0

บทนำ


บทนำ

 

“ถ้าต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ผมขอตายดีกว่า”

เสียงทุ้มต่ำสั่นเครือถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักลึกของชายวัยยี่สิบเจ็ดปี ซึ่งบัดนี้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นของโถงกลางในบ้านไม้หลังใหญ่ ใบหน้าคล้ามคมเครียดจัดจนเส้นเลือดข้างขมับปูดโปน แท้จริงแล้วมันคือความโกรธอย่างรุนแรง เขาต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มตัวเองไม่ให้ลุกไปบีบคอเด็กสาววัยแรกรุ่นที่นั่งน้ำตานองหน้าอยู่ไม่ห่างให้ตายคามือ

ใบหน้าอ่อนวัยของเด็กสาวอายุสิบเจ็ดปีโศกเศร้าเสียใจ ทว่าอาทิตย์รู้ดีว่านั่นเป็นแค่การแสดงละครฉากหนึ่งเท่านั้น

“อาทิตย์!”

เสียงตวาดดังลั่นทำเอาบรรดาบริวารทั้งชายหญิงพากันสะดุ้งโหยง แม้แต่นายหญิงแห่งไร่ตะวันฉายอย่างทับทิมก็พลอยผวาไปด้วย เห็นจะมีก็แต่เจ้าของชื่อนั้นเองที่ยังคงเฉยชาต่ออารมณ์เกรี้ยวกราดของผู้เป็นบิดา แม้แต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็ไม่ได้วูบไหวแม้สักน้อย

“ผมกล้าทำกล้ารับ แต่อะไรที่ไม่ได้ทำ...” อาทิตย์เลื่อนสายตาไปจับจ้องใบหน้าของเด็กสาวร่างบอบบาง ผิวขาวจัด ใบหน้าเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา มือข้างหนึ่งกำสาบเสื้อที่แยกออกจากกันไว้แน่น “...ผมไม่รับ”

“เห็นอยู่คาตาแบบนี้ยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ แกคิดว่าหนูแป้งจะกระชากเสื้อตัวเองจนขาดวิ่นแล้วไปนอนอยู่บนเตียงแกงั้นรึ”

“ใช่ครับ ไม่เชื่อพ่อก็ลองถามเธอดูสิ” อาทิตย์สวนกลับทันควัน หอบหายใจด้วยความเหนื่อยเพราะต้องระงับอารมณ์โกรธ เขากำลังจะหมดความอดทนเข้าไปทุกที

วันฟ้าใหม่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอเงยหน้ามองผ่านม่านน้ำตาซึ่งไม่รู้ว่ารินไหลด้วยเหตุอันใด เด็กสาวสรุปเอาเองว่ามันเกิดจากความกลัว เธอกลัวแต่ถอยกลับไม่ได้แล้ว ขณะที่ทุกคนมองมาอย่างเฝ้ารอคำตอบ ก็คงจะมีสายตาของครองประทีปผู้เดียวที่รอฟังความจริง ส่วนคนอื่นนั้นได้ตัดสินเธอไปแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการโกหกตอแหลของเธอ

ซึ่งมันจริง...

แต่เธอไม่ได้สนใจความคิดของคนอื่น เพราะไม่ว่าจะเป็นทับทิมมารดาของอาทิตย์ หญิงแก่ทองคำแม่บ้านของที่นี่ มะปรางคนรับใช้วัยไล่เลี่ยกับเธอ สมรคนขับรถ และอีกสองสามคนซึ่งเธอคร้านจะเอ่ยชื่อ ทุกคนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้นอกจากครองประทีปคนเดียวเท่านั้น

“คุณลุงขา แป้งนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านตั้งแต่หัวค่ำจนเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นมาอีกทีตอนที่พี่อาทิตย์กลับมาจากข้างนอก แต่ไม่ทันที่จะตั้งสติ พี่อาทิตย์ก็ตรงมากระชากแป้งลงจากม้านั่ง แป้งตกใจจะร้องให้คนช่วย พี่อาทิตย์ก็ใช้มือปิดปากจนแป้งร้องไม่ออก พยายามดิ้นแต่ก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกลากเข้าไปในห้อง...” เล่าถึงแค่นี้น้ำตาก็ไหลอีกระลอกราวกับสั่งได้ เธอร้องไห้ออกมาอย่างที่คนฟังต้องจินตนาการต่อเอาเองว่าเกิดอะไรขึ้นนับจากนั้น

ครองประทีปรับฟังอย่างสุขุม ขณะที่ทับทิมยกมือปิดปากเพราะกลัวว่าจะมีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

“อย่าตอแหล!” อาทิตย์ตวาดกลับไปด้วยถ้อยคำที่เขามั่นใจว่าตลอดยี่สิบเจ็ดไม่เคยเล็ดลอดจากปากเขา แต่เส้นความอดทนที่พยายามระงับมาร่วมชั่วโมงได้ขาดผึงลงแล้ว “พูดความจริงออกไป ไม่อย่างนั้นเธอก็เตรียมตัวตายได้เลย”

“ไม่มีความจำเป็นที่น้องจะโกหก เรื่องเสียหายแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะอยากให้เกิดขึ้น พ่อจะไม่ถามว่าแกทำอะไรชั่วๆ หลังจากนั้นไปบ้าง เพราะไม่ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นหรือไม่ แกก็ต้องแต่งงานกับหนูแป้งอยู่ดี มันแค่เร็วขึ้นเท่านั้น”

“ผมไม่แต่ง”

“แกต้องแต่ง” ครองประทีปสวนกลับไปทันควันเช่นกัน

“คุณคะ ฟังลูกบ้างเถอะค่ะ เขาเป็นลูกของเรานะคะ” ทับทิมทนฟังไม่ไหว แม้เธอจะเป็นหญิงที่เชื่อฟังสามีมากเพียงใด แต่หนนี้คงยอมไม่ได้ “ลูกของเรา เราเลี้ยงแกมาตั้งแต่เล็ก ลูกไม่เคยโกหกสักครั้ง กับคนอื่นที่ไม่รู้นิสัยใจคอคุณกลับเชื่อ ทำแบบนี้เท่ากับว่าคุณกำลังทำร้ายลูก”

“คุณทับทิม คุณไม่เห็นสภาพหนูแป้งหรือว่าน่าสงสารแค่ไหน ถ้าแกเป็นลูกสาวเรา คุณจะทนเห็นภาพแบบนี้ได้อยู่ไหม”

“หึ คงทนไม่ได้ตั้งแต่รู้ว่ามีลูกใจแตกแล้วละค่ะ” ทับทิมเลื่อนสายตามามองเด็กสาวจอมลวงโลกอย่างรังเกียจเดียดฉันท์

“คุณทับทิม!” ครองประทีปตวาดดังลั่น ตัวสั่นเทา

บ้านทั้งหลังที่เงียบสงัดอยู่แล้วยิ่งเงียบลงกว่าเดิม ไม่มีแม้แต่เสียงแมลงที่เคยร้องระงม ราวพวกมันรู้ว่าบ้านหลังนี้กำลังจะระเบิดเป็นจุณด้วยไฟแห่งโทสะที่ลุกท่วม

ใครๆ ก็รู้สึกกันทั้งนั้นว่านับตั้งแต่ที่วันฟ้าใหม่เหยียบย่างเข้ามาในไร่ตะวันฉาย ความหายนะก็มาเยือน บ้านสุริยะสกุลที่เคยมีแต่ความสงบสุขต้องร้อนเป็นไฟ

สมรกับทองคำหันไปสบตากัน พูดไม่ออก อยู่บ้านหลังนี้มาร่วมยี่สิบปี ไม่เคยมีสักครั้งที่คนในบ้านจะทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรง แค่เถียงให้ได้ยินยังไม่เคย ครอบครัวอบอุ่นต้องเกิดรอยร้าวก็เพราะผู้หญิงที่ชื่อวันฟ้าใหม่คนเดียว

“ผมไม่แต่ง” อาทิตย์ยืนกราน

เพราะบุญคุณอันท่วมหัว ครอบครัวของเขาจึงต้องยอมรับวันฟ้าใหม่มาอยู่ในบ้าน แต่หากจะต้องให้เขาแต่งงานเพื่อตอบแทนบุญคุณมันก็ออกจะมากเกินไป แค่รับรู้ข้อตกลงวันแรกเขาก็รู้สึกมวนท้อง พะอืดพะอมแทบแย่เพราะไม่รู้ว่าพ่อของเขากับธราเทพไปเอาความคิดโบราณเต่าล้านปีเช่นนี้มาจากไหน ทั้งที่เขามั่นใจว่าครองประทีปไม่ดูละครหลังข่าว แต่เหตุใดบิดาจึงยอมรับข้อเสนอน่ารังเกียจนั้น ยิ่งพอได้เห็นหน้าของว่าที่เจ้าสาว ความรู้สึกที่บอกว่ามวนท้องนั้นยังน้อยไป

เธอเด็ก!

อายุแค่สิบห้าเท่านั้น รูปร่างผอมบางไร้ส่วนโค้งเว้า ตาใส ผมสั้นเลยติ่งหูมานิดเดียว

เด็กมากเกินไป…มากเสียจนเขาไม่สามารถคิดเรื่องทำนองนั้นกับเธอได้ ต่อให้เธอมาเปลือยกายอยู่ตรงหน้า

 

สองชั่วโมงก่อน...

อาทิตย์ทุ่มตัวลงบนที่นอน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำสมองเขาหนักอึ้งจนแทบทรงตัวไม่อยู่ พอเห็นเตียงจึงพุ่งตัวลงไปอย่างรวดเร็ว...เขาต้องการนอนเดี๋ยวนี้ ทว่าสมองยังไม่ทันปิดสวิตช์ การเคลื่อนไหวช้าๆ จากทิศทางของประตูก็ทำให้เขาลืมตาขึ้น แต่หัวยังไม่สามารถผงกขึ้นจากหมอนได้ราวกับว่ามีแรงดึงดูดมหาศาล

‘พี่อาทิตย์’

เสียงอ่อนหวานสั่นน้อยๆ เช่นนี้เขาจำได้ดี วันฟ้าใหม่เข้ามาในห้องเขาอีกแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่เท่าไร ห้าหรือหกเขาจำไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าทุกครั้งเขาต้องต่อว่าและไล่ตะเพิดเธอออกไป

แต่ครั้งนี้ทำไมไม่ได้...

แม้แต่จะขยับเปลือกตาให้กว้างขึ้นยังยากเย็น ฉะนั้นเขาจึงทำได้แค่นอนนิ่งๆ ฟังเสียงการเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบที่กำลังใกล้เข้ามาทุกทีๆ

ไอร้อนถูกส่งมาจากนิ้วเรียวที่สัมผัสแผ่วเบาที่ต้นแขน นิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเคลื่อนไหวไปตามเส้นชีพจร มันดูเงอะงะน่ารำคาญจนเขาอยากจะปัดมือนั้นออก ทว่าร่างกายเขาเหมือนมีแขนขางอกออกมาข้างละสิบ จะยกมือสักข้างก็ทำไม่ได้ เจ้าของร่างหนาเหมือนยักษ์กลั้นใจขยับตัวพลิกหงายหวังให้ความมึนงงนั้นสิ้นไป ดวงตาพร่าเลือนเพ่งมองภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า เธอกำลังทำบางอย่างอยู่เหนือร่างของเขา ชายหนุ่มใช้มือปัดสะเปะสะปะหวังให้ร่างนั้นออกไปพ้นตัว

‘พี่อาทิตย์ แป้งจะเป็นของพี่อาทิตย์คนเดียว’

น้ำเสียงอ่อนหวานปลุกให้สติสัมปชัญญะที่มีเพียงน้อยนิดทำงาน อาทิตย์เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง แสงสีส้มสว่างจ้าจนเขาต้องหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ก่อนภาพทุกอย่างจะชัดขึ้น

วันฟ้าใหม่ยืนตระหง่านอยู่ที่ปลายเตียง

‘แป้ง ออกไปจากห้องพี่ ออกไป’ เขาผลักเธอ แต่เรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน เธอยังเพียรพยายามขยับเข้ามาใกล้จนกลิ่นน้ำหอมจากเรือนกายสาวเตะจมูก มันผสมปนเปกับกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเขา ชวนให้คลื่นเหียน

‘แป้งรักพี่นะคะ’

‘พี่ไม่ได้รักเรา ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากเจ็บตัว’

‘ทำไมล่ะ ยังไงแป้งก็ต้องเป็นเจ้าสาวของพี่’

‘ออกไป!’ อาทิตย์ยืนยันเสียงแข็งขั้น ดวงตาพร่าเลือนเริ่มมองภาพทุกอย่างชัดขึ้น เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะตั้งสติ ‘ออกไปให้พ้น’

ชายหนุ่มออกแรงผลักอีกครั้ง คราวนี้ร่างบางหงายหลังจนร่วงจากเตียงหล่นกระแทกพื้นเสียงดังตุ้บ!

‘โอ๊ย!’

วันฟ้าใหม่ร้องเสียงหลง เธอหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก ดวงตากลมโตมองคนบนเตียงอย่างแค้นเคือง อารมณ์โมโหกระตุ้นให้เธอทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด

มือเล็กกระตุกสาบเสื้อชุดนอนจนกระดุมร่วงกราว อาทิตย์ตะลึงกับการกระทำของเด็กสาวจนตาค้าง กายสาวนวลเนียนเมื่อสาบเสื้อถูกกระชากออกด้วยฝีมือของเจ้าตัว บราสีดำขับผิวขาวให้เปล่งปลั่งกระทบดวงตาพร่ามัว

‘พี่อาทิตย์เห็นหรือยัง ว่าแป้งก็มีทุกอย่างเหมือนกับผู้หญิงที่พี่ชอบ’

‘สารเลว ออกไปให้พ้น ต่อให้แก้ผ้าจนไม่เหลือสักชิ้นเดียวฉันก็ไม่มีวันพิศวาสเธอ’

เขาตวาดเสียงดังขึ้น ทว่าเธอหาได้เกรงกลัวไม่ วันฟ้าใหม่ก้าวขึ้นเตียงไปหาร่างสูงใหญ่นั่น อาทิตย์พลิกร่างที่อยู่บนตัวให้นอนราบกับที่นอน กดเธอไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวหรือคิดทำอะไรๆ ได้อีก ทว่าเขาไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนั้นยิ่งเป็นการเปิดทางให้เขาเดินลงไปสู่นรก

ผลัวะ!

ประตูไม้แบบบานคู่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับแสงสว่างจ้า ใบหน้าเครียดจัดของครองประทีปเหมือนน้ำเย็นจัดราดรดลงมาบนหัว อาทิตย์สร่างเมาทันทีทันใด

 

ภาพที่ครองประทีปเข้ามาเห็นคืออาทิตย์กำลังกดร่างเกือบเปลือยของวันฟ้าใหม่ไว้กับเตียง และเธอกำลังร้องไห้อย่างน่าเวทนา

แค่คิดใจเขาก็เต้นรัวด้วยความเกลียดชัง พานให้ปวดศีรษะประหนึ่งว่าจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ตกค้างบวกกับความเครียดอย่างมหาศาลที่บิดาดูเหมือนจะไม่ฟังความใดจากเขา

“ไม่ต้องร้องนะลูก” ครองประทีปหันไปบอกกับวันฟ้าใหม่ที่ยังนั่งร้องไห้ไม่หยุด “ลุงจะจัดงานแต่งงานให้หนูเดือนหน้านี้เลย ลุงจะให้พี่เขารับผิดชอบ”

“ฝันไปก่อนก็แล้วกัน อย่าหวังว่าจะใช้วิธีนี้บังคับฉัน” อาทิตย์ลุกพรวด ก้าวเท้าฉับๆ ออกจากบ้านไป เสียงเรียกของทั้งพ่อทั้งแม่ดังไล่หลัง แต่โสตประสาทเขาไม่รับฟังถ้อยคำใดอีก ชายหนุ่มโกรธจัดจนหัวแทบลุกเป็นไฟ

ไม่กี่นาทีจากนั้น รถยนต์อเนกประสงค์ก็แล่นออกจากบ้าน เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ค่อยๆ ห่างออกไปจนเหลือเพียงความเงียบในที่สุด

วันฟ้าใหม่ก้มหน้างุด รู้ดีว่านอกจากครองประทีปแล้ว ทุกคนกำลังมองเธอด้วยสายตาเกลียดชัง

เธอไม่สนใจ

เธอต้องไม่สนใจ

 

รถทะยานฝ่าความมืดไปข้างหน้า มุ่งเข้าตัวเมือง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเกิดไป แต่สิ่งเดียวที่อาทิตย์ไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นคืองานแต่งงานของเขาและวันฟ้าใหม่

ชายหนุ่มคั่งแค้นจนแทบหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอัดอั้น เรื่องบัดซบเฮงซวยนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับเขา ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเด็กนรกอย่างวันฟ้าใหม่คนเดียว

‘เทอมหน้าก็จบ ม. หกแล้ว หนูวางแผนจะเรียนต่อที่ไหนไว้ยังไงบ้าง’

ครองประทีปถามขึ้นกลางโต๊ะอาหาร วันฟ้าใหม่อยู่ในความอุปการะของบิดาเขามาสองปีกว่าแล้ว พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตในวันเดียวกัน แต่เหตุการณ์เป็นอย่างไรนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจ บิดาของเขาเองก็บอกแต่เพียงว่าเธอน่าสงสาร และท่านก็รักเธอเหมือนหลานคนหนึ่ง

ใช่! ชะตากรรมของเธอน่าสงสารที่ต้องมาเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันในคราวเดียว ญาติพี่น้องก็ไม่มี ทำให้ต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านเขา แต่อาทิตย์ไม่ค่อยสนิทสนมกับเด็กสาวมากนัก เพราะข้อตกลงของผู้ใหญ่เรื่องการแต่งงานระหว่างเขากับเธอ แรกทีเดียวเขาตั้งใจจะหาช่องทางคุยกับเธอด้วยคิดว่าเด็กสาวก็คงไม่เต็มใจแต่งงานกับเขาเช่นกัน แต่พอได้พบกันไม่กี่ครั้ง ไม่ทันได้สนิทสนมเธอก็แสดงท่าทีปลื้มเขาหนักหนา และแสดงออกถึงการยอมรับการเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาอย่างออกนอกหน้า

‘แป้งไม่เรียนต่อแล้วค่ะ’

ไม่ใช่แค่ครองประทีปที่เงียบไป แต่ทับทิมและอาทิตย์ก็พลอยต้องหยุดรับประทานอาหารเพื่อหันมามองหน้าคนพูด

‘ถึงเรียนไป สุดท้ายก็ต้องกลับมาช่วยพี่อาทิตย์ดูแลที่นี่อยู่ดี แป้งเลยคิดว่าเรียนจบ ม. หกก็จะแต่งงานกับพี่อาทิตย์เลย’

‘ลุงว่าหนูเรียนต่อเถอะนะ ถึงจะเป็นชาวไร่ก็จำเป็นต้องมีความรู้มากๆ’

‘ไม่ค่ะคุณลุง แป้งขี้เกียจเรียน อีกอย่าง…ไปเรียนตั้งสี่ปี พี่อาทิตย์จะรอแป้งไหวหรือคะ พี่พนิตนันท์ก็เทียวไปเทียวมาเหมือนไม่รู้ว่าผู้ชายเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ’

กิริยาลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไร้ยางอายของเธอทำเอาคนฟังหน้าชาไปเป็นแถบๆ อาทิตย์หันไปเห็นสีหน้าของมารดาก็รับรู้ถึงความเกลียดชัง คงจะมีเพียงบิดาของเขาที่พยายามมองข้ามอุปนิสัยร้ายกาจเกินเด็กอายุสิบเจ็ดอย่างเธอ

อาทิตย์ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป อันที่จริงเขาไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานระหว่างเขากับวันฟ้าใหม่เลยมากกว่า เพราะเกรงว่ามันจะกลายเป็นการผูกมัดตัวเองในภายภาคหน้า ซึ่งเขาไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่

‘คงไม่ได้หรอกหนูแป้ง อนาคตลูกชายของฉันจะได้เป็นเจ้าของที่นี่ เป็นนายใหญ่ของไร่ตะวันฉาย มีผู้คนนับหน้าถือตาไม่ต่างจากพ่อของเขา ใครเขารู้ว่ามีเมียความรู้แค่ ม. หกคงได้อายเขาไปทั่ว เป็นเมียของนายอาทิตย์ อย่าว่าแต่ปริญญาตรีเลย อย่างน้อยก็ต้องจบโทขึ้นไปถึงจะมีหน้ามีตาเทียบกันได้ หรือหนูอยากจะเป็นแค่เมียก้นครัวกันล่ะ’

ทับทิมบอกออกไปหวังตัดปัญหา อย่างน้อยมันก็ยืดเวลาได้อีกสี่ปี ถึงตอนนั้นคงหาทางแก้ไขอะไรได้ หัวเด็ดตีนขาดนางก็ไม่มีวันยอมรับเด็กสาวผู้นี้มาเป็นลูกสะใภ้

วันฟ้าใหม่เงียบไป แต่แววตาแข็งกระด้างนั้นบอกชัดว่าเธอไม่ได้คล้อยตามคำพูดของหญิงสูงวัยเหมือนคนหัวอ่อน แต่สิ่งที่คนอื่นไม่รู้และดูไม่ออกคือในหัวเธอได้คิดแผนการทั้งหมดเอาไว้แล้ว

และมันก็ออกมาในรูปการณ์นี้...

เธอหวังใช้วิธีลัดด้วยการกระทำต่ำช้าน่ารังเกียจ

นับจากนี้อาทิตย์ก็มั่นใจว่าแม้แต่หน้า...เขาก็จะไม่แลให้เสียลูกตา

ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อระบบสัญญาณบลูทูทกับลำโพงภายในห้องโดยสารของรถยนต์คู่ใจ ครู่เดียวคนปลายสายก็กดรับน้ำเสียงงัวเงีย

“ฮัลโหล มีอะไรวะ” กรกฎรับสายอย่างงุนงงเพราะเพิ่งแยกกับเพื่อนไปเมื่อช่วงสามทุ่ม

“ไอ้กฎ ฉันกำลังจะไปหา แกอย่าเพิ่งนอนนะ”

“มีเรื่องอะไรวะ”

“มีสิวะ แกรอฉันเดี๋ยว กำลังรีบไป”

“เฮ้ย! เรื่องอะไรสำคัญนักวะ ทำไมไม่มาพรุ่งนี้เช้า จากไร่ตะวันฉายมานี่แม่งโครตไกล มืดก็มืดนะโว้ย แล้วแกก็เมาไม่ใช่เหรอวะ นี่ขับมากับใคร มาคนเดียวหรือใครมาด้วยวะ อาทิตย์”

โครม!

เสียงสนั่นหวั่นไหวดังเข้ามาในโทรศัพท์ กรกฎที่คราแรกยังตื่นไม่เต็มตาถึงกับเบิกตากว้าง เขาผุดลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังแนบโทรศัพท์ไว้กับหู รอฟังเสียงจากปลายสายอย่างใจจดใจจ่อ

“อาทิตย์ เฮ้ย! เสียงอะไรวะ แกเป็นอะไรหรือเปล่าวะ เฮ้ย! ตอบสิวะ” กรกฎเรียกเพื่อนอยู่ร่วมนาที ปลายสายเงียบกริบ ความมืดมนในหัวของเขาสว่างจ้าขึ้นมาทันทีเมื่อพอจะคาดเดาเหตุการณ์บางอย่างได้ “ฉิบหายแล้ว”

 

ทับทิมมองเด็กสาวซึ่งนั่งตัวสั่นเทาอยู่ที่พื้นด้วยสายตาเดียดฉันท์ อะไรกันหนอที่หล่อหลอมให้ลูกผู้ลากมากดีมีกิริยาไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้ หากเป็นสาวอายุยี่สิบห้าสามสิบก็ยังเข้าใจว่าหล่อนผ่านโลกมามากจึงทำให้ก๋ากั่นกร้านโลก แต่นี่เพิ่งสิบเจ็ด ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ กลับมีจริตจะก้านเหมือนผ่านอะไรต่อมิอะไรมาจนเหลวแหลก ที่ผ่านมานางพยายามจะเข้าใจว่าวันฟ้าใหม่มีชะตากรรมที่โหดร้ายน่าสงสาร แต่พฤติกรรมก้าวร้าวกอปรกับจิตใจที่ฝักใฝ่ในตัวลูกชายของนางจนเกินงามนำมาซึ่งเรื่องราวเลวร้ายในวันนี้ มันก็ทำให้ความเห็นใจที่มีให้หมดสิ้นลงทันที

“สารภาพมาซะว่าเธอแอบเข้าห้องลูกชายฉัน ไปอ่อยเขาถึงบนเตียง” ทับทิมถามเสียงเย็น ไม่ไว้หน้าผู้เป็นสามี

“คุณทับทิม” ครองประทีปปราม ตั้งแต่รู้จักกันมาจนวันนี้ก็ร่วมสามสิบปี ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะได้ยินวาจาร้ายๆ เช่นนี้จากปากผู้เป็นภรรยา

“คุณก็เหมือนกันนะคะ อย่าให้ฉันต้องเหลืออด ถ้าจะบังคับลูกให้แต่งงานกับแม่นี่ เราสองคนก็ไม่ต้องมามองหน้ากันอีก”

“เราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะคุณทับทิม หนูแป้งเขามีอะไรไม่คู่ควรกับอาทิตย์ตรงไหนหรือ ฐานะชาติตระกูลก็ดี หรือคุณทับทิมรังเกียจเพราะเห็นว่าเขาไม่มีพ่อแม่”

“ฉันเหมือนคนที่มองอะไรแค่เปลือกอย่างนั้นเหรอคะ หากว่าลูกชายของฉันจะไปคว้าผู้หญิงต่ำต้อยมาเป็นเมีย ไม่มีสมบัติติดกายแม้แต่บาทเดียวฉันก็เชื่อว่าลูกตาแหลมพอที่จะเห็นอะไรดีๆ ในตัวผู้หญิงคนนั้น แต่แม่นี่ นอกจากมรดกร้อยล้านที่ติดตัวมาก็ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง”

ทับทิมกล่าวต่อหน้าวันฟ้าใหม่โดยไม่ไว้หน้า เพราะอีกฝ่ายก็ประพฤติตัวโดยไม่เห็นหัวนางมานานแล้วเหมือนกัน

“เลิกคิดซะเถอะคุณทับทิม ถึงอย่างไรอาทิตย์ก็ต้องแต่งกับหนูแป้ง คุณก็รู้ว่าเพราะอะไร”

“รู้ค่ะ ว่าต้องตอบแทนบุญคุณ แต่คนก็ตายไปแล้ว จะยึดติดอะไรกันนักหนา ห่วงคนที่ยังอยู่ก่อนดีไหม”

“คุณป้าจะผิดสัญญาเหรอคะ” วันฟ้าใหม่พูดแทรกขึ้นทันควัน น้ำเสียงกระด้างพอๆ กับแววตา

จะเรียกว่าไร้มารยาทก็คงน้อยเกินไป ทับทิมตวัดสายตามองเด็กสาวซึ่งมองมาอยู่ก่อนแล้ว แววตาก้าวร้าวนั้นทำให้นางขนลุกขนชัน

“ไม่มีมารยาท ผู้ใหญ่พูดกันก็ยังจะพูดแทรกเหมือนไม่เคยมีคนสั่งสอน”

“แล้วคุณป้าล่ะคะ คุณพ่อของแป้งมีบุญคุณต่อครอบครัวของคุณป้า ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ มีไร่ตะวันฉายอันกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ทุกวันนี้ แต่กลับคิดจะลืมบุญคุณ อกตัญญูแบบนี้...มีคนสั่งสอนหรือเปล่า”

“นี่!” ทับทิมได้ฟังก็แทบจะกระอักเลือด มือไม้สั่นเทา เหล่าคนรับใช้ที่นั่งรายล้อมอยู่ไม่ไกลหน้าซีดพอกัน

ครองประทีปตกตะลึงไปเหมือนกันที่ได้ยินวาจาเช่นนี้จากปากของเด็กสาวที่เขาเลี้ยงดูเหมือนลูกอีกคน

“หนูแป้ง อย่าพูดจาแบบนั้นลูก ขอโทษคุณป้าเขาเสีย แล้วกลับเข้าห้องไปก่อน”

วันฟ้าใหม่ก้มลงกราบขอโทษแต่โดยดี แต่หางตาก็ทันได้เห็นว่าปลายเท้านั้นถดหนีไม่รับไหว้จากเธอ

ช่างปะไร เธอเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันที่ต้องทำอะไรตั้งหลายอย่างเพียงเพื่อไม่ต้องไปจากที่นี่ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามความคาดหมาย เหตุใดอาทิตย์จึงไม่มีใจพิศวาสเธอ ถ้าเขาเลวกว่านี้สักหน่อยเธอก็คงได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขาไปแล้ว

“แป้งขอตัวก่อนนะคะ” เธอเงยหน้าขึ้นผสานสายตากับหญิงสูงวัย ในดวงตากลมโตแข็งกระด้างระคนท้าทาย

ทับทิมหน้าซีดขาวประหนึ่งถูกผีหลอก เด็กสาวตรงหน้าไม่ต่างจากวิญญาณร้ายจากขุมนรก ขืนให้อยู่ในบ้านต่อไปก็เชื่อได้เลยว่านางต้องอายุสั้นลงทุกวันเป็นแน่

หญิงวัยห้าสิบปีสูดลมหายใจเข้าลึกพลางมองตามร่างบางที่เดินหายเข้าห้องไป ใจกระหวัดคิดถึงบุตรชายที่ผลุนผลันออกจากบ้านไปด้วยความเป็นห่วง เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

กริ๊ง!

เสียงโทรศัพท์ทำเอาทับทิมที่กำลังวิตกหนักสะดุ้งโหยง นางมองตามมะปรางที่วิ่งไปรับโทรศัพท์ด้วยใจเต้นระรัว ก่อนหันมาสบตาสามีซึ่งมีสีหน้าไม่ต่างกัน

“ว่าไงล่ะมะปราง ใครโทร. มา”

นายหญิงแห่งไร่ตะวันฉายเริ่มใจคอไม่ดี เมื่อเห็นมะปรางวิ่งกลับมาทำหน้าตาตื่นตระหนก

“นายอาทิตย์ค่ะ นายอาทิตย์รถคว่ำอยู่ทางเข้าตัวอำเภอปากช่องค่ะ”

 

เสียงเอะอะโกลาหลดังขึ้น วันฟ้าใหม่ไม่ได้สนใจ เธอโยนเสื้อที่กระดุมขาดทุกเม็ดลงตะกร้าก่อนคว้าเสื้อตัวใหม่มาสวม นานเท่าไรแล้วที่เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้หัวใจ

นานเท่ากับวันที่พ่อของเธอตาย...

อันที่จริงเธอก็เบื่อโลก คร้านที่จะอยู่ต่อไปเหมือนกัน แต่เธอก็ใจไม่แข็งพอที่ฆ่าตัวตายตามไปด้วยเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ทางออก ฉะนั้นเด็กสาวจึงจำต้องอยู่บนโลกอันว่างเปล่านี้ต่อไปแม้ไม่อยากอยู่เลยก็ตาม

ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของตัวเอง เธอทำเพื่อตัวเอง เห็นแต่ตัวเอง รักแต่ตัวเอง เพราะหากไม่รักตัวเองแล้วคงจะไม่มีใครรักเธออีกแล้ว...แม้แต่พ่อที่เคยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมาตลอด

ปัง!

เสียงปืนหนึ่งนัดในวันนั้นคือมัจจุราชที่ปลิดชีพบิดาของเธอ วันฟ้าใหม่เปิดประตูเข้ามาพบกับวินาทีที่บิดาลั่นไกพอดีเหมือนถูกคำสาปจากสวรรค์ เธอต้องพบกับความเจ็บปวดจนหัวใจแทบแหลกสลาย

ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน มารดาของเธอหนีตามชายชู้ไปพร้อมกับสมบัติหลายชิ้น บิดาของเธอเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคน สุดท้ายก็เลือกหนีความเจ็บปวดด้วยการฆ่าตัวตาย

แล้วเธอเล่า...

ลูกสาวที่ธราเทพบอกว่ารักดั่งดวงใจ แต่เขากลับทิ้งไปเพราะผู้หญิงมักง่ายแค่คนเดียว ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของเธอ

กับพิมลแขนั้นเธอไม่แปลกใจเท่าใดนัก มารดาของเธอเป็นสาวเมืองกรุงผู้ลากมากดีแต่ตกอับ ตลอดชีวิตของวันฟ้าใหม่แทบไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับมารดาเนื่องจากนางจะไม่มีวันยอมปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมเพราะเอาแต่เลี้ยงลูก ภาพจำของมารดาที่วันฟ้าใหม่มีจึงเป็นแค่แผ่นหลังของร่างระหงที่ยืนหันซ้ายหันขวาอยู่หน้ากระจก หรือไม่ก็ร่างที่นอนเหยียดยาวอ่านนิตยสารความงามอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ

‘แม่’ ในความทรงจำของเธอจึงไม่เหมือนเพลง “ค่าน้ำนม” หรือเพลงใดเกี่ยวกับพระคุณแม่ที่เธอได้ยินจากรั้วโรงเรียน แม่ของวันฟ้าใหม่มีไว้ให้เธอเรียกว่า ‘แม่’ เพียงเท่านั้นจริงๆ

แล้วธราเทพทำอย่างไรน่ะหรือ เขาไม่เคยทำให้ครอบครัวมีปัญหาโดยการหยิบเอาเรื่องนี้มาทะเลาะกับภรรยาเลยสักครั้ง ต่อให้พิมลแขจะใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่สนใจลูก และบางครั้งก็หายเข้ากรุงเทพฯ เป็นสัปดาห์ ธราเทพก็ไม่เคยโกรธ พ่อของเธอใจอ่อนและใจดีเกินไป เขาเฝ้าแต่บอกตัวเองว่าต้องทำให้พิมลแขมีความสุข เพราะเชื่อหมดใจว่าพิมลแขรักเขาจึงเลือกมาลำบากกับเขาในจังหวัดที่ห่างไกลจากความเจริญทั้งที่มีตัวเลือกมากมาย พ่อของเธอเอาแต่พูดทุกวันว่าต้องเข้าใจแม่ หนูต้องเข้าใจแม่

วันฟ้าใหม่เพิ่งมาทราบแก่ใจเมื่อไม่นานมานี้ ที่แม่เลือกพ่อนั้นเพราะพ่อมีเงินมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง ทันทีที่นางพบผู้ชายที่ร่ำรวยกว่า แม้จะนานจนลูกอายุสิบห้าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ นางไปทันทีโดยไม่ลังเล แต่นั่นคงเป็นวิบากกรรม เพราะชายชู้ที่พิมลแขคิดว่าจะพานางออกจากสวนลำไยในเขตห่างไกลความเจริญคือคนชั่วที่หวังมาปอกลอกเท่านั้นเอง

น่าเศร้าระคนสมเพช สุดท้ายแม่ก็ต้องตายเพราะน้ำมือชายที่คิดว่าดีกว่าพ่อเธอ

วันที่พ่อของเธอหนีความเจ็บปวดด้วยการปลิดชีพตัวเอง เป็นวันเดียวกับวันที่แม่ของเธอถูกฆาตกรรม

มันเป็นฝันร้ายที่เธอไม่มีวันได้ตื่นอีกเลย

“หนูแป้ง เปิดประตูให้ลุงหน่อยลูก”

น้ำเสียงร้อนรนฉุดให้วันฟ้าใหม่รู้สึกตัว เธอปาดน้ำตาที่ซึมอยู่บนขอบตาทิ้ง ก่อนลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ว่าครองประทีปจะมีสีหน้าตระหนกสักเพียงใด แต่วันฟ้าใหม่ไม่คิดว่าจะมีอะไรน่าตกใจเท่ากับการที่เห็นพ่อฆ่าตัวตายต่อหน้าและรู้ว่าแม่ตายเพราะถูกฆ่าในวันเดียวกันอีกแล้ว

สิ่งที่เห็นหลังบานประตูคือครองประทีปกำลังยืนตัวสั่น ใบหน้าซีดขาว เขาแจ้งข่าวกับเธอก่อนผลุนผลันจากไป ไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงสตาร์ตรถยนต์

ไม่รู้ว่าวันฟ้าใหม่จะเรียกความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่าอย่างไร แต่มันรุนแรงมากพอจะทำให้เธอไม่สามารถยืนด้วยสองขาของตัวเองได้ เด็กสาวทรุดร่างลงกับพื้น ก่อนน้ำตาที่ไม่เคยรินไหลตลอดสองปีจะทะลักออกมา

หัวใจดวงน้อยที่ด้านชากับทุกสิ่งกระตุกอย่างรุนแรง

‘ตาอาทิตย์รถคว่ำอาการสาหัส ลุงจะไปโรงพยาบาล’

 

วันฟ้าใหม่ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เธอนั่งรอการกลับมาของครองประทีปและคนอื่นๆ ด้วยใจไม่เป็นสุข ไม่กล้าโทร. ถามอาการของเขากับใครเพราะรู้ดีว่าคงไม่มีใครเต็มใจรับสายเธอ แม้แต่ครองประทีปที่เอ็นดูเธอมากที่สุดก็อาจจะไม่อยากเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ

เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้อาทิตย์ประสบอุบัติเหตุ

เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หากเขาแขนขาด ขาขาด หรือสมองพิการไป เธอจะทำเช่นไร

แล้วถ้าหากว่าเขาตาย...

ดวงหน้าของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีซีดเผือด ก่อนหน้านี้เธอจินตนาการว่าตัวเองจะต้องร้าย เธอต้องแข็งแกร่ง ต้องสู้กับทุกสิ่งที่จะมาลิดรอนความสุขในชีวิตของเธอ เธอตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันอ่อนแอเหมือนพ่อ และจะทำทุกอย่างดังใจปรารถนาโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น

แต่ผลลัพธ์ของการกระทำอันไร้สามัญสำนึกของเธอส่งผลร้ายมากเกินกว่าที่เธอจะคาดคิด มันไม่คุ้มกันเลยสักนิดเดียว

เพล้ง!

แก้วน้ำกระทบกับพื้นไม้จนแตกกระจาย มันเป็นฝีมือของใครบางคนที่จงใจโยนมันมาตรงหน้าเธอ วันฟ้าใหม่ช้อนตาจากการมองเศษแก้วที่กระจัดกระจายขึ้นมองหน้าผู้กระทำ มะปรางกำลังมองเธอด้วยนัยน์ตาขุ่นคลั่ก ถ้าเป็นยามปกติเธอคงลุกขึ้นไปคว้าแก้วแบบเดียวกันมาขว้างกลับไปแล้ว แต่นาทีนี้เธอได้แต่นั่งเฉย ไร้เรี่ยวแรงตอบโต้ใดๆ

“นังปราง เอ็งทำอะไรของเอ็งหา แค่นี้ยังปวดกระบาลกันไม่พอหรือถึงได้ทำให้มีเรื่อง” ทองคำชะโงกหน้าออกมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงเดินมาเอ็ดชุดใหญ่

“ฉันเหลืออดจริงๆ ป้า อีผู้หญิงใจแตก อยากจะมีผัวจนตัวสั่น เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้นายอาทิตย์ต้องรถคว่ำ ไม่รู้ว่านรกส่งมาเกิดหรืออะไรถึงได้เลวขนาดนี้”

“มันไม่ใช่กงการของเอ็งที่จะต้องมาตัดสิน รอให้นายใหญ่กับนายหญิงกลับมาก่อน เชื่อเถอะ...ใครบางคนมันต้องกระเด็นออกจากไร่แน่ๆ”

วันฟ้าใหม่เม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง สิ่งที่ทองคำพูดคือสิ่งที่เธอคิดอยู่เช่นเดียวกัน ครองประทีปคงทนเห็นหน้าเธอต่อไปไม่ได้ หรือถ้าได้ เธอก็ทนกับความรู้สึกผิดไม่ไหวเช่นกัน แต่นั่นแหละ...ถ้าเธอมีที่ไปก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก

อย่างไรก็ช่าง ขอแค่อาทิตย์ปลอดภัย เธอจะยอมรับโทษทัณฑ์ทุกอย่างแม้จะหนักหนาเพียงใดก็ตาม

“ป้า ฉันกลัวจริงๆ นะ เห็นพี่แสบบอกว่ารถนายอาทิตย์พังยับ ดูเผินๆ ไม่น่ารอด” มะปรางน้ำตาร่วง หันไปกอดกับทองคำ

วันฟ้าใหม่ฟังแล้วหัวใจก็พลันหล่นหายจากอก ใบหน้าซีดเซียวยิ่งซีดหนักเข้าไปใหญ่ เธอมองสีหน้าของทองคำและมะปรางก็เห็นถึงประกายความโศกเศร้า...ประหนึ่งว่าอาทิตย์อาจจะไม่รอดเสียแล้ว

เธอทนกับความรู้สึกผิดต่อไปอีกไม่ไหวจึงหันหลังตั้งใจจะเดินกลับเข้าห้อง แต่จังหวะเดียวกันนั้นเสียงรถยนต์ที่คุ้นหูก็แล่นเข้ามาจอดหน้าเรือนไม้

วันฟ้าใหม่กลืนก้อนสะอื้นลงไปในอก ชะโงกหน้าไปมองก็เห็นนายแสบกำลังกุลีกุจอเปิดประตูให้เจ้านาย แต่ผู้ที่นั่งข้างคนขับไม่รอ เขาเปิดประตูออกมาก่อนแล้วรีบจ้ำอ้าวขึ้นบ้าน

เธอมองจนแน่ใจว่าผู้ที่กลับมามีเพียงครองประทีปคนเดียว ใจที่สั่นไหวด้วยความกลัวก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ทับทิมไม่กลับมาด้วยก็แสดงว่าอาการของอาทิตย์ยังน่าเป็นห่วง

“คุณลุงคะ” เธอรีบเดินไปดักหน้าชายสูงวัยไว้ เมื่อเห็นว่าเขาตั้งท่าจะเดินเลี่ยงเข้าบ้านไปอย่างเร่งรีบ “พี่อาทิตย์เป็นยังไงบ้างคะ”

เป็นดังคาด ครองประทีปไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ

“ยังไม่พ้นขีดอันตราย ร่างกายภายนอกไม่มีบาดแผล แต่กระดูกหักหลายท่อน ซี่โครงหักทิ่มปอด สมองได้รับความกระทบกระเทือน คงต้องรอให้ฟื้นก่อนถึงจะแน่ใจได้ว่ามีผลต่อความทรงจำหรือไม่ ถ้าหากเขาฟื้นน่ะนะ”

วันฟ้าใหม่อดทนกักเก็บน้ำตาไม่ได้อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมาอย่างคนหัวใจสลาย

“คุณลุงคะ แป้งขอโทษ” เธอพนมมือไหว้ผู้ที่เธอเรียกว่าลุงทั้งน้ำตา “เพราะแป้งคนเดียว แป้งทำให้พี่อาทิตย์ต้องเป็นแบบนี้”

“จะเป็นความผิดหนูไปได้อย่างไร อาทิตย์มันยอมรับความผิดตัวเองไม่ได้แล้วขับรถหนีออกไปเอง กรรมของมันแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาบ่งบอกว่าคนพูดอิดโรยมากเพียงใด ลูกชายเพียงคนเดียวได้รับบาดเจ็บเพียงนี้ คนเป็นพ่อจะไม่รู้สึกอะไรเลยได้อย่างไร

“ไม่ใช่หรอกค่ะ แป้งเอง แป้งเป็นคนเข้าห้องพี่อาทิตย์เองค่ะ พี่อาทิตย์ไม่ได้ทำอะไรแป้ง แป้งสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมดเอง”

คำสารภาพของวันฟ้าใหม่ไม่ได้ทำให้ครองประทีปตกใจแม้แต่นิด ทว่ามันกลับกลายเป็นความเย็นชาที่เคลือบหัวใจชายสูงวัยไว้อย่างรวดเร็ว ลึกๆ แล้วเขามั่นใจว่าลูกชายของเขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นลูกผู้ชายที่ไม่มีทางข่มเหงผู้หญิงที่ไม่เต็มใจ ต่อให้ขาดสติสักเพียงใดก็

ตาม และถึงแม้จะทำจริงๆ เพราะขาดสติจากการดื่ม แต่เมื่อได้สติแล้วเขาเชื่อว่าลูกชายจะกล้ารับผลของการกระทำของตัวเองเสมอ ทว่าที่เขาต้องพูดเข้าข้างวันฟ้าใหม่นั้นก็ด้วยเหตุผลสองประการ

ประการแรกคือความสงสารในชะตากรรมของวันฟ้าใหม่ สิ่งที่เธอต้องพบเจอในวัยเพียงแค่สิบห้าปีนั้นเลวร้ายอย่างที่คงไม่มีใครรับได้ง่ายๆ เขาจึงอยากทำทุกอย่างเพื่อให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง แล้วเขาก็พบว่าลูกชายของตนนั่นเองคือรอยยิ้มของเด็กสาว

ประการที่สอง...ไม่ว่าอย่างไรอาทิตย์ก็ต้องแต่งงานกับวันฟ้าใหม่ หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นคำขอสุดท้ายของผู้มีพระคุณ ครองประทีปจึงยอมหลับหูหลับตาเชื่อในสิ่งที่เด็กสาวกุขึ้นมาเพื่อให้การแต่งงานเกิดขึ้น แต่เขาลืมนึกถึงความรู้สึกของอาทิตย์ไป คนที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักคงไม่ต่างจากถูกผลักให้ลงขุมนรก

คิดมาถึงตรงนี้ คงไม่ใช่แค่วันฟ้าใหม่เสียแล้วที่เป็นฝ่ายผิด

ครองประทีปเอื้อมมือไปแตะไหล่บอบบางของเด็กสาว ส่งแววตาเอื้ออาทร

“ไม่ต้องร้องไห้ ลุงเองก็ผิด ผิดกว่าหนูหลายเท่านัก” เขาตบบ่าที่สั่นเพราะแรงสะอื้นเบาๆ “ไปเถอะ ไปพักผ่อนเสีย ลุงจะเอาของไปให้ป้าทับทิมที่โรงพยาบาล คงต้องอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน”

“คุณลุงให้แป้งไปเฝ้าพี่อาทิตย์นะคะ คุณป้าจะได้กลับมาพักผ่อน”

“อย่าเลย ถ้าหนูอยากจะช่วย ก็ช่วยอย่าไปเยี่ยมอาทิตย์มันเลย”

ครั้งแรกที่ครองประทีปพูดออกไปโดยไม่รักษาน้ำใจอีกฝ่าย แต่วันฟ้าใหม่ดูออกว่าอีกฝ่ายนั้นลำบากใจไม่น้อย

“ญาติๆ ของคุณลุงคงจะไม่พอใจ เขารู้ใช่มั้ยคะว่าเกิดอะไรขึ้น” วันฟ้าใหม่เป็นเด็ก ม. ปลาย ที่ค่อนข้างฉลาดเกินวัย เรื่องบางเรื่องที่เด็กทั่วไปคาดไม่ถึง เธอมักจะคาดเดาไปก่อนได้ถูกเสมอ

หนนี้ก็เช่นกัน...

ครองประทีปไม่ตอบ นั่นแหละ...คือคำตอบ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น