วันนี้ระพีตัดสินใจนอนที่บ้านเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมของนพเก้า หากว่าเธอยังนัดเจอผู้ชายพวกนั้นเขาจะได้เตรียมการป้องกันได้ ร่างสูงจัดที่นอนให้ตัวเองที่โซฟา ในขณะที่ภรรยาของเขาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำ และกำลังมองคนตัวสูงที่เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งด้วยความขบขัน
“พี่พีจะนอนกับเกดเหรอคะ”
“เปล่าพี่จะนอนตรงนี้”
“นั่นแหละค่ะ เกดหมายความว่าพี่พีจะนอนกับเกดที่ห้องนี้เหรอ ไม่ได้หมายความว่าพี่พีจะหลับนอนกับเกด”
อันที่จริงนพเก้ารู้ตัวนานแล้วว่าเธอเป็นคนพูดตรง ไม่ได้มีนิสัยเหนียมอายเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ที่พูดออกมาไม่ได้ก็เพราะว่าต้องเสแสร้งเป็นคนเรียบร้อย อีกอย่างที่พูดกับระพีเมื่อกี้ก็ยังถือว่าเบากว่าตอนที่เธอพูดกับเพื่อนๆ
“พี่ก็หมายความว่าอย่างนั้นแหละ...” ระพีทำท่าทีเลิ่กลั่ก
“โอเคค่ะ งั้นพี่พีก็นอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงหนีไปตอนเช้า” หญิงสาวว่าก่อนหยิบผ้าขนหนูที่พาดไหล่อยู่มาเช็ดผม ตอนนี้เรื่องของรุ้งลดาไม่ได้รบกวนใจเธอเท่าไร อะไรเกิดไปแล้วก็ช่าง เรื่องราวต่อจากนี้ต่างหากจะเป็นตัวตัดสินว่าเธอควรจะตัดใจหรือเดินหน้าต่อ
“พี่พีหันไปก่อนนะคะ เกดจะใส่เสื้อผ้า” หญิงสาวว่าก่อนจะคลายปมสายผูกบนเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วถอดเสื้อโยนลงบนเก้าอี้ข้างเตียง
ส่วนระพีนั้นแค่รู้สึกถึงการเคลื่อนกายของอีกคนในห้องกับเสียงเล็กน้อยก็ทำเอาใจเขาเต้นรัว มีผู้หญิงกำลังแก้ผ้าขณะที่เขาอยู่ในห้อง และนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีหญิงสาวเปลือยกายอยู่ แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยอีกฝ่ายถอด ซ้ำยังรู้สึกประหม่าทั้งที่ยังไม่ได้เห็นอะไรสักนิด
ยายตัวแสบ!!
ระพีได้แต่ก่นด่านพเก้าในใจ เธอตบตาคนอื่นได้อย่างไรว่าเป็นคนเรียบร้อย ทั้งทำตัวก๋ากั่น ปากดี ใช้เงินเป็นเบี้ย มักมาก เขาจะไปเรียกร้องเรื่องที่ถูกหลอกนี้กับใครได้ มารดาของเขาคงจะผิดหวัง ผู้คนจะต้องมองเขาอย่างสมเพชที่ภรรยามีชู้กับผู้ชายมากหน้าหลายตา เมื่อก่อนเขาคิดว่ามีแต่เรื่องความดื้อดึงของคุณหญิงรำพึงเท่านั้นแหละ ที่ทำให้เขาเครียดจนผมร่วง ตอนนี้ดูเหมือนจะมีนพเก้ามาช่วยสร้างเรื่องอีกคน
เวลาผ่านไปสักพัก ในขณะที่กำลังนอนเคลิ้มใกล้จะหลับ ระพีก็รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังลากไล้อยู่ที่ต้นแขนของเขา ก่อนจะสัมผัสได้ถึงมือของใครบางคนจับเข้าที่แขน
ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เห็นนพเก้าในชุดนอนบางเบากำลังยื่นหน้ามาใกล้ระยะไม่ถึงครึ่งคืบ ในขณะที่ระพีลืมตาขึ้นก็ไม่กล้าหายใจ เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือฝัน กระทั่งหน้าผากของนพเก้าสัมผัสกับหน้าผากของเขา
“พี่พีมีไข้นะคะ”
“หือ” เหมือนกับว่าเขาได้ยินเสียงของเธอพูดอะไรสักอย่าง
หญิงสาวผละกายออกมาแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอของชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็เดินหายไป แล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าขนหนูกับกะละมัง ก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่ม ปลดกระดุมเสื้อออกแล้วเช็ดตัวให้เขา
ผู้ชายที่เธอหลงรักมาตั้งยี่สิบกว่าปีตอนนี้เป็นสามีตามกฎหมายของเธอแล้ว แม้จะยังไม่อยากเชื่อ แต่เธอกำลังถอดเสื้อและเช็ดตัวให้เขาอยู่ การพยาบาลคนป่วยไม่ควรคิดลามก แต่หุ่นแซ่บแบบนี้ก็ทำเอานพเก้าอยากเลิกทำตัวเป็นฟลอเรนซ์ ไนติงเกล แล้วแปลงร่างเป็นเสือแทน
กว่าไข้ของระพีจะลดลงก็เป็นเวลาเกือบเช้าแล้ว โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดของนพเก้า เธอจึงอดนอนได้ พอใกล้เช้าร่างบางก็รีบล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปที่ครัว ทำข้าวต้มเป็นอาหารเช้าให้สามี ถึงตอนนี้เธอเริ่มเล็งเห็นประโยชน์ของการที่มารดาเคี่ยวเข็ญให้ทำอาหารคาวหวานแล้ว อย่างน้อยก็เอาไว้ทำให้ระพีกินตอนป่วยได้
“ให้พี่ทำให้ก็ได้นะคะ คุณไปพักผ่อนเถอะ” เสียงพี่แม่บ้านเอ่ยขึ้น หลังจากที่เธอหยิบข้าวของออกมาจากตู้เย็นเพื่อที่จะทำอาหารให้ระพี
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ข้าวต้มเอง เกดอยากทำเอง พี่น้อยไปทำงานอื่นเถอะค่ะ” นพเก้าว่า
แม่บ้านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูท่าทางคล่องแคล่วของนพเก้าแล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแม่บ้านแม่เรือน คงจะหยิบจับของพวกนี้จนชิน นานๆ ทีจะเห็นคนมีเงินที่สอนลูกสาวทำกับข้าว
หลังจากทำอาหารเช้าเสร็จ นพเก้าก็หายาลดไข้ที่อยู่ในกล่องปฐมพยาบาลมาจัดเตรียมให้ระพี รอสักพักใหญ่เธอก็เดินขึ้นไปบนห้องเพื่อจะเรียกชายหนุ่มลงมารับประทานอาหารและยา แต่พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เห็นว่าร่างสูงที่เคยนอนขดอยู่บนโซฟาตอนนี้กลับไปนอนอยู่บนเตียงแทน ร่างบางเดินไปที่เตียงแล้วเอาหลังมือแตะที่หน้าผากของเขา ก็พบว่ายังมีไข้อยู่ ถึงอย่างไรก็ต้องให้เขาลุกขึ้นมากินอาหารสักหน่อย จากนั้นค่อยกินยาแล้วนอนต่อ
“พี่พีลุกไหวไหมคะ ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน เกดเตรียมอาหารกับยาไว้ให้” หญิงสาวกระซิบถาม
ระพีค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของนพเก้าอยู่ใกล้เขาไม่ถึงคืบ กลิ่นกายหอมๆ ทำให้เขาอุ่นใจและเคลิบเคลิ้ม อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ที่มีคนคอยดูแล ชายหนุ่มค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน
ส่วนนพเก้ายืนรอเขาอยู่ด้านนอก เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาด้วยสภาพน้ำชุ่มเต็มใบหน้า เธอก็หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้เขา
“ขอบใจนะ” ระพีพูดเบาๆ
นพเก้าหน้าแดงแจ๋ คำพูดแค่นี้ก็ทำให้ใจเธอเต้นระส่ำได้ง่ายๆ สามีของเธอจะรู้ไหมนะว่าเธอคลั่งไคล้เขาขนาดนี้ แต่คงไม่รู้หรอก ถ้ารู้เขาคงไม่จินตนาการเรื่องเธอกับเพื่อนได้ขนาดนั้น
“หยุดสักวันนะคะ ถ้าไปทำงานวันนี้ไข้ไม่หายแน่” เธอโน้มน้าวเขา
“...อื้ม”
เขาพยักหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ ท่าทางของเขาดูเย็นชาไปในทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังทำหน้าซึ้งใจกับสิ่งที่เธอทำอยู่เลย หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ แล้วทำท่าจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบน
“จะไปไหน” ระพีถามอีกฝ่าย
“อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ เกดว่าจะออกไปข้างนอก”
“ไม่ต้องไป อยู่บ้านนี่แหละ พี่ไม่สบายไม่เห็นหรือไง” น้ำเสียงของเขาฟังดูอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด “หัดทำหน้าที่ภรรยาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ออกไปข้างนอก”
หญิงสาวฟังสามีบ่นแล้วไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ดูเหมือนว่าเขากำลังจะควบคุมพฤติกรรมเธออยู่ แม้ว่าเรื่องพวกนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับความจริงเลย แต่ในสายตาของระพี เธอคงเป็นภรรยาที่เหลวไหลและมักมาก จนเขาปล่อยให้อยู่นอกสายตาไม่ได้
นี่มันพลอตละครชัดๆ!!
เอาแบบนี้แหละ! ถ้ามันจะทำให้ระพีหันมามองเธอบ้าง นับว่าคำแนะนำของเพื่อนๆ ก็ยังพอใช้ได้ ส่วนเรื่องจริงค่อยอธิบายตอนหลังก็คงจะไม่เป็นไร
“แต่ว่าเกดนัดเพื่อนเอาไว้นะ” นพเก้าแสร้งเล่นตัว
“ก็ยกเลิก บอกว่าสามีไม่สบาย ถ้ามีเรื่องด่วนที่ต้องเจอให้ได้ก็ให้มาที่บ้าน”
เขามองหน้าเธอด้วยสายตาคมกริบท่าทางไม่ยอมอ่อนข้อ ทั้งที่ดีใจจนเนื้อเต้น แต่นพเก้าก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่สนใจ
“ก็ได้ค่ะ เกดจะอยู่บ้านสักวันแล้วกัน”
สีหน้าหยิ่งยโสของอีกฝ่ายทำให้ระพีพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ถ้าเขาไม่อยู่คุม เธอคงออกไปเริงร่าอยู่ข้างนอกกับคู่ขาของเธอแน่ เขาจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ใหญ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้เข้าจะต้องเป็นเรื่อง แทนที่เขาจะได้หย่ากับเธอตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ดูดีสำหรับทั้งสองฝ่าย ก็จะต้องเปลี่ยนเป็นจุดจบที่ไม่ดี เผลอๆ ทั้งสองครอบครัวอาจจะแตกหักกันก็ได้
ไม่ได้! เขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น
“แล้วต่อไปนี้พี่จะขับรถไปส่งที่โรงเรียน แล้วไปรับตอนเลิกเรียน” ชายหนุ่มว่าต่อ
นพเก้าเบิกตากว้าง...ชักไม่ดีแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วเธอจะเอาเวลาที่ไหนแวะไปซ้อมเล่นเกมเพื่อลงแข่งที่คอนโด ไอ้พวกนั้นต้องรุมประณามเธอแน่
“ไปส่งอย่างเดียวก็พอค่ะ เกดกลับเอง”
“เกดขับรถไม่เป็นไม่ใช่เหรอ”
“จะหัดขับค่ะ พูดเรื่องนี้ก็ดี เกดอยากได้รถ”
พอวกเข้าเรื่องเงินระพีก็ชะงัก เขาจำได้ว่าหมดกับเธอไปห้าสิบล้านแล้ว ถ้ารถที่เจ้าตัวเลือกเป็นรถนำเข้าสุดหรูราคาหลายสิบล้าน เขาคงต้องเตรียมขายโรงแรมสักที่แล้วล่ะ
“เอารถพี่พีก็ได้ค่ะ ที่มีอยู่สักคัน” เธอว่า
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ระหว่างที่เกดหัดขับพี่จะไปรับ”
“แต่...”
“เรื่องนี้พี่จะไม่ตามใจเกด รอขับรถให้คล่องก่อนแล้วค่อยมาต่อรอง”
ตอนนี้เขาไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด นพเก้าเริ่มอยากจะเอาอะไรสักอย่างยัดปากของสามีเอาไว้ จากตอนแรกที่อุตส่าห์ดีใจว่าเขาเริ่มหันมาสนใจเธอบ้าง แต่ดูเหมือนจะสนใจมากเกินไป แบบนี้จะต่างอะไรจากตอนที่เธอยังอยู่บ้านตัวเองกันล่ะ
“ค่ะ” ผู้เป็นภรรยาพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก
ระพีกินข้าวเช้าเสร็จก็กินยาตาม จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนอนพักบนเตียงหน้าตาเฉย ตอนแรกนพเก้าคิดว่าเขาจะรังเกียจเธอจนไม่อยากจะนอนร่วมห้องเสียอีก เมื่อเห็นว่าสามีหลับไปแล้วเธอก็รีบส่งข้อความบอกพวกเพื่อนๆ ว่าวันนี้คงไปที่คอนโดไม่ได้ แต่ดูเหมือนพวกนั้นจะไม่ได้ใส่ใจเลย คงจะนั่งเล่นกันทั้งวันไม่ยอมซ้อมแน่
ปล่อยไปสักวันก็แล้วกัน...
แต่ก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกเรื่อง ช่วงกลางวันคุณหญิงรำพึงแวะมาที่บ้านโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ทันทีที่มาถึงมารดาของระพีก็ยิ้มแก้มปริที่เห็นนพเก้ากำลังทำอาหารกลางวันให้สามีกิน
ระพีตื่นขึ้นมาตอนสาย เขานั่งดูทีวีอยู่ตอนที่มารดาของตนมา หลังจากต้องทนฟังเรื่องดีสารพัดของนพเก้าเป็นรอบที่สามร้อย ชายหนุ่มก็แอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ยิ่งเห็นนพเก้าที่พยักหน้าฟังมารดาของเขาด้วยท่าทางเงียบเชียบเรียบร้อย เขาก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา
“จริงๆ ให้พี่พีขับรถไปรับไปส่งทุกวันก็ดีแล้วนะลูก ขับเองอันตราย”
“พี่พีงานยุ่งมาก เกดไม่อยากให้ต้องมาเหนื่อยรับเกดอีกค่ะคุณแม่ อีกอย่างโรงเรียนก็ไม่ได้ไกลมาก ใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้วค่ะ”
นพเก้ายิ้มหวานให้กับแม่สามี เธอไม่ใช่คนขี้ประจบ แต่พวกผู้ใหญ่ก็มักจะเอ็นดูเสมอ อาจจะเป็นเพราะมองไปแล้วดูเรียบร้อยน่ารัก บุคลิกแบบนี้ไม่ว่าผู้ใหญ่ที่ไหนก็ต้องรู้สึกพอใจ ถึงจะรู้จุดเด่นตรงนั้นดี แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า นี่ไม่ใช่นิสัยของเธอจริงๆ ต่างหาก ถ้าวันหนึ่งคุณหญิงรำพึงรู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไร คงจะผิดหวังมากที่หาลูกสะใภ้แบบนี้ให้ลูกชายที่เพียบพร้อมแบบระพี
“ช่วงที่ลูกเกดยังขับรถไม่แข็งพอก็จะไปส่งเองครับ แต่ถ้าให้รับส่งตลอดอาจจะไม่ได้ ผมงานยุ่ง หรือถ้าคุณแม่กลัวอันตรายผมก็ว่าจะหาคนขับรถมา...”
“ไม่ได้!” ยังไม่ทันที่ลูกชายจะพูดจบ คุณหญิงรำพึงก็ร้องเสียงหลง “นี่เมียแกนะ จะให้คนอื่นมาขับรถให้ได้ยังไง เกิดขับไม่ดีลูกเกดเป็นอันตราย หรือว่าถ้าเป็นผู้ชายแล้วฉุดน้องไปจะทำยังไง”
คำพูดของแม่สามีทำให้นพเก้าหน้าแข็งขึ้นมาทันที ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นเฮเลนแห่งทรอย สวยจนเกิดสงครามได้ เดาว่าระพีก็คงรู้สึกเหมือนกัน ถึงได้หันมามองเธอเหมือนกับเอือมระอาแบบนั้น
ตอนนี้มีอยู่สองอย่างที่จะทำให้ชายหนุ่มเกลียดเธอได้ อย่างแรกคือเรื่องเข้าใจผิดที่เธอสร้างขึ้นมาเอง ส่วนอย่างที่สองคือคำพูดยกยอของคุณหญิงรำพึง
“คุณแม่คะ เกดดูแลตัวเองได้จริงๆ ค่ะ อย่าให้พี่พีเหนื่อยเลยนะคะ” นพเก้าพยายามเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายใจเย็นลงบ้าง หากไปบังคับระพีมาก เธอกลัวว่าเขาจะยิ่งไม่ชอบการแต่งงานครั้งนี้เข้าไปใหญ่
“ดูสิดู น้องเขาดีกับแกขนาดนี้ นี่แหละผู้หญิงดีๆ ไม่ใช่แม่ม่ายลูกติดที่ไหนก็ไม่รู้”
พอคุณหญิงรำพึงพูดจบ ทั้งระพีและนพเก้าก็เบิกตากว้าง ด้วยรู้ว่าที่อีกฝ่ายพูดนั้นหมายถึงใคร
“คุณแม่!!” ระพีเสียงดังใส่มารดาทันที อีกฝ่ายก็ทำท่าโมโหบ้าง
“นี่ลูกขึ้นเสียงใส่แม่เหรอ!”
“อ๋อ เกดว่าจะชวนคุณแม่ไปร้านขนมที่เพิ่งมาเปิดใหม่พอดีเลยค่ะ” นพเก้าแทรกเข้ามา เธอกลอกตาไปมาระหว่างสองแม่ลูกก่อนที่จะจับแขนของคุณหญิงรำพึงมากอดเอาไว้อย่างออดอ้อน
“ไปนะคะคุณแม่”
เมื่อเห็นหน้าของนพเก้าแล้วคุณหญิงรำพึงก็ใจเย็นลง ใบหน้าที่เกรี้ยวกราดเมื่อสักครู่หันมายิ้มกับลูกสะใภ้คนเล็กเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขนาดระพียังอึ้งกับภาพที่เห็น
ทำไมแค่ใบหน้าที่เสแสร้งกับคำพูดที่ฟังดูไม่เข้ากับสถานการณ์ของนพเก้า ทำให้มารดาของเขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ชั่ววินาที
“พี่พีนอนพักไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเกดซื้อเค้กมาฝาก” หญิงสาวว่าก่อนจะเดินคล้องแขนไปกับมารดาของเขา หัวร่อต่อกระซิกกันราวกับเป็นแม่ลูกกันแท้ๆ นับว่าเขาประเมินความสามารถของนพเก้าต่ำไปมาก
นพเก้าออกไปซื้อขนมกับมารดาของระพีไม่นานก็รีบกลับบ้าน เธอบอกกับคุณหญิงรำพึงว่าต้องกลับไปเตรียมอาหารเตรียมยาให้สามี พอได้ยินแบบนั้นหญิงสูงวัยก็ยิ้มแก้มปริ รีบให้คนขับรถกลับไปส่งลูกสะใภ้ที่บ้าน ส่วนตนเองนั้นขอตัวกลับบ้านไปก่อนด้วยไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของสองหนุ่มสาว
“คุณแม่กลับไปแล้วเหรอ” ระพีนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว เขากำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยอยู่
ส่วนนพเก้าแทนที่จะตอบคำถามของอีกฝ่าย เธอกลับหัวเราะออกมา ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพชายในฝันกำลังกินบะหมี่ถ้วย
“ทำไมกินนั่นล่ะคะ เกดทำข้าวต้มไว้ในหม้อนี่นา”
“พี่ไม่อยากกิน”
“ทำไมคะ กลัวเกดจะใส่อะไรลงไปเหรอ” หญิงสาวถามอย่างรู้ทัน ตอนนี้ระพีคงนึกระแวงเธอไปเสียหมด จากผู้หญิงที่นอนกับผู้ชายทีเดียวหลายคนกลายเป็นมือวางยาปลุกเซ็กซ์ไปเสียแล้ว หรือไม่เขาก็อาจจะคิดว่าเธอเล่นของก็ได้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าใครๆ ก็สร้างมโนภาพได้
“พี่แค่อยากกินบะหมี่ ไม่ได้เกี่ยวกับกลัวใครจะใส่อะไรลงไป” เขาแย้งกลับ
“อ๋อๆ เข้าใจแล้วค่ะ ตามใจพี่พี ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นแล้วนะคะ”
“อื้ม ขอบใจมากที่ช่วยดูแล”
ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยเต็มใจนัก ถึงตอนนี้นพเก้ายังไม่รู้เลยว่าเธอไปทำอะไรผิดนักหนา เขาถึงทำท่าผีเข้าผีออกแบบนี้
“หายก็ดีแล้วค่ะ จะได้ไปทำงานที่พี่พีชอบทำนักหนาได้” ที่พูดแบบนี้เพราะเธอเองก็มีเรื่องที่ต้องทำเหมือนกัน ถ้าระพีกลับไปทำงานเธอจะได้มีเวลาไปสุมหัวกับเพื่อน วันหยุดสองวันของเธอต้องมาเหลือแค่วันเดียวเพราะระพี ซ้ำยังไม่ได้อะไรนอกจากคำว่า ‘ขอบใจ’
เธอไม่ได้อยากได้สักหน่อย เอาตัวมาแลกยังจะดีกว่า
คำพูดของนพเก้าฟังดูแปลกๆ แต่ระพีไม่ได้คิดจะใส่ใจถาม เขามองหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้ว่าวันพรุ่งนี้น่าจะเป็นวันหยุดของเธอ ด้วยความที่เขามักจะทำงานตลอดเวลาจึงไม่เคยใส่ใจว่าวันไหนเป็นวันหยุด ถ้าเขาไปทำงานแล้วทิ้งเธอเอาไว้ อีกฝ่ายคงไม่แคล้วเอาวันหยุดไปใช้กับผู้ชายพวกนั้นอีก
“พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าล่ะ แต่งตัวเรียบร้อยหน่อย ไปทำงานกับพี่”
จบคำพูดของระพีแล้วนพเก้าก็เบิกตาโพลง นี่เธอไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงได้รับความรักความสนใจจากสามีขนาดนี้ แต่นี่มันมากเกินการคาดการณ์ เธอต้องเจียดเวลาไปฝึกซ้อมบ้าง ถ้าพวกนั้นไม่เห็นหน้าเธอเลยก็คงเอาแต่เล่นกันเละเทะ ไม่เป็นเรื่องเป็นราวแน่
“พรุ่งนี้เกดอยากพักผ่อน”
“ที่ทำงานพี่มีที่นอนพัก”
“เกดจะทำอาหาร”
“มีครัวด้วย ถ้าจะเอาวัตถุดิบอะไรก็ให้คุณวิสาหาให้ มีอะไรอีกไหม”
ยิ่งเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของภรรยาทำให้เขารู้สึกสะใจ นพเก้าปั่นหัวเขามานาน คราวนี้ถึงคราวรับกรรมบ้าง ในเมื่อให้อิสระแล้วเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีก็ต้องควบคุม
นพเก้าเม้มปากแน่น ทำไมเธอกลายเป็นเหยื่อเฉยเลย ทั้งที่ตอนแรกกำลังทำแต้มต่ออยู่แท้ๆ
ร่างบางไม่พูดอะไรต่อ เธอเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง ก่อนจะส่งข้อความไปบอกกับพศธนเรื่องที่พรุ่งนี้ออกไปไหนไม่ได้
‘สมใจแกแล้วนี่ ผัวรักผัวหลง’
‘หลงบ้านแกสิ นี่เรียกแกล้งแล้ว แล้วยังจะไปรับไปส่งอีกนะ ฉันจะทำยังไงดีวะ’
‘คิดเอง ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ เอาไว้มาได้เมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน’
‘ไอ้เพื่อนเลว’
‘จ้าๆ’
นพเก้าเด้งกายลุกขึ้นมาด้วยความโมโห ดูเหมือนพวกนั้นกำลังเล่นสนุกกันโดยไม่ได้สนใจสักนิดว่าเธอโดนขังอยู่ที่นี่
ไหนว่าจะให้อิสระกันไง ทำไมกลายเป็นแบบนี้...
ขณะที่กำลังเดือดดาลทุกคนอยู่ในใจ หญิงสาวก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
วันรุ่งขึ้นระพีตื่นแต่เช้า ในขณะที่นพเก้าตื่นช้ากว่าเขา หลังจากที่กินอาหารเช้าที่แม่บ้านเป็นคนทำแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกว่ารสชาติจะด้อยกว่าที่ภรรยาของเขาทำอยู่นิดหน่อย ส่วนนพเก้าไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำตั้งแต่ที่เขาบอกว่าให้เธอไปทำงานด้วย แต่หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จเธอก็เอ่ยขึ้นว่า
“เดี๋ยวเกดไปแต่งตัวก่อนนะคะ”
ระพีพยักหน้า เขาอาบน้ำแต่งตัวมาแล้ว แต่เห็นนพเก้าตื่นช้าก็เลยไม่ได้เร่งอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายกินอาหารก่อน ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ดังนั้นชายหนุ่มจึงจิบกาแฟรอแล้วอ่านเอกสารเกี่ยวกับเรื่องงานฆ่าเวลารอ หลังจากผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีก็ได้ยินเสียงคนเดินลงมาจากบันได แต่พอหันไปมอง เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชุดที่ภรรยาของเขาใส่
“พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าล่ะ แต่งตัวเรียบร้อยหน่อย ไปทำงานกับพี่”
นพเก้าอยู่ในชุดเดรสสั้นตัวบางสีแดงสดที่สั้นชนิดที่ว่า ไม่ต้องมองช้อนก็เห็นไปถึงไหนต่อไหน ส่วนด้านบนนั้นก็แหวกกว้างจนเห็นอกอวบอิ่มที่เขาไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อนว่าจะมากล้นขนาดนั้น
นี่คือนพเก้าที่ไม่เหมือนนพเก้า หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาอาจจะมองว่าสวย แต่นี่มัน...
แก่แดดมาก!
“ไปเปลี่ยนชุด”
“เปลี่ยนทำไมคะ นี่เรียบร้อยที่สุดในสามโลกแล้ว”
“หรือจะให้ลากไปเปลี่ยน”
“โอเคค่ะ อุ้มเลย”
นพเก้ายกแขนทั้งสองข้างขึ้นอย่างเต็มใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นทำให้ระพีโมโหจนทำอะไรไม่ถูก
ทำไมถึงได้กลายเป็นผู้หญิงแบบนี้ไปได้ หญิงสาวที่เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ที่เขาเห็นมาตลอดชีวิตคนนั้นหายไปไหน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่รู้ว่าเธอหรือเขาที่ถูกผีสิง
ทำไมใจเขามันเต้นรัวแบบนี้ล่ะ...
ความคิดเห็น |
---|