๘
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
When two black holes are about to collide,
object around them can travel backwards in time.
กริ๊ง…
‘ไอ้หลง เป็นไงบ้าง ใกล้เสร็จยัง’
พี่โต้งโทร. มาถามเรื่องงานแต่เช้า แต่ก็เป็นเรื่องปกติเพราะเมื่อก่อนพี่โต้งก็จะคอยโทร. ถามแบบนี้บ่อยๆ
“เหลือ 3D”
‘ทันไม่ทันยังไงบอกกูได้นะเว้ย จะได้คุยกับลูกค้าให้’
“อือ”
หลงกดวางสายโดยที่ตายังไม่ลืมเลยด้วยซ้ำ ขยับตัวเบาๆ เพราะยังรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยอยู่ สองแขนชันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างอยากลำบาก วันนี้ร่างกายของหลงอ่อนเพลียมากๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
กว่าจะลากสังขารตัวเองไปอาบน้ำได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง กลับมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานที่คั่งค้างต่อ มือก็ตักกวยจั๊บเข้าปากไปพลาง โชคดีหน่อยที่วันนี้สั่งกับข้าวมาไม่เสียของ ตัวอ่อนในท้องยอมให้เธอกินกวยจั๊บเป็นมื้อเช้า
“ซี้ด”
สูดปากพร้อมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ อาการปวดหน่วงที่จุดเดิมเหมือนจะรุนแรงขึ้น หลงนั่งยืดตัวสักพักก็ค่อยๆ เบาลง คว้าหยิบนมรสคาราเมลมาดื่มแก้เวียนหัว
“อ๊ะ”
เจ็บอีกแล้ว คราวนี้เจ็บหนักกว่าเดิมอีก
หลงลุกขึ้นยืนงอตัวเพราะแรงบีบรัดช่วงท้องหนักขึ้น เท้าแขนข้างหนึ่งกับโต๊ะทำงาน ส่วนอีกข้างก็หยิบของลงกระเป๋าสะพาย ส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารการฝากท้องกับบัตรประชาชน
ยกกระเป๋าขึ้นสะพายหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่แล้วขาสองข้างกลับทรุดลงกับพื้น
ตึง…
“โอ๊ย! เจ็บ…ฮึก”
นอนขดตัวบนพื้นด้วยความทรมาน สองมือกุมหน้าท้องแน่น น้ำตาหยดไหลลงมาเป็นสาย หลงพยายามตะเกียกตะกายให้ไปถึงประตูห้อง แต่ระยะทางเพียงห้าก้าวกลับไกลเหลือเกินสำหรับหลงในตอนนี้
“ฮึก เจ็บ!”
ขาหนีบสองข้างสัมผัสได้ถึงความแฉะจากของเหลวที่ไหลออกมา กลิ่นเหม็นคาวลอยคลุ้งไปทั่วห้อง หยดเลือดสีแดงสดไหลลงมาจึงหัวเข่า
หลงเบิกตากว้างร้องไห้น้ำตาไหลพราก ทั้งเจ็บทั้งทรมานแล้วยังมีความหวาดกลัวอัดแน่นในหัวใจ กุมท้องนอนตัวสั่นอยู่คนเดียวในห้องพัก ไม่มีแรงแม้แต่จะเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนพื้นเลย
เจ็บเหมือนจะตายให้ได้เลย…
“มะ...ไม่ไหว ฮึก”
“มิลค์ว่าหลงท้องชัวร์”
“คนสวยรู้ได้ไงจ๊ะ”
“ก็เมื่อวานตอนหลงเดินออกไปไหนก็ไม่รู้น่ะ มิลค์แอบดูในกระเป๋าเห็นสมุดฝากท้องกับคู่มือคุณแม่มือใหม่ พี่จั่นกับพี่พจน์จะให้มิลค์คิดยังไงล่ะ”
จั่นกับพจน์ปิดปากเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ข่าวลือที่พวกเขาได้รับรู้มันช่างเป็นประเด็นร้อนในออฟฟิศเหลือเกิน ยิ่งได้รับการยืนยันจากคนที่นั่งอยู่ข้างไอ้เด็กหลงด้วยแล้ว ข่าวลือที่ว่ามันท้องถ้าจะเป็นจริง
“ถ้ามันท้อง จะท้องกับใครวะ”
“ไอ้พจน์ มึงก็ถามโง่ๆ ก็ต้องท้องกับผัวมันสิวะ”
“มันไปมีผัวตอนไหน ตั้งแต่รู้จักมันมาเห็นอยู่ตัวคนเดียวตลอด”
“ถูกของพี่พจน์ มิลค์ก็ไม่เคยเห็นว่าหลงจะคุยกับใครเลย นอกจากเฟยที่เป็นเซลส์โครงการบ้านน่ะ”
“กับไอ้ตุ๊ดมันก็ต้องคุยอยู่แล้วไหมน้องมิลค์ ทำงานด้วยกันแทบทุกโครงการ” จั่นแย้งขึ้น
“อย่างงี้ก็เท่ากับว่ามันท้องไม่มีพ่ออ่ะดิ”
“เชี่ย! จริงด้วยว่ะ เรื่องนี้ต้องขยายแล้วไอ้พจน์”
“ไอ้หลงท้องไม่มีพ่อ เรื่องนี้ต้องเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์!”
อี้เฟยที่กำลังก้าวขาเข้ามาแผนกออกแบบถึงกับชะงัก คำพูดของรุ่นพี่ในแผนกทำให้ใจของอี้เฟยหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ข่าวลือที่เขาได้ยินมาตั้งแต่เช้าจะเป็นเรื่องจริงหรือนี่
“อ้าวน้องเฟย มาทำอะไรจ๊ะ มาหาไอ้หลงเหรอ”
“ค่ะ เฟยจะเอาแบบมาให้หลงแก้น่ะค่ะ” อี้เฟยยิ้มตอบพี่จั่นไป
“วันนี้ไอ้หลงมันลา ฝากไว้ที่พี่แล้วกัน”
“หลงไม่สบายเหรอคะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้ยินเขาลือๆ กันว่าไอ้หลงมันท้อง แถมท้องไม่มีพ่อด้วย”
‘ไอ้หลงท้อง ไอ้หลงท้อง ไอ้หลงท้อง…’
อี้เฟยไม่ได้ยินอะไรเลยหลังจากนั้น คำว่า ‘ไอ้หลงมันท้อง’ ดังก้องอยู่ในหูซ้ำไปซ้ำมา จนรุ่นพี่สะกิดเรียกเขาถึงได้สติ อี้เฟยรีบกล่าวลาทั้งสามคนและวิ่งกลับไปที่แผนกตัวเอง
“พี่เล็ก วันนี้เฟยลาครึ่งวันนะคะ”
“เออๆ จะไปไหนล่ะ”
“ไปทำธุระค่ะ”
อี้เฟยตอบทั้งที่ยังรวบของเก็บเข้ากระเป๋าอย่างเร่งรีบ นิ่มที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปรีบลุกมาหาทันที มองรุ่นพี่ลนลานเก็บของเหมือนมีใครจะตาย
“เจ๊ รีบไปไหน”
“มึงมาก็ดีแหละ ไปกับกู”
“อะไรวะเจ๊”
“เออ ไปกับกูก่อน เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”
นิ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดงุนงงกับรุ่นพี่ แต่ก็ยอมเดินกลับไปเก็บข้าวของของตัวเองเช่นเดียวกัน พลางตะโกนบอกพี่เล็ก หัวหน้าฝ่ายขายว่าขอลาครึ่งวันเหมือนกัน จะไปทำธุระกับเจ๊เฟย
“มึงขับนะ”
“บอกนิ่มมาก่อนว่าเจ๊รีบไปไหน”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะยกมือลูบหน้าเลยไปถึงเส้นผมที่ถูกจัดทรงมาอย่างดี สีหน้าดูเคร่งเครียดอมทุกข์อย่างไรไม่รู้ บอกไม่ถูก
“ไปหาหลง”
“พี่หลงเป็นอะไร ทำไมต้องไปหา”
“มึงขับไปก่อน เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”
รถฮอนด้าซีวิคสีม่วงพลัมเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ มุ่งหน้าไปตามถนนสายหลักตามคำแนะนำเส้นทางจากจีพีเอส เจ้าของรถที่วันนี้ไม่ได้จับพวงมาลัยเองนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ในหัวคิดวกวนแต่เรื่องข่าวลือที่ได้ยินมา
อี้เฟยกำลังกลัว…กลัวว่าข่าวลือพวกนั้นจะเป็นจริง แต่มันจะเป็นจริงได้อย่างไรในเมื่อเขาป้องกันไว้แล้ว แถมเจ้าตัวก็ยังยืนยันอีกต่างหากว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
“แกห้ามท้องนะ”
“ถ้าท้องล่ะ”
“ไม่ได้ ห้ามท้อง”
ถ้าหลงท้องจริงๆ ก็เท่ากับว่าหลงโกหกเขา…
“เจ๊กับพี่หลงได้กันแล้ว!”
อี้เฟยพยักหน้ายอมรับหลังเล่าความจริงทั้งหมด นิ่มถึงกับร้องว่าโอ้มายก็อด...ออกมาลั่นรถ จะยกมือปิดปากตัวเองที่อ้ากว้างก็ไม่ได้ เพราะติดตรงจับพวงมาลัยบังคับรถอยู่
“อย่าบอกนะว่าคืนงานเลี้ยงปีใหม่น่ะ”
“เออ!”
ฟ้าผ่ามึงแล้วอีนิ่ม…จะเป็นคนดี มึงได้ทำชั่วแทนแล้ว นรกยินดีต้อนรับนิ่มนิ่มจ้า
“เจ๊! มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมเจ๊ทำแบบนั้น!”
“กูก็ไม่รู้! ผิดที่มึงนั่นแหละ เอามันมานอนห้องกูทำไม”
“อ้าวเจ๊ ปกติหนูก็ไปค้างห้องเจ๊บ่อยๆ ป่ะ ยังไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ตอนนั้นกูไม่ได้เมาไหม”
“น้ำเมาทำคนเราเทิร์นผัวได้ว่ะ สุดยอด!”
“หุบปากไปเลยมึงอ่ะ”
มือหนาผลักหัวรุ่นน้องไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ โดนมันโวยวายกลับเพราะขับรถอยู่ อี้เฟยสะบัดหน้าหันมองข้างทางอย่างหงุดหงิด เครียดก็เครียด หงุดหงิดก็หงุดหงิด อะไรก็ไม่รู้เต็มหัวไปหมด!
“แล้วเจ๊จะเอาไง ถ้าพี่หลงท้องขึ้นมาจริงๆ”
“ก็คงต้องเอาเด็กออกอ่ะ กูยังไม่พร้อมเลี้ยงป่ะวะ”
“แล้วถ้าพี่หลงไม่ยอมล่ะ”
“ไม่รู้ ยังไม่ได้คิด”
นิ่มส่ายหน้า เจ๊เฟยคิดอะไรตื้นๆ แถมยังคิดถึงแต่ตัวเองอีกต่างหาก เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัดก่อนจะหักเลี้ยวรถเข้าสู่ซอยเล็กๆ ข้างตลาด
“เจ๊แม่งไม่น่าชื่ออี้เฟยเลย”
“ชื่ออี้เฟยของกูมันทำไม”
“มันแปลว่าอะไรล่ะ”
“โบยบินสู่สัจธรรม” เจ้าของชื่อพูดด้วยสีหน้าภูมิอกภูมิใจสุดๆ นิ่มเบะปากมองบน หมั่นไส้รุ่นพี่เหลือเกิน
“พ่อแม่เจ๊ตั้งชื่อแก้เคล็ดหรือไงนะ”
“มันทำไม ชื่อกูมันทำไมนัก!”
“ก็ชื่อดูมีคุณธรรม แต่คนไร้คุณธรรมมาก”
“อีนิ่ม! อีน้องชั่ว!”
“อย่าตีน้อง! น้องขับรถอยู่!”
ความคิดเห็น |
---|