดีกว่า “ถ้าเป็นคุณปู่ว่าไปอย่าง”

“ไอ้นี่!” คนสูงวัยทำท่าจะลุก หลานชายคนนี้ปีนเกลียวนัก มาถึงก็แช่งเลย “ปากเสียจริงๆ”

“ดูอะไรอยู่ครับ” ภคิณเปลี่ยนเรื่อง เดี๋ยวท่านเจ้าสัวจะความดันขึ้น เพราะเขาชอบกวนตีนท่าน 

“ดูสาวๆ” เจ้าสัวบอกอย่างรำคาญ

“หือออ” ภคิณตาโต “สาวๆ ที่ไหนครับเนี่ย”

“นีน่า คนมงปีนี้ไง” ท่านเปิดไอแพดแล้วยื่นมาให้ภคิณดู เป็นอินสตาแกรมของนีรชา ที่มียอดติดตามล้านกว่าคน หนึ่งในนั้นเป็นคุณปู่และคุณแม่ของเขา

แอกเคานต์นี้เป็นของปู่เขา ไม่มีการอัปภาพใดๆ เอาไว้ติดตามคนในครอบครัว และสิ่งที่สนใจเฉยๆ 

ภคิณเห็นว่าแอกเคานต์นี้มันขึ้นว่ากำลังติดตามนีรชา และมีแอกเคานต์ของมุกดากำลังติดตามอยู่เช่นกัน

“ตัวจริงนิสัยดีไหม” 

หลานชายได้คลุกคลีกัน เอฟซีอย่างท่านจึงอยากรู้จักเพิ่มขึ้น เห็นข่าวที่ออกมาแล้วรู้สึกสงสารนีรชามาก ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย เลยทำให้ได้ใจคนสูงวัยเข้าไปอีก

“ก็ดีครับ น่ารักดี” 

เจ้าสัวธนินรินน้ำชาเมื่อรู้สึกว่าคอแห้ง โดยมีหลานชายช่วยหยิบแก้วให้ 

“รีบไปไหนหรือเปล่าวันนี้”

“ไม่ครับ” วันนี้ถือว่าว่างในรอบเดือนก็ว่าได้

“อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนสิ”

ภคิณจับความรู้สึกได้จากน้ำเสียงของเจ้าสัวธนิน ท่านคงจะเหงาไม่น้อย เพราะบิดาและมารดาก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนเขาเองก็แทบจะไม่ได้กลับมาเลย

“ครับปู่ ขอโทษนะครับที่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วย”

“ปู่เข้าใจน่า รู้ว่าแต่ละคนมีการมีงาน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเถอะ” สมัยที่ท่านหนุ่มๆ ก็บ้างานเช่นกัน “แต่อย่าทำงานจนไม่มีเวลาหาเมียล่ะ”

“...” ภคิณยิ้มเฉยๆ

“หรือว่าที่ไม่ค่อยกลับบ้านนี่แอบซ่อนใครไว้หรือเปล่า” ท่านหรี่ตาจับผิด “ถ้ามีแล้วก็พามาแนะนำบ้าง”

“ตอนนี้ไม่มีครับ” ต่อไปก็ไม่แน่

“ฝ่าด่านปู่ไม่ยากหรอก คิณรักใครปู่ก็รัก แต่แม่เราอาจจะยากหน่อย รายนั้นเขาเรื่องมาก” ถือโอกาสนินทาลูกสะใภ้ลับหลังเสียเลย

อยากได้คนที่เพอร์เฟกต์ แต่คนคนนั้นภคิณไม่ได้รัก 

ซึ่งหลังๆ มุกดาก็ไม่ได้บังคับภคิณแล้ว เพราะชายหนุ่มทำตามข้อเสนอได้สำเร็จ 

“ถ้าผมเจอแล้ว จะพาเข้าทางคุณปู่ก่อนนะครับ แล้วให้คุณปู่ช่วยพาฝ่าด่านคุณแม่”

“หาให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาคุยกัน”

ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นแปรผันตรงกับรายได้ของร้าน Neena’s flowers

เมื่อนีรชาเป็นที่รู้จัก ร้านของเธอก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นเช่นกัน หญิงสาวคิดอยู่หลายวันจึงได้ข้อสรุปว่าจะขยายร้านและรับพนักงานเพิ่มจากเดิม เนื่องจากแต่ละวันมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนเป็นเท่าตัว ลูกน้องที่มีก็เหนื่อยกัน และบางวันก็ทำเกือบไม่ทัน 

ป้าเกสรเองก็แทบไม่ได้พักเพราะต้องดูแลร้านช่วงที่เธอไม่อยู่ แถมยังต้องดูแลนทีไปด้วย แต่ท่านก็ไม่บ่น ออกจะสนุกด้วยซ้ำที่เห็นร้านขายดิบขายดี

นีรชาเข้าร้านแต่เช้า เพราะตอนบ่ายต้องไปออกงานพร้อมกับทางกองประกวด เธอแวะส่งนทีที่โรงเรียนแล้วก็ออกมาที่ร้านเลย ส่วนป้าเกสรและลูกน้องของเธอยังมาไม่ถึงร้าน เพราะยังเหลือเวลาอีกราวๆ หนึ่งชั่วโมงจึงจะเริ่มงาน

นีรชาอยู่ร้านคนเดียว เคลียร์ออร์เดอร์ที่ลูกค้าจะมารับวันนี้

“เปิดร้านหรือยังครับ” 

ป้ายหน้าร้านติดว่า Closed แต่มองเห็นเจ้าของร้านและไฟในร้านเปิดอยู่ ภคิณจึงเดินเข้ามาโดยไม่สนใจข้อความหน้าร้าน

“เอ่อ เปิดแล้วก็ได้ค่ะ” ในเมื่อมีลูกค้ามาก็เปิดไปเลย “คุณภคิณมีอะไรหรือเปล่าคะ”

นีรชาแปลกใจกับการมาของเขา แต่ก็เดินออกมาหา

“ผมจะมาซื้อดอกไม้ ช่อดอกไม้แสดงความยินดีน่ะ”

“อ๋อค่ะ จะรับเป็นดอกอะไรคะ” ดอกไม้มีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความหมายต่างกัน เธอเดินนำมาที่ตู้แช่ดอกไม้สดที่ตั้งเรียงกันมากกว่าสิบตู้ 

แต่ละตู้จะมีชื่อดอกไม้กำกับ ภคิณถือวิสาสะเดินตามนีรชา มองดอกไม้หลากชนิดที่อยู่ในความเย็น

“ดอกทิวลิป มีความหมายยังไง” คนไม่รู้ถามผู้เชี่ยวชาญ

“ดอกทิวลิป เป็นสัญลักษณ์ของรักครั้งแรกค่ะ หมายถึงการตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจ ความหลงใหล และการปกป้อง” ขณะที่พูดเธอไม่มองเขา พยายามอธิบายเรื่อยๆ ให้เป็นปกติ 

นีรชาทราบความหมายของดอกไม้เกือบทุกชนิดในร้าน เพราะต้องใช้ให้ตรงกับประเภทของงาน และแนะนำลูกค้าได้ถูกต้อง ลูกน้องของเธอก็ทราบเรื่องนี้ด้วย

“อืม ดอกกล้วยไม้พวกนี้ล่ะครับ” ภคิณเดินไปหยุดที่ตู้ต่อไป

“กล้วยไม้เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความรัก และความสง่างามค่ะ” ขณะที่ตอบเขา นีรชาหยิบจับนั่นนี่ไปพลางๆ “คุณอยากได้ความหมายประมาณไหนคะ ฉันจะได้แนะนำถูก”

“ถ้าแสดงถึงการรอคอยอย่างมีความหวัง และความทรงจำอันงดงาม ต้องใช้ดอกอะไร” ภคิณมองตาเจ้าของร้าน “มีหรือเปล่าดอกไม้ที่มีความหมายแบบนี้”

“เอ่อ มีค่ะ ดอกลาเวนเดอร์” หญิงสาวเดินไปเปิดตู้ดอกไม้ชนิดนี้ หยิบออกมาให้เขาดูเพื่อกลบความเขิน 

จากน้ำเสียงและสายตาเมื่อครู่ที่ภคิณส่งมา นีรชาอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเขาหมายถึงเธอ ซึ่งทั้งคู่มีความทรงจำในอดีตร่วมกัน

ทั้งดี ทั้งร้าย

“จัดให้ผมหนึ่งช่อ”

“ได้ค่ะ เชิญคุณนั่งรอสักครู่นะคะ”

                การรอคอยอย่างมีความหวังและความทรงจำอันงดงาม

                ภคิณไม่ได้หมายถึงเธอ เขาหมายถึงคนรับช่อดอกไม้นั้น ซึ่งก็คือเกษราต่างหาก

นีรชานั่งมองภาพบรรยากาศการเปิดตัวชุดว่ายน้ำคอลเล็กชันล่าสุดของเกษรา ซึ่งจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ภายในงานมีคนในวงการและเซเลบมาแสดงความยินดีกับเจ้าของแบรนด์กันท่วมท้น

ภคิณก็เป็นหนึ่งในนั้น เขานำช่อดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเกษรา

นีรชาจำได้ว่าดอกไม้ช่อนั้นตัวเองเป็นคนจัด 

แถมยังมีภาพคู่ของทั้งสองคนยืนยันอีก

แต่มันก็ไม่น่าแปลก เพราะภคิณและเกษราเป็นคู่หมายกัน อีกไม่นานทั้งคู่คงได้ลงเอย

ทำไมยังรู้สึกเจ็บอยู่นีน่า...

เจ็บเหมือนตอนนั้นเลย

“บอสคะ คลินิกเสริมความงามติดต่อมาอีกแล้วค่ะ”

ปลิตาผลักประตูห้องทำงานของท่านประธานเข้ามาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ภคิณที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึกจึงเงยหน้ามองผู้จัดการกองประกวด 

“ครั้งนี้เสนออะไรมาอีก”

“ค่าพรีเซนเตอร์หกหลัก พร้อมแพ็กเกจศัลยกรรมหน้าอกค่ะ ระบุมาว่าขอเป็นน้องนีน่าคนเดียว”

ภคิณถอนหายใจ 

นี่มันจะไม่หยุดจริงๆ ใช่ไหม

แม้ว่าจะโดนนีรชาปฏิเสธ แต่ธัชธรก็ไม่ยอมแพ้ ไฮโซหนุ่มยังยื่นข้อเสนอมาเรื่อยๆ นี่เป็นครั้งที่สามที่ทางนั้นต้องการให้นีรชาไปเป็นพรีเซนเตอร์ของคลินิกเสริมความงาม

ครั้งนี้ก็น่าจะโดนภคิณปัดตกไปอีก

“เสริมนมงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”

“ปลาก็เห็นว่านีน่ามีพอแล้วค่ะ ไม่ต้องไปเสริมให้เจ็บตัว” เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องนมตู้มแล้ว นมเล็กก็เซ็กซี่ได้ “แต่ดูเขาอยากได้น้องนีน่ามากๆ เลยนะคะ ปลาว่าต้องมีครั้งต่อไปแน่เลย”

ถึงนีน่าไม่มีนม เขาก็ไม่ให้ไปทำ เพราะกว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลา

เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ต้องเริ่มซ้อมเตรียมไปเวทีใหญ่แล้ว

“ทำตามที่ผมบอก ไม่รับงานจากบริษัทนี้ให้นีน่า รวมทั้งเด็กคนอื่นๆ ของเราด้วย” เพราะเจ้าของคลินิกไม่ได้หวังแค่งาน มันหวังตัวนางงามด้วย “ช่วงนี้มีอะไรแปลกๆ อีกไหม”

การติดต่องานของสาวงามทุกคนจะต้องผ่านทางกองประกวด จะไม่ติดต่อผ่านสาวงามเองโดยตรง ตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้

ซึ่งปลิตาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการของเด็กในสังกัด

“จะว่ามีก็ได้นะคะ เมื่อเช้ามีคนติดต่อมา บอกว่าเป็นเพื่อนของคุณแม่น้องนีน่าที่เสียไปแล้วค่ะ บอกว่ามีเรื่องที่อยากคุยกับนีน่า ตอนแรกปลาก็หวั่นๆ เกรงว่าจะโกหกนะคะ แต่พอถามเรื่องคุณแม่นีน่า เขาก็ตอบได้ เช่นพวกอาชีพ บ้านที่อยู่ อะไรแบบนี้ค่ะ ปลาเลยเอาเบอร์ไว้ แล้วเอาให้นีน่า ไม่รู้น้องติดต่อกลับไหม”  

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“เป็นผู้ชายค่ะ”

“ขอเบอร์ให้ผมที”

“สักครู่ค่ะ เดี๋ยวปลาส่งให้ในไลน์นะคะ”

“ขอบคุณมากครับ ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับนีน่ารีบแจ้งผมโดยตรงเลย”

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น