18

ตอนที่ 18


 

             ผมมีโครงการคุ้มครองพยาน ขอเพียงแค่คุณไปกับผม ผมจะจัดการคนพวกนี้เอง” โคลินยื่นข้อเสนอ และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มลังเลทันที เธอจะไว้ใจคนพวกนี้ได้หรือ ในเมื่อแม้แต่คนที่เธอไว้ใจมากที่สุดยังหักหลังเธอได้ นั่นเท่ากับตอนนี้เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

เวลาผ่านไปอีกคืน และตอนนี้ก็เช้าแล้ว หญิงสาวร่างบอบบางพลิกตัวบนโซฟาเบดที่มีพื้นที่จำกัดอย่างลำบาก ทำให้คนที่หลับสนิทค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปรอบตัว เธอยังปลอดภัยและมีชีวิตอยู่ที่บ้านของเดฟ การที่ต้องเจอเรื่องร้ายแรงหลายอย่างภายในเวลาเพียงไม่กี่วันทำให้เธอเริ่มแกร่งขึ้น ปกติเธอก็ไว้ใจคนอื่นยากอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องพวกนี้ก็ยิ่งทำให้เธอมองโลกในแง่ร้ายมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก

            แมคเคนซี่ลุกขึ้นนั่งทำให้ผ้าห่มที่คลุมกายมาทั้งคืนตกลงไปกองอยู่ที่เอว เธอหรี่ตาลงนิดๆ ด้วยความสงสัย เพราะเมื่อคืนตอนนอนเธอไม่ได้เอาผ้าห่มออกมาจากตู้เก็บของของเดฟด้วยซ้ำ แต่ตื่นเช้ามาผ้าห่มกลับมาอยู่บนตัวเธอเสียแล้ว

            นักศึกษาสาวลุกขึ้นพับผ้าห่มนำไปเก็บให้เข้าที่ จัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วจึงเริ่มรู้สึกตัวว่าบ้านเงียบเกินไป เดฟไม่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเดินหาทั้งในครัวหรือด้านหลังตัวบ้านก็ไม่เจอ เจอแต่โน้ตที่แปะอยู่บนตู้เย็นว่าออกไปวิ่งที่ริมแม่น้ำฮัดสัน ให้เธอกินมื้อเช้าได้เลย

            แต่เช้าอย่างนี้ใครจะกินลง แถมไม่ได้อาบน้ำมาสองวันแล้ว เมื่อวานก็ยังวิ่งหนีคนร้ายจนเหงื่อท่วมตัวอีกต่างหาก

            คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ พาลไปถึงเดฟที่ลักพาตัวเธอมา แต่ทำไมไม่หาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนด้วย เธอจึงตัดสินใจออกจากบ้านแล้วเดินไปยังริมแม่น้ำฮัดสันที่อยู่ไม่ไกลมาก เดินไปไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถึง ยอมรับเลยว่าเธอชอบบ้านของเดฟก็ตรงที่ทำเลดีเหลือเกิน ใกล้แม่น้ำ และสวนสาธารณะเล็กๆ ริมแม่น้ำก็เป็นที่พักผ่อนชมพระอาทิตย์ได้ แต่เธอไม่มีโอกาสนั้นเลยนี่สิ ต้องหนีตาย จนต้องอยู่แต่ในบ้านไม่มีโอกาสออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์เลยสักครั้ง

            เพียงแค่เดินออกจากบ้านไปตามถนนมุ่งตรงสู่ริมแม่น้ำฮัดสัน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่สวมแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นสำหรับออกกำลังกายก็ปรากฏในสายตา เดฟกำลังวอร์มดาวน์อยู่ที่ริมแม่น้ำและหันมาหาเธอพอดี ใบหน้าคมคายที่เต็มไปด้วยหนวดเคราบึ้งตึงทันที พอเดินเข้าไปใกล้ เธอก็ถูกเขาดุเสียงดัง

            คุณไม่ควรเดินออกมาตามลำพัง

            คนถูกดุชะงักแล้วชักสีหน้าไม่พอใจ

            ฉันไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ามาสองวันแล้ว

            เดฟชะงักบ้าง แววตาเขาอ่อนลงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิด ผมรีบๆ เลยยังไม่ได้หามาให้

            ฉันอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใจจะขาด” เธอรู้สึกว่าไม่มีครั้งไหนที่เธอจะรู้สึกสกปรกเท่าครั้งนี้เลย วันก่อนถูกลักพาตัว ตื่นมาเดฟก็ออกไปที่อื่น ส่วนเธอต้องหนีคนร้าย พอเขากลับมาก็มัวแต่คิดมากจนไม่ทันบอกเขาอีก ถ้าวันนี้เธอไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วละก็...เน่าแน่ๆ

            มีเสื้อผ้าน้องสาวผมอยู่ในห้องเก็บของ ถ้าซักแล้วก็น่าจะใส่ได้” เขาพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน ทั้งยังมีท่าทีเปลี่ยนไปทันทีที่พูดถึงน้องสาว

            ทำไมไม่ออกไปซื้อเลยล่ะคะ

            ก็ทั้งคุณทั้งผมยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย แล้วอีกอย่างนะ...ผมจากเออร์วิงตันไปนานมาก จะหาร้านเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเกิดไม่เจอก็อาจจะต้องไปเมืองอื่น คุณใส่ของน้องสาวผมไปก่อนดีกว่า

            แมคเคนซี่พยักหน้าแล้วมองชายตรงหน้าด้วยความสนใจ ปกติแล้วเดฟจะเป็นคนดิบๆ แข็งกร้าว และมีความเป็นผู้ชายเต็มเปี่ยม ทว่าเมื่อพูดถึงน้องสาวเขาดูอ่อนลงทันที

            ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณมีน้องสาว

            ลูกติดแม่เลี้ยงน่ะ

            คุณไม่เคยพูดถึงเลย เธอไปอยู่เสียที่ไหนล่ะคะ

            เธอตายแล้ว” เดฟบอกเสียงเรียบแล้วถอนหายใจยาว อย่าเพิ่งคิดว่าผมเอาเสื้อผ้าคนตายมาให้คุณนะแม็กกี้ ตั้งแต่มารีน่าตาย เราก็ปฏิบัติราวกับเธอยังอยู่เสมอ เสื้อผ้าของเธอก็ยังเก็บไว้อย่างดีด้วย ใช้แก้ขัดไปก่อน ผมจะพาคุณไปหาซื้อใหม่วันนี้แหละ

            สาวคนฟังพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรต่อ ทั้งที่ก่อนหน้าเธอมีอะไรจะพูดกับเขาตั้งเยอะ แต่พอเห็นท่าทีของเดฟยามพูดถึงน้องสาวต่างสายเลือดแล้วเธอก็ตื้อไปหมด ท่าทางเขารักน้องสาวต่างสายเลือดคนนั้นมาก ผิดกับบางคน ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็น พี่ชาย’ แม้ว่าจะต่างสายเลือดกันก็เถอะ แต่ทำไมไม่ทะนุถนอมน้องสาวเหมือนอย่างเดฟเลย

            แมคเคนซี่นั่งลงบนเก้าอี้สวนสาธารณะริมแม่น้ำ ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเบาๆ ทิ้งเรื่องพวกนั้นออกไป พยายามไม่คิดถึงอดีตอีก ดีที่เดฟก็กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ทันสังเกตเธอเช่นกัน

            เดฟนั่งลงข้างแมคเคนซี่บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน หันมองหน้าเธอแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ผมพยายามติดต่อเพื่อนเรื่องคนที่ตามล่าคุณ ภายในวันนี้น่าจะคืบหน้า ผมจะบอกคุณทั้งหมดว่าเรื่องเป็นมายังไงกันแน่

            ฉันจะรอค่ะ” ดวงตาคู่หวานอมเศร้าทอดมองไปยังแม่น้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้า เห็นสายน้ำที่ไหลผ่านไปอย่างต่อเนื่องแล้วก็อดคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองไม่ได้ ป่วยการที่จะเที่ยวโทษคนนั้นคนนี้ ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดำเนินต่อไป สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับฉันใด เวลาก็ย้อนกลับคืนมาไม่ได้ฉันนั้น

            แมคเคนซี่คิดอย่างปลงตก แต่พอหันไปหาเดฟก็พบว่าเขาจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มเม้มปาก สีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังตัดสินใจ

            ผมขอโทษ” เขาพูดออกมาในที่สุด

            คนฟังได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่าเขาขอโทษเธอเรื่องอะไร เรื่องทั้งหมดนี้ หรือว่าเรื่องที่เขาปิดบังเธอ

            ขอโทษสำหรับทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ดุคุณเมื่อวาน ทั้งที่คุณกำลังเสียขวัญ” น้ำเสียงของเขายังติดกระด้างเหมือนเดิม ทว่าสายตาที่อ่อนโยนลงและความรู้สึกผิดในแววตาของเขาก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาพูดจากความรู้สึกที่แท้จริง

            ความน้อยใจที่กัดกินใจมาทั้งคืนค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ก็ยังหลงเหลืออยู่บ้างเพราะเขามีเรื่องปิดบังเธออยู่ ทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่มากเสียด้วย

            ไม่เป็นไรค่ะ

            ไปเถอะ แดดเริ่มแรงแล้ว คุณควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เสียที ถ้าไม่รังเกียจชุดน้องสาวผมนะ

            ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้รังเกียจ” แมคเคนซี่ลุกตามเดฟไปอย่างว่าง่าย เขาเดินให้ช้าลงอีกนิดเพื่อให้เธอเดินตามขึ้นไปตีคู่กับเขาทัน

            ถ้าจบเรื่องพวกนี้แล้วคุณจะทำอะไร

            คะ?

            ถ้าไม่มีพวกบ้านั่นตามฆ่าคุณน่ะ คุณจะทำอะไรต่อไป

            ก็กลับไปเรียนไงคะ” กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างที่เคยทำ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะเธอได้เสียเพื่อนสังเวยให้พวกคนร้ายไปแล้ว

            นั่นสินะ

            แล้วคุณล่ะคะ

            ผมน่ะหรือ” เดฟเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอจะอยากรู้เรื่องของเขาด้วย กลับไปทำงานไง

            งานเฝ้าห้องให้เจ้านายน่ะหรือคะ” เธอลองเสี่ยงถามทั้งที่มั่นใจไปมากเกินครึ่งว่าเขาไม่ได้เป็นแค่คนเฝ้าห้องเจ้านายธรรมดาๆ แน่

            ไม่ใช่หรอก นั่นแค่พาร์ตไทม์

            คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวชะงัก ช้อนสายตาขึ้นมองเขาด้วยสายตาค้นคว้า แล้วถามต่อไปทั้งที่ใจก็ยังกลัวคำตอบ คุณเป็นใครกันแน่คะเดฟ

            ไม่สำคัญหรอกว่าผมเป็นใคร” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ สองมือประคองใบหน้าอ่อนหวานของคนตรงหน้าไว้ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยลงบนแก้มนวลเบาๆ แล้วจึงเอ่ยคำพูดที่ทำลายกำแพงในหัวใจคนฟังลงทันที

            แต่จากนี้ไปผมคือคนของคุณ

            หลังจากแดเนียลติดสินบนเด็กๆ ให้เตะลูกบอลที่มีข้อความชี้นำทางติดต่อกับเดฟอัดเข้าบ้านของพวกมาเฟียกัสซาโนแล้ว เขาก็ยังไม่ไปไหน ยืนหลบมุมมองผลงานตัวเองจนกระทั่งแน่ใจว่า ลอเรนโซ กัสซาโน ฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าติดต่อเดฟได้ที่ไหนแล้ว แดเนียลจึงเดินทางกลับอะพาร์ตเมนต์ที่บรุกลินไฮ

            แดเนียลตรงมายังคอมพิวเตอร์ที่เปิดโปรแกรมเจาะฐานข้อมูลส่วนตัวของผู้ต้องสงสัยส่วนตัวของเขา แล้วก็พบว่าโปรแกรมทำงานเรียบร้อยแล้ว และพบจุดที่น่าสงสัยมากมาย

            ที่ว่าลูกน้องตายเพราะตามล่าคดีของพวก ลอเรนโซ กัสซาโน แต่ทำไมถึงปิดคดีเร็วนัก ไม่สมเหตุสมผลเลย...

            พฤติกรรมผิดปกติชวนให้สงสัยนี้ไม่อาจเล็ดลอดสายตาไปได้ แดเนียลตัดสินใจเข้าไปรื้อค้นข้อมูลการติดต่อเข้าออกของ โคลินและลูกทีม ซึ่งบรรดาลูกทีมทั้งสามคนไม่มีอะไรน่าสงสัย...แต่โคลินนี่สิ

            มีร่องรอยการติดต่อกับพวกมาเฟียรายเล็กๆ อย่างพวกเดริตโต แม้ว่าจะพยายามลบข้อมูลทิ้ง แต่แดเนียลก็กู้คืนมาได้ทั้งหมด เขาค้นดูอย่างละเอียดแล้วเจอจุดที่น่าสงสัยบางอย่าง เมื่อก่อนพวกเดริตโตขึ้นชื่อว่าเป็นมาเฟียกลุ่มเล็กๆ ที่มีอิทธิพลในหมู่พวกหัวขโมยและคนไร้บ้าน เรียกเก็บส่วยและค่าคุ้มครองนิดหน่อย จนกระทั่งช่วงที่มีการกวาดล้าง จากที่เคยต่อต้านตำรวจและเอฟบีไออย่างถึงที่สุด แต่อยู่ๆ ก็กลับยอมอ่อนลงและร่วมมือกับเอฟบีไอ กลายเป็นคนใจซื่อมือสะอาดเสียอย่างนั้น

            แต่ขึ้นชื่อว่ามาเฟีย อย่างไรเสียก็ไม่มีวันมือสะอาดไปได้...

            เสียงรัวคีย์บอร์ดยังดังต่อเนื่อง แดเนียลใช้โปรแกรมเจาะผ่านระบบความปลอดภัยเข้าไปยังฐานข้อมูลของพวกเดริตโต และเจอที่อยู่ของพวกนั้นในที่สุด แต่เขายังไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม รอให้แน่ใจก่อนว่าพวกโคลิน กัสซาโน และพวกเดริตโตมีอะไรเกี่ยวข้องกันมากกว่านี้ ไม่แน่เขาอาจจะชวนเดฟไปทักทายพวกนั้นดูก็ได้

            ชายหนุ่มผิวปากมองโปรแกรมที่ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง แล้วหันไปคว้าแฮมเบอร์เกอร์จากร้านดังที่แวะซื้อระหว่างทางมากินแทนเมื่อเช้า แน่นอนว่าถ้าเมลิสสา ภรรยาของเขามาเห็นแล้วละก็โดนเฉ่งแน่ๆ เธอไม่ชอบให้เขากินฟาสต์ฟูดส์ทั้งที่คนอื่นก็กินกันทั้งอเมริกา ดังนั้นช่วงเวลาที่เธอไม่อยู่นี่ละ ช่วงเวลาสวรรค์สรรค์สร้างทีเดียว

            แดเนียลนั่งกระดิกเท้าฟังเพลงพลางกินแฮมเบอร์เกอร์จนหมดจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปกินน้ำในครัว เปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอคำสั่งประกาศิตจากภรรยาเรื่องอาหารเช้า ทำเอาอดีตหน่วยรบพิเศษหนุ่มถึงกับสะดุ้ง และเริ่มสงสัยว่าเมียเขาติดกล้องวงจรปิดในบ้านโดยไม่บอกเขาหรือไง!

            นาทีนี้โกหกได้เป็นต้องโกหกไว้ก่อน แดเนียลส่งข้อความตอบกลับไปว่าสั่งมื้อเช้าจากร้านอาหารเพื่อสุขภาพมากินเรียบร้อย แล้ว และเดินกลับมานั่งมองโปรแกรมที่ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ได้แฟ้มคดีอาชญากรรมทั้งหมดตั้งแต่อดีตของพวกเดริตโตจากเอฟบีไอมาอยู่ในมือ และ...

            เวรละ!

            แดเนียลเจาะระบบของพวกเอฟบีไอเข้าไปและพบว่าเพิ่งมีคดีตามคุกคามผู้หญิงคนหนึ่งที่บ้านที่เออร์วิงตัน และเป็นบ้านของเดฟพอดี เมื่อเทียบภาพผู้ต้องสงสัยกับคำให้การของ แมคเคนซี่ กรีน แล้ว มันก็คือสองคนที่ตามล่าเธอตั้งแต่แรกนั่นเอง

            เมื่อแน่ใจแล้วแดเนียลก็พยายามติดต่อกับเดฟทันที เขาโทร. แล้วโทร. เล่า แต่เดฟก็ไม่รับสาย แต่ระหว่างนั้นก็ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ เมื่อได้ภาพใบหน้าคนร้ายที่ชัดเจนแล้วแดเนียลก็เทียบกับข้อมูลในประวัติแฟ้มอาชญากรรม และพบว่าพวกนี้เคยเป็นลูกไล่พวกเดริตโตมาตั้งแต่วัยรุ่น และถูกเอฟบีไอจับได้เมื่อหลายปีก่อน

            ไม่ธรรมดาแล้ว...

            อดีตพลสื่อสารหนุ่มรวบรวมข้อมูลที่ได้ถ่ายโอนใส่แลปทอปเครื่องประจำที่ใช้เวลาออกทำงาน เก็บข้าวของลงเป้ทหารทั้งหมดแล้วพยายามติดต่อเดฟ แต่ก็เหมือนเดิม คือไม่มีใครรับสายเลย

            โว้ย!” แดเนียลตะคอกใส่โทรศัพท์ ทีเรื่องใหญ่ติดต่ออย่างไรก็ไม่ได้เสียที เขาแต่ไม่รออีกแล้ว รีบออกจากบ้านแล้วตรงไปยังเออร์วิงตันทันที

           

            แมคเคนซี่ทำอาหารเช้าอย่างเลื่อนลอย ส่วนเดฟก็ไปค้นเสื้อผ้าของน้องสาวมาซักและอบแห้งให้ ระหว่างนั้นเธอก็ลอบสังเกตเขาไปด้วย ท่าทางเขาคงไม่เคยทำงานบ้านเลย แค่จะซักผ้ายังเผลอทุบเครื่องซักและอบผ้าไปหลายครั้งกว่าจะใช้ได้

            เรียบร้อยแล้วแม็กกี้ คุณเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย

            เสียงเขาดังเข้ามาใกล้จนหญิงสาวต้องแสร้งทำเป็นวุ่นวายที่หน้าเตา ก่อนจะหันไปหาเขาแล้วพยักหน้ารับรู้ กระนั้นก็ยังไม่กล้าสบตาเขานานๆ ทั้งหมดก็เป็นเพราะคำพูดของเดฟ

            ต่อจากนี้ไปผมเป็นคนของคุณ

            ประโยคนั้นของเขาทำให้หัวใจคนฟังเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ มาจนถึงตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวาบ สองแก้มแดงปลั่ง เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาอีกเลย

            ฝากย่างเนื้อด้วยนะคะ

            ตามสบายเลยแม็กกี้ ผมทำได้อยู่แล้ว

คนฟังชะงักไปนิดๆ แต่ก็ยังไม่กล้ามองหน้าเขาเต็มตา แล้วรีบเดินออกจากห้องครัวไปทันที

            แมคเคนซี่ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรก็กลับลงมากินมื้อเช้ากับเดฟ เขามีท่าทางตะลึงไปนิดๆ เมื่อเห็นเธอสวมเสื้อผ้าน้องสาวของเขาได้พอดิบพอดี

            ท่าทางฉันกับน้องสาวคุณจะรูปร่างพอๆ กัน” คนถูกจ้องยิ้มเจื่อน ตรงไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงทันที

            มารีน่าจากไปตอนอายุน้อยกว่าคุณไม่เท่าไหร่” เสียงของเดฟเข้มขึ้นราวกับไม่อยากพูดเรื่องมารีน่าต่อ แมคเคนซี่จึงเงียบไปเช่นกัน

            ฉันว่ามันเย็นหมดแล้ว จะอุ่นสักหน่อยไหมคะ

            ไม่ต้องหรอกแม็กกี้ ผมเพิ่งเอาลงจากเตาเมื่อกี้เอง กินเถอะ

            อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหมคะ” เท่าที่จำได้เดฟกินจุมาก แค่แพนเค้ก เบคอน เนื้อย่าง ออมเล็ตกับไส้กรอก คงได้ไม่ถึงครึ่งกระเพาะของเขา

            พอแล้วๆ ตอนเช้าผมไม่ค่อยกินอะไรเยอะหรอก หนักมื้อกลางวันมากกว่า” เขาชวนคุยไปด้วย มองจานอาหารเช้าตรงหน้าแมคเคนซี่ที่น้อยกว่าเป็นครึ่งเมื่อเทียบกับจานของเขา แล้วถามต่อไปว่า พอกินหรือ

            ฉันไม่ค่อยกินมื้อเช้า บางทีก่อนไปเรียนก็กินแค่ซีเรียลเอง

            กินเยอะๆ” เขายกไส้กรอกและตัดแบ่งเนื้ออบให้ แต่แมคเคนซี่ส่ายหน้าแล้วยกจานหนีอย่างดื้อดึง

            คุณกินไปเลย

            พอกินแน่นะ” ชายหนุ่มยังมิวายถามซ้ำ แววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยทำให้คนมองประหม่าขึ้นมาทันที

            ฉันไม่ได้ตัวใหญ่แบบคุณนะ

            เดฟหัวเราะแล้วส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็ไม่เถียง ทั้งยังนั่งกินมื้อเช้าจนไม่มีอะไรเหลือ แมคเคนซี่จึงอาสาล้างจานในขณะที่เดฟบอกว่าจะออกไปหาซื้อเสื้อผ้าให้

            ฉันไม่ต้องไปหรือคะ” ซื้อเสื้อผ้าให้เธอ เธอก็ต้องไปดูด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ เขาจะมารู้ขนาดรูปร่างเธอได้อย่างไรกัน

            อยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยกว่า

            ทำไมล่ะคะ” สาวคนฟังขมวดคิ้ว เมื่อวานเขาทิ้งเธอไว้ตามลำพังแล้วก็เกิดเรื่องจริงๆ แล้วถ้าวันนี้ซ้ำรอยเดิมกับเมื่อวานล่ะ

            คุณบอกว่าที่นี่มีตำรวจเฝ้าอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วอีกอย่างถ้าออกไปแล้วโดนซุ่มโจมตีล่ะ มันต้องคิดว่าผมพาคุณไปด้วยทุกที่แน่ สู้อยู่ในนี้ดีกว่า” พูดจบแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ของเธอคืนให้ รวมทั้งกระเป๋าสะพายของเธอด้วย ผมจะบอกให้โจมาอยู่เป็นเพื่อนอีกที

            ก็ได้ค่ะ

            อยู่แต่ในบ้านนะแม็กกี้

            ถ้ามีคนเคาะประตูเรียก ฉันเปิดให้ได้ใช่ไหมคะ

            ได้สิ เครื่องชอร์ตไฟฟ้าก็อยู่ในกระเป๋า เล็งแล้วชอร์ตให้ตรงล่ะ

            ค่ะ” แมคเคนซี่พยักหน้าอย่างเข้าใจที่เขาบอกทุกอย่าง แม้ว่าลึกๆ ในใจแล้วไม่อยากให้เขาไปเลย ไม่อยากต้องอยู่ตามลำพัง แต่ก็ไม่กล้าขอร้องเขา

            หญิงสาวเดินไปส่งเขาที่หน้าบ้าน มองเดฟสวมแจ็กเกตหนัง หมวกกันน็อก และถุงมือ ก่อนจะก้าวขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์ไทรอัมพ์  สแครมเบลอร์คันเก่งของเขาแล้วขับออกไป

            นักศึกษาสาวยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเดฟลับสายตาแล้วจึงเดินกลับเข้าบ้าน นำจานใส่เครื่องล้างจานจนเรียบร้อยแล้วจึงใช้ผ้าเช็ดและเก็บเข้าที่ แล้วเริ่มเก็บกวาดของใช้ไม่เป็นระเบียบที่ห้องนั่งเล่น โดยเฉพาะร่องรอยที่เดฟนอนเมื่อคืน เขาไม่เก็บแม้กระทั่งผ้าปูที่นอนด้วยซ้ำ แค่ม้วนๆ แล้วกองไว้บนเก้าอี้มุมห้อง ไร้ความมีระเบียบอย่างสิ้นเชิง

            กลิ่นอับจากผ้าห่มของเดฟทำให้หญิงสาวย่นจมูก ท่าทางจะเก่าเก็บจริงๆ เห็นดังนั้นจึงเอาไปลงเครื่องซักผ้าให้หมด ระหว่างรอเครื่องซักผ้าทำงาน เธอก็ทำความสะอาดห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของเธอกับเดฟเป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงนำไปตากรับแสงแดดหลังบ้าน

            ก๊อก ก๊อก...

            เสียงเคาะประตูดังสลับกับเสียงสัญญาณที่หน้าประตูดังขึ้นหลายครั้ง เรียกความสนใจจากหญิงสาวได้ในที่สุด แมคเคนซี่หรี่ตาลงนิดๆ จ้องบานประตูอย่างหวาดระแวงว่าจะเป็นพวกคนร้ายอีกหรือไม่

            ความคิดนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นด้วยความหวาดกลัว แมคเคนซี่เผลอสะดุ้งแล้วหอบหายใจแรง แต่พอตั้งสติได้ เธอก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปรับจังหวะการหายใจให้กลับมาเป็นปกติ แล้วเดินไปหยิบเครื่องชอร์ตไฟฟ้าที่อยู่ในกระเป๋าสะพายมาถือไว้ให้มั่น จากนั้นจึงเดินไปเปิดประตู

            ผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังประตู แมคเคนซี่จำได้ว่าเธอเป็นพนักงานแคชเชียร์อยู่ในมินิมาร์ตที่เธอไปขอความช่วยเหลือเมื่อคราวถูกคนร้ายไล่ตาม

            เดฟไม่อยู่ค่ะ” นักศึกษารีบบอกทันทีเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของผู้มาเยือน ถ้ามีอะไรก็บอกไว้ได้นะคะ ฉันจะบอกเขาให้ค่ะ

            ฉันไม่มีธุระอะไรกับคนสารเลวพรรค์นั้นหรอก

            อะ...อะไรนะคะ คุณเรียกเขาว่า...” นักศึกษาสาวขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ท่าทางผู้หญิงผมบลอนด์คนนี้จะเกลียดเดฟมาก สังเกตจากสรรพนามที่ใช้เรียกและสายตาเกลียดชังยามพูดถึงเดฟ

            หมอนั่นทำเพื่อนฉันท้องแล้วยังปล่อยให้เพื่อนฉันยิงตัวตายอีก จะไม่ให้เรียกว่าคนสารเลวได้ไง

            ฉันไม่เข้าใจ

            มารีน่าไง ลูกติดจากแม่เลี้ยงเขาน่ะ” ผู้หญิงผมบลอนด์แค่นเสียงขึ้นจมูกด้วยความรังเกียจ มันคงไม่เคยบอกเธอละสิสาวน้อย

            ฉันไม่รู้...” แมคเคนซี่รู้สึกราวกับว่าโลกตีลังกาคว่ำหงายไปหมดแล้ว เธอทรงตัวแทบไม่อยู่ ต้องรีบเกาะขอบประตูพยุงตัวเองไว้

            แต่ช่างเถอะ ฉันมาเพราะมีเอฟบีไอไปถามที่ร้าน เขามาแล้วไม่มีคนอยู่ ฉันเลยอาสาพาพวกเขามา เธอเองก็ระวังไว้ให้ดีเถอะ คิดนานๆ อย่ายุ่งกับไอ้คนสารเลวนี่เลย” สาวผมบลอนด์ท่าทางมาดมั่นยักไหล่ไม่แยแส แล้วโบกมือให้ ฉันไปละ

            เดี๋ยวสิคะ” นักศึกษาสาวพยายามรั้งไว้เมื่อเห็นผู้ชายสวมสูทสีดำสี่คนกำลังเดินมาทางนี้ แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว สาวผมบลอนด์เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

            ที่นี่บ้านของ เดฟลิน ลิวอิส เปเรซ ใช่ไหมครับ” หนึ่งในสี่คนพูดขึ้น สังเกตจากตำแหน่งที่ยืนอยู่หน้าสุดและดูแล้วอาวุโสกว่าทุกคน เดาว่าต้องเป็นหัวหน้าแน่นอน

            ใช่ค่ะ แต่เขาไม่อยู่

            คุณคือ แมคเคนซี่ กรีน ใช่ไหมครับ

            หญิงสาวยังไม่ตอบคำถามทันที เธอนิ่งไปนิด ตัดสินใจว่าควรจะตอบเขาไปดีหรือไม่ พร้อมกับลอบสังเกตผู้ชายตรงหน้าไปด้วย

            พวกเขาพกปืน!

            ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นนิดๆ หญิงสาวผงะถอยหลังและพยายามจะปิดประตู แต่เขารั้งไว้เสียก่อนแล้วยกตราประจำหน่วยงานช่วยยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย

            ใจเย็นๆ ผม โคลิน คอนโนลลี่...เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ” น้ำเสียงของโคลินเคร่งขรึมจริงจัง ทั้งการแต่งตัว สีหน้า แววตา และบุคลิกผึ่งผายสร้างความน่าเชื่อถือให้ไม่น้อย ทำให้หญิงสาวคลายความกังวลลงได้ในที่สุด

            มีอะไรหรือเปล่าคะ

            คนร้ายที่ติดตามคุณไม่ใช่ธรรมดาเลย มีประวัติทำงานให้พวกมาเฟียและเคยถูกจับกุมมาก่อน

            ฉันไม่รู้จักพวกเขา” แมคเคนซี่ตอบไปตามจริง

            แต่พวกนั้นต้องการตัวคุณ

            เพราะอะไรคะ

            เพราะคดีสุดท้ายของ บรูซ เกรย์สัน

                คำตอบของโคลินทำให้แมคเคนซี่ชะงัก เขาพูดเหมือนเดฟไม่มีผิด

            ฉันทราบค่ะ แต่ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย

            คุณควรจะแจ้งความตั้งแต่แรก เพราะผมได้ข้อมูลจากตำรวจนิวยอร์กว่าคุณถูกผู้ชายคนนี้ตาม ถูกไหมครับ” โคลินหยิบรูปใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วส่งให้แมคเคนซี่

            หญิงสาวมองรูปถ่ายของทหารคนหนึ่งในขณะที่เขากำลังปฏิบัติภารกิจ เขาคนนั้นสวมเสื้อยืดสีดำ สวมเกราะกันกระสุน นุ่งกางเกงทหาร แม้จะสวมแว่นดำ แต่รูปร่างท่าทางแบบนี้ เธอมองออกทันทีว่าคือเดฟนั่นเอง

             “ชื่อ เดฟลิน ลิวอิส เปเรซ ถูกต้องไหม” โคลินถามทันทีเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว

            เขาเป็นทหารหรือคะ

            ทหารรับจ้าง” โคลินต่อให้ และนั่นก็ทำให้คนฟังหน้าเผือดสีไปในทันที

            เขาเป็น...อะไรนะคะ

            เขาเป็นทหารรับจ้าง ทำงานให้พวกกัสซาโน มาเฟียที่เป็นลูกความคดีสุดท้ายของ บรูซ  เกรย์สัน ยังไงล่ะ

            แมคเคนซี่รู้สึกใจหาย หัวใจกระตุกวูบลงจนหายใจผิดจังหวะไปทันที เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่หลักฐานจากเอฟบีไอทั้งภาพถ่ายตอนที่เขาทำงานกับแบล็ควอเตอร์ที่เป็นบริษัททหารรับจ้างชื่อดังไปค่อนโลก ไหนจะภาพที่เขาติดต่อกับพวกมาเฟียกลุ่มหนึ่งนี่ก็อีก...

            หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังถูกทรยศหักหลังอีกครั้งจากคนที่เธอไว้ใจมากที่สุด เธอเชื่อใจเขาไปแล้ว แต่เดฟกลับหักหลังเธอ ที่เขาทำลงไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะเขาห่วงเธอแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ เงิน’ ที่เขารับจ้างมาต่างหาก!

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น