3

บทที่ 3

บทที่ 3

 

นัยน์ตาของเขาเป็นประกายวาววับผิดกับท่าทางสุภาพนุ่มนวลที่เขาชอบทำ แววตาที่เผลอแสดงว่าขบขันคำพูดของเธอทำให้นับดาวรู้สึกฉุนนิดๆ หากเขาจะกล่าวหาเธอว่าเก่งแต่ปาก แล้วคนที่บอกว่าหนึ่งคืนไม่จำกัดรอบอย่างเขาจะทำได้สักเท่าไหร่เชียว 

“คุณอยากได้ของว่างระหว่างดูเน็ตฟลิกซ์ด้วยไหมคะ” 

ในหัวของนับดาวจินตนาการไปถึงบรรดาชุดนอนไม่ได้นอนที่ซื้อมาเป็นเรเฟอเรนซ์สำหรับทำงาน นึกชั่งใจอยู่ว่าอะไรที่จะดูพิเศษที่สุด 

“ห้องผมสองทุ่ม ถ้าสายถือว่าคุณไม่เอาค่าแรงเอง” 

เขาโน้มตัวลงมากระซิบให้ได้ยินแค่สองคนก่อนจะเดินผ่านเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ นับดาวยกมือจับใบหูของตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ขณะเดียวกันก็เผลอหันไปสบตาบรรณาธิการสาวไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว 

แววตาของอีกฝ่ายมีความสงสัยใคร่รู้อย่างชัดเจน พอเห็นความกระหายที่อยากจะรู้และท่าทางร้อนรนอยู่ไม่สุขของอีกฝ่ายแบบนี้ นับดาวก็รู้สึกได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กลับมา เธอสวนตอบด้วยรอยยิ้มกว้างที่สดใส แล้วหมุนตัวเดินไปเอาข้าวของตัวเองจากหลังเคาน์เตอร์ ก่อนกลับยังไม่วายเอ่ยหยอกเจ้าของร้านให้เด็กพาร์ตไทม์ได้ยินอีกรอบ 

“สองทุ่มพร้อมของหวาน อย่าชิงหลับไปก่อนละกันค่ะ”

 

            เวลาสองทุ่มเป๊ะๆ เธอก็มาอยู่ในห้องของชารัฐ ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม แต่การมาเยือนครั้งนี้ทำให้เธอสำรวจที่พักของเขาได้นานขึ้น ข้าวของในห้องทั้งหมดถูกเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย กลิ่นของห้องก็หอมสะอาดเหมือนเจ้าของไม่มีผิด นับดาวยกขวดไวน์ในมือที่ชอบซื้อเก็บไว้ขึ้นมา แล้วถามชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง 

            “คุณอยากให้ฉันเอาไปวางไว้ตรงไหนไหมคะ” 

            “ไวน์?” 

น้ำเสียงทวนถามอย่างไม่เข้าใจของชายหนุ่มทำให้เธอต้องเฉลยจุดประสงค์ที่เอามันมาด้วย

            “ไม่คิดว่ามันเป็นการฉลองหน่อยเหรอคะ”

            “ผมมีของหวานในตู้เย็น คุณจะกินไหม”

            นับดาวพยักหน้าก่อนจะวางขวดไวน์ไว้บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นของเขาราวกับเป็นเจ้าของ เธอเห็นชีสเค้กที่หน้าตาคล้ายๆ กับขนมที่อยู่ในตู้ของร้านจึงเหลียวไปมองเขาเล็กน้อย 

            “สูตรใหม่ ผมยังไม่เคยเอาลงร้าน”

            เธอพยักหน้ารับแล้วหยิบมันออกมาสองชิ้น คว้าช้อนเล็กที่อยู่ไม่ไกลติดมาพร้อมแก้วไวน์ทรงสูงสองใบ แล้วเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาวที่ชารัฐนั่งอยู่แล้ว พอนั่งใกล้ๆ อีกฝ่ายแล้วเธอถึงเห็นว่าปลายผมของเขายังชื้นอยู่เล็กน้อย แถมยังได้กลิ่นหอมสะอาดที่เป็นตัวเขาลอยออกมา กลิ่นเบาบางที่ทำให้หัวใจเธอเต้นรัวขึ้นมา 

            “ฉันเอามาเผื่อคุณด้วย” 

นับดาวจัดแจงวางขนมและเปิดขวดไวน์ จากนั้นก็ยกขวดรินน้ำสีเข้มลงแก้วทรงสูงที่หยิบติดมาจากชั้นของชายหนุ่ม กลิ่นไวน์ที่บ่มมานานโชยออกจากขวดทันทีที่เปิดออก

ชารัฐคิดขึ้นมาในทันทีว่ามันเป็นกลิ่นที่ทั้งหวานนุ่มและลุ่มลึกชวนให้มอมเมา ไม่ต่างจากตัวหญิงสาวเลยสักนิด

            เขามองหญิงสาวที่เอาขนมเข้าปากคำ จิบไวน์ตาม แล้วรู้สึกทั้งผ่อนคลายทั้งแปลกใจ นึกอยากรู้ว่าวินาทีต่อไปเธอจะมีอะไรมาทำให้เขาประหลาดใจได้อีกบ้าง 

            ดูก็รู้ว่าพวกเขาสองคนมีเป้าหมายที่จะใช้เวลาร่วมกันในคืนนี้อย่างไร แต่นับดาวดูไม่เคอะเขินเลยแม้แต่น้อย...

            “ถ้าเลิกมองฉันแล้ว ก็เปิดเน็ตฟลิกซ์สิคะ” 

            เสียงหวานของเธอสูงขึ้นเล็กน้อย เป็นโทนเสียงออกคำสั่ง ทว่ามันไม่ได้น่ารำคาญเสียทีเดียว

จู่ๆ เขาก็ค้นพบว่านับดาวไม่ใช่แม่ตัวร้ายอย่างที่แสดงออก ชารัฐกดเปิดโทรทัศน์ จากนั้นก็เริ่มเลื่อนๆ ไล่ดูรายการที่น่าสนใจ จนสุดท้ายพวกเขาก็เลือกซีรีส์สืบสวนสอบสวนฝรั่งมาเรื่องหนึ่ง 

            กิจกรรมของพวกเขากลายเป็นการดูซีรีส์ขึ้นมาอย่างจริงจัง ระหว่างดูเขาก็ไม่ลืมคว้าแก้วไวน์ที่อีกฝ่ายรินให้ขึ้นมาจิบรับรสบ้าง 

            สัมผัสหวานเจือรสขมทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ากำลังชิมคนข้างๆ อยู่อย่างไรอย่างนั้น 

            จนเวลาเลยไปเกือบสามทุ่ม สายตาของเขามองอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ก็จริง แต่สมองกลับไม่ได้คล้อยตามซีรีส์ที่ฉายอยู่แม้แต่น้อย หัวของเขาว่างเปล่า เหมือนแค่เวลานี้เขานั่งอยู่เฉยๆ ซึมซับบรรยากาศที่มีหญิงสาวอยู่ด้วย ลิ้นและทั่วโพรงปากเอาแต่ค่อยๆ ละเลียดรับรสไวน์ในแก้ว จมูกสูดกลิ่นหอมหวานประหลาดที่แทรกซึมมาในอากาศ มันเป็นกลิ่นหวานๆ ที่ผสมอยู่ในอากาศ เป็นกลิ่นที่ไม่เคยเกิดขึ้นในห้องของเขา 

ชารัฐพยายามแยกแยะอยู่ว่าทั้งรสชาติและความหวานที่ได้สัมผัสคืออะไร 

            “คุณจะไม่ทำอะไรหน่อยเหรอคะ”

            เสียงของนับดาวไม่ได้ดังไปกว่าเสียงโทรทัศน์ แต่มันกังวานอยู่ในหัว กลบทุกเสียงจนมิด ชารัฐสูดลมหายใจเข้าก่อนจะวางแก้วไวน์ในมือ พลางหันไปสบดวงตาเรียวคมของเธอ 

            “คุณพร้อมแล้วเหรอครับ”

            เขามองลิ้นสีชมพูของหญิงสาวที่เลียริมฝากที่แห้งตัวเอง ก่อนจะได้ยินเสียงคำตอบของเธอ

            “ฉันพร้อมตั้งแต่เข้ามาในห้องคุณแล้วค่ะ”

 

ขณะที่ชายหนุ่มขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเธอพลันเต้นแรงขึ้นมา นับดาวสูดลมหายใจเข้าปอด นอกจากออกซิเจนที่ต้องการแล้ว เธอได้กลิ่นหอมหวานของกาแฟผสมกับกลิ่นสดชื่นบนตัวเขา เธอไม่แน่ใจว่าโทรทัศน์ปิดลงตอนไหน ไม่รู้ว่าเขาอุ้มเธอมาที่ห้องนอนอย่างไร แต่ที่รับรู้ตอนนี้คืออุณหภูมิอุ่นร้อนของฝ่ามือชารัฐที่วางลงบนเอวของตน

“คุณตื่นเต้น?” ปลายเสียงของชารัฐสูงขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาเป็นประกายวาววับจนเธอหมั่นไส้

“คิดไปเองแล้วค่ะ” 

เธอควบคุมไม่ให้เสียงตัวเองสั่น พริบตาเธอก็ดันตัวชายหนุ่มออกพร้อมผลักให้เขาล้มลงไปนอนบนเตียงแทน 

ร่างของเธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนจะนั่งคร่อมลงบนร่างของเขา รั้งปลายเสื้อของเขาและบังคับให้ชายหนุ่มถอดมันทิ้งไป จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วลากผ่านหน้าอกเปลือยเปล่า เลื่อนมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

“คุณนี่มันน่ากินสุดๆ ไปเลย” เธอพูดพลางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอโน้มตัวลงไปกัดริมฝีปากเรียวของชายหนุ่ม นอกจากความนุ่มแล้วยังรู้สึกได้ถึงรสของไวน์หวานๆ ที่ซึมเข้ามา 

มือทั้งสองของเขาประคองเอวของเธอ ริมฝีปากของเธอกับเขาเคลื่อนไหวกลืนกินกันและกันอย่างหิวกระหาย ลิ้นร้อนของชายหนุ่มตวัดพันเกี่ยวกับลิ้นของเธอพลางตรวจสอบทุกสัมผัสความหวานในโพรงปาก พอรู้ตัวอีกครั้งชุดกระโปรงของเธอก็ถูกรั้งขึ้น นับดาวยกมือขึ้นสูงให้เขาถอดชุดของตัวเองออกได้สะดวก เนื้อตัวเหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวปกปิดร่างกาย พอเธอขยับตัวก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่กำลังนูนดันอยู่ ที่มาคงเป็นเจ้าสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงของเขา 

“ท่าทางอึดอัดนะคะ” เธอเย้าแหย่ขณะค่อยๆ ใช้นิ้วลูบเบาๆ บนจุดที่พองนูนขึ้นมา 

“อย่าซนครับ” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าพลางจับข้อมือไม่ให้เธอขยับ

ชารัฐยันร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นมา ทำให้ท่าทางของทั้งสองเปลี่ยนไป กลายเป็นเธอกำลังนั่งคร่อมบนตักหันหน้าประชิดชายหนุ่ม มือทั้งสองวางพาดบนไหล่กว้างและปล่อยให้ริมฝีปากของเขาจูบบนผิวกายของตัวเองไล่ไปตามแอ่งชีพจรอย่างอ้อยอิ่ง

ตะขอเสื้อในจากด้านหลังถูกปลดออก ก่อนที่มันจะถูกโยนไปกองที่พื้นด้วยฝีมือของชารัฐ ตามด้วยชั้นในชิ้นสุดท้ายที่ค่อยๆ ถูกรูดลงออกจากเรียวขา สัมผัสจากปลายนิ้วชายหนุ่มเป็นดั่งกระแสไฟที่แล่นผ่านไปทั่วร่างกายของเธอ นิ้วมือของเขาตรงสัมผัสเข้าที่จุดอ่อนไหวที่สุดของเธอ

“คุณเปียกแล้ว”

เขากดเสียงต่ำไม่ต่างจากเสียงกระซิบ อากาศเย็นภายในห้องทำให้เธอขนลุก แต่เหนือสิ่งอื่นใดการที่เขาใช้นิ้วหยอกเย้าดอกไม้ของเธอเรื่อยๆ ไม่หยุดแบบนี้ มันทำให้สมองของเธอขาวโพลน ลมหายใจของเธอหอบหนักกว่าครั้งก่อน มือไม้พลันอ่อนระทวย ได้แต่ยึดไหล่เขาเป็นที่พึ่ง ฟันของเธอขบริมฝีปากกลั้นไม่ให้ตัวเองหลุดเสียงครางออกไป 

“ผ่อนคลายนะครับ” 

เอาอีกแล้ว...เสียงนุ่มของเขาไม่ต่างจากมนตร์สะกด เธอเผลอปล่อยตัวให้เขาสำรวจไปทั่วร่างกาย ลำคอหลุดเสียงครางแผ่วเบาออกมา ความใกล้ชิดทำให้เธอได้ยินเขาส่งเสียงครางต่ำในลำคออย่างพอใจ พริบตาต่อมาเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วของเขาเปลี่ยนจังหวะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังออกแรงกดจนเธอต้องบิดเร่าเพราะความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น ชั่วอึดใจก็เธอส่งเสียงหวีดร้อง จิกเล็บลงบนผิวกายของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว

ความรู้สึกในเวลานั้นเหมือนเธอได้ล่องลอยไปจนสุดขอบฟ้า จากนั้นก็ทิ้งดิ่งตกลงมากะทันหัน ความรู้สึกที่สุขปริ่มๆ และต้องการมันอีกราวกับปลาที่ต้องการน้ำพาให้ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียก แต่พอนึกได้ว่ากำลังเผยท่าทางไม่ประสาให้เขาจับสังเกตได้ นับดาวก็พยายามกัดฟันทำทีเป็นไม่สนใจความรู้เสียวซ่านที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก 

ชารัฐยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าของคนชอบอวดดีแดงก่ำ ลมหายใจของหญิงสาวหอบถี่ พอเขาเอนดันให้ร่างเล็กๆ ของเธอนอนลงบนเตียง ชารัฐถึงได้เห็นเรือนร่างเนียนละเอียดของหญิงสาวเต็มตา 

เขาลูบไปทั่วร่างกายของเธอ ผิวของเธอเรียบสม่ำเสมอไม่ต่างจากกระเบื้องเคลือบ เรียวขาราว ต้นขาสมส่วน เอวบางคอดกิ่ว หน้าอกที่พอเอื้อมไปสัมผัสก็ล้นออกจากฝ่ามือ แม้จะพอเห็นรอยแตกที่ผิวบริเวณสะโพกและต้นขาของเธอจางๆ เขาโน้มตัวไปพรมจูบที่รอยแตกดังกล่าว 

เขารู้ว่าผู้หญิงหลายคนย่อมถือสาเรื่องแบบนี้ แต่เขาไม่เคยถือสา เวลานี้ชารัฐรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาสมบูรณ์แบบแล้ว ทุกร่องรอยบนผิวกายคือหลักฐานของความพยายามที่เธอผ่านมา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่ามันน่ารักมากกว่าจะมองว่าน่าเกลียด

เสียงครางเล็กๆ จากลำคอของหญิงสาวไม่ต่างจากเสียงลูกแมว ฟังแล้วชารัฐอดรู้สึกคันยุบยิบในใจไม่ได้ ร่างกายของเธอมีอิทธิพลต่อเขากว่าที่คิด ยิ่งเลื่อนไปสัมผัสส่วนไหน เขาก็เหมือนกับผู้ค้นพบดินแดนใหม่ที่มีตัวเขาเพียงผู้เดียวเป็นผู้ครอบครอง 

กลิ่นกายหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์จากนับดาวทำให้เขาตื่นตัว ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ เขาค่อยๆ เล้าโลมเธอไปทีละจุดช้าๆ ถึงมันจะเป็นแค่เซ็กซ์ที่เกิดจากผลประโยชน์ร่วมกัน แต่เขาอยากให้หญิงสาวรู้สึกร่วมไปด้วยกัน ไม่ใช่การฝืนใจให้อีกฝ่ายรองรับอารมณ์และความต้องการอยู่ฝ่ายเดียว 

หลังจากพรมจูบและลูบไล้ทั่วร่างกายของหญิงสาวจนเธอหายจากอาการตื่นเกร็ง ความอึดอัดทรมานที่แก่นกลางร่างกายทำให้เขาตัดสินใจปลดพันธนาการ ปล่อยให้ร่างกายตัวเองเป็นอิสระจากเสื้อผ้าที่ขวางกั้น พริบตาร่างกายของพวกเขาก็เปลือยเปล่า ผิวกายที่เสียดสีกันทำให้อุณหภูมิภายในห้องร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

นิ้วของเขาค่อยๆ เคลื่อนมาคลึงยอดอกสีอ่อน สัมผัสเช่นนี้ทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ปลายนิ้วเท้าเผลอจิกผ้าปูที่นอน ชารัฐโถมตัวเข้าไปใกล้ ใช้ลิ้นอุ่นร้อนของตนโลมเลียยอดอกของนับดาวผลัดกับการบีบคลึงไปมา 

รอจนร่างกายของหญิงสาวไม่เหลืออาการเกร็งแล้ว เขาถึงได้กระซิบถามข้างหูเธออีกครั้ง

“คุณพร้อมหรือยัง”

นัยน์ตาของเธอฉ่ำวาวและแดงก่ำ สะท้อนภาพใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นับดาวหลุบตาหลบสายตาเขาเล็กน้อยก่อนจะหันมาสบประสานอย่างใจกล้า ริมฝีปากขยับบอกเบาๆ 

“รออะไรอยู่คะ” 

เมื่อได้สัญญาณยินยอม ชารัฐก็ไม่รอช้า หันไปคว้าซองถุงยางอนามัยที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมาก่อนจะสวมมันลงบนตัวตนที่แข็งร้อน เวลานั้นเขาเห็นว่าสายตาของนับดาวไม่ได้ละไปจากตัวเขาเลย 

ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะวางมือทั้งสองข้างบนสะโพกของเธอ

“จะขอให้หยุดไม่ได้แล้วนะ”

ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบ เขาก็ค่อยๆ ดันสะโพกตัวเองให้ขยับเข้าไปแนบชิดกายนับดาว จังหวะนั้นที่เขารู้สึกว่าตนได้ก้าวผ่านเข้ามายังดินแดนที่ไม่มีทางหวนกลับ ร่างกายของทั้งสองคนประสานรวมเข้าเป็นหนึ่ง ความใกล้ชิดเหนี่ยวรั้งและบีบรัดจนเขาต้องร้องครางต่ำออกมา ตัวตนของเธอทั้งแน่นและร้อนจนชารัฐต้องค่อยๆ ปรับท่าทางของตนให้สอดรับกับร่างกายหญิงสาว

ร่างของนับดาวสั่นเทิ้ม สะโพกของเธอพยายามจะขยับหนีสัมผัสจากเขา แต่นั่นก็ยิ่งทำให้แรงเสียดสีทั้งแรงทั้งรัดและเสียวซ่านไปพร้อมๆ กัน ชารัฐเห็นเธอกัดริมฝีปากแน่นไม่ยอมผ่อนคลายตัวเองลง ยิ่งเธอเกร็งมากเท่าไหร่ แรงบีบรัดจากส่วนนั้นก็ยิ่งทำให้เขาจวนเจียนระเบิด ความคับแน่นและความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ชารัฐคล้ายจะรับรู้บางอย่างได้โดยธรรมชาติ พอเหลือบเห็นเลือดที่ไหลออกจากกลีบดอกไม้ที่แสนอ่อนไหวของหญิงสาว เขาก็เข้าใจในทันที

ผู้หญิงคนนี้ทำเป็นปากเก่ง กร้านโลก แต่จริงๆ แล้ว คืนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเธอเท่านั้น 

วินาทีนั้นเขาก็อ่อนใจขึ้นมา ร่างกายท่อนร่างจึงเริ่มขยับอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเอ่ยปลอบขวัญอีกฝ่าย 

“หายใจสิครับ ปล่อยให้ผมนำเอง” 

เขาโน้มตัวลงจูบริมฝีปากอิ่ม ทั้งดูดเย้าและหลอกล่อ เบนความสนใจจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นครั้งแรกของหญิงสาว ทว่าเวลาเดียวกันเขาก็ออกแรงขยับสะโพกของตนเพื่อหาจังหวะที่ตอบรับพอดีกับร่างบาง

“อื้อ!” เสียงครางของนับดาวฟังแล้วรู้สึกเพลินหู พอร่างกายของเธอลดความเกร็งลงแล้ว วินาทีต่อมาชารัฐถึงสอนให้หญิงสาวรู้ถึงความสุขของรสเพศที่แท้จริง 

แก่นกายของเขาขยับเข้าออกจุดที่อ่อนไหวที่สุดของนับดาว เสียงครางสะอื้นยิ่งปลุกเร้าให้เขาออกแรงขยับสะโพกมากกว่าเดิม มือของเธอปัดป่ายไปมาจนสุดท้ายชารัฐต้องคว้าและรวบไว้เหนือศีรษะหญิงสาว เอวของเขาและเธอสอดประสานเป็นจังหวะจนกลีบดอกไม้ของเธอฉ่ำวาวไปด้วยน้ำรัก 

“นับดาว อย่าหลับตา” 

เขากดเสียงบอกให้เธอลืมตา เมื่อเปลือกตาของเธอเปิดออก เขาจึงใช้โอกาสนี้รั้งร่างที่นอนอยู่ของหญิงสาวให้ลุกกลับมานั่งบนตักเขาเช่นเดิม ท่าทางที่แนบชิดกันมากขึ้นเช่นนี้ทำให้การสอดประสานระหว่างร่างกายคนทั้งคู่ยิ่งลึกล้ำขึ้น 

เสียงของหญิงสาวขาดห้วงเป็นจังหวะ เขากดกอดเอวเธอให้รับสัมผัสของเขา ควบคุมให้เธอขยับตามที่เขาต้องการ วงแขนเรียวกอดลำคอของเขาเอาไว้ ปลายเท้าน่ารักของเธอจิกผ้าปูไม่หยุด 

“นับดาว จากนี้ผมจะให้คุณขยับ” 

จู่ๆ เขาก็หยุดการเคลื่อนไหว ปล่อยให้แก่นกายเต้นตุบๆ เร้าอยู่ในร่างกายของเธอ นับดาวชะงักไปเล็กน้อย เธอขยับมองใบหน้าของเขาราวกับเด็กที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ร่างกายของเธอและเขายังไปไม่ถึงจุดที่สุขสม การที่เขาหยุดขยับ หญิงสาวก็ยิ่งกระสับกระส่าย สุดท้ายก็เป็นเธอที่ค่อยๆ ขยับเอวและสะโพกของตัวเองขึ้นลงช้าๆ เพื่อหาจังหวะและจุดที่สบายที่สุด

หน้าอกของเธอเสียดสีกับแผ่นอกของเขา มือของชารัฐทั้งสองข้างวางลงบนเอวคอดกิ่ว ส่วนริมฝีปากและลิ้นของเขาก็ไม่ได้อยู่เฉย มันค่อยๆ ละเอียดชิมยอดอกสีอ่อน ทั้งดูดเม้ม ขบกัดเบาๆ 

“คุณเป็นหมาหรือไง อ๊า!”

นับดาวเอ่ยปากคล้ายจะต่อว่า แต่พอเขาขบเม้มยอดอกที่ชูชัน เธอก็หลุดครางเสียงหลง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ นัยน์ตาเป็นประกายต้องการคาดโทษเขาอย่างถึงที่สุด

ชารัฐไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้โอกาสเอาคืนเขา ตอนนี้เธอยังเป็นแค่เด็กน้อยหัดเดิน ไม่มีทางรุดหน้าสู้เขาได้ เขาจึงขยับตัวเร็วขึ้นสวนการขยับของนับดาว ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน เสียงเนื้อสีกันดังฟังชัด 

เวลานี้สมองของนับดาวว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก ยิ่งเขารุกล้ำเข้ามามาก เธอก็ยิ่งเจ็บและเสียวซ่านจนนึกว่าตัวเองจะขาดใจตาย แต่ขณะเดียวกันเธอกลับรู้สึกว่าหากเขาหยุดขยับ ร่างเธอจะทรมานอย่างถึงที่สุด นับดาวได้แต่ระบายความเจ็บปวดลงบนเนื้อของเขา กดเล็บจิกลงที่ไหล่และแผ่นหลังของชายหนุ่ม กอดเขาไว้แน่นตามสัญชาตญาณเมื่อสัมผัสของเขากระชั้นถี่และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 

หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเสียงร้องครางหวิวนั้นคือเสียงตัวเองหรือไม่ เสียงร้องครางที่ฟังดูทั้งทรมานทั้งร้องขอเช่นนี้ทำเอานับดาวรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอกัดริมฝีปากไว้ไม่ให้เสียงเหล่านี้เล็ดลอดออกไป แต่ดูเหมือนชารัฐจะไม่ยอม เขากลับโน้มใบหน้ามาจูบเธอ ลิ้นร้อนหยอกล้อให้เธอเปิดปาก ขณะเดียวกันก็ขยับสวบสาบเข้าออกร่างกายของเธอไม่พัก

จนสัมผัสสุดท้ายที่เขาสอดแทงเข้ามา ราวกับร่างกายของเธอได้รับการเติมเต็ม นับดาวส่งเสียงกรีดร้อง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านก่อนจะเผลอแอ่นตัวขึ้นกระตุกเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ ความพึงพอใจและความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทั่วร่างเบาหวิวราวกับคนไร้กำลัง ชารัฐขยับตัวถอนแก่นกายร้อนระอุออกจากการสอดประสาน ปล่อยให้เธอกอดเขาไว้และพักหายใจหอบถี่ แก่นกายร้อนของเขาเบียดเสียดที่บริเวณท้องน้อยของเธอ 

นับดาวก้มมองดูมันที่ยังคงผงาดสู้ วินาทีนั้นลำคอของเธอก็รู้สึกแห้งผาก ในใจคิดว่าตนเองถึงขั้นตะกละตะกลามนัก ถึงจะพอใจแต่เธอยังไม่รู้สึกเต็มอิ่มเลยสักนิด

“นับดาว”

เสียงทุ้มต่ำที่ขานเรียกทำให้เธอต้องร้องตอบเสียงเบาในลำคอ เธอประสานสายตาเข้ากับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเปลวไฟของชายหนุ่ม 

จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าโลกของเธอหมุนเหวี่ยงเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง คราวนี้เขาถึงกับหมุนตัวเธอให้หันหน้าออก ยังไม่ทันได้พูดอะไร เจ้าแก่นกายร้อนผ่าวของชายหนุ่มก็ดันพรวดรุกล้ำเข้ามาในร่างกายของเธออีกครั้ง จังหวะรักของเขาทั้งรุนแรงและรวดเร็ว ความสุขในร่างกายของเธอพุ่งถึงขีดสุด ยิ่งเขาส่งเสียงคำรามครางต่ำในลำคอด้วยความพอใจ ร่างกายของเธอก็ยิ่งตื่นตัว เผลอขยับสะโพกและแอ่นกายตอบรับการรุกล้ำของเขา

นับดาวไม่อาจเห็นนัยน์ตาที่เป็นประกายวาววับของชายหนุ่ม เขาหลุดขำออกมาก่อนจะขยับมาไล่จูบลาดไหล่ของเธอ ไต่ขึ้นเรื่อยๆ และขบลงที่ใบหูเล็กพลางพูดขึ้น

“เรียนรู้ไวดีนะ”

เธอกัดริมฝีปาก ไม่อยากโต้กลับ สองมือจิกกำหมอนบนที่นอนคล้ายจะระบายความรู้สึกเสียวซ่านนี้ออกไปบ้าง แต่แรงกระแทกของเขาทำให้เธอหลุดเสียงครางออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เอวของเขาดูไม่ลดจังหวะลงเลยแม้แต่น้อย 

มือของเขาไล่เคลื่อนมากอบกุมหน้าอกของเธอไว้ ปลายนิ้วหยอกเล่นกับยอดอ่อน เธอไม่อาจทนเก็บทุกอย่างไว้ได้อีกแล้ว ริมฝีปากหลุดเสียงครางและอ้อนวอนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ 

“พี่เฌอ บะ...เบาหน่อย” 

แทนที่คำขอของเธอจะสัมฤทธิผล โลกของเธอกลับถูกเหวี่ยงหมุนกลับอีกครั้ง กลายเป็นเขากำลังประสานสายตาเข้ากับเธอ ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดจนไม่เหลือช่องว่างใดๆ 

มือทั้งสองของเธอโอบลำคอเขาไว้อัตโนมัติ ขณะที่เอวของเธอก็ขยับตอบรับเขา เรียวขาทั้งสองข้างเกาะเกี่ยวเขาไว้แน่นราวกับจะหลอมให้ชายหนุ่มกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน 

จังหวะที่รุนแรงกลายเป็นจังหวะช้าเนิบนาบแต่รุนแรงต่อทุกสัมผัส เขาหยอกล้อดึงเวลาให้เธอเว้าวอนขอให้เขาขยับเข้าไปในร่างกายเธอมากขึ้น ลึกขึ้น 

“นับดาว...พูดสิ พูดออกมา”

เธอกัดริมฝีปาก ไม่ยอมบอกความต้องการของตัวเอง แต่เขาก็มีวิธีบีบบังคับ ถึงกับยอมขยับตัวปล่อยให้แค่ส่วนหัวค้างอยู่ในร่างกายของเธอ แต่ไม่ยอมเข้ามาเติมเต็มความว่างเปล่านี้ 

“คะ...คุณ!”

“เรียกชื่อผมสินับดาว ไหนคุณบอกจะเรียกผมว่ายังไงนะ หืม”

นับดาวทำเป็นไม่สน ในเมื่อเขาไม่ขยับเธอก็จะขยับเอง แต่คนตัวโตกว่ารู้ดี ถึงได้ตรึงสะโพกของเธอไว้ไม่ให้ทำตามใจชอบ

เธอถลึงตาใส่ แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน 

“พูดสิ ไม่อย่างนั้นผมก็จะไม่ขยับ คุณ...ก็ไม่ได้ขยับ” 

ทั้งความอายและความต้องการพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ใบหน้าของเธอร้อนจัด แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่พูดออกไป 

“พี่เฌอ...นับดาวอยากได้ ขยับให้น้อง...นะคะ” 

เสียงของเธอแหบพร่า แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกออดอ้อนเว้าวอนจนใจของชารัฐอ่อนยวบ ที่จริงเขาก็ทนแกล้งเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว เพียงแค่อยากให้เธอเปิดเผยธรรมชาติของตัวเองออกมา ในเมื่อพวกเขาต้องกลายเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดเช่นนี้ เขาก็อยากให้เธอเผยตัวตนและความต้องการออกมาให้หมดเหมือนที่เขาเป็น 

ชารัฐขยับตัวเข้าไปในร่างกายของเธออีกครั้ง แค่นี้เสียงครางสุขสมก็หลุดออกจากลำคอของหญิงสาว เขาขยับเข้าออกทั้งช้าสลับเร็ว เป็นคนนำเธอสำรวจดินแดนใหม่แห่งนี้ ทว่าในจังหวะที่เขาผ่อนแรงลง นับดาวกลับใช้ขาเกาะเขาเอาไว้ด้วยกำลังทั้งหมด จากนั้นก็ตวัดตัวพลิกขึ้นมาอยู่เหนือเขา 

“ตาฉันแล้วค่ะ” 

เขายิ้มอ่อนใจ ยอมให้เธอคว้าชัยชนะ ปล่อยให้สะโพกของเธอขยับขึ้นลงเองตามที่ร่างกายและธรรมชาติเรียกร้อง มองดูร่างกายของเธอที่เหมือนผีเสื้อกำลังโบยบินเต้นรำอยู่บนร่างกายของเขา 

เสียงครางหวิวดังขึ้นตามจังหวะที่ร่างเล็กควบอยู่บนตัวเขา มือสองข้างของเธอวางยันที่แผ่นอก นัยน์ตาหวานฉ่ำของเธอมองเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม จนจังหวะสุดท้ายที่ร่างเล็กของหญิงสาวขยับสะโพกขึ้นลงกลืนกินตัวเขาอย่างกระหาย ปลายเท้าของเธอจิกเข้าหากัน วินาทีนั้นเขารับรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะเสร็จ จึงชันขาขึ้นมาออกแรงขยับสะโพกสวนตอบจังหวะของเธอเป็นครั้งสุดท้าย 

เสียงหวีดร้องและลมหายใจของนับดาวที่พุ่งทะยานเป็นสัญญาณของฝั่งฝันที่เธอตามหา ร่างกายของเธออ่อนยวบแต่ไม่ถึงกับไถลลงมาอิงซบเขา เธอยังคงหอบครางคร่อมเหนือร่างชารัฐ ปล่อยให้ตัวตนที่ยังคงผงาดแข็งกร้าวของตนเต้นตุบๆ อย่างเร่งเร้าในร่างกายของเธอ 

นัยน์ตาของนับดาวเป็นประกายเจิดจ้า หญิงสาวโน้มตัวลงมาบดเบียดริมฝีปากของเขา ขณะเดียวกันร่างกายท่อนล่างของเธอก็ขยับเพื่อเริ่มต้นศึกรักใหม่อีกครั้ง

ลิ้นร้อนพัวพันกันคล้ายจะอาลัยอาวรณ์หากต้องแยกจากกัน จนกระทั่งเธอยอมปล่อยให้ริมฝีปากเขาเป็นอิสระ เสียงเล็กแหบพร่าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของนับดาวก็ดังขึ้นพร้อมจุดประกายไฟในตัวเขาให้ลุกโชนอีกครั้ง

“พี่เฌอ...พี่นี่มันเด็ดจริงๆ”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น