1

บทที่ 1


Prepage : ข่าวดีค่า!

"ผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นบวก ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะว่าที่คุณแม่" หมอสาวร่างอวบแก้มอิ่มกลมท่าทางอารมณ์ดีอ่านผลตรวจร่างกายด้วยทีท่าเริงร่าราวกับการประกาศข่าวการเพิ่มพลเมืองประชากรนั้นเป็นเรื่องน่ายินดีดุจการได้รับข่าวสารจากพระเจ้า...

ซึ่งที่จริง...มันก็คงควรจะเป็นอย่างนั้นเพียงแต่...

ผู้มาฟังผลตรวจเป็นผู้หญิงทั้งคู่คนทางซ้ายมือที่ดูเหมือนแค่มาเป็นเพื่อนเป็นหญิงสาวอายุราวยี่สิบกลางๆ หน้าตาสวยจัดบวกกับหุ่นเพรียวราวนางแบบสวมใส่ในชุดแบรนด์เนมที่เปิดเผยเพียงพองาม เน้นความภูมิฐานให้ลุคเธอดูหรูและแพง ถ้าเพียงแต่เธอจะไม่แหกปากเสียดังลั่นหันไปทำตาถลนใส่คนข้างๆ

"หา!" ปรายตาค้างอ้าปากค้างหันไปหา...เจ้านาย ...เจ้าของผลตรวจตัวจริงเสียงจริงที่ยังนั่งก้มหน้าจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือและดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่ได้ยินข้อความเมื่อครู่เพราะมัวแต่ก้มหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับกรุ๊ปไลน์ผู้บริหารที่น่าจะยังเถียงกันเรื่องการลงทุนสกุลเงินใหม่ในต่างประเทศอยู่ไม่ยอมจบ

"อะไรนะปราย...ฉันมีโรคอะไรน่าเป็นห่วงนะ?" คำถามทั้งยังไม่ยอมเงยหน้าและถึงบอกไปอีกทีก็น่าจะยังไม่ได้ยินอยู่ดี

ปรายตะปบมือบังหน้าจอโทรศัพท์มือถือจากสายตาผู้เป็นนายก่อนใช้อีกมือหนึ่งรวบคางหมุนหน้าเจ้านายสาวให้เงยขึ้นมาสบสายตากับหมอที่ยังคงรอยยิ้มแป้นแล้นพร้อมบอกผลตรวจซ้ำอีกรอบ

"คุณตั้งครรภ์ค่ะ ยินดีด้วยนะคะคุณพรำพรรษ"

พรำพรรษอ้าปากค้างไปชั่วเสี้ยววินาทีก่อนที่สติซึ่งมีสูงกว่าคนปกติทั่วไปจะวิ่งกลับมาในชั่วพริบตา หญิงสาวยกมือขึ้นใช้นิ้วดันแว่นตาอันใหญ่หนาขึ้นบนดั้งจมูกด้วยท่วงท่าคุ้นชินก่อนเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจสุดๆ

"ผลตรวจผิด!"

"ไม่ผิดค่ะ" หมอบอกยิ้มๆ

"ผิด" พรำพรรษมั่นใจ

"ผิดแหงๆ" ปรายยิ่งกว่ามั่นใจอีก

"ไม่ผิดค่ะทั้งผลตรวจเลือดทั้งผลตรวจปัสสาวะออกมาตรงกันค่า" หมอบอกอย่างอดทน

"ผลตรวจสลับกับของคนอื่นรึเปล่า?" พรำพรรษพยายามหาเหตุผล

"ไม่มีค่ะ วันนี้คนไข้ผู้หญิงที่ตรวจเลือดและปัสสาวะมีคุณคนเดียวค่ะ" หมอบอกอย่างเริ่มเหงื่อตก ...ทำไมถึงเชื่อได้ยากเย็นนักวะ

"แต่...หมอคะ...เจ้านายหนูจะท้องได้ยังไง นางยังเป็นนางสาวอยู่เลย" ปรายเถียงด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือสักนิดเดียว สีหน้านั้นบอกชัดว่าไม่หลงเชื่อและจะพาเจ้านายสาวไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลอื่นอย่างแน่นอน

"นางสาวก็ท้องได้ค่ะ คนไข้ที่มาคลอดเป็นนางสาวกันตั้งเยอะแยะ" หมอสาวยังพยายามโลกสวยอยู่

"แต่เจ้านายหนูยังไม่ได้แต่งงานนะคะ" ปราย...ยังพยายาม...อย่างยิ่งยวด

"การแต่งงานมันเป็นเรื่องทางสังคมและเศรษฐกิจค่ะ คนสมัยนี้มีลูกกันโดยยังไม่แต่งงานเยอะแยะค่ะ คนไข้" หมอยังคงยืนยัน...อย่างเข้มแข็ง

"แต่หมอคะ...ดูหนังหน้านาง..." ปรายชี้นิ้วที่บริเวณดังกล่าวของเจ้านายตัวเองอย่างจะให้หมอใช้วิจารณญาณให้ดี พรำพรรษเป็นหญิงสาวที่แม้จะมีผิวขาวผ่องหากซ่อนตัวอยู่แต่ในชุดสูทเนื้อหนาปกปิดมิดชิดดวงหน้าเล็กซ่อนไว้ใต้แว่นตาอันโตผมยาวสลวยก็รวบมวยกระจุกไว้หลวมๆ ตำแหน่งเดิมที่กลางกระหม่อมจนเหมือนป้าแก่ๆ ตลอดทั้งปีทั้งชาติ

"ลุคป้าขนาดนี้แถมยังบ้างานขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปหาเศษหาเลยกับผู้ชายคะหมอ?" ปรายพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้เจ้านาย...

หรือเปล่านะ...

"ปราย.." พรำพรรษกัดฟันเรียก

"เอิ่ม...หมอว่าถ้าถอดแว่นออกเจ้านายคุณก็...ก็โอเคอยู่นะ..." หมอถอยตัวออกนิดหนึ่งพยายามเอี้ยวมองหาเหลี่ยมมุมเพื่อแก้ต่างให้เจ้านายของหญิงสาว

"แต่นางทำงานวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง อาทิตย์ละแปดวัน เดือนละเกินสามสิบสองวันอย่างนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปท้องได้ค้าหมอ..." ปรายยังไม่หยุดอีก

"ปราย!" เจ้านายปรามเป็นหนที่สองก่อนหันไปตั้งใจคุยกับหมอ "แต่ดิฉันไม่ได้มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอะไรพวกนั้นเลยนะคะหมอ" คนพูดขมวดคิ้วทำสีหน้าครุ่นคิด

"เอ่อ...หมอก็ไม่รู้หรอกนะคะ แต่ผลตรวจไม่โกหกแน่นอนค่ะ คุณตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์แล้วค่ะ ลองเช็คตารางนัดดูไหมคะว่าสามสัปดาห์ก่อนได้ทำอะไรที่...เอ่อ แบบนั้นแล้วหลงลืมไปหรือเปล่าเอ่ย" หมอบอกยิ้มๆ ไม่รู้ขำตัวเองหรือขำคนไข้หรือขำชะตากรรมตัวเองที่ต้องมาตรวจคนไข้แบบนี้

...คนบ้าอะไรท้องแล้วไม่รู้ตัวว่าท้อง!

"สามสัปดาห์..."

หญิงสาวทั้งคู่พึมพำขึ้นมาพร้อมกันขณะที่พรำพรรษขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าเหมือนมีรอยรำลึกบางอย่างได้จางๆ แต่ปรายนั้นเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้หญิงสาวหันมาคว้าคอเสื้อสูทเจ้านายกำไว้แน่น

"คุณพลัม! สามอาทิตย์ก่อน!"

"อ่า...จำได้แล้วเหรอค้ายินดีด้วยค่า" หมอพึมพำอย่างโล่งอกต่อไปนี้ก็เป็นหน้าที่คนไข้ไปสืบสาวกันต่อแล้วว่าไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครกันแน่

"เออ! ใช่แล้ว! สามอาทิตย์ก่อน!" พรำพรรษกัดฟันพึมพำเมื่อนึกขึ้นมาได้

"ไอ้คลิปในปาร์ตี้สระว่ายน้ำนั่นน่ะ!" ปรายเค้นคำออกมาอย่างเคืองแค้นสุดๆ ขณะที่หมอดวงตาเป็นประกายวาว

"อ๊ะๆ คลิปที่ว่าใช่คลิปฉาวที่เขาปิดกันให้ว่อนที่มีผู้ชายกับผู้หญิงกำลัง...เอ่อ...ฟีชเชอริ่งกันในสระน้ำท่ามกลางพูลปาร์ตี้ที่มีผู้คนเป็นร้อยนั่นน่ะนะคะ?" หมอสาวก็จำได้เช่นกัน มันเป็นข่าวดังเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเพราะลีลาอันร้อนแรงของคู่ชายหญิงที่ทำอะไรกันอย่างโจ๋งครึ่ม...ชัดเจน...จะๆ ไม่ต้องให้คาดเดา บางสำนักข่าวก็ไม่คาดหน้าเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่มันเป็นปาร์ตี้ตอนกลางคืนที่แสงน้อยทำให้ใบหน้าของคู่พระนางในข่าวไม่กระจ่างเท่าไหร่นัก ใครจะนึกว่า...

"แหม...คนในข่าวนี่เอง หุ่นดีนะคะคนไข้" หมอสาวเอ่ยยิ้มๆ คนเรานี่มันมองกันที่ลุคป้าไม่ได้เลยจริงๆ อิ...อิ

"ไม่ใช่!" ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องต่างพร้อมใจกันหันมาประสานเสียง

"เอ๊า! ตกลง...คุณผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พ่อเด็กหรอกเหรอคะ?" หมออุทานออกมาอย่างขัดใจที่คาดเดาผิด

"ฉันไม่ใช่คนในคลิปนั่นค่ะหมอ" พรำพรรษกัดฟันอย่างเหลืออด

"อ้าว ว้า...แหม แล้วพูดถึงกันทำไมคะเนี่ย หมอเลยคิดว่าได้เจอคนดังเลย" หมออดบ่นไม่ได้ก่อนจะพึมพำคล้ายถาม...ปนอยากรู้จนดวงตาเต้นระริก

"แล้ว...ตกลงคุณจำได้มั้ยคะว่าสามสัปดาห์ก่อนนั้นได้ไป...เอ่อ...ไหนมาเอ่ย?"

 

1 สามอาทิตย์ก่อนของปราย

มันเป็นบ่ายวันเสาร์ที่เหงื่อตกแม้เครื่องปรับอากาศชั้นดีจะพ่นไอเย็นออกมาจนรักษาอุณหภูมิไว้ที่ยี่สิบสี่องศาได้เป็นอย่างดีแต่สำหรับคนในห้องนั้นแล้ว ...ความคุกรุ่นในอารมณ์ของเจ้านายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่นั้นเปล่งออร่าความรู้สึกอยากฆ่าคนออกมาชัดเจนมาก

ชัดเจนเกินไปแล้ว...

กดดันจนเลขาสามคนและพวกผู้ช่วยที่อยู่ในนี้แทบหายใจไม่ออกจนจะตายกันหมดแล้ว

"ธรรมดาก็มีรังสีอำมหิตเข้มข้นอยู่แล้วนี่มันจะกดดันกันเกินไปปะเนี่ย" ปรายก้มหน้างึมงำกับเลขาอีกสองคนที่เหลือ ต้องรักเลขาสาวตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้งผมสีน้ำตาลหยักเป็นคลื่นยาวถึงเอว ร่างบอบบางอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สวยหวาน ตาสีน้ำตาลเหลือบมองไปทางเจ้านายก่อนพบว่าอีกฝ่ายตวัดสายตาฉับขึ้นมาสบสายตาจนสาวน้อยต้องก้มหน้างุดลง

"เจ้มจ้นสุดๆ ไปเลยแกร... ชั้นกลัว..." ต้องรักก้มหน้าพึมพำแผ่ว

"เกิดอะไรขึ้นวะ?" ปรายกระซิบถาม ดนตร์เลขาสาวผมยาวตรงร่างผอมสูงโปร่งบางสวมชุดแบรนด์เนมสีดำแหวกลึกสุดเซ็กซี่ถอนหายใจก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปาดปลายนิ้วเรียวยาวที่ทำเล็บไว้อย่างดีสไลด์ไปที่แกลลอรี่เปิดเอาภาพที่บันทึกภาพหน้าจอเอาไว้ออกมาให้อีกสองสาวดู มันเป็นภาพข่าวการเผยแพร่คลิปลับที่ออกไปในแนวอนาจารของชายหญิงคู่หนึ่งที่กระทำการ...เอ่อ ...โจ๊ะพรึมๆ กันอย่างไม่อายใครในสระว่ายน้ำที่พูลปาร์ตี้ในคลับส่วนตัวที่ยอดตึกสูงที่ไหนสักแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้ร่วมสังเกตการณ์เป็นร้อยแม้จะเป็นช่วงเวลากลางดึกที่แสงไฟสลัวหากมุมที่ถูกเก็บภาพมาได้นี้ก็เผยให้เห็นใบหน้าของฝ่ายชายอย่างชัดเจน

"ฉิบหาย! คุณภาสกร!" ปรายข่มกลั้นความตกใจพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบากระนั้นเสียงอุทานในห้องเงียบก็ไม่อาจเล็ดรอดหูช่างหาเรื่องของเจ้านายสาวไปได้ พรำพรรษเหวี่ยงแฟ้มโครมลงบนโต๊ะ

"อย่ามาเอ่ยชื่อไอ้หมอนั่นให้ฉันได้ยินอีก... อย่างน้อย...สองปี!" พรำพรรษกัดฟันกลั้นถ้อยคำสบถไว้ไม่ให้พรั่งพรูออกมา

"แต่...คุณพลัมต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคุณ...เอ่อ ...เขาตอนต้นเดือนหน้านี้แล้วนะคะ" ต้องรักท้วงขึ้น ขณะดนตร์กระทุ้งแขนส่งสัญญาณ

"อีกตั้งเดือน...แถมคุณพลัมยังโกรธแบบมีกำหนดเวลาฉันว่าเที่ยวนี้คงโกรธไม่นานหรอก" ดนตร์พึมพำเบาๆ

"แต่นี่หัวร้อนมาเกินครึ่งวันแล้วนะแก...ทุกทีต่อให้มีผู้หญิงอุ้มลูกมาโวยวายถึงหน้าบริษัทให้คุณภาสกรรับผิดชอบ คุณพลัมยังแค่ขมวดคิ้วเท่านั้นอารมณ์เสียไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็หาย เที่ยวนี้มันชักยังไงๆ ปะ" ปรายพยายามวิเคราะห์สาเหตุ

"แกสามคนว่างงานกันนักใช่ไหม?" น้ำเสียงโหดเหี้ยมดังมาจากหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกเหงื่อพรูเป็นสายออกมาชุ่มหลัง การรับมือกับความโกรธของพรำพรรษเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่ทั้งสามอยากจะเผชิญ เจ้านายสาวเป็นสิ่งที่คล้าย...ไม่คล้ายล่ะชื่อลับที่ทุกคนรู้กันคือ นางมาร นางปีศาจ นางมารร้าย หรือชื่ออะไรที่สาหัสกว่านั้นแล้วแต่จะคิดได้

คุณพลัมหรือพรำพรรษหญิงสาวอายุยี่สิบเก้าปีเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงด้วยวิสัยทัศน์และการวางแผนที่ฉลาดล้ำและแม่นยำทำให้บริษัททำกำไรติดต่อกันมาหลายปีจนชื่อเสียงและความเชื่อมั่นในฐานะผู้บริหารของเธอเป็นที่ยอมรับนับถือในวงกว้าง

พรำพรรษเป็นตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนของประโยคที่ว่า 'Lucky in game but unlucky in love' ผู้ชายที่เธอคบหามาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยนั้น... ขอโทษทีเถอะ ภาสกรเป็นผู้ชายที่ห่วยแตกที่สุดเท่าที่สามสาวเคยเห็นมา เขาทั้งไม่ฉลาดไม่ชอบทำงานไม่พอยังขยันควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าทั้งๆ ที่มีกำหนดจะเข้าพิธีแต่งงานอยู่เดือนหน้านี้แล้วแท้ๆ นั่นอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็ได้ที่ทำให้ผู้บริหารหญิงสุดอึดถึกบึกบึนและเข้าข่ายเลือดเย็นอยู่ไม่น้อยอย่างพรำพรรษสติแตก แม้ที่ผ่านมาจะมีหญิงสาวมาระรานอยู่เนืองๆ แม้บางทีถึงขั้นเอาใบตรวจครรภ์หรืออุ้มเด็กมาโวยวายที่หน้าออฟฟิศก็มีให้เห็นบ่อยๆ แต่พรำพรรษไม่เคยโมโหเดือดจิตหลุดเท่าครั้งนี้เลย

"ไม่ว่างค่ะ ไม่ว่างเลยค่ะเนี่ยยุ้งยุ่ง" เลขาสามคนตอบกลับแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน ทั้งหมดไม่มีใครกล้าที่จะจุดประเด็นขึ้นมาขณะที่นางมารร้ายมีสีหน้าเหมือนจะฆ่าคนได้...หรือไม่งั้นก็กินหัวใครสักคนเป็นอาหารว่างก่อนทำงานยาวยันสว่างเช้าวันอาทิตย์

"ดีเนอะ งานยุ่งแต่ยังมีเวลามาสุมหัวนินทาฉันอีกนะ?" พรำพรรษเขม่นดุเดือดมีผลให้วงสนทนาแตกฮือกันไปคนละทิศละทาง

"เดี๋ยว!" พรำพรรษละมือจากที่เคาะนิ้วรัวกับพื้นโต๊ะมาสักชั่วโมงหนึ่งมาแล้วอันเป็น 'ท่าใช้ความคิด' ที่เหล่าเลขาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและเมื่อไหร่ที่คุณพลัมหยุดรัวนิ้ว ...เมื่อนั้นจะต้องมีคนซวย!

ตาคมใต้แว่นหนาตวัดประกายวาววับแรงอาฆาตใส่บรรดาลูกน้องที่ยืนรอคำสั่งด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ

"ฉันอยากได้... เดรสสีแดง บิกินีแดงกับรองเท้าส้นสูงสีแดง"

สามสาวหันขวับกลับมามองเจ้านายสาวพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย มองร่างอวตารของนางมารร้ายที่อยู่ในชุดทำงานที่ทุกคนคุ้นเคยคือสาวแว่นในชุดสูทหนาเสื้อแขนยาวพรางทรวดทรงและกระโปรงยาวมิดชิดรัดกุมคลุมตาตุ่ม ...ซึ่งทำให้ปรายอดนินทากับแก๊งเลขาไม่ได้ว่า นางเป็นผู้บริหารอายุยี่สิบกว่าๆ ที่ป้าที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

แต่...ให้ตายเถอะ!

ยิ่งพรำพรรษ 'ป้า' มากเท่าไหร่ประสิทธิภาพในการทำงานกลับยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อซ่อนตัวอยู่หลังแว่นหนาเตอะอ่านเอกสารเป็นพันๆ หมื่นๆ หน้าวิเคราะห์งานข้ามวันข้ามคืน พรำพรรษฉลาดเป็นกรดในเรื่องวางแผนการหญิงสาวมักมีคำสั่งประหลาดๆ ที่ซับซ้อนและบางอันเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับงานสักนิดแต่เมื่อรวมกันเข้าแล้วทุกอย่างกลับสอดประสานให้งานสมบูรณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์

เวลาทำงานหญิงสาวจะหมกมุ่นจริงจังและดุเป็นพิเศษเมื่อใครก็ตามตั้งคำถามกับแผนที่เธอวางไว้

ดังนั้น...แม้คำสั่งมันจะประหลาดหรือไม่เมกเซนส์แค่ไหนแต่พวกเธอคุ้นชินแล้วที่จะไม่ถามหาเหตุผลกับที่หัวสมองเต็มไปด้วยการวางแผนอันซับซ้อนของพรำพรรษ

"คุณพลัมใช้เมื่อไหร่คะ?" ดนตร์เสี่ยงชีวิตตั้งคำถามอย่างรอบคอบ นั่นเรียกรอยยิ้มจากเจ้านายได้...หน่อยนึง

"เดี๋ยวนี้"

"เดี๋ยวนี้!" สามเสียงร้องประสานกันอย่างตระหนก ดนตร์เหลือบมองนาฬิกาสี่โมงสี่สิบห้า ยังหาชุดจากตามห้างได้แต่กว่าจะฝ่ารถติดเข้าไปในห้างในเมืองเนี่ยสิ

"อ้อ...ฉันอยากได้บัตรเข้างานปาร์ตี้ริมสระน้ำด้วย ไปหามา" คำสั่งสั้นไร้ช่องให้ปฏิเสธ

"คะ...คุณพลัมจะ ...จะเอางานที่จัด...จัดวันไหนดีคะ" ต้องรักเมื่อเห็นดนตร์กล้าตั้งคำถามแล้วยังรอดชีวิตออกมาได้ก็กลืนน้ำลายฝืดฝืนถามขึ้นบ้าง ขณะในใจภาวนาให้เป็นสักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก็ได้

"คืนนี้"

กรี๊ดส์ส์ส์

(เสียงกรีดร้องในใจของเหล่าเลขาที่เจ้านายไม่มีทางได้ยิน...)

"ปรายฉันดูเป็นไงมั่งวะ?" เสียงถามอย่างไม่มั่นใจผิดเคยนั้นดังขึ้นตอนสี่ทุ่มสามสิบห้า ...เป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง ปรายกวาดสายตามองก่อนถอนใจอย่างระอาให้แก่เจ้าของคำถาม

"สวยจ้า! สวยที่สุด! เลยจ้าคุณนายพลัม" คนพูดจิบค็อกเทลเซ็งๆ ขณะกวาดสายตาไปทั่วร่างที่อยู่ข้างๆ

พรำพรรษมีเรือนร่างโปร่งระหงบอบบางราวนางแบบอกเอวสะโพกพอเหมาะพอดีซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดรัดรูปสีแดงเพลิงที่เน้นสัดส่วนเซ็กซี่อย่างที่ไม่มีใครเคยได้เห็นมาก่อน เปิดเผยเนื้อตัวที่ผ่านการสปาขัดและบำรุงผิวด้วยคอร์สเจ้าสาวราคาแพงจนดูเนียนนุ่มน่าสัมผัสไปทั้งเนื้อทั้งตัว หญิงสาวมีใบหน้าสมส่วนมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเมื่อเหวี่ยงแว่นตาหนาเนิร์ดที่บดบังใบหน้าทิ้งไปและแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากมืออาชีพก็ยิ่งทำให้ดวงหน้านั้นสวยเฉี่ยวขึ้นผิดหูผิดตา ยังไม่นับรวมถึงดวงตาที่เยิ้มฉ่ำหวานจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ซัดไปเสียหลายแก้วยิ่งอบร่ำให้ผิวซับสีเลือดทะลุเครื่องสำอางออกมาจนดูเย้ายวนใจดึงดูดจนเรียกสายตาเว้าวอนจากหนุ่มๆ ในงานเลี้ยงได้เป็นอย่างดี...ถ้าเจ้าตัวจะไม่ซื่อบื้อจนมองไม่เห็นสายตาพวกนั้นน่ะนะ สาวเชี่ยวประสบการณ์อย่างปรายเชื่อว่าน่าจะหิ้วผู้ชายดีๆ ติดมือไปได้ไม่ยากเย็น

"ไอ้นี่อร่อยดี" พรำพรรษเอ่ยชมหลังจากฉวยแก้วค็อกเทลจากมือปรายมาจิบดวงตาสวยหวานฉ่ำปรอย

ปรายถอนใจขณะยอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวตรงหน้ามีจริตและความเย้ายวนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากความเมาได้เซ็กซี่จริงๆ

"ถ้าเหวี่ยงแว่นตากับชุดป้าทิ้งไปแล้วยอมสวยล้างผลาญแบบนี้ซะตั้งแต่แรกผู้ชายมันคงไม่ทิ้งไปมีคนอื่นหรอก" ปรายเบ้ปากบ่นงึมงำเบาๆ หากลืมไปว่าคนใกล้ตัวหูดีเป็นพิเศษหญิงสาวจึงโดนกระชากตัวหัวแทบทิ่ม

"ใคร...ใครมันทิ้งใครยะ! ไอ้ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้นน่ะ ฉันทิ้งมันก่อนโว้ย!"

"เบา! คุณพลัม! เบา!" ปรายตะครุบมือปิดปากอีกฝ่ายเกือบไม่ทัน ส่ายหัวให้กับคนที่ที่แอลกอฮอล์ในเลือดแค่นิดเดียวแต่ดูเหมือนจะเมาแล้ว หญิงสาวรีบดึงแก้วค็อกเทลออกจากมืออีกฝ่าย

"แกเป็นเลขาฉันยังไง ถึงไม่รู้ว่าฉันทิ้งมันไปแล้ว...ไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นน่ะ" พรำพรรษโวยวายขณะไขว่มือคว้าหาแก้วน้ำสีๆ ที่ถูกดึงพรากจากมือไปนั้น

ปรายรู้สึกว่างานเข้าแล้วไง รู้งี้เป็นตายยังไงต้องลากต้องรักกับดนตร์ตามมาให้ได้เลยใครจะรู้ล่ะว่าเจ้านายตอนเมาๆ จะรับมือยากขนาดนี้

"คุณกรก็เจ้าชู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา ถามจริงๆ เหอะ ทำไมคุณพลัมถึงคิดจะเลิกเอาป่านนี้?" ปรายสงสัยว่าผู้หญิงที่อึดถึกบึกบึนและดูเหมือนจะตายด้านแบบนี้ทำไมถึงหมดความอดทนได้

"แกไม่เห็นคลิปที่มันไปซั่มกับผู้หญิงอื่นในสระว่ายน้ำนั่นรึไง" คนตอบหน้าแดงก่ำไม่รู้ด้วยความเมาหรือโมโห ขณะเท้าความไปถึงคลิปลับต้นเหตุแห่งความปรี๊ดแตก

"มีรูปเอ็กซ์ๆ พวกนั้นส่งมาขอเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเกือบตลอดเวลาอยู่แล้วนี่..." บางทีถึงขนาดมีคนอุ้มท้องมาท้าตรวจดีเอ็นเอถึงออฟฟิศซะด้วยซ้ำ "คุณพลัมไม่เห็นเคยโกรธขนาดนี้" ทุกทีเจ้านายสาวเพียงนิ่วหน้านิดหน่อยก่อนจะจัดการทุกอย่างอย่างเรียบร้อยเปี่ยมประสิทธิภาพและเป็นที่พออกพอใจทุกฝ่ายไม่เว้นแม้แต่คุณภัสตราภรณ์มารดาของภาสกรที่ออกจะปลื้มอกปลื้มใจที่ 'ว่าที่ลูกสะใภ้' ใจกว้างแถมยังจัดการเก่ง

"หมอนั่นออกไปปาร์ตี้ที่สระน้ำ" เสียงใสอ้อแอ้นิดหนึ่งมีรอยขื่นข้นขณะขยายความ "ขณะที่ฉันต้องสะสางเคลียร์งานปลายปีที่ยุ่งแทบบ้า หมอนั่นไปสระว่ายน้ำ ...ไปปาร์ตี้" ท้ายประโยคเน้นย้ำซ้ำเสียงด้วยความขุ่นแค้น

"คุณพลัมเลยอยากไปปาร์ตี้ริมสระน้ำมั่ง?" ปรายขมวดคิ้ว เริ่มรู้สึกลางเลาถึงคีย์เวิร์ดเรื่องนี้ เมื่อเจ้านายสาว หลังจากที่ดูคลิปฉาวที่ว่อนเน็ตนั่นจบลงสีหน้าก็ทะมึนมาตลอดบ่ายก่อนที่จะสั่ง...สั่งของผิดสำแดงอย่าง บิกินี่สีแดง ชุดแบรนด์เนมเซ็กซี่สีแดง รองเท้าส้นสูงสีแดง และบัตรเข้างานปาร์ตี้ริมสระน้ำ ชุด เสื้อผ้า รองเท้า หรือแม้แต่การแต่งหน้านั่นง่ายดายมาก แต่...บัตรเข้างานปาร์ตี้ริมสระนั่นทำไงดีล่ะ จะไปหาที่ไหนให้ได้ในเวลากระชั้นชิดขนาดนี้ สามเลขาสุมหัวกันทั้งปรึกษาทั้งโทร.หาทุกคนรู้จักทุกเส้นสายที่มีว่าใครมีบัตรเข้างานที่ว่าให้ได้ในเวลากระชั้นขนาดนี้บ้าง

...แล้วปรายก็นึกขึ้นได้ว่านิมมานแฟนหนุ่มของตัวเองเคยชวนไปปาร์ตี้อะไรสักอย่าง หญิงสาวกดโทรศัพท์หาเบอร์ 'สุดที่รัก' ทันทีเพื่อสอบถามวันเวลาและได้รู้ว่าคืนนี้มีปาร์ตี้ที่ชั้นเพนเฮาส์ของห้องพักเจ้านายของเขาบนยอดตึกสูงของอาคารพักอาศัยระดับพรีเมี่ยมที่ราคาสูงที่สุดในตลาดตอนนี้

"แค่ห้องพักเจ้านายนิมก็ราคาหลายร้อยล้านแล้ว" นิมมานคุยโอ่

"มีสระว่ายน้ำไหม?" ปรายถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

"มีๆ ห้องเพนเฮาส์มีสระน้ำใหญ่เบ้อเริ่มเลย" นิมมานรับคำ

ปรายยิ้มกริ่มก่อนรีบร้อนวางสายไปโดยไม่ได้นัดหมายกับแฟนหนุ่ม

ขณะที่ต้องรักและดนตร์พากันรีบพุ่งออกไปหาชุดสีแดงและรองเท้าเพื่อจะได้มอบภาระเรื่องปาร์ตี้ให้กับปรายรับผิดชอบ

และ...เพราะกะจะโผล่มาเซอร์ไพรส์เสียหน่อย ปรายจึงไม่ได้เอ่ยนัดหมายอะไรกับนิมมาน

หญิงสาวโผล่มาร่วมงานแบบเงียบๆ โดยอาศัยความรู้จักกับเพื่อนร่วมงานของนิมมานหลายคนทำให้การเข้ามาในบริเวณงานเป็นไปอย่างราบรื่น

แต่แล้วคนที่กะจะมาเซอร์ไพรส์เสียหน่อยก็เจอเรื่องเซอร์ไพรส์กว่าจนตัวชาพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว

"ผู้ชายสารเลว!"

"ใช่ผู้ชายมันสารเลวที่สุด ปรายแกนี่เข้าใจฉันดีชะมัด" พรำพรรษงึมงำรับคำโดยไม่ได้รู้สถานการณ์เลยสักนิด

"รอปรายตรงนี้ก่อนนะคุณพลัม อย่าไปไหนนะ" เลขาสาวซึ่งประคองเจ้านายที่กำลังมึนอยู่ ผ่อนร่างเจ้านายสาวให้พิงผนังห้องไว้ก่อนที่จะจ้ำพรวดไปยังกลุ่มคนตรงหน้าด้วยดวงตาลุกวาว

...กลุ่มคนสิบกว่าคนที่มีนิมมานแฟนหนุ่มของเธอที่เมาปริบได้ที่และกำลังนัวเนียอยู่กับพริตตี้สาวสุดเซ็กซี่คนหนึ่งอย่างเริงร่าโดยไม่รู้ถึงชะตากรรมที่กำลังก้าวเข้าประชิดตัว

"นิมแฟนแกไม่ได้มาด้วยเหรอวะ" ใครคนหนึ่งถามขึ้นอย่างหมั่นไส้ในความใกล้ชิดสนิทสนมของนิมมานกับสาวสวย ชายหนุ่มหัวเราะร่าพร้อมตอบคำ

"ที่จริงเขาร้องขออยากมานะแต่คืนนี้อยากโสดเลยให้อยู่บ้าน" คำตอบแบบพ่อบ้านใจกล้าเรียกเสียงฮาจากคนทั้งวงที่ดูจะเมามายพอกัน

งานเลี้ยงคืนนี้เป็นงานปาร์ตี้กึ่งภายใน เพื่อฉลองยอดขายที่ทำกำไรล้นเหลือของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ บรรยากาศงานเลี้ยงจึงไม่ค่อยเคร่งเครียดนัก พนักงานไม่ต้องคอยดูแลลูกค้าจึงสามารถเมากันได้เต็มที่

ปรายดักพนักงานเสิร์ฟไว้คนหนึ่งบริกรหนุ่มน้อยยื่นถาดที่มีแก้วค็อกเทลสีสวยวางอยู่สี่ห้าใบให้ หากหญิงสาวยิ้มเย็นยะเยือกหยิบแก้วเครื่องดื่มไม่กี่แก้วนั้นออกให้บริกรถือไว้ก่อนฉวยถาดโลหะออกจากมือเขาเดินดุ่มไปทางกลุ่มคนและเงื้อมือขึ้นจนสุดแขน

นั่นแหละเป็นตอนที่ความทรงจำขาดตอนไป...หลังจากนั้นกว่าที่ปรายจะระลึกได้ถึงเจ้านายที่ตัวเองทิ้งไว้กลางงานเลี้ยงก็... ก็...

แหม...ก็คนมันโมโหนี่คะคุณพลัม!

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น