3

ตอนที่ 3


 

3

 

เจนหันรีหันขวาง พยายามมองหารถประจำทางที่อาจจะผ่านมาทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกชั่วโมงกว่ารถคันถัดไปถึงจะมาถึง หญิงสาวมองไปยังเส้นทางที่รถออกมาจากโรงแรม พยายามมองหากลุ่มคนที่อาจจะตามมาจับตัวเธอได้ แม้รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่คนผิด แต่เธอก็อดกลัวไม่ได้

หญิงสาวตัดสินใจโบกรถที่ผ่านไปมา แต่พอนึกได้ว่ามันจะเป็นจุดสนใจ เธอจึงเริ่มเดินลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆ ในย่านชุมชนแออัด กึ่งเดินกึ่งวิ่งและมองเหลียวหลังเป็นระยะๆ คิดหาทางหนีทีไล่อย่างไม่รู้ว่าเดนนิสจะตามเธอถึงตอนไหน ต้องหนีไปอีกนานเท่าไร แต่ยังไงเธอก็ต้องหนี ไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบง่ายๆ เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด

แต่เดินยังไม่ทันพ้นตรอกเล็กๆ ด้วยซ้ำ รถยนต์ติดฟิล์มดำมืดคันหนึ่งก็ชะลอจอด ก่อนที่ประตูรถคันนั้นจะเปิดออก เธอถูกดึงตัวเข้าไปในรถรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ไม่มีเวลาแม้แต่จะร้อง เจนถูกรวบตัวเอาไว้บนตักใครสักคน ซึ่งรัดตัวเธอแน่นจนไม่สามารถดิ้นหนีได้

“เจน” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู คนที่ดิ้นอยู่ก็นิ่งราวถูกสาป “อยากรู้มากใช่ไหมว่าทำให้ผมโกรธแล้วเป็นยังไง” คำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะคนถามกำลังจะพิสูจน์ให้เธอได้รู้คำตอบในอีกไม่กี่อึดใจเท่านั้น

“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” เจนกระซิบเสียงสั่น ไม่อยากจินตนาการชะตากรรมของตัวเองเลย

“มันขึ้นอยู่กับคุณเจน ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณทั้งนั้น” เดนนิสกระซิบเสียงเข้ม ทีแรกเขานึกสนุกที่ได้แกล้งให้เธอตกใจเล่น แต่พอรู้ว่าเธอกล้าถึงขนาดหนีเขาไปหน้าตาเฉยแบบนี้ เดนนิสก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะล้อเธอเล่นอีกแล้ว

หญิงสาวตรงหน้ากล้าดีอย่างไรขัดคำสั่งเขา นึกเหรอว่าแค่วิ่งหนีแล้วจะพ้นเงื้อมมือเขาไปได้ เธอรู้จักเขาน้อยไปเสียแล้ว เพราะสำหรับเดนนิสแล้ว สิ่งใดที่เขาต้องการ ต่อให้ลงทุนกับมันจนหมดเนื้อหมดตัว เขาก็ไม่เคยลังเลที่จะทำมัน

 

รถตู้ติดฟิล์มดำคันนั้นขับมาจอดที่วิลลาส่วนตัวในโรงแรมหรูที่เจนทำงานอยู่ เธอถูกดึงลงจากรถให้เดินตามร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะยิ้มให้ใคร หญิงสาวเหลียวหลังมองผู้คนที่รายล้อมราวกับจะขอความช่วยเหลือ แต่คนเหล่านั้นกลับมีท่าทีเมินเฉย ไม่สนใจอาการขวัญเสียของเธอแม้แต่น้อย

ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกกว้าง เดนนิสลากหญิงสาวร่างบางเข้ามาหยุดที่กลางห้อง จ้องมองเธอแค่ชั่วนาทีก็ออกแรงลากเธอเดินลึกเข้าไปอีก เจนขืนตัวเมื่อเห็นว่าจุดหมายปลายทางตรงหน้าคือเตียงกว้างในห้องนอนที่กรุกระจกใสเพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ สัญชาตญาณเอาตัวรอดบอกเธอให้ระวังภัยอย่างที่สุด

“ปล่อยค่ะ” เธอดิ้น พยายามบิดข้อมือจากการเกาะกุม แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่น เจนพยายามขืนตัวเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่ในที่สุดก็สู้แรงเดนนิสไม่ไหว

“คุณเลือกเองนะเจน อย่าดีดดิ้นให้มันมากจะได้ไม่เจ็บตัว” เดนนิสบอกเสียงเหี้ยมขณะเหวี่ยงหญิงสาวขึ้นเตียง เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะลงทัณฑ์ใครสักคนด้วยบทลงโทษแสนวาบหวาม แค่เห็นท่าทีดิ้นรนขัดขืนของเธอ เขาก็ยิ่งอยากจะจับเธอมัดและจัดการละเลียดกลืนเธอลงท้อง

ความรู้สึกที่เขามีต่อหญิงสาวยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้ มันคือความรู้สึกระหว่างอยากเอาชนะกับความเสน่ห์หา

ใช่! เดนนิสยอมรับกับตัวเองว่าตั้งแต่เขาจูบเธอคราวนั้น ความรู้สึกเรียกร้องโหยหาภายในตัวเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น คล้ายกับว่าเธอเป็นสิ่งเสพติดร้ายแรงที่เพียงได้ลิ้มรสเพียงเล็กน้อยก็จะต้องแสวงหามาเสพอีกอย่างไม่รู้จักพอ

 

เจนดิ้นรนลงจากเตียงกว้าง พยายามปีนลงไปอีกทาง แต่เดนนิสเร็วกว่า เขาจัดการจับเธอเอาไว้และโถมตัวทับลงบนตัวเธอไม่ให้ดิ้นหนี จับแขนบอบบางที่ยังมีรอยแดงช้ำขึ้นมารวบไว้ ปลดเข็มขัดจากเอวออกอย่างใจร้อนเพื่อรวบมัดข้อมือน้อยเอาไว้อย่างชำนาญผูกโยงแขนสองข้างของหญิงสาวติดกับหัวเตียง

ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองสำรวจทรวดทรงอ้อนแอ้นภายใต้เสื้อยืดแบบเรียบๆ สีขาวและกางเกงยีนเข้ารูป มือใหญ่แทรกเข้าไปใต้ชายเสื้อ หญิงสาวหดตัวหนีสัมผัสหยาบหยามนั้น เดนนิสตรึงเธอเอาไว้ด้วยแววตาดุแทนการสั่งให้เธอหยุดดิ้นรนและดูเหมือนมันจะได้ผลกว่าคำสั่งไหนๆ เมื่อร่างแน่งน้อยด้านล่างหยุดการดิ้นรนขัดขืน

ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ บดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มนั้นแรงๆ ราวกับจะทำให้มันชอกช้ำในคราแรกที่จูบ ริมฝีปากอิ่มสวยนั้นยังเม้มแน่นอย่างคนไม่ยอมแพ้ เดนนิสทำเสียงเหมือนขัดใจ ใช้มือบีบปลายคางเธอไม่เบานัก ความเจ็บทำให้เจนต้องเปิดปากปล่อยให้เขารุกรานอย่างสมใจ ลิ้นเล็กของเธอหดกลับเข้าไปในปาก หลบเลี่ยงลิ้นร้อนรุกรานนั้นเป็นพัลวัน แต่สุดท้ายผู้บุกรุกก็จัดการเกาะเกี่ยวเรียวลิ้นแล้วดูดดึงแรงๆ จนหญิงสาวร้องประท้วงเสียงอู้อี้

“ถ้าไม่อยากเจ็บอีก คราวหน้าก็ทำตัวดีๆ” เดนนิสบอกพร้อมกับหยัดกายขึ้น แล้วปลดตะขอกางเกงยีนรัดรูปของหญิงสาวเตรียมรูดออกจากสะโพกผาย แต่เธอกลับใช้เท้าถีบเข้าที่อกเขาเสียเต็มแรง แม้รู้อยู่เต็มอกว่าจะทำให้เขาโกรธ แต่เธอก็เลือกที่จะทำเพื่อปกป้องตัวเอง

“เจน!” เสียงที่เดนนิสคำรามเรียกชื่อเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แววตาที่มีแววล้อเล่นเป็นนิตย์บัดนี้ดูดุดันจนหญิงสาวกลัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังฮึดสู้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางจะสู้เขาได้เลย

เดนนิสไม่สนแรงถีบของหญิงสาว เขาจับข้อเท้าเธอด้วยมือข้างหนึ่ง จัดการถอดกางเกงยีนเจ้าปัญหาออกอย่างง่ายดาย และไม่นานชั้นในตัวจิ๋วก็ปลิวหายไปพร้อมๆ กัน เจนหลับตาลงเมื่อถูกจ้องใจกลางกาย จุดลึกลับที่เธอยังไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนได้เห็น มาวันนี้ เดนนิส แลงส์ลีย์ กลับได้จ้องมองมันอย่างง่ายๆ

หนุ่มเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปากเมื่อคนพยศหยุดดิ้นทันทีที่โดนเขาลอกคราบ ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปสัมผัสกุหลาบงามที่เบ่งบานอยู่ตรงหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสเกสรสีชมพูเข้มนั้นอย่างเบามือ แรงสะท้านของหญิงสาวทำให้เขาพอใจ ไม่นานนิ้วเรียวยาวก็ค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องทางคับแคบที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เคยสำรวจ

“อื้อ เจ็บ” เจนทำหน้าเบ้เมื่อเขาแทรกนิ้วเข้าไปด้านใน เมื่อแรกที่เขาสัมผัสเพียงภายนอก เธอรู้สึกวาบหวิวแปลกๆ แต่พอเขาแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางรักคับแคบนั้น เธอก็เจ็บจนทนไม่ไหวจนต้องร้องประท้วงออกมา

“อีกหน่อยก็ไม่เจ็บแล้ว” ชายหนุ่มปลอบใจคนที่ดิ้นเร่าด้วยความทรมาน มือของเขายังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม นิ้วหนึ่งสอดแทรกชำแรกลึกเข้าไป ส่วนนิ้วหัวแม่มือก็คอยสัมผัสจุดที่ไวต่อการกระตุ้น ไม่นานช่องทางรักคับแคบนั้นก็ยืดหยุ่นและลื่นไหล

สักพักเดนนิสก็หยุดมือลง หญิงสาวที่ตอนนี้ตัวอ่อนนิ่มราวกับขี้ผึ้งลนไฟก็ปรือตาขึ้นมอง ภาพตรงหน้าทำให้เธอแทบลืมหายใจ...ชายหนุ่มยกนิ้วมือที่เคยหยอกเอินเธอขึ้นมาและใช้ปลายลิ้นชิมรสชาติของหญิงสาวตั้งแต่โคนนิ้วจนสุดปลายนิ้ว ดวงตาสีสวยของเขายังจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเธอ

เจนเบือนหน้าหนีด้วยความอายระคนตื่นเต้น เธอไม่สามารถทนดูต่อไปได้ หญิงสาวไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายหญิงจะทำอะไรกันแบบนี้ได้ด้วย

สักพักเดนนิสก็โน้มตัวลงมา ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดไปตามแนวกรามเธอ ไล่ลงมาตามซอกคอและหยุดที่หน้าอกอิ่มสวยข้างหนึ่ง เขาใช้ปากขบเม้มยอดอกผ่านเนื้อผ้า ถึงกระนั้นเจนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว สัมผัสแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนถูกกระตุ้นเร้าเมื่อเขาทำแบบเดียวกันกับอกอีกข้างจนเธอเผลอครางออกมาเบาๆ เมื่อเขาครอบครองยอดอกเธอข้างหนึ่ง เผลอหยัดตัวสูงขึ้นเพื่อให้เขาได้ชิมรสชาติได้ถนัดขึ้น

เดนนิสยิ้มให้คนหัวไว เมื่อแรกเขากะจะทำโทษให้เธอเจ็บปวด แต่เมื่อได้ยินเสียงครางหวานๆ นั่น เขากลับอยากได้ยินมันอีก มือใหญ่จัดการเลิกเสื้อเธอขึ้นแล้วถอดมันออกอย่างใจเย็น ปลดทั้งเสื้อนอกและเสื้อในไว้ที่แขนข้างหนึ่งที่ถูกพันธนาการไว้ คราวนี้เธอถูกเขาลอกคราบอย่างสมบูรณ์ เดนนิสชื่นชมร่างงามที่เขาเคยจินตนาการถึง แต่พอได้สัมผัสนวลเนื้อแท้ก็พบว่าเธอสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก

เจนหลับตาลงเมื่อหมดหนทางสู้ ร่างกายที่ดิ้นรนขัดขืนดูเหมือนจะเป็นอัมพาต หญิงสาวหรี่ตามองอีกครั้งเมื่อไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใดๆ บนร่างกาย พบเพียงแววตาจริงจังแน่วแน่ของชายหนุ่มที่จ้องเธอตาไม่กะพริบ แม้ขณะที่เขาถอดเสื้อออกก็ยังไม่ละสายตาจากเธอเลย

หญิงสาวหายใจติดขัดเมื่อมองดูหน้าท้องแบนราบที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย ไรขนสีทองแดงขึ้นปกคลุมแผงอกและท้องแกร่ง และค่อยๆ หายเข้าไปในกางเกงที่เขาสวมอยู่

ดวงตาคมตรึงเธอเอาไว้ราวกับต้องมนตร์ เจนเผลอยกศีรษะตัวเองขึ้นตอนที่เดนนิสเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ เธอเผยอริมฝีปากอิ่มเต็มให้เขาได้ละเลียดสำรวจจนพอใจ ช่างน่าอายเหลือเกินที่เธอทำตัวราวกับโหยหาสัมผัสของเขาแทนที่จะหวาดกลัวอย่างที่ควรเป็น

ชายหนุ่มผละจากจูบแสนหวานนั้นอย่างเสียดาย เป็นครั้งแรกที่เดนนิสรู้สึกว่าร่างกายของผู้หญิงน่าค้นหาจนเขาอยากจะใช้เวลาสำรวจร่างงดงามนี้เสียทั้งวันทั้งคืน ชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ที่ลำคอ สูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวเอาไว้จนเต็มปอด จูบซับเรื่อยลงมาตามลาดไหล่ ก่อนจะหยุดลงที่ทรวงอกอวบอิ่มและครัดเคร่ง ปลายยอดแหลมหดรัดตัวเป็นตุ่มไตเมื่อสัมผัสกับปลายจมูกเขา ส่วนมือใหญ่อีกข้างก็ไล้วนไปมาและบีบคลึงเบาๆ ราวกับจะยั่วเย้าให้ความรู้สึกแสนหวานนั้นแตกพล่านไปทั่วกายเธอ

“อา...”

เสียงดังคล้ายพอใจจากคนใต้ร่างดังขึ้น หนุ่มเจ้าสำราญยิ้มพอใจ คราวนี้เขาตวัดปลายลิ้นชุ่มชื้นที่ยอดอกเธอช้าๆ ราวกับจะแกล้ง

“อา” เจนร้องเมื่อความรู้สึกวาบหวามโจมตีชวนให้วูบโหวงที่ท้องน้อย หญิงสาวครางออกมาเบาๆ อีกครั้งเมื่อริมฝีปากสีสดนั้นครอบครองยอดอกเธอเอาไว้

หญิงสาวแอ่นอกเข้าหาเขาอย่างลืมตัวเมื่อชายหนุ่มผละจากอกข้างหนึ่งไปหาอีกข้างหนึ่ง ตอนนี้เธออับอายเหลือเกิน แต่ก็ไม่อาจต้านทานความต้องการบางอย่างที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ร่างกายได้อิ่มเต็มกับรสสัมผัสนี้

เดนนิสผละจากอกคู่งามจนคนใต้ร่างผวา แขนเรียวเสลาพยายามคว้าลำคอแกร่งเอาไว้ ชายหนุ่มยิ้มใส่ตาเธอก่อนจะซุกหน้าลงไปยังพื้นที่ลึกลับตกสำรวจอื่นๆ ปลายลิ้นสากระคายไล้ไปมาตามหน้าท้องนวลเนียน ผิวสีน้ำผึ้งลออตาทำเอาเขาแทบคลั่ง

เดนนิสหยุดชื่นชมเอวคอดเล็กแล้วค่อยๆ เคลื่อนศีรษะต่ำลงไป คราวนี้เจนไม่ได้โอนอ่อนตาม เธอหดตัวและหนีบขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาแทรกกายเข้าไปได้

“อย่านะ” หญิงสาวหวีดร้องเมื่อเขายังจะโน้มตัวลงมา“พอแล้ว ฉันยอมแล้ว คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่หยุดทำแบบนี้เสียที” เจนขอร้อง รู้สึกว่าโดนทำโทษแบบนี้น่ากลัวยิ่งกว่าวิธีไหนทั้งหมดเสียอีก

“คุณไม่ได้รับสิทธิ์นั้น คุณมีหน้าที่แค่ทำตามที่ผมต้องการเท่านั้น ลืมไปได้เลยที่จะมาร้องขออะไรอีก เพราะคุณตัดโอกาสของตัวเองตั้งแต่ตอนที่คุณกระโดดหนีผมทางหน้าต่างแล้ว” เดนนิสปิดทางรอดใดๆ ของหญิงสาว ไม่สนใจว่าเธอจะใช้วิธีไหนเพราะมันไม่มีทางจะได้ผล

เจนมองเขาอย่างตัดพ้อ กัดริมฝีปากเมื่อชายหนุ่มใช้มือแข็งแรงแยกขาเธอออกจากกัน แต่พอเขาจะก้มลงไปหาความงดงามตรงหน้า เธอก็หนีบขาอีก

ในเมื่อเธอไม่ยอมให้เขาได้สำรวจด้วยใบหน้าและปลายลิ้น เขาก็มีอีกวิธีที่จะสำรวจเธอแบบแนบชิดและแนบแน่น

เดนนิสยกสะโพก ถอดกางเกงออกจากตัว จากนั้นก็บ่ายหน้ามาหาเหยื่อตัวน้อยที่นอนผวาอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลมีน้ำตารื้นขึ้นมาหลังจากมันเหือดแห้งไปสักพัก ชายหนุ่มนึกเอ็นดูท่าทีไร้เดียงสานั้นอย่างที่สุด เขาโน้มตัวลงทาบทับร่างแบบบาง จูบซับน้ำตาที่แก้มจนรับรู้ได้ถึงรสชาติของมัน

“ร้องไห้ทำไมสาวน้อย” เขาถามชิดริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อที่เกิดจากการกระทำของตัวเอง ขณะที่หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ

“จำไว้เจน ทำตัวว่าง่ายแล้วชีวิตคุณภายใต้การดูแลของผมจะดีขึ้น” เขาบอกขณะหยัดกายขึ้นสูง มองกุหลาบสีหวานที่เบ่งบานอยู่ตรงหน้าซึ่งเร่งเร้าให้เขาเข้าไปหา

ชายหนุ่มไม่รอช้า ค่อยๆ ใช้ส่วนแข็งขึงของตัวเองสัมผัสเกสรสีชมพูเข้มเบาๆ ถูไถไปมาอย่างเชื่องช้า จนร่างงามที่ตอนแรกทั้งสั่นทั้งสะดุ้งตอนนี้กลับอ่อนยวบลงราวกับถูกหลอมเหลว ใบหน้าน่ารักนั้นเบือนหนี ดวงตากลมโตปิดสนิท ราวกับไม่อยากจะเห็นภาพทรมานสายตา แต่เจนหารู้ไม่ว่า ยิ่งเธอหลับตา สัมผัสนั้นยิ่งบาดลึกในความทรงจำ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแม้จะบางเบาและผะแผ่ว แต่ก็ทำให้กายเธอร้อนเร่า

ชายหนุ่มก้มลงมองกลุ่มน้ำหวานหยาดเยิ้มที่ไหลออกมาทักทาย เขาใช้แก่นกายสัมผัสมันและวกกลับมาที่เกสรอันอ่อนไหว ถูไถไปมาหยอกล้อจนได้ยินเสียงหายใจหนักๆ ของคนใต้ร่าง ใบหน้าหญิงสาวแดงร้อนจากสัมผัสหวามไหวราวกับคนจับไข้

“บอกสิว่าคุณรู้สึกยังไงเจน” เขาโน้มตัวมากระซิบถาม พร้อมขบกัดติ่งหูบอบบางนั้นเบาๆ

เจนรู้สึกราวกับร่างกายเธอจะปริแตก กำลังจะทนไม่ไหวกับความรู้สึกบางอย่างในกายที่เรียกร้องบางสิ่งที่มากกว่า บางสิ่งที่เธอเองก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

“ฉันไม่รู้” เธอบอกพร้อมหอบหายใจถี่ขึ้นเมื่อเขายังถูไถตรงตุ่มไตสีเข้มนั้นไม่หยุด อยากจะร้องออกมาดังๆ แต่ก็ไม่รู้จะร้องออกมาแบบไหน

“เดี๋ยวคุณก็รู้” เดนนิสกัดฟันพูดขณะเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อแทรกกายแกร่งเข้าไปในช่องทางหยาดเยิ้ม

แม้จะใจเย็นรอคอยจนเธอพร้อม แต่ช่องทางที่เขาเพิ่งได้สำรวจเป็นคนแรกก็ยังคับแคบไม่พอดีสำหรับเขาอยู่ดี เพราะหญิงสาวใต้ร่างกรีดร้องเมื่อเขาแทรกกายลึกเข้า ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนสร้างความเจ็บปวดให้เธอ แต่ก็น่าแปลกที่ในความเจ็บปวดนั้น มันแฝงความรู้สึกบางอย่างที่รุนแรงกว่า

เดนนิสกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน ใบหน้าแดงก่ำจนน่ากลัวว่าหากคนใต้ร่างขยับตัวมากกว่านี้เขาคงควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่

“อยู่นิ่งๆ ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัวเจน” เขากระซิบบอกเธอ ใบหน้าคมเข้มนั้นเหยเก

เจนที่กำลังพยายามดิ้นหนีสัมผัสเจ็บปวดยอมหยุดนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เธอจ้องมองใบหน้าแดงก่ำของเขาอย่างนึกกลัว ทันทีที่ชายหนุ่มค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นและกดมันลงไปอีกครั้ง เจนก็สูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อถูกความวาบหวามและเจ็บปวดโจมตี

เดนนิสขยับสะโพกสอบเข้าออกจากกายเธอเชื่องช้า ดูเหมือนคนใต้ร่างเขาจะไม่พอใจ เธอส่งเสียงฮึดฮัดเมื่อเห็นเขาหยุดพัก ขาเรียวงามรัดเขาแน่นขึ้นคล้ายกระตุ้นให้เขาขยับเข้าหาอีก

“ใจเย็นๆคนสวย” เดนนิสกระซิบเมื่อรับรู้ถึงภาษากายที่ดูเหมือนจะไปไวกว่าความคิด ชายหนุ่มถอดถอนตัวตนออกมาจนเจนผวา เขาหยุดเพื่อฉีกซองนำเครื่องป้องกันมาสวมใส่ และคราวนี้เขาแทรกกายลึกจนสุดในคราวเดียว

“อ๊า!” เจนหวีดร้องเมื่อถูกชายหนุ่มแทรกกายเข้ามารวดเร็วในทีเดียว รู้สึกว่าเลือดในกายกำลังเดือดเป็นไอเมื่อหนุ่มเจ้าสำราญขยับสะโพกรัวเร็วกว่าครั้งแรก จากที่เคยรังเกียจสัมผัสเขา ตอนนี้เธอกำลังส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ จะอย่างไรผู้หญิงก็ต้องพ่ายแพ้ต่อผู้ชายอยู่ดี

“ร้องออกมาไม่ต้องอาย เอาเลยที่รัก ผมชอบฟังเสียงหวานๆของคุณ” เขาบอกขณะควบขยับรัวเร็ว แต่อยู่ดีๆ เดนนิสก็หยุดกึก ถอดถอนกายออกมาจนหมดสิ้น

เจนสะดุ้งเมื่อจู่ๆ เขาก็หยุดการเคลื่อนไหวอันแสนรัญจวนนั้น ความรู้สึกบางอย่างที่กำลังจะปะทุถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว

เดนนิสจัดการปลดเข็มขัดที่พันธนาการข้อมือเรียวเล็กออก จับเธอให้เปลี่ยนท่าเป็นคว่ำหน้า ยกสะโพกสวยขึ้นมาในท่าคุกเข่า จัดการจับมือน้อยให้เกาะหัวเตียงเอาไว้มั่น โดยที่เจนก็ทำตามเขาอย่างว่าง่าย เพราะตอนนี้สมองเธอว่างเปล่าไร้ซึ่งแรงดิ้นรนขัดขืนใดๆ อีก ชายหนุ่มจ้องมองกุหลาบงามจากด้านหลัง ดอกไม้สีชมพูบริสุทธิ์นั้นแดงและบวมขึ้นเล็กน้อยจากการกระทำของเขา เดนนิสจึงเอื้อมมือไปสัมผัสความอ่อนนุ่มนั้นเบาๆ

“อ๊ะ!” เจนร้องเมื่อไม่คุ้นเคยกับท่วงท่าที่เขาเข้าหา ครางกระเส่าเมื่อเขาวนนิ้วกับเกสรดอกไม้สีสวย

ชายหนุ่มเองก็ทนไม่ไหว ดอกไม้งามบานเบ่งนั้นช่างยั่วใจ เชิญชวนให้เขาเข้าไปเชยชมใกล้ๆ ในแบบที่เดนนิสเองก็ไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้กับใครมาก่อน เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลงจนชิด ใช้ริมฝีปากครอบครองเกสรสีหวานเอาไว้ ลิ้นร้อนและหนวดเคราสากระคายสร้างความหฤหรรษ์ให้เจนอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เธอสูดหายใจลึกถี่อย่างต้องการจะระบายความครัดเคร่ง

“คุณ อ๊ะ! คุณเดนนิสคะ อย่าทรมานฉันเลยค่ะ ปะ ปล่อยฉันไปที” เธอขอร้องเขาเสียงโหย ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับการกระทำอันน่าละอายนี้

ชายหนุ่มไม่ฟังคำร้องขอ เขากลับใช้ลิ้นสากนั้นปาดไล้ไปตามดอกไม้งามเชื่องช้า เบาสลับเร็ว บางครั้งก็ดูดกลืนราวกับจะดื่มกินน้ำหวานหยาดเยิ้มในกายเธอจนหมดสิ้น แถมยังใช้นิ้วเรียวยาวนั้นแทรกลึกเข้าออกสัมพันธ์กับปลายลิ้น ชายหนุ่มหยุดเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอขาสั่น เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว เขาจึงขยับตัวขึ้นในท่าคุกเข่า มือใหญ่จับเอวคอดเหมาะมือเอาไว้เพื่อพยุงร่างน้อยที่เริ่มอ่อนแรงให้ยังอยู่ในท่าที่เขาชื่นชอบ

เดนนิสยังไม่เลิกทรมานเธอ เขาค่อยๆ ใช้ปลายความแกร่งถูไถ ลูบไล้ขึ้นลงอย่างคราแรก เจนเกร็งตัวรอรับสัมผัสวาบหวาม ชายหนุ่มยังอดทนหยอกเย้าเธอต่อไปจนกระทั่งเริ่มรู้สึกถึงความฉ่ำเยิ้ม เขาก็แทรกกายเข้าลึก

เจนร้องครางด้วยความสุขสมเมื่อเขาแทรกตัวเข้ามา แช่เอาไว้นิ่งแถมยังบดขยี้ลงมาจนเธอร้องไม่เป็นภาษา เขาขยับกายออกมาจนเกือบสุดแล้วสอดลึกลงไปในตัวเธอรวดเร็วอีกครั้ง คราวนี้เดนนิสไม่ได้แช่เอาไว้นิ่งๆ เช่นเดิม แต่เขาขยับหมุนวนสลับเข้าออกรัวเร็ว

“อ๊า อ๊า!” เจนครางอย่างห้ามไม่อยู่ ลืมความอายไปชั่วขณะ เหลือเพียงความวาบหวามสะท้านรุนแรงที่เดนนิสมอบให้ หญิงสาวทรุดตัวลงอย่างหมดแรง หายใจเร็วถี่ ใบหน้าและผิวกายแดงไปทั้งตัว

ทว่าเดนนิสไม่ปล่อยเธอไว้นานนัก เขาขยับในท่านั่ง ยกตัวอันอ่อนปวกเปียกของเธอขึ้นมานั่งบนตักเพื่อครอบครองความใหญ่โตของเขา ชายหนุ่มสูดปากให้แก่ความคับแน่น จับใบหน้าหญิงสาวให้แหงนเงยเพื่อสบตาเป็นประกายด้วยแรงปรารถนาของตน จูบซับริมฝีปากอวบอิ่มร้อนแรง ทำเอาเชลยสาวตวัดลิ้นตอบรับการรุกรานจนเดนนิสครางหนักในลำคออย่างถูกใจ

“คุณวิเศษมากเจน”

เจนได้แต่หลบตา ซุกหน้ากับไหล่เขา นึกอับอายขึ้นมาทันที

เดนนิสไม่ปล่อยให้เธอได้อายนานนัก เพราะเขาชอบเจนที่แสนเร่าร้อนมากกว่า ชายหนุ่มจึงจับเอวคอด ยกตัวเธอขึ้นลง เขาครางแหบต่ำในลำคอกับแรงกดกระแทกจากการกระทำของตัวเอง

“ลองทำเองดูสิ” เขากระซิบบอกคนตัวอ่อนให้ลองขยับกายตามจังหวะที่เธอชอบ เจนส่ายหน้าไปมาจนเส้นผมดำยุ่งเหยิง

“ลองดูสิแล้วคุณจะชอบ” เดนนิสเร่งเร้า พลางช่วยจับเอวคอดยกขึ้นลง ไม่กี่ครั้งหญิงสาวก็ยอมขยับตามที่เขาต้องการ ชายหนุ่มครางกระหึ่มเมื่อหญิงสาวช่างเร่าร้อนราวจะแผดเผาเขาให้ละลาย เจนขยับแค่ไม่กี่ครั้งก็กระตุกและนิ่งไปชั่วอึดใจ

เดนนิสประคองเธอให้ล้มลงบนที่นอน ส่วนกลางกายนั้นทั้งสองยังเชื่อมต่อกัน ขาเรียวงามยังตวัดรอบตัวเขา ชายหนุ่มขยับกายเข้าออกช้าๆ ในจังหวะที่เขาแทรกลึกเข้ามา เธอเกี่ยวกระหวัดเอวเขาเอาไว้แน่น คนมากประสบการณ์ยอมทำตามราวกับรู้ใจ แถมเพิ่มแรงกดลงไปจนหญิงสาวใต้ร่างครางออกมาด้วยความสุขสม

เมื่อแน่ใจว่าเธอปลดปล่อยความครัดเคร่งออกจากกายจนหมด เขาก็ขยับสะโพกสอบรัวเร็วเป็นจังหวะตามใจตัวเอง จนในที่สุดก็ปลดปล่อยความอดทนอดกลั้นทั้งหมดออกมา แล้วจึงล้มกายลงทาบทับร่างเล็ก ซบหน้านิ่งกับอกอิ่มสวย

เจนหายใจหอบถี่ รู้สึกสุขสมจนร่างกายแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่เมื่อความเร่าร้อนผ่านพ้นไป ความอับอายก็กลับเข้ามาแทนที่ เธอขยับดิ้นเพื่อให้คนที่ทาบทับออกไปจากตัวเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล แถมคนตัวโตยังขู่คำรามอย่างขัดใจ

“ฉันหนักค่ะ” เจนร้องเพราะเริ่มจะหายใจติดขัดกับแรงกดทับด้านบน

เดนนิสไม่ได้ตอบ เขาทำเพียงสลับที่ให้หญิงสาวไปอยู่บนตัวเขาแทน มือหนากดศีรษะเล็กให้ซบลงที่อกเขา ลูบผมชื้นเหงื่อของเธอไปมาทั้งที่ดวงตายังพริ้มหลับอยู่

“อยู่นิ่งๆ ก่อนเด็กดี ถ้าไม่อยากเดือดร้อน” เขาบอกพร้อมหัวเราะในลำคอเบาๆ

เจนรู้ว่าเขาไม่ได้ขู่เล่นๆ หญิงสาวจึงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ได้แต่นอนฟังเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวของเขาที่ค่อยๆ เต้นช้าลงจนกลับมาอยู่ในจังหวะปกติ

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น