2
ข่าวภาพหลุดงานปาร์ตี้ริมสระเมื่อวันปีใหม่เรียกเสียงซุบซิบนินทาในกลุ่มพนักงานได้ไม่น้อย คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกเรียกไปสอบถามอย่างเคร่งเครียด ต่างมีท่าทีตื่นตระหนก เพราะเกรงว่าตนเองจะโดนทำโทษไปด้วย
เจนเองก็นึกหวั่นอยู่ไม่น้อย เพราะคืนนั้นแม้เธอจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำงานในงานปาร์ตี้นั้นร่วมกับคนอื่นอีกนับสิบชีวิตด้วย
“คุณเดนนิสโกรธมาก ผู้จัดการเรียกมารวมตัวแต่เช้าแบบนี้ เราต้องแย่แน่ๆ เลย” หนึ่งในพนักงานเอ่ยขึ้นอย่างกังวล เธอยังมีภาระหน้าที่ให้รับผิดชอบมากมายและยังไม่อยากตกงานตอนนี้
“ถ้าเราไม่ได้ทำแล้วจะกลัวอะไร” เจนออกความเห็น แม้ในใจจะนึกหวั่นตามพนักงานส่วนมาก
คนของเดนนิสเข้ามาสอบถามพนักงานทีละคนๆ แต่ละคนเมื่อโดยปล่อยตัวไปต่างมีสีหน้าโล่งอก ถึงคราวเจน เธอก็ตอบไปตามความเป็นจริงอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่ได้คิดเลยว่าจะมีภัยมาหาตัว
เดนนิสสืบหาต้นตอคนปล่อยภาพจนได้เรื่อง ใบหน้าที่ยิ้มเป็นนิตย์ดูบึ้งตึงจนน่ากลัว เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วทันใจ เมื่อได้รับแจ้งว่าจับตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาเสียเครดิตได้แล้ว เซเลบริตีหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวของโรงแรมที่พักอาศัย ตรงดิ่งเข้าไปหาคนของเขาที่ยืนล้อมผู้กระทำผิดอยู่
“หลักฐานครบใช่ไหม” เดนนิสหันไปถามคนของตัวเอง ทั้งสามพยักหน้าแทนคำตอบ ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปใกล้เพื่อดูหน้าคนที่บังอาจมาลูบคมเขา
หญิงสาวร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มีท่าทีหวาดกลัว เธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่งที่เปิดไฟล์รูปเจ้าปัญหาเอาไว้ เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาเมื่อคนทำผิดที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือหญิงสาวที่ทำเมินใส่เขาหลายครั้ง
“เธอนี่เอง” ชายหนุ่มทักพลางทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เขาจำเธอได้ สาวเอเชียคนเดียวในกลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่ พนักงานทำความสะอาดของโรงแรม
“ไง ได้เงินไปเท่าไหร่ล่ะสาวน้อย” เดนนิสเปิดการสนทนา เพราะดูเหมือนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามนิ่งไปเสียแล้ว
“คุณกล้ามากนะที่มาแอบถ่ายงานปาร์ตี้ของผม” ลูกชายเจ้าของโรงแรมพูดกระดกลิ้นที่ข้างกระพุ้งแก้มด้วยท่าทีกวนๆ
“ฉันไม่ได้ทำนะคะ” เสียงสั่นๆ ดังขึ้นอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะตอนนี้เธอกลัวเหลือเกิน ทั้งกลัวทั้งตกใจ
ตอนเช้าที่เธอเตรียมตัวมาทำงานก็เจอผู้ชายน่ากลัวสามคนดักรอที่หน้าห้อง พวกเขาเข้าไปค้นข้าวของในห้องเธอกระจัดกระจาย เมื่อได้ของที่ต้องการคนพวกนั้นก็คุมตัวเธอมาที่นี่ คาดคั้นถามในเรื่องที่เธอไม่เข้าใจสักอย่างทั้งๆ ที่เมื่อวานเธอกับเพื่อนร่วมงานถูกซักฟอกไปทีหนึ่งแล้ว
“แล้วนี่อะไร” นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่ภาพหน้าจอแรงๆ ด้วยความโมโห
ไม่บ่อยนักที่เดนนิสจะโกรธผู้หญิง เริ่มตั้งแต่ที่เธอขว้างไม้ขนไก่โดนหัวเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนเขาเดินผ่านบริเวณที่เธอทำความสะอาดอยู่ แล้วตอนนี้ยังบังอาจเข้ามาแอบถ่ายภาพลับของเพื่อนเขาเพื่อเอาไปขายให้นักข่าวอีก
“ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ” เธอละล่ำละลัก ในเวลาหวาดกลัวแบบนี้ภาษาอังกฤษของเธอดูจะติดขัดไปเสียเฉยๆ ทั้งที่มาอยู่ที่นี่หลายปีแล้ว และเธอเพิ่งมาทำงานในช่วงวันหยุดที่นี่ครั้งแรก ไม่นึกว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัว
เค้าลางของปัญหาคงเริ่มจากสัปดาห์ก่อนที่เธอกำลังทำความสะอาดห้องจัดเลี้ยงอยู่แล้วโดนเพื่อนร่วมงานแกล้งเธอเลยอยากจะเอาคืนบ้าง แล้วใครจะคิดว่าลูกชายเจ้าของโรงแรมอย่างเดนนิสจะเปิดประตูเข้ามาโดนลูกหลงนั้นอย่างจัง
แม้เขาไม่ได้ถือสา แต่เธอรู้ว่าเขาเคืองเธอไม่น้อย และวันนี้อีกที่เธอถูกกล่าวหาว่าแอบถ่ายภาพเพื่อนคนดังของเขาไปขาย เจนไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยว่าภาพเหล่านี้มาปรากฏในคอมพิวเตอร์เธอได้อย่างไร วันนั้นเธอเพียงเข้าไปเก็บแก้วที่แตกเท่านั้น และเข้าไปไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองใคร แล้วอย่างนี้เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นใคร ในงานปาร์ตี้ที่ผู้คนเบียดเสียดภายใต้แสงสลัวรางของไฟประดับงาน
“อย่ามาแกล้งโง่ หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่!” มือเรียวงามของเขายังไม่หยุดชี้ที่ภาพของยูจีนขณะที่ก้มสูดอะไรบางอย่างบนโต๊ะในงานเลี้ยงเมื่อวันก่อน
“บอกผมมาดีกว่าว่าใครจ้างคุณมา ทำไมเจาะจงถ่ายแต่รูปของยูจีน” เสียงห้าวถามเธอด้วยเสียงอันดัง เขาพูดช้าและชัดเพื่อให้เธอเข้าใจ แต่ดูเหมือนหญิงสาวคนนี้จะไม่ได้สนใจฟังเลย เธอยังปากแข็งไม่ยอมรับอะไรสักอย่าง
“ฉันไม่รู้จักเขา ฉันไม่รู้ๆ” เธอปฏิเสธรัวเร็ว กลัวจนใจไปกองที่ตาตุ่ม แต่ก็จนปัญญาที่จะอธิบายกับเขา
เดนนิสหงุดหงิดจนทำอะไรไม่ถูก ทำไมเธอถึงดื้อด้านแบบนี้ เขาค้นดูประวัติเธอแล้วดูเหมือนทุกอย่างมันจะชี้ชัดมาที่เธอ ทั้งรูปภาพในคอมพิวเตอร์ อีเมลปลอมที่ส่งจากเครื่องเธอแม้รูปจะถูกลบไป แต่ก็ตามหาต้นตอได้ไม่ยากนัก ไหนจะกล้องแอบถ่ายตัวเล็กที่ซ่อนอยู่ในชุดของเธออีก ยิ่งเป็นการมัดตัวเธอเอาไว้ได้อย่างแน่นหนา
ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางมองคนที่นั่งตัวลีบบนเก้าอี้อย่างชั่งใจ ก่อนจะส่งสัญญาณให้คนของเขาออกไปจากห้องพักส่วนตัว
เจนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงประตูปิด ตอนนี้ทั้งห้องมีแค่เธอกับชายหนุ่มตรงหน้านี้เท่านั้น หน้าตาที่ยิ้มแย้มให้ผู้คนเสมอกำลังบึ้งตึงและมองเธออย่างอาฆาตมาดร้าย เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ ก้มใบหน้าลงจนชิด
“บอกมาว่าใครจ้างคุณให้ทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้าย” ชายหนุ่มขู่ มองเธอด้วยสายตาชนิดที่ว่า เห็นแล้วต้องเก็บไปฝันร้าย
หญิงสาวที่กลัวอยู่แล้วก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีก เธอก้มหน้าลงจนคางแทบชิดอก แต่ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่เป่ารดที่ข้างแก้ม หญิงสาวพยายามเงยหน้าขึ้นมองสบดวงตาสีฟ้าจางนั้นอย่างหวาดๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าตอบเขาไปอีกครั้ง “ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ รูปพวกนั้นฉันไม่ได้ถ่าย” เธอยังปฏิเสธเขาคำเดิมมันยิ่งทำให้คนรอคอยคำตอบโมโห
ดวงตาคมมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างประเมิน ผิวสีน้ำผึ้งสวยแปลกตา ผมดำสนิทหยักศกนั้นถูกรวบขึ้นไว้กลางศีรษะ ทำให้เขานึกถึงเวลาที่เธอเดินแล้วมันแกว่งไกวยั่วใจเขา ท่าทางเธอหวาดกลัวจนเห็นได้ชัด แต่มันช่างขัดกับหญิงสาวที่เล่นน้ำในสระกับผู้ชายหลายคนเมื่อวันก่อนนัก ตอนนั้นเธอดูออกจะมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด
มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กให้ลุกตาม เจนขืนตัวเอาไว้สุดความสามารถ แต่เมื่อเห็นสายตาข่มขู่ของเขาเธอก็หมดแรงเอาดื้อๆ ถลาไปตามแรงฉุดลาก
ร่างแบบบางถูกเหวี่ยงขึ้นไปกลางเตียงขนาดใหญ่ หญิงสาวรีบลุกขึ้นและกระถดตัวหนีอย่างระวังภัย ยังไม่ทันที่เธอจะปีนลงจากเตียงกว้าง เจ้าของห้องก็คลานขึ้นมาบนเตียงอย่างคุกคาม ใช้ดวงตาของเขาตรึงเธอเอาไว้ ใบหน้าคมคายที่เคยมีลักยิ้มประดับสองข้างแก้มบัดนี้ดูบูดบึ้งจนไม่ปรากฏรอยบุ๋มให้เห็น รอยสักที่เธอเคยลอบมองแล้วคิดว่ามันช่างดูสวยแปลกตา บัดนี้มันกลับทำให้เขาดูน่ากลัวอย่างที่สุด
“ถ้าจะไม่ยอมรับก็ได้...” เขาเว้นระยะใบหน้าห่างจากเธอแค่คืบ ดวงตาคมคายนั้นเหลือบมองป้ายชื่อตรงหน้าอกซ้ายของเธอ “เจน”
เขากระซิบเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงแบบที่เจนไม่คิดว่าจะมีใครเรียก มันให้ความรู้สึกกึ่งกระดาก อึดอัด และหวาดกลัวไปพร้อมกัน
“ผมจะทำอะไรสนุกๆ กับคุณและถ่ายคลิปไว้”
คราวนี้เจนขนลุกไปทั้งตัว ลนลานจะหนีออกจากการกักขังให้ได้ “อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉันกลัวแล้ว” เธอขอร้องเขาอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก น้ำตาเริ่มไหล มือสองข้างที่ยกขึ้นกอดตัวเองเอาไว้เริ่มเย็นเฉียบ
“ทำไม สนุกดีออกนะ คุณเคยลองทำกับแฟนคุณดูบ้างไหม มันทำให้เซ็กซ์เร้าใจขึ้นเยอะ” คำพูดหยาบโลนจนเจนอยากยกมือปิดหู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำ แขนสองข้างของเธอก็ถูกตรึงเอาไว้ ใบหน้าคมที่เธอเคยแอบมองอยู่ห่างๆ ก็ก้มลงมาจนชิด
ถึงตอนนี้เดนนิสไม่เข้าใจตัวเองเลย เขามีวิธีข่มขู่ผู้หญิงตรงหน้าตั้งมากมาย ทำไมเขาต้องใช้วิธีนี้กับเธอ แต่ยังไม่ทันที่สมองจะสั่งการใดๆ ชายหนุ่มกลับก้มลงประทับริมฝีปากเข้ากับปากอิ่มสวยตรงหน้าเสียแล้ว
แรงดิ้นรนขัดขืนนั้นทำให้บางอย่างในตัวเขาลุกฮือ น่าแปลกที่ปกติผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อนเสมอ แต่เธอคนนี้กลับไม่เคยมองเขา บางครั้งเวลาที่เธอทำงานอยู่และมีเขาอยู่ใกล้ๆ เธอทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่มีตัวตน และยิ่งน่าขันเข้าไปอีกที่เขาเดือดร้อนทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น
ดังนั้นเมื่อเห็นใบหน้าสวยแปลกตาในห้องนี้ครั้งแรกเขาจึงทั้งโกรธทั้งดีใจที่เป็นเธอ ในหัวเขามีภาพวิธีกำราบเธอนับร้อย และตอนนี้เขากำลังทำมันอยู่ ข้อมือเล็กจ้อยที่อยู่ในอุ้งมือบิดไปมา เสียงสะอื้นสั่นๆ ของเธอดังอยู่ข้างหูเขา
เดนนิสครางทุ้มต่ำขัดใจเมื่อใบหน้าเล็กนั้นหันหนีริมฝีปากเขาทันท่วงที ชายหนุ่มปล่อยเธอเป็นอิสระแค่ชั่ววินาที ก่อนจะรวบร่างเล็กนั้นให้มาอยู่ใต้ร่างเขา กดทับกักขังเธอเอาไว้ด้วยร่างกายตนเอง ดวงตากลมๆ นั้นเต็มไปด้วยน้ำตา
ให้ตายสิ! ทำไมยิ่งเห็นเธอร้องไห้เขาถึงรู้สึกดีแบบนี้ การได้กำราบใครสักคนให้อยู่ภายใต้อาณัติมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง
ชายหนุ่มยื่นมือออกไปจับใบหน้าที่หันหนีเขาให้กลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง ปลายจมูกโด่งแหลมเล็กนั้นขึ้นสีแดงจากการร้องไห้ ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนมีแววหวาดหวั่น ริมฝีปากสีสดบวมเจ่อขึ้นมาจนเธอต้องกัดมันเอาไว้ แต่มันกลับคล้ายเธอกำลังเชิญชวนและยั่วยวนเขาให้เข้าไปคลุกเคล้า คราวนี้เดนนิสไม่พลาด เขาบดจูบลงไปอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ
แรกสัมผัสความชุ่มชื้นอ่อนนุ่มนั้นเขาก็หยุดตัวเองไม่ได้ จากที่จะแกล้งให้ตกใจคราวนี้เขากลับเอาจริง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือนัก เจ้าตัวเม้มปากเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้รุกล้ำเข้าไปข้างใน แต่เดนนิสก็มีวิธีเปิดปากเธอจนได้ ความชุ่มชื้นหอมหวานนั้นช่างคุ้มค่ากับความพยายามของเขาจริงๆ
ชายหนุ่มแทรกลิ้นเข้าไปลึกอย่างย่ามใจ เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆ ของเธออย่างลืมตัว ไม่สนใจแรงต้านเพียงเล็กน้อยของฝ่ามือเรียวเล็กที่ตีอยู่บนอกเขา เจนรู้สึกเหมือนคนจมน้ำที่กำลังจะขาดใจตาย เธอกลัวจนถึงขีดสุดแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลไปเงียบๆ ทั้งที่ในใจเธอกำลังกรีดร้อง อยากให้ใครสักคนมาช่วยเหลือเธอจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้
เดนนิสผละจากจุมพิตอันแสนเอาแต่ใจ หันมาซุกไซ้ใบหน้าไปตามสองข้างแก้มนวล สัมผัสเปียกชุ่มของน้ำตา และอาการสั่นเทิ้มของคนใต้ร่างทำให้เขาหยุด ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้นเพื่อมองใบหน้าเรียวสีน้ำผึ้งเปื้อนน้ำตา ให้ตายเถอะ เขาต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ ที่ชอบเห็นน้ำตาเธอ ทำไมเวลาผู้หญิงคนนี้ร้องไห้ถึงน่ารักน่าแกล้งอะไรอย่างนี้ เธอให้ความรู้สึกน่าสงสารไปพร้อมๆ กับความรู้สึกน่าหลงใหล ดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อนนั้นปิดสนิท ใบหน้าเรียวเบือนหนีเขาอย่างรังเกียจเต็มที่ทันทีที่เขาผละริมฝีปากออก
ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไป ใช้ริมฝีปากสัมผัสชีพจรที่เต้นรัวเร็วตรงลำคอเธอผะแผ่ว สัมผัสอุ่นซ่านอ่อนโยนนั้นทำให้เจนลืมตาขึ้นมองกลุ่มผมสีทองแดงที่ก้มต่ำลงเรื่อยๆ อย่างน่าใจหาย มือข้างหนึ่งของเขาเคล้นคลึงสะโพกกลมกลึงของเธอและวกกลับไต่ขึ้นมาจนเกือบถึงฐานอก
หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเขาแทรกมือเข้ามาภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอ มือเรียวลูบไล้ไปบนผิวเนื้อเธออย่างหลงใหล แต่เจนกลับรู้สึกว่ามันเหมือนเปลวไฟร้อนๆ ที่กำลังลามเลียไปตามผิวเนื้อเธอมากกว่า เพราะมันสร้างความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ให้แก่เธอเป็นอย่างมาก หญิงสาวพยายามที่จะปกป้องตัวเองอย่างเต็มความสามารถ พยายามใช้มือดันศีรษะชายหนุ่มออกห่างจากทรวงอกคู่งามที่กำลังอวดสายตาตรงหน้าเขา
เดนนิสทำเสียงเหมือนขัดใจตอนที่เขากำลังจะฝังใบหน้าลงไปที่ความนุ่มหยุ่นนั้นเพื่อชื่นชมมันให้เต็มที่ แต่ก็ถูกมือของหญิงสาวดันเอาไว้เสียก่อน เขาจึงเลื่อนตัวขึ้นมาสบตาเธอตรงๆ ด้วยแววตาของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า
“อย่าดิ้น ถ้ายังอยากออกจากห้องนี้” เขาขู่พลางยกมือขึ้นจับปลายคางเธอให้หันมามองเขา
“ฮึก...ปล่อยฉันไปนะคะ ฉันไม่รู้อะไรจริงๆ” เจนร้องขอพลางสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร แต่คนที่เพิ่งถูกขัดใจดูเหมือนจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ
“ผมไม่ใช่คนเชื่ออะไรง่ายๆ ด้วยสิ” คราวนี้รอยบุ๋มข้างแก้มปรากฏขึ้นชัดเจนทั้งสองข้าง แต่คนมองกลับรู้สึกว่านั่นเป็นการยิ้มขู่มากกว่า “คุณมั่นใจว่าไม่ได้ทำจริงๆ เหรอเจน” เขาถามเธออีกครั้งแม้น้ำเสียงจะฟังดูอ่อนลง แต่ร่างสูงใหญ่ยังทาบทับเธอแนบแน่นไปทุกส่วนสัด ยากที่จะขยับ
“ฉันสาบาน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ปล่อยฉันไปนะคะคุณแลงส์ลีย์ ได้โปรด”
เดนนิสยิ้มหางเสียง คำว่าได้โปรดของเธอช่างน่าเอ็นดู นึกสงสารเชลยสาวตัวน้อยขึ้นมาบ้างจึงยกมือเรียวเช็ดน้ำตาเปียกๆ ออกจากแก้มให้เธออย่างเบามือ พร้อมกับยิ้มโชว์ลักยิ้มให้หญิงสาวอย่างใจดี
“ก็ได้ ผมจะไม่ถ่ายวิดีโอ” เขาบอกอย่างใจกว้าง
“แต่ในเมื่อผมหาตัวคนผิดมาแทนคุณไม่ได้ ยังไงคุณก็ต้องถูกทำโทษ” ผู้พิพากษากล่าวจบก็จัดการลงโทษคนผิดทันทีอย่างไม่รีรอ เจนที่กำลังดีใจว่าตัวเองจะมีทางรอดกลับต้องเสียใจอีกครั้ง รู้สึกเหมือนถูกส่งให้ขึ้นสวรรค์และฉุดลงนรกในเวลาแค่ชั่วพริบตา
แต่คราวนี้เจนไม่ยอมอยู่นิ่ง เธอดิ้นออกจากพันธนาการนั้นจนเป็นอิสระแล้วใช้มือทุบไปตามร่างกายเขาไม่ยั้ง ทั้งหยิกทั้งข่วนจนชายหนุ่มทนไม่ไหว คว้าเอาเข็มขัดที่ตกอยู่ใกล้ๆ มารัดแขนเธอไว้แน่น ไม่เท่านั้นเขายังเอามันไปผูกโยงไว้กับหัวเตียงจนหญิงสาวหมดหนทางจะต่อสู้ขัดขืน เจนไม่นึกเลยว่าในชีวิตนี้เธอจะต้องมาเจอเรื่องราวแย่ๆ แบบนี้ หากเขาทำอะไรเป็นการขืนใจเธอ ต่อให้เขาหล่อเป็นเทพบุตรขนาดไหนมันก็ไม่ต่างอะไรจากปิศาจนักหรอก
“อย่าดื้อน่าเจน ถ้าไม่อยากให้อะไรๆ มันแย่กว่าเดิมก็นอนนิ่งๆ ซะ” เดนนิสขู่เธอเสียงเข้ม ดวงตาขี้เล่นมีแววจริงจังและเข้มข้นไปด้วยโทสะ
หญิงสาวใต้ร่างไม่ได้ตอบ เธอนอนนิ่งอย่างที่เขาสั่ง แต่ก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจ ดวงตาคู่สวยปิดลงไม่ยอมมองหน้าคนใจร้าย ริมฝีปากอิ่มสีสวยเม้มเข้าหากันแน่น แม้พยายามไม่ให้เสียงร่ำไห้เล็ดลอดออกมา แต่เธอก็สะอื้นไห้จนตัวสั่น
เดนนิสถอนหายใจแรงๆ หมดสนุกกับการกลั่นแกล้งคนใต้ร่าง เขาพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ปลดเข็มขัดที่รัดรอบข้อมือหญิงสาวออก ทิ้งเพียงรอยแดงไว้ให้ดูต่างหน้า
เมื่อเป็นอิสระแทนที่คนตรงหน้าจะลุกขึ้น กระถดหนีอย่างคราวก่อน เธอกลับนอนนิ่งหลับตาแน่นราวกับยอมรับและรอคอยการลงทัณฑ์จากเขา หนุ่มเจ้าสำราญมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกประหลาด บอกไม่ถูกว่ารู้สึกสงสาร หรืออยากจะแกล้งเย้าเธอต่อกันแน่ เดนนิสใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแนวกรามเธอเบาๆ ได้ผล คนที่นอนนิ่งอยู่เมื่อครู่ถึงกับสะดุ้ง แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองเขา
“เฮ้” เดนนิสเรียกเธอเสียงแผ่ว อมยิ้มกับท่าทางหวาดผวาตกใจนั่น
“ลืมตาได้แล้วเจน”
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตามองคนที่ทำท่าจะทำมิดีมิร้ายกับเธอช้าๆ ไล่ไปจากขายาวที่ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง หน้าท้องแบนราบภายใต้เสื้อยืดสีเข้ม ปลายคางที่เต็มไปด้วยหนวดเครา สองข้างแก้มที่เคยมีรอยบุ๋มของลักยิ้ม จนมาหยุดที่ดวงตาสีฟ้าอ่อนนั้น เดนนิสที่กึ่งนั่งกึ่งนอนตะแคงหันข้างให้เธอ มือข้างหนึ่งของเขายันรับน้ำหนักตัวไว้ ระยะห่างเพียงเท่านี้ทำให้เจนมองเห็นแพขนตาหนาๆ ของเขาได้ชัดเจน ความงามที่หลอมรวมเป็นตัวตนของผู้ชายตรงหน้าทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่สำหรับเธอแล้วเขาเหมือนปิศาจร้ายที่ซ่อนตัวภายใต้รูปโฉมอันงดงามมากกว่า
“นี่แค่สั่งสอนสำหรับคนปากแข็ง” เดนนิสบอกคนที่กระถดตัวหนีจนเกือบจะตกเตียง ปฏิกิริยาตอบสนองเพียงเล็กน้อยของเธอนั้นสร้างความขุ่นมัวในอารมณ์ของเขาอย่างง่ายดาย
“คุณคงรู้แล้วว่าคนอย่างผมเอาจริง” เดนนิสพูดจบก็เหลือบตาไปมองหญิงสาวที่กำลังกระชับสาบเสื้อหลุดลุ่ยของตัวเองแน่น
“แต่ในเมื่อคุณยืนยันว่าไม่ได้ทำผมก็จะให้เวลาคุณ” เขาบอกพร้อมกับขยับลุกขึ้นนั่งบ้าง “แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องมาอยู่ในความดูแลของผมจนกว่าผมจะหาคนร้ายตัวจริงพบ” ท้ายประโยคฟังเหมือนคนพูดพอใจกับข้อเสนอยิ่งนัก
“หมายความว่ายังไงคะ!” เจนเพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอหลังตกใจจนเกือบจะเป็นลมเมื่อครู่นี้ เธอจำได้ว่าเธอไม่มีความผิดอะไรสักนิดแล้วทำไมเขาต้องมาสร้างเงื่อนไขบ้าๆ เหล่านี้กับเธอด้วย
“ก็หมายความตามที่พูด คุณต้องอยู่ในสายตาผมตลอดเวลา” เขาเน้นเสียงคำว่าตลอดเวลาจนเจนขนลุก
“คุณจะไม่ทำก็ได้นะ เดี๋ยวจะหาว่าผมบังคับข่มขู่อีก” เดนนิสบอกอย่างใจกว้าง ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มข้างหนึ่งด้วยท่าทีกวนๆ แบบที่เขาชอบทำเสมอ
“แต่เราจะกลับไปเริ่มในสิ่งที่ยังทำไม่จบเมื่อครู่นี้” เขายิ้มเมื่อเห็นเธอส่ายหน้าจนผมกระจาย รู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูกเวลาได้แกล้งเธอแบบนี้
“งั้นก็แปลว่าคุณจะยอมมาอยู่ในความดูแลของผม” เขาเลิกคิ้วขึ้นเชิงเป็นคำถาม
เจนนิ่งคิด เธอไม่ได้มีความผิดอะไรเลยทำไมเธอจะต้องเอาตัวไปผูกติดกับเขา แต่เท่าที่เขาแสดงให้เห็น เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นเลย แม้ท่าทางเขาจะดูขี้เล่นเจ้าสำราญ แต่เมื่อครู่ที่เขาข่มขู่เธอก็กลัวจนร้องไห้ อยากจะเถียงคนตรงหน้าใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะจำนนด้วยหลักฐานที่เธอไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้น
“ถ้าคุณจับคนร้ายตัวจริงได้ คุณจะปล่อยฉันไปใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามเขาเพื่อความแน่ใจ นาทีนี้คงไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายนี้ นอกจากการตามน้ำไปก่อน
“แน่นอน” เขาบอกด้วยท่าทีมั่นใจ การที่เขาจะเจอคนร้ายตัวจริงหรือไม่มันล้วนแต่เกิดจากความต้องการของเขาเท่านั้นละ
“คุณจะไม่ทำกับฉันแบบนั้นอีกใช่ไหม” เธอยังหวาดผวาจากการถูกคุกคามเมื่อครู่ ให้ตายยังไงเธอก็รับไม่ได้กับการกระทำห่ามๆ ของเขา
“ไม่ทำ ถ้าคุณไม่กวนโมโห” เดนนิสรับปากยักคิ้วให้เธอทีหนึ่ง เขาไม่ได้บอกหญิงสาวเลยว่าแค่เธอขยับตัวออกห่างจากเขาอารมณ์โกรธของเขาก็พลุ่งพล่าน
“เอาละทีนี้ไปเก็บของของคุณได้แล้ว” คนที่ไม่เคยถูกขัดใจสั่งทันทีเมื่อบรรลุข้อตกลง
“เก็บของทำไมคะ!” เจนมีสีหน้าสงสัย คิ้วเรียวขมวดจนเป็นปม
“อ้าว ก็ไปอยู่กับผมไง” คนเอาแต่ใจบอกอย่างไม่คิดอะไรมาก
“แต่ฉันต้องทำงานอีกสองวันนะคะ” หญิงสาวแย้ง สัญญาจ้างเธอจะหมดในอีกแค่สองวัน แม้มันจะเป็นเพียงงานชั่วคราว แต่เธอก็อยากจะรับผิดชอบงานจนจบ
“ไปเก็บของ เรื่องนั้นผมจัดการเอง” เดนนิสตัดบทลุกขึ้นจากเตียง เพราะขืนนั่งอยู่ตรงนี้นานอีกหน่อยเขาก็ชักไม่แน่ใจว่าจะอยู่นิ่งๆ แบบนี้ไปได้นานสักกี่นาที
เขารู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่ใครจะทนกับภาพหญิงสาวผมยุ่ง เสื้อผ้าหลุดลุ่ยที่ยั่วกิเลสเขาอย่างที่สุดแบบนี้ เจนมีความน่าดึงดูดบางอย่าง ในแบบที่เดนนิสห้ามตัวเองไม่ได้ เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร รู้สึกแค่ว่าอยากจับเธอมาลงโทษตอนที่เห็นเธอลอยคอในสระน้ำกับผู้ชายพวกนั้น รู้สึกหงุดหงิดเวลาที่เธอไม่สนใจเขาสักนิด และเขาเพิ่งรู้ตัวว่าการได้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอสร้างความพึงพอใจบางอย่างแก่เขา
สิ้นคำพูด หญิงสาวไม่รีรอรีบลงจากเตียงแทบจะทันที เธอสำรวจเนื้อตัวเสื้อผ้าให้เรียบร้อยที่สุด ลูบไล้ข้อมือที่เริ่มจะเป็นสีเข้มขึ้นจากการรัดรึงของเข็มขัดเส้นโต ไม่อาจคาดเดาอนาคตที่ต้องตกอยู่ในอาณัติของผู้ชายแบบ เดนนิส แลงส์ลีย์ ได้เลย
เจนทิ้งตัวลงบนเตียงในห้องพักสำหรับพนักงานอย่างสับสนจนเรียบเรียงความคิดไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนทำให้การคิดการตัดสินใจของเธอผิดพลาดไปหมด หญิงสาวมองรอยแดงที่ข้อมือ นึกถึงแววตาดุดันที่เขาใช้ตรึงเธอเอาไว้จนไม่กล้าขยับแล้วถอนหายใจ
ให้ตายเถอะ! เธอไม่สามารถต่อกรกับเขาได้เลย แต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ปกติเธอเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่ว่าจะผ่านเรื่องราวร้ายแรงขนาดไหนก็มักจะผ่านมันมาได้เสมอ
หญิงสาวมองรอบๆ ห้องนอนเล็กที่ข้าวของถูกรื้อกระจัดกระจาย แม้จะเสียดายคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่เก็บข้อมูลสำคัญหลายอย่างแต่ก็คงต้องตัดใจ
เจนมองหากระเป๋าเป้ใบเล็ก คว้าเอาเสื้อผ้าข้าวของเท่าที่จำเป็น เปลี่ยนจากชุดพนักงานเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนแบบที่สวมประจำ คว้าเป้ใบย่อมขึ้นหลัง เปิดประตูหลังห้องพักเพื่อมองหาทางหนีทีไล่
ด้านหลังที่พักพนักงานคือถนนสายเล็กที่ตรงไปยังชุมชนที่ห่างจากโรงแรมออกไปไม่ไกลนัก หากเธอถ่วงเวลาไว้ได้นานพอและเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด เธอคงหนีจากตรงนี้ได้ทัน แม้ความสูงจากพื้นไม่กี่เมตร แต่เจนก็อดขาสั่นใจสั่นไม่ได้ ขาเรียวก้าวพาดระเบียงห้อง ค่อยๆ หันหลังและโรยตัวลงไปช้าๆ เมื่อเท้าแตะถึงพื้นเธอก็ออกวิ่งทันทีแบบไม่เหลียวหลัง
วิลเลียมผู้ที่ทำหน้าที่เดินมาส่งหญิงสาวคนใหม่ของเจ้านายที่หน้าห้อง ชะเง้อคอมองประตูห้องพักขนาดเล็กที่เธอคนนั้นหายเข้าไป เวลาผ่านไปราวยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะออกมา การ์ดร่างสูงจึงตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้อง
“มิสโทมัส มิสโทมัสครับ คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า” การ์ดหนุ่มเรียกเธอ ชักสังหรณ์ใจแปลกๆ กับความเงียบงันของคนในห้อง เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในเขาจึงตัดสินใจเคาะเรียกอีกสองสามครั้ง ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวคนนั้นจะขานตอบ วิลเลียมจึงโทร. เรียกเพื่อนให้ไปขอกุญแจมาเปิดห้องพัก กว่าจะรู้ว่าเธอคนนั้นหลบหนีไปก็กินเวลาร่วมสิบนาที
...
“ตามหาให้เจอ ถ้าไม่เจอฉันจะไล่พวกนายออกทั้งหมด” เดนนิสสั่งเสียงเข้ม แทบขว้างโทรศัพท์ทิ้งเมื่อรู้ข่าวน่าผิดหวัง ผู้หญิงตัวเล็กๆ หงอๆ คนเดียวยังเอาไม่อยู่ แล้วอย่างนี้เขาจะไว้ใจคนพวกนี้ให้ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเขาต่อไปได้ยังไง เดนนิสยิ่งกว่าเจ็บใจเมื่อถูกเธอท้าทายเป็นครั้งที่สอง เขาไม่น่าใจอ่อนเพราะเห็นแก่น้ำเสียงอ้อนวอนของเธอเลย
ให้ตายสิ! อย่าให้เขาจับเธอได้อีกเชียว เจน โทมัส จะได้รู้ว่าผู้ชายอย่างเขาเธอไม่ควรจะมาล้อเล่นด้วย
ความคิดเห็น |
---|