7

รสสัมผัส

 7

รสสัมผัส

 

สายลมเย็นยะเยือกปะทะผิวกายละเอียดนุ่ม มือใหญ่ยังคงเกลี่ยแก้มสาวที่อาบไปด้วยน้ำตา ลิ้นสากปาดลิ้มน้ำตาใสเสร็จแล้วจึงเลื่อนลงจุมพิตริมฝีปากนุ่มอิ่มสีชมพูหวาน ลิ้นอุ่นหยอกล้ออยู่ในโพรงปากเล็ก กอบโกยความหวานจากภายในจนร่างสาวเจ้าอ่อนระทวย ใบหน้าหวานเชิดขึ้นด้วยมือใหญ่ลูบโลมร่างบางจนเนื้อตัวไหวระริก เสียงครางหวานเล็ดลอดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ   “สะ...สมิง...เดี๋ยวก่อน...” สาวร่างบางเอ่ยปรามเสียงกระเส่า ความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย 

มือใหญ่กดลงบนสะโพกอิ่ม ช้อนร่างเล็กขึ้นจนตัวลอย สองแขนเล็กโอบต้นคอแกร่งของสมิงเอาไว้ ร่างบางเกร็งขึ้นเล็กน้อย มือหยาบที่ปลายเล็บแหลมคมอย่างกรงเล็บเสือโคร่งลูบไล้โคนขาผ่านซิ่นสวย ถลกชายผ้าซิ่นผืนงามขึ้นจนเห็นต้นขาอ่อน

“ไม่ได้นะ...”

คนตัวเล็กปรามขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะถูกกดลงกับผนังสูง แผ่นหลังเล็กทาบกับผนังปูนเปลือย ดันให้อกอิ่มแอ่นขึ้นจนสมิงห้ามใจตัวเองไม่ไหว เขาพรมจูบอุ่นๆ ผ่านเนื้อเย็นตั้งแต่ต้นคอขาวไล่ลงมาจนกระทั่งหัวไหล่ สองมือกระชากกระดุมทำจากกระดิ่งลูกเล็กๆ กระเด็นกระดอนตกหายไปในเงามืด 

น้ำฝนเย็นฉ่ำตกกระทบเนินเนื้อขาวอวบอิ่ม ใบหน้าเข้มก้มลงซุกหน้าอกอุ่นพลางสูดกลิ่นหอมของเนื้อเย็นจนสาแก่ใจ ฝ่ามือร้อนผ่าวกอบกุมสองเต้างามอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ลิ้นสากโลมเลียเนื้อสาวจนเธอร้องครางเสียงหวาน ริมฝีปากเข้มดูดเม้มส่วนยอดนั้นอย่างบ้าคลั่ง แม้มือเล็กจะยกขึ้นปิดปากนุ่มแล้วก็ไม่วายได้ยินเสียงครางหวานของเธอ อกอิ่มยังคงไหวไปตามแรงมือเขา

สองร่างกอดเกี่ยวกันอยู่ในเวิ้งลานน้ำ มือใหญ่เลื่อนลงมาเล้าโลมสะโพกสวย บีบเคล้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือใหญ่ลงไปตามขาอ่อน ข้อพับขา จนกระทั่งไปหยุดอยู่ใต้หว่างขาเรียว มีเพียงชั้นในตัวจิ๋วเท่านั้นที่กั้นระหว่างมือหนากับเนื้อสาวที่ถูกกระตุ้นจนเปียกปอนไปหมด

“แบบนี้ข้าจะหยุดตัวเองได้ยังไง...” เจ้าของนัยน์ตาสีแดงเพลิงกระซิบเสียงทุ้มข้างใบหูเล็ก ก้มลงสบตากลมที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำตา นิ้วมือใหญ่ลากผ่านร่องเล็กของเธออย่างเชื่องช้า หมุนวนเล้าโลมจนความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วทั้งตัว

“แต่ว่า...” เจ้าของเสียงหวานพยายามเจรจา แต่ภายในหัวขาวโพลนไปหมด เสียงครางของเธอยังคงดังคลอเสียงฝนพรำจนมันปลุกเร้าความเป็นชายของสมิง พานให้เขาอึดอัดเนื้อตัวไปหมด เชือกเส้นเดียวที่รั้งกางเกงขาก๊วยถูกปลดออกในทันที กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งกดทาบลงกับชั้นในตัวน้อย ผ้าซิ่นของเธอถูกถกขึ้นมาอยู่เหนือเอวเล็ก เพียงเขาเกี่ยวเล็บคมลงบนเนื้อผ้าฝ้ายบางสีขาวที่กั้นระหว่างเขากับเธออยู่ มันก็ขาดลงไปกองกับพื้นลานอาบน้ำเสียแล้ว

“อะ...อ๊ะ!”

สาวร่างบางบิดตัวหนี แต่จะหนีออกจากอ้อมกอดแกร่งนี้คงเป็นไปไม่ได้ ความเป็นชายแกร่งนั้นค่อยๆ แทรกตัวผ่านเนินเนื้อนุ่มสีชมพูที่ชโลมด้วยของเหลวที่ทั้งลื่นและใส ค่อยๆ ครูดไปตามโพรงแคบด้านในอย่างเชื่องช้า ความคับแน่นทำให้เขามีทางเลือกไม่มากนัก ร่างเล็กบิดตัวเกลียว ด้วยท่อนเนื้อเบียดเสียดอยู่ภายในตัวของเธอ

“สะ...สมิง...”

สาวเจ้าร้องครางสะกดกลั้นความเจ็บปวด พ่นลมหายใจแรงออกมาถี่ๆ ร่างบางหยุดหายใจเป็นจังหวะ ทุกครั้งที่ร่างใหญ่พยายามรุกล้ำเข้าไปข้างในลึกอีก... และลึกอีก... จนกระทั่งเขาเข้าไปอยู่ภายในร่างกายเธอจนหมด แขนแกร่งกุมสะโพกมนพลางช้อนตัวเธออุ้มขึ้นเหนือพื้นอีกครั้ง สองขาเธอโอบรัดรอบสะโพกเขา รั้งเนื้อเย็นให้อยู่กับที่เสียก่อน ความรู้สึกเร่าร้อนแผ่ซ่านอยู่ภายในท้องน้อยของมันตรา

ร่างใหญ่ค่อยขยับตัวช้าๆ อย่างจงใจ ทุกๆ การขยับทำให้มันตรารับรู้ได้ถึงเขาที่ค่อยๆ เคลื่อนที่ช้าๆ อยู่ภายในตัว ส่วนปลายหยาบนั้นเสียดสีไปกับโพรงด้านในจนร่างเล็กเสียวสะท้านไปหมด หล่อนหอบแรงพร้อมกับที่ลมหายใจขาดหายไปเป็นช่วงๆ ริมฝีปากเล็กเผยอครางกระเส่าออกมาอย่างวาบหวาม รสเสน่หาในร่างกายของเธอพลุ่งพล่านเหลือจะทานทน เร่งให้ความชุ่มฉ่ำชโลมความเป็นชายของเขาเพื่อเตรียมพร้อมรับการกลับเข้ามาในตัวของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

“อย่าเกร็งสิ...”

เสียงครางทุ้มต่ำจากปากของเขาที่ซุกไซ้อยู่ข้างใบหูเล็กของมันตราทำเอามือทั้งสองข้างที่จิกอยู่บนแผ่นหลังกว้างอย่างไม่รู้ตัว ค่อยๆ คลายออกช้าๆ สาวเจ้าปล่อยตัวเองให้โอนอ่อนรับสัมผัสของสมิง ร่างกายของทั้งสองค่อยๆ สอดประสานกันเป็นจังหวะ มือแกร่งข้างหนึ่งละจากสะโพกงามมารั้งใบหน้าหวานขึ้นจูบ เสียงครางถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากร้อนผ่าว ร่างใหญ่ค่อยๆ เร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อย กอดรัดตัวเธออย่างอ่อนโยน เสียงเนื้อที่ตกกระทบกันดังก้องอยู่ภายในลานอาบน้ำ

“อ๊า~ สมิง” สาวร่างเล็กร้องครางสยิว

“อะ...อ๊า~”

ร่างเล็กถึงจุดสุดยอดพร้อมกับครางเสียงดังและกระตุกรัว ไหวระริกเป็นระยะเมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่ยอมออกไปไหน สองมือของเธอรั้งร่างใหญ่เอาไว้อย่างหมดเรี่ยวแรง เสียงเล็กหอบพร่าในขณะที่สมิงก็ยังคงยึดร่างของเธอไว้ ภายในที่ชุ่มฉ่ำและแคบเล็กนั้นตอดรัดเขาจนแทบจะวินาทีสุดท้าย ก่อนเขาจะปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดเข้าไป

“อึก!”

มันตราสั่นไหว เนื่องด้วยภายในตัวเธอตอนนี้ร้อนระอุไปหมด ลมหายใจของทั้งสองสอดประสานกันเป็นจังหวะ จนกระทั่งเขาออกไปจากร่างกายเธอ..

“ไหวรึเปล่า...” สมิงถามเสียงเบา

มันตราพยักหน้าน้อยๆ สองขาเรียวค่อยๆ ถูกปล่อยลงสัมผัสพื้นปูนที่เย็นเฉียบช้าๆ เธอแทบจะยืนด้วยแรงตัวเองไม่ได้ ร่างใหญ่จึงคอยประคองหล่อนไว้ไม่ห่าง ก่อนสติของเธอจะดับวูบไปเพราะความเหนื่อยอ่อน


มันตราหลับใหลไปเนิ่นนาน

“มันตรา...”

เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อของเธอ มีสัมผัสเย็นๆ จากผ้าขนหนูผืนเล็กที่เช็ดลงบนแก้มนุ่ม ก่อนเปลือกตาหนักอึ้งจะค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ ความวิงเวียนในหัวทำเอาร่างบางหายใจหอบเหนื่อย

“ตื่นแล้วเหรอลูก”

หญิงสาวจ้องมองไปยังอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ข้างเตียง ในมือของเธอยังถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กไว้อยู่เลย

“ไปทำอะไรมา ยายบอกว่าเมื่อคืนหนูหนีเข้ามานอนก่อนทั้งๆ ที่ผมก็ยังเปียกอยู่แท้ๆ แล้วอีกอย่าง ไม่สบายทำไมไม่บอก ชอบทำอะไรให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย” คนเป็นแม่นั่งบ่นไป มือหยาบของแกก็ขยำผ้าที่เช็ดตัวมันตราจนอุ่นไปหมดแล้ววางลงในกะละมังใกล้มือ ลมเย็นที่พัดโชยเข้ามาสัมผัสผิวที่เปียกอยู่ทำให้เธอสบายตัวขึ้น สักครู่หนึ่งประตูห้องนอนยายก็เปิดออก หญิงชราเดินเข้ามาด้วยท่าทีกังวล เพราะเมื่อคืนนี้มันตราหลับไปทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ เช้านี้ถึงได้จับไข้แบบนี้

              “เป๋นใดพ่อง ลุกละก๋า” (เป็นยังไงบ้าง ตื่นแล้วเหรอ) ยายเอ่ยถามพร้อมกับย่อตัวลงนั่งบนเตียงฝั่งที่แกนอนประจำ 

              มันตราหันไปยิ้มให้น้อยๆ

“ไม่สบายทำไมไม่บอก แถมยังไปตากฝนอีกใช่มั้ย” คนเป็นแม่คาดคั้น 

เมื่อมันตราย้อนคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว ใบหน้าขาวก็ออกสีในทันที ทั้งสัมผัส ทั้งเสียงคราง และลมหายใจหอบถี่ถึงกับทำให้เธอยกมือขึ้นเกาหน้าผาก ก้มหน้าเพราะไม่อยากให้แม่และยายเห็นสีหน้าละอายของเธอในตอนนี้

“ไข้ขึ้นอีกแล้วมั้งน่ะ” คนเป็นแม่ว่าพลางยกมือขึ้นทาบหน้าผากอุ่นๆ ของเธอ

 

“น้าสาวแป๋งเข้าต้มไว้ เดวจะหื้อละอ่อนยกขึ้นมาหื้อเน่อ วันนี้นอนอยู่เนียะ ห้ามลุกไปไหน” (น้าสาวทำข้าวต้มไว้ เดี๋ยวจะให้เด็กยกขึ้นมาให้นะ วันนี้นอนอยู่นี่แหละ ห้ามลุกไปไหน) ยายแปงกำชับหนักแน่นพร้อมหันไปบอกให้เด็กรับใช้ให้ไปตักข้าวต้มมาให้ในทันที 

มันตราทำได้แค่นอนรออยู่ที่เดิมเฉยๆ ร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงนอนไม้สัก เธอก้มมองดูเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ชุดที่เธอสวมอยู่เมื่อคืนนี้ ก็แน่ละ ชุดนั้นคงเปียกปอนไปหมดแล้ว แถมกางเกงในที่ถูกกรีดจนขาดนั่นอีก ในหัวของเธอคิดมากไปหมด

“คือว่า...ชุดนี้...” มันตราเอ่ยถามเชิงอยากรู้ว่าใครเปลี่ยนชุดนี้ให้เธอ 

ยายและแม่หันมองหน้ากัน ก่อนที่ยายแปงเองจะเป็นคนตอบ

“ชุดอิหล้าหนะก่า ยายว่าจะเอาไว้หื้ออิหล้าใส่แหมพูก ไปมี้ เข้ามาในห้องตั๋วก็ใส่นอนไปละลู่” (ชุดหนูนั่นแหละ ยายเตรียมเอาไว้ให้หนูใส่วันพรุ่งนี้ แต่หนูดันหยิบมาใส่นอนซะนี่)

ยายบอกก่อนที่ประตูเรือนจะเปิดขึ้นมาอีกครั้ง เด็กรับใช้เดินเข้ามาพร้อมกับถาดไม้ที่มีข้าวต้มถ้วยเล็กๆ กับผลไม้และของหวานถ้วยหนึ่งมาด้วย โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กถูกกางคร่อมตัวเธอเอาไว้ เมื่อฝาข้าวต้มถูกเปิด กลิ่นหอมของมันโชยมาจนมันตราน้ำลายสอ

“กินซะ แล้วก็คืนนี้เดี๋ยวแม่จะมาช่วยเก็บของ พรุ่งนี้หลังจากเสร็จพิธีแล้วเราอาจจะต้องกลับเลย”

แม่ของเธอบอกพร้อมกับยกถ้วยข้าวต้มลงมาวางไว้ให้ ของหวานในถ้วยเป็นมันต้มขิง และผลไม้สองสามชิ้น

“เอ๋?” มันตราอุทานอย่างแปลกใจ

“พรุ่งนี้เลยเหรอคะ” เธอถามย้ำ

“ใช่สิ คุณพ่อทิ้งงานมาหลายวันแล้ว ส่วนหนูก็ต้องกลับไปหาหมอที่เชียงใหม่”

แม่ว่าระหว่างที่ค่อยๆ คนข้าวต้มในถ้วยเล็กนั้นช้าๆ ไอร้อนของมันโชยขึ้นน้อยๆ แต่ก็เหมือนกับว่ามันตราไม่ได้สนใจมันแล้วหลังจากได้ยินประโยคก่อนหน้า

“กิ๋นก่อน แล้วก้อยว่ากั๋น ตั๋วก็จะไปฟั้งลูกเตื้อ หื้อมันกิ๋นยานอนก่อน” (กินก่อนแล้วค่อยว่ากัน เธอเองก็อย่าไปเร่งลูกแบบนั้น ให้ลูกกินยาแล้วก็นอนพักก่อน) ยายว่า มือเล็กๆ ที่เหี่ยวไปตามวัยของแกเลื่อนไปจับหน้าผากอุ่นๆ ของมันตรา ตัวหลานสาวของแกก็ยังมีไข้อยู่แท้ๆ

“ค่าๆ แต่ยังไงก็ต้องกลับพรุ่งนี้อยู่ดี” คนเป็นแม่บอกและหยิบยาลดไข้หนึ่งเม็ดออกมาวางไว้บนทิชชูให้ก่อน น้ำเปล่าถูกเติมโดยเด็กรับใช้ซึ่งเป็นเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับจุ๊บแจง แต่เอาการเอางานกว่าจุ๊บแจงมาก

เมื่อแม่ของเธอว่าจบก็เดินไปช่วยพยุงยายแปงเพื่อออกไปนั่งคุยกับญาติคนอื่นๆ ด้านนอก ทิ้งให้มันตราอยู่กับเด็กรับใช้สอง คน เด็กน้อยคนนั้นนั่งมองเธอกินอยู่เงียบๆ มันตราทำได้เพียงแค่ค่อยๆ ตักข้าวต้มกินไปเท่านั้น แต่จังหวะหนึ่งนั้นเองเด็กน้อยมองมายังผลไม้ในจานเล็กอย่างสนใจ

“อยากทานเหรอ” มันตราถามขึ้นทันที

เด็กน้อยทำหน้าตกใจก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ อย่างเขินอาย แม้ใจจริงแล้วอยากจะลิ้มลองผลไม้ราคาแพงในจานนี้ก็ตาม

“เอาสิ” มือเรียวหยิบจานเล็กนั้นส่งให้อีกฝ่าย

ดวงตากลมเล็กเป็นประกาย เธอยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะหยิบผลไม้สีเขียวสวยนั้นเข้าปากช้าๆ รสหวานฉ่ำและกลิ่นหอมของผลไม้เมืองนอกเป็นที่ถูกใจของเธอมากทีเดียว 

มันตรามองเธอก่อนจะยิ้มให้ ข้าวต้มในถ้วยพร่องไปเกือบจะหมด เธอจึงเปลี่ยนมากินของหวานที่เป็นมันต้มขิงในถ้วยชาเล็ก เมื่อซดน้ำขิงอุ่นในถ้วยแล้วทำให้คอโล่งลงไปในทีเดียว หญิงสาวดูสดชื่นขึ้น มือเรียววางช้อนลงเสียก่อน ยาลดไข้หนึ่งเม็ดถูกกินตามไปในเวลาไม่นานนัก 

พอเด็กน้อยเห็นว่ามันตรากินยาไปแล้วจึงรีบลุกขึ้นยกถาดลงให้ทันที

“ขอบคุณมากเลยนะ” หญิงสาวผมยาวขอบคุณอีกฝ่าย 

เด็กน้อยยิ้มรับและเดินออกไป เธอดูเป็นคนขี้อายเกินกว่าจะเอ่ยปากพูดอะไร

ประตูเรือนนอนถูกปิดลงพร้อมกับที่บรรยากาศเงียบเชียบ หญิงสาวถอนหายใจระหว่างที่ยังคงนั่งพิงอยู่กับหัวเตียง หมอนหลายใบถูกซ้อนไว้ให้พอสบายตัว เธอหลับตาลงช้าๆ ลมเย็นที่พัดโชยเข้ามาในห้องทำให้สบายตัวขึ้น ผ้าแพรผืนนุ่มที่คลุมท่อนล่างเอาไว้ไหวน้อยๆ

หญิงสาวหวนคิดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ความรู้สึกแผ่ซ่านไปจนถึงท้องน้อย มือเรียวกุมหน้าท้องแบนเอาไว้พร้อมกับที่หน้าเริ่มออกสีอีกครั้ง มือสองข้างรีบยกขึ้นมาปิดหน้าปิดตาในทันที

“อะ...อะไรกันเนี่ย!!”

ลมหายใจของเธอร้อนผ่าวพร้อมกับที่หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่หวนนึกถึง ทุกสัมผัสที่อีกฝ่ายสร้างไว้บนเรือนร่างงามนี้ยังฝังแน่นติดตรึงอยู่เลย

“คิดอะไรอยู่” เสียงทุ้มถามขึ้นมาจากมุมใดมุมหนึ่งของห้อง 

มันตราหันขวับไปมองทันทีทันใด ร่างใหญ่ยืนอยู่ในชุดสีขาวชุดเดิม น่าแปลกที่เธอไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงเปิดหรือปิดประตู

“สมิง!...เข้ามาได้ยังไงคะ” สาวร่างบางถามพลางกระชับผ้าแพรขึ้นมาห่มตัว 

สมิงชี้นิ้วไปยังประตูเรือนที่ปิดสนิท เป็นคำตอบว่าเขาก็เดินเข้ามาทางประตูปกตินั้นแล

“มะ...หมายถึงที่ประตูมีหำยนต์อยู่ ทำไมถึงเข้ามาได้ล่ะคะ...” หญิงสาวถามอย่างสงสัย

สมิงเองถึงกับคิ้วกระตุก ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่าหำยนต์นี้ก็คือ แผ่นไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแกะสลักลวดลายโบราณที่จารึกคาถาตาบอก มีไว้ปกป้องคุ้มครองผู้อาศัยในบ้านให้ปลอดภัย ป้องกันภูตผีปีศาจ และป้องกันไสยเวทมนตร์ดำไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน หรือห้องหับต่างๆ โดยหำยนต์นี้จะถูกติดไว้อยู่เหนือประตูบ้านทุกบ้านบนบ้านใหญ่ แตกต่างกันไปตามลวดลายของแต่ละห้องนั่นเอง

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นตัวอะไร” นัยน์ตาสีแดงเพลิงมองมายังเธอ ทำเอามันตราหลบสายตาก่อน ก็ตาคู่นี้แลที่เมื่อคืนจ้องมองร่างเปลือยเปล่าของเธออยู่เนิ่นนาน หญิงสาวนั่งเงียบ ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ 

ชายร่างใหญ่ค่อยๆ เดินมาหาเธอช้าๆ เขานั่งลงข้างเตียง มือใหญ่ยื่นมาสัมผัสหน้าผากอุ่นๆ ของมันตรา เปิดผมหน้าม้าของเธอขึ้นช้าๆ ใบหน้าคมยื่นเข้าใกล้จนหน้าผากของทั้งสองคนสัมผัสกัน สาวเจ้าถึงกับหน้าร้อนผ่าว

“ไข้ไม่สูงนี่”

กินเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่มันตรารู้สึกเหมือนเนิ่นนานเหลือเกิน 

สมิงขยับตัวออกพร้อมๆ กับที่มือใหญ่ล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อ ห่อผ้าสีแดงถูกหยิบออกมาแผ่ออกช้าๆ ให้เธอเห็น

“คุณ...พาฉัน...กลับมาที่นี่เหรอคะ” มันตราเอ่ยถามเสียงค่อย

“อ่า” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ

“แล้ว...เสื้อผ้า...”

“ข้าคงไม่ปล่อยให้เจ้านอนตัวเปียกหรอกน่า”

สมิงตอบก่อนจะหยิบยาลูกกลอนสองเม็ดวางลงในมือใหญ่ รอจังหวะที่สาวเจ้าจะอ้าปากถามคำถามอีกก็ยัดยาลูกกลอนสองเม็ดเข้าไปในปากเธอทันที มันตราถึงกับเลิกคิ้วด้วยเพราะยาสองเม็ดนี้ทั้งขมและมีกลิ่นของสมุนไพรที่เธอไม่รู้จักเลยสักนิด แต่พอเธอทำท่าจะคายมันออก มือใหญ่ก็ยกขึ้นปิดปากสาวเจ้าไว้ในทันที

“กลืน”

คำสั้นๆ นี้ทำให้มันตรารับรู้ถึงคำว่าชีวิตที่ขมขื่นของจริงได้ทีเดียว 

เมื่อสาวเจ้ามีทีท่าขัดขืน ก็คงช่วยไม่ได้ที่เขาต้องรีบกระดกน้ำเข้าไปในปากของตัวเอง ก่อนละมือออกจากริมฝีปากอิ่ม แล้วช้อนมือใหญ่ไปที่ต้นคอของเธอ ขยับใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ แล้วประกบปากกับปากนุ่มในทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนจะค่อยๆ หรี่ลง และยอมกลืนยานั้นไปพร้อมๆ กับน้ำที่สมิงป้อนให้

“อื้อออ~~”

 

รสสัมผัสหวานอมขมจากน้ำผึ้งในเม็ดยาที่พอละลายกับน้ำในปากแล้วทำให้รสจูบนั้นน่าลิ้มลองมากขึ้นไปอีก ลิ้นร้อนของร่างใหญ่รุกล้ำเข้ามาเล้าโลมก่อน จากนั้นร่างบางจึงจูบตอบเขาอย่างเผลอตัว รสหวานหอมของน้ำผึ้งค่อยจางลงพร้อมๆ กับที่ริมฝีปากนุ่มผละออกช้าๆ

“ถ้ากลืนเองแต่แรกก็คงไม่ต้องทำแบบนี้หรอก” บอกเสียงเข้ม

มันตราได้แต่นั่งเม้มริมฝีปากน้อยๆ

“พักเถอะ ข้าจะไปแล้ว” สมิงบอกก่อนที่เขาจะลุกขึ้น 

มันตราเหลือบมองชายร่างใหญ่ที่ขโมยจูบของเธอไปเป็นครั้งที่สอง หญิงสาวเพียงพยักหน้าให้เขาเท่านั้น 

ชายร่างใหญ่เลือกเดินออกไปยังทางที่เขาเข้ามา ประตูเรือนนอนถูกเปิดออกอย่างเงียบเชียบ

“สมิง!” หญิงสาวรีบตะโกนเรียก ร่างเล็กขยับตามมานั่งบริเวณปลายเตียง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองสบนัยน์ตาดุดันสีแดงเพลิงอีกครั้ง

“...”

ร่างใหญ่หยุดมองมายังเธอ แต่ก็ต้องรีบก้าวออกไปเมื่อมีใครบางคนกำลังเดินมายังห้องนี้

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น