บทที่ 5
ชารัฐยิ้มมุมปาก พอนับดาวจะเคลื่อนตัวออกจากตักเขาก็รั้งเธอเอาไว้ แถมยังกดร่างเล็กๆ ของเธอให้สัมผัสกับเจ้าแก่นกายร้อนๆ ที่พร้อมจะผงาด เห็นสายตาเลิ่กลั่กของเธอแล้วเขาจึงโน้มตัวเข้าไปใกล้ สังเกตคนที่กลั้นหายใจไว้ ราวกับนักล่าที่รอจังหวะเหยื่อเผลอ...
ช่วงเวลาที่เธอทนไม่ไหวจนต้องผ่อนลมหายใจออก เขาถึงเข้าประชิดจู่โจมริมฝีปากอิ่มของนับดาวอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาดึงดูดเธออย่างเอาใจ แกล้งอีกฝ่ายด้วยการลอกเลียนวิธีจูบของนับดาว ฝ่ามือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเรือนผมของเธอ ยามที่คนตัวเล็กพยายามจะเบือนหน้าหนี เขาจะใช้ฝ่ามือประคองศีรษะให้เธอโอนอ่อนไปในทิศทางที่ต้องการ เอียงใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อยให้รสสัมผัสของทั้งสองแนบชิดขึ้นอีก
ร่างบางของหญิงสาวเอนเกือบจะแนบอิงกับเขา มือของเธอขยุ้มเสื้อเขาเอาไว้ บางทีก็ยกขึ้นตีเขาแล้วเปลี่ยนเป็นกำเอาไว้หลวมๆ จนเขาละริมฝีปากออกมา ใบหน้าของนับดาวก็แดงก่ำ เธอหายใจเข้าออกยาวๆ ริมฝีปากเจ่อแดงวาวเพราะน้ำลายของเขาและตัวเอง
สายตาของเขาบังเอิญทอดมองที่อกของหญิงสาว เขารู้ตั้งแต่เช้าว่าภายใต้เสื้อยืดตัวโคร่งของตนที่นับดาวสวมใส่ไม่มีชั้นในที่รองรับหน้าอกของเธอ ในตอนนี้เขาเห็นเพียงปลายยอดเกสรที่ชูชันนูนเด่นจากเนื้อผ้า คล้ายกับการเชื้อเชิญให้ไปสัมผัส
ชารัฐประคองฝ่ามือโอบกุมอกข้างหนึ่งของนับดาวไว้ ใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยยอดเกสรที่ชูชันอย่างหยอกเย้า
“อ๊ะ!”
นับดาวหลุดครางเสียงหลง เธอยกมือข้างหนึ่งปิดปากของตน ดวงตาฉ่ำน้ำถลึงมองเขาอย่างเอาเรื่อง หากสายตาของเธอถอดเป็นคำพูดได้ ตอนนี้มันคงกำลังบอกเขาว่า ‘ลองคุณแตะอีกทีสิ! คุณได้เจอดีแน่’
“นับดาว อยากให้พี่สัมผัสหรือเปล่า” เขาโน้มเข้าไปกระซิบข้างหู ขณะที่มือข้างนั้นก็ยังประคองอกอิ่มของเธอไว้
หญิงสาวไม่ตอบ แต่เสียงครางต่ำที่แหบเครือของเธอกลับเป็นคำตอบที่ชัดเจน ชารัฐยิ้มอ่อนใจพลางซบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว
ทั้งๆ ที่เป็นกลิ่นของครีมอาบน้ำที่เขาใช้แท้ๆ แต่พอรวมกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนับดาว มันถึงได้พิเศษต่างออกไป
“ถ้านับดาวไม่ทำ พี่ก็จะไม่ทำ แต่ขออยู่นิ่งๆ ก่อน พี่ลุกแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”
เขาพูดติดตลกผสมกับความจริง เพราะตอนนี้เจ้าลูกชายของเขาเริ่มงอแงแล้ว ถ้าไม่สงบสติอารมณ์ไว้ มันคงทำให้คนบนตักตื่นอีก แค่นี้ร่างเล็กๆ ของเธอก็เกร็งจนเขารู้สึกได้ เพราะแบบนี้หรือเปล่าเขาถึงนึกขำขึ้นมา
“อืม...แล้วแบบนี้ ใครกันแน่ที่เป็นแกะ”
น้ำเสียงเขาเจือความขบขัน ไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของหญิงสาวเป็นอย่างไร แต่ให้เขาจินตนาการมันคงบูดบึ้งไม่พอใจอย่างแน่นอน จะว่าไปเขาไม่ค่อยได้แสดงนิสัยอย่างนี้ออกมาเท่าไหร่นัก คนอื่นๆ อาจจะมองเขานิ่งขรึม สุภาพ จริงจัง แต่ใช่ว่าเขาจะไม่มีมุมแบบนี้เสียหน่อย
“คุณสิแกะ! แกะทั้งบ้าน!”
นับดาวเหมือนจะทนไม่ไหวต่อไป เธอถึงผลักเขาออก ก่อนจะลงจากตักเขา เธอยืนจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง มือเรียวเล็กคว้าหมอนอิงใบเล็กที่อยู่ใกล้มือได้ก็รีบยกฟาดที่ไหล่เขาทันที
เขากลับไม่นึกโกรธท่าทางของเธอ เพียงแต่มันเป็นอารมณ์ใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นจากหญิงสาวมาก่อน
นับดาวกำลังเขิน แล้วก็เขินมากด้วย
เขาเบี่ยงตัวกลับจังหวะที่หมอนอิงใบเล็กจะฟาดลงมาอีกครั้งพลางคว้าแขนของเธอไว้ ออกแรงดึงเล็กน้อยหญิงสาวก็เซมาบนตักของเขาอีกครั้ง
“ไม่ชอบจริงเหรอ” เขาถามนิ่งๆ จ้องมองดวงตากระจ่างใสของหญิงสาว
นับดาวกัดริมฝีปาก เธอเงยหน้าสบตาเขา จากนั้นก็บ่นออกมา
“คุณนี่มันอ่อยเรี่ยราดไปแล้ว!”
ชารัฐยังไม่ทันได้ถามว่าเธอหมายความว่าอย่างไร นับดาวก็ล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงของเขา ริมฝีปากอิ่มของเธอจูบลงเบาๆ ที่ปลายจมูกของเขา ฝ่ามือหญิงสาวโอบประคองเจ้าน้องชายของเขาที่กำลังงอแง พลางลูบมันขึ้นลงราวกับจะปลอบให้มันสงบ
ฝ่ามือของเธออุ่นร้อนพอๆ กับร่างกายของเขา จังหวะการลูบขึ้นๆ ลงๆ ของเธอดูชำนาญจนเขาต้องเลิกคิ้วมอง
“ดูชำนาญนะครับ”
“ไม่อย่างนั้นก็เสียชื่อมิสกาเฟอีนสิคะ” นับดาวเลิกคิ้วเป็นเชิงท้าทาย
เขาไม่อยากปล่อยให้เธอเคลื่อนไหวอยู่คนเดียว มือทั้งสองข้างค่อยๆ เคลื่อนไปโอบกุมอกอิ่มของหญิงสาว ออกแรงนวดคลึงมันทั้งสองข้าง สีหน้าของหญิงสาวพลันเปลี่ยนเป็นเสียวซ่าน เธอกัดริมฝีปากไว้ ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองหลุดเสียงออกมา
จนกระทั่งเขาโน้มตัวไปสัมผัสยอดเกสรที่ชูช่อด้วยริมฝีปาก
เขาค่อยๆ ละเมียดดูดเกสรช้าๆ ปลายลิ้นตวัดยอดอกผ่านเนื้อผ้า ทันใดนั้นแรงบีบของนับดาวก็ยิ่งแรงขึ้นไปด้วย ชารัฐดึงมือเธอออกจากใต้กางเกง จากนั้นก็ประคองเธอให้นั่งบนตักของเขาดีๆ มือข้างหนึ่งหลุบเข้าไปใต้ร่มผ้า ใช้ปลายนิ้วลูบไล้จุดที่อ่อนไหวของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
“ผะ...ผิดที่หรือเปล่าคะ อื้อ!”
เขาแหวกขากางเกงบ็อกเซอร์ที่นับดาวสวมอยู่ จากนั้นก็กดสะโพกเธอให้แนบชิดกับตัวเองอีกครั้ง
“จะหยุดหรือจะให้พี่ไปต่อครับ นับดาว”
ชารัฐพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่นับดาวสัมผัสคลื่นอารมณ์ของเขาที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้
เขากำลังอารมณ์ดี ดีมากด้วย! แม้แต่นัยน์ตาทั้งสองข้างตอนนี้ก็พราวระยับเรืองรองชอบใจ
เธอนึกเสียหน้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่ดันพ่ายแพ้เขาอย่างชัดเจนขนาดนี้
อันตรายเกินไปจริงๆ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเป็นแค่พวกกินพืช ก็ท่าทางเด็กเรียน สุขุม สุภาพแบบนั้นใครจะรู้ว่าเขามันตัวร้าย เจ้าพวกกินเนื้อหลบใน!
เธอหลุบตามองเจ้าน้องชายของเขาที่ยังคงออกอาการ ‘งอแง’ อยู่ ในใจนึกถึงเมื่อคืน ตอนที่มันรังแกเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วก็ขนลุกขึ้นมา แต่ในใจลึกๆ เธอก็อดบอกไม่ได้เลยว่าไอ้น้องชายของเขามันโคตรถึงใจเป็นบ้า!
“ถ้ายังมองอยู่ พี่ต่อนะ”
น้ำเสียงเย้าแหย่ของชารัฐทำให้เธอตั้งสติ รีบเงยหน้าขึ้นทันที
นับดาวกลืนน้ำลายเบาๆ แล้วเชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง กลั้นใจพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด
“ก็อย่า...หยุดสิคะ”
ได้ยินคำตอบยืนยันของเธอ ไม่ต้องรอให้ชารัฐกดสะโพกของเธอ นับดาวก็ค่อยๆ ขยับตัวลงไปสัมผัสกับเจ้าของอันตรายที่กำลังเรียกร้อง จังหวะที่ค่อยๆ สอดใส่เข้ามา หัวใจของเธอก็เต้นระรัวราวกับมีกลองตีเป็นจังหวะเร้าหนักๆ ในตัวของเธอ
การสัมผัสที่ไร้ปราการกั้นทำให้นับดาวสัมผัสได้ถึงความร้อนและรูปลักษณ์ที่โดดเด่นจากแก่นกายชายหนุ่ม แต่พอเธอสอดประสานกับเจ้าแก่นกายนี้อีกครั้ง มันก็ไม่รู้สึกเจ็บหน่วงๆ อีกแล้ว มันเป็นความรู้สึกดีที่เร่งให้เธอต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งนี้เธอเป็นคนควบคุมจังหวะ หญิงสาวขยับตัวขึ้นลงช้าๆ ซึมซับทุกเสี้ยวความรู้สึกที่หล่อหลอมกับชายหนุ่ม
เสียงครางของเธอสั่นตามจังหวะการโยกตัวขึ้นลง ส่วนชารัฐส่งเสียงขานรับในลำคอ สองมือของเขาประคองสะโพกของเธอเอาไว้
“นับดาว เร่งอีก”
เธอขยับสะโพกและโยกตัวเองขึ้นลงเร็วกว่าเดิม สัมผัสได้ถึงแก่นกายร้อนระอุที่กำลังเต้นเร่าๆ อยู่ในร่างกายเธอ สัญญาณบางอย่างบอกเธอว่าพวกเขาใกล้จะถึงปลายทางของฝันแล้ว
นับดาวโอบกอดยึดร่างสูงเบื้องหน้าเป็นหลัก วินาทีสุดท้ายที่เธอออกแรง จากนั้นร่างกายเธอก็เบาหวิวขึ้น เสียงหวีดร้องของตนประสานเข้ากับครางทุ้มต่ำของชายหนุ่มอย่างพอใจ หญิงสาวสัมผัสได้ถึงของเหลวข้นที่ไหลเวียนเข้าท้องน้อย น้ำพุอุ่นไหลรินล้นทะลักอาบกลีบดอกไม้ของเธอจนชุ่มฉ่ำ เธอเคลื่อนไหวเป็นจังหวะหนักๆ อีกสองสามครั้ง ปล่อยให้เจ้าส่วนนั้นของชารัฐสั่นสะท้านขณะฉีดอัดน้ำรักเข้ามาเต็มท้อง
แขนทั้งสองข้างของหญิงสาวยังคงกอดชารัฐอยู่ เธอหอบหายใจพลางอิงศีรษะกับไหล่กว้าง จากนั้นก็ออกแรงกัดที่คอของชายหนุ่ม ชารัฐเองก็โอบกอดเธอไว้ เขาสูดลมหายใจยาวๆ มือเปล่าลูบแผ่นหลังเธออย่างอ้อยอิ่งวนไปมา
“เจ็บหรือเปล่า”
เขาถามเธอแผ่วเบา เธอยังจำได้ดีว่าเมื่อคืนเขาคอยพร่ำถามเธอด้วยคำถามนี้บ่อยแค่ไหน เขาจะออกแรงรังแกเธออย่างอ่อนโยนในตอนแรก ค่อยๆ ละเอียดกินเธอทีละส่วน หลังจากที่เธอเรียนรู้ที่จะกินเขาเหมือนกัน จังหวะอ่อนโยนก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกดิบเถื่อน ทั้งเธอและเขาต่างโรมรันเข้าหากันอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร
เธอส่ายหน้าพลางปรับลมหายใจของตัวเองให้กลับเป็นปกติ ขณะที่เจ้าสิ่งนั้นที่ยังค้างในร่างกายของเธอเริ่มสงบ
“แบบนี้จะนับเป็นคืนที่สองหรือเปล่า”
เธอมองชารัฐที่ถามเจือขบขัน จะว่าไปประเด็นนี้ก็น่าสนใจ เพราะตามข้อตกลง สามคืนต่อสัปดาห์ ตอนนี้เธอกับเขาทำรักกันตอนเช้า จะถือว่าเป็นของแถมหรือนับรวบเป็นคืนที่สองดีนะ
“ถือว่าเป็นมื้อแถมแบบนี้ คุณเฌอจะถือสาหรือเปล่าคะ”
เธอถามด้วยรอยยิ้มพริ้มพราย อยากรู้ว่าเขาจะตอบอย่างไร
“ได้ ถือว่ามื้อนี้ผมได้กินแกะตัวหนึ่ง”
เธอเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ นึกหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกิน พอเหลือบเห็นร่องรอยที่ตัวเองฝากไว้ที่ลำคอของชารัฐ นับดาวก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เธอโน้มลงไปใกล้ๆ ลำคอของชายหนุ่ม จากนั้นก็ตั้งใจทั้งขบ ทั้งกัด ทั้งดูดลำคอของเขาอย่างตั้งใจ เมื่อพอใจแล้วถึงได้ถอยออกมาดูผลงานของตัวเอง
“ใครถูกกินยังตัดสินไม่ได้หรอกค่ะ”
สีหน้าของชายหนุ่มดูทั้งประหลาดใจและอ่อนใจในเวลาเดียวกัน แต่นับดาวไม่สน จนถึงตอนนี้หญิงสาวเพิ่งสังเกตว่าระหว่างพวกเขายังคงเชื่อมต่อกันอยู่ ยิ่งขยับก็ยิ่งรู้สึกถึงของเหลวอุ่นร้อนที่ไหลออกมา
“นับดาว ผมไม่ได้ใส่ถุง”
น้ำเสียงของชารัฐเจือความกังวล แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบอะไร เขาก็ยกตัวเธอขึ้นช้าๆ ทันทีที่ร่างกายที่เคยสอดประสานเป็นหนึ่งแยกออกจากกัน น้ำรักสีขาวขุ่นก็ไหลออกจากร่างกายของเธอ ชารัฐเอื้อมไปหยิบกระดาษชำระที่อยู่บนโต๊ะรับแขกขึ้นมาบรรจงเช็ดให้เธออย่างแผ่วเบาอย่างละเอียดและใส่ใจ นับดาวหลุบตามองกระดาษชำระหลายแผ่นที่ชื้นแฉะถูกทิ้งลงพื้น แผ่นแล้วแผ่นเล่า แต่ยังที่ไม่ทันจะได้เอ่ยปากบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล นิ้วเรียวยาวของเขาก็สอดผ่านกลีบดอกไม้แดงก่ำของเธอเข้ามาอีกครั้ง
“อ๊ะ! ทำอะไรคะ”
“อย่าเกร็ง ตรงนั้นของนับดาวมันบีบนิ้วผมหมดแล้ว ผมจะทำความสะอาดให้”
นิ้วของเขาค่อยๆ สอดและเคลื่อนไหวอย่างเนิบนาบเพื่อต้อนเอาเหล่าน้ำรักที่ยังค้างในร่างกายของเธอให้ออกมามากที่สุด แต่จังหวะการเคลื่อนไหวเหล่านี้กลับกระตุ้นให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มอีกครั้ง เธอเผลอบีบต้นขาเข้าหากัน ขณะที่มือทั้งสองคว้าข้อมือของเขาไว้
“มะ...ไม่ต้องแล้ว ฉันฝังยาคุมแล้วค่ะ”
ไม่รู้ว่าชารัฐตกใจที่เธอพูดหรือเปล่า มือของเขาจึงกระตุกเล็กน้อย จังหวะนั้นเองที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสเข้าที่จุดอ่อนไหวของเธอ หลังจากเสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง พอโดนจี้จุดเข้าอย่างจังแบบนี้ร่างกายของเธอก็สั่นเทิ้มอย่างรุนแรง นับดาวหอบครางต่ำ พลางผ่อนแรงบีบที่ต้นขาและคลายมือที่รั้งข้อมือของชายหนุ่มออก
นอกเหนือจากน้ำรักขาวข้นที่เปรอะเปื้อนฝ่ามือของชารัฐแล้ว ยังมีน้ำใสๆ ที่ไหลรินออกจากร่างกายเธออีก
กระดานนี้นับดาวพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
เธอกัดริมฝีปาก ในใจไม่มีความกล้าที่จะมองหน้าเขาอีก แต่เพราะไม่อยากดูเสียฟอร์มไปมากกว่านี้ เธอถึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา และสบเข้ากับนัยน์ตาของเขาที่เป็นประกายพึงพอใจ
ผู้ชายทุกคนต่างมีสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเสมอ ถึงเขาจะสุภาพเรียบร้อยในสายตาคนอื่นมากแค่ไหน แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยังต้องการและมีความปรารถนาทางเพศที่ไม่เคยบอกใคร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาชอบช่วงเวลาที่ปล่อยตัวและร่างกายไปตามธรรมชาติเช่นนี้เวลาอยู่กับนับดาว ทุกครั้งที่เขาเติมเต็มร่างกายของเธอให้ถึงจุดสูงสุดได้ ความอิ่มเอมราวกับได้ชัยชนะจะผุดขึ้นกลางใจ เช่นเดียวกับเมื่อครู่ที่นับดาวเสร็จอีกครั้ง
หลังจากที่เขากับนับดาวมีอะไรกันแล้ว ชารัฐรู้ดีในใจลึกๆ ว่านับดาวคือผู้หญิงที่เข้ากับเขาได้ดีเกินคาด เธอทำให้เขาปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองได้มากขนาดนี้ แม้แต่นิสัยบางอย่างของเขาที่ไม่ค่อยได้แสดงออกไป ก็มีแต่นับดาวที่เขาเปิดเผยอีกด้านของตัวเองให้รู้จัก
ชารัฐไม่เคยคิดจริงๆ ว่าตัวเขาเองและนับดาวจะเดินเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์นี้
เขายังจำครั้งแรกที่ได้ยินเธอยื่นข้อเสนอบ้าๆ นี้ให้ตัวเองได้ดี
เซ็กซ์เฟรนด์...
ตอนนั้นเขาแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ยิ่งได้ฟังคำอธิบายของนับดาว เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจในตัวเธอ แรกๆ ก็คิดว่าเธอต้องการแค่แฟนชั่วคราว เขาคาดไว้ในใจว่าระหว่างเขากับเธอคงไปได้ไม่ไกลสักเท่าไหร่ เธออาจจะเห็นเขาเป็นแค่หนึ่งในต้นแบบของผลงานตัวเองก็ได้
เสี้ยววินาทีที่เธอเอ่ยปากเรียกชื่อเขา ชารัฐค้นพบอีกอย่างว่าตัวเองพึงพอใจ...เขาพึงพอใจ และจู่ๆ ก็อยากรู้จักหญิงสาวตรงหน้าให้ดีกว่านี้ มันช่างเป็นเรื่องเรียบง่ายที่สบายใจกว่าที่เขาเคยคิดไว้มาก เพราะความสัมพันธ์ของเขากับเธอเริ่มต้นด้วยพื้นฐานของข้อแลกเปลี่ยน แต่นาทีนี้ชารัฐกลับรู้สึกนึกขอบคุณความเข้าใจผิดในวันนั้นที่ทำให้เขาและเธออยู่ในจุดนี้
เห็นท่าทางของหญิงสาวแล้วเขาก็นึกเอ็นดูขึ้นมา ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ เขาก็อุ้มเธอขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำ
“อาบน้ำล้างตัวก่อน เดี๋ยวผมไปดูเสื้อให้”
ชารัฐเห็นผ้าขนหนูที่เตรียมให้หญิงสาวกองอยู่ในตะกร้าผ้า แล้วก็ขยับไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำตัวใหม่มาให้เธอแทน
นับดาวมองหน้าเขาเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขายืนรอจนได้ยินเสียงน้ำไหลจึงออกมาและตรงไปยังห้องซักผ้า ดูเหมือนชุดกระโปรงของหญิงสาวจะแห้งสนิทดีแล้ว เขาจึงหยิบมันออกมาจากเครื่อง ใช้เวลารีดด้วยเครื่องรีดผ้าไอน้ำครู่หนึ่ง ชุดสะอาดของหญิงสาวก็อยู่ในมือแล้ว
เขาเดินกลับเข้าไปพอดีกับที่นับดาวเดินออกจากห้องน้ำมา เขาส่งชุดกระโปรงยาวให้เธอ จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อตัวเองบ้าง แต่พอเห็นสายตาสงสัยของนับดาว เขาก็ยิ้มพร้อมอธิบาย
“ขอผมล้างตัวบ้างครับ” กางเกงของเขายังมีคราบเปียกอยู่ คงจะออกจากห้องในสภาพนี้ไม่ได้แน่ๆ
ชารัฐล้างคราบเหงื่อและน้ำรักออกจากตัวจนสะอาด พอออกจากห้องน้ำมาเขาก็เห็นนับดาวนั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟาเล็กข้างเตียงของเขา
เขาเดินเข้าไปช้าๆ พลางย่อตัวมองดวงหน้าเล็กของเธอที่หลับพริ้ม สายตาไล่สำรวจไปทั่วใบหน้าของหญิงสาว คิ้วโค้งเป็นทรง หางคิ้วเรียวเล็ก เข้ากับดวงตารูปอัลมอนด์ จมูกโด่งรั้นสมกับเป็นสาวน้อยเอาใจยาก ริมฝีปากอวบอิ่ม เขายกนิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากล่างเธอเบาๆ ทันใดนั้นเองเปลือกตาของนับดาวก็ค่อยๆ กะพริบ ลืมตามองเขา
“ถ้าง่วงก็นอนก่อน อยากได้อะไรที่ห้องไหม ผมจะไปหยิบให้”
ไม่รู้ว่าเพราะอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นหรือเปล่า นับดาวถึงดูเชื่องช้าผิดปกติ เธอมองเขานิ่งนานก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“อืม อยากได้แท็บเล็ต”
“โอเค ผมไปหยิบให้ ตกลงนะ”
เธอพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วย้ายขึ้นไปนอนบนเตียงของเขาราวกับเป็นเจ้าของห้อง ถึงจะนึกแปลกใจ แต่ชารัฐก็เข้าใจ เธอคงเหนื่อย และเมื่อครู่เขาเห็นนับดาวอาบน้ำอุ่น พอร่างกายสบายและผ่อนคลายก็ไม่แปลกที่เธอจะง่วงขึ้นมา เมื่อคืนกว่าเขาและเธอจะพักรบก็จะเกือบเช้า แล้วยังมาต่ออีกรอบ นับเวลาแล้วคนตรงหน้าได้นอนไปไม่เท่าไหร่เอง
ชารัฐถือว่านับดาวอนุญาตแล้ว เขาถึงเดินไปหยิบกุญแจห้องของเธอและออกไปข้างนอก ตรงขึ้นไปชั้นสาม ไม่ต้องเสียเวลาเขาก็เข้ามาอยู่ในห้องของนับดาวเป็นครั้งที่สอง
ห้องของนับดาวเป็นระเบียบและจัดเป็นสัดเป็นส่วนดี เขารู้ทันทีว่าพื้นที่ทำงานของเธอคือส่วนไหน ดังนั้นการหาแท็บเล็ตของเธอจึงไม่ยากอย่างที่คิด มันอยู่บนโต๊ะทำงานของนับดาว แต่พอหยิบแท็บเล็ตและสายชาร์จมาแล้ว จังหวะที่จะหมุนตัวกลับ หางตาของเขาก็เหลือบเห็นอะไรบางอย่างบนโต๊ะทำงานของเธอ
กว่าจะรู้ตัวชารัฐก็เอาแต่จดจ้อง ‘ของ’ สิ่งนั้นอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว
ชารัฐเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับแท็บเล็ตของนับดาว เขาตรงเข้าไปในห้องนอนของตน มองหญิงสาวที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียงเล็กน้อย เขาเอาของของเธอวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ พินิจมองเธออย่างละเอียดอีกครั้ง
นับดาว...
เมื่อก่อนเขาคิดว่าเธอคล้ายๆ กับหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในความทรงจำ แต่ไม่คิดว่านับดาวจะมีส่วนที่เหมือนกับคนคนนั้นมากกว่าที่เขาคิด ชารัฐถอนหายใจแผ่วเบา ปัดความคิดวุ่นวายทั้งหมดออกไปก่อน เขาหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาเขียนทิ้งไว้ก่อนออกจากห้อง
อาคารที่พวกเขาอยู่เป็นตึกแถวสูงสามชั้น ซึ่งเป็นอาคารหลังสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้เขาก่อนที่ท่านจะเสีย ชั้นล่างและชั้นสองเป็นพื้นที่ของเขาสำหรับเปิดร้านกาแฟและอยู่อาศัย ส่วนชั้นสาม ตอนแรกเขากะไว้ว่าจะเก็บไว้เฉยๆ เผื่อวันหนึ่งตัวเองอยากขยับขยายหรือมีครอบครัว จะได้เพิ่มเติมส่วนของชั้นสามอีก แต่ไปๆ มาๆ เขากลับเปลี่ยนใจติดประกาศเปิดเช่าแทน หลังจากลงประกาศได้สองเดือน นับดาวก็ติดต่อมา
เขาเคยคิดว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เขากับเธอพบกัน แต่บางทีมันอาจจะไม่ใช่...
ชารัฐเดินลงบันไดข้างตึกมาเรื่อยๆ ก่อนจะเข้าไปที่ร้าน อชิหันมาทักทายเขาตามปกติ แต่เขาสังเกตได้ว่าสายตาของเด็กหนุ่มที่มองมาดูจะแปลกจากเดิมไปสักหน่อย
“มีอะไรหรือเปล่าอชิ”
เขาเลิกคิ้วถามหนุ่มรุ่นน้องด้วยความสงสัย อีกฝ่ายมองเขาเล็กน้อยก่อนจะถามออกมา
“พี่เฌอไม่สบายหรือเปล่าครับ ปกติผมไม่เห็นพี่มาสายขนาดนี้”
คำถามของอชิทำให้เขานิ่งไปเล็กน้อย พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะเที่ยงแล้ว สมองของเขาวิ่งวนไปมาเพื่อหาคำตอบดีๆ ให้อีกฝ่าย
“เมื่อคืนพี่นอนดึก เมื่อเช้าก็เลยวุ่นวายไปหน่อย”
“ครับ พี่สบายดีก็โอเคแล้ว ผมก็นึกว่าพี่ไม่สบาย”
เขาเอ่ยปากขอบคุณหนุ่มรุ่นน้องก่อนจะเตรียมตัวด้านหลังเคาน์เตอร์ตามปกติ มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหาหนังยางรัดผม เนื่องจากตอนที่อาบน้ำผมเขาเปียก เลยต้องเช็ดผมให้แห้ง ส่วนเวลาเข้าร้านเขามักจะรัดผมให้เรียบร้อย
พอเจอหนังยางที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้ว สองมือของเขาก็ค่อยๆ สางผมแล้วมัดตามปกติ แต่ครั้งนี้เขากลับได้สายตาแปลกๆ ปนล้อเลียนจากหนุ่มรุ่นน้องกลับมา
“มีอะไร”
เขาเลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ อชิขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับเอ่ยแซวเขา
“พี่เฌอกำลังอวดอะไรผมหรือเปล่าครับ เฮ้อ ใช่ซี้! ผมมันคนโสด ไม่โซฮอตเหมือนพี่นี่”
เขามองหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ หากไม่นับเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับนับดาวที่พิเศษสักหน่อย...ตอนนี้เขาก็ไม่ได้คบหาดูใจกับใคร เรียกง่ายๆ ว่าโสด
“พี่ไม่ได้มีแฟน”
“หืม” อชิร้องครางในลำคอเสียงสูง ก่อนเฉลยให้เขาเข้าใจถึงท่าทางล้อเลียนของตัวเอง “ถ้าคอพี่เฌอชัดขนาดนี้ แสดงว่ายุงห้องพี่ต้องโหดมาก”
แค่นี้ชารัฐก็เริ่มเข้าใจแล้ว เขาหลบเข้าห้องน้ำในร้านก่อนพิจารณาคอของตัวเองอีกที
ที่คอของเขาเยื้องไปด้านหลังเล็กน้อยมีรอยฟันของนับดาวที่กัดเขาเมื่อเช้า นอกเหนือจากรอยฟันแล้วยังมีรอยจูบแดงๆ อยู่เต็มหลังลำคอ
ชารัฐลืมไปเลยว่าบนตัวเขายังมีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง เขายกมือแตะรอยเหล่านั้นเล็กน้อย ในใจไม่นึกโมโห เพียงแต่ย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่นับดาวจูบและดูดคอของเขาอย่างจริงจังแล้วชารัฐก็นึกขำ
ที่แท้ก็ตั้งใจแบบนี้เอง
เขาส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย จากที่ตั้งใจจะรวบผมเอาไว้ ดูเหมือนเขาคงต้องปล่อยผมตัวเองลงแล้ว ถึงมันจะยาวระต้นคอ แต่ก็มากพอจะช่วยบังรอยจูบเหล่านี้ไว้
หลังออกจากห้องน้ำ สายตาของอชิก็ยังเอาแต่มองเขาอย่างล้อเลียน ชารัฐทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มรับไปโดยปริยาย ในเมื่อหลักฐานมันคาคอแบบนี้ ยิ่งปฏิเสธก็ยิ่งมีพิรุธ
“ยุงที่ว่าใช่พี่สาวคนสวยเมื่อวานหรือเปล่าครับ...แน่ๆ เลยพี่เฌอ ผมว่าแล้วว่าพวกพี่ต้องมีซัมติงกัน อ๊ะๆ อย่ามาบอกว่าไม่ใช่นะครับ นู่น...ที่คอของพี่หลักฐานยังแจ่มอยู่เลย”
ถึงเขาจะรู้ว่าสังคมสมัยนี้เปิดกว้างเรื่องความสัมพันธ์มากแล้วก็ตาม แต่ชารัฐก็ไม่อยากให้นับดาวถูกมองในแง่ไม่ดี
“ไปทำงานๆ ลูกค้ามาแล้ว”
เขาไม่ตอบอชิ แต่มันก็คงชัดมากพอที่เด็กหนุ่มจะไปคิดต่อว่าความสัมพันธ์ของเขากับนับดาวคงไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
อชิยังคงส่งสายตาล้อเลียนเขา แต่ก็ผละไปทำงานแต่โดยดี
ชารัฐไม่ได้สนใจท่าทีของรุ่นน้องหนุ่ม แล้วกลับมาทุ่มเทให้งานของตัวเองต่อ จนเวลาเลยมาถึงบ่ายสองโมงกว่า เขาก็นึกได้ว่าไม่เห็นนับดาวตอบกลับใดๆ มาเลย เขาทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้ อย่างน้อยถ้าเธอตื่นแล้วก็ควรจะโทร. มาบอกเขาหน่อย
ชารัฐอยากขึ้นไปดูอีกฝ่าย จึงฝากร้านไว้ที่หนุ่มรุ่นน้องอีกครั้ง
“อชิ พี่ฝากร้านแป๊บหนึ่งนะ”
“ครับ พี่เฌอ”
เขาเดินออกจากร้านขึ้นไปยังชั้นบนของตึก ไม่นานก็เดินเข้าไปในห้อง นับดาวยังคงนอนอยู่บนเตียงของเขา
“นับดาว”
เขาเดินไปนั่งข้างเตียงพลางปลุกหญิงสาว ถ้ามัวแต่นอนเขากลัวว่าตะวันจะทับตา แล้วตอนกลางคืนเธอจะไม่นอน
“หือ”
เสียงยานๆ ตอบรับจากหญิงสาวทำให้ชารัฐหลุดยิ้ม นับดาวค่อยๆ พลิกตัวหันหลังให้เขาราวกับเธอไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเขาจะปลุกเธอ
“นับดาว ตื่นได้แล้ว คุณนอนมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ”
เขาใช้มาตรการขั้นสุดท้าย ช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมานั่ง โดยให้ร่างของเธอพิงเขาไว้
“หิวหรือเปล่า”
“อืม...หิวค่ะ”
อาการสะลึมสะลือของเธอทำให้เขานึกถึงแมวขึ้นมา คิดแล้วไม่มีผิดว่านับดาวเหมือนแมวจริงๆ
“ตื่นได้แล้วครับ ผมจะทำอะไรให้กิน”
“อืม...ขออีกนิดค่ะ”
“ไม่ได้”
เขาไม่ยอมให้หญิงสาวต่อรอง สุดท้ายเขาก็ก่อกวนจนนับดาวฝืนลืมตาตื่นเต็มตา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บิดตัวซ้ายขวา จากนั้นก็มองหน้าเขา
“กี่โมงแล้วคะ”
เมื่อเช้าตอนที่ตื่นยังดูสดชื่นดีแท้ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นแมวขี้เซาไปซะแล้ว
“จะบ่ายสามแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาเถอะครับ ขืนนอนต่อกลางคืนจะไม่หลับ”
นับดาวผงกศีรษะอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกไปห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินออกมาด้วยท่าทางแจ่มใสกว่าเก่า
“หิวแล้วค่ะ คุณมีอะไรให้กินบ้างไหมคะ”
นับดาวดูเหมือนจะกลับมาเป็นนับดาวคนเดิมแล้ว เธอบิดขี้เกียจก่อนจะเอ่ยปากอย่างเอาแต่ใจ แต่เขาไม่ถือสา
“ผมเอาแท็บเล็ตของคุณมาให้แล้ว อยู่ที่หัวเตียง เดี๋ยวผมจะไปทำอะไรให้กิน”
“โอเคค่ะ”
หญิงสาวหันไปมองแท็บเล็ตตัวเอง ก่อนที่เธอจะหยิบมันออกมาเปิดดูเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ตัดสินใจนั่งลงที่โซฟาข้างเตียงของเขา...ลงมือทำงานต่อ
ส่วนชารัฐหลังจากเห็นว่านับดาวลงตัวแล้ว เขาก็ย้อนเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็น หยิบวัตถุดิบออกมาทำกับข้าว คิดไว้ว่าจะทำให้ตัวเองด้วย เพราะเขาก็เริ่มหิวขึ้นมาบ้างแล้ว ช่วงบ่ายสามถึงห้าโมงที่ร้านจะไม่ยุ่งมาก เขาปล่อยให้อชิทำงานเองได้
ดูจากวัตถุดิบที่มีแล้วชารัฐตัดสินใจทำข้าวผัดปู สิบห้านาทีต่อมาเขาก็เรียกนับดาวที่อยู่ในห้องออกมากินมื้อเที่ยงด้วยกัน พวกเขานั่งลงกินมื้อเที่ยงได้สักพัก เขาก็เอ่ยปากบอกหญิงสาวตรงหน้า
“เดี๋ยวกินเสร็จผมจะลงไปที่ร้าน คุณจะกลับห้องเลยหรือเปล่า”
“ค่ะ เมื่อเช้าต้องรบกวนแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ฉันเห็นโน้ตคุณแล้ว ไหนๆ ก็ขอเมมเบอร์ไว้เลยละกันนะคะ”
“ครับ”
ชารัฐตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว หลังจากที่มื้อเที่ยงของพวกเขาจบลง นับดาวก็คว้าของของตัวเองทั้งหมดแล้วเอ่ยขอตัวกลับขึ้นไปทำงานบนห้อง ส่วนเขาก็เก็บของอีกนิดหน่อยแล้วลงไปที่ร้านตามเดิม ทำงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงโทรศัพท์มือถือของตนก็ดังขึ้น หน้าจอขึ้นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้น แต่ในใจเขาคิดว่าอาจจะเป็นนับดาว ไม่ต้องรอนานเขาก็กดรับสาย แต่เสียงปลายสายกลับทำให้ใจเขาหล่นวูบลงไปที่พื้น
“คุณเฌอ...ฉัน...หายใจไม่ออก...”
ความคิดเห็น |
---|