8
จุกปลอมหรือจะสู้จุกจริง
เมื่อได้อ่านข้อความที่ส่งมาจากพี่สาวสุดแซ่บ คนที่นั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงนุ่มของโรงแรมดังในเมืองโตเกียวก็ทำหน้าตื่นตาเหลือก ข้อความนั้นก็คือ
พริ้ง : พริ้ม ช่วยหลอกล่อใช้ลูกอ้อนยั่วๆ น่ารักๆ ทำให้ผัวแกเคลิ้มจนลืมเรื่องผัวฉันไปก่อนได้ไหม
พริ้มเพราเหลือบมองไปทางสามีที่กำลังนั่งดูเสื้อผ้าตัวเล็กน่ารักของลูกแมวน้อยอยู่ที่พื้นข้างเตียง ก่อนปั้นสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด ไม่ให้สามีจับสังเกตได้ว่าเธอกำลังตกใจ ในขณะที่นิ้วก็รัวข้อความถามพี่สาว
พริ้ม : ตกลงพี่พริ้งมีผัวจริงๆ เหรอคะ!
พริ้ง : อืม แต่เป็นผัวปลอมนะ
พริ้ม : ผัวปลอม?
พริ้ง : เยส ผัวปลอม ที่คิดว่าตัวเองคือผัวจริง
พริ้ม : คืออะไรอะพี่พริ้ง พริ้มงงนะคะ พี่พริ้งทำอะไรอยู่เนี่ย!
พริ้ง : เอาน่า เดี๋ยวพี่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ ช่วยทำให้พี่รอดพ้นจากความหัวร้อนของผัวแกไปก่อนได้ไหม ต่อให้พี่อธิบายยังไง ฮอตก็คงไม่ยอมแน่ๆ
คิ้วบางได้รูปขมวดมุ่น เริ่มสงสัยตามสามีอยู่เหมือนกัน แต่เพราะไว้ใจในตัวพริ้งพราว ความสงสัยเลยแปรเปลี่ยนเป็นความเชื่อมั่น คิดว่าพี่สาวคงมีเหตุผลของตัวเอง
“พริ้มครับ ลองโทร. หาป้าพริ้งอีกทีเร็ว ตอนนี้คงจะโทร. ติดแล้วมั้ง”
เธอสะดุ้งเฮือก กลืนน้ำลายระงับความหวาดหวั่น สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ท่องคำที่ทำให้เกิดพลังอันแรงกล้า...เพื่อพี่พริ้งสุดที่รัก...เพื่อพี่พริ้งสุดที่รัก
“ลองโทร. เร็วครับ พี่คิดถึงลูกใจจะขาดแล้ว อยากรู้เรื่องไอ้คนที่บังอาจมาอวดรวยแข่งกับพี่ด้วย”
หฤทธิ์กัดฟันกรอด นัยน์ตาวาววับเดือดดาลเมื่อนึกถึงหมอนั่น ก่อนจะเลิกคิ้วเอะใจเมื่อพริ้มเพรายังไม่ตอบรับคำขอตน และรีบลุกขึ้นจากพื้นมานั่งบนเตียงกับภรรยาตัวน้อย
เธอกำลังยิ้มหวานน้ำตาลเรียกแม่ มือน้อยค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อจนเผยให้เห็นก้อนเนื้ออวบอิ่ม...
“พี่ฮอตขา เราไปอาบน้ำด้วยกันนะคะ”
ปากน้อยสีชมพูระเรื่อที่กำลังดูดจุกนมดังจ๊วบๆ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจนจอมทัพต้องยอมทำตัวเป็นผู้ใหญ่งอแง ด้วยอยากยืดเวลาเพื่อที่จะได้อยู่กับสองสาวอีกนิด หลังจากโดนพริ้งพราวออกปากไล่มาแล้วสามครั้งถ้วน
“พริ้งนี่ขยันไล่ผมจริงนะ ผมอยากอยู่กับพริ้งกับพริกแกงน้อย พริ้งเข้าใจบ้างไหม”
“เข้าใจ แต่ตอนนี้หมดโปรแล้ว กลับได้แล้วย่ะ”
“ไม่เอา ผมไม่กลับ!”
“เอ๊ะ” คนไล่ขัดใจเมื่อเขายังคงรั้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พยายามตีสีหน้าเรียบดุเหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองที่กำลังกำราบนักเรียนชายหลังห้องจอมเกเร “อย่าดื้อได้ไหม นี่มันใกล้เวลานอนของลูกแล้ว”
ชายหนุ่มทำหน้าง้ำ ทิ้งตัวลงนั่งข้างคนป้อนนมเจ้าตัวเล็ก วอนขอเสียงอ่อย “ก็ให้ผมอยู่จนลูกหลับเลยไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ!”
“ไม่ต้องมาถาม ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เห็นฉันใจดีเข้าหน่อยก็ทำเป็นเหลิง เล่นบทกะบึงกะบอนกับฉันใหญ่เลยนะยะ”
“พริ้งไม่เข้าใจคนติดลูกติดเมียบ้างเหรอ ผมติดพริ้งกับพริกแกงน้อยจนจะบ้าแล้วนะ ให้ผมกลับตอนนี้ ผมก็คิดถึงตายเลยสิ”
นั่น...อ่อยกันอีกแล้ว
พริ้งพราวเม้มปาก หันหน้าหนีเขา ไม่อยากสบตาคู่คมให้ใจสั่นไปมากกว่านี้
หลังจากเกิดซีนสวีตหวานชวนหวั่นไหวระหว่างกัน ดวงตาของจอมทัพก็แพรวพราววิบวับจนเธอขนลุกชันไปทั่วสรรพางค์ มีลางว่าเขากำลังเตรียมวางแผนตะครุบจับเธอกินทั้งตัว
ขืนปล่อยให้เขาอยู่จนยายหนูหลับ ไม่มีดวงตาน้อยๆ ที่คอยจ้องมองและมีพลังมากพอจนทำให้เขาเกรงใจไม่กล้าแผลงฤทธิ์ออกมา วิกฤติอันตรายคงมาเยือนช่องคลอดเธอในไม่ช้า
“พริ้ง...ผมไม่อยากกลับจริงๆ นะ อยากค้างกับพริ้งเลยด้วยซ้ำ”
เขาตัดพ้อเธอทั้งทางวาจาและนัยน์ตาไหววูบ แต่สาวเจ้าก็ยังคงใจแข็ง ไม่ตอบรับความต้องการของเขา ทำเอาชายหนุ่มเริ่มอยากจะเล่นบทฮึดฮัดโวยวายตามวิถีเสือร้าย ทว่าดวงตาแป๋วแหววที่กำลังเปล่งประกายสุขใจของคนตัวน้อยในอ้อมแขนพริ้งพราวก็ช่วยหยุดพยัคฆ์หน้าหยกที่กำลังจะแปลงร่างเอาไว้ได้
“อร่อยไหมคะ ดูดเอาๆ เลยนะเรา”
เขายั่วเย้าเสียงเล็กเสียงน้อย มองเจ้าตัวจ้อยด้วยความรักใคร่อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ช่วยไม่ได้เลยที่ตาคู่คมจะเผลอซอกแซกจ้องความอวบอัดของสองเต้าที่แนบหน้าน้อยๆ อยู่...
“พริ้ง” ชายหนุ่มเรียกให้สาวเจ้าหันหน้ามาหา ก่อนจะแสร้งขมวดคิ้วตั้งข้อสังเกต “ทำไมพริ้งไม่ป้อนนมจากเต้าบ้าง ผมอยากเห็น”
“อยากเห็นอะไรมิทราบ!”
เสือหื่นแสร้งทำเป็นเอียงคอตาใสใส่คนโวย เอ่ยบอกเสมือนปราศจากนัยอะไร “ผมอยากเห็นลูกกินนมจากอกคุณ”
“อยากโดนแทงจริงๆ ใช่ไหม บอกแล้วไงว่าอย่ามาบ้ากามกับฉัน!”
“บ้ากามอะไร ผมเปล่า ผมก็แค่อยากให้ลูกกินนมจากอกแม่ ลูกก็จะได้รับไออุ่นด้วยไง จุกปลอมหรือจะสู้จุกจริง”
เธอแบะปากหมั่นไส้ “ข้อแก้ตัวโง่ๆ สำหรับคนคิดชั่ว เชอะ”
“ชั่วอะไร ผมเห็นแววตาลูกก็รู้แล้วว่าลูกอยากกินนมจากเต้า” พยัคฆ์หน้าหยกยิ้มตาพราว ยักคิ้วหาแนวร่วมตัวจิ๋ว “ใช่ไหมคะพริกแกงน้อย อยากกินนมจากเต้า อยากหม่ำนมจากอกแม่ ใช่ไหมคะ”
“แอ๊ะ!”
“เนี่ย เห็นไหม ลูกแสดงออกให้รู้เลยนะว่าลูกอยากกินนมจากเต้า คุณจะเป็นแม่ใจร้าย ไม่ยอมทำตามความปรารถนาของลูกเหรอพริ้ง”
เธอค้อนตาคว่ำใส่เจ้าของนัยน์ตาแพรวพราว...ตาลุงหื่น ความปรารถนาของตัวเองชัดๆ!
“อ๊ะ!”
“ยายหนู ไม่ต้องมาอ้อแอ้เป็นกองกำลังตัวจิ๋วเลยนะคะเราน่ะ ถ้าดื้อเหมือนคุณป้อ เดี๋ยวหนูจะโดนดุด้วยนะ”
คนตัวน้อยย่นคอกลัวเสียงหวานแฝงความดุของพริ้งพราว รีบเอาหน้าถูไถอกอุ่นออดอ้อนหนีความผิด ทว่าก็ยังแอบเหลือบมองจอมทัพราวกับจะบอกว่า ‘ตัวใครตัวมันนะคะคุณป้อ’
“คุณ” พริ้งพราวเขม้นมอง ‘คุณ’ ที่ว่า “ฉันจะป้อนนมพริกแกงด้วยวิธีไหนมันก็เรื่องของฉัน คุณกลับไปได้แล้ว”
คนโดนไล่รอบที่ห้าขบกรามดังกรอด ถอนใจฮึดฮัด ก่อนจะทำหน้ามึนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงราวกับเป็นเจ้าของห้อง ทั้งยังแสดงอาการประท้วงด้วยการตะแคงหันหน้าหนีเธออีกต่างหาก
“นี่คุณทำอะไร ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไม่ลุก!”
ความเอาแต่ใจเหลือร้ายของผู้ใหญ่ตัวโตทำพริ้งพราวอ้าปากค้าง อยากจะร้องกรี๊ดๆๆ สักสิบตลบ
กว่าจะจบภารกิจ หนังหน้าเธอคงจะมีริ้วรอยตีนกาขึ้นสักห้าเส้น ค่าที่ต้องเคร่งเครียดระดมหาวิธีรับมือกับเสือหน้าหยกจอมงี่เง่า
“คำก็ไล่ สองคำก็ไล่ ไม่เคยจะนึกถึงหัวจิตหัวใจของผัวเก่าบ้างเลย”
ประโยคตัดพ้อของเขาทำเธอเครียดกว่าเดิม นึกซูฮกพริ้มเพราที่อยู่กับหฤทธิ์ซึ่งเป็นผู้ชายลักษณะคล้ายกันนี้ได้อย่างปกติสุขโดยที่ไม่มีปัญหาอะไร ในขณะที่เธอนั้นประสาทจะกินตายแทบทุกคราที่จอมทัพเริ่มวางท่าเป็นเด็กๆ
“ผัวเก่าก็มีหัวใจนะพริ้ง ช่วยทะนุถนอมกันบ้างได้ไหม”
“แล้วฉันทำร้ายจิตใจคุณที่ไหนกัน ถ้าฉันคิดจะทำร้าย คุณไม่มีทางได้มานอนอยู่บนเตียงฉันอย่างนี้หรอกย่ะ”
ใคร่ครวญตามคำพูดสาวเจ้าครู่หนึ่ง จอมทัพก็เห็นจริงตามนั้น ยอมหันหน้ามาหาเธอแต่โดยดี
“ฉันก็แค่อยากให้คุณรีบกลับบ้านเพราะกลัวว่าพ่อแม่คุณจะไม่โอเคที่ลูกชายหายมาขลุกอยู่ที่นี่”
คนโดนกล่อมนิ่งขรึม...ยกเอาบุพการีมาต่อรองอย่างนี้ แล้วเขาจะพยศอย่างไรได้อีก
“กลับได้แล้วค่ะ ถือว่าเป็นการให้เกียรติฉันก็ได้ คุณบอกว่าผัวเก่าก็มีหัวใจ งั้นฉันก็ต้องบอกว่า เมียเก่าก็มีศักดิ์ศรี”
จอมทัพถอนใจ ยกมือยอมแพ้ “ก็ได้ กลับก็ได้ แต่ก่อนกลับ ผมขอ...”
“ขอ?”
ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ยื่นหน้าไปหอมแก้มป่องของคนตัวน้อย ก่อนจะเงยหน้าฉวยโอกาสเอาจมูกไปกดที่แก้มนุ่มของพริ้งพราวหนึ่งที แล้วรีบลุกไปยังประตูก่อนที่จะโดนฝ่ามือพิฆาตฟาดหน้า
“คุณ!”
คนโดนหอมโมโหตาวาว มือสั่นอยากจะจัดการคนเจ้าเล่ห์ แต่เพราะเจ้าตัวจ้อยกำลังดูดนมจ๊วบๆ อยู่ในอ้อมแขน เลยจำต้องหักใจปล่อยให้เสือร้ายรอดพ้นโทษไป ทำได้แค่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันหมั่นไส้
“หอมนี่ ไม่ใช่การลวนลามนะ แต่เป็นการจอง ประกาศความเป็นเจ้าของ ผมจะสร้างครอบครัวกับพริ้งและลูก ทำให้พริ้งยกเลิกสัญญาโบราณกับไอ้ลุงภู จะสร้างความผูกพันกับพริกแกงน้อยแข่งกับไอ้ปะป๊าฮอตนั่น ผมจะเป็นเบอร์หนึ่งของพริ้ง โปรดรู้ไว้ด้วย”
นัยน์ตาคู่สวยเบิกโตตื่นตะลึงรับคำประกาศของเขา...หนาวๆ ร้อนๆ จนชาดิกไปทั้งร่าง
ผีบ้าอะไรอย่างนี้...ก่อนจะได้ป่วนจารุณี ไม่รู้เลยว่ากายใจจะสึกหรอเพราะตาลุงนี่ไปเท่าไร
ความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้รับจากสองสาวมีอันต้องสลายไปพอสมควร เมื่อคนที่กำลังเดินเข้าบ้านจิตรภากรได้ยินเสียงแหลมของมารดาที่กำลังต่อว่านักรบอยู่ในห้องโถง...
“เมื่อก่อนนบเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง แต่ตั้งแต่นบคบกับยายเด็กก้อย นบก็เปลี่ยนไป ดื้อกับแม่มาก ทำไมนบไม่ฟังแม่เลย แม่บอกแล้วไงว่าเด็กก้อยนั่นไม่เหมาะกับลูก ดูซิดู ติดเด็กนั่นจนไม่กลับมากินข้าวกับแม่!”
หากเป็นในคราวที่ตนยังไร้พันธะ จอมทัพคงจะไม่เข้าไปแทรกแซงการตำหนิของจารุณี ด้วยเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ที่หวงห่วงลูกชายคนเล็ก
ทว่า...ในยามนี้ที่สถานการณ์ค่อยๆ เปลี่ยนไป จู่ๆ ลูกชายคนโตเช่นเขาก็มีสาวเป็นของตัวเอง ทั้งยังไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเธอจะเป็นคนโปรดหรือคนชังของมารดา เลยทำให้เขาเริ่มหวาดหวั่นกับชะตากรรมหัวใจของตน ระคนเห็นใจในชีวิตรักน้องชาย จนกล้าที่จะก้าวขาเดินเข้าไปในสมรภูมิเดือด ส่งเสียงขัดมารดา
“คุณแม่ ฟังนบอธิบายเหตุผลก่อนดีไหมครับ ให้นบพูดในส่วนของตัวเองบ้างเถอะครับ”
“กลับมาแล้วเหรอ ไนท์ก็อีกคน ทำไมกลับบ้านช้าแบบนี้!”
จารุณีแผดเสียงต่อว่า มองลูกชายคนโตด้วยแววตาเขียวขุ่น “นบติดยายก้อย แม่ยังพอเข้าใจ แต่ไนท์ล่ะ ไปอยู่ไหนมา ติดหญิงเหมือนน้องด้วยเหรอ!”
คำถามจากมารดาหาได้ทำให้จอมทัพครั่นคร้ามสักนิดไม่ ชายหนุ่มสบตาคนสูงวัยด้วยความหนักแน่นตามประสาลูกชายคนโต ก่อนจะค้อมหัวรับผิด “ครับ...ผมติดหญิง ติดสองคนเลยด้วย”
“สองคน...” จารุณีทำหน้าเบ้ ขมวดคิ้วงุนงงปนตกใจ “หมายความว่ายังไง”
“ผมติดเมียเก่ากับลูกสาวครับ”
“อะ...อะไรนะ!” คนสูงวัยห่อปากตะลึงพรึงเพริด “เมียเก่า! ลูกสาว!”
“ครับ เมียเก่า ลูกสาว” จอมทัพยืดอกพยักหน้ารับอย่างตรงไปตรงมา ปากบางเฉียบเอ่ยบอกรายละเอียดฉบับรวบรัด “ผมกับพริ้ง เราเคย...จู๋จี๋กันเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ผมป้องกันพลาด เขาท้อง ลูกสาวผมชื่อพริกแกงน้อย อายุสิบเดือนกว่าแล้ว กำลังน่ารักน่าชังเลยครับ ถ้าคุณแม่ได้เห็นหลาน คุณแม่ต้องหลงรักแกแน่”
“นะ...นี่ไนท์พูดอะไรออกมา ใช่ลูกไนท์แน่เหรอ ทำไมไนท์เชื่อคนง่ายแบบนี้!” จารุณีสะบัดเสียงเยาะคำบอกเล่าอันยากจะเชื่อของลูกชาย
“ยายนั่นอาจจะท้องกับคนอื่นแล้วมาโบ้ยให้ไนท์รับเป็นพ่อก็ได้ แม่ไม่มีทางยอมรับว่าเด็กพริกแกงนั่นเป็นหลานแม่หรอก”
“อย่าเพิ่งรังเกียจหลานสิครับ ลองเจอแกก่อนได้ไหม”
“ไม่!” จารุณีแบะปากปฏิเสธคำขอร้อง “แล้วก็อย่าได้คิดสั่งสอนให้เด็กนั่นเรียกแม่ว่าย่าเด็ดขาด รู้ไว้เลยนะ แม่ไม่ใช่คนแก่เห่อเด็ก ที่จะมาใจอ่อนง่ายๆ เพราะกะอีแค่เด็กมาทำตาแป๋วแหววใส่”
แรงต่อต้านของมารดาสร้างความอึดอัดระคนเคร่งเครียดจนบรรยากาศภายในห้องโถงเต็มไปด้วยความอึมครึมทางภาวะอารมณ์
“เรียกหลานว่าพริกแกงน้อยได้ไหมครับคุณแม่ คุณแม่เรียกหลานเหมือนหลานเป็นคนอื่นเลย”
“พริกกงพริกแกงอะไร แม่ไม่เรียก แม่จะเรียกว่าเด็กนั่น!”
คนหลงลูกพ่นลมหายใจแรงๆ แอบเคืองมารดาที่วางความสัมพันธ์กับคนตัวน้อยอยู่ในจุดที่ห่างเหินเกินไป ในขณะที่นักรบนั้นก็กะพริบตาปริบๆ อึ้งปนยินดีที่มารดาดูจะละความสนใจจากกลิกาไปเลย
แม้จะตรงกับจุดมุ่งหมายที่ตนวาดหวังไว้ ทว่านักรบก็ไม่คาดคิดสักนิดว่าผลมันจะออกมาตามความประสงค์รวดเร็วขนาดนี้
“สะใภ้แม่ ไม่ว่าจะสะใภ้ใหญ่หรือสะใภ้เล็ก ต้องผ่านการคัดกรองอย่างดี ลูกชายแม่ต้องได้คนที่เหมาะสมมาครองคู่ โดยเฉพาะสะใภ้ใหญ่ที่ต้องมาเป็นคู่คิด เป็นหลังบ้านที่ดี พร้อมเป็นเบื้องหลังที่เข้มแข็ง สนับสนุนให้ลูกทำหน้าที่ผู้นำของตระกูลจิตรภากร ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจง่ายมีอะไรกับผู้ชายอย่างแม่พริ้งอะไรนั่น!”
“โอเคครับ...” จอมทัพชะงักนิ่ง ถอนใจยอมรับความรู้สึกของมารดา “ตอนนี้คุณแม่ยังไม่เคยเจอพริ้ง เลยอาจจะรู้สึกไม่ดีกับเขา แต่อดีตก็คืออดีตนะครับ ตอนนี้เขาดูแลลูกดีมาก ผมเสนอความช่วยเหลืออะไร เขาก็ไม่เอา ผมขอรับประกันว่าเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง”
“แม่ไม่เชื่อ!” จารุณีแผดเสียงแหลม ขมวดคิ้วสงสัยในการกระทำของลูกชาย “ทำไมจู่ๆ คนเชี่ยวชาญเรื่องสาวๆ อย่างไนท์ถึงได้อ่อนหัดเรื่องผู้หญิงขึ้นมาเสียอย่างนั้น คนอย่างลูกไม่เคยเชื่ออะไรโดยขาดการตรวจสอบแบบนี้เลยนะ”
“ผมอาจจะไม่ได้เชื่อเพราะผลสรุปทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมเชื่อในเหตุผลทางจิตใจครับ ผมเชื่อว่าพริกแกงน้อยคือลูกผม”
คนเป็นแม่กัดฟันขัดเคือง สะบัดหน้าประชดประชัน “ดี งั้นก็เชิญเชื่อไปคนเดียวเลยนะ แม่ไม่เชื่อด้วยเด็ดขาด!”
“ตกลงคุณแม่จะไม่ยอมรับพริ้งกับลูกจริงๆ ใช่ไหมครับ”
“ใช่!”
“ไม่เป็นไรครับ” จอมทัพค้อมหัวรับความโกรธเกรี้ยวของมารดา ก่อนจะเงยหน้าบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “งั้นผมขอไปอยู่กับพวกเขาเองก็ได้ครับ”
“ไนท์!” เธอหันขวับมาหา นัยน์ตาขุ่นคลั่ก “นี่ไนท์กล้าขู่แม่ขนาดนี้เลยเหรอ!”
“ไม่ได้ขู่ครับ พูดจริงทุกคำ ผมเคารพในความรู้สึกของคุณแม่ แต่ผมก็เคารพในความรู้สึกของตัวเองด้วย และผมก็จะไม่พรากแม่พรากลูกออกจากกัน ผมจะสร้างครอบครัวกับพวกเขา”
“ได้ ถ้าไนท์เลือกพวกนั้น ก็ไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่!”
“คุณจ๋า ใจเย็นๆ ก่อนดีไหม”
เจ้าของเสียงเรียบนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาในห้องโถงช่างเปรียบเสมือนเทวดามาโปรดลูกๆ ก็มิปาน
เขาแสดงสีหน้าว่าทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว และแค่เพียงแววตาอ่อนโยนที่มองจารุณีด้วยความรัก ก็สามารถลดความฉุนเฉียวของเธอให้น้อยลงได้ชะงัดนัก
“พูดกับไนท์แบบนี้ได้ยังไง จะตัดลูกตัดแม่กันเลยเหรอคุณ”
นำทัพตัดพ้อแทนลูกชาย เดินไปใกล้จารุณี นึกย้อนถึงความเจ็บช้ำจากอดีตให้เธอฟัง “คุณย่าของไนท์ก็เคยพูดกับผมแบบนี้ คุณรู้ไหมว่าผมอึดอัดแค่ไหน อีกคนก็แม่ อีกคนก็ผู้หญิงที่รัก มันเลือกไม่ได้หรอก”
ถึงความฉุนเฉียวจะอ่อนลงบ้างแล้ว แต่ความหวงลูกชายก็ยังคงอยู่ จารุณีทำตาขุ่นใส่สามี โต้กลับเสียงเขียว “ไม่ต้องมาช่วยลูกเลยนะ!”
นำทัพถอนใจ พักการเจรจากับภรรยา หันหน้าไปหาลูกชายคนโต “พ่ออยากเห็นเด็กคนนั้น พาเขามาหาพ่อพรุ่งนี้เลยนะ”
“ครับ คุณพ่อ” จอมทัพรีบตอบรับก่อนที่มารดาจะอ้าปากขัดอะไร “แต่ถ้าคุณพ่ออยากเห็นตอนนี้เลย ผมก็จัดให้ได้นะครับ”
รอยยิ้มจางๆ พร้อมนัยน์ตาเปล่งประกายยินดีของบิดาเป็นปฏิกิริยาอันชัดเจนว่าต้องการดังที่จอมทัพเสนอ ชายหนุ่มรีบต่อสายไปหาพริ้งพราว พอเธอรับสายก็กระซิบถามอย่างเกรงใจ
“พริ้ง...ยุ่งไหมครับ”
“ไม่เท่าไรค่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“คือ...ผมอยากขอวิดีโอคอลดูหน้าลูกหน่อย ทางบ้านผมเขาอยากเห็น...ได้ไหม...”
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลง จอมทัพเองก็ยิ้มตาพราว รีบจัดการทำให้บิดาเห็นคนตัวน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง
“โอ้โห!” ชายสูงวัยอุทานอย่างปลาบปลื้ม พิศมองดวงหน้าน้อยๆ ที่ช่างจิ้มลิ้มพริ้มเพราแล้วก็ชื่นใจ เริ่มเชื่อตามลูกชายจนหลุดปากออกมา “น่ารักน่าชังที่สุด พริกแกงน้อยของปู่”
จารุณีถลึงตาวาววับ หมั่นไส้อาการเห่อเด็กของสามี ก่อนจะยื่นหน้าไปเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์บ้าง แล้วก็เบิกตากว้าง
‘ต๊าย! เด็กอะไรน่า...’
“พริกแกงน้อยของผมน่ารักใช่ไหมครับคุณแม่”
โดนจอมทัพดักทางด้วยแววตายั่วเย้าและวาจาที่แสดงออกว่ารู้ทันกัน จารุณีเลยตีรวนแก้เก้อด้วยการแบะปากเชิดหน้าใส่
“ก็งั้นๆ แหละ”
จอมทัพกลั้นยิ้มขบขัน ทว่าไม่ได้หยอกมารดาต่อ ด้วยมีธุระสำคัญที่จะเอ่ยกับพริ้งพราว
“พริ้ง พรุ่งนี้ผมจะไปรับพริ้งกับลูกมาที่บ้านผมนะ”
ยังไม่ทันที่พริ้งพราวจะตอบรับอะไร จอมทัพก็มีอันต้องหน้าเหลอตกใจเพราะถูกจารุณีแย่งโทรศัพท์ไป
เมื่อหญิงสูงวัยได้เห็นดวงหน้าหวานล้ำบนหน้าจอ เธอก็เสียววาบไปทั้งอก ร้อนรุ่มประหนึ่งไฟสุมทรวง เหมือนกับว่า คนแบบเดียวกัน...มันมองกันออก
ฟันธงเลยว่าแม่นี่ไม่ธรรมดา ออร่าร้ายกาจมาเต็ม!
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
เธอแยกเขี้ยวใส่คนที่กำลังยิ้มมุมปากท้าทายกัน และรีบตอกกลับ “ฉันไม่ใช่แม่เธอ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่!”
เสียงแหลมจัดที่เจือความชิงชังรังเกียจของหญิงสูงวัยคงจะดังเกินไป จึงทำให้คนตัวน้อยบนเตียงทำหน้าเบ้ ก่อนจะลืมตาแป๋วแหววมองหน้าจารุณีด้วยความงุนงง
“แอ๊ะ!”
“มาอ๊งมาแอ๊ะอะไร ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าหนูจะเป็นหลานฉัน!”
“อ๊ะ...” แกทำปากจู๋ย่นคิ้วไม่ชอบใจใส่จารุณี ทว่าพอเห็นจอมทัพก็ดิ้นและบุ้ยปากราวกับว่าจะฟ้องเขาอย่างไรอย่างนั้น “ป้อ!”
จารุณีอึ้งตาค้าง...แสบมาก...เด็กคนนี้แสบมาก!
“ไม่ต้องมาฟ้องลูกชายฉันเลยนะ!”
จิ๋วน้อยเม้มปากจู๋สู้คนมากวัยกว่า เงยหน้ามองคนงามข้างกายประหนึ่งว่าจะขออนุญาตป่วน ครั้นหญิงสาวยิ้มมุมปาก พยักหน้าเบาๆ จิ๋วน้อยก็ยิ้มร่า หันกลับมาหาหญิงสูงวัย โต้กลับด้วยภาษาเฉพาะตัว
“อ๊ะ...%&#$)...”
“นี่กล้าเถียงฉันเหรอ!”
“บู้!”
“อยู่กับแม่ตัวเองไปเลยนะ ไม่ต้องมาหาฉัน ฉันไม่ต้อนรับ!”
นำทัพย่นคิ้วทำหน้าเบ้ไม่ชอบใจที่ภรรยาแสดงกิริยาดุเข้มเกินเหตุกับหนูน้อย รีบแย่งโทรศัพท์มาไว้ในมือตัวเอง จากนัยน์ตาที่มองภรรยาด้วยความรักใคร่ ก็กลับกลายมาเป็นตำหนิอย่างชัดแจ้ง
“คุณจ๋า ดุพริกแกงน้อยอย่างนี้ได้ยังไง หลานตกใจหมด”
“ฉันจะดุ คุณอย่ามาหลงเด็กตาแป๋วนักได้ไหมคะ เพิ่งเจอหน้ากันแค่สามวิเองมั้ง จะกางปีกปกป้องอะไรขนาดนี้ เว่อร์!”
จารุณีแบะปากหมั่นไส้สามี นึกแค้นยายเด็กสุดแสบแทบกระอัก แค่แอ๊ะเดียว จิ๋วน้อยนั่นก็ทำให้แววตาสามีเธอเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาที
ขนาดลูกยังพิษสงมากขนาดนี้ แล้วแม่จะขนาดไหน...มิน่า ลูกชายเธอถึงเพี้ยนหนัก ดีเอ็นองดีเอ็นเอก็ไม่คิดจะตรวจ พูดออกมาได้ว่าเชื่อในเหตุผลทางจิตใจ ประหลาดสิ้นดี!
“พริกแกงน้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณพ่อจะไปรับมาหาปู่นะลูก”
นำทัพเลือกที่จะปล่อยผ่านอาการพื้นเสียของภรรยาเอาไว้ก่อน และเอ่ยกับคนตัวน้อยที่กำลังเอียงคอมองเขาอย่างสงสัยใคร่รู้ และน้ำเสียงอ่อนโยนบวกกับแววตาที่มีแต่ความเมตตาปรานีที่ส่งผ่านหน้าจอไปคงจะทำให้แกอุ่นใจ จนกล้ายิ้มหวานหน้าบานกลับมา
“นั่นแน่ ยิ้มอ้อนคุณปู่เหรอเรา” จอมทัพแกล้งเย้าคนตัวน้อย พลางยื่นหน้ามาแย่งพื้นที่ทางหน้าจอโทรศัพท์กับบิดา พอคนตัวน้อยเห็นใบหน้าแสนคุ้นเคยก็ดีดดิ้นเริงร่า
“ป้อๆ!”
“ครับ เดี๋ยวพ่อไปรับแต่เช้าเลยนะตัวเล็ก”
ได้ยินพริกแกงเรียกจอมทัพหลายครั้งเข้า ความอิจฉาก็พุ่งเข้ามาจู่โจมนำทัพ อยากให้ปากน้อยจิ้มลิ้มเปล่งเสียงเรียกตนบ้าง
“ไหนเรียกปู่ซิลูก...ปู่...ปู่”
เจ้าตัวน้อยเลิกคิ้วทำหน้างงรับคำสอน ทว่าก็พยายามเปล่งเสียงตามให้คนสอนชื่นใจ “ปะ...ปะ...”
“ครับ...เรียกเร็ว...ปู่...ปู่” นำทัพค่อยๆ กระตุ้น เม้มปากสบตาคนในจอ ลุ้นจนหัวใจจะวาย ตื่นเต้นยิ่งกว่าคราที่ดูนักฟุตบอลทีมโปรดบรรเลงแข้งชิงแชมป์โลกเสียอีก
“ปะ...ปะ...”
จอมทัพหัวเราะเมื่อดวงใจของตนยังเรียกปู่ไม่ได้ ขันจนแกล้งยืดอกข่มบิดา “สงสัยปู่เรียกยากน่ะครับ ต้องให้เวลาพริกแกงน้อยหน่อยนะครับคุณพ่อ อย่างนี้แหละครับ ลำดับความสำคัญยังห่างกันอยู่”
“หมายความว่ายังไงไนท์”
“ก็...” จอมทัพลากเสียงเย้าคนขมวดคิ้วไม่ชอบใจ ก่อนจะคุยโวอวดบิดา “ตอนที่พริ้งสอนให้แกเรียกผมว่าป้อ แกเรียกได้เดี๋ยวนั้นเลยครับ”
“นี่ไนท์กำลังจะบอกว่าเพราะไนท์เป็นคนสำคัญกว่า พริกแกงน้อยเลยเรียกไนท์ได้ง่ายๆ งั้นเหรอ” นำทัพตวัดค้อนวงโตใส่ลูกชาย ออกปากปฏิเสธแนวคิดของอีกฝ่าย “ไม่จริง ปู่ก็สำคัญ ถ้าไม่มีปู่ ก็ไม่มีป้อมายืนทำหน้าเหนือกว่าใส่ปู่อย่างนี้หรอก”
จารุณีกลอกตามองบน รำคาญเต็มที จบศึกชิงความรักจากยายจิ๋วด้วยการคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือตนเองอีกรอบ ขึงตาวาววับกำราบลูกชายกับสามีเป็นทำนองห้ามแย่งกลับไปอีก
“เธออย่าลำพองไปนะ ต่อให้สามีฉัน ลูกชายฉันจะหลงเชื่อเธอง่ายๆ แต่ฉันคนนึงละไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเด็กนี่คือหลานฉัน” จารุณีแบะปาก เขม้นมองพริ้งพราวอย่างหยามหยัน ยกมือชี้หน้าขู่ “คอยดูนะ ฉันจะจับโป๊ะเธอ เอาความจริงมาแฉให้ยับ!”
“ความจริงอะไรเหรอคะคุณแม่ขา”
น้ำเสียงยียวนกวนประสาทและท่าทางเชิดหน้าเชิดตาของพริ้งพราวทำจารุณีขัดเคืองจนขบกรามดังกรอด กระแทกเสียงโต้กลับ
“ก็ความจริงที่เด็กนี่ไม่ใช่ลูกของลูกชายฉันไงยะ ฉันไม่รู้ว่าเธอใช้มุกไหน ลูกชายฉันถึงอาการหนักขนาดนี้ แต่มุกนั้นไม่มีทางใช้กับฉันได้ผล
“เธออาจจะทำการแสดงหลอกไนท์ได้ แต่หลอกนางเอกเก่าอย่างฉันไม่ได้ มุกบีบน้ำตา ก้มหน้าเสียงสั่น มุกเสียงสองถึงเสียงแปด ฉันทำมาหมดแล้ว อินเนอร์นางเอกเป็นแบบไหน ฉันรู้ดี มองเธอปราดเดียว ฉันก็รู้แล้วว่าเธอมันพวกตัวร้าย”
“อืม...” พริ้งพราวหัวเราะหึ นัยน์ตาทอประกายยั่วเย้านางเอกเก่า “ก็ดีค่ะ รู้ทันกันอย่างนี้ พริ้งจะได้ไม่ต้องแอ๊บแสนดีให้เสียเวลา”
“นี่เธอจะเปิดศึกกับฉันเหรอ!”
“เปิดไหมไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือมีลูกทีมแล้วค่ะ”
‘ลูกทีม’ ตัวน้อยตอบรับสารท้ารบที่พริ้งพราวเอ่ยมา ทำปากจู๋เปิดศึกกับจารุณีเช่นกัน
“บู้ๆ!”
“ร้ายทั้งแม่ทั้งลูก” จารุณีถลึงตาวาววับ เค้นเสียงข่มสองสาว “เธอ แม่พริ้ง อย่าคิดว่าจะมาชูคอเป็นสะใภ้ใหญ่ในบ้านฉันได้ง่ายๆ ส่วนเธอ ยายจิ๋วน้อย หว่านเสน่ห์ใส่คนเห่อเด็กแถวนี้ได้ แต่หว่านใส่ฉันไม่ได้หรอกย่ะ”
“แอ้...แอ๊ะ!”
“จะกี่แอ้กี่แอ๊ะ ฉันก็ไม่มีวันใจอ่อน!”
ความคิดเห็น |
---|