16

ตอนที่ 16


หอมนวลนำผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดไปตามใบหน้าของคนป่วยซึ่งพิงหลังกับพนักเตียง สีหน้าบอกบุญไม่รับ เขาเคืองคนข้างกายที่รีบร้อนออกจากห้องไปโดยไม่สนใจเลยว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า ปล่อยให้นอนซมเพราะพิษไข้ แถมปวดหัวแทบระเบิด

                “ทำหน้าแบบนี้ทำไมคะ”

                “เปล่า...ฉันก็แค่คิดว่าถ้าหากคนที่ดูแลฉันเป็นลูกจันทร์ คงจะดีไม่น้อย”       

                ใจคิดอย่าง...แต่ปากพูดไปโน่น...

                หอมนวลมองน้ำในอ่างใบเล็ก อยากจะสาดน้ำในอ่างแก้วใส่หน้าคนไม่สบายนัก แต่ก็ได้แค่คิด...เพราะเธอคงถูกราชสีห์ฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ แน่

                เมื่อเห็นว่าหอมนวลไม่ตอบโต้ เขมราชจึงได้แต่ฮึดฮัดไม่พอใจ

                “อย่าหงุดหงิดเลยค่ะ ป่วยอยู่ เอาไว้หายเมื่อไหร่ จะบีบคอหอมให้ตายก็ไม่สายเกินไปหรอกนะคะ” หอมนวลบิดผ้าขนหนูก่อนจะเริ่มเช็ดที่คอเรื่อยมาจนถึงหน้าอก “ส่วนเรื่องให้พี่ลูกจันทร์มาดูแล ฝันไปก่อนเถอะค่ะ”

                คนฟังถึงกับนิ่วหน้า เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้หอมนวลยืนยันจะหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด และมั่นใจว่าเท่าที่รู้จักหอมนวลมา เธอไม่ใช่ผู้หญิงลักษณะชอบตื๊อผู้ชายแบบนี้ แต่ทำไม...เธอถึงได้ร้ายกาจยิ่งกว่านางร้ายในละครหลังข่าว แน่ละ...หอมนวลคนก่อนเป็นแค่บทบาทการแสดงฉากหนึ่งของเธอนี่นะ

                “นี่สินะ...หอมนวลตัวจริง” ชายหนุ่มยิ้มเยาะ

                “มีหอมนวลตัวปลอมด้วยหรือคะ”

                “มีสิ ก็เด็กหอมนวลใส่แว่นหนา แต่งตัวเชยๆ นั่นไงล่ะ ภาคหนึ่งของนางแม่มด”

                “คุณเขมท่าจะอ่านนิยายแฟนตาซีมากไปนะคะ หอมไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นสักหน่อย”

                พูดอะไรไปหอมนวลก็เถียงได้ทุกคำจนเขมราชหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก เขาปัดมือที่กำลังเช็ดตัวให้ออกอย่างไม่พอใจ พยาบาลจำเป็นได้แต่ถอนใจ ใช่ว่าเป็นเฉพาะเธอที่มีหลายภาค เขาก็ไม่แพ้กัน อย่างภาคที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็อสุรกายชัดๆ ปากร้าย ใจร้าย และชอบทำพฤติกรรมร้ายๆ อีกด้วย

                “อย่าปัดสิคะ เดี๋ยวน้ำก็หกพอดี”

                “ไม่ต้องมาดูแลฉัน”

                “ไม่ต้องได้ยังไงคะ ตัวร้อนแบบนี้ ถ้าไม่เช็ดตัวก็ไม่หายนะคะ อีกอย่าง...ลูกน้องคุณก็รอให้คุณสั่งงานพวกเขา รีบรักษาตัวให้หายดีกว่าค่ะ”

                “ฉันหายเองได้”

                คนป่วยยังดื้อแพ่ง เบี่ยงตัวหลบต่อต้านเหมือนเด็กเอาแต่ใจ หอมนวลไม่อยากเชื่อเลยว่าเขมราชจะงอแงเหมือนเด็กอายุสิบขวบได้ เธอจับตัวเขาล็อกแขนไว้ข้างหนึ่ง แล้วยื่นผ้าเปียกๆ ไปถูตัว ทว่าคนตัวโตนั้นแรงมหาศาล ขนาดว่าป่วยก็ยังขัดขืนได้ แต่นาทีนี้เป็นนาทีแห่งศักดิ์ศรี และหอมนวลจะไม่มีวันยอมแพ้

                เตียงแปรเปลี่ยนเป็นสนามรบย่อมๆ แต่ขณะที่กำลังยื้อกันไปมา เสียงของใครบางคนก็หยุดการต่อสู้ของคนทั้งคู่ได้ในทันที

                “ให้ลูกจันทร์ช่วยนะคะ”

                หอมนวลส่งผ้าขนหนูให้จันทร์นรี เธอไม่ได้สนใจว่าเขมราชจะรู้สึกอย่างไร เพราะรู้ว่าเขาคงยินดีถึงขั้นอาจหายจากอาการป่วยเลยก็ได้ สองตาจับจ้องพี่สาวอย่างสำรวจตรวจตรา

                จันทร์นรีท้องได้กี่เดือนแล้วนะ ทำไมถึงดูไม่เหมือนคนท้องเลย เปลี่ยนไปก็แค่ใบหน้าที่อิ่มเอิบผิดจากรูปหน้าเดิมซึ่งเรียวเป็นวีเชฟอยู่ตลอดเวลา

                เขมราชยิ้มบางๆ ให้แก่อดีตคนรักที่นั่งลงตรงที่เดิมของหอมนวล แม้ปากบอกว่าอยากให้คนดูแลเขาเป็นจันทร์นรี แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับไม่ได้ยินดีอย่างที่ควรจะเป็น...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มิหนำซ้ำดวงตาสีสนิมยังตวัดมองหอมนวลอยู่ตลอดเวลา

                “คุณเขมน่าสงสารจังเลยนะคะ ตัวร้อนจี๋เลยดูสิ”

                เขมราชหันมาสนใจจันทร์นรีอีกครั้ง เขาคว้ามือที่แตะหน้าผากมากุมไว้ แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

                “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ ลูกจันทร์มาดูแลแบบนี้ อีกไม่นานคงหาย”

                หอมนวลรู้ตัวก็คราวนี้...เธอไม่สามารถปลาบปลื้มไปกับคำหวานของเขาที่มีให้พี่สาวเธอได้อีกแล้ว ‘น้ำหวานจากดอกไม้’ กลายเป็นพิษร้ายที่ทำให้เจ็บปวดจนแทบทนฟังไม่ไหว แต่สองเท้ายังคงยืนหยัดอยู่ตรงนั้น เธอจำต้องเป็นก้างขัดขวางแผนการของพี่สาวให้ถึงที่สุด

                “ออกไปก่อนเถอะหอม พี่ดูแลคุณเขมเอง”

                คนถูกสั่งอึกอัก หันซ้ายหันขวาคิดหาข้ออ้างเพื่ออยู่ต่อ เขมราชป่วยอยู่ เขาคงไม่คิดทำอะไรอย่างว่าในเวลาแบบนี้ได้ แต่...หรือว่าทำได้กันนะ

                คนถูกไล่มัวแต่ทะเลาะกับตัวเองโดยไม่ทันสังเกตว่าเขมราชกำลังมองมาอย่างผู้ชนะ

                “ออกไปสิ ยืนอยู่ทำไม” เขมราชเอ่ยพร้อมส่งยิ้มหยันให้เธออีกด้วย เป็นรอยยิ้มที่เธอแสนเกลียดชัง

                ‘ก้าง’ หมดความอดทนก็นาทีนั้น หญิงสาวเดินออกจากห้อง บอกตัวเองว่าเธอไม่ได้อยากอยู่ขวางทางรักใคร ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อความถูกต้อง เธอไม่ได้หึงหวงอะไรเขา ไม่ได้รู้สึกอะไรหากเขมราชกับจันทร์นรีจะอยู่กันสองต่อสองในห้องนอนของเธอกับเขา

                เธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยจริงๆ

                “ป้าจันเป็ง” หอมนวลเดินปึงปังเข้าไปในครัว วันนี้กรองแก้วไม่อยู่ คงออกไปดูแลฟาร์มแทนเขมราชตั้งแต่เช้า ไม่เช่นนั้นจันทร์นรีคงไม่สามารถเข้าไปหาเขมราชได้ถึงในห้อง

                “มีอะหยังเจ้า”

                “ป้าจันเป็งเอาข้าวไปให้คุณเขมหน่อยสิจ๊ะ”

                “ป้อเลี้ยงเปิ้นกิ๋นไปบ่ตันได้สองจั้วโมงเตื้อ” เพราะก่อนหอมนวลจะกลับมาตนเพิ่งนำข้าวต้มไปให้แท้ๆ และเขมราชก็กินเกือบหมดชาม

                “เอาไปให้เถอะป้า คนป่วยก็กินเยอะแบบนี้แหละ”

                หญิงผู้เป็นแม่ครัวงงหนัก ทว่าก็ยอมทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายแต่โดยดี 

                “คุณหอมเอาไปหื้อป้อเลี้ยงเองก๋า ป้าต้องยะอย่างอื่นแหม” ป้าจันเป็งพูดไปก็จัดอาหารไป ไม่ได้ทันมองว่านายหญิงหน้าตาบึ้งตึงแค่ไหน

                “ไม่หรอกป้า เขาไม่อยากให้ฉันดูแลน่ะ เสร็จหรือยังคะป้า เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดี”

                หอมนวลร้อนใจ มองนาฬิกาข้อมือแล้วคำนวณว่าตนทิ้งให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันนานแค่ไหนแล้ว นานพอที่จะทำอะไรแบบนั้นจนถึงขั้นท้องได้หรือเปล่า อยู่ดีๆ ก็เจ็บที่ใจ ไม่รู้ว่าเธอห่วงเขมราช หรือเธอกำลังหึงกันแน่

                “บ่ทัน ทำหยังบ่ทันเจ้า ป้อเลี้ยงจะไปไหน”

                “ไม่ไปไหนหรอกจ้ะป้าจันเป็ง เร็วๆ เข้าเถอะ”

                “กำลังยะอยู่เจ้า กำหนึ่งเต๊อะ”

                “เร็วๆ สิจ๊ะป้า”

                คนร้อนใจรีบปรี่เข้าไปช่วย ทำเอาจันเป็งงุนงงไปหมด พ่อเลี้ยงป่วยอยู่ไม่น่าจะกินอะไรได้เยอะ หรือว่าป่วยจนเลอะเลือน ลืมว่าตัวเองเพิ่งกินไป

 

                ภายในห้องนอน เขมราชคว้าเสื้อมาสวมโดยไม่ยอมให้จันทร์นรีได้เช็ดตัวให้อย่างที่พูด จันทร์นรีได้แต่มองการกระทำของเขาด้วยความข้องใจ แต่จะอย่างไรก็ช่าง...เธอไม่ได้ตั้งใจมาดูแลเขาจริงๆ เพียงแต่มาเพราะธุระสำคัญ

                “หอมนวลเช็ดตัวให้ผมเรียบร้อยพอดีเลยครับ”

                “คุณเขมกับหอมดูมีความสุขกันดีนะคะ” จันทร์นรีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า เธอคงรอเขาอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะท้องเริ่มโตขึ้นทุกวัน และอีกไม่นานเขมราชจะต้องรู้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอยอมไม่ได้ สู้เธอและเขาตัดขาดจากกันตลอดชีวิต ยังดีกว่าต้องเห็นหน้ากันโดยที่เขามองเธอด้วยสายตาหยามเหยียด

                “มีความสุขอะไรล่ะครับ เกลียดจะตาย” เขมราชพูดตามที่คิด แต่ไม่ได้พูดตามความรู้สึก

                จันทร์นรียังนิ่งเงียบ ใบหน้าสวยจัดเศร้าหมองจนเขมราชหดหู่ ทว่าเขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร

                “คุณเขมคะ ลูกจันทร์อยากคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั้ยคะ” จันทร์นรีเชิดหน้าขึ้นด้วยความมาดมั่น

                เขมราชมองอิริยาบถนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังจะพูดเรื่องสำคัญ หญิงสาวมักทำกิริยาแบบนี้เมื่อเธอต้องการเป็นผู้ควบคุมการสนทนา

 

                จันเป็งเบี่ยงถาดอาหารหลบแทบไม่ทัน เมื่อใครบางคนวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาจากห้องนอนเจ้านายหนุ่ม สายตาเพ่งมองตามจนร่างนั้นหายลับไปที่บันได เมื่อแน่ชัดว่าเป็นใครหญิงสูงวัยถึงกับแทบเป็นลม

                “พี่ลูกจันทร์”

                หอมนวลเห็นเข้าพอดีจึงเรียกไว้ ทว่าร่างระหงกลับไม่ยอมหยุด จันทร์นรีขึ้นรถแล้วเร่งเครื่องออกไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกของใครทั้งสิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่าตามไม่ทัน หญิงสาวจึงพุ่งเป้าไปที่คนในห้องนอน

                “คุณเขม คุณทำอะไรพี่ลูกจันทร์คะ” หอมนวลโพล่งถามทันทีเมื่อเห็นเขมราชยืนคว้างอยู่กลางห้อง 

                คนถูกถามถึงกับขบกราม แววตากร้าวมองเขม็งมายังร่างบาง ราวกับจะสังหารเธอให้ตายถ้าทำได้

                หอมนวลตกตะลึงเมื่อได้เห็นแววตาที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด เกลียดชัง และเฉยชาปะปนกัน และอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลพรากออกมาโดยที่เขาไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ

                เขมราชเกลียดเธอ เป็นความเกลียดที่น่ากลัวยิ่งกว่าการต่อว่าด่าทอ และเธอรู้ว่ามันเป็นความเกลียดที่ไม่มีวันลบล้างให้จางหายได้   

            “คุณเขม”

                “ฉันน่ะเหรอทำอะไรลูกจันทร์ เธอต่างหากที่ทำ เธอเป็นคนวางแผนทุกอย่างไม่ใช่เหรอ”

                “หอมไม่ได้วางแผนอะไรนะคะ คุณเขมคิดให้ดีๆ สิคะ”

                เขมราชหัวเราะทั้งที่นัยน์ตาแสดงชัดว่า ไม่ขำ

                เขาเดินเข้ามาใกล้จนหอมนวลเห็นว่าในมือเขาถือสมุดบันทึกของเธอ และเดาได้เลยว่าเขาคงอ่านมันไปแล้ว “เธอรักฉันมานานแค่ไหนแล้ว”

                คำถามของเขมราชทำให้หอมนวลตกตะลึง และแววตาของเขาก็ทำให้รู้ว่าเขาไม่พอใจ “หอมไม่ได้รักค่ะ”

                “คนอย่างเธอนี่มันจอมโกหกจริงๆ เลยนะ ถ้าไม่ได้รักฉัน แล้วทำไมในห้องนอนเธอถึงมีรูปฉัน ในสมุดบันทึกนี่ก็มีรูปฉันเยอะแยะเต็มไปหมด ข้อความปัญญาอ่อนนี่อีก อะไรนะ” เขมราชพลิกสมุดเล่มเล็กในมือ “คุณเขมน่ารัก แค่ได้มอง ฉันก็มีความสุขมากแล้ว”

                เขมราชช้อนตามอง ทำเหมือนว่าเธอเป็นตัวประหลาด

                “รู้มั้ย...ฉันอาจจะยินดีก็ได้นะ ถ้าเธอไม่หลงฉันจนถึงขั้นวางแผนเลวๆ เพื่อให้ได้ตัวฉัน ฉันคงปลาบปลื้มยินดีที่มีผู้หญิงคนหนึ่งรักฉันมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้...ฉันรู้สึกรังเกียจ เหมือนว่ากำลังมีผู้หญิงโรคจิตมาคอยตามรังควานมากกว่า”

                หอมนวลพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เสียงของตัวเองสั่น แต่การพูดทั้งที่ร้องไห้นั้นยากยิ่งที่จะเป็นปกติได้  “มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยนะคะ”

                “เธอจะบอกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นสิ เธอหลอกฉันว่าลูกจันทร์แต่งงาน ฉันเสียใจแล้วเธอก็มาอยู่กับฉันพอดีในวันที่ฉันเมาขาดสติ ฉันมีอะไรกับเธอและจำได้ว่าเธอไม่ได้ขัดขืนเลยสักแอะ เช้ามาเราก็ตกลงจดทะเบียนสมรสกัน เหมือนฉากในละครมากกว่าบังเอิญนะเธอว่ามั้ย แล้วเธอไงล่ะที่เป็นคนเขียนบท หึ...สับสนมาตั้งนานนะ ว่าเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะอะไร” เขมราชหลุบตามองสมุดสีเทาในมือ “จนได้รู้ว่า...คำตอบทั้งหมดมันอยู่ในสมุดบันทึกเล่มนี้นี่เอง”

                หอมนวลรู้สึกว่าเทวดากำลังเล่นตลกกับเธอ เขมราชกำลังเข้าใจผิด และเหตุการณ์ทุกอย่างก็เหมาะเจาะเหมือนจงใจ เธอหมดปัญญาที่จะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้เขาเชื่อ

                “หอมขอคืนค่ะ” ทว่าดูเหมือนเธอจะไม่มีวันได้เห็นมันอีกต่อไป

                “ฉันก็ไม่ได้อยากเก็บไว้หรอกนะ ของไร้สาระประเภทนี้ แต่ฉันต้องใช้มันเพื่อเป็นหลักฐานว่าเธอจงใจทำทุกอย่างให้ฉันกับลูกจันทร์ผิดใจกัน”

                เขมราชพยายามทรงตัว ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวเพราะพิษไข้ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง แต่ยังถือสมุดบันทึกไว้แน่น ครั้งแรกที่ได้เห็นสมุดบันทึกเล่มนี้ เขาไม่แน่ใจว่ารู้สึกอย่างไร แต่พอได้มีเวลาคิดทบทวน จึงได้รู้ว่าหอมนวลไร้ความจริงใจ ในขณะที่เขามอบความไว้วางใจให้ไปจนหมด

                นั่นทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่หอมนวลแสดงต่อเขา มีอะไรที่เป็นความจริงบ้าง หรือทุกอย่าง...มันเป็นแค่การแสดงของเธอเพื่อให้เขาตกหลุมพราง

                และที่น่าเจ็บใจ...เขาดันตกหลุมพรางนั่นเข้าให้แล้วจริงๆ

                หอมนวลคิดอะไรไม่ออก คำพูดของเขมราชทำให้สมองขาวโพลนไปหมด ภาพตรงหน้าก็เบลอ ขนาดที่เขาเดินออกจากห้องไปแล้วเธอยังไม่รู้สึกตัว

                นี่สินะ...สิ่งที่เธอกลัวมาตลอด...สุดท้ายก็เกิดขึ้นแล้วในวันนี้

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น