10
การแข่งขันดำเนินมาถึงรอบสุดท้าย อีกไม่กี่กิโลเมตรจะถึงเส้นชัย ในที่สุดนักแข่งสาวทีมก็อตสปีดก็เร่งเครื่องจนเข้าประชิดท้ายรถแข่งของ แม็กซ์ มาร์คัส ได้แล้ว อเล็กซิสพยายามมองหาช่องว่างที่เธอจะแซงอีกฝ่ายได้ แม้มันจะน้อยนิด แต่เธอก็พร้อมจะพุ่งรถขึ้นไปแทรกอย่างไม่กลัวว่าจะเกิดการปะทะขึ้น
คนที่กลัวกลับเป็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในพิตวอลข้างสนาม
เซบาสเตียนขบกรามแน่น จ้องเขม็งไปยังจอมอนิเตอร์ สิบนาทีที่ผ่านมา เขามองเธอขับรถอย่างเสี่ยงตายครั้งแล้วครั้งเล่า จนเขาคิดว่ามันเริ่มจะเกินขีดจำกัดแล้ว ทั้งของรถและของเธอเอง
คนเราควรที่จะรู้ลิมิตของตัวเอง และรู้ที่จะหยุดอยู่แค่ตรงนั้น เพราะการทำอะไรเกินความสามารถของตัวเอง จะทำให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ง่ายมาก
“อเล็กซิส พอเถอะ คุณหมดโอกาสแล้วละ นี่มันรอบสุดท้ายแล้ว”
“เหอะ ความเชื่อมั่นในตัวนักแข่งของนายนี่มันช่างสูงเสียเหลือเกิน”
“ผมไม่ได้พูดเพราะไม่เชื่อว่าคุณจะทำได้ แต่ผมพูดเพราะผมเป็นห่วงคุณ”
“ฉันไม่ต้องการความเป็นห่วงจากนาย ขอบคุณ”
เขาถอนหายใจ “คุณกำลังเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง”
“แล้วไง นี่มันชีวิตฉัน ไม่ใช่ชีวิตนาย”
“อย่าทำให้ครั้งนี้มันเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณที่จะได้แข่งรถ” เขาเอ่ยย้ำอย่างอยากให้เธอคิดได้ว่า เธอกำลังแลกชีวิตตัวเองกับอะไรอยู่ เปอร์เซ็นต์ความเครียดของนักแข่งสาวมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนจะเลยจุดที่คนเราจะมองหรือตัดสินใจอะไรได้อย่างรอบคอบแล้ว “ผมขอสั่งให้คุณลดความเร็วลง”
“นายไม่ใช่พ่อฉัน นายสั่งฉันไม่ได้หรอก”
“อเล็กซิส” เสียงเขาเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ “ลดความเร็วลงเดี๋ยวนี้”
“ไม่! สนามนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้แน่!” อเล็กซิสตวาดอย่างกราดเกรี้ยวขณะที่เหยียบคันเร่งจนมิด รถแข่งเข้าสู่ทางตรง เหลืออีกแค่โค้งเดียวที่ต้องผ่านก่อนถึงเส้นชัย ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร รถทั้งสองแข่งกันตีคู่กันมาตามทางตรง ความเร็วรถพุ่งเกือบถึงสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง
คนดูเริ่มส่งเสียงเชียร์เมื่อเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างรถแข่งสองคัน พิธีกรพากย์การแข่งขันเองก็พูดถึงการชิงที่ห้าอย่างรัวเร็วจนลิ้นแทบพันกัน ทั้งๆ ที่ปกติจะไม่มีใครสนใจเพราะมันไม่ใช่อันดับที่มีสิทธิ์จะได้ถ้วยรางวัล แต่เพราะอันดับหนึ่งสองสามนั้นเข้าเส้นชัยกันไปแล้ว อันดับสี่ก็เช่นกัน ในตอนนี้การแข่งขันระหว่างรถหมายเลขสิบสองกับสามสิบสามจึงเป็นเรื่องเดียวที่เหลือให้จับตามอง
รถแข่งของอีกทีมนั้นเบียดเข้าหารถแข่งของอเล็กซิสราวกับจะบังคับให้เธอต้องกระทืบเบรก แต่หญิงสาวยังคงเดินหน้าเร่งความเร็ว ไม่สนว่ารถแข่งของตัวเองจะเข้าใกล้กำแพงขอบสนามมากขึ้นเรื่อยๆ แค่ไหน
เซบาสเตียนกำหมัดแน่น เอ่ยเสียงเข้มใส่ไมโครโฟน วิทยุไปหาเธออีกครั้ง “ผมบอกให้ลดความเร็ว...ลดความเร็วเดี๋ยวนี้!”
และเป็นอีกครั้งที่อีกฝ่ายตะโกนกลับมาให้ได้ยินลั่นหูฟัง “หุบปาก!”
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ดังนั้นเธอจะไม่มีวันยอมชะลอความเร็วลงเด็ดขาด อีกนิดเดียวเท่านั้นเธอก็จะถึงเส้นชัยแล้ว รถของเธอกำลังจะแซงอีกฝ่ายได้...อีกนิดเดียวเท่านั้น!
เป็นสามวินาทีที่ให้ความรู้สึกเหมือนสามนาที ในที่สุดรถแข่งทั้งสองคันก็มาจนถึงเส้นชัย ความบ้าบิ่นของอเล็กซิสส่งผลในที่สุด เมื่อด้านหน้ารถของเธอนำรถคู่แข่งเข้าเส้นชัยไปอย่างฉิวเฉียด
แต่มันก็ส่งผลในด้านลบด้วยเช่นกัน
ทันทีที่ผ่านเข้าเส้นชัย รถแข่งทั้งสองคันก็กระทืบเบรก เนื่องจากสุดทางตรงนั้นเป็นโค้งแบบยูเทิร์น รถคู่แข่งนั้นอยู่วงใน เขาหักเลี้ยวและพารถตัวเองเข้าโค้ง และกลับไปนำหน้าอีกครั้ง แต่รถของอเล็กซิสไม่ได้อยู่ในไลน์ที่ถูกต้อง และยิ่งพุ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงเกินไป บวกกับเบรกรถที่ร้อนจนเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว ท้ายรถจึงปัดออกจากโค้ง ก่อนล้อทั้งสี่จะเริ่มลื่นไถลไปกับพื้นอย่างเกาะถนนไม่อยู่ เธอพยายามแก้อาการ แต่การตอบสนองของรถนั้นไม่เร็วพอ
เอี๊ยด!
โครม!!
โครม!!!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ท้ายรถที่ปัดออกจากโค้งดึงตัวรถให้หมุนตาม ซึ่งคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรถ้าไม่ใช่เพราะว่ายังมีรถแข่งคันอื่นในสนามอยู่ รถแข่งคันหนึ่งที่เพิ่งผ่านเข้าเส้นชัยมานั้นพุ่งตรงมาทางเธอ อีกฝ่ายหักหลบไม่ทัน เลยชนเข้ากับหน้ารถของอเล็กซิสที่หมุนคว้างอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้
รถแข่งของอเล็กซิสถูกดันให้หมุนกลับไปอีกด้าน แรงอัดกระแทกจากความเร็วและน้ำหนักรถทำให้รถของเธอลอยขึ้นจากพื้นและพลิกคว่ำ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปกว่านั้น เธอโดนชนเข้าอีกครั้งจากรถคันต่อมาที่เพิ่งผ่านเข้าเส้นชัย และจากแรงชนครั้งนี้ทำให้รถแข่งที่หงายท้องอยู่พุ่งไปกระแทกกับแผงกั้นเหล็กด้านข้างสนามต่อทันที
“ดูนั่น! เกิดอุบัติเหตุ!!!”
“เฮ้ย!”
“เกิดอะไรขึ้น!!”
เสียงร้องตกใจดังลั่นจากเหล่าคนดูบนที่นั่งข้างสนาม รถแข่งสีส้มจอดแน่นิ่งในสภาพที่เสียหายหนักไปครึ่งคัน ชิ้นส่วนรถหลายสิบชิ้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ตัวรถบิดเบี้ยว ควันสีขาวเริ่มลอยออกมาจากบริเวณห้องเครื่อง ทีมรักษาความปลอดภัยสนามรีบวิ่งเข้าไปยังจุดเกิดเหตุทันที คนที่ทำหน้าที่โบกธงก็เปลี่ยนธงเป็นสีเหลืองเพื่อสั่งให้รถแข่งทุกคันชะลอความเร็วลง
โจนส์กับทีมช่างในพิตต่างพากันยืนค้าง สองตามองภาพถ่ายทอดสดบนจอโทรทัศน์ มาร์แชลนับสิบคนรุมล้อมรถแข่ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพาตัวอเล็กซิสออกมาจากห้องโดยสาร และวางเธอลงนอนบนพื้นหญ้าข้างๆ
เธอไม่ขยับตัวให้เห็นเลยสักนิด
เมื่อรถฉุกเฉินมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินก็วิ่งเข้าไปดูอาการนักแข่งสาวทันที พวกเขาทั้งเรียกเธอ ทั้งตรวจชีพจร แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ เปลหามถูกนำมายกร่างไร้สติของเธอขึ้นหลังรถฉุกเฉิน ก่อนที่จะขับออกไปอย่างเร่งด่วน
ความหวาดหวั่นเกิดขึ้นในใจของทีมงานทันที ทุกคนถอดหูฟังออก ใจอยากจะวิ่งไปดูเหตุการณ์ แต่ก็รู้ดีว่าพวกเขาเข้าไปในบริเวณสนามแข่งไม่ได้ เนื่องจากการแข่งขันสนามที่หกยังไม่ยุติ รถแข่งยังวิ่งต่อจนเข้าเส้นชัยกันครบทุกคัน แม้ว่าในตอนนี้คนส่วนใหญ่จะไม่ได้สนใจแล้วว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น เซบาสเตียนดึงเฮดโฟนออกจากศีรษะ ก่อนจะสบถเสียงดังลั่น
“บ้าเอ๊ย!!!”
อเล็กซิสถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล หมวกกันน็อกถูกถอดออกไปแล้ว บาลาคลาว่าและฮานส์ก็เช่นกัน ในตอนนี้คอของเธอถูกล็อกให้อยู่กับที่ด้วยฟองน้ำแบบแข็งของโรงพยาบาล พวกเขาไม่กล้าขยับตัวเธอจนกว่าผลเอกซเรย์จะออกมา
แพทย์ฉุกเฉินถูกตามตัวมาประเมินอาการ ชุดแข่งของเธอถูกตัดออกเป็นชิ้นๆ เพื่อดึงออกจากตัว ผิวหนังทั่วร่างกายนั้นมีรอยฟกช้ำเป็นวงกว้างให้เห็นหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณไหล่และหน้าอกที่เป็นเส้นรอยช้ำชัดเจนจากเข็มขัดนิรภัย
โจนส์ที่เพิ่งตามมาถึงโรงพยาบาลเดินย่ำเท้าไปมาอยู่กับที่อย่างกระวนกระวาย ก่อนพยาบาลจะพาตัวเธอไปสอบถามประวัติของคนไข้ และให้เธอไปนั่งรอในห้องรับรอง
หนึ่งชั่วโมงถัดมา ในที่สุดก็ได้รับข่าวดี ผลเอกซเรย์แสดงว่าไม่มีเลือดออกภายในให้ต้องกังวล หรือต้องเข้ารับการผ่าตัดใดๆ กระดูกซี่โครงของเธอหักสามซี่ กับมีรอยร้าวที่กระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย แต่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายปลอดภัยดี
ในตอนนี้เรื่องเดียวที่ต้องกังวลคงเป็นเรื่องของสมอง พวกเขาไม่รู้ว่ามีการกระทบกระเทือนรุนแรงตรงส่วนนั้นหรือเปล่า ยังดีที่ผลซีทีสแกนไม่แสดงให้เห็นความผิดปกติใดๆ จึงพอจะเบาใจไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็คงต้องรอเธอฟื้นขึ้นมาเสียก่อน ถึงจะสรุปได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ
“เป็นยังไงบ้าง” ไมเคิลตะโกนถามทันทีที่เห็นสาวแว่นที่หายไปโรงพยาบาลเกือบสองชั่วโมงในพิตอีกครั้ง
“อเล็กซ์ยังไม่ได้สติ แต่หมอบอกว่าเธอไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรที่สาหัสหรือน่ากังวล นอกจากกระดูกซี่โครงหักอย่างเดียว” สาวแว่นตอบเสียงอ่อน เธอตัดสินใจกลับมาที่นี่เพราะคิดว่าอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้ อเล็กซิสยังคงไม่รู้สึกตัวและอยู่ในห้องไอซียูที่เธอไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ดังนั้นเธอจึงทำเพียงแค่ฝากเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ และขอให้พวกเขาโทร. แจ้งทันทีที่อเล็กซิสฟื้น เพื่อที่เธอจะได้กลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
“โชคดีมากที่โดนชนอีกฝั่ง ไม่อย่างนั้นอเล็กซ์คงไม่เจ็บแค่นี้แน่” แอนเดรียสถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเพิ่งได้ดูวิดีโอตอนเกิดเหตุแบบสโลว์โมชัน ตำแหน่งที่โดนชนนั้นเป็นฝั่งตรงข้ามคนขับทั้งนั้น นับว่าอเล็กซิสดวงดีมาก
หลังจากนั้นโจนส์ก็ไปทำเรื่องขอรถแข่งกลับมาตรวจดูความเสียดายพร้อมกับช่างทั้งสองคนที่ช่วยกันเข็นรถแข่งที่พังยับไปครึ่งคันจากลานจอดกลับมาที่พิต เซบาสเตียนที่เงียบไม่พูดไม่จากับใครตั้งแต่เกิดเรื่องเดินเข้ามาดูสภาพรถทันที
โครงรถด้านซ้ายโดยเฉพาะบริเวณรอบคนขับนั้นไม่มีส่วนไหนที่บุบเข้าไปด้านใน นั่นพอจะอธิบายได้ว่าทำไมอเล็กซิสถึงกระดูกแขนและขาไม่หักอย่างที่ทุกคนกลัว จะเว้นก็แค่ช่วงกลางลำตัวที่กระแทกเข้ากับพวงมาลัยเท่านั้น ส่วนที่เสียหายหนักของรถคือ บริเวณไฟหน้าฝั่งขวาที่ยุบเข้ามาจนเกือบถึงล้อ และหลังคาที่ไถลไปกับพื้นตอนที่รถพลิกคว่ำ
วิศวกรหนุ่มมีสีหน้าบึ้งตึงตลอดเวลาที่ตรวจความเสียหายของตัวรถ และแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาจนไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้
“ฮัลโหล ใช่ค่ะ...จริงเหรอคะ” เสียงคุยโทรศัพท์ของโจนส์ดึงให้ทุกคนเบนสายตาออกจากรถแข่งไปที่เธอ สีหน้าโล่งอกที่เธอแสดงออกมาบ่งบอกได้ว่าต้องเป็นเรื่องดีๆ แน่
แอนเดรียสถามเธอ “โรงพยาบาลโทร. มาใช่มั้ย”
“ใช่ อเล็กซ์ฟื้นแล้ว” สาวแว่นตอบพลางยกมือปิดลำโพงไมโครโฟนของโทรศัพท์เอาไว้ “คุณหมอมาตรวจการตอบสนองเรียบร้อย เธอมีสติครบถ้วน พูดคุยรู้เรื่อง ตอนนี้เขาจะ...”
“แน่นอนว่าเธอไม่เป็นอะไร”
เซบาสเตียนแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนจัด พาให้หญิงสาวที่พูดอยู่ปิดปากฉับทันที ทุกคนดูจะเป็นห่วงนักแข่งสาวที่หาเรื่องใส่ตัวเองคนนี้เสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลยสักนิด
ตั้งแต่ตอนที่เห็นวิดีโอการชน เขาก็บอกได้เลยว่าเธอไม่เป็นอะไรแน่ และพอได้มาเห็นตัวรถแบบนี้ก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ เพราะห้องคนขับไม่มีรอยบุบหรือยุบตรงไหนที่น่าจะทำให้คนขับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่อเล็กซิสหมดสติก็คงเพราะแรงเหวี่ยงรุนแรงเท่านั้น แต่มันไม่ได้อันตรายเพราะตัวเธอรัดแน่นอยู่กับเก้าอี้รถแข่งด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบหกจุด ที่ถึงรถจะหมุนตีลังกาอย่างไร ตัวเธอก็ไม่ลอยไปฟาดเข้ากับโครงรถรอบๆ ให้บาดเจ็บแน่นอน
หลังจากทำให้ทุกคนเงียบไป เซบาสเตียนก็เดินไปหยิบเสื้อกันหนาวของเขาที่พาดอยู่กับเก้าอี้หน้าจอมอนิเตอร์ แล้วเดินออกจากพิต
โจนส์รีบวิ่งตามเขามา เพราะเดาได้ว่าเขากำลังจะไปที่ไหน “คุณเซบ ฉันว่า...”
“รบกวนจดรายการอะไหล่ตามที่ต้องเบิกให้เรียบร้อยนะครับ และนัดวันเข้าไปซ่อมรถให้ผมด้วย” เขาเอ่ยเสียงเรียบขัดคำพูดของอีกฝ่าย นัยน์ตาสีเขียววาวโรจน์อย่างน่ากลัว “ผมจะไปจัดการธุระในส่วนของผมให้เรียบร้อย แล้วจะรีบกลับมา”
| ความคิดเห็น |
|---|
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ