บทที่ ๔

โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ

Rogue planets are not bound by any star 

and so free float through space.

แสงอาทิตย์ส่องสว่างแยงตาพาหงุดหงิดใจ อี้เฟยลืมตาตื่นในเวลาเช้าของวันใหม่ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นแผ่นหลังขาวกระจ่างตรงหน้า เอวคอดกิ่วเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย

เขาหิ้วสาวขึ้นห้องเหรอ! ไม่จริงน่า...มึงเมาขี้ตาแล้วอี้เฟย

ฟึ่บ!

“กรี๊ด...!”

เสียงใหญ่ร้องแหกปากลั่นเมื่อถกผ้าห่มออกแล้วเห็นว่าตัวเองเปลือยเปล่า ที่สำคัญ...ของรักของหวงยังเพิ่งถูกใช้งานมาสดๆ ร้อนๆ อีกต่างหาก

นี่กูเสียตัวให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่!

“อื้อ…เสียงดัง”

“กรี๊ด...!”

ผู้หญิงที่เขาพลาดท่าไปมีอะไรด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน คือยัยหลง! ยัยหน้าเต้าหู้!

กูอยากตาย...

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

“แก ฮึก แกใส่เสื้อผ้าก่อน”

หลงนั่งหน้างงก่อนจะก้มลงมองตัวเอง ดวงตาเล็กเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าตัวเองนั่งนมตั้งเต้าต่อหน้าผู้ชาย รีบคว้าเอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ ใบหน้าแดงซ่านจากความเขินอาย

กว่าจะตั้งสติกันได้ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง หลงสวมเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ข้างเตียงเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งรอเจ้าของห้องอยู่ที่โซฟารับแขก หลังออกจากห้องไปไม่นานอี้เฟยก็เดินเข้ามาพร้อมกับหิ้วถุงยามาด้วย

“อะ ยาคุม เภสัชบอกให้กินสองเม็ดพร้อมกันเลย”

รับมาแล้วก็แกะยาด้านในออกมากินตามคำแนะนำ วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะท่ามกลางความเงียบงัน หลงก้มมองมือตัวเองที่ประสานกันบนหน้าตัก ทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายจ้องมาตาไม่กะพริบ

“กินยาแล้วจะไม่ท้องใช่ป่ะ”

“ในฉลากเขาบอกว่าป้องกันได้แปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์”

ก็เท่ากับว่าอีกสิบห้าเปอร์เซ็นต์มีโอกาสท้อง

“แกห้ามท้องนะ”

“ละ…แล้วเราต้องทำยังไง”

“ไม่รู้! แต่แกห้ามท้อง!”

“ถ้าท้องล่ะ”

“ไม่ได้! ห้ามท้อง!”

หลงไม่เข้าใจ มนุษย์เราหลังจากผสมพันธุ์กันแล้วมันห้ามไม่ให้เกิดการปฏิสนธิได้ด้วยเหรอ ขนาดยาคุมที่กินไปยังบอกว่าป้องกันได้ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แล้วเธอจะห้ามตัวอ่อนที่จะมาเกิดได้อย่างไรกัน

“แล้วแกก็ห้ามพูดเรื่องนี้กับใครด้วย”

“...”

“อ๊ะ ลืมไป แกไม่มีเพื่อนให้คุยอยู่แล้วนี่”

‘นี่เฟยกำลังด่าเราอยู่หรือเปล่า’ หลงคิด

“แต่ไม่ว่ายังไงแกก็ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด เข้าใจไหม”

“อือ เราไม่บอกหรอก”

อี้เฟยพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามเธอว่าจะกินอะไรไหม เขาจะทำอาหารเช้าให้กิน หลงไม่รู้จะกินอะไรเพราะปกติก็ไม่ค่อยได้กินอะไรตอนเช้าอยู่แล้ว เมนูอาหารเช้าวันนี้จึงจบลงที่ไข่เจียวฟูๆ กับข้าวสวยร้อนๆ

“เฟยทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”

“แน่นอน ฉันนี่แม่ศรีเรือนนะยะ แกจะกินอะไรล่ะ ไทย จีน ฝรั่ง ฉันทำได้หมดแหละ”

“เก่งจัง”

ได้รับคำชมโดยไม่ได้ตั้งตัว อี้เฟยแทบทำช้อนข้าวหล่นจากมือ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้ามาอารมณ์ไหนถึงชมกันแบบนั้น ทั้งที่ปกติตีกันแทบตาย ถึงจะเป็นเขาคนเดียวที่หาเรื่องทะเลาะก็เถอะ

หลังจากกินอาหารมื้อเช้ากันเสร็จ อี้เฟยก็อาสาไปส่งหลงที่หอพัก ในระหว่างที่เขาขับรถก็เหลือบมองคู่กรณีไปด้วย

ตอนแรกเขาคิดว่าหลงจะโวยวายร้องไห้เป็นเผาเต่า แต่คนคนนั้นกลับกลายเป็นเขาเสียเอง หลงนิ่งเงียบทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ได้อย่างไรกัน

แต่ก็ดีแล้ว จะได้ตัดจบปัญหาไป เพราะเขากับหลงไม่ได้รักกันเสียหน่อย แค่ได้กันคืนเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

“แกอยู่ที่นี่จริงดิ”

“ทำไม”

“มันดูแบบ...ไม่น่าปลอดภัย”

หอพักที่หลงเช่าอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของอี้เฟยมากนัก หากแต่ตัวอาคารค่อนข้างเก่า สีบนกำแพงลอกเป็นจุดๆ แต่สำหรับหลงที่อยู่มาจะครบสามปีแล้วยืนยันเลยว่าข้างในสวยกว่าข้างนอกเยอะ

“คิดมาก”

“ฉันก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้า”

“เราไปก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่ง”

เหมือนหลงจะไม่ได้ฟังอะไร หยิบสัมภาระตัวเองแล้วก็ลงจากรถไปเลย ปล่อยให้อี้เฟยนั่งทำหน้างงอยู่ในรถคนเดียว ดวงตาคู่คมมองตามร่างบางจนหายลับเข้าไปในตึก

หลงเป็นคนอย่างไรกันแน่นะ…

ฟึ่บ!

หลงเลื่อนผ้าม่านปิดบังแสงแดดที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดสนิทแม้จะเป็นตอนกลางวัน ร่างบางล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า เอื้อมมือกดเปิดโพรเจกเตอร์ที่กัดฟันซื้อมาในราคาแพงลิบลิ่วเพื่อเปิดดูสารคดีเรื่องโปรด พลันก็ปรากฏภาพที่หน้าจอ

แสงดาวกะพริบวิบวับคล้ายอัญมณีประดับอยู่บนพื้นที่เรียกว่าจักรวาล พร่างพราวงดงามหลากสีสัน ราวกับมีใครเอากากเพชรมาโรยไว้บนกระดาษสีดำสนิท

‘มุ่งหน้าไปทางกลุ่มดาวแพะทะเล พื้นที่มืดมิดที่มีดาวเคราะห์ดวงใหญ่ล่องลอยอยู่เพียงลำพัง โคจรไปรอบๆ ใจกลางดาราจักรอย่างเดียวดาย ไม่มีแสงสว่างจากดาวฤกษ์ดวงไหนคอยสาดแสงส่องสว่างให้แก่มัน’

ภาพของดาราจักรเปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นเพียงผืนผ้ากระดำกระด่าง ก็ปรากฏดวงดาวทรงกลมสีส้มสวยสดใสลอยคว้างอยู่อย่างโดดเดี่ยว

‘ดาวเคราะห์ดวงนี้ถือว่าเป็นดาวเคราะห์ที่เพิ่งจะเกิดมาไม่นานนัก เพียงแค่สิบสองล้านปีแสงเท่านั้น ส่วนวิธีเกิดของมันยังเป็นข้อสงสัยของนักดาราศาสตร์อยู่จนถึงปัจจุบัน ว่ามันมาจากที่ไหน แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร’

ดาวเคราะห์แสนสวยจางหายไปจากครรลองสายตา กลายเป็นฝุ่นสีแสงนวลตากระจายไปทั่วพื้นกำแพง มันเกาะกลุ่มกันเป็นเหมือนกลุ่มหมอกควัน บ้างก็มีรูปลักษณ์ที่มองเห็นชัด บ้างก็ไร้รูปร่างกระจัดกระจายกันออกไป

‘แม้ว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะไม่มีดาวฤกษ์เป็นของมันเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้’

หยดน้ำใสค่อยๆ ก่อตัวที่หน่วยตาทั้งสอง สะท้อนภาพดวงดาวบนเอกภพระยิบระยับ ก่อนที่มันจะไหลกลิ้งลงบนแก้มจนถึงปลายคาง เสียงสะอื้นไห้คลอไปกับเสียงของผู้บรรยาย

‘นักดาราศาสตร์เชื่อว่าอาจจะมีสักดวงที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่จะมีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่สื่อสารกับมนุษย์เราได้ก็ตาม แต่ถ้ามันมีอยู่จริงๆ ก็นับว่าเป็นก้าวแรกของวงการวิทยาศาสตร์’

“ฮึก”

‘แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะเจอดาวเคราะห์ดวงนั้นเมื่อไร แล้วจะเป็นตอนไหน’

“...”

‘คล้ายๆ กับคนรักที่ไม่รู้ว่าจะหากันเจอตอนไหน ก็เลยต้องอยู่คนเดียวไปก่อน’

“...”

‘อยู่ลำพังแบบนี้ไปจนกว่าเราจะเจอกันนั่นเอง’

ท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่และไร้ที่สิ้นสุด ดวงดาวกำพร้าที่ชื่อว่า ‘หลง’ ลอยเคว้งคว้างเพียงลำพังใจกลางทะเลแห่งดวงดาว

มันทั้งมืดมิดและไร้ซึ่งแสงสว่าง ไร้ซึ่งความน่าสนใจ หมุนโคจรไปรอบๆ ตัวมันท่ามกลางเอกภพอันว่างเปล่า


 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น