๗
พักผ่อนไม่เพียงพอ
We’ve all looked skyward to see
a canvas of twinkling stars at some point.
But in reality the stars aren't actually twinkling.
“แกท้องเหรอ ท้องกับใคร”
“ไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ไงหลง เด็กต้องมีพ่อนะ”
“ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่นา”
ปราบกุมขมับหลังได้เห็นใบรับรองแพทย์ที่ลูกน้องตัวปัญหามาส่งให้ดู ในใบรับรองแพทย์เขียนว่าท้องได้สองเดือนแล้ว ถ้านับย้อนไปก็คงจะเป็นช่วงปีใหม่ที่เกิดเรื่อง
“แกรู้ใช่ไหมว่าเดี๋ยวนี้การทำแท้งมันถูกกฎหมายแล้วนะ”
หลงพยักหน้ารับ เธอศึกษามาหมดแล้วว่าเมื่อตั้งครรภ์ต้องทำอย่างไรบ้าง มีข้อกำหนดอะไรบ้าง แล้วก็รู้ด้วยว่าทำแท้งสมัยนี้มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนแต่ก่อน แต่หลงอยากเลี้ยงเด็กคนนี้จริงๆ
“หลง การมีลูกมันไม่เหมือนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวนะ”
“หลงรู้ แต่หลงอยากเลี้ยงเขา”
พี่ปราบถอนหายใจ นับครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สิบได้แล้วมั้งตั้งแต่เรียกหลงเข้ามาคุย เขาดูหนักใจมากกว่าหลงที่เป็นคนท้องเองเสียอีก
“กลับไปขอใบรับรองแพทย์ใหม่ บอกหมอว่าให้เขียนว่าป่วยอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ท้อง”
“ทำไม”
“แกจะให้ชาวบ้านชาวช่องเขารู้เหรอว่าแกท้องไม่มีพ่อน่ะ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะเว้ยไอ้หลง พี่เป็นหัวหน้าก็ต้องปกป้องลูกน้อง พี่ไม่อยากให้ใครเอาแกไปนินทาเสียๆ หายๆ แบบนั้นหรอก”
รู้สึกซาบซึ้งใจจัง อยากจะร้องไห้เลยแฮะ พี่ปราบปกป้องเรา…เป็นครั้งแรก
“หลงเข้าใจแล้ว”
ร่างบางเดินออกจากห้องหัวหน้าทีมพร้อมกับใบรับรองแพทย์ที่ไม่ได้ถูกใช้งาน เธอพับมันเก็บใส่กระเป๋าอย่างมิดชิดเพราะกลัวใครจะมาเห็น ก่อนจะหันมานั่งมองหน้าจอคอมพ์ที่เปิดโปรแกรมเขียนแบบค้างไว้
“หลงจ๊ะ สรุปหมอบอกว่าป่วยเป็นอะไรเหรอ” ชาวบ้านหมายเลขหนึ่งปรากฏตัวแล้ว…นั่นก็คือพี่มิลค์
“พักผ่อนไม่เพียงพอน่ะ”
ตอบคำถามตามที่พี่ปราบกำชับไว้ว่าถ้าใครถามว่าเป็นอะไรให้ตอบไปแบบนี้ หลงจะจำไว้ขึ้นใจไม่ให้เผลอหลุดปากพูดว่าท้องไปเด็ดขาด เฮ้อ…ท้องก็ท้องเอง ทำไมคนอื่นเดือดร้อนกับเราจัง
“ไอ้เด็กหลง ได้ข่าวว่าป่วย หมอว่าไงบ้างวะ” ชาวบ้านหมายเลขสองได้แก่…พี่จั่น นักปั้น 3D มือทองประจำทีม
“พักผ่อนไม่เพียงพอ”
“กูนึกว่ามึงเป็นโรคร้ายใกล้ตายซะอีก” ชาวบ้านหมายเลขสาม…พี่พจน์ รุ่นพี่ในทีมเดียวกัน
“พี่ๆ อย่าไปมุงน้องหลงแบบนั้นสิคะ เดี๋ยวน้องหลงก็หายใจไม่ออกกันพอดี” พี่มิลค์เอ่ยเตือนคล้ายจะเป็นห่วงเธอ
“พี่ก็แค่เป็นห่วง กลัวจะมีคนตายในออฟฟิศน่ะ” พี่จั่นตอบออกมาตามประสาคนปากดี
ยิ้มกันแบบนั้นไม่เมื่อยหน้ากันบ้างเหรอ หลงไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ติ๊ง…
Yifei : มาหาหน่อย อยู่บันไดหนีไฟ
อี้เฟยส่งข้อความมาในไลน์ส่วนตัวที่ร้างไปนานมากๆ แล้ว หลงกดปิดหน้าจอคอมพ์เพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามมาเห็นข้อความเหล่านั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปยังจุดนัดหมาย
ผลักประตูเหล็กหนักๆ เข้าไปด้านใน จมูกได้กลิ่นคาราเมลหอมมาจากคนตัวสูง มันช่วยให้อาการเวียนหัวของหลงดีขึ้นมาบ้าง
แต่พอเงยหน้ามองเขาก็เห็นความตึงเครียดจนเส้นเลือดขึ้นข้างขมับ มันทำให้หลงรู้สึกหวั่นใจ…หรือเขาจะรู้แล้วว่าเราท้อง?
“ไม่สบายเหรอ”
“อือ”
“หมอบอกว่าเป็นอะไร”
“พักผ่อนไม่เพียงพอ”
นึกขอบคุณพี่ปราบที่กำหนดคำตอบมาให้หลงเอาไว้ใช้ ไม่อย่างนั้นหลงคงคิดหนักแน่ๆ ว่าจะตอบเขาอย่างไร ในเมื่อเขาคือพ่อของเด็กในท้องหลงเอง
“ไม่ได้ท้องใช่ป่ะ”
หลงส่ายหน้า
“โล่งอกไปที ฉันก็นึกว่าแกท้อง”
อี้เฟยมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง เขายกยิ้มอย่างสบายใจ ต่างจากหลงที่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบเฉย หากแต่ในหัวใจกลับรู้สึกวูบโหวงอย่างประหลาด
“เราไปก่อนนะ”
“โอเค ดูแลสุขภาพดีๆ ละ ฉันขี้เกียจหาคนเขียนแบบใหม่”
หลงพยักหน้าก่อนเดินหันหลังกลับเข้าตัวอาคารไป ทุกย่างก้าวที่เหยียบบนพื้นมันช่างยากลำบาก หลงรู้สึกมีอะไรหนักๆ ถ่วงหัวใจเอาไว้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่จากที่หลงเคยอ่านมามันน่าจะแปลว่าหลงกำลังรู้สึกไม่ดีอยู่
“อุ๊บ!”
อยู่ๆ มื้อเช้าก็ตีขึ้นมาถึงคอหอย หลงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำปลดปล่อยมันลงชักโครกทันที เสียงโอ้กอ้ากดังลั่นภายในห้องน้ำหญิงที่เงียบสงัด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงไอและร้องไห้อีกสักพักจึงสงบลง
ซ่า…
เปิดก๊อกน้ำบ้วนปากล้างมือ วักน้ำลูบหน้าเพื่อให้ความเย็นของมันช่วยปลอบประโลมความรู้สึกแย่ๆ เงาสะท้อนในกระจกยังคงเป็นหลง ผู้หญิงหน้าตาจืดชืดเหมือนเดิม เพิ่มเติมแค่ขอบตาดำคล้ำ
ก้มลงมองหน้าท้องใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ มันยังแบนราบไม่ได้โป่งนูนเหมือนคนท้องแก่แต่อย่างใด มือเรียวยกขึ้นลูบเบาๆ ราวกับกำลังสัมผัสลูกน้อย
“เราอยู่กันสองคนได้ใช่ไหม”
หลงยิ้มพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ยิ้มกว้างที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา แต่น้ำตาไหลหนักที่สุดตั้งแต่เคยหายใจ หลงไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้เอาเสียเลย เธออ่อนไหวง่ายเกินไป เกินกว่าที่ตัวเองจะรับมือไหวด้วยซ้ำ
“ฮึก เป็นเด็กดีนะ ฮึก เดี๋ยวพาไปดูดาว”
ตบปุๆ ที่หน้าท้องเบาๆ ก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
เวลา ๒๒.๐๐ น.
ดึกแล้วหลงควรจะนอนพักตามคำแนะนำของหมอ แต่ว่าหลงยังนอนไม่ได้เพราะงานของพี่โต้งที่รับมายังไม่เสร็จ ต้องตัวขดตัวงอบนเก้าอี้บุนวมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่อย่างนั้น พอถึงช่วงเรนเดอร์งานก็หยิบนมสดคาราเมลมาดูดหนึ่งที
วันนี้หลงไม่ได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นมื้อเย็น แต่ซื้อนมสดราดซอสคาราเมลมาแทน เพราะเธอแทบจะกินอะไรไม่ได้เลยนอกจากเครื่องดื่มชนิดนี้
หลงเหม็นเนื้อสัตว์เหม็นผักไปหมดทุกอย่าง สิ่งเดียวที่ทำให้อาการแพ้ท้องนั้นดีขึ้นได้คือกลิ่นคาราเมล…อะไรก็ได้ที่เป็นคาราเมล
“อ๊ะ ซี้ด”
ร้องเสียงหลงหลังรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อย หลงกุมท้องตัวงออยู่สักพักหนึ่งอาการก็ค่อยๆ เบาลง แต่มันไม่ได้หายสนิท
หลงรีบค้นหาข้อมูลอาการเจ็บท้องแบบนี้จากอินเทอร์เน็ตทันที ก่อนจะพบว่ามันเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดภาวะแท้งคุกคามได้ แต่อาการของหลงยังไม่มีเลือดไหลออกมา อาจจะแค่เจ็บท้องเพราะนั่งนานเกินไปก็ได้
“อย่าเพิ่งหนีกันไปนะ”
กำชับกับตัวอ่อนในท้อง ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์แล้วเข้านอน
หลงคิดว่าพรุ่งนี้จะโทร. ไปลาป่วยกับพี่ปราบเพื่อไปหาหมอ อาการเจ็บท้องน้อยมันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับคนท้องอ่อนๆ หลงต้องป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ความคิดเห็น |
---|